ในบทความนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ทุกคน ไปทำความรู้จักกับวัฒนธรรมที่เรียกว่า “Bro คัลเจอร์” กันครับ
คือต้องอธิบายก่อนนะว่า กว่าที่คำว่า Bro มันจะกลายมาเป็นที่นิยม และใช้เล่นกันในมีมอย่างแพร่หลายจนถึงทุกวันนี้เนี่ย สมัยเมื่อก่อนเนี่ยเค้าไม่เรียก Bro กันมั่วซั่วนะ เป็นวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่ม และมีการกีดกันกันพอสมควรเลยล่ะฮะ
เอาล่ะ เกริ่นมาพอหอมปากหอมคอ ไปเข้าเรื่องเลยละกัน
– ต้นกำเนิด
รากศัพท์หรือต้นกำเนิดของคำว่า Bro มันก็มาจาก Brother ที่แปลว่าพี่ชายน้องชายนี่แหละ แต่ในความหมายของมันจริง ๆ มันจะแปลว่า “เพื่อนฝูง” ซะมากกว่าครับ คล้าย ๆ กับคำว่า Dude, Guy, Fellow อะไรประมาณนี้
ซึ่งการที่มีกลุ่มวัยรุ่นผู้ชาย เริ่มเอาคำว่า Bro มาใช้เรียกเพื่อนชายด้วยกันเนี่ย มันเริ่มมาตั้งแต่ยุค 70 แล้วครับ และจะเป็นวัฒนธรรมที่แพร่หลายกันในหมู่วัยรุ่นผู้ชายผิวขาวฮะ
ส่วนสถานที่ที่วัฒนธรรม Bro มักจะได้รับความนิยมมันก็จะเป็นในคอลเลจ ชีวิตเด็กหอ อะไรประมาณนี้
จะมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มวัยรุ่นชายที่ชอบปาร์ตี้ด้วยกัน และเป็นแก๊งเดียวกัน จะเรียกกันว่า Bro ฟีลแบบสนิทมากกว่าเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องร่วมสาบานกัน และจะเป็นเฉพาะกลุ่มนักกีฬา ที่มีร่างกายแข็งแรง
แต่ถ้าอยู่นอกกลุ่มเนี่ย เค้าจะไม่เรียกกันด้วย Bro นะ เหมือนเป็นการกีดกันและเล่นพรรคเล่นพวกอะไรอย่างนี้เลย
แล้วก็มีความท็อกซิก คือคนที่ไม่ได้เข้าพวก และไม่ได้เป็น Bro ด้วยเนี่ย ก็จะถูกกีดกันจากทรัพยากรต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยเลยครับ บางทีก็อาจจะโดนรุมบูลลี่ หรือแกล้งด้วย
– พัฒนาการ และการใช้อย่างแพร่หลาย
Bro คัลเจอร์ เพิ่งจะได้รับความนิยม และแพร่หลาย จนแทรกซึมเข้าไปสู่หลาย ๆ แวดวง ในช่วงยุค 2000s โดยเป็นการทำให้มันดูสนุกสนานมากยิ่งขึ้น และไม่เฉพาะกลุ่มสำหรับกลุ่มผู้ชายผิวขาวอีกต่อไป..
มีการบัญญัติคำเรียกใหม่ ๆ เช่น Bromance, Brogrammer เพื่อเอาไว้จำกัดความ อธิบายความหมาย หรือเรียกชื่อกลุ่มซับคัลเจอร์ต่าง ๆ
– Bro คัลเจอร์ ในยุคปัจจุบัน
ปัจจุบัน Bro คัลเจอร์มันเปลี่ยนไปมากแล้วครับ และมันก็แฝงมากับ “มีม” ต่าง ๆ ในโลกอินเตอร์เน็ต อย่างทุกวันนี้ เวลาเกิดมีมขึ้นมา เค้าจะเรียกคนที่อยู่ในมีมนั้นว่า Bro เช่น ถ้าคนในมีมเป็นผู้ชาย แล้วทำอะไรเจ๋ง ๆ แคปชันมันก็จะประมาณว่า Bro is cooking, Bro is on fire, อะไรทำนองนี้ครับ
หรือไม่เวลาเราเจอเพื่อนที่เป็นฝรั่ง หรือชาวต่างชาติ แล้วสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ เราก็จะเรียกเขาว่า Bro ได้เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องเคยไปปาร์ตี้ด้วยกันมาก่อน หรือต้องสนิทกัน เหมือนอย่างในช่วงยุค 1970 ครับ
เรื่องราวทั้งหมดก็ประมาณนี้ครับ อันนี้ไปหาอ่านแล้วก็สรุปมาเอง เพื่อน ๆ คิดเห็นยังไงกับบทความนี้บ้าง? ลองคอมเมนต์มาแลกเปลี่ยนกันได้เลยนะ
#เหมียวหง่าว