หมอโอ๋ เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน อัปเดตเรื่องไฟไหม้ อย่าเข้าใจผิด ไม่มีปัญหากับพนักงาน แต่ความปลอดภัยไม่ได้จริงๆ – CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจ ในแบบที่แมวก็เข้าใจง่ายๆ

กรณีเกิดเหตุเพลิงไหมรีสอร์ทหรูเซโนวาคีรี เกาะกูด โดยทางหมอโอ๋ เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น จนทำให้ทั้งครอบครัวรู้สึกขวัญผวา สูญเสียทรัพย์สิน และจากทริปครอบครัวกลายเป็นพากันหนีตายแทน

ข่าวเก่า: หมอจากเพจดังแชร์ประสบการณ์ พาครอบครัวไปพักโรงแรมริมทะเล เจอไฟไหม้เรียบ เกือบไม่รอด

ในส่วนของรีสอร์ทเองได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า วิลล่า 63 ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้นั้น สามารถควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังวิลล่าและส่วนอื่นบนเกาะได้ แต่ยังไม่ทราบสาเหตุของเพลิงไหม้มาจากอะไร

ทางรีสอร์ทเน้นย้ำว่ามีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด มีการติดตั้งเครื่องตรวจจับควันไฟในห้องนอนทุกห้อง มีระบบจัดการอัคคีภัยและความปลอดภัยที่เหมาะสมกับพื้นที่ป่า มีทีมดับเพลิงที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี

ล่าสุด หมอโอ๋ ได้โพสต์อัปเดตเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่เริ่มเป็นกระข่าวออกไปในวงกว้าง แต่กลับมีข้อความในเชิงข่มขู่ว่าคุณหมอใช้คำให้ร้ายกับทางรีสอร์ทมากเกินไป ทางรีสอร์ทเสียหายมากที่สุด หากไม่ใช่ความผิดของรีสอร์ทเดี๋ยว ‘คดีจะพลิก’

หมอโอ๋ จึงอยากเรียนชี้แจงว่าตัวหมอไม่ได้มีปัญหากับพนักงานโรงแรม และไม่ได้อยากมีปัญหากับผู้บริหารโรงแรม เข้าใจว่าไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุ แต่สิ่งที่อยากบอกคือเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัย หรือ ระบบที่ช่วยเหลือให้ทุกคนมีชีวิตรอดที่ดีกว่านี้

ประเด็นที่หมอโอ๋ย้ำก็คือ ช่วงที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ไม่มีใครได้ยินเสียงสัญญาณเตือน ไม่มีตัวสปริงเกอร์ฉีดน้ำทำงาน ไม่มีเครื่องดักตรวจควันทำงาน มีแต่เสียงคนในครอบครัวที่โวยวายกันเอง และช่วงหนีตายก็ออกมากันเอง และขอบคุณพนักงานโรงแรมที่ช่วยดูแลจนส่งถึงโรงพยาบาล

ทั้งนี้ หมอโอ๋ได้ตั้งข้อสังเกตจากแถลงการณ์ของโรมแรมที่บอกว่ามีเครื่องดักตรวจควันในห้องนอนทุกห้อง อาจมีความเป็นไปได้ว่าจุดเกิดเพลิงไหม้ไม่ใช่ห้องนอน แต่เป็นส่วนอื่นของวิลล่าอย่างเช่นส่วนกลาง เพราะตอนนั้นทุกคนอยู่ในห้องนอนยังไม่เจอไฟจึงหนีออกมาได้ทัน

โรงแรมสามารถออกแถลงว่าพบปัญหาในจุดนี้และพยายามแก้ไขได้ ดีกว่าการมาบอกในแถลงการณ์ต่อสาธารณะที่ทำให้คนเข้าใจหมอโอ๋ว่าพยายามกล่าวหาโรงแรม

ส่วนความสูญเสียที่คนบอกว่าเป็นโรงแรมนั้น ฝั่งครอบครัวหมอโอ๋ก็สูญเสียหลายอย่างที่ตีมูลค่าไม่ได้เช่นกัน ทั้งภาพถ่ายในโทรศัพท์ ข้อมูลทำวิจัยที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ และของที่มีมูลค่าทางใจอีกหลายชิ้น

ทั้งนี้ หมอโอ๋ต้องการเพียงแค่ความรับผิดชอบกับทรัพย์สินที่สูญเสียไปอย่างตรงไปตรงมา และขอบคุณที่ทางโรงแรมช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลโดยไม่ต่อรองใดๆ