รีวิว BECKHAM สารคดีเล่าชีวิต ของสุดยอดไอคอนลูกหนัง ที่ควรค่าแก่การรับชม


ด้วยความที่ติดตามกีฬาฟุตบอลอยู่แล้ว พอซีรี่ส์สารคดีเรื่อง BECKHAM ออนแอร์ทาง Netflix มีรึจะพลาด

ตอนแรกกะว่าจะดูวันละตอน ค่อยเป็นค่อยไป ที่ไหนได้ ยาว 4 ตอนรวดเลยฮะ

พอดูจบก็เลยอยากจะมาเขียนรีวิวเล่าความรู้สึกหลังดูจบให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันสักหน่อย และหากใครดูแล้วก็จะได้มาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้ครับ

 

 

– เกี่ยวกับ BECKHAM

 

ก็อย่างที่บอกครับ ว่าเป็นสารคดีที่เล่าเรื่องราวชีวิตของ เดวิด เบคแคม หนึ่งในไอคอนของวงการฟุตบอล ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ขนาดคนที่ไม่ใช่แฟนบอลก็ยังต้องเคยได้ยินชื่อ หรือเห็นใบหน้าของเขากันมาก่อน

โดยจะเริ่มตั้งแต่เป็นเด็ก เส้นทางการค้าแข้งกับทีมแมนฯ ยู ติดทีมชาติอังกฤษ ไปจนถึงช่วงที่ย้ายไปเรอัลมาดริด และไปจบชีวิตการค้าแข้งที่ฝรั่งเศส

 

– ความรู้สึกหลังจากที่ได้รับชม (จะพยายามไม่สปอยล์เนื้อหานะครับ)

 

พอพูดถึงไทม์ไลน์ชีวิตการค้าแข้งของเฮียเบคเนี่ย เราก็พอจะทราบกันมาบ้างแล้ว…

แต่สิ่งที่เราจะได้รู้ หรือได้เห็นในสารคดีชุดนี้ ก็คือรายละเอียดในระหว่างทาง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง? เขาต้องเผชิญอะไรบ้าง? และแต่ละครั้งเขามีความรู้สึกอย่างไร?

รวมไปถึงมีแขกรับเชิญ ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็จะมาเล่าความรู้สึกในมุมมองของตัวเองต่อเหตุการณ์นั้น ๆ ด้วย

ซึ่งแต่ละคนที่ Netflix เขาเชิญมาได้เนี่ย ขอบอกเลยว่าเป็นอะไรที่น่าประทับใจมาก ทั้งนักข่าว ทั้งบุคคลสำคัญอย่างเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, ประธานของเรอัล มาดริด (ในยุคนั้น) ฟลอเรนติโน่ เปเรซ, และเพื่อนร่วมทีมคนสำคัญอีกหลายคน

แถมยังมีฟุตเทจที่เราอาจจะไม่เคยเห็นถูกใส่เข้ามา ทำให้เรารับรู้ และทำความเข้าใจกับเรื่องราวได้ดียิ่งขึ้น

เท่านั้นยังไม่พอฮะ หลังจากดูซีรี่ส์นี้จบ ก็จะทำให้เข้าใจว่าทำไมเฮียเบค แกถึงกลายเป็นไอคอนลูกหนังที่โด่งดังระดับนั้นได้ คือแกไม่ได้มีดีแค่หน้าตาหล่อเหลา แต่ในเรื่องของฝีเท้าก็เรียกได้ว่าเป็นตัวเทพของวงการในยุคนั้นด้วยเช่นกัน

อีกเรื่องนึงที่ผมชอบก็คือ ในสารคดีจะมีการเล่าเหตุการณ์เดียวกัน ในมุมมองที่แตกต่างกัน แต่ไม่ได้มีการตัดสินว่าอันไหนถูก อันไหนผิด เพราะแต่ละคนก็จะมีเหตุผลเป็นของตัวเอง มีเป้าหมายที่แตกต่างกัน

การลำดับภาพหรือเรื่องราว ก็เรียกได้ว่าทำออกมาได้น่าสนใจคือปกติเราดูสารคดี มันจะไม่มีแบบหักมุมหรืออะไรแบบนี้ใช่มะ? แต่อันนี้แม่งมีว่ะ 5555

อีกส่วนที่ชอบก็คือการแช่กล้องไปที่หน้าของเฮียเบคนาน ๆ ตอนที่แกเล่าเรื่องความทรงจำในอดีต ก็จะทำให้เรารู้ว่าตอนนั้นแกรู้สึกยังไง (อีกอย่างคือ หน้าเฮียเบคแกนี่หล่อจริง ๆ ให้ตายเถอะ)

และติดอยู่นิดนึง เหมือนจะมีบางช่วงที่ตัดภาพเหตุการณ์ให้งง ๆ นิด ๆ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรมากครับ

 

– สรุป

 

เป็นซีรี่ส์สารคดีที่ควรค่าแก่การรับชมครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนบอล หรือไม่ได้เป็น ก็คิดว่าดูได้นะ แต่คนที่เป็นแฟนบอลจะมีความรู้สึกร่วมเพิ่มเข้ามาอีกนิดนึง (ไม่นิดล่ะ เยอะเลย) หรือต่อให้คุณเป็นแฟนบอลทีมอื่น ที่ไม่ใช่แมนฯ ยู ก็ดูได้นะ

สำหรับใครที่สนใจอยากรับชม ก็เข้าไปดูใน Netflix ได้เลย ตอนนี้ออนแอร์แล้ว มีทั้งหมด 4 ตอน ตอนละประมาณ 70 นาที

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว

 


Like it? Share with your friends!

Choose A Format