Tag: สารเสพติด

  • ทดลองให้คนใช้สารเสพติดมาประกอบเฟอร์นิเจอร์ IKEA งานนี้กลายเป็น HighKEA ไปเลย!!

    ทดลองให้คนใช้สารเสพติดมาประกอบเฟอร์นิเจอร์ IKEA งานนี้กลายเป็น HighKEA ไปเลย!!

    คำเตือน: การทดลองดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุม และไม่แนะนำให้ใช้สารเสพติดเด็ดขาด   บ่อยครั้งที่เรามักจะพูดกันว่าสารเสพติดบางชนิดนั้นมีทั้งคุณและทั้งโทษ ซึ่งแน่นอนว่าของบางอย่างนั้นถ้าใช้อย่างถูกต้องก็ย่อมให้ประโยชน์เป็นธรรมดา เพียงแต่ว่าถ้าเราใช้มันอย่างผิดวิธีผลที่ตามมาย่อมไม่สวยอย่างแน่นอนโดยเฉพาะ LSD ด้วยเหตุนี้ทางช่องยูทูบนามว่า HIKEA จึงจัดการสาธิตการเสพ LSD ที่มีฤทธิ์หลอนประสาทพร้อมกับการประกอบเฟอร์นิเจอร์จาก IKEA ที่ว่ากันว่าประกอบง่ายมากๆ ให้เราได้ดูกัน แต่จะออกมาเข้าท่าไหม จะล่องลอยขนาดไหนมาดู!!     ผู้เข้าร่วมทดสอบในตอนแรกนั่นก็คือ Giancarlo และ Nicole โดยตัว Giancarlo บอกว่าเขาเคยลองเก็ตฮายมาแล้วราว 5 ครั้งด้วยกันส่วน Nicole นั้นถือว่าเป็นครั้งแรก     ทีมงานได้มอบสาร LSD ให้ทั้งคู่กินซึ่งก่อนจะประกอบเฟอร์นิเจอร์ทีมงานจำเป็นจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งผลถึงจะออกฤทธิ์ และผลทดสอบของความเมานี้จึงจะเริ่มขึ้น!! ในช่วงแรกผลของมันยังไม่ออกฤทธิ์มากนัก ทั้งคู่ยังคงรู้ตัวและยิ้มเล็กๆ พร้อมกับช่วยกันประกอบเฟอร์นิเจอร์ต่อไป จนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่นานตัวยาเริ่มแสดงผลมากขึ้นเรื่อยๆ   ทำไปหัวเราะไป พูดไม่ค่อยจะรู้เรื่องกันสักเท่าไหร่   แม้แต่ขั้นตอนการใช้ไขควงเฉยๆ ทั้งคู่ยังหัวเราะไม่หยุด แถมช่วงเวลาที่ทั้งคู่ประกอบเป็นเวลานานนั้นเพิ่งจะเป็นแค่ส่วนแรกของเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น…จะรอดไหมเนี่ย   ยิ่งเวลาผ่านไป Giancarlo นั้นเริ่มจะสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาเริ่มมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง   เวลาผ่านไป…

  • พบสารเสพติดในตัวพ่อแม่ลูก แท้จริงแล้วถูกร้านค้าหลอกให้กิน ‘หมาล่าผสมฝิ่น’ เข้าไป

    พบสารเสพติดในตัวพ่อแม่ลูก แท้จริงแล้วถูกร้านค้าหลอกให้กิน ‘หมาล่าผสมฝิ่น’ เข้าไป

    หลายๆ คนคงมีร้านอาหารที่ตัวเองรู้สึกติดใจจนทำให้ต้องกลับไปกินร้านนั้นอยู่บ่อยๆ โดยที่เราอาจไม่เคยสังเกตว่าแท้จริงแล้วความอร่อยของอาหารจานนั้นอาจเป็นผลมาจากสารเสพติด เหมือนอย่างที่ครอบครัวนี้ได้ไปกินมาก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2018 สำนักข่าว China Xinhua News รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองอู่สี มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะของสามีภรรยาคู่หนึ่ง แต่ที่น่าแปลกคือสารเสพติดชนิดเดียวกันนั้นกลับมีอยู่ในปัสสาวะของลูกสาวและหลานสาวของพวกเขาด้วย   ตำรวจเกิดความสงสัย กับการตรวจพบสารเสพติดครบทั้งพ่อแม่ลูกและหลานสาว   นั่นจึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เกิดความสงสัยว่า การมีสารเสพติดอยู่ในร่างกายนั้นอาจไม่ได้เกิดจากการที่พวกเขาเสพมันเข้าไปด้วยความตั้งใจ ตำรวจจึงทำการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม พบว่าก่อนหน้านี้ครอบครัวดังกล่าวได้ไปกินต้มหมาล่าในร้านอาหารแห่งหนึ่งมา   ต้มหมาล่า ใช้เนื้อสัตว์และผักนานาชนิดต้มกับน้ำซุปที่ผสมเครื่องเทศที่จะทำให้รู้สึกเผ็ดชา   ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการเข้าไปตรวจค้นห้องครัวของร้านอาหารแห่งนั้น แล้วพวกเขาก็ได้พบกับถุงสีน้ำตาลหน้าตาประหลาดอยู่ในหม้อต้มของร้าน จากการสอบถามเจ้าของร้านจึงทำให้ทราบว่า ในหม้อต้มนั้นไม่ได้มีเพียงเครื่องแกงทั่วไป แต่มันยังมี เปลือกฝิ่น ที่อยู่ในถุงดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งเจ้าของร้านอ้างว่าตัวเองทำไปเพราะมีคนบอกว่ามันจะทำให้อาหารมีความหอมมากยิ่งขึ้น โดยเขาได้ซื้อผงเปลือกฝิ่นนี้มาในราคากิโลกรัมละ 100 หยวน หรือประมาณ 500 บาทเท่านั้นเอง ส่วนของเปลือกฝิ่นนั้นถือว่ามีฤทธิ์เป็นสารเสพติด หากรับเข้าไปในปริมาณมากจนเกินไป แน่นอนว่ามันจะทำให้คนคนนั้นเกิดอาการเสพติดขึ้นมาได้   เปลือกฝิ่นมีฤทธิ์เป็นสารเสพติด ไม่ต่างกับตัวยางของมัน   เจ้าของร้านจึงถูกจับกุมตัวไปดำเนินคดี เนื่องจากใช้ฝิ่นมาประกอบอาหารซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายในจีน และมีการออกมาตรการปราบปรามเหล่าผู้ประกอบการที่ใช้ฝิ่นผสมในอาหารมาตั้งแต่ปี 2009…

  • ผลสำรวจเผย สหราชอาณาจักรคือชาติที่ “ผลิตกัญชา” อย่างถูกกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้!!

    ผลสำรวจเผย สหราชอาณาจักรคือชาติที่ “ผลิตกัญชา” อย่างถูกกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้!!

    ในขณะที่หลายๆ ประเทศยังคงมีปัญหาเรื่องผลดีผลเสียและไม่ยอมให้กัญชาเป็นพืชถูกกฎหมายเสียที แต่บางประเทศกลับไม่รอช้าและเร่งแซงหน้าประเทศอื่นๆ ไปอย่างไม่เห็นฝุ่น อย่างที่หลายคนรู้กันว่าปัจจุบันกัญชานั้นเริ่มที่จะถูกบัญญัติให้เป็นพื้นทางการแพทย์ที่ถูกกฎหมาย และเริ่มมีการปลูกเพื่อใช้ในด้านดังกล่าวอย่างแพร่หลาย และใครจะคิดว่าสหราชอาณาจักร ตอนนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปเรียบร้อยแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ประเทศสหราชอาณาจักรนั้นได้ผลิตกัญชาเพื่อการแพทย์แล้วมากกว่า 95 ตัน ซึ่งนำโด่งคู่ค้าอย่างแคนาดาที่มีกำลังผลิตอยู่ที่ 80.7 ตันต่อปี     แต่แม้ว่าจะมีจำนวนการผลิตที่เยอะขนาดนั้น ทางการอังกฤษก็ไม่ได้อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปสามารถเสพกัญชาได้อย่างเสรี เพราะกัญชาที่ปลูกอย่างถูกกฎหมายจะถูกนำไปผลิตยา Savitext ซึ่งเป็นยาจำพวกแรกที่ใช้กัญชาเป็นส่วนผสมหลัก และมีผลในการรักษาโรคเส้นเลือดตีบหลายๆ ประเภท ฉะนั้นผู้จะจัดซื้อได้จะต้องมีใบอนุญาตเสียก่อน อย่างไรก็ตามด้าน Steve Rolles นักวิเคราะห์ในสหราชอาณาจักรก็บอกว่า แม้กัญชาจะได้รับอนุญาตให้ใช้ในการแพทย์เป็นหลัก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทางการจะสามารถควบคุมไม่ให้มันแพร่ออกไปสู่ประชาชนทั่วไปได้เลย     เพราะการที่สหราชอาณาจักรถือเป็นประเทศที่ส่งออกกัญชาเยอะที่สุด ฉะนั้นปัญหาการรั่วไหลจะตามมาอย่างแน่นอน ดังนั้นทางการจึงจำเป็นจะต้องหารือและช่วยกันหาทางออกในเรื่องนี้กันต่อไปนั่นเอง…   ที่มา ladbible, sky

  • ทัวร์การต้ม “น้ำกระท่อม” ของไทย ในมุมมองฝรั่ง เปิดโลกที่ใครหลายคนไม่เคยเห็น!!

    ทัวร์การต้ม “น้ำกระท่อม” ของไทย ในมุมมองฝรั่ง เปิดโลกที่ใครหลายคนไม่เคยเห็น!!

    ถ้าสมุนไพรรูปหัวใจในวากานด้าเป็นยาเพิ่มพลังต้องห้าม น้ำกระท่อมในประเทศไทยก็เป็นสมุนไพรเพิ่มกำลังต้องห้ามเช่นกัน เพราะคนที่เสพเข้าไปนั้นจะรู้สึกมีกำลังและทำงานได้อย่างไม่มีเหนื่อย แต่กลับกันมันก็จัดเป็นสารเสพติดประเภทหนึ่ง ที่สำคัญคือผิดกฎหมาย!! อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันจะผิดกฎหมายแต่ ด้วยชาวบ้านบางส่วนยังมองว่ามันคือสมุนไพร คือเครื่องบำรุงกำลัง และมีคนเสพอยู่ตลอด ทาง VICELAND จึงส่งทีมงานลงมาสำรวจและถามถึงคนที่สามารถเข้าถึงสมนุไพรต้องห้ามที่ว่านี้ได้ ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร กินแล้วเป็นยังไง เล่าผ่านมุมมองของชาวต่างให้เราได้ดูกัน   แม้ใบกระท่อมจะผิดกฎหมาย แต่สามคนในคลิปล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อะหื้มมมมม อะโร่ยยยย   ในคลิปเราจะเห็นพิธีกรและวัยรุ่นนั่งอยู่ด้วยกันอีก 3 คนในลักษณะปิดหน้ามิดชิด เพราะอย่างที่เกริ่นไปว่าใบกระท่อมนั้นเป็นสารเสพติดและผิดกฎหมาย โดยพิธีกรได้ถามทั้ง 3 ว่าพวกเขาเรียนรู้การทำน้ำใบกระท่อมจากไหน   หนึ่งในนั้นก็บอกว่าเขาเรียนรู้มันมาจากการดูผ่านข่าวในโทรทัศน์ ซึ่งเป็นข่าวที่ตำรวจไปจับคนเสพใบกระท่อมและสั่งให้พวกเขาต้มให้ดู ทั้งสามจึงได้เรียนรู้วิธีมาจากตรงนั้นนั่นเอง   โดยส่วนผสมหลักนอกจากใบกระท่อมก็จะมี ยาแก้ไอ บ๊วยและน้ำอัดลม   นอกจากนี้พิธีกรยังถามต่ออีกว่า แล้วการต้มดื่มกับกินเปล่าๆ อันไหนจะอร่อยกว่า ซึ่งพวกเขาก็บอกว่า การต้มกินมันจะหวานกว่าแต่จะมีอาการเมา ส่วนการกินสดๆ จะมีรสชาติที่ขมกินไม่อร่อย   ด้วยเหตุนี้พิธีกรเลยถามกลับอีกครั้งว่า พวกเขาเคยเห็นใครดื่มน้ำใบกระท่อมและผสมเข้ากับวัตถุดิบแปลกๆ อย่างน้ำยากันยุงหรือสารจากหลอดไฟบ้างไหม ซึ่งทั้งหมดก็บอกว่าบริเวณที่พวกเขาอยู่ไม่มีคนทำแบบนั้น แถมยังเคยได้ยินว่าถ้าผสมสูตรแปลกๆ จะทำให้กลายเป็นบ้าได้ด้วย พวกเขาจึงชอบจะดื่มแบบสูตรปกติมากกว่า   นอกจากนี้ตัวพิธีกรก็ยังถามชายทั้งสามคนว่า…

  • 9 หนุ่มเป็นอัมพาตเพราะสูด “ผงขาว” จากกล่องไปรษณีย์ปริศนา เพราะนึกว่าเป็นโคเคน!?

    9 หนุ่มเป็นอัมพาตเพราะสูด “ผงขาว” จากกล่องไปรษณีย์ปริศนา เพราะนึกว่าเป็นโคเคน!?

    เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2018 ทางสำนักข่าว BBC ได้รายงานว่า แบ็กแพ็กเกอร์จำนวน 9 คนถูกหามส่งโรงพยาบาลในประเทศออสเตรเลียอย่างเร่งรีบด้วยอาการชัก ร่างกายเป็นอัมพาต และมีอาการเห็นภาพหลอน อาการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ทั้ง 9 คนได้สูดเอาผงขาวปริศนาเข้าไป ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่ามันคือยา Hyoscine เป็นยาตามใบสั่งแพทย์ หรือที่บางคนอาจรู้จักกันในชื่อของยา Date Rape Drug ที่ไว้ใช้ในการก่ออาชญากรรม     แบ็กแพ็กเกอร์ 9 คนนี้มาจากหลากหลายประเทศ มีชาวฝรั่งเศส 5 คน ชาวเยอรมัน 2 คน ชาวอิตาลี 1 คน และชาวโมรอคโคอีก 1 คน โดยมีอายุอยู่ที่ 21-25 ปี จากการบอกเล่าของ Simone หนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายครั้งนี้ เขาเล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นมาจากตอนที่พวกเขาพักอยู่ที่บ้านหลังเดียวกันในเขต Victoria Park ระหว่างนั้นก็มีพัสดุถูกส่งมาให้ที่บ้าน จ่าหน้าถึงเจ้าของบ้านคนเก่า เมื่อเปิดดูจึงพบผงสีขาวถูกห่อด้วยกระดาษที่เขียนไว้ว่า Scoop ซึ่งหมายถึงตัวยา Scopolamine…

  • ภัยยาเสพติด Flakka เปลี่ยนคนให้เป็นซอมบี้ ไร้สติและทำร้ายตัวเอง กำลังระบาดหนัก..!!

    ภัยยาเสพติด Flakka เปลี่ยนคนให้เป็นซอมบี้ ไร้สติและทำร้ายตัวเอง กำลังระบาดหนัก..!!

    กลายเป็นเรื่องน่าสะพรึงไปทั่วโลก หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของหญิงสาวนิรนามจากบราซิลที่มีอาการผิดปกติคล้ายซอมบี้อันเกิดจากการใช้สารเสพติดที่เรียกว่า ‘Flakka’   คลิปวิดีโอที่ทำให้คนทั้งโลกรู้สึกสะพรึงกลัวถึงภัยอันตรายของมัน…   แล้วมันคืออะไรกันแน่นะ? ‘Flakka’ (ฟลักกา) เป็นสารเสพติดในตระกูลเดียวกับพวก Bathsalt – Cathinone เนื่องจากมีลักษณะคล้ายเกลือที่ใช้สำหรับอาบน้ำ อีกทั้งยังมีความรุนแรงที่มากกว่าโคเคนและยาบ้าอยู่หลายเท่า แต่ด้วยราคาที่ถูกและหาซื้อได้ง่าย ทำให้มันกลายเป็นที่ระบาดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยหลังจากที่ผู้เสพได้รับสารดังกล่าวเข้าไปสู่ร่างกายแล้ว จะทำให้เกิดความฮึกเหิมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หัวใจเต้นแรง ขาดสติสัมปชัญญะ ขาดการตัดสินใจด้านผิดชอบชั่วดี และทำให้เรากลายเป็นฆาตกรเลือดเย็นได้อย่างไม่รู้สึกผิดใดๆ     ลักษณะอาการของผู้เสพฟลักกา   ย้อนกลับไปในช่วงเดือนสิงหาคมเมื่อปี 2016 ได้เกิดเหตุการณ์น่าสะเทือนขวัญขึ้นที่รัฐฟลอริด้า เมื่อ Austin Harrouff เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ได้ทดลองเสพยาดังกล่าวและเกิดอาการคุ้มคลั่ง นำมีดไปแทงสามีภรรยาเพื่อนบ้านจนเสียชีวิต..!! อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คดีนี้กลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก ก็คงเป็นความสยดสยองที่นอกจาก Austin จะใช้มีดแทงเพื่อนบ้านจนตายแล้ว เขายังกัดกินและใช้ฟันแทะใบหน้าของผู้เสียชีวิตอย่างเอร็ดอร่อยอีกด้วย แต่กว่าที่เจ้าหน้าที่จะสามารถหยุดความโหดร้ายนี้ได้ เขาต้องใช้กำลังจากนายตำรวจถึง 4 นาย และสุนัขตำรวจอีก 1 ตัว และเมื่อสอบสวนถึงได้รู้ว่าก่อนหน้านี้ Austin ไม่เคยมีปัญหากับเพื่อนบ้านมาก่อน โดยทั้งหมดเป็นเพียงฤทธิ์ของฟลักกา  …

  • ฮอกไกโดประสบปัญหา “กัญชาล้นป่า” เจ้าหน้าที่กลุ้มใจ กำจัดยังไงก็ไม่หมดไปเสียที…

    ฮอกไกโดประสบปัญหา “กัญชาล้นป่า” เจ้าหน้าที่กลุ้มใจ กำจัดยังไงก็ไม่หมดไปเสียที…

    กัญชาสมุนไพรที่หลายคนรู้จักกันในฐานะสารเสพติดชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายในบ้านเรา จึงทำให้เราคงจะไม่มีโอกาสได้เห็นต้นของมันได้ง่ายๆ แต่สำหรับในฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นแล้วละก็ เรียกได้ว่ามีให้เห็นกันทุกปีจนเอียนไปเลยล่ะ เพราะว่าเมื่อสมัยก่อนนั้น เคยมีอุตสาหกรรมพืชชนิดนี้เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย ก่อนที่จะถูกสั่งห้ามและปิดโรงงานเหล่านั้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ถึงแม้จะไม่มีโรงงานแล้วแต่ตัวของต้นกัญชานั้นกลับไม่ได้หายไปไหน… มันยังคงอยู่และเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง     เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2017 ทางหน่วยงานเทศบาลได้ส่งคนไปจัดการกับเจ้าพืชดังกล่าวในสองแห่งได้แก่ บริเวณหลังบ้านร้าง และบริเวณสุดขอบทุ่งข้าวสาลี แต่เมื่อไปเจอในที่แรกนั้นก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น เพราะต้นกัญชาสูงเท่าคนยืนที่น่าจะถูกกำจัดไปเมื่อปีที่แล้ว มันดันกลับมาให้เห็นซะอย่างนั้น นั่นทำให้พวกเขาต้องจัดการต้นกัญชารุ่นใหม่ โดยการใช้มือดึงต้นและรากออกมาทีละต้นจนหมดวัน พวกเขาได้ถอนรากมันออกถึง 8,081 ต้น มีน้ำหนักรวมแล้วกว่า 280 กิโลกรัมกันเลยทีเดียว     พวกเขารู้ดีว่าสิ่งที่ได้ทำลงไปนั้นมันไร้ความหมาย เพราะในปีต่อไปเดี๋ยวมันก็จะกลับมาอีกอยู่ดี มันโตขึ้นเรื่อยๆ โดยจำนวนของมันนั้นมากกว่าวันเดียวกันเมื่อปีที่แล้วถึงสิบเท่า จนเมื่อข่าวนี้ออกไปก็ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมายอย่างเช่น “ทำไมถึงไม่ส่งออกไปประเทศที่ถูกกฎหมาย” “ก็ให้มันถูกกฎหมายซักพัก เดี๋ยวก็จะหายไปหมดเอง” “เผาเลย จะต้องเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากแน่’  จากเหตุการณ์นี้ทำให้รู้เลยว่าเจ้าพืชที่ลงเหลือมาจากอุตสาหกรรมในสมัยก่อนชนิดนี้นั้นมีความยั่งยืนอย่างมากเพราะช่างยากที่จะกำจัดเสียเหลือเกิน… อย่างไรก็ตามจากที่นั่นกว่า 8 พันต้นนั้นก็ได้ถูกนำไปกำจัดและฝังรวมกับกัญชาที่ไปเก็บกวาดมาได้จากทั่วทุกมุมในฮอกไกโด     แหม่ ทำตัวเป็นผักตบชวาไปได้ ที่มา: rocketnews24, yomiuri

  • รู้หรือไม่ว่า “ดื่มกาแฟ” แล้วส่งผลอย่างไรต่อร่างกายเราบ้าง ลองมาชมข้อมูลนี้ครับ…

    รู้หรือไม่ว่า “ดื่มกาแฟ” แล้วส่งผลอย่างไรต่อร่างกายเราบ้าง ลองมาชมข้อมูลนี้ครับ…

    กาแฟ ยอดเครื่องดื่มสุดวิเศษที่สามารถมอบทั้งพลังให้กับคนวัยทำงานจากหมดแรงกลับมามีพลังในการทำงานได้ อีกทั้งยังสามารถมอบแฟชั่นสุดชิคจากกินผ่านการกินกาแฟร้านดัง หรือจะเป็นการหาเงินจากการเปิดร้านกาแฟก็ดี ทุกอย่างที่กล่าวมาล้วนเห็นว่ากาแฟนั้นมีความสำคัญกับชีวิตมวลมนุษย์มากมายขนาดไหน แต่เรารู้ไหมว่ากาแฟนั้นจัดเป็นสารเสพติดประเภทหนึ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่เสพเยอะๆ ก็เกิดอาการติดได้เช่นกัน… อ้าว.. ถ้าบอกว่ามันเป็นสารเสพติด แล้วงี้มันส่งผลยังไงกันล่ะ? แล้วมันส่งผลนานแค่ไหนกัน สรุปมันดีหรือไม่ดีกันแน่? คำถามเหล่านี้มันจะต้องเกิดตามมาอย่างแน่นอน ฉะนั้นเราจึงมี 7 ภาพที่จะมาช่วยอธิบายข้อสงสัยที่ว่ากัน ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้นลองมาดูกัน…   ใช้เวลา 10 นาที กาแฟจะวิ่งเข้าสู่กระแสเลือด!! ในช่วง 10 นาทีแรกของการกินกาแฟนั้น กาแฟจะค่อยๆ เข้าสู่กระแสเลือดทำให้เลือดสูบฉีด หัวใจก็จะเต้นไวขึ้น และความดันก็จะสูงขึ้นตามลำดับ ไม่หมดแค่นั้นในช่วง 10 ถึง 90 นาทีของการกินกาแฟจะสามารถช่วยหักล้างผลของแอลกอฮอล์ได้เช่นกัน แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่นัก   จากนั้น 20 นาที เราจะกลายเป็นยอดนัดคิด หลังจากที่กาแฟเข้าสู่กระแสเลือด ต่อมาสมองของเราจะทำงานได้ดีขึ้น สามารถรับรู้และแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เขามาได้รวดเร็ว แต่ผลข้างเขียงนี้จะอยู่เพียงแค่ 10 ชั่วโมงเท่านั้น   ต่อมาอีก 30 นาที เราจะกลายเป็นซุปเปอร์โซเจอร์ ต่อมาในช่วง 30 นาที…

  • เคยสงสัยกันหรือไม่ หลังเสพ “สารเสพติด 7 ชนิด” มันจะอยู่ในร่างกายเรานานแค่ไหน!?

    เคยสงสัยกันหรือไม่ หลังเสพ “สารเสพติด 7 ชนิด” มันจะอยู่ในร่างกายเรานานแค่ไหน!?

    พูดถึงสารเสพติดแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงรู้อย่างแน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะมันส่งผลกระทบโดยตรงต่อร่างกาย ถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะเลี่ยง แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยหรือไม่ว่า สารเสพติดเหล่านั้นจะอยู่ในร่างกายของเรานานขนาดไหน หากผู้เสพได้เสพพวกมันเข้าไป ล่าสุดทางเว็บไซต์ BusinessInsider ทำการทดลองว่าสารเสพติดเหล่านั้น จะสามารถอยู่ในร่างกายของเราได้นานขนาดไหน เราไปชมพร้อมๆ กันเลย   แอลกอฮอล์ เวลาเราดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป มันจะอยู่ในเลือดของเราประมาณ 10 ถึง 12 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะอยู่ในปัสสาวะของเราประมาณ 3 ถึง 5 วัน และพบอยู่ในเส้นผมอีกราวๆ 90 วัน   กัญชา เมื่อเสพกัญชาเข้าไป มันจะอยู่ในเลือดของเราประมาณ 2 สัปดาห์ และในปัสสาวะของคุณประมาณ 30 วัน และในเส้นผมของคุณประมาณ 90 วัน   โคเคน สารเสพติดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสหรัฐอเมริกา มันสามารถอยู่ในเลือดได้ 1 ถึง 2 วัน ในปัสสาวะประมาณ 3 ถึง 4 วัน และอยู่ในเส้นผมประมาณ…

  • คลิปจำลองภาพที่ผู้ใช้สารเสพติด LSD สัมผัสได้ มาดูว่าพวกเขาจะมองเห็นอะไรบ้าง!?

    คลิปจำลองภาพที่ผู้ใช้สารเสพติด LSD สัมผัสได้ มาดูว่าพวกเขาจะมองเห็นอะไรบ้าง!?

    LSD เป็นสารเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงที่มีฤทธิ์หลอนประสาท ส่งผลทำให้ผู้เสพมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งผู้ที่ได้ทดลองการเสพยาชนิดนี้ จะเห็นภาพหลอนในอดีต รวมถึงทำให้หัวใจเต้นแรงอีกด้วย โดยก่อนหน้านี้เราจะเห็นได้ว่ามีศิลปินหลายคนที่ได้ออกมาทดลองเสพยาชนิดนี้ หนึ่งในนั้นคือศิลปินสาวรายหนึ่ง ที่ได้ทำการทดลองเสพยาเสพติดชนิดดังกล่าว พร้อมทั้งวาดภาพของตัวเองขึ้นมา และนั่นก็ทำให้เราได้เห็นว่า เมื่อยาเริ่มออกฤทธิ์รุนแรงขึ้น ภาพวาดก็เริ่มเปลี่ยนจากภาพปกติเป็นน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ     และในครั้งนี้ เราจะขอพาทุกคนมารับชมคลิปวีดีโอจากผู้ใช้ยูทูปที่ชื่อ AVI LSD ที่ได้ทำการจำลองภาพของผู้ที่เสพสาร LSD เข้าสู่ร่างกาย และนั่นจะสามารถทำให้เราได้เห็นว่า เมื่อได้เสพสารชนิดนี้เข้าไป ภาพที่ออกมาจะเป็นอย่างไรบ้าง ว่าแล้วก็มารับชมกันเลย     จากคลิปวีดีโอดังกล่าวได้แสดงให้เราได้เห็นว่า เมื่อได้เสพสาร LSD เข้าไปในร่างกาย มันก็จะทำให้เราได้เห็นภาพสุดหลอน แถมยังเกิดอาการประสาทหลอนตามมาอีกด้วย   ทีนี้เพื่อนๆ ก็คงจะหายสงสัยแล้วใช่ไหมละว่าอาการหลอนของเจ้าสารเสพติดชนิดนี้มันจะออกมาประมาณไหน ซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะทำให้เรารู้สึกหลอนแล้ว มันยังมีโทษทางกฎหมายที่รุนแรงอีกด้วย ในขณะเดียวกัน คนดังระดับโลกที่ประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็น Bill Gates และ Steve Jobs ที่เคยใช้สารเสพติดชนิดนี้กลับมองว่า LSD มีอิทธิพลต่อพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถยืนยันได้หรอกว่า สารเสพติดชนิดร้ายแรงนี้จะดีต่อสุขภาพของเรา ดังนั้น ไม่ควรไปข้องเกี่ยวกับมันจะดีที่สุดนะ!! ที่มา : theladbible

  • ภาพพ่อแม่เสพเฮโรอีนจนสลบคารถ ทั้งที่ ‘ลูกน้อย’ นั่งอยู่… เตือนใจชาวเน็ตไปทั่วโลก!!

    ภาพพ่อแม่เสพเฮโรอีนจนสลบคารถ ทั้งที่ ‘ลูกน้อย’ นั่งอยู่… เตือนใจชาวเน็ตไปทั่วโลก!!

    กระแสที่ดังในทางไม่ค่อยดีเท่าไร แต่กลับได้รับการแชร์ไปทั่วโลก ถึงภาพของครอบครัวหนึ่งในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่พ่อแม่นอนสลบเหมือดอยู่ในรถอย่างน่าอนาถ แถมยังมีลูกน้อยนั่งอยู่ด้านหลังรถแบบไร้เดียงสา โดยที่งงๆ ว่าพ่อแม่ของพวกเขาเป็นอะไรไปกันแน่!?   ตามรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องถิ่นบอกว่าพวกเขาสังเกตเห็นรถคันหนึ่งขับส่ายไปมา พวกเขาจึงเรียกให้รถคันนั้นจอด เมื่อเปิดประตูออกมาจึงพบกับนาย James Acord วัย 47 และนาง Rhonda Pasek วัย 50 อยู่ในสภาพมึนเมาพูดไม่รู้เรื่อง โดยที่มีเด็กน้อยวัย 4 ขวบนั่งอยู่ที่เบาะหลัง     จากการตรวจสอบพบผงสีชมพูวางไว้ที่หน้าตักของนาย James จึงสันนิษฐานว่าทั้งคู่น่าจะเสพเฮโรอีนเข้าไปเกินขนาด ทำให้ไม่ได้สติอย่างที่เห็น เจ้าหน้าที่จึงถ่ายภาพไว้ ก่อนที่จะโทรเรียกให้รถพยาบาลมารับพวกเขาไป     ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โพสต์ภาพดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กเพื่อเตือนสติแก่ทุกๆ คน โดยมีข้อความว่า “เราตระหนักดีว่าบางคนอาจไม่ชอบใจกับภาพนี้เท่าไหร่และเราต้องขอโทษจริงๆ แต่เพื่อเตือนใจให้คนที่ไม่ได้อยู่ในโลกของยาเสพติดรับทราบว่า แต่ละวันมันมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นทุกที่แบบนับไม่ถ้วน” และมันก็ได้ผลจริงๆ หลังจากนั้นภาพนี้เผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ และทำให้ผู้คนต่างพากันแชร์กับภาพถึงพิษภัยของยาเสพติดชนิดนี้ โดยที่ไม่ต้องเป็นภาพอันสยอง ไม่ต้องมีรูปของยาเสพติดอยู่ เป็นเพียงภาพผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น และเด็กน้อยที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย… มันทำให้เห็นว่า ยาเสพติดไม่ได้มีแต่โทษต่อร่างกายของผู้เสพ แต่แท้จริงแล้วมันมีผลกระทบไปทั่ว กระทั่งคนที่ไม่เสพเองเช่นกัน     สุดท้ายแพทย์ก็สามารถช่วยชีวิตของนาย James และนาง Rhonda…

  • 11 ภาพวาดของผู้ใช้ยาหลอนประสาท ที่วาดขึ้นมาภายในเวลา 9 ชั่วโมง ขณะที่ยาออกฤทธิ์

    11 ภาพวาดของผู้ใช้ยาหลอนประสาท ที่วาดขึ้นมาภายในเวลา 9 ชั่วโมง ขณะที่ยาออกฤทธิ์

    LSD (Lysergic acid diethylamide) เป็นสารเสพติดอันตราย ที่มีฤทธิ์ทำให้ประสาทหลอนรุนแรงที่สุด ซึ่งหลายคนอาจจะเคยสงสัยว่า ถ้าหากมีผู้ใช้สารเสพติดชนิดนี้เข้าไป อาการหลอนของเขาจะเป็นอย่างไร และในวันนี้ #เหมียวขี้อ้อน ได้นำภาพวาดที่ถูกวาดขึ้นโดยผู้ที่ใช้สารเสพติดชนิดนี้มาให้ได้ชมกันแล้ว ซึ่งเธอคนนี้ (ศิลปินที่ไม่เปิดเผยชื่อ) ได้ลองเสพ LSD เข้าไปถึง 200 ไมโครกรัม ก่อนที่เธอจะเริ่มวาดภาพนี้ขึ้นมา โดยเธอใช้เวลาในการวาดแต่ละรูปประมาณ 15-45 นาที เราลองมาดูกันว่า ผลงานการวาดภาพของผู้ที่เสพสาร LSD เข้าไป จะออกมารูปแบบไหนกันบ้าง….   ***ขอบอกไว้ก่อนว่าเว็บเหมียว ไม่ได้มีเจตนาจะส่งเสริมเรื่องการใช้สารเสพติด แต่นี่คือการชมศิลปะที่เกิดขึ้น และให้ความรู้ในอีกแง่ของผลกระทบของสารเสพติดตัวนี้   15 นาที หลังใช้ LSD   45 นาทีผ่านไป   1 ชั่วโมง 45 นาทีผ่านไป 2 ชั่วโมง 15 นาทีผ่านไป   3 ชั่วโมง 30 นาทีผ่านไป  …