Tag: งานศิลป์

  • โบสถ์จ้างครูสอนศิลปะมาบูรณะรูปปั้นที่มีอายุ 500 ปี แต่ไหงออกมาเฟลแบบนี้ล่ะเนี่ย!?

    โบสถ์จ้างครูสอนศิลปะมาบูรณะรูปปั้นที่มีอายุ 500 ปี แต่ไหงออกมาเฟลแบบนี้ล่ะเนี่ย!?

    การบูรณะงานศิลปะโบราณที่มีอายุนับร้อยปีให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งนับเป็นงานที่ยากมากๆ ฉะนั้นคนที่จะทำหน้าที่นี้ได้ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีทั้งความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์และศิลปะ เพราะหากเราแค่ทาสีใหม่เพียงอย่างเดียวก็อาจจะทำให้มันกลายเป็นผลงานสุดเฟลแบบเรื่องราวต่อไปนี้ก็เป็นได้… เรื่องมีอยู่ว่าทางโบสถ์ San Miguel de Estella ที่ตั้งอยู่ในเมือง Navarre ประเทศสเปน ได้ทำการจ้างช่างฝีมือเพื่อมาทำการบูรณะรูปปั้นเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 500 ปี     เป็นรูปปั้นของนักบุญ George ที่กำลังขี่ม้าและต่อสู้กับมังกร ในอดีตมันเป็นงานศิลป์ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพระคัมภีร์ไบเบิล   ของดั้งเดิมก่อนจะบูรณะนั้นมีสภาพที่เก่าเพราะผ่านกาลเวลามานานกว่า 500 ปีแล้ว   แทนที่จะจ้างช่างฝีมือระดับมืออาชีพ ที่มีความรู้เกี่ยวกับการผสมสี และประวัติศาสตร์ทางด้านศิลป์ ทางโบสถ์ได้ตัดสินใจจ้าง ‘ครูสอนวิชาศิลปะ’ จากโรงเรียนในพื้นที่แทน   และนี่คือผลที่ได้!!   หน้าตาของรูปปั้นนักบุญ George กลายเป็นหุ่นที่อยู่ในสนามเด็กเล่นไปซะแล้ว   คาวาอี้เดสสุดๆ   ด้วยเหตุนี้เองทางด้านนายกเทศมนตรี Koldo Leoz ได้ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า “การบูรณะงานศิลป์ชิ้นนี้ทำให้เรารู้ว่า ควรจะให้ทางการประกาศหาผู้เชี่ยวชาญ และช่างมีฝีมือเพื่อมารับหน้าที่นี้ เพราะการบูรณะรูปปั้นงานศิลป์จากยุคศตวรรษที่ 16 คุณจะต้องระมัดระวังอย่างมากในการเลือกวัสดุต่างๆ ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะสูญเสียความเป็นดั้งเดิมไปหมดเลยก็ได้” “ในมุมมองของวัฒนธรรม ประวติศาสตร์ และงานศิลปะ มันคือความฉิบหายวายป่วง ในความคิดเห็นของผมโบสถ์ถือเป็นสถานที่ที่รวบรวมไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรมและงานศิลป์ต่างๆ ซึ่งมันการจะเปลี่ยนแปลงหรือทำอะไรเกี่ยวกับมัน ควรจะเป็นหน้าที่ของรัฐมากกว่า”…

  • โค้ววว… ลงทุนข้ามน้ำข้ามทะเล 16,000 กิโลฯ เพื่อมาเจิมงานศิลป์ มูลค่า 95,000,000 บาท!?

    โค้ววว… ลงทุนข้ามน้ำข้ามทะเล 16,000 กิโลฯ เพื่อมาเจิมงานศิลป์ มูลค่า 95,000,000 บาท!?

    ความบ้าบิ่นของมนุษย์เป็นสิ่งที่ยากจะเข้าถึงได้ เมื่อเราเป็นคนปกติทั่วไปไม่ได้คิดร้ายอะไร หากจะกระทำบางสิ่งมันต้องมีเหตุผลที่มากพอที่จะทำ แต่คงไม่ใช่เรื่องแบบนี้แน่ๆ… มนุษย์เพศชายคนหนึ่งวัย 40 ปี ได้ลงทุนเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเหาะเหินเดินอากาศมาไกลกว่า 16,000 กิโลเมตร จากประเทศอังกฤษ มายังเมือง Aspen รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา เพียงเพื่อมาทำลายงานศิลปะ 1 ชิ้น!?   เหตุการณ์เจิมงานศิลปะ โดนกรีดไป 2 ที   เหตุการณ์สุดแสนจะเกินบรรยายนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ปี 2017 ชายปริศนาสวมใส่แว่นกันแดด กางเกงยีนสีดำ แจ็กเก็ตสีดำ พร้อมหมวกและถุงมือ เคราเคิวไม่โกน เดินเข้ามายังแกลอรี่ศิลปะ Opera Gallery ตรงดิ่งสู่งานศิลป์ที่มีชื่อว่า “Untitled 2004” ที่วาดโดย Christopher Wool ตีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 95,000,000 บาท (3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)     ยังไม่ทันไร เขาก็ควักวัตถุมีคมที่ซ่อนเอาไว้ใต้เสื้อกรีดใส่งานศิลปะชิ้นดังกล่าวไป 2 ปื้ดก่อนที่จะเผ่นแนบหนีเข้ากลีบเมฆหายวับไปยิ่งกว่าจอมโจรคิดส์ การสืบสวนใช้เวลาเป็นปี…

  • พิพิธภัณฑ์ฝรั่งเศสแทบสตั๊น เมื่อพบว่างานศิลป์รวมมูลค่า 6,000,000 บาท เป็นของปลอมเกินครึ่ง!!

    พิพิธภัณฑ์ฝรั่งเศสแทบสตั๊น เมื่อพบว่างานศิลป์รวมมูลค่า 6,000,000 บาท เป็นของปลอมเกินครึ่ง!!

    จะเป็นอย่างไรเมื่อในสถานที่อย่างพิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานศิลปะ ที่มั่นใจได้ว่างานศิลปะที่นำมาวางตั้งให้ประชาชนได้รับชมนั้นเป็นของจริงแท้แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ แต่สำหรับที่นี่… เพิ่งจะรู้ว่างานศิลปะที่มีอยู่เป็นของปลอมเกินกว่าครึ่ง! พิพิธภัณฑ์ชุมชน Terrus Museum ในเมือง Elne ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส โดยจัดตั้งขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่ศิลปิน Étienne Terrus นำภาพวาดที่มีอายุมากกว่า 20 ปี มูลค่ารวมทั้งหมดกว่า 6,000,000 บาท มาจัดเก็บไว้ที่แห่งนี้     แต่แล้วเมื่อนักประวัติศาสตร์ศิลปะ Eric Forcada มาตรวจสอบคอลเลคชั่นงานศิลป์ทั้งหมดในช่วงที่พิพิธภัณฑ์กำลังปรับปรุงใหม่ สังเกตเห็นว่าภาพอาคารที่อยู่ในงานแต่ละชิ้น ถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลังจากศิลปินเสียชีวิตไปแล้ว     “บนงานชิ้นหนึ่ง ลักษณะเฉพาะของหมึกถูกลบออกไปในช่วงที่ผมกำลังใช้ถุงมือสีขาวปัดไปมา และในระดับรูปแบบงานศิลป์ มันหยาบกระด้าง และฐานฝ้ายรองที่ใช้ก็ไม่เหมาะกับผืนผ้าใบที่ใช้โดย Terrus แถมยังมีความเคลื่อนในช่วงยุคสมัยของภาพอีก” จากข้อสงสัยของ Forcada ทางด้านคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นพ้องต้องกันว่า งานศิลป์ของ Terrus ทั้งหมด 140 ชิ้นที่มีอยู่ มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 82 ชิ้นที่เป็นของปลอม     Yves Barniol นายกเทศมนตรีประจำเมือง Elne ถึงกับรู้สึกช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น…

  • 18 สุดยอดงานศิลป์ที่เกิดขึ้น “อย่างไม่ตั้งใจ” แต่มันดันสวยกว่าให้เราลงมือทำเองซะอีก!!

    18 สุดยอดงานศิลป์ที่เกิดขึ้น “อย่างไม่ตั้งใจ” แต่มันดันสวยกว่าให้เราลงมือทำเองซะอีก!!

    เมื่อพูดถึงงานศิลป์นั้น มันไม่จำเป็นจะต้องเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาอย่างตั้งใจเสมอไป เพราะศิลปะที่แท้จริงนั้นจะเป็นอะไรก็ได้ที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่หยดลงบนกระจกก็ล้วนสามารถกลายเป็นงานศิลป์ชั้นยอดได้ ซึ่งคำเปรยดังกล่าวนั้นไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยแต่อย่างใด เพราะถ้าเราใช้จินตนาการและเปิดใจมอง เราจะพบว่างานศิลป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ได้เกิดจากฝีมือมนุษย์ แต่เป็นชิ้นที่ธรรมชาติสรรค์สร้างมันขึ้นมาอย่างบังเอิญต่างหากที่สวยงามที่สุด และนี่ก็คือตัวอย่างผลงานที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติด้วยความบังเอิญ…   ภาพของรั้วไม้ที่ถูกหิมะเกาะจนเกิดเป็นประติมากรรมสุดเจ๋ง   หิมะที่ค่อยๆ ละลายบนแผ่นไม้   แมวที่บังเอิญไปมีลายจากแสงที่สาดลงมาผ่านลายของกระจก   พระอาทิตย์ตกดินที่มองผ่านกระจกร้าว   เงาของรั้วเหล็กที่สะท้อนลงบนพื้นกลายเป็นลวดลายของชาวสก็อต   เบาะจักรยานที่ขาดและมีมอสขึ้น มองแล้วเหมือนภูเขาสองลูกและมีแม่น้ำตรงกลาง   ภาพวิวนอกกระจกที่เปียกฝนระหว่างโร้ดทริป ดูแล้วราวกับภาพวาด Monet   สนูปี้ที่เกิดจากการหยดนมลงไป   ภาพของภูเขาไฟ ที่เกิดจากสีที่ติดอยู่บนฝากระป๋อง   ลายต้นไม้ที่เห็นแล้วนึกว่าภาพวาดของแวนโก๊ะ   หิมะที่ก่อตัวจากร่องอิฐ จนกลายเป็นตารางสวยงาม   ไฟคริสต์มาสที่ถูกหิมะกลบ   ภาพของสีน้ำเงินและเหลืองที่เทรวมกัน ก่อนจะคนให้กลายเป็นสีเดียว   กาแฟยามเช้าที่สะท้อนภาพบนเพดาน   ภาพของตึกสูงที่บังเอิญเกิดจากไม้ที่หัก   น้ำแข็งบริเวณกระจกที่ดูแล้วเหมือนนกกำลังบินออกจากต้นสน   ภาพจากกระป๋องสีม่วงที่ยังไม่ได้คน ความบังเอิญที่สวยงามราวกับกาแล็คซี่   และปิดท้ายด้วยภาพของฟองสบู่ที่มองผ่านฝาขวดแชมพู ดูแล้วอย่างกับอีกมิติเลยก็ว่าได้  …

  • กว่า 17 ปีของการเก็บสะสมชิ้นไม้ของศิลปินหนุ่ม ในที่สุดก็เกิดเป็นผลงานสุดล้ำค่า

    กว่า 17 ปีของการเก็บสะสมชิ้นไม้ของศิลปินหนุ่ม ในที่สุดก็เกิดเป็นผลงานสุดล้ำค่า

    Bennett Ewing ศิลปินชาวแคนาดาผู้หลังรักในงานไม้ เขาได้ใช้เวลาตลอดช่วงชีวิตเพื่อสะสมเศษไม้จากธรรมชาติรูปร่างต่างๆ และบัดนี้มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะนำผลงานของเขามาแสดงให้เราเห็น     Bennett เล่าว่าเขาได้เดินทางไปยังรัฐต่างๆ ทั่วอเมริกากว่า 40 รัฐ รวมถึงประเทศต่างๆ ทั้งแคนาดา เม็กซิโกและไอร์แลนด์นับตั้งแต่ปี 2001 เพื่อนำไม้ทั้งหมดมาสร้างสรรค์งานต่างๆ ของเขา แต่ว่าก่อนจะสร้างงานไม้ให้เป็นรูปหน้า เขาเล่าว่าในช่วงเวลาแห่งความหลงใหลในงานไม้นั้น เขาไม่รู้ว่าช่วงเวลาไหนของ 17 ปีที่เขาเริ่มชอบในการสร้างใบหน้าของคน แต่ทุกครั้งที่เขาสร้างสรรค์มันออกมา เขาไม่รู้เลยว่าผลงานจะออกมาเป็นแบบไหน มีแต่ไม้ในมือของเขาเท่านั้นที่จะนำทางไป…   ไม้หลากหลายรูปร่างหลากหลายประเภทถูกเก็บสะสมไว้อย่างดี เพื่อรอที่จะกลายเป็นชิ้นงานอันน่าอัศจรรย์ .   และนี่ก็คือตัวอย่างผลงานของเขา   ใครจะคิดว่าเศษไม้ต่างๆ จะรวมกันเป็นชิ้นงานที่สวยงามแบบนี้   ถ้าเรามองดูดีๆ หน้าของงานไม้พวกนี้มันดูเหมือนกับตัวละครในโลกแฟนตาซี . .   นี่คือตัวละครจากซิมซันใช่ไหม?   ประสบการณ์ 17 ปีของเขานั้นเรียกว่าไม่ธรรมดาเลย .   หน้านี้มองแว่บแรกทุกคนคิดถึงใคร? . . .   ทำไมมองแว่บแรกนึกถึงมอร์แกนฟรีแมนเลยนะ .…

  • ช่างภาพโชว์งานศิลป์สุดเจ๋ง กับภาพถ่ายท่าโยคะท่าต่างๆ แต่ถ่ายด้วยมุมด้านล่าง!?

    ช่างภาพโชว์งานศิลป์สุดเจ๋ง กับภาพถ่ายท่าโยคะท่าต่างๆ แต่ถ่ายด้วยมุมด้านล่าง!?

    ทุกครั้งที่เราพูดถึงโยคะ เรามักจะนึกถึงการบริหารร่างกายด้วยท่วงท่าที่สวยงามและไม่รีบร้อน ดีต่อสุขภาพกายและใจกันเสมอ ซึ่งแน่นอนว่าเวลาที่ศิลปินจะถ่ายภาพเกี่ยวกับโยคะ พวกเขาก็มักจะโฟกัสกันไปที่ท่าต่างๆ ในมุมปกติเสมอๆ เพียงแต่ว่า ถ้าเกิดมีคนคิดแปลกอยากจะลองถ่ายแบบมุมอื่นๆ ดูบ้างล่ะ มันจะน่าสนใจไหม?     ด้วยเหตุนี้ Rob และ Nick Carter คู่รักช่างภาพชาวอังกฤษจึงปิ๊งไอเดียดังการถ่ายภาพการเล่นโยคะในท่าทางๆ จากมุมด้านล่างแทน แต่การจะถ่ายเฉยๆ มันก็ดูธรรมดาไป ทั้งคู่จึงจัดการเปลือยซะเลย แถมยังใช้แสงแฟลชเมาช่วยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น งานก็เลยดูอาร์ตสุดๆ ซึ่งถ้าใครเห็นตัวอย่างงานของทั้งคู่ข้างบนแล้วอยากจะติดตามเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปดูรูปทั้งหมดได้ในอินสตาแกรม yogaphotograms ได้เลย     อันนี้น่าจะเป็นท่าสะพานโค้งแน่เลย   เราอาจจะคิดว่าท่านี้เขายกมือไหว้ แต่จริงๆ ไม่ใช่นะ   ยิ่งภาพนี้ผมที่ถ่ายออกมามันดูเหมือนหนวดเอเลี่ยนเลย .   เป็นงานที่ดูสวยงามแบบแปลกๆ .   หลายท่า ดูผ่านๆ มันก็วาบหวิวพอสมควรเลยนะ   ท่ายกมือไหว้อีกท่าหนึ่ง   ส่วนที่น่ากลัวที่สุดในเซตภาพนี้ก็คงหนีไม่พ้นผมแล้วล่ะ .  .   ที่มา designyoutrust

  • ศิลปินสาวผู้หลงใหลในการเดินป่า จึงเนรมิตรงานศิลป์ของตัวเองบนแผ่นไม้ที่เธอเจอ

    ศิลปินสาวผู้หลงใหลในการเดินป่า จึงเนรมิตรงานศิลป์ของตัวเองบนแผ่นไม้ที่เธอเจอ

    การจะสร้างงานศิลป์สักชิ้น ตามปกติแล้วมันมักจะเริ่มจากสิ่งที่เราหลงใหลเสมอ เช่นถ้าคุณชอบการพ่นสี ชอบเมืองหลวง งานกราฟฟิตี้ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่คุณชอบ แต่ถ้าคุณชอบแผ่นไม้ งานแกะสลักหรือวาดภาพก็ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว Anna ก็เป็นศิลปินสาวที่หลงใหลในผืนป่า เธอเล่าว่าในวัยเด็กนั้น เธอได้ออกไปท่องเที่ยวตามป่าต่างๆ ซึ่งที่นั้นเธอได้ค้นพบขุมทรัพย์อันเป็นความงามของธรรมชาติ ทั้งใบไม้ อากาศ กิ่งไม้และต้นไม้ นับแต่นั้นเธอจึงกลายเป็นแฟนพันธ์แท้ของต้นไม้และผืนป่า ฉะนั้นเมื่อเธอชอบในศิลปะโดยเฉพาะการวาดรูป วัสดุที่เธอจะใช้ก็คงหนีไม่พ้นแผ่นไม้ และนี่ก็คืองานสวยๆ ที่เธอร่ายมนต์ลงบนต้นไม้ที่เธอรัก   องค์ประกอบหลักในงานศิลปะของเธอก็ยังคงเป็นสัตว์และธรรมชาติ   ไม่ว่าจะเป็นยูนิคอร์น   หรือนกฮูก จะเป็นสัตว์ในตำนานหรือสัตว์จริงๆ เธอก็ร่ายมนต์ออกมาได้น่าสนใจสุดๆ   ยิ่งไปกว่านั้นเราจะเห็นว่างานของเธอจะเป็นภาพต้นไม้ หรือสัตว์เสมอ   งานของเธอนั้นสามารถนำไปใช้ตกแต่งได้ทุกที่จริงๆ .   สัตว์ที่เธอโปรดปรานที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นสุนัขจิ้งจอก .   การวาดภาพบนแผ่นไม้ก็ให้เสน่ห์ที่ดีอีกแบบ ด้วยลายของแผ่นไม้ที่ไม่เหมือนเดิมสักครั้ง .   เธอดูจะชอบจิ้งจอกจริงๆ นะ ต่อให้ไม่วาดเป็นจิ้งจอกสีส้ม เธอก็ยังหาทางเนรมิตสัตว์ตัวโปรดให้สวยได้ .   แม้จะเป็นเศษไม้เก่าๆ ถ้าเราเอามาวาด ตกแต่งให้สวยงาม ไม้เก่าก็สามารถแต่งบ้านให้สวยได้นะ   นอกจากจิ้งจอกและสัตว์ ก็จะมีท้องฟ้านี่แหละที่เธอดูจะชอบวาดมากๆ…

  • ผลงานพอร์ตเทรตสุดเจ๋ง เมื่อช่างภาพให้ทุกคนลองใส่เสื้อผ้าทั้งหมดที่ตัวเองมีในครั้งเดียว!

    ผลงานพอร์ตเทรตสุดเจ๋ง เมื่อช่างภาพให้ทุกคนลองใส่เสื้อผ้าทั้งหมดที่ตัวเองมีในครั้งเดียว!

    ตามปกติแล้ว ทุกคนล้วนไม่นิยมจะมีเสื้อผ้าชุดเดียวเก็บไว้ในตู้กันหรอกจริงไหม ซึ่งไม่ว่าใครที่เวลาเดินชอปปิงแล้วเห็นเสื้อผ้าลดราคา เราก็มักจะอดใจไม่ไหวแล้วซื้อมันมา พอรู้ตัวอีกทีก็เต็มตู้ไปหมดแล้ว บางชิ้นไม่เคยใส่ด้วยซ้ำ!! Libby Oliver ศิลปินชาวแคนาดาก็เลยเกิดไอเดียเจ๋งๆ ด้วยการให้ทุกคนนำเสื้อผ้าของตัวเองมาสวมใส่ในครั้งเดียว จนเกิดเป็นชุดงานที่ชื่อ “Soft Shells” ขึ้นมา   .   นอกจากเรื่องของการมีเสื้อผ้าเต็มไปหมดแล้ว เธอยังให้แนวคิดของภาพพอร์ตเทรตของตัวเองอย่างแหวกแนวว่า “งานของฉันมันไม่ใช่แค่การเสียดสีวงการแฟชั่นหรือคนที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ แต่ฉันรู้สึกว่าคนเรานั้นตื่นขึ้นมาหยิบเสื้อผ้าใส่เพื่อสร้างเปลือกบางอย่างให้ตัวเองมากกว่า ฉันชอบพื้นฐานทางวัฒนธรรมที่เป็นนิสัยและเป็นบรรทัดฐานของวัฒนธรรมของเรา และฉันก็ยังชอบในการดิ้นรนต่อสู้เพื่ออิสรภาพของตัวเองและข้อจำกัดทางสังคมที่มากขึ้นทุกวัน”   บางคนก็ยังมีพื้นที่ให้หายใจ .   แต่บางคนปิดหน้ามิดเหมือนกันนะ   แค่มองเสื้อผ้าเราก็พอจะเดาได้ว่าพวกเขานั้นสวมใส่แนวไหน   บางคนก็จะมีเสื้อผ้าที่โทนสีไปในทางเดียวกัน   เสื้อผ้าก็เหมือนเปลือกแรกของมนุษย์ .   แต่เอาจริงๆ บางคนถ้าเอากองผ้าตัวเองมาใส่พร้อมกัน มันคงจะหายใจไม่ออกหรือไม่ก็เยอะจนยืนไม่ได้แน่ๆ . . . .   พี่คนนี้ดูจะเป็นเจ้าหน้าที่หรืออะไรสักอย่างหรือเปล่า มีป้ายห้อยด้วย .   ถ้าใครชอบงานของเธอก็สามารถเข้าไปเสพเพิ่มเติมได้ที่ chewonthisart ซึ่งข้างในยังมีผลงานเจ๋งๆ แปลกๆ กับความหมายลึกซึ้งให้เราได้เสพกันอีกเพียบ บอกเลยว่างานดีจริงนะ  …

  • เปลี่ยนกล้วยให้ไม่ใช่เรื่องกล้วยๆ กับผลงานการแกะสลักเปลือกกล้วยสุดเจ๋ง

    เปลี่ยนกล้วยให้ไม่ใช่เรื่องกล้วยๆ กับผลงานการแกะสลักเปลือกกล้วยสุดเจ๋ง

    เวลาที่เราอยากจะยกตัวอย่างเรื่องง่ายๆ สักเรื่อง กล้วย มักจะเป็นสิ่งที่เราคิดถึงและใช้มันเพื่อบ่งบอกถึงสิ่งนั้นเสมอๆ ด้วยคำที่ว่า ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก… Stephan Brusche ศิลปินที่มองเห็นความยากในเปลือกกล้วยที่ใครก็ว่าง่าย ได้ริเริ่มวาดภาพและแกะสลักเปลือกกล้วยให้เป็นรูปร่างต่างๆ ตามที่เขาจะจินตนาการมาเป็นเวลากว่า 7 ปีแล้ว     จุดเริ่มต้นของการสร้างผลงานบนเปลือกกล้วยของเขานั้น ทุกอย่างมันเริ่มมาจากช่วงที่เขากำลังหัดเล่นอินสตาแกรมใหม่ๆ โดยเขาไม่รู้จะโพสต์ภาพอะไรดีในตอนแรก เขาจึงจัดการวาดลูกตาและรอยยิ้มใสๆ ลงบนกล้วยและโพสต์ดู ผลปรากฏว่า ภาพดังกล่าวนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และเขาก็ค่อนข้างจะสนุกกับการวาดภาพลงเปลือกกล้วย นับตั้งแต่นั้นเขาจึงเริ่มสร้างผลงานในรูปแบบต่างๆ ผ่านเปลือกกล้วยออกมา   ใช้ส่วนกล้วยให้เป็นงา ไอเดียสุดยอดจริงๆ   เป็นการทำภาพที่เล่นกับองศาได้อย่างเหลือเชื่อ   IT ก็มากับเขาด้วย   ต้องชื่นชมในเทคนิคของเขาจริงๆ   ไม่จำเป็นจะต้องมีแค่ลูกเดียวนะ สองลูกก็ทำได้   คิงคอง!!   นอกจากภาพอาร์ตๆ เขาก็ยังทำเมืองต่างๆ ด้วย   การเล่นสีของเปลือกกล้วยก็เป็นอะไรที่ไม่ธรรมดา   หรือจะเล่นกับเนื้อกล้วยข้างในก็น่าสนใจเช่นกัน   แม่บ้านไปเปิดเนื้อในให้คนอื่นเห็นทำไมกัน   คาเมเลี่ยน!!   หมึกยักษ์!!  …

  • 19 ภาพวาด ‘เสียดสีสังคม’ เพียงภาพเดียวก็สามารถ ‘ตีความหมาย’ ได้เป็นร้อย!!

    19 ภาพวาด ‘เสียดสีสังคม’ เพียงภาพเดียวก็สามารถ ‘ตีความหมาย’ ได้เป็นร้อย!!

    ศิลปะถือเป็นเครื่องมืออีกเครื่องมือหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ตีแผ่ปัญหาในสังคมได้ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบของการ์ตูนแก๊ก ที่เสียดสีเหตุการณ์ต่างๆ ในบ้านเมืองแบบตลกโปกฮา หรือจะเป็นงานศิลป์ที่ตีความยากแต่ความหมายลึกซึ้งกินใจ เช่นเดียวกันกับผลงานของศิลปิน Gerhard Haderer ที่สร้างผลงานศิลปะแนวจิกกัดสังคมที่หากคุณมองเฉยๆ ล่ะก็ไม่มีทางเข้าใจได้อย่างแน่นอน ต้องมีการตีความถึงจะเข้าใจ และแน่นอนว่าในภาพๆ หนึ่งนั้นสามารถตีความออกมาได้มากมายเลยล่ะ   Gerhard Haderer   ติดเซลฟี่แม้จะโดนฉลามกินไปแล้วก็ยังไม่แคร์   วิวสวยจัง ถ่ายเก็บไว้สักหน่อย   การทารุณกรรมทางเพศในวงการนักบวช ที่รู้ว่ามีแต่ก็ทำเป็นไม่เห็นไม่ได้ยินและไม่พูดออกมา   อุปกรณ์ช่วยยิ้ม   เหล่าเด็กๆ ที่กำลังพลาดช่วงชีวิตในวัยเด็กไปอย่างน่าเสียดาย   กลายเป็นคนแปลกไปในทันที   การเดตในยุคปัจจุบัน   ชีวิตของไก่ที่อยู่ในฟาร์ม   แล้วจะมีอะไรให้เราได้ชมกัน   วาดฝันถึงรถคันใหม่ ทั้งๆ ที่พอได้มาก็ต้องมาเผชิญกับปัญหารถติด   มีเงินจะทำอะไรก็ได้   ธรรมชาติกำลังถูกเรากินไปทีละเล็กละน้อย   ยุคปัจจุบันจอทีวีก็ไม่สำคัญอีกต่อไป   ในวันหยุดพักผ่อนผู้คนมักจะขับรถไปเที่ยวพร้อมๆ กันจนทำให้รถติด งั้นพักแบบนี้เลยก็ได้   คุณภาพชีวิตที่แตกต่าง .  …

  • พิพิธภัณฑ์เมโทรโพลิทัน ปล่อยไฟล์ศิลป์คุณภาพสูง 400,000 ชิ้น ใช้ ‘ฟรี’ ไม่มีค่าใช้จ่าย!!

    พิพิธภัณฑ์เมโทรโพลิทัน ปล่อยไฟล์ศิลป์คุณภาพสูง 400,000 ชิ้น ใช้ ‘ฟรี’ ไม่มีค่าใช้จ่าย!!

    หากให้พูดถึงของฟรีใครๆ ก็ชอบใช่มั้ยเอ่ย? แต่ว่าของฟรีก็มักจะไม่มีมาบ่อยๆ หรอกนะ จะต้องคอยตามข่าวกันอยู่เสมอว่าจะมีใครปล่อยให้เอาอะไรไปใช้ฟรีๆ กันบ้าง โดยเฉพาะในโลกอินเทอร์เน็ตที่มักจะมีการแจกนู่นนี่นั่นอยู่บ่อยๆ แต่ข่าวคราวล่าสุดนี้ น่าจะเป็นที่ยินดีมากๆ สำหรับเหล่าพีเพิลสายอาร์ท เพราะยานแม่ ‘พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน’ จากนครนิวยอร์ก ได้ออกมาปล่อยของใส่ผู้รักงานศิลปะแบบเข้าถึงได้ฟรี ไม่ต้องบินไปอเมริกาเลย เพียงแค่คุณมีอินเทอร์เน็ต!!   ‘Open Access’ จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน   โดยเมื่อช่วงปีที่ผ่านมาทางพิพิธภัณฑ์ได้ริเริ่มโครงการ เปลี่ยนงานศิลปะให้เป็นรูปแบบดิจิทัลเพื่อนำไปใช้งานได้ฟรีๆ ในชื่อคอลเลคชั่น Open Access ที่เชิญชวนให้เหล่านักออกแบบ ศิลปิน และประชาชนทั่วไป สามารถนำชิ้นงานเหล่านี้ไปต่อยอดได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะทั้งแชร์ ก็อปปี้ หรือนำไปผสมกับงานอื่นๆ   หากข้อมูลใต้ภาพมีสัญลักษณ์เลข 0 (CC0) สามารถนำไปใช้งานได้ฟรีทันทีโดยไม่ต้องขออนุญาต   ด้วยสัญญาอนุญาต CC0 รูปภาพที่อยู่ภายใต้แท็กเหล่านี้ สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้ฟรี ทั้งเป็นการส่วนตัวและสำหรับเชิงพาณิชย์ โดยไม่ต้องทำการขออนุญาตจากเจ้าของผลงานแต่อย่างใด…   ตัวอย่างผลงานศิลปะคุณภาพสูง จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน . . . . . .   ใครที่มองหาลายแทงอยู่…

  • พบกับศิลปินผู้มีความสามารถพิเศษ เปลี่ยน ‘รูปปั้นหิน’ ให้ดูราวกับมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ!!

    พบกับศิลปินผู้มีความสามารถพิเศษ เปลี่ยน ‘รูปปั้นหิน’ ให้ดูราวกับมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ!!

    ว่าด้วยเรื่องของ ‘งานศิลปะ’ บนโลกของเรานั้นมีมากมายหลายชนิด ทั้งการวาด การลงสี การปั้น เป็นต้น ซึ่งศิลปินในแต่ละสาขาก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ Jago Jacopo Cardillo ศิลปินช่างปั้น ที่สามารถสร้างสรรค์ประติมากรรมออกมาได้สมจริงชนิดที่ว่าอาจจะสร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้ชมได้เลยทีเดียว Jago เป็นศิลปินที่เรียนรู้วิธีการปั้นและแกะสลักมาด้วยตัวเอง โดยมี Michelangelo ศิลปินชื่อดังจากยุคเรอเนซองส์เป็นต้นแบบ     เขาสามารถเปลี่ยนรูปปั้นหินอ่อนธรรมดาๆ ให้ดูมีชีวิตขึ้นมาได้ ราวกับว่ามันมีเนื้อหนังมังสาและเลือดเนื้อขึ้นมาจริงๆ   ทั้งริ้วรอย เส้นเลือด และรอยยับบนรอยผิวหนัง ศิลปินคนนี้สามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างหมดจด .   Jago กลายเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาจากชิ้นงานของเขา จากการสร้างผลงานรูปปั้นของพระสันตะปาปา Benedict ที่ 16 ขึ้นมาในปี 2009 ซึ่งขณะนั้นเขาอายุได้ 22 ปีเท่านั้นเอง .   ในปี 2012 ผลงานของเขาก็ถูกนำมาจัดแสดงเป็นนิทรรศการ   เขาใช้การผสมผสานระหว่างเทคนิคแบบเก่าและแบบใหม่ สร้างผลงานชิ้นยอดเยี่ยมขึ้นมามากมาย . . .  …

  • ศิลปินสร้างผลงานศิลป์เป็นรูปวิว ด้วยสกิลเย็บปักถักร้อยระดับเทพ มองไกลๆ นึกว่าภาพวาด!!

    ศิลปินสร้างผลงานศิลป์เป็นรูปวิว ด้วยสกิลเย็บปักถักร้อยระดับเทพ มองไกลๆ นึกว่าภาพวาด!!

    บ่อยครั้งที่เราพูดถึงการเย็บผ้า เรามักจะนึกถึงการเย็บให้เป็นลวดลายต่างๆ เสียมากกว่าการเย็บให้เป็นรูปวิว เพราะการจะเย็บภาพให้เป็นรูปทิวทัศน์ได้มันจะต้องใช้ความสามารถที่มากกว่าปกติ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ Vera Shimunia ศิลปินชาวรัสเซียหวั่นแต่อย่างใด Vera เป็นศิลปินที่ชอบในการเย็บปักถักร้อยมากๆ และเธอก็ชื่นชอบในงานศิลป์ประเภททิวทัศน์เป็นทุนเดิม เพียงแต่การจะสร้างผลงานออกมาเป็นแนวที่เธอชอบด้วยการวาดภาพ มันก็คงจะดูธรรมดาเกินไป เธอจึงใช้ความสามารถที่เธอถนัดเนรมิตรผลงานสุดเจ๋งขึ้นมา     เธอใช้ด้ายหลากหลายสีสัน ผสมเข้ากับฝีมือในการเย็บปักของเธอ เกิดเป็นผลงานที่หลากหลาย ทั้งภาพทุ่งหญ้าเขียวขจี หรือจะเป็นภูเขาหิมะอันสวยงาม และแม้แต่ภาพที่ดูจะปักสียากๆ เธอก็ทำมันออกมาได้สวยงามสุดๆ     เป็นไงสวยใช่ไหมละ ทั้งส่วนที่เป็นใบไม้และท้องฟ้านั้น มีการไล่สีที่สวยงามเลยทีเดียว   เธอชำนาญในด้านนี้จริงๆ .   เป็นการปักรูปหุบเขาที่มีสีสันสวยงามมากๆ   ทุ่งสีพาสเทล . .   ภาพที่เรียบง่ายแต่สวยงามก็มีนะ   ผลงานชิ้นนี้เห็นแล้วถึงกับต้องร้อง อมก   ถ้าเรามองไกลๆ มันจะดูเนียนๆ เหมือนภาพวาดเลยละ   ต้องยอมรับเลยว่าผลงานของเธอมันดีจริงๆ .   และถ้าใครอยากจะติดตามผลงานของเธอเพิ่มเติมก็สามารถไปดูกันได้ที่อินสตาแกรมของเธอ shimunia ได้เลย ข้างในยังมีผลงานสวยๆ ของเธออีกเยอะเลย…

  • หนุ่มใช้เวลาค่อนชีวิต สร้าง “เครื่องบินกระดาษ” ไม่ใช่แบบที่เราพับเล่น แต่ปราณีตสวยงามที่สุด!!

    หนุ่มใช้เวลาค่อนชีวิต สร้าง “เครื่องบินกระดาษ” ไม่ใช่แบบที่เราพับเล่น แต่ปราณีตสวยงามที่สุด!!

    ตอนเด็กๆ ใครเคยชอบพบเครื่องบินกระดาษบ้าง แล้วตอนนี้ล่ะใครยังชอบอยู่บ้าง เพราะสิ่งที่เพื่อนๆ กำลังจะได้เห็นต่อไปนี้คือสุดยอดผลงานการสร้างสรรค์ของชายคนหนึ่งที่ชอบพับเครื่องบินกระดาษเป็นชีวิตจิตใจ แต่ไม่ใช่เครื่องร่อนแบบที่เราพับกันตอนเด็กๆ นะ เขาสร้างเครื่องบิน Boeing 777 ขึ้นมาทั้งลำเลยต่างหาก     เขาคือ Luca Iaconi-Stewart ชายผู้ใช้เวลากว่าสิบปีในการทำเครื่องบิน Boeing 777 ขึ้นจากกระดาษ กาว และมีด ถ้าถามว่าความคลั่งไคล้ของเขาที่มีต่อเครื่องบินมีมากขนาดไหน คงต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 เป็นช่วงเวลาที่เขาได้ใช้ทั้งช่วงฤดูร้อนหมดไปกับการศึกษารูปแบบโครงสร้างของที่นั่งตั้งแต่ชั้นประหยัด ไปจนถึงชั้นเฟิร์สคลาสแบบเก็บทุกรายละเอียด     เขาเล่าว่าเดิมทีโมเดลกระดาษนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อส่งเป็นงานสมัยที่ยังเรียนอยู่ แต่มันก็พัฒนาขึ้นไปเรื่อยเพราะเขาใส่รายละเอียดหลายๆ สิ่งเข้าไป เขายอมรับว่ามีอยู่หลายครั้งที่เขาเลิกสนใจมัน แต่สุดท้ายเขาก็กลับมาสร้างมันต่ออยู่เสมอๆ เพราะเข้ารู้สึกสงบเวลาอยู่กับมัน     แม้ว่าจะผ่านมาหลายปีแล้วแต่ตัวเครื่องบินอันนี้ก็ยังไม่เสร็จ Iaconi-Stewart ยังคงทำการสร้างส่วนปีกโดยพยายามให้มันขยับได้เหมือนของจริง ซึ่งจากผลงานที่เห็นอยู่แล้วเป็นไปได้มากว่าเขาจะทำมันสำเร็จได้จริง เพราะเขาเคยทำล้อหน้าแบบถอดเก็บได้และระบบลงจอดที่ใช้งานได้จริงๆ มาแล้ว นอกจากนั้นตัวเครื่องยังสามารถเปิดออกแสดงให้เห็นถึงที่นั่งภายในอีกด้วย สิ่งเดียวภายในตัวเครื่องที่ยังไม่ได้ใส่คือช่องเก็บสัมภาระเท่านั้น     “อันที่จริงผมก็ยังไม่ได้ไปไกลขนาดนั้นหรอกนะครับ เมื่อช่วงก่อนผมต้องทำโฆษณาให้กับสายการบินสิงคโปร์ ซึ่งผมก็เพิ่งจะมีเวลากลับมาทุ่มเทเรื่องการดีไซน์ปีกเครื่องบิน และผมก็ทำคลิปวิดีโอแนะนำให้กับผู้ที่สนใจเหมือนกันบนยูทูบด้วย” เจ้าของผลงานเล่าเสริม ตามที่ Iaconi-Stewart มองไว้เขาอาจจะต้องใช้เวลาอีกกว่าหนึ่งปีในการทำให้ผลงานชิ้นนี้เสร็จสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามมันเป็นจะต้องเป็นผลงานชิ้นเอกที่เขาภูมิใจเป็นอย่างแน่นอน     วีดีโอการสัมสัมภาษณ์ Iaconi-Stewart และภาพผลงานของเขาโดยช่อง WIRED   ที่มา Nerdist,…

  • ศิลปินญี่ปุ่นสร้างนาฬิกาข้อมือ เลียนแบบทุกรายละเอียด เนี๊ยบจนไม่อยากเชื่อว่าทำมาจากกระดาษ

    ศิลปินญี่ปุ่นสร้างนาฬิกาข้อมือ เลียนแบบทุกรายละเอียด เนี๊ยบจนไม่อยากเชื่อว่าทำมาจากกระดาษ

    งานศิลปะนั้นนอกจากจะเป็นการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงานแล้ว ความปราณีตและรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผลงานชิ้นนั้นมีคุณค่ามากขึ้นอีกด้วย และผลงานสร้างสรรค์อย่างนาฬิกาข้อมือจากกระดาษของคุณ Manabu Kosaka ศิลปินชาวญี่ปุ่นจากเมืองไซตะมะ ประเทศญี่ปุ่นนี้เองก็เป็นหนึ่งในงานศิลปะที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความปราณีตบรรจงเช่นกัน   และนี่คือตัวอย่างของผลงานที่เต็มไปด้วยรายละเอียดของศิลปินหนุ่มผู้นี้   ศิลปินชาวญี่ปุ่นรายนี้ได้ใช้ทักษะของเขาในการสร้างนาฬิกาข้อมือแบรนด์หรูแบบต่างๆ ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดมากมายด้วยกระดาษ Ken Paper คุณภาพสูง คุณ Kosaka เริ่มต้นการสร้างงานของเขาโดยการร่างแบบนาฬิกาลงบนกระดาษ Ken paper และมีอุปกรณ์อื่นๆ อีก เช่น กาว คัตเตอร์สำหรับตัดกระดาษ และเครื่องเจียร์     ชิ้นส่วนทุกชิ้นจะถูกตัดออกเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนที่จะนำมาต่อกันให้หนาขึ้น และนำมาประกอบกันจนกลายเป็นนาฬิกาที่เต็มไปด้วยรายละเอียดมากมาย   ศิลปินหนุ่มให้สัมภาษณ์ว่า เขาเริ่มต้นทำงานศิลปะจากกระดาษแบบนี้มาเป็นเวลามากกว่า 15 ปีแล้ว ประสบการณ์และความล้มเหลวที่ผ่านมาช่วยพัฒนาให้ฝีมือของเขาเก่งขึ้นเรื่อยๆ และสิ่งที่สำคัญในการทำงานของเขาก็คือความพยายามในการใส่ใจรายละเอียด และตั้งใจที่จะปรับปรุงผลงานให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ     นาฬิกาโอเมก้า สปีดมาสเตอร์ หนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของศิลปินรายนี้   และสำหรับใครที่อยากชมขั้นตอนการสร้างเจ้าโอเมก้า สปีดมาสเตอร์ เรือนนี้กับแบบชัดๆ ล่ะก็ สามารถเข้าไปชมขั้นตอนการทำได้ที่ทวิตเตอร์ @coca1127 ของเขากันได้เลย ซึ่งในทวิตเตอร์ของคุณ Kosaka นั้นนอกจากจะได้เห็นขั้นตอนในการสร้างนาฬิกาเรือนนี้แล้ว คุณยังจะได้เห็นขั้นตอนการสร้างผลงานจากกระดาษชิ้นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าหลุยส์วิตตอง ไฟแช็คซิปโป้ กล้องโบราณอีกด้วย รวมถึงอาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่นอย่างซูชิที่ทำมาจากกระดาษอีกด้วย…

  • การซ่อมแซมงานศิลป์อายุ 200 ปี ด้วยสารปริศนา จนเผยให้เห็นความงามที่หลบซ่อนอยู่

    การซ่อมแซมงานศิลป์อายุ 200 ปี ด้วยสารปริศนา จนเผยให้เห็นความงามที่หลบซ่อนอยู่

    โดยปรกติทั่วไปแล้ว งานภาพเขียนต่างๆ มักจะถูกเคลือบไว้ด้วยสารเคลือบเงาเพื่อป้องกันไม่ให้ภาพภาพนั้นได้รับความเสียหายจากสิ่งแวดล้อมภายนอกไม่ว่าจะเป็นฝุ่น หรือความชื้นต่างๆ และเมื่อกาลเวลาผ่านไป น้ำมันหรือสารเคลือบเหล่านั้นมักจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและทำให้ภาพเขียนเหล่านั้นดูเก่าและหมองลงไปอย่างมาก คุณ Philip Mould นักสะสมผลงานศิลปะ และโปรดิวซ์เซอร์รายการ Fakeorfortune ทางช่อง BBC 1 ได้แสดงให้เห็นถึงวิธีการจัดการกับปัญหาเหล่านั้น หลังจากที่เขาได้นำน้ำยาทำความสะอาดสูตรลับเฉพาะ ป้ายลงไปในภาพเขียน Womaninred ที่อายุกว่า 200 ปี และทำการถูอีกนิดหน่อย และจากนั้นภาพเขียที่ว่าก็กลับมาใสเหมือนใหม่อีกครั้งแบบไม่น่าเชื่อ!!   และนี่คือภาพเขียนอายุกว่า 200 ปี ที่ได้ถูกทำความสะอาดไปบางส่วน   เพื่อให้เห็นภาพการทำความสะอาดที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เราไปชมคลิปวิดีโอนี้พร้อมๆ กันเลย… (ชมคลิปไม่ได้กด ที่นี่ ) A remarkable Jacobean re-emergence after 200 years of yellowing varnish 1/2 pic.twitter.com/yBGNGDcNd7 — Philip Mould (@philipmould) 6 พฤศจิกายน 2560   ถึงแม้ว่าวิธีการดังกล่าวนั้นจะถูกปกปิดเป็นความลับ…

  • เมื่อถนนมันแตกร้าว จะซ่อมเฉยๆ มันก็ไม่ว้าว ศิลปินเลยใช้ทองมาซ่อมมันซะเลย!!

    เมื่อถนนมันแตกร้าว จะซ่อมเฉยๆ มันก็ไม่ว้าว ศิลปินเลยใช้ทองมาซ่อมมันซะเลย!!

    ปัญหารอยแตกร้าวบนท้องถนนนั้น เป็นปัญหาที่ไม่ว่าจะชาติที่เจริญแล้วหรือกำลังพัฒนาก็มักจะเจอกันทั้งนั้น แต่ทว่าเมื่อมันเกิดปัญหาขึ้น การแก้ปัญหาโดยทั่วไปก็คงเป็นการราดยางทับร่องรอยเหล่านั้น แต่ก็อย่างว่า ทำแบบนั้นมันก็ดูธรรมดาเกินไป Rachel Sussman ศิลปินที่มองเห็นปัญหาดังกล่าวก็รู้สึกเช่นเดียวกันว่า มันธรรมดาที่จะซ่อมด้วยการราดยางลงไปบนรอยแตกร้าว เธอจึงตัดสินใจจะใช้ทองมาอุดรอยร้าวแทนซะเลย…     โดยแรงบันดาลใจในงานนี้มันมาจากงานศิลปะดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Kintsukuroi หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า Kintsugi ซึ่งเป็นงานศิลป์ที่ซ่อมแซมเครื่องดินเผาโดยใช้กาวผสมกับผงทองคำเพื่อให้เกิดเป็นลวดลายใหม่ๆ แทนที่จะทิ้งไปเฉยๆ   ภาพตัวอย่างงานประเภท Kintsugi   Rachel ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Hyperallergic ว่า “รอยร้าวเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการความใส่ใจ ยิ่งเป็นพื้นทางเดิน ถนนจักรยานหรือรถยนต์ เรามักจะมองข้ามมันเสมอจนกว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โต” นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่าแม้เธอจะซ่อมแซมพื้นพวกนี้แล้ว แต่มันก็ยังเป็นพื้นที่ผุพังและต้องการการเอาใจใส่อย่างมาก   เอาเป็นว่าเราลองมาดูผลงานศิลป์ของ Rachel กันหน่อยเป็นไง   รอยร้าวเฉยๆ ก็เป็นงานศิลป์ได้ แค่เปลี่ยนวิธีการสร้าง .   มองดูแล้วมันก็ดูโดดเด่นพอสมควรเลยนะ   อย่างภาพนี้ก็ดูสวยงามใช้ได้เลยล่ะ   หรือจะเป็นภาพนี้   ที่มา japaninsides

  • ช่างภาพตามถ่ายคนที่เข้ามาชมงานศิลปะ และพบว่าพวกเขาแต่งตัวได้เข้ากับภาพจริงๆ

    ช่างภาพตามถ่ายคนที่เข้ามาชมงานศิลปะ และพบว่าพวกเขาแต่งตัวได้เข้ากับภาพจริงๆ

    ครั้งหนึ่งในชีวิตคนเรานั้น เชื่อว่าต้องเคยถูกพาไปทัศนะศึกษาหรือถูกลากไปชมงานศิลปะในนิทรรศการต่างๆ กันบ้างใช่ไหม? แล้วทุกครั้งที่ไปถ้าเราไม่ได้รู้สึกสนใจในงานนั้นๆ เราก็จะรู้สึกเบื่ออย่างรวดเร็ว ทว่าสำหรับ Stefan Draschan ผู้ทำงานเป็นช่างภาพคนนี้กลับไม่คิดแบบนั้น แม้ว่าเขาจะเบื่อกับการไปชมงานศิลป์ แต่เขาก็สามารถหาวิธีสร้างความสนุกให้กับตัวเองได้ด้วยวิธีที่คนคาดไม่ถึงและเขาทำมันเป็นประจำ นั่นก็คือการถ่ายรูปนั่นเอง     แน่นอนว่านั่นไม่ใช่การถ่ายภาพงานศิลปะธรรมดาๆ เพราะแทนที่เขาจะถ่ายงานศิลปะต่างๆ เขากลับถ่ายคนที่มาร่วมงานแทน โดยเขาจะตระเวนไปยังพิพิธภัณฑ์ต่างๆ แล้วแอบถ่ายภาพของผู้ชมที่แต่งกายคล้ายหรือมีโทนเดียวกับภาพที่พวกเขากำลังชม จนออกมาเป็นภาพศิลป์ที่ดูแล้วก็เจ๋งแบบแปลกๆ ดี พูดไปก็อาจจะคิดภาพตามไม่ออก งั้นลองมาดูผลงานของเขากันเลยดีกว่า     สีของเสื้อผ้า ผม หรือสไตล์การแต่งกายอาจจะไม่ต้องเป๊ะมาก แต่แค่ให้มันดูเข้ากันก็เพียงพอแล้ว   เช่นสองคนนี้ที่เสื้อผ้าดูเข้ากับธีมของภาพ   ลองดูสีเสื้อผ้าของหญิงในภาพ กับคนที่มาดูสิ   ไงล่ะ เหมือนไหม   สีไม่เป๊ะ แต่ลายมันใช่ . . . .   เขาบอกว่าต้องใช้ความอดทนพอสมควรเลยนะ กว่าจะเจอคนที่ใส่ชุดเข้ากับชิ้นงาน .   แต่มันก็คุ้มค่าจริงไหม .   คนที่มาดูเขาจะทันคิดไหมน้า ว่าเสื้อผ้าหน้าผมของพวกเขามันพอเหมาะพอเจาะจริงๆ แม้แต่หุ่นข้างๆ ก็ถือว่าเป็นงานศิลปะนะ…

  • ศิลปินใช้เวลากว่าครึ่งชีวิต เพื่อเขียนเลข ‘หนึ่งถึงอนันต์’ สื่อความหมายของเวลาที่ผ่านไป…

    ศิลปินใช้เวลากว่าครึ่งชีวิต เพื่อเขียนเลข ‘หนึ่งถึงอนันต์’ สื่อความหมายของเวลาที่ผ่านไป…

    การนับเลขหนึ่งถึงหนึ่งร้อยอาจจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเราทุกๆ คน แต่ถ้าหากว่าลองให้คุณนับหนึ่งถึงหนึ่งล้านล่ะ บางคนอาจจะบอกว่าเลิกนับไปตั้งแต่ 101 แล้ว… แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนที่ทำแบบนี้ได้จริงๆ แถมไม่ใช่แค่หนึ่งล้านเท่านั้นนะ แต่มันมากกว่านั้นอีก!! Roman Opalka ศิลปินชาวโปแลนด์แนวมโนภาพ ที่ใช้เวลากว่าครึ่งค่อนชีวิตในการเขียนเลขเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนการเปลี่ยนแปลงของเวลา โดยเขาเริ่มต้นเขียนเลข 1 ตั้งแต่เมื่อปี 1965 และใช้เวลาทุกๆ วันเพื่อเขียนตัวเลข 400 ตัว จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในเดือนสิงหาคมปี 2011 เขาก็เขียนได้ถึงเลข 5,607,249   ภาพผลงานชุด “1965/1-∞” ของ Roman Opalka   Roman Opalka บอกว่าผลงานชุดนี้เป็นสัญลักษณ์ทางปรัชญาและจิตวิญญาณ มันแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของวันเวลา ชีวิต และความตาย ศิลปินผู้ล่วงลับได้ไอเดียนี้ในวันหนึ่งระหว่างที่เขากำลังรอภรรยาที่คาเฟ่ในเมืองวอร์ซอ เมื่อปี 1965 Roman สร้างผลงานของเขาลงบนผืนผ้าในขนาด 195×135 เมตร โดยเขาเริ่มต้นเขียนเลข 1 ลงบนมุมด้านซ้ายบนของผืนผ้าใบเรียงเป็นแถวเรื่อยๆ มาจนถึงเลข 35,327 และตลอดระยะเวลา 46 ปีของการสร้างสรรค์ผลงาน เขาใช้ผืนผ้าไปทั้งสิ้น 222 แผ่น…

  • รูปปั้นยักษ์ Apennine แห่งอิตาลี กับหน้าที่ผู้พิทักษ์ เพื่อปกป้องห้องแห่งความลับภายในนั้น…

    รูปปั้นยักษ์ Apennine แห่งอิตาลี กับหน้าที่ผู้พิทักษ์ เพื่อปกป้องห้องแห่งความลับภายในนั้น…

    ประเทศอิตาลี หนึ่งในประเทศที่มีชื่อเสียงทางด้านผลงานศิลปะที่โด่งดัง บ่อยครั้งที่เรามักจะคุ้นเคยกับชื่อของสถานที่และงานศิลป์ต่างๆ ที่แสดงให้เห็นว่าประเทศแห่งนี้เปรียบเหมือนเมืองหลวงแห่งศิลปะเลยก็ว่าได้ และวันนี้ก็เช่นเดียวกัน เราจะพาทุกคนไปพบกับรูปปั้นของยักษ์ Apennine Colossus ที่ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์แห่งสวนวิลล่า Villa Medici Pratolino มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 แล้ว ซึ่งถ้าหากคิดเป็นระยะเวลาก็เกือบๆ 500 ปีเลยทีเดียว!!    ทุกวันนี้ Apennine Colossus ก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองอยู่   รูปปั้นยักษ์ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์นี้ เป็นฝีมือการแกะสลักของ Giambologna ปฏิมากรยอดฝีมือจากยุคเรเนซองส์ แต่สิ่งที่เจ้ายักษ์เฝ้านั้นไม่ได้มีแค่อุธยานเท่านั้น แต่มันยังมีห้องลับที่ซ่อนอยู่ภายในตัวของมันเองอีกด้วย     ยักษ์ Apennine Colossus ที่กำลังทำท่าทางเหมือนกับจับสัตว์ป่าอยู่   และนี่คือห้องลับที่อยู่ภานในรูปปั้นดังกล่าว   ร่องรอยแห่งกาลเวลา ที่ถูกจารึกไปบนพื้นผิวของเจ้ายักษ์   สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ทางเหนือห่างจากเมือง Florence ประมาณ 10 กิโลเมตร   ด้วยขนาดความสูงถึง 10 เมตร ช่วยทำให้รูปปั้นดูยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม . .   เมื่อซูมเข้าไปใกล้ๆ เราก็จะเห็นสีหน้าที่จริงจังของยักษ์ ที่กำลังตั้งใจทำหน้าที่ของตนเอง   ภาพวาดในสมัยโบราณ ที่ยืนยันว่าเจ้ายักษ์ได้ทำหน้าที่ของมันมาเป็นเวลายาวนานแล้ว!!…

  • “เมล็ดอะโวคาโด” ในมือท่านอย่าทิ้ง เพราะมันกลายงานแกะสลักสุดสวยได้ด้วยนะ!!

    “เมล็ดอะโวคาโด” ในมือท่านอย่าทิ้ง เพราะมันกลายงานแกะสลักสุดสวยได้ด้วยนะ!!

    ปกติแล้วสำหรับคนทั่วไปเมื่อต้องการเนื้ออะโวคาโด ส่วนใหญ่ก็จะแคะเมล็ดของมันออกมาแล้วก็ทิ้งไปโดยไม่ได้สนใจอะไร ทว่า Jan Campbell กลับไม่คิดแบบนั้น เธอกลับมองว่ามันคือต้นกำเนิดของผลงานชิ้นเอกของเธอ… เรื่องมันเริ่มจากวันหนึ่งที่ Jan กำลังแคะเนื้อและจะทิ้งเมล็ดไป แต่เธอกลับสังเกตเห็นว่าเมล็ดและหลุมตรงกลางมันสวยงามอย่างไม่น่าเชื้อ เธอจึงตัดสินใจลองหยิบเมล็ดมันมาแกะสลัดดูก็พบว่า เมล็ดดังกล่าวมีพื้นผิวที่น่าสนใจและแกะสลักง่ายมากๆ   ปกติคนจะควักอโวคาโดให้เป็นหลุมและทิ้งเมล็ดไปเปล่าๆ แต่เธอคนนี้กลับเปลี่ยนมันให้กลายเป็นงานศิลป์ที่น่าสนใจ   ดังนั้นเธอจึงเริ่มศึกษาและเริ่มลงลึกไปเรื่อยๆ จนเธอค้นพบเอกลักษณ์การแกะสลักของตัวเอง ออกมาเป็นเทพารักษ์ตัวเล็กน่ารัก และยังมีเทพีแห่งธรรมชาติรวมถึงสิ่งมีชีวิตในจินตนาการอื่นๆ อีกมากมายเลยทีเดียว เกริ่นกันมาเยอะแล้ว เราลองมาดูผลงานบางส่วนของเธอกันเลยดีกว่า…     เทพแห่งผืนป่าที่สวยงามจริงๆ   สีของเมล็ดแต่ละลูกก็ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นงานแต่ละชิ้นก็จะแตกต่างกันไป   สังเกตดูดีๆ จะเห็นว่ารายละเอียดของเมล็ดนั้นดูดีมากๆ เลยล่ะ   มากันเป็นครอบครัวหนวดงาม   เทพีแห่งธรรมชาติ… .   แบบแกะสลักก็มีเยอะแยะมากมาย แต่ธีมหลักๆ ก็จะอยู่ในแนวเดียวเสมอ . . .   เหมือนจะมีอะไรแปลกปลอมมาด้วยนะ   งานบางชิ้นก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหน้าเสมอไป .   ถึงอย่างนั้น งานรูปเห็ดบางอันก็มีหน้าเหมือนกัน ฮร่าๆ .…

  • โถ่!! ขุ่นแม่ครับ ลูกชายถึงกับอึ้งเมื่อเห็นภาพของ “พุ่มไม้” รูปหน้าตัวเอง จากฝีมือคุณแม่

    โถ่!! ขุ่นแม่ครับ ลูกชายถึงกับอึ้งเมื่อเห็นภาพของ “พุ่มไม้” รูปหน้าตัวเอง จากฝีมือคุณแม่

    เรื่องราวสุดฮาของคุณแม่ศิลปินท่านหนึ่งที่ตัดแต่งพุ่มไม้ในสวนหลังบ้านให้กลายเป็นรูปของทุกคนในครอบครัว คุณแม่ Michelle Foley เริ่มต้นตัดแต่งพุ่มไม้เป็นรูปหน้าของ Brennan Black ลูกชายวัย 21 ปี ก่อนที่จะตามด้วยรูปของ Andrew Batterham สามีของเธอ คุณ Michelle เล่าว่า “ฉันตัดแต่งพุ่มไม้เป็นรูปหน้าคนมาหลายปีแล้ว ฉันจบการศึกษาด้านศิลปศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Birmingham City University“   คุณแม่กำลังสนุกอยู่กับการตัดแต่งต้นไม้ของเธอ   “ฉันชอบที่จะทำงานนี้นะ ตอนนี้รูปของหัวลูกชายฉันกำลังเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว แต่สามีของฉันยังขาดรายละเอียดอีกนิดหน่อย ตอนนี้ฉันกำลังทำแว่นตาอันใหญ่เพื่อติดให้พุ่มไม้ที่เป็นรูปของเขาอยู่” คุณนาย Michelle กล่าว คุณแม่ท่านนี้ยังเสริมอีกว่า “ฉันมีพุ่มไม้มากมายที่นี่ ฉันอยากจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นหน้าของพวกเราทุกคน ฉันกำลังพยายามทำสวนแห่งนี้ให้กลายเป็นแกลอรี่งานศิลปะอยู่”     คุณแม่ Michelle และสามีของเธอ คุณ Andrew   อันที่จริงคุณแม่ได้เริ่มตัดแต่งพุ่มไม้เหล่านี้มานานแล้ว แต่ทว่าไม่มีใครสังเกตุเห็นเลย Brennan ลูกชายคนโตของ Michelle นั้นเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นหน้าตัวเองอยู่ในสวน จากนั้นจึงตามมาด้วยพุ่มไม้รูปหน้าของคุณพ่อ   พุ่มไม้แต่ละอันมีขนาดสูงกว่าตัวคนจริงๆ ถึง 2 เท่า และนี่คือพุ่มไม้หน้าของคุณพ่อ   คุณแม่ Brennan ลูกชายคนโตที่ตกเป็นเหยื่องานศิลป์ของคุณแม่   แหม่……

  • เมื่อรูปปั้นซุปเปอร์ฮีโร่ยุคใหม่ ได้ไปตั้งเคียงรูปปั้นคลาสสิค โชว์ใน “พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์”

    เมื่อรูปปั้นซุปเปอร์ฮีโร่ยุคใหม่ ได้ไปตั้งเคียงรูปปั้นคลาสสิค โชว์ใน “พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์”

    ถ้าพูดถึงพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ณ กรุงปารีส เราก็จะรู้กันดีว่าที่แห่งนี้ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แถมยังมีงานศิลปะชั้นยอด ที่มีอายุมากมายหลายร้อยหลายพันปีเก็บไว้อยู่ แต่จะเป็นยังไง ถ้าเรานำผลงานศิลป์ยุคปัจจุบันอย่างรูปปั้นตัวละครซูปเปอร์ฮีโร่ แล้วเอาไปไว้รวมเข้ากับผลงานยุคเก่าสุดคลาสสิกหลากหลายชิ้น มันจะขัดกันไหมนะ มันจะเข้ากันหรือเปล่า? อย่ามัวแต่สงสัยเลยเพราะ Leo Caillard ศิลปินชาวฝรั่งเศสมากฝีมือคนนี้ได้จัดการกับคำถามเหล่านั้นเรียบร้อยแล้วล่ะ…   เปิดด้วยพี่ซุปเปอร์แมนกันเป็นชิ้นแรก ซึ่งก็ทำออกมาได้ไม่ผิดหวังเลยล่ะ ดูไม่ขัดกับธีมของตัวพิพิธภัณฑ์เลย   งั้นลองเอาแบทแมนมาเทียบกับรูปปั้นเก่าแก่อื่นๆ ดูจะขัดกันไหมนะ?   นิทรรศการในครั้งนี้ของ Leo เขาได้ตั้งชื่อว่ามันว่า Stone Hero ซึ่งเขาได้ให้เหตุผลในงานจัดงานครั้งนี้ว่า “รูปปั้นส่วนใหญ่ที่จัดแสดงปกติล้วนจะเป็นงานที่มีต้นแบบมาจากคนมีชื่อเสียง หรือฮีโร่จากยุคสมัยต่างๆ ซึ่งถ้ามามองในยุคปัจจุบันฮีโร่เจากคอมมิกเหล่านี้ ก็น่าจะเป็นตัวแทนที่ใกล้เคียงกับตัวเทพแทนกรีกในสมัยก่อนได้ดีเลยทีเดียว และนี่จะช่วยแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไปนั่นเอง”   ถ้ามองตามแนวคิดของ Leo ที่ว่ากัปตันอเมริกา, ไอรอนแมน ,แบทแมน หรือจะเป็นซุปเปอร์แมนก็ดี ทั้งหมดก็ล้วนเป็นตัวละครที่เราต่างยกย่องให้พวกเขาเป็นฮีโร่ที่ใครๆ ก็รู้จักในยุคสมัยนี้กันทั้งนั้น   ฉะนั้นการนำเดอะแฟลช หรือตัวละครอื่นๆ มาวางเทียบชั้นกับรูปปั้นของผลงานคลาสสิกสมัยก่อนก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เลวเลยทีเดียว   เพราะถ้าเวลาผ่านไปอีกร้อยปี หรือพันปี ฮีโร่ราวนี้ก็จะกลายเป็นผลงานคลาสสิกเช่นเดียวกับของเก่านั่นเอง   ฉะนั้นฮีโร่ขวัญใจประชาชนอย่างไอ้แมงมุมที่คนทั้งโลกรู้จัก ทำไมถึงจะมาอยู่ในพิพิธภัณฑ์คลสสิกบ้างไม่ได้จริงไหม?   สุดท้ายแล้ว ถ้าใครชอบผลงานนิทรรศการของพ่อหนุ่ม Leo…

  • ศิลปินสาวเปลี่ยนเส้นผมที่ร่วงโรยในห้องน้ำ ให้กลายเป็นศิลปะสุดบรรเจิด หื้มมมม!?

    ศิลปินสาวเปลี่ยนเส้นผมที่ร่วงโรยในห้องน้ำ ให้กลายเป็นศิลปะสุดบรรเจิด หื้มมมม!?

    ส่วนใหญ่เวลาที่สระผม เราก็มักจะมีผมที่ร่วงหลุดออกมาบ้างไม่มากก็น้อย ส่วนวิธีจัดการกับผมเหล่านั้นเราก็แค่เก็บกวาดและทิ้งมันไปเฉยๆ โดยไม่คิดอะไร แต่ Lucy Gafford ศิลปินสาวจากรัฐแอละแบมา ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ทำแบบนั้น เพราะเธอเลือกที่จะไม่ทิ้งเส้นผมไปอย่างเปล่าประโยชน์ แต่หยิบมันมาทำเป็นศิลปะสุดอาร์ตบนกำแพงห้องน้ำของเธอแทน     เธอได้เรียกตัวเองว่า “Shower Hair Master” (ปรมาจารย์ด้านการสระผม) โดยเธอได้เริ่มทำศิลปะเส้นผมของเธอเมื่อ 3 ปีก่อน เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อตอนที่เธอกำลังตั้งใจจะเก็บกวาดเส้นผมทิ้งเหมือนกับที่คนทั่วไปเขาทำกัน แต่ในจังหวะที่เธอโยนผมทิ้งไป เธอหันไปสังเกตเห็นว่าผมที่เธอทิ้งมันมีรูปร่างที่น่าสนใจซะงั้น ช่วงเวลานั้นเองที่ทำให้เธอติดสินใจว่าเส้นผมนี่แหละคือศิลปะที่เธอจะทำให้มันโด่งดังขึ้นมา และนี่ก็คือผลงานตัวอย่างของเธอ   เปิดด้วยมาสเตอร์โยดา   ตามด้วยเจ้าหญิงเลอา   ฮิลลารี คลินตัน ก็มีเช่นกัน   และถ้ามี ‘ฮิลลารี คลินตัน’ จะไม่มี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ได้ยังไง   ส่วนเจ้าตูบตัวนี้ก็เรียงออกมาได้สวยงาม .   ซานต้าก็สวยใช่เล่น ว่าแต่ซานต้ากำลังร้องไห้ใช่ไหมนั่น   ลูกรักบี้ก็มีรายละเอียดที่เนี๊ยบสุดๆ   เจ้านกนี้ก็เช่นกัน ใครจะคิดว่าทั้งหมดเกิดจากเส้นผมในห้องน้ำ   ลองชมคลิปสัมภาษณ์เธอเต็มๆ…

  • ศิลปินสาวเปลี่ยน “ชิ้นส่วนนาฬิกา” กลายเป็นงานศิลปะสุดพิเศษ รายละเอียดจัดเต็ม!!

    ศิลปินสาวเปลี่ยน “ชิ้นส่วนนาฬิกา” กลายเป็นงานศิลปะสุดพิเศษ รายละเอียดจัดเต็ม!!

    ขึ้นชื่อว่าศิลปิน จะหยิบจะจับอะไรมันก็เป็นงานศิลป์ไปซะหมด!!   Susan Beatrice ก็เป็นศิลปินอีกคนเช่นกันที่เธอเลือกจะหยิบนำสิ่งของต่างๆ มาสร้างเป็นงานศิลป์ โดยผลงานของเธอในครั้งนี้จะเป็นการนำชิ้นส่วนของนาฬิกาที่ใช้แล้วมาทำเป็นประติมากรรมต่างๆ ชิ้นส่วนของนาฬิกานั้นมีขนาดเล็กมาก ทำจากโลหะ แถมมีลักษณะเฉพาะไม่สามารถตัดแต่งง่ายแบบกระดาษหรือไม้ การจะหยิบมันมาปรกอบเข้าด้วยกันเป็นรูปร่างต่างๆ ต้องผ่านการวางแผนและออกแบบอย่างดีมากเช่นกัน บรรยายมาจนถึงขนาดนี้คงอยากจะเห็นผลงานของเธอแล้วล่ะสิ งั้นมาดูกันเลยดีกว่า ว่าจะเจ๋งสมคำคุยไหม   เริ่มกันที่งานชิ้นแรกเป็นเจ้าเหมียวกันก่อนเลย   ตามด้วยเจ้าหนูที่ตัวเล็ก แต่รายละเอียดเพียบ   สัตว์ในเทพนิยายก็มีนะ เป็นมังกรสุดเท่   หรือจะเป็นยูนิคอร์นก็มีเช่นกัน   ต่อด้วยม้าน้ำที่ลายละเอียดช่วงลำตัว สวยสุดๆ   ส่วนเจ้าหนูตัวนี้ก็จัดว่าสวยมากๆ เลยนะ แถมยังมีจานข้าวของมันอีก   แมวกับหนู ขนาดหนูนี่ตัวเล็กมากๆ ยังทำออกมาได้เยี่ยม   ส่วนเจ้าปูตัวนี้ดีไซน์ของมันก็เจ๋งใช่ย่อย แถมยังไปถ่ายที่ชายหาดอีกต่างหาก   หมาไส้กรอกที่มีส่วนคล้ายๆ สปริงอยู่ตรงลำตัวนี่เหมือนตัวที่อยู่ใน Toy Story เลย   พักจากสัตว์มาเป็นคนกันบ้าง มองออกไหมว่าพวกเขากำลังทำอะไรกัน   ทำออกมาเป็นรูปหน้า Edgar Allan Poe ได้อย่างเหมือน  …

  • ‘พงไพรแห่งตัวเลข’ นิทรรศการงานศิลป์สุดอลัง ตัดกระดาษเรียงตัวเลขไล่เฉดสีรุ้งตระการตา

    ‘พงไพรแห่งตัวเลข’ นิทรรศการงานศิลป์สุดอลัง ตัดกระดาษเรียงตัวเลขไล่เฉดสีรุ้งตระการตา

    งานศิลปะตามนิทรรศการต่างๆ นั้น ผลงานบางชิ้นอาจจะทำให้เราเข้าถึงได้ยาก ไม่สามารถเข้าใจความหมายที่ศิลปินต้องการจะสื่อ แต่ถ้าหากว่าผลงานสามารถทำให้เรารู้สึกจรรโลงใจขึ้นมาได้ ก็คงจะดีต่อใจมากเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามผลงานศิลปะทั้งหลายบนโลก ก็ใช่ว่าจะไม่เข้าถึงคนไม่ได้ซะทีเดียว เพราะยังมีอีกหลากหลายแขนงให้ผู้คนได้สัมผัสทั้งทางสายตาและร่างกายเช่นกัน     ขอเชิญทุกท่านมาพบกับนิทรรศการ ‘พงไพรแห่งตัวเลข’ ผลงานของนักออกแบบและสถาปนิกชาวฝรั่งเศส  Emmanuelle Moureaux ที่เปลี่ยนพื้นที่ขนาด 2,000 ตารางเมตร ให้กลายเป็นพื้นที่แห่งสีสันสดใสและเต็มไปด้วยตัวเลข   .   ภาพอันลานตานี้ ประกอบไปด้วยการตัดกระดาษกว่า 60,000 ชิ้น โดยทุกๆ ชิ้นจะเป็นตัวเลขตั้งแต่ 0 ไปจนถึง 9 ไล่เรียงติดลงมาจากเพดานแยกเป็นทั้งหมด 4 กลุ่มด้วยกัน เรียงตัวทั้งหมด 10 ชั้นให้มีลักษณะคล้ายกับตัวเลขปีที่ลอยออกมา   . .   และจากตัวเลขสีรุ้งทั้งหมดนี้ก็เพื่อแสดงให้เห็นเป็นตัวเลขปีที่เพิ่มขึ้น ตั้งแต่ 2017 ไปจนถึง 2026 ไล่เรียงไปข้างหน้าอีก 10 ปี อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้าของศูนย์ศิลป์แห่งชาติ โตเกียว ซึ่งผู้เข้าชมผลงานก็สามารถเดินผ่านตัวเลขเหล่านี้ได้ เหมือนกับการแหวกว่ายเข้าไปในโลกแห่งอนาคต  …

  • ศิลปินคิดค้น ‘สีชมพู๊ ชมพู’ ขึ้นมาสำเร็จ เปิดขายให้ทุกคนได้ใช้ ยกเว้นเจ้าของ ‘สีด๊ำ ดำ’!?

    ศิลปินคิดค้น ‘สีชมพู๊ ชมพู’ ขึ้นมาสำเร็จ เปิดขายให้ทุกคนได้ใช้ ยกเว้นเจ้าของ ‘สีด๊ำ ดำ’!?

    เมื่อช่วงปีที่ผ่านมาบริษัท Surrey NanoSystems ได้ทำการคิดค้นวัสดุที่เรียกได้ว่าดำมากที่สุดในโลกขึ้นมาได้ พร้อมกับตั้งชื่อของมันว่า Vantablack   โดยเจ้า Vantablack นี้มันดำสนิท ดำจนขนาดที่ว่าแสงไม่สามารถส่องกระทบได้เลยทีเดียวเชียว   แน่นอนว่าเราสามารถนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในระบบอุตสาหกรรมได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาให้กล้องดูดาวสามารถส่องได้ไกลและชัดเจนยิ่งขึ้น หรือจะเป็นในเรื่องเกี่ยวกับการทหารที่นำไปเคลือบผิวของเครื่องบินเพื่อหลบการตรวจจับสัญญาณเป็นต้น   แต่เมื่อปี 2014 ก็ได้เกิดเหตุการณ์ช็อคโลก เพราะจู่ๆ สิทธิ์ขาดการใช้งานเจ้า Vantablack นี้ก็ตกไปอยู่ในมือของศิลปินชาวอินเดีย Anish Kapoor แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเขานำมันไปใช้ในงานศิลปะของเขา และไม่อนุญาตให้ใครนำไปใช้ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ตาม     ด้วยเหตุนี้เองศิลปินชาวอังกฤษ Stuart Temple ได้ทราบข่าวนี้ก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงออกมาต่อว่าการกระทำของศิลปินชาวอินเดียในเว็บไซต์ของตัวเองว่า… “เมื่อผมได้ยินข่าวที่ว่า Anish มีสิทธิ์ในสี Vantablack แต่เพียงผู้เดียว ก็ทำให้ผมรู้สึกผิดหวังมาก ผมรู้ว่าทุกคนอยากที่จะใช้มัน ไม่ว่าใครๆ หรือศิลปินคนไหนในโลกควรที่จะมีสิทธิ์ใช้เจ้าสีนี้ในงานศิลปะของตัวเอง แถมมันยังสามารถก่อให้เกิดผลประโยชน์ได้อีกมากมาย และผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าถ้าหากผมสามารถสร้างสีแบบใหม่ขึ้นมาได้ ผมจะแบ่งให้ทุกคนได้ใช้ยกเว้นเขา และนั่นเองก็เป็นวิธีที่จะทำให้เขาได้รู้สำนึกซะบ้าง ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่ไม่แฟร์เป็นอย่างมาก ผมนึกถึงภาพของเด็กน้อยที่เคยเจอในโรงเรียนแห่งหนึ่งได้เป็นอย่างดี พวกเขาไม่ไมีแม้แต่สีสำหรับใช้ระบายสีภาพที่เขาวาด แต่ภายหลังที่พวกเขาได้สีไม้ไป 1 กล่อง พวกเขาก็แบ่งกันใช้อย่างสนุกสนาน มันก็ดีเหมือนกันนะ Anish ได้สีดำที่ดำที่สุดไป แต่พวกเราที่เหลือจะใช้สีใหม่อีกหลากหลายสี…

  • จิตรกรสาวสร้างผลงานศิลปะจากขนมปังกว่า 1,000 แผ่น ให้เป็นภาพวาดเมืองเกิดของตัวเอง!!

    จิตรกรสาวสร้างผลงานศิลปะจากขนมปังกว่า 1,000 แผ่น ให้เป็นภาพวาดเมืองเกิดของตัวเอง!!

    เมื่อกล่าวถึง ‘งานศิลปะ’ หลายๆ คงคิดถึงงานจิตรกรรมที่วาดภาพระบายสีลงบนผืนกระดาษและผ้าใบ บางคนก็อาจจะนึกถึงรูปปั้นสวยๆ งาม และสถาปัตยกรรมต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่า ศิลปะนั้นมันไม่ได้มีแค่นี้ เพราะมันเป็นสิ่งที่จรรโลงใจของมนุษย์ อันที่เรามองแล้วรู้สึกว่ามันสวยมันงามสิ่งนั้นก็สามารถเรียกได้ว่าเป็น ‘งานศิลปะ’ แล้ว ปัจจุบันงานศิลปะนั้นพัฒนาไปอย่างกว้างไกล บางครั้งก็ไกลจนเกินที่มนุษย์ธรรมดาจะเข้าใจได้ แต่เรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะหยิบยกมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ก็เป็นผลงานศิลปะนี่แหละ แต่มนุษย์ปกติสามารถเข้าใจได้สบายๆ เลยนะ ฮร่า   Jolita Vaitkutė ศิลปินที่สร้างผลงานศิลปะเกี่ยวกับอาหาร ได้ร่วมกันกับทีมงานเพื่อร่วมกันสร้างผลงานศิลปะด้วย ‘แผ่นขนมปัง’   โดยจะวาดเป็นภาพของเมือง Vilnius ในประเทศ Lithuania ที่เป็นเมืองเกิดของ Jolita โดยจะทำการใช้ดินสอระบายสีลงในขนมปังแต่ละแผ่นแล้วก็นำมาต่อกันเป็นภาพขนาดใหญ่   ก่อนอื่นเลยทีมงานทั้งหลายก็ต้องไปนำแผ่นขนมปังมาผึ่งให้แห้งซะก่อนที่จะลงมือจัดการมัน โดย Jolita เลือกที่จะใช้วิธีสเก็ตช์ภาพจำลองออกมาก่อนโดยแบ่งเป็นชิ้นต่างๆ ให้มีสัดส่วนเล็กกว่าชิ้นงานจริง จากนั้นก็จะมาดูว่าขนมปังแผ่นไหนจะต้องลงแสงและเงาอย่างไรบ้าง   นอกจากสีของดินสอที่นำมาสร้างเป็นลายเส้นและแรเงาแล้ว ยังมีการใช้คัตเตอร์แกะสลักให้แต่ละขนมปังแต่ละแผ่นมีส่วนเว้าส่วนโค้ง และความตื้น-ลึก เพื่อให้ภาพออกมาดูสมจริงและสวยงามมากที่สุด   โดยงานศิลปะที่ทำจากขนมปังชิ้นนี้ใช้แผ่นขนมปังกว่า 1,064 แผ่น และใช้เวลาในการทำกว่า 50 ชั่วโมงเลยทีเดียว   ซึ่งโดยรวมทั้งหมดเมื่อนำขนมปังแต่ละชิ้นมาประกอบกันแล้วทำให้งานศิลปะชิ้นนี้มีขนาดถึง 3.5×2.5…

  • ถ้าเพื่อนๆ อยากได้งานศิลป์ชิ้นเอกของโลกไปอยู่ในทรงผมล่ะก็ ศิลปินช่างทำผมคนนี้ช่วยคุณได้!!!

    ถ้าเพื่อนๆ อยากได้งานศิลป์ชิ้นเอกของโลกไปอยู่ในทรงผมล่ะก็ ศิลปินช่างทำผมคนนี้ช่วยคุณได้!!!

    สำหรับงานศิลปะ ไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรที่ใหม่ถอดด้าม อะไรๆ เก่าๆ ก็สามารถนำมาประยุกต์ และปรับไปใช้ เป็นอะไรใหม่ๆ ได้เหมือนกัน เหมือนกับงานของเธอคนนี้ Ursula Goff ช่างผมจาก Kansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากนำงานศิลป์ชิ้นเอกของโลกติดตัวไปด้วยแล้วล่ะก็ เธอคนนี้ล่ะช่วยคุณได้เลย เพราะเธอได้ครีเอทไอเดียสีผมหลายๆ แบบ โดยใช้แรงบันดาลใจจากงานศิลป์ชื่อดังของโลกเลยทีเดียว   Starry Night โดย Van Gogh   The Scream ของ Edvard Munch   The Kiss โดย Gustav Klimt (ถ่ายเซลฟี่เองด้วยนะเนี่ย)   Water Lilies by Claude Monet   แนวการ์ตูนก็มีนะจ๊ะ กับสาวน้อยที่กำลังจมน้ำ วาดโดย Roy Lichtenstein   Red Canna Lily โดย Gegia O’Keeffe   Girl With…

  • เมื่อเจ้าเหมียวตัดสินใจไปโผล่ในเหล่างานศิลป์ชิ้นโบว์แดงของโลก เพราะไม่มีอะไร สำคัญไปกว่า ‘แมว’

    เมื่อเจ้าเหมียวตัดสินใจไปโผล่ในเหล่างานศิลป์ชิ้นโบว์แดงของโลก เพราะไม่มีอะไร สำคัญไปกว่า ‘แมว’

    เจ้าพวกแมวนี่มันก็แมวจริงๆ เพราะมันทำตามใจตัวเองซะทุกอย่าง และล่าสุดนี้ก็พยายามคุกคามโลกมนุษย์ ด้วยการเข้าไปอยู่ในงานศิลป์ระดับโลกซะเลย ควบคุมมันตั้งแต่ความคิดนั่นแหละ!!! และวันนี้เหมียวก็มีผลงานการตัดต่อภาพของศิลปิน ที่ตัดต่อเอาเจ้าเหมียวสีเทาสุดน่ารัก เข้าไปอยู่ในงานศิลป์ระดับโลกหลายๆ ชิ้น ที่วินาทีนี้ เหมียวจะดังช่วยไม่ได้ ใครๆ ก็หยุดไม่อยู่แล้วล่ะ   The Creation of Adam – Michelangelo   The Milkmaid – Johannes Vermeer   American Gothic – Grant Wood   The Death of Marat – Jacques-Louis David   The Last Supper – Leonardo da Vinci   Mars and Venus – Sandro Botticelli…