สรุปประเด็น… สาวถูกขืนใจ แต่คนร้ายติดคุกแค่ 3 ปี เหยื่อสิ้นหวัง “ประหารหนูเถอะ”

ถือว่าเป็นประเด็นที่ฟังแล้วสลดใจอย่างมาก เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งใช้บริการแอปพลิเคชั่นเรียกรถมารับ แต่กลับถูกพาไปขืนใจ สุดท้ายคนร้ายติดคุกแค่ 3 ปี จนเหยื่อถึงกับสิ้นหวัง ร้องขอว่า “ประหารชีวิตหนูเถอะค่ะ”

ประเด็นดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมคนร้ายติดคุกแค่ 3 ปี? เหยื่อต้องเผชิญกับอะไรบ้างหลังจากเหตุการณ์นั้น? #เหมียวตะปู สรุปสั้นๆ มาให้เพื่อนๆ ได้ทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กันแล้ว….

– เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงปลายปี 2565 “น.ส.แอน” (นามสมมุติ) วัย 24 ปี ได้ใช้แอปฯ เรียกรถมารับ เนื่องจากว่าแฟนหนุ่มไม่สามารถออกมารับตนได้

– คนขับรถที่มีลักษณะเป็นรถแท็กซี่ ได้พาเธอออกนอกเส้นทาง ไปจอดแถวมุมมืดติดถนนศรีนครินทร์ จ.สมุทรปราการ และทำการกักขังหน่วงเหนี่ยว ขืนใจเธอ ซึ่งเป็นการสร้างบาดแผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจเธออย่างมาก

– เจ้าหน้าที่จับกุมตัวคนร้ายได้ ชื่อ “นายเทียม” โดยในวันที่ตำรวจพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คนร้ายได้มีการแสยะยิ้มออกมาต่อหน้าเหยื่อ และญาติของคนร้ายต้องการที่จะเยียวยาเหยื่อด้วยเงิน 10,000 บาท แต่เหยื่อไม่รับ

– น.ส.แอน ต้องเข้ารับการรักษาทั้งร่างกายและจิตใจ เธอป่วยเป็นโรค PTSD (ภาวะผิดปกติที่เกิดหลังเหตุสะเทือนใจ) ต้องกินยาวันละเป็นสิบเม็ด ฝันว่าจะถูกข่มขืนอยู่ทุกคืน จนทำให้นอนไม่หลับ กินอะไรแทบไม่ลง

– ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 น.ส.แอน และแฟนหนุ่มได้เข้าไปที่ศาล เพื่อติดตามความคืบหน้า แต่กลับได้รู้ว่าคดีนี้ถูกตัดสินไปตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม และสิ้นสุดการอุทธรณ์ไปแล้ว โดยตัดสินจำคุก 6 ปี แต่รับสารภาพจึงลงโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกแค่ 3 ปี

– พอได้ทราบผลตัดสิน น.ส.แอน ก็ถึงกับระบายออกมาว่า “มันจะ 3 ปี หรือ 10 ปี ตอนนี้ก็ไม่สำคัญกับหนูแล้ว เหมือนเค้าเห็นเราไม่มีค่าไปแล้ว” แล้วบอกว่าเธออยากให้คนร้ายต้องโทษสูงสุดคือจำคุก 20 ปี ถ้าไม่ได้ก็ขอให้ประหาร

– คำพูดหนึ่งที่แสดงถึงความสิ้นหวังของเธออย่างมากก็คือ “ถ้าคนร้ายไม่ยอมโดนประหาร ก็ประหารหนูไปเถอะค่ะ ทุกวันนี้ หนูอยู่ก็เหมือนหนูตายทั้งที่มีลมหายใจ ประหารหนูเถอะค่ะ”

– ทางฝั่งแฟนหนุ่มก็รู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มองว่าสาเหตุมาจากที่ตนไม่สามารถออกไปรับแฟนสาวในวันนั้นได้ และขาดความรู้เรื่องกฎหมาย ที่ปล่อยให้เวลาผ่านไป จนหมดอายุการอุทธรณ์

– โดยแฟนหนุ่มได้ฝากคพูดหนึ่งเอาไว้ว่า “ความสุขชั่วคราวของใครบางคน อาจเป็นฝันร้ายของใครอีกคนไปชั่วชีวิต”