วิทยาศาสตร์กับความตายจะเปลี่ยนไป วิจัยใหญ่ชี้ ประสบการณ์เฉียดตาย อาจไม่ใช่แค่ “การหลอนไปเอง”

Date:

ในช่วงเวลาที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายความเป็นความตาย ผู้คนจำนวนไม่น้อยได้รายงานการเห็นแสงสว่างที่ทำให้ตาพร่า วิญญาณออกจากร่าง หรือเห็นภาพชีวิตทั้งชีวิตของตัวเอง

นี่คือปรากฏการณ์ที่รู้จักกันในชื่อ “ประสบการณ์ความเฉียดตาย” แนวคิดที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์คาดว่าน่าจะเป็น “ภาพหลอน” ที่มนุษย์เห็น หลายกับเวลาเราไม่ค่อยมีสติจากการใช้ยา หรือแอลกอฮอล์

อย่างไรก็ตามในงานวิจัยใหม่ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยมีชื่อหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยเซาท์แฮมป์ตัน ล่าสุดนี้เองนักวิทยาศาสตร์ก็ได้ออกมาล้มแนวคิดในอดีตของตัวเองด้วยการบอกว่า

ประสบการณ์เฉียดความตายนั้น อาจไม่ใช่ภาพหลอนอย่างที่เราเคยคิดก็ได้ โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจจากงานวิจัยดังนี้

– เนื่องจากความก้าวหน้าทางการแพทย์ ผู้รอดชีวิตจากประสบการณ์ความเฉียดตายได้มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่คนเหล่านี้กลับบรรยายถึงประสบการณ์ความเฉียดตายในรูปแบบคล้ายกัน และไม่ต่างจากในอดีตนัก

– ประสบการณ์เฉียดความตายที่พวกเขาจำได้ ไม่สอดคล้องกับอาการประสาทหลอน ภาพลวงตา หรือประสบการณ์ที่เกิดจากยาหลอนประสาทใดๆ กลับกันมันมักจะมีรูปแบบตายตัวประกอบด้วย

1. การแยกตัวออกจากร่างกาย 2. การเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง 3. การทบทวนชีวิตที่ผ่านมา 4. การไปอยู่ในสถานที่ที่รู้สึกเหมือน “บ้าน” 5. การกลับคืนสู่ชีวิต

– การศึกษาพบว่าระหว่างประสบการณ์ความเฉียดตาย สมองจะมีสัญญาณของกิจกรรมเซลล์ประสาทสั่งการแกมมาและคลื่นไฟฟ้า ที่ปกติแล้วเป็นสัญญาณของการรับรู้ที่เพิ่มขึ้น

ซึ่งตรงกับที่คนส่วนใหญ่อ้างว่าตนรู้สึกมีสติมากขึ้น รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวได้ดีขึ้นขณะเผชิญความตาย

นี่นับว่าเป็นอีกงานวิจัยที่น่าจับตามองไม่ใช่น้อย เพราะแม้จนถึงตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ก็จะยังฟันธงไม่ได้ก็ตามว่าประสบการณ์ความเฉียดตายจริงๆ แล้วมาจากไหนกันแน่ก็ตาม

แต่อย่างน้อยๆ นี่ก็เป็นงานวิจัยที่อาจจะเป็นบันไดไปสู่ความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับช่วงเวลาสุดท้ายของผู้คนได้ไม่ยาก

และมันก็ไม่แน่เหมือนกันว่าเรื่องราวของสิ่งที่อยู่หลังความตายเอง ในอนาคตอาจจะสิ่งที่เราสามารถพิสูจน์ได้จริงๆ ด้วยพลังของวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เป็นแค่เรื่องความเชื่อหรือไสยศาสตร์อีกต่อไปก็เป็นได้

 

 

ที่มา

pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/35181885/

www.eurekalert.org/news-releases/948999

www.iflscience.com/brain/neardeath-experiences-are-not-hallucinations-says-firstever-study-of-its-kind/

Share post:

Subscribe

spot_imgspot_img

Popular

More like this
Related

คุณพ่อสักรอยเท้าลูกไว้ที่หน้าอก ชาวเน็ตเป็นห่วงกลัวลูกได้บาป ช่างสักบอก ก็รักลูกทำแบบนี้ไม่ดีตรงไหน?

ทำด้วยความรัก แต่เจอดราม่าจากชาวเน็ตซะงั้น!? คลิปนี้กำลังเป็นที่พูดถึงใน TikTok เลย เมื่อผู้ใช้งานรายหนึ่งได้โพสต์คลิปของคุณพ่อป้ายแดง ที่ตัดสินใจสักรูปรอยเท้าลูกคนแรกของครอบครัวไว้ที่หน้าอก "รักไม่มีข้อแม้...หวงเจ้าดั่งดวงใจ ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ รักรอยฝ่าเท้าลูก" ข้อความในแคปชัน ทีนี้พอคลิปถูกเผยแพร่ออกไปก็มีทั้งคนเข้ามาชื่นชม...

พรรคก้าวไกล เปิดตัว แคน แคน อดีต BNK48 ลง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ

วันนี้ (27 มี.ค. 66) ที่พรรคก้าวไกล มีการเปิดตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในระบบบัญชีรายชื่อ โดยมีชื่อของน.ส.นายิกา ศรีเรียน หรือ...

พบ มัมมี่หัวแกะ จำนวนร่วม 2,000 หัว ถูกฝังไว้ใกล้ วิหารฟาโรห์แรเมซีสที่ 2 คาดใช้เป็นเครื่องบูชาเมื่อ 2,300 ปีก่อน

ถือเป็นข่าวการค้นพบที่น่าทึ่งอีกชิ้นของประเทศอียิปต์เลยครับ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2023 ที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของอียิปต์ได้ประกาศการค้นพบ หัวแกะตัวผู้จำนวนมากถึง 2,000 หัว ถูกฝังไว้ในลักษณะหลายมัมมี่...

หมีน้ำ ยังเทพได้อีก วิจัยพบเราสามารถ นำ “โปรตีน” จากตัวมัน ไปช่วย เก็บรักษายาบางตัว โดยไม่ต้องแช่เย็นได้

นับว่าเป็นอีกข่าวที่ช่วยเพิ่มความน่าทึ่งของสิ่งมีชีวิตตัวจิ๋วแต่อึดสุดๆ ตัวหนึ่งของโลกอย่าง "หมีน้ำ" (Tardigrades) เลยครับ เพราะนอกจากมันจะทนถึงขนาดถูกส่งไปในอวกาศก็ไม่ตายเท่านั้น แต่ล่าสุดนี้เองนักวิทยาศาสตร์ยังพบด้วยว่าเราอาจใช้โปรตีนของมันในการช่วยเก็บรักษายา "โรคฮีโมฟีเลีย" (โรคเลือดออกไม่หยุด) โดยที่ไม่ต้องแช่เย็นอีกด้วย ที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะที่ผ่านมายาโรคฮีโมฟีเลียนั้น...