Tag: สื่อ

  • ชาวเน็ตตั้งคำถาม…ทำไมสื่อรายงานข่าว ‘หมารุมกัดเด็กเสียชีวิต’ ต้องคาดตาหมาด้วย!?

    ชาวเน็ตตั้งคำถาม…ทำไมสื่อรายงานข่าว ‘หมารุมกัดเด็กเสียชีวิต’ ต้องคาดตาหมาด้วย!?

    หลายๆ ครั้งที่เรามักจะเห็นในข่าวอาชญากรรม คือการ ‘คาดตา’ ของผู้ร้าย ซึ่งเอาจริงๆ แล้วตามคอมมอนเซนส์ทั่วๆ ไปเราคงจะคิดว่าทำไมไม่เปิดเผยหน้าคนร้าย จะได้ระวังเอาไว้เพราะเขาอาจจะมาก่อคดีกับเราก็ได้ แต่สำหรับสื่อบ้านเราจะเห็นบ่อยๆ ว่า เมื่อมีการรายงานข่าวอาชญากรรม ก็จะมีการเซ็นเซอร์ใบหน้าของคนร้าย แต่กลับเปิดใบหน้าของ ‘เหยื่อ’ หรือ ‘ผู้เสียหาย’ เช่นเดียวกันกับข่าว ‘หมารุมกัดเด็กวัย 4 ขวบจนถึงแก่ชีวิต’ ก็มีประเด็นดังกล่าวขึ้นมาให้ถกเถียงในโลกโซเชียลเช่นกัน เมื่อสมาชิกเว็บไซต์ท่านหนึ่งตั้งกระทู้ขึ้นมาว่า “ทำไมในข่าวสุนัข 3 ตัวขย้ำเด็กตาย สำนักข่าวต้องเซ็นเซอร์คาดตาสุนัขด้วยครับแต่เปิดหน้าเด็กที่ตาย”     เนื้อหาในกระทู้ระบุเอาไว้ว่า “ผมแค่สงสัยเฉยๆ นะครับ เห็นเซ็นเซอร์คาดตาสุนัขแต่เปิดหน้าเด็กที่ตายต้องเซ็นเซอร์กันจริงจังขนาดนี้เลยเหรอครับ?”     จากการตั้งคำถามนี้ก็ทำให้ชาวเน็ตหลายคนต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ นานา ทั้งเรื่องของความเหมาะสม และหาคำตอบว่าทำไมถึงต้องทำแบบนั้น   บ้างก็ว่าอาจจะกลัวว่าสุนัขจะได้รับความอับอาย   อาจจะกลัวพรบ. คุ้มครองสัตว์ ที่มีบทลงโทษที่รุนแรง หรืออาจจะเป็นการประชดก็เป็นได้ .   ผู้รับเคราะห์กลับเปิดโชว์ใบหน้าเต็มๆ   บางส่วนก็มองว่าการไม่คาดใบหน้าของเด็กไม่เป็นไร เพราะเด็กไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ควรได้รับการอนุญาตก่อน ส่วนการคาดตาหมานั้นไม่เห็นด้วย .…

  • เสรีภาพอินเทอร์เน็ตไทยอยู่ตรงไหน สรุปรายงานประจำปี 2017 คะแนนพุ่งอย่างต่อเนื่อง

    เสรีภาพอินเทอร์เน็ตไทยอยู่ตรงไหน สรุปรายงานประจำปี 2017 คะแนนพุ่งอย่างต่อเนื่อง

    ยุคสมัยปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทุกคนมากขึ้น สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ในทันที และสามารถเลือกที่จะรับรู้ข้อมูลชุดต่างๆ ตามความสนใจของตัวเองได้ ทั้งนี้ ข้อมูลบางอย่างในบางประเทศไม่สามารถถูกนำเสนอได้ เนื่องจากยังคงมีเรื่องของข้อกฎหมายบังคับใช้อยู่ ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยก็ตาม     ข้อมูลจากทางเว็บไซต์ Freedom House องค์กรไม่หวังผลกำไรระหว่างประเทศ ทำหน้าที่ประเมินระดับสิทธิเสรีภาพและส่งเสริมประชาธิปไตยในประเทศต่างๆ ทั่วโลกทุกปี โดยชุดข้อมูลล่าสุดในปี 2017 ได้ถูกประมวลผลนำเสนอออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว     ในส่วนนี้จะพูดถึงเสรีภาพบนอินเทอร์เน็ต (Freedom on the Net) โดยภาพรวมในปี 2017 จากแผนภาพการจัดการสื่อโซเชียลจากหลายประเทศทั่วโลก พร้อมกับคะแนน 0 – 100 ยิ่งคะแนนสูง ยิ่งปิดกั้นเสรีภาพ สามารถแบ่งกลุ่มประเทศออกเป็น 4 กลุ่ม 4 สี ได้แก่ สีเขียว – มีเสรีภาพ สีเหลือง – มีเสรีภาพบางส่วน  สีม่วงอ่อน – ไม่มีเสรีภาพ และ สีเทา – ไม่มีการประเมิน…

  • ชาวเน็ตลงความเห็น!! น้องๆ “ทีมหมูป่า” ควรถูกสังคมด่าหรือได้รับคำชื่นชม??

    ชาวเน็ตลงความเห็น!! น้องๆ “ทีมหมูป่า” ควรถูกสังคมด่าหรือได้รับคำชื่นชม??

    หลังจากมีรายงานข่าวออกมาว่า ทีมกู้ภัยในถ้ำหลวงสามารถพบเจอน้องนักเตะและโค้ชทั้ง 13 ชีวิตอย่างปลอดภัย ล่าสุดวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 ก็มีคนมาตั้งกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปที่เป็นประเด็นค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว กระทู้ดังกล่าวมีชื่อว่า “กรณีน้องที่ติดในถ้ำ อยากให้เดินสายกลางไม่ทั้งอวยเป็น hero หรือจะเหยียบย่ำซ้ำเติมว่าเป็นเด็กซนเกเร ครับ” ซึ่งจุดประสงค์ของเจ้าของกระทู้ก็คือ ต้องการให้ผู้คนมองเรื่องดังกล่าวให้เป็นกลาง ไม่ควรยกย่องเหล่าน้องๆ ว่าเป็นฮีโร่หรือผู้กล้า แต่ก็ไม่ควรด่าว่าน้องให้รุนแรงจนเกินไป ชาวเน็ตจะว่าอย่างไรก็คงต้องมาดูกันหน่อยแล้วล่ะ…   เนื้อหาของกระทู้ . . . .   ดูแล้วเจ้าของกระทู้ก็ค่อนข้างโจมตีผู้ที่ด่าว่าน้องๆ นักเตะกลุ่มนี้มากทีเดียว เมื่อสิ้นสุดเนื้อหาของกระทู้นี้เรียบร้อยแล้ว เราลองมาชมความคิดเห็นต่างๆ ของชาวพันทิปกันดีกว่าว่าจะอยู่ทีม ด่าน้อง ยกย่องน้อง หรือว่า เดินสายกลาง กันแน่…   ไม่ด่าแต่ก็ไม่ยกย่อง   ปีหน้าได้รับรางวัลเยาวชนดีเด่นแน่ๆ   คนนี้แนะนำเนื่องจากเป็นห่วงน้องๆ ยามออกสื่อ   อีกความเห็นหนึ่งเกี่ยวกับวงการสื่อ   ความเห็นนี้คิดแง่บวก ไม่อยากให้ด่าว่าน้องๆ   ความเห็นนี้เน้นที่เรื่องไม่ด่าแต่ไม่อวย ส่วนคนอื่นจะแจกรางวัลหรืออะไรก็ไม่สน   คนนี้เน้นง่ายๆ…

  • “คาสโนวี่แห่งเกาหลี” ผู้คบหากับผู้ชายเกือบ 200 คนในระยะเวลาแค่ไม่ถึง 2 ปี!!

    “คาสโนวี่แห่งเกาหลี” ผู้คบหากับผู้ชายเกือบ 200 คนในระยะเวลาแค่ไม่ถึง 2 ปี!!

    เราอาจเคยเจอผู้ชายที่เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก คบผู้หญิงแป๊บๆ แล้วก็เปลี่ยนไปคบคนใหม่ ซึ่งคำที่เรามักจะใช้เรียกผู้ชายเหล่านั้นคือคำว่า คาสโนวา แต่ล่าสุดรายการ Mars People XFile ของช่อง tvN ในประเทศเกาหลีใต้ ได้นำเสนอเรื่องราวของสาวคนหนึ่งที่ทำพฤติกรรมไม่ต่างจากการเป็นคาสโนวาสักเท่าไหร่ Han Mirim คือสาวคนดังกล่าวที่ควรได้รับสมญานามว่า คาสโนวี่ (คาสโนวาที่เป็นผู้หญิง) เป็นอย่างมาก เพราะช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เธอได้คบกับผู้ชายไปแล้วเกือบ 200 คน!!   Mirim หญิงสาวที่มาออกรายการ   เธอคนนี้ได้เล่าเรื่องของตัวเองออกรายการว่าเธอเป็นคนที่ค่อนข้างมุ่งเน้นในเรื่องของวัตถุนิยม ทำให้หลายๆ ครั้งเธอบอกเลิกกับผู้ชายเพียงเพราะว่าเขาไม่ยอมเลี้ยงข้าวเธอ ไม่ยอมซื้อของขวัญให้ ไม่มีรถยนต์ขับ หรือบางคนไม่ยอมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้กับเธอเท่านั้นเอง บางคนนั้นอาจได้คบกับเธอแค่ไม่ถึง 24 ชั่วโมง เพียงเพราะว่าเขาไม่ยอมออกเงินให้กับหญิงสาว อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายต่อหลายคนที่ยอมทำอย่างนั้น เธอบอกว่าจากผู้ชายเกือบ 200 คนนั้น ตัวเองได้รับของขวัญมาเยอะแยะมากมาย รวมเป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านวอน หรือประมาณ 29 ล้านบาท   ข้าวของเครื่องใช้ที่เธอได้รับจากหนุ่มๆ ที่เคยคบมาทั้งหมด  …

  • นักข่าวใจกล้ายิงคำถาม ‘รัสเซียวางยาพิษอดีตสายลับ’ ต่อ ‘ปูติน’ โดนตอบกลับแบบใจเย็น!!

    นักข่าวใจกล้ายิงคำถาม ‘รัสเซียวางยาพิษอดีตสายลับ’ ต่อ ‘ปูติน’ โดนตอบกลับแบบใจเย็น!!

    เมื่อมนุษย์เติบโตขึ้นมาจนกลายเป็นผู้ใหญ่ สิ่งสิ่งที่จะต้องเติบโตไปด้วยก็คือ ‘วุฒิภาวะ’ หรือจะแปลง่ายๆ ก็คือ ‘ความเป็นผู้ใหญ่ทางบุคลิกภาพและพฤติกรรมทางอารมณ์’ โดยเฉพาะหากคุณมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงๆ แล้วล่ะก็เรื่องของวุฒิภาวะยิ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะของคนที่เป็นถึงผู้นำในประเทศมหาอำนาจอย่างประเทศรัสเซีย ท่านวลาดิเมียร์ ปูติน ที่ถูกผู้สื่อข่าวยิงคำถามที่เป็นประเด็นเปราะบาง เขาจะมีวิธีการจัดการตอบสื่อนั้นอย่างไร!?     เมื่อวันที่อาทิตย์ 4 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมาได้มีรายงานข่าวว่านาย Sergei Skripal อดีตสายลับของรัฐบาลรัสเซีย และลูกสาว Yulia เสียชีวิตจากการถูกวางยาพิษที่เมือง Salisbury ประเทศอังกฤษ และจากการสืบสวนสอบสวนกับเหตุดังกล่าว ซึ่งก็ยังไม่ทราบรายละเอียดของผู้อยู่เบื้องหลัง และเหตุจูใจที่แน่ชัด และทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา Rex Tillerson และ นายกรัฐมนตรีของประเทศอังกฤษ Theresa May ก็ได้ชี้เป้าไปว่าเป็นฝีมือของรัสเซีย     ขณะเดียวกันทางด้าน วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำของประเทศรัสเซียเองก็ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นใดๆ กับเรื่องนี้ แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมานักข่าว Steve Rosenberg จากสำนักข่าว BBC Moscow…

  • ทัวร์การต้ม “น้ำกระท่อม” ของไทย ในมุมมองฝรั่ง เปิดโลกที่ใครหลายคนไม่เคยเห็น!!

    ทัวร์การต้ม “น้ำกระท่อม” ของไทย ในมุมมองฝรั่ง เปิดโลกที่ใครหลายคนไม่เคยเห็น!!

    ถ้าสมุนไพรรูปหัวใจในวากานด้าเป็นยาเพิ่มพลังต้องห้าม น้ำกระท่อมในประเทศไทยก็เป็นสมุนไพรเพิ่มกำลังต้องห้ามเช่นกัน เพราะคนที่เสพเข้าไปนั้นจะรู้สึกมีกำลังและทำงานได้อย่างไม่มีเหนื่อย แต่กลับกันมันก็จัดเป็นสารเสพติดประเภทหนึ่ง ที่สำคัญคือผิดกฎหมาย!! อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันจะผิดกฎหมายแต่ ด้วยชาวบ้านบางส่วนยังมองว่ามันคือสมุนไพร คือเครื่องบำรุงกำลัง และมีคนเสพอยู่ตลอด ทาง VICELAND จึงส่งทีมงานลงมาสำรวจและถามถึงคนที่สามารถเข้าถึงสมนุไพรต้องห้ามที่ว่านี้ได้ ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร กินแล้วเป็นยังไง เล่าผ่านมุมมองของชาวต่างให้เราได้ดูกัน   แม้ใบกระท่อมจะผิดกฎหมาย แต่สามคนในคลิปล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อะหื้มมมมม อะโร่ยยยย   ในคลิปเราจะเห็นพิธีกรและวัยรุ่นนั่งอยู่ด้วยกันอีก 3 คนในลักษณะปิดหน้ามิดชิด เพราะอย่างที่เกริ่นไปว่าใบกระท่อมนั้นเป็นสารเสพติดและผิดกฎหมาย โดยพิธีกรได้ถามทั้ง 3 ว่าพวกเขาเรียนรู้การทำน้ำใบกระท่อมจากไหน   หนึ่งในนั้นก็บอกว่าเขาเรียนรู้มันมาจากการดูผ่านข่าวในโทรทัศน์ ซึ่งเป็นข่าวที่ตำรวจไปจับคนเสพใบกระท่อมและสั่งให้พวกเขาต้มให้ดู ทั้งสามจึงได้เรียนรู้วิธีมาจากตรงนั้นนั่นเอง   โดยส่วนผสมหลักนอกจากใบกระท่อมก็จะมี ยาแก้ไอ บ๊วยและน้ำอัดลม   นอกจากนี้พิธีกรยังถามต่ออีกว่า แล้วการต้มดื่มกับกินเปล่าๆ อันไหนจะอร่อยกว่า ซึ่งพวกเขาก็บอกว่า การต้มกินมันจะหวานกว่าแต่จะมีอาการเมา ส่วนการกินสดๆ จะมีรสชาติที่ขมกินไม่อร่อย   ด้วยเหตุนี้พิธีกรเลยถามกลับอีกครั้งว่า พวกเขาเคยเห็นใครดื่มน้ำใบกระท่อมและผสมเข้ากับวัตถุดิบแปลกๆ อย่างน้ำยากันยุงหรือสารจากหลอดไฟบ้างไหม ซึ่งทั้งหมดก็บอกว่าบริเวณที่พวกเขาอยู่ไม่มีคนทำแบบนั้น แถมยังเคยได้ยินว่าถ้าผสมสูตรแปลกๆ จะทำให้กลายเป็นบ้าได้ด้วย พวกเขาจึงชอบจะดื่มแบบสูตรปกติมากกว่า   นอกจากนี้ตัวพิธีกรก็ยังถามชายทั้งสามคนว่า…

  • ความจริงที่บิดเบือน…เผยความโหดร้ายช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อ้างถึงหญิงเกาหลีทาสกาม

    ความจริงที่บิดเบือน…เผยความโหดร้ายช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อ้างถึงหญิงเกาหลีทาสกาม

    *เนื้อหาต่อไปนี้มีความรุนแรง อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจของท่านผู้อ่าน*   เป็นที่รู้กันดีว่าในช่วงภัยสงครามโลกนั้น ต่างฝ่ายต่างได้รับความสูญเสียอย่างมหาศาล ทั้งในเรื่องของเสถียรภาพของประเทศ การคลัง รวมไปถึงกระทบกับความเป็นอยู่ของประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้… ทางเว็บไซต์ Dailymail ได้เผยคลิปวิดีโอชิ้นหนึ่งในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2018 โดยกล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างที่ทหารจากฝ่ายประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการจับผู้หญิงชาวเกาหลีจำนวนหนึ่งเพื่อนำไปเป็น ‘นางบำเรอ’     ผู้หญิงชาวเกาหลีเหล่านี้ถูกทหารฝ่ายญี่ปุ่นจับตัวเพื่อนำไปเป็นทาสกาม หรือเรียกในอีกแง่หนึ่งคือนางบำเรอแก่ทหารชาวญี่ปุ่น โดยสื่อเกาหลีรายงานว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวนั้น ถูกบันทึกไว้ในวันที่ 15 กันยายน 1944 ณ หมู่บ้าน Tengchong มณฑลยูนนาน ประเทศจีน รายละเอียดของเหยื่อที่เห็นภายในคลิปวิดีโอนั้น ถูกเหล่านายทหารญี่ปุ่นทำการข่มขืนก่อนจะถูกฆ่า และให้ทหารจีนนำร่างมาเผาภายในหลุมที่ขุดเอาไว้…     คลิปวิดีโออันน่าหดหู่นี้ได้รับการเปิดเผยมาจากหน่วยงาน Seoul Metropolitan Government และองค์กร Seoul National University Human Rights ประเทศเกาหลีใต้ โดยอ้างว่าได้รับการกู้คืนมาจากหน่วยงาน National Archives and Records…

  • ผู้คนแห่โทรเข้าสนง. เมือง “Wauconda” ถามหาแร่ “ไวเบรเนียม” จนต้องอธิบายว่า “บ่แม่นเด้อ”

    ผู้คนแห่โทรเข้าสนง. เมือง “Wauconda” ถามหาแร่ “ไวเบรเนียม” จนต้องอธิบายว่า “บ่แม่นเด้อ”

    ในช่วงเวลาที่คนกำลังอินกับหนังซูเปอร์ฮีโร่ของค่าย Marvel อย่าง Black Panther อยู่นั้นเอง เมืองๆ หนึ่งในรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกาก็ต้องพบกับปัญหาน่าปวดหัวที่พ่วงมากับหนังเรื่องที่ว่าอยู่เช่นกัน เมืองที่ว่านี้มีชื่อว่า Wauconda (เวาคอนดา) เมืองเล็กๆ ที่มีประชากรราวๆ 13,758 คน ซึ่งไม่รู้ว่าด้วยความโชคดีหรือโชคร้ายดันไปมีวิธีออกเสียงแบบเดียวกับ Wakanda (วากานดา) ใน Black Panther เป๊ะ ในระดับที่ว่าถ้าใช้ Google Assistant ค้นหาคำว่า Wakanda ด้วยการพูด จะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็น Wauconda เสียอย่างนั้น     Alise Homola ผู้ช่วยผู้บริหารของหมู่บ้านและนายกเทศมนตรี ของ Wauconda ออกมาบอกกับ เว็บไซต์ Hollywood Reporter ว่า เธอได้รับโทรศัพท์ และอีเมลจำนวนมากมายมหาศาล ตั้งแต่ที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัว “ตอนแรกๆ ฉันก็นึกว่าแค่คนเมาโทรมา” Homola กล่าว เธอบอกอีกว่าคนส่วนมากที่โทรมามักจะตะโกน “Wakanda Forever” (วากานดาจงเจริญ) ทุกครั้งที่เธอรับโทรศัพท์ แถมยังมีคนถามถึงแร่ Vibranium (ไวเบรเนียม) ที่เป็นแร่ที่ไม่มีอยู่จริงอีกต่างหาก เรื่องทั้งหมดสร้างความสับสนให้แก่ Homola ที่ไม่ได้ไปดู Black Panther เป็นอย่างมากจนเธอต้องออกมาชี้แจง แน่นอนว่าพอเรื่องนี้ขึ้นไปอยู่บนอินเตอร์เน็ตเรื่องนี้ก็กลายเป็นกระแส…

  • พบกับโฆษณาเจ๋งๆ ที่สะท้อนให้เห็นปัญหาในปัจจุบัน จนคุณอาจจะต้องร้องว๊าววว

    พบกับโฆษณาเจ๋งๆ ที่สะท้อนให้เห็นปัญหาในปัจจุบัน จนคุณอาจจะต้องร้องว๊าววว

    การโฆษณาตามสื่อต่างๆ เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลอย่างมากในปัจจุบัน โดยมันสามารถช่วยโน้มน้าวใจให้ผู้คนสามารถเชื่อตามที่ผู้ผลิตต้องการจะสื่อออกไปได้ ดังนั้นการโฆษณาส่วนใหญ่จึงนิยมเอามาใช้ในทางธุรกิจ เพื่อให้มีกำลังซื้อที่มากขึ้น เหมือนกับที่เราเห็นอยู่ในสื่ออย่าง โทรทัศน์ หรือวิทยุ ในปัจจุบัน ทว่าด้วยพลังอำนาจของมันที่อยู่อย่างมากมาย จึงทำให้คนบางคนนำแนวคิดนี้มาปรับใช้กับการทำสังคมให้ดียิ่งขึ้น เหมือนกับภาพโฆษณาเหล่านี้ ที่ทำให้เราเห็นถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม รวมถึงยังเชิญชวนให้เราช่วยกันปรับปรุงโลกที่เราอยู่ให้น่าอยู่ขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งเหล่าบุคคลเหล่านี้จะมีความที่สร้างสรรค์ขนาดไหน ลองพิสูจน์ด้วยสายตาคุณเองได้เลย   “แม้ว่าภาพเซลฟี่แต่ละภาพจะไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ควรต่างกันขนาดนี้” โฆษณานี้จัดทำเพื่ออุทิศให้กับเด็กๆ ผู้ลี้ภัย   โฆษณาของ Land Rover ที่รณรงค์ไม่ให้ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ .   การล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก มักจะเกิดจากการใช้สื่อออนไลน์ .   รัฐบาลของประเทศนิวซีแลนด์จัดทำตัวมาสคอตขึ้นมา เพื่อเตือนให้ผู้คนเห็นถึงความอันตรายหากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงเล่นน้ำ   โฆษณาที่อยากบอกแก่ทุกคนว่า อย่าตัดสินผู้อื่นเพียงแค่สิ่งที่เห็นภายนอกเท่านั้น   โฆษณานี้จัดทำขึ้นเพื่อต่อต้านความรุนแรงที่กระทำต่อเด็ก โดยมีข้อความว่า “สิ่งนี้ควรมีไว้สวม มิใช่เพื่อสร้างความหวาดกลัว”   โฆษณาที่สะท้อนให้ผู้คนเล็งเห็นถึงความสำคัญของการบริจารอวัยวะ ว่าบางคนก็อาจจะไม่มีโอกาสได้มีชีวิตดูตอนจบของรายการโปรดของเขาก็เป็นได้   โฆษณาที่จัดทำขึ้นเพื่อ เตือนให้ผู้คนระวังภัยที่จะตามมาหากส่งรูปส่วนตัวของเราให้แก่คนที่ไม่รู้จัก   และนี่ก็อีกโฆษณาหนึ่ง ที่ต่อต้านการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถเช่นเดียวกัน   การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เพียงแต่ทำร้ายตัวเองเท่านั้น ยังทำร้ายคนรอบข้างอีกด้วย…

  • ฉันโหยหาอดีตเหลือเกิน!! ย้อนวัยไปกับ 15 ภาพโฆษณาในวัยเด็กที่ไม่อาจหวนคืนมาได้อีก

    ฉันโหยหาอดีตเหลือเกิน!! ย้อนวัยไปกับ 15 ภาพโฆษณาในวัยเด็กที่ไม่อาจหวนคืนมาได้อีก

    ย้อนกลับไปเมื่อยังมีอายุเพียงแค่ 1 หลัก ตอนนั้นดูเหมือนว่าวงการโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะดูเรียบง่ายไม่ค่อนซับซ้อนซักเท่าไหร่ แต่กลับทำได้ดีเยี่ยมและน่าจดจำยิ่งนัก คงจะเป็นเพราะว่าเมื่อก่อนโลกยังไม่เปิดกว้างเท่านี้ โฆษณาแต่ละชิ้นไม่ว่าจะผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ก็ดี หรือผ่านโทรทัศน์ก็ดี ความทรงจำเหล่านี้ก็พาให้คิดถึงอดีตซะเหลือเกิน   1. นิโคล เทริโอ บนซิมการ์ด GSM 2 Watt   2. ภาพโฆษณาเป๊ปซี่ The X Venture   3. ไดยาโมโตะ คู่แข่งปีโป้   4. หมากฝรั่ง ซิกเซ้น อยากรู้เคล็ดลับดูในซิกเซ้น (หลอกให้เสีย 10 บาท)   5. ป๊อกโก้ แถมดาวเรืองแสง   6. บะหมี่ Youme KID   7. อร่อย ใหญ่ ยาว ต้อง ช๊อคกี้ใจแอนท์   8. ขนมรูปจระเข้อาบชูรส คร็อกโค…

  • สาวป่วยโรคหายาก จากนักกีฬาสู่ชีวิตวีลแชร์ ถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดผ่านภาพศิลปะเหล่านี้…

    สาวป่วยโรคหายาก จากนักกีฬาสู่ชีวิตวีลแชร์ ถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดผ่านภาพศิลปะเหล่านี้…

    ทั้งหมดที่เราจะได้ชมนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ Kam Redlawsk หญิงสาวที่มีชีวิตปกติเฉกเช่นคนอื่นๆ ทว่าจู่ๆ ในวัย 20 ปี เธอก็ค้นพบว่าตัวเองป่วยด้วยโรค HIBM ซึ่งเป็นโรคหายากที่มีผู้ป่วยเพียง 1 ใน 3,000 คนทั่วโลกเท่านั้น ตลอดช่วงชีวิตหลังจากที่ประสบโรคร้าย เธอก็ต้องต่อสู้กับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยเป็นนักกีฬาก็ต้องผันมาใช้ชีวิตบนวีลแชร์แทน จนกระทั่งวันหนึ่งเธอมีโอกาสได้เดินทางไปยังแคลิฟอร์เนีย เพื่อทำงานด้านดีไซน์ และนั่นเองก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอพบกับกลุ่มคนที่ป่วยด้วยโรคเดียวกัน ซึ่งเธอก็ได้บอกเล่าความรู้สึกทุกอย่างผ่านภาพศิลปะทั้งหมดนี้…   It’ll be alright   I Don’t Want To Be An Inspiration Today   Daydreaming   Please Don’t Leave Me   Waves   Better Days Ahead   Baby Mine   Oneiros and I…

  • สรุป 6 ข้อจากประชุม “ปฏิรูปการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย” ลงทะเบียนต้องสแกนลายนิ้วมือ-ใบหน้า!!

    สรุป 6 ข้อจากประชุม “ปฏิรูปการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย” ลงทะเบียนต้องสแกนลายนิ้วมือ-ใบหน้า!!

    กลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่ววงการสื่อ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2560 ที่ประชุมสภาขับเคลื่อนปฎิรูปประเทศ (สปท.) มีมติเห็นชอบการรายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เรื่องผลการศึกษาและข้อเสนอแนะการปฏิรูปใช้สื่อโซเชียลมีเดีย และในการรายงานดังกล่าวได้มีการเสนอให้แต่งตั้ง ‘คณะกรรมการขับเคลื่อนการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์’ ซึ่งจะคอยจัดทำแผนนโยบายส่งเสริมการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี     หลังจากที่มีการประกาศผลรายงานดังกล่าวออกมา ก็กลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วโลกโซเชียล ด้วยเหตุนี้เราจะขอสรุปใจความสำคัญจากเกี่ยวกับแนวการปฏิรูปจากผลการรายงานดังกล่าวแบ่งออกเป็นข้อๆ ดังนี้    1. การเพิ่มมาตรการจัดระเบียบลงทะเบียนมือถือโดยเฉพาะระบบเติมงน กสทช. มีแผนที่จะใช้ลายนิ้วมือ ควบคู่การลงทะเบียนโทรศัพท์มือถือด้วยบัตรประชาชน โดยจะเน้นไปที่การบังคับใช้ในพื้นที่ๆ มีเหตุการณ์ความรุนแรงโดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกทั้ง กสทช. ได้เสนอให้บริษัท Operator หาวิธีการจัดเก็บรูปภาพของผู้ลงทะเบียนซิมด้วยเช่นกัน    2. ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ควรมีมาตรการเสริมในการจำกัดขอบเขตการใช้งานโทรศัพท์มือถือ เฉพาะที่ กสทช. ได้เสนอให้บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต ประสานงานและร่วมมือกันกำหนดพื้นที่ของหมายเลขใช้งานนั้นๆ (เน้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้) และหากผู้ใช้งานมีการเดินทางข้ามเขตพื้นที่ควรให้มีระบบแจ้งเตือน    3. จัดตั้งศูนย์กลางบริหารจัดการข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ เสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์กลางเพื่อเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ ที่อยู่ในความครอบครองของผู้ให้บริการ (Operator) อีกทั้งเพื่อเป็นประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่นการสืบสวนข้อมูลเพื่อคดีทางอาญาเป็นต้น     4.…

  • นี่คือ 11 โฉมหน้าผู้อยู่เบื้องหลัง ‘เว็บไซต์ชื่อดัง’ จากจุดเริ่มต้น ไปสู่ความสำเร็จระดับโลก!!

    นี่คือ 11 โฉมหน้าผู้อยู่เบื้องหลัง ‘เว็บไซต์ชื่อดัง’ จากจุดเริ่มต้น ไปสู่ความสำเร็จระดับโลก!!

    ปัจจุบันโลกของเรานั้นอยู่ในยุคของโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่ว่าจะต้องการอะไรก็เพียงแค่คลิ๊กๆ อยู่หน้าจอ ก็ได้สิ่งที่ต้องการแล้ว แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าเหล่าเว็บไซต์ต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกสบายให้กับพวกเราในทุกวันนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร และใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับโฉมหน้าผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ชื่อดังของโลก เบื้องหลังของความสำเร็จเหล่านั้นจะมีใครบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า…   1. Google   Sergey Brin และ Larry Page พบกันครั้งแรกสมัยยังเรียนปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัย Stanford ก่อนที่จะร่วมมือกันก่อตั้ง Google ขึ้นมา ปัจจุบัน Google มีการจ้างพนักงานมากกว่า 48,000 คน เป็นหนึ่งในบริษัทสัญชาติอเมริกาที่ใหญ่ที่สุด ประสบความสำเร็จที่สุด และทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกเลยทีเดียว   2. Facebook   Mark Zuckerberg ได้ร่วมมือกับเพื่อนๆ อีก 4 คน สร้าง Facebook ขึ้นมา ขณะที่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัย Harvard โดยแรงบันดาลใจแรกๆ ของ Facebook นั้นมาจากโรงเรียน Philip Exeter Academy ที่เขาเรียนจบไปเมื่อปี 2002…

  • สุดยอดวิธีบล็อค “ช่องยูทูบไม่พึงประสงค์” ที่อาจจะเป็นภัยต่อเด็กน้อย ทำได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

    สุดยอดวิธีบล็อค “ช่องยูทูบไม่พึงประสงค์” ที่อาจจะเป็นภัยต่อเด็กน้อย ทำได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

    ในยุคสมัยที่ยูทูบถือเป็นช่องทางรับรูปสื่อหลัก และโทรศัพท์มือถือหรือแทปเล็ตก็เป็นอะไรที่พ่อแม่ยุคนี้มักจะโยนให้ลูก ใช้งานกันบ่อยๆ  เพราะมันง่ายและสามารถจัดการลูกได้อยู่หมัดสุดๆ แต่ใช่ว่าพ่อแม่ทุกคนจะอยากให้ลูกได้เสพสื่อไม่ดีจากยูทูบกันเสมอไป ยิ่ง #เหมียวมู่ทู่ ได้เจอกระทู้บนเว็บไซต์พันทิป ที่ถามถึงวิธีป้องกันไม่ให้ลูกเข้าถึงเนื้อหาไม่ดี ฉะนั้นเราจะมาดูวิธีการบล็อคเข้าเข้าถึงเนื้อหาของลูกๆ แบบง่ายๆ กันว่าแต่จะทำยังไงนั้นลองมาดูกัน   เริ่มกันที่วิธีแรกกันก่อนเลย วิธีนี้จะสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เข้าไปที่หน้ายูทูบของคุณแล้วเข้าไปในยูทูบแล้วเลือกช่องที่ต้องการ แล้วเลื่อนลงไปข้างล่างสุดให้สังเกตุที่ปุ่มตามภาพ   จากนั้นก็เลือกเป็น “เปิด” เพื่อให้ยูทูบกรองเนื้อหาที่มีคนรายงานว่าไม่เหมาะสมให้ จากนั้นก็ทำการกดเซฟ เป็นอันเรียบร้อย   วิธีต่อมาจะเป็นสำหรับในโทรศัพมือถือ ซึ่งมีวิธีทำที่ต่างกัน แต่ให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกัน เริ่มจากการเข้าไปที่หน้ายูทูบของท่าน แล้วก็เลือกปุ่มจุดสามจุดตรงมุมบนขวา จากนั้นให้เลือกที่ตั้งค่า .   จากนั้นก็จะเข้ามาในเมนูตั้งค่า ให้เราเลือกไปที่ตัวเลือก “การกรองโหมดที่จำกัด”   จากนั้นก็เลือกเป็น “เข้มงวด” เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว   วิธีสุดท้าย วิธีนี้จะเป็นการใช้แอพยูทูบตัวอื่นเข้ามาช่วย ซึ่งออกแบบโดยตัวยูทูบเอง และมีชื่อเรียกว่า YouTube Kids  โดยตัวแอพที่ว่านี้จะมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่ายเหมาะสำหรับเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่ไม่ค่อยเข้าใจในเทคโนโลยี แถมยังแบ่งหมวดหมู่คลิปที่มีประโยชน์ออกเป็นหมวดๆ อย่างชัดเจนเพื่อให้เด็กๆ เข้าถึงได้ง่าย   ส่วนถ้าผู้ปกครองกลัวว่าจะลูกๆ จะไปเจอช่องที่ไม่ดีก็รับรองได้ว่าไม่มีแน่นอน เพราะใน YouTube Kids  จะได้รับการกลั่นกรองจากยูทูบแล้วว่าปลอดภัยหายห่วง  …

  • ไปชมการ์ตูนที่จีนทำออกมา ให้คนไทย “เข้าใจนักท่องเที่ยวจีน” จนมีชาวเน็ตดราม่าเพียบ!!

    ไปชมการ์ตูนที่จีนทำออกมา ให้คนไทย “เข้าใจนักท่องเที่ยวจีน” จนมีชาวเน็ตดราม่าเพียบ!!

    ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีว่านักท่องเที่ยวจากจีนจำนวนมากได้หลั่งไหลเข้ามาในทุกภาคส่วนของประเทศไทย ซึ่งในจำนวนเหล่านี้ มีนักท่องเที่ยวบางคนได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและสถานที่ท่องเที่ยวต่าๆง เป็นอย่างมาก จนเกิดกระแสด้านลบต่อนักท่องเที่ยวจีน ด้วยเหตุนี้เอง ทางสำนักข่าว THAI CCTV จึงได้ทำการ์ตูนชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจีน พร้อมทั้งวอนขอให้คนไทยเข้าใจถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมของนักท่องเที่ยวเหล่านี้ด้วย   ก่อนอื่น เราไปชมการ์ตูนนี้กันก่อน ซึ่งอาจจะยาวสักหน่อยนะ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .   อย่างไรก็ตามเมื่อภาพนี้เผยแพร่ออกไป ก็มีชาวไทยเข้าไปคอมเมนต์มากมาย บางคนบอกว่า นักท่องเที่ยวจีนต่างหากที่ต้องพยายามปรับตัวเข้าหาคนไทย . .   บางคนก็บอกว่า ทำไมการ์ตูนดู “ข่มขู่” มากกว่า “ได้โปรดเข้าใจ” ละเนี่ย…

  • เหมียวพาเพลิน!! ชม 20 ภาพผลงานศิลปะคิ้วท์ๆ จาก “นิ้วมือ” มันสื่อความหมายได้ด้วยนะ

    เหมียวพาเพลิน!! ชม 20 ภาพผลงานศิลปะคิ้วท์ๆ จาก “นิ้วมือ” มันสื่อความหมายได้ด้วยนะ

    ผลงานศิลปะสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา หากมนุษย์รู้จักสร้างจินตนาการ และนำความคิดเหล่านั้นมาสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นผลงานศิลปะเจ๋งๆ ได้ ผลงานศิลปะน่ารักๆ จากนิ้วมือเหล่านี้ก็เช่นกัน หลายคนอาจจะคิดว่าคงไม่เหมาะเท่าไหร่นัก หากจะนำนิ้วมือมาทำให้เกิดเป็นงานศิลปะ แต่หารู้ไม่ว่าเมื่อลองนำศิลปะมาสร้างสรรค์บนนิ้วมือแล้ว มันกลับเกิดเป็นผลงานเจ๋งๆ ได้อย่างหลากหลายแบบนี้…     ศิลปะที่ไร้ขีดจำกัด สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา หากคุณกล้าที่จะลงมือทำ   คุณก็สามารถเนรมิตผลงานเหล่านี้บนนิ้วมือของคุณได้   และผลลัพธ์ที่ออกมา ก็น่ารักมุ้งมิ้งซะเหลือเกิน   เป็นงานศิลปะบนนิ้วมือที่สามารถสร้างให้เกิดเป็นอารมณ์ต่างๆ ได้ไม่ว่าจะเป็น….ความรัก   มีความสุข   โกรธ   และอีกมากมาย   งานซอมบี้ก็มานะ   สร้างสรรค์ไหมละเหมียว   ดูไปก็ยิ้มไป เพลินตาจริงๆ   นิ้วมือ คงไม่ใช่อวัยวะธรรมดาๆ ที่อยู่บนร่างกายอีกต่อไป เพราะมันสามารถสร้างงานศิลปะเจ๋งๆ ได้มากมายเลยทีเดียว     ถ้าใครอยากรู้ว่าตัวเองมีจินตนาการที่สร้างสรรค์มากน้อยแค่ไหน ก็ลองสร้างผลงานศิลปะแบบนี้ลงบนนิ้วของคุณได้เลย ดูสิ…ว่าคุณจะทำมันออกมาในรูปแบบไหนกันบ้าง ที่มา : multyshades

  • เด็กไทยเก่งมาก!! นักเรียน ม.1 นำเสนอ ‘นิราศภูเขาทอง’ โดยใช้เกม Minecraft เป็นสื่อ!!

    เด็กไทยเก่งมาก!! นักเรียน ม.1 นำเสนอ ‘นิราศภูเขาทอง’ โดยใช้เกม Minecraft เป็นสื่อ!!

    ทุกวันนี้หากใครได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับเกมและมีเด็กเป็นผู้เกี่ยวข้องตามสื่อต่างๆ มักจะเป็นข่าวคราวในด้านลบอยู่เสมอ จนเกมทุกวันนี้ในสายตาผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่ชั่วร้าย หล่อหลอมให้เยาวชนมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง และปัญหาอื่นๆ ที่มักจะถูกเกี่ยวโยงไปด้วย     แต่ทว่ามันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะด้านดีๆ ของเกมก็ยังมีอีกเยอะ เกมสามารถให้ความรู้และความคิดสร้างสรรค์แก่ผู้เล่นได้ไม่รู้จบ สามารถนำไปต่อยอดได้อีกมากมาย อย่างเช่น เกม Minecraft ที่นักเรียนชั้น ม.1 เลือกใช้เป็นสื่อกลางทำการบ้านส่งคุณครู     โดยในวิดีโอคลิปดังกล่าว เป็นคลิปตั้งแต่ปีพ.ศ. 2555 นำเสนอผ่านเกม Minecraft ที่สร้างสรรค์โลกในจินตนาการพร้อมกับการร่ายกลอนเรื่อง ‘นิราศภูเขาทอง’ ผลงานของสุนทรภู่ ที่สามารถเข้าใจได้ง่ายและเพลิดเพลินไปด้วยในเวลาเดียวกัน       ทั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นผลงานของนักเรียนโรงเรียนใด แต่ต้องชื่นชมในความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของน้องๆ เลย ปรบมือให้รัวๆ เลยจ้า!! ที่มา : sry spice

  • ย้อนวันเกิน!! รวม 10 เพลงโฆษณายุคไทยวินเท๊จ วินเทจ มีใครทันได้ฟังในสมัยนั้นบ้าง

    ย้อนวันเกิน!! รวม 10 เพลงโฆษณายุคไทยวินเท๊จ วินเทจ มีใครทันได้ฟังในสมัยนั้นบ้าง

    จะว่าไปแล้วการนำเสนอสินค้าให้เป็นที่รู้จักก็ต้องผ่านการทำใบโฆษณาไปแปะตามผนังห้างร้านต่างๆ อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือสื่อที่มาในรูปแบบของเสียง ใช่แล้ว มันก็คือเพลงโฆษณานั่นแหละ     โดยที่เมื่อก่อนนั้นจะได้ยินตามวิทยุทั่วไป เปิดแบบคั่นระหว่างรายการ ได้ยินครั้งแรกอาจจะไม่ค่อยรู้สึกอะไร ต่อพอได้ฟังบ่อยๆ ก็เริ่มรู้ถึงเอกลักษณ์สินค้าแต่ละตัว แถมแต่ละอย่างก็ช่างจะสรรสร้างคำมาร้อยให้เป็นเพลงที่ซึมซับเข้าไปในความจำได้อย่างง่ายดาย ฮ่าฮ่า!! มีใครทันอันไหนบ้างเนี่ย   1. ถ่านไฟฉายตรากบ   2. โรงเรียนสอนขับรถ ส.สะพานมอญ   3. แป้งน้ำสมใจนึก   4. แป้งน้ำสปริงซอง   5. โสมเกาหลีตังกุยจั๊บ   6. สเปรย์น้ำหอมคิงส์สเตลล่า   7. พู่กัน สง่า มะยุระ   8. แบตเตอรี่โบลิเด้น   9. ยาหม่องน้ำซีชวนอิ๊ว   10. ครีมย้อมผมซีโอต้า   อื้อหืออออออ!! แต่ละเพลง เหมียวนี้ไม่เค๊ย ไม่เคยจะได้ยินมาก่อนเลยนะ ขอบอก แต่ยังจำแว่วๆ เสียงของถ่านไฟฉายตรากับได้อยู่…

  • 7 ภาพยนตร์ยุคปัจจุบัน ถูกจับย้อนกลับไปสู่สื่อในอดีตบน ‘เทปวิดีโอ’ เพิ่มความขลังได้หลายเท่าตัว!!

    7 ภาพยนตร์ยุคปัจจุบัน ถูกจับย้อนกลับไปสู่สื่อในอดีตบน ‘เทปวิดีโอ’ เพิ่มความขลังได้หลายเท่าตัว!!

    หากใครที่เป็นคอภาพยนตร์รับชมที่บ้านในสมัยนู้น (สมัยไหนก็ไม่รู้) แบบว่าช่วงนั้นสื่อภาพยนตร์ภายในบ้านก็คงจะหนีไม่พ้น ‘เทปวิดีโอ’ อย่างแน่นอน ใครที่ซื้อมาซัก 1 ม้วน ก็กรอดูมันอย่างนั้นหลายเดือน หลายปี หรือไม่ก็ออกไปหาเช่าเรื่องใหม่ๆ ตามร้านเช่าวิดีโอ   EX_MACHINA   จนมาถึงยุคของ VCD, DVD และแผ่น Blu-Ray จนกระทั่งเดี๋ยวนี้เป็นรูปแบบไฟล์ดิจิตอลรวมไปถึงระบบการให้บริการแบบ Streaming บนอินเทอร์เน็ต ภาพหน้าปกของภาพยนตร์ก็ดูล้ำไปเรื่อยๆ ตามสมัยนิยม แต่ถ้าหากลองนำภาพยนตร์ในปัจจุบันมาบรรจุในวิดีโอเทปแบบเก่าบ้าง หน้าตาของมันดูขลังไปเลยแฮะ!!   Only God Forgives   Her   Kumiko The Treasure Hunter   Mad Max Fury Road   The Revenanat   Under The Skin   ภาพโดยรวมของทั้ง 7 เรื่องในรูปแบบวิดีโอเทป  …

  • สื่อญี่ปุ่นลองนั่งรถเมล์สาย 8 แล้วก็นำประสบการณ์ที่ได้มารีวิวให้อ่านกัน เขาจะประทับใจกันแค่ไหนหนอ?

    สื่อญี่ปุ่นลองนั่งรถเมล์สาย 8 แล้วก็นำประสบการณ์ที่ได้มารีวิวให้อ่านกัน เขาจะประทับใจกันแค่ไหนหนอ?

    กลายเป็นเรื่องที่ล่ำลือกันมาอย่างช้านานกับตำนานรถเมล์ซิ่งหมายเลข 8 ของประเทศไทย ที่ผู้โดยสารต่างก็พูดกันปากต่อปากว่าเป็นรถเมล์สายที่เร็ว แรง ทะลุนรกของจริง ทำความเร็วได้ดี จอดไม่ตรงป้าย ไม่อยากจอดก็ไม่จอด และอื่นๆ อีกมากมาย จนลามไปถึงชาวต่างชาติกันเลยทีเดียว     เมื่อไม่นานมานี้เองสื่อญี่ปุ่นอย่างเว็บไซต์ nikkei ก็ได้เข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์ตรงนั่งรถเมล์ซิ่งหมายเลข 8 นี้เหมือนกัน ซึ่งก็ได้กล่าวเอาไว้ประมาณว่าเป็นรถเมล์สายที่อันตรายมากสำหรับบริการสาธารณะ โดยอ้างอิงจากสถิติที่ร้องเรียนจากผู้สารมากถึง 345 ครั้ง แบบว่าแทบจะทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นขับรถน่ากลัว ไม่ระมัดระวัง อยากจอดที่ไหนก็จอด จอดไม่ตรงป้าย ไม่รับผู้โดยสาร และอื่นๆ     เส้นทางของรถเมล์สาย 8 นี้ จะให้บริการในเส้นทางสะพานพุทธ บริเวณใกล้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีปลายทางอยู่ที่บางกะปิ ระยะทางทั้งสิ้น 30 กิโลเมตร และตามมาด้วยในเรื่องของการออกแบบภายในตัวรถที่ยังคงเป็นความวินเทจ (โบราณ) ไม่มีเครื่องปรับอากาศ เน้นลมธรรมชาติกับพัดลม พื้นไม้ และประตูขึ้น-ลง แบบไม่ปิดสนิท     ถ้ามองไม่ภาพรวมของความสะดวกสบายแล้วก็คงจะสอบตกแน่นอน แต่ถ้าให้พูดในเรื่องของค่าโดยสารเพียงแค่ 9 บาทตลอดสายนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ส่วนในเรื่องของสไตล์การวิ่งรถก็จะประมาณว่า…

  • การอ่านหนังสือจากสื่อสิ่งพิมพ์และเครื่องอ่าน Kindle ส่งผลต่อสมองในรูปแบบที่แตกต่างกัน

    การอ่านหนังสือจากสื่อสิ่งพิมพ์และเครื่องอ่าน Kindle ส่งผลต่อสมองในรูปแบบที่แตกต่างกัน

    เป็นที่ทราบกันดีกว่าในยุคสมัยปัจจุบันนี้กลายเป็นยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี ที่แทบจะเข้ามาแทนที่ทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดแล้ว รวมไปถึงการเข้ามามีบทบาทเปลี่ยนแปลงการอ่านของมนุษย์ด้วย ที่เหมียวกำลังจะกล่าวถึงก็คือมนุษย์หันมาอ่านหนังสือผ่านเครื่องอ่านอิเล็กทรอนิคส์มากขึ้น (Kindle และ E-Book)     คุณ Manoush Zomorodi และ Mike Rosenwald ได้ร่วมกันพิสูจน์ถึงผลกระทบของการอ่านหนังสือผ่านเครื่องอ่านอิเล็กทรอนิคส์ ซึ่งทั้งสองคนต่างก็รู้สึกเหมือนกันว่าไม่มีสมาธิที่จะจดจ่อกับการอ่าน ราวกับว่าอ่านตัวหนังสือผ่านเว็บไซต์หรือหน้าฟีดทวิตเตอร์     ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมนุษย์ใช้สมองในส่วนที่แตกต่างกัน จากทั้งการอ่านผ่านหนังสือและหน้าจอ เพราะฉะนั้นการอ่านตัวหนังสือจากหน้าจอจะทำให้มีลักษณะการอ่านแบบ Skimming (อ่านผ่านอย่างรวดเร็ว) คล้ายๆ กับการกวาดตาอ่านเว็บไซต์     Zomorodi กล่าวเสริมเอาไว้ว่า ปัจจุบันผู้คนหันมาอ่านตัวหนังสือผ่านหน้าจอกันมากขึ้น และทำให้ลักษณะการอ่านแบบจดจ่อนั้นค่อยๆ จางหายไป เพราะไม่ได้ใช้งานสมองส่วนที่อ่านหนังสือจากสิ่งพิมพ์เลย     และด้วยปัญหานี้จะทำให้มนุษย์ยุคใหม่มีสมาธิที่สั้นลง ไม่จดจ่อกับสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กๆ ที่โตมากับเทคโนโลยี เพราะฉะนั้นก็ควรที่จะหันมาจับหนังสือจริงๆ แล้วลองใช้เวลากับมันซักพัก วันละ 1 ครั้งก็ยังดี ที่มา : pri, niemanreports, academia

  • 14 ภาพของผู้คนที่ดูเหมือนจะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่ค่อยเป็น ใครได้ชมรับรองขำกลิ้งแน่นอน

    14 ภาพของผู้คนที่ดูเหมือนจะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่ค่อยเป็น ใครได้ชมรับรองขำกลิ้งแน่นอน

    ต้องยอมรับเลยว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับมนุษย์ เพราะเทคโนโลยีมีความรวดเร็วในการรับรู้ข่าวสารต่างๆ มีความสะดวกสบาย และพกพาง่าย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเทคโนโลยีจะมีความทันสมัย แต่ก็ยังมีคนที่ตามเทรนด์ไม่ค่อยทัน นำอุปกรณ์ และเทคโนโลยีเหล่านั้นมาใช้ในแบบที่ผิดๆ จนเห็นแล้วต้องรีบเอามือขึ้นมากุมขมับแทบไม่ทันเลยละ ก็เหมือนกับภาพของบุคคลเหล่านี้ ที่เหมียวเห็นแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฮาหรือสงสารดี เพราะคนเหล่านี้ดูเหมือนอาจจะยังใช้เทคโนโลยี หรืออุปกรณ์สมัยใหม่ยังไม่ค่อยเป็น สุดท้ายก็เกิดเป็นภาพสุดฮาที่เรากำลังจะพาคุณไปชม ณ บัดนี้   ขออนุญาตล้างเครื่องแปบ   นี่โต๊ะคอมพิวเตอร์ป่ะ –”   ไอเดียเจ๋งใช้ได้   เอิ่ม!! เอาตามที่สบายใจก็แล้วกัน     ขอเงิบแปบ   ผิดด้านแล้วลุง   เอาเข้าไปพวกมนุษย์   คงลืมเอาสมอล์ทอล์กมาสินะ   นั่นมันใช่ช่องใส่หรอ   ยกมาครบเซ็ตเลย   และภาพทั้งหมดทั้งมวลนี้สามารถสื่อให้เราได้เห็นว่า เทคโนโลยีไม่ค่อยเหมาะกับคนเหล่านี้เลยจริงๆ ที่มา : ptt01.cc

  • ส่งความรู้สึกดีๆ ไปกับ 12 ไอเดียกล่องไม้ขีดไฟสื่อรัก ของขวัญสุดพิเศษที่จะทำให้คนรักของคุณยิ้มแก้มปริ

    ส่งความรู้สึกดีๆ ไปกับ 12 ไอเดียกล่องไม้ขีดไฟสื่อรัก ของขวัญสุดพิเศษที่จะทำให้คนรักของคุณยิ้มแก้มปริ

    เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมองหากล่องของขวัญโดนๆ สักชิ้น ที่มีราคาไม่แพง แต่มีคุณค่าทางจิตใจ เพื่อนำไปมอบให้กับคนที่คุณรักละก็ ในวันนี้เราขอนำเสนอไอเดียของขวัญสุดพิเศษนั่นก็คือ ‘กล่องของขวัญไม้ขีดไฟ’ นั่นเอง และถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้มีราคาที่สูงค่าสักเท่าไหร่ แต่รับรองว่าหากใครที่ได้รับจะต้องหัวใจพองโตแน่นอน   มอบของขวัญชิ้นนี้ให้แม่ของคุณสิ รับรองว่าท่านจะต้องอมยิ้มไปทั้งวันแน่ๆ เลย   อยากบอกรักใครสักคน ลองนำเอาไอเดียเหล่านี้ไปใช้ดูสิ   ทำจดหมายรักซ่อนไว้ในกล่อง ก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวเหมือนกันนะ   ไปทางขวาไม่ได้ ไปทางซ้ายก็แล้วกัน   ของขวัญชิ้นเล็กๆ สำหรับคนป่วย น่ารักดีเนาะ   อยากขอสาวเป็นแฟนแต่ไม่กล้าพูดทำไงดี ถ้างั้นมอบกล่องนี้ให้เลย   อยากจะลองเซอร์ไพรส์สามีดูสักครั้ง ลองนำเอาไอเดียนี้ไปใช้ได้เลย   จะไม่ดีหรอ ถ้าเราจะแก่ไปด้วยกัน   อยากบอกรักคอเกมส์ ไอเดียนี้เจ๋งฝุดๆ   ใครที่กำลังโดนแฟนงอน หรือเมินใส่ ทำกล่องนี้ไปให้เลย     ของขวัญแสนน่ารัก สำหรับคริสต์มาสปีนี้     อยากได้จัง   น่ารักใช่มั้ยล้าาาาา   เป็นไอเดียของขวัญที่น่ารักมากจริงๆ…

  • น้ำใจจากทั่วโลกมอบหนังสือให้ Mathew Flores หนุ่มน้อยรักการอ่าน แต่ไม่มีเงินซื้อหนังสือ

    น้ำใจจากทั่วโลกมอบหนังสือให้ Mathew Flores หนุ่มน้อยรักการอ่าน แต่ไม่มีเงินซื้อหนังสือ

    เรื่องราวอันน่าประทับใจของหนุ่มน้อยผู้รักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ Mathew Flores วัย 12 ปี ชอบอ่านทุกสิ่งไม่เว้นแม้แต่โฆษณาต่างๆ ตามจดหมาย ที่หลายๆ คนมักจะไม่ค่อยใส่ใจกันซักเท่าไหร่นัก ชอบอ่านมากถึงกับขนาดถามบุรุษไปรษณีย์ว่ามีจดหมายหรือโฆษณาอะไรให้ผมอ่านอีกบ้าง? และบุรุษไปรษณีย์ผู้นั้นก็คือคุณ Ron Lynch ซึ่งในตอนแรกเขาได้รับคำร้องขอด้วยว่า “ผมอยากจะมีหนังสือเป็นของตัวเอง”  Ron Lynch พยายามหาทางออกให้กับหนุ่มน้อยรายนี้ด้วยการแนะนำให้ไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด แต่หนุ่มน้อยไม่มีใครพาไป และไม่สามารถขึ้นรถบัสไปได้ด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้น Ron Lynch ก็เลยโพสต์ผ่าน Facebook ขอความช่วยเหลือจากโลกออนไลน์ หากใครมีหนังสือเก่าๆ ไม่ได้อ่านแล้ว ก็สามารถร่วมบริจาคให้กับหนุ่มน้อย Mathew Flores ได้ทันที และแล้วจากการโพสต์ขอความช่วยเหลือในครั้งนั้นก็ประสบผลสำเร็จ น้ำใจจากทั่วโลกหลั่งไหลมาถึงหนุ่มน้อย Mathew Flores เขาได้รับบริจาคหนังสือจากหลายประเทศเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และอินเดีย เป็นจำนวนมากมายกว่าร้อยเล่ม Ron Lynch ก็ยังเผยอีกว่าหนังสือจำนวนกว่าร้อยเล่มที่เห็นอยู่นี้ ยังไม่หมดนะ ยังมีอีกเป็นจำนวนร้อยกว่าเล่มที่กำลังเดินทางมาด้วยแหละ ทางด้าน Flores ก็สัญญาว่าจะอ่านหนังสือให้จบทุกเล่ม และจะส่งต่อให้กับคนอื่นๆ ต่อไปในอนาคต ที่มา : thechive

  • ช็อตเดียวก็เกินพอ!! สื่ออิตาลีจับมือยูนิเซฟคลอดแคมเปญแห่งปี  รณรงค์ยุติความรุนแรงในโรงเรียน!!

    ช็อตเดียวก็เกินพอ!! สื่ออิตาลีจับมือยูนิเซฟคลอดแคมเปญแห่งปี รณรงค์ยุติความรุนแรงในโรงเรียน!!

    แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เกิดขึ้นกับตนเองหรือคนที่เรารัก ซึ่งวิธีที่จะหยุดยั้งความรุนแรงได้ ก็คงต้องเริ่มจากทัศนคติของตัวเราก่อนที่จะพัฒนาเป็นสังคมวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ และถ้าพูดถึงวิธีการหยุดยั้งความรุนแรงในวงกว้าง เหมียวการออกแคมเปญเจ๋งๆ และใช้สื่อเป็นตัวช่วยในการเผยแพร่ก็ถือเป็นวิธีที่ดีเลยหละ ว่าแล้วมาดูตัวอย่างเจ๋งๆ ของการร่วมมือของยูนิเซฟและสื่อมวลชนอิตาลีกันเลยดีกว่า!!     นี่คือ ‘One shot is enough’ หรือ ภาพเดียวก็เกินพอ ที่เราจะเรียกว่าเป็นแคมเปญแห่งปีที่ควรส่งต่อก็ว่าได้ เพราะพวกเค้าทำเพื่อยุติความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามโรงเรียนกับเยาวชนให้ได้ผล   เริ่มจากที่องค์การยูนิเซฟอิตาลีหาข้อมูล สอบประวัติ และผลพิสูจน์ต่างๆ จากตำรวจ เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ แล้วพบว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้จะส่งผลกระทบอย่างมหาศาล เมื่อเด็กผู้ถูกกลั่นแกล้งโดนนำคลิปวิดีโอ หรือภาพไปเผยแพร่ประจานให้ยิ่งอับอายและหาทางออกไม่ได้ จนเด็กบางคนไม่ยอมกลับไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน ย้ายที่เรียน ถึงขั้นว่าให้พ่อแม่สอนหนังสือที่บ้านไปเลยก็มี     โดยส่วนที่หนักและน่าเห็นใจที่สุดก็คือ ถ้าปมในใจของเด็กๆ ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้มันยากเกินจะเยียวยาแก้ไข ก็จะทำให้พวกเขาต้องกลายเป็นโรคซึมเศร้าและทำร้ายตัวเองอีกด้วย… T_T ที่มา UNICEF, postjung