Tag: ราชการ

  • ผู้สมัครสอบครูผู้ช่วย ส่งเอกสารขอดูคะแนนแต่ติด “แสตมป์ 7-11” สำนักงานศึกษาธิการเงิบ!!

    ผู้สมัครสอบครูผู้ช่วย ส่งเอกสารขอดูคะแนนแต่ติด “แสตมป์ 7-11” สำนักงานศึกษาธิการเงิบ!!

    เรียกได้ว่าเป็นภาพเหตุการณ์แปลกๆ ที่ทั้งเรียกเสียงหัวเราะและเสียงวิจารณ์เชิงลบได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อผู้สมัครสอบ “ครูผู้ช่วย” ส่งเอกสารขอรับคะแนนมาเป็นซองพร้อมแสตมป์เซเว่น… เมื่อค่ำวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดหนองบัวลำภู ได้โพสต์ภาพของซองเอกสารขอรับคะแนนสอบที่ไม่เหมาะสม ประกอบไปด้วยสองภาพ ภาพแรก เป็นภาพซองจดหมายที่มีการจ่าหน้าซองเรียบร้อยแต่แสตมป์ที่ติดมานั้นหาใช่ดวงตราไปรษณียากรไม่ แต่กลับเป็นแสตมป์ที่ได้จากการซื้อของในร้าน 7-ELEVEn เสียอย่างนั้น   แสตมป์เซเว่น!!   ส่วน ภาพที่สอง เป็นภาพของซองเอกสารที่มีการจ่าหน้าซองพร้อมติดดวงตราไปรษณียากรสำหรับส่งแบบด่วน (EMS) ทั้งยังเขียนกำกับหน้าซองว่า “ส่ง EMS ให้ด้วย” ซึ่งดูเหมือนประโยคคำสั่งที่ไม่ควรใช้ในบริบทของทางการ   “ส่ง EMS ให้ด้วย”   หากว่ากันตามความเหมาะสม การขอดูคะแนนสอบนั้นควรส่งเอกสารคำร้องขอดูคะแนนไปยังสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ผ่านทางไปรษณีย์ โดยให้ใช้ซองสีน้ำตาลพร้อมติด ตราไปรษณียากร (ไม่ใช่แสตมป์อะไรก็ได้) งานนี้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดถึงกับกุมขมับกับสิ่งที่พวกเขาได้รับจากผู้สมัครสอบครูผู้ช่วย จึงต้องออกมาโพสต์ภาพซองจดหมายดังกล่าวพร้อมให้ข้อมูลและตักเตือน ไม่ให้ผู้สมัครสอบคนอื่นๆ ทำแบบเดียวกันอีก     ชาวเน็ตที่พบเห็นโพสต์นี้ก็ต่างพากันคอมเมนต์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก เช่น… “เอาไรคิด?” “คือไรอะครับ อันนี้ไม่เคยส่งหรือคิดมาแล้วเลยทำเพราะจะเอาฮา หรือ*ง่จริง” “กลัวไม่ถึง จัดเลย 9 บาท 5555” “ติดสแตมป์เซเว่นนี่คือคิดยังไง…

  • เมก้าเคลฟเวอร์!! แม่นางโปรยใบสั่งปลอมให้ตัวเอง เพื่อกันตำรวจแจกใบจริงในที่ห้ามจอด

    เมก้าเคลฟเวอร์!! แม่นางโปรยใบสั่งปลอมให้ตัวเอง เพื่อกันตำรวจแจกใบจริงในที่ห้ามจอด

    หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง สำนวนโวหารแบบนี้รู้สึกคุ้นๆ กันบ้างรึเปล่า? ในเมื่อไม่อาจห้ามปรามได้ ก็ต้องใช้วิธีเดียวกันเพื่อตอบโต้นี่แหละ แต่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ควรทำเท่าไหร่นัก กรณีของหญิงรายหนึ่งจากเมืองซูโจว ประเทศจีน ได้สรรหาวิธีสุดแสนจะหัวหมอ เพื่อที่จะให้ตัวเองสามารถจอดในที่ห้ามจอดได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าปรับ นั่นก็คือ ทำใบสั่งปลอมแปะใส่รถตัวเอง!?    เพราะเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ จะตรวจสอบรายละเอียดเพียงแค่วันที่ของใบสั่งเท่านั้น ซึ่งถ้าหากว่าแม่นางถูกจับได้ว่าเป็นใบสั่งปลอม เธอก็จะอ้างว่าเธอไม่รู้ เธอถูกแกล้ง… ช่างแยบยลเสียจริงๆ     แต่แล้วจอมยุทธ์ก็ต้องมีพลั้งพลาด เมื่อมีผู้พบเห็นว่าเธอปลอมแปลงใบสั่งติดบนรถตัวเอง จนในที่สุดแล้วก็ถูกจับได้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบที่ซุ่มอยู่ในรถ เพราะเธอดันไปจอดหน้ารถตำรวจนั่นเอง!     ภาพจากกล้องหน้ารถเป็นหลักฐานมัดตัวเธอได้อย่างดี เผยให้เห็นว่าพอเธอจอดเสร็จ ก็จะลงมาแปะใบสั่งปลอมบนกระจกรถ ก่อนที่จะเดินออกไปทำธุระ ปล่อยให้รถจอดในที่ห้ามจอดอยู่อย่างนั้น…     สุดท้ายแล้ว แม้จะถูกจับได้คาหนังคาเขา เธอก็ยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาโดยที่ไม่รู้ว่ามีหลักฐานจากกล้องหน้ารถของตำรวจอยู่ แล้วก็ได้ข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการและ ‘ใบสั่งของจริง’ ไปตามระเบียบ   ที่มา : miaopai, odditycentral, nextshark

  • เพจดังแฉกลโกงเบี้ยเลี้ยง ตชด. 3 จังหวัดภาคใต้ ผ่านมา 3 ปี ได้น้อยลงเรื่อยๆ เงินหายไปไหน…

    เพจดังแฉกลโกงเบี้ยเลี้ยง ตชด. 3 จังหวัดภาคใต้ ผ่านมา 3 ปี ได้น้อยลงเรื่อยๆ เงินหายไปไหน…

    สวัสดิการของผู้ปฏิบัติหน้าที่ เป็นส่วนหนึ่งของผลตอบแทนจากระบบราชการ จะมีการระบุจำนวนเงินไว้ตามตำแหน่งงาน… แต่เมื่อทุกครั้งที่เราได้ยินข่าวคราวของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น กลับรู้สึกว่าพวกเขากำลังถูกกดขี่อย่างต่อเนื่องและเรียกร้องความเป็นธรรมไม่ได้เลย ข้อมูลดังต่อไปนี้ถูกเปิดเผยโดยเพจ CSI LA ในวันที่ 6 มีนาคม 2561 เวลา 14.40 น. เป็นการนำข้อความจากระบบข้อความหลังบ้าน ที่เล่าผ่านตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่ เกี่ยวกับค่าเบี้ยเลี้ยงสนามและค่าเสี่ยงภัย ที่ถูกตัดและหายไปบางส่วน…     ข้อความจากโพสต์ดังกล่าว มีใจความดังต่อไปนี้… “ตชด. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เขียนมาเล่าเรื่องการโกงค่าเบี้ยเลี้ยง ตชด. ให้ฟังครับ สวัสดีคับแอดมินเพจ CSI LA คือผมอยากจะให้แอดมิน ทำเรื่องที่ผมอยากจะขอร้องต่อไปนี้ให้มันแดงขึ้นมาครับ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ เบี้ยเลี้ยงสนาม และค่าเสี่ยงภัย ของ ตชด.ที่ปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่ 3 จว.ใต้ คือว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ ปี 2558 จนถึง ก.ย. 2560 ได้รับเบี้ยเลี้ยง 6,130…

  • เฮกันดังๆ เพราะเรา “ไม่ต้องถ่ายสำเนาเอกสาร” เวลาไปติดต่อราชการอีกต่อไปแล้ว…!!

    เฮกันดังๆ เพราะเรา “ไม่ต้องถ่ายสำเนาเอกสาร” เวลาไปติดต่อราชการอีกต่อไปแล้ว…!!

    เป็นปัญหาที่อยู่คาใจคนไทยเรามานาน เพราะถึงแม้ว่าเราจะมีบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด แต่เวลาไปติดต่อหน่วยงานรัฐทีไร ก็ยังต้องเตรียมสำเนาเอกสารสำคัญหอบไปเป็นตั้งอยู่ดี แถมถ้าบางทีลืมอะไรแล้วต้องถ่ายเพิ่ม ก็ต้องจ่ายค่าถ่ายเอกสารที่แพงกว่าร้านทั่วๆ ไปอีก… แหม่ พูดแล้วยาวววววววววววว แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2560 มีประกาศราชกิจจานุเบกษา จากคณะคสช. โดยใช้อำนาจ ม.44 ที่ดูเหมือนจะออกมาพัฒนาตรงจุดนี้โดยเฉพาะ   สถานที่ๆ เวลาไปติดต่อราชการทีไร ได้ใช้บริการเจ้าพวกนี้ทู๊กกที   โดยประกาศของคสช. ข้อนี้ไม่ได้เป็นการแก้ไขกฏหมายแต่อย่างใด แต่เป็นการพูดถึงกระบวนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐโดยทั่วไป ถ้าจะให้เล่าเป็นภาษาทางการก็กลัวจะงง เอาเป็นว่าเราจะเล่าเนื้อหาเป็นภาษาชาวบ้านละกัน คืองี้… ในประกาศข้อที่ 17 ได้บอกว่าในกรณีที่ประชาชนไปติดต่อหน่วยงานราชการ แล้วทางราชการมีความจำเป็นที่จะต้องใช้สำเนาเอกสารสำคัญ ผู้มีอำนาจอนุมัติ (เจ้าหน้าที่รัฐ) จะต้องเป็นคนดำเนินการจัดแจงเรื่องเอกสารสำเนาให้กับผู้มายื่นเรื่องในการประสานงาน  แทนแบบเดิมที่ประชาชนต้องเตรียมมาเอง อีกทั้งหากต้องมีการนำเอกสารของประชาชนไปถ่ายเป็นสำเนา ยังห้ามมิให้มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการเตรียมสำเนาเอกสาร ใดๆ ทั้งสิ้น   ภาพจากประกาศข้อที่ ๑๗ ในราชกิจจานุเบกษา   ราชกิจจานุเบกษาตัวเต็ม โดยคำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่วันประกาศ (ก็คือ 4 เมษายน 2560 นั่นเอง)   ก็ถือเป็นอีกเรื่องที่น่าดีใจสำหรับเราทุกคน ต่อจากนี้จะไปติดต่อหน่วยงานราชการก็ไม่ต้องคอยหอบเอกสารไปเป็นตั้ง…

  • สงครามยังไม่จบ!! รอบนี้แมวกระทรวงต่างประเทศ แอบบุกเข้าบ้านแมวนายกอังกฤษ

    สงครามยังไม่จบ!! รอบนี้แมวกระทรวงต่างประเทศ แอบบุกเข้าบ้านแมวนายกอังกฤษ

    ถ้าหากจะพูดถึงเรื่องราวของ 2 คู่อริอย่าง Larry แมวสำนักนายกอังกฤษ และ Palmerston แมวกระทรวงการต่างประเทศ นี่ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้วสินะ ที่เราได้มานำเสนอเรื่องราวของพวกมัน และถ้าหากใครได้ติดตามความคืบหน้าของเจ้า 2 ตัวนี้มาตลอดละก็ คุณจะรู้เป็นอย่างดีเลยว่า Larry กับ Palmerston มันถูกกันซะที่ไหนละ ป๊ะหน้ากันทีไรก็ขู่ฟอดๆ จะเล่นงานกันทู๊กกกกกกกกที   ก่อนอื่น เราไปย้อนความหลังกันสักนิด… – รู้จัก Larry แมวจับหนูประจำบ้านนายกอังกฤษ –  แมวสำนักนายก เปิดศึกกับ แมวกระทรวงการต่างประเทศ – สองแมวปะทะกันอีกครั้ง รอบนี้ได้แผล      ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ทางสำนักข่าว Dailymail เจ้าเก่า ได้เผยเรื่องราวที่น่าสนใจของแมวผู้ดีอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้พวกมันไม่ได้มาต่อสู้กันเหมือนในคราวที่ผ่านมาหรอกนะ แต่ฝ่ายเจ้า Palmerston แมวจากกระทรวงการต่างประเทศเนี่ยสิ…จู่ๆ ก็แอบบุกเข้าบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวน์นิ่งสตรีท สำนักนายกรัฐมนตรีซะงั้นอย่าง เอ…ชื่อนี้คุ้นๆ อ้าววว…นี่มันบ้านที่เจ้า Larry อาศัยอยู่นี่นา…

  • กรมทรัพย์สินทางปัญญาเยี่ยมเยือนเพจเผยแพร่หนังเถื่อน ส่งของให้เรียบร้อยแล้วจ้า!!

    กรมทรัพย์สินทางปัญญาเยี่ยมเยือนเพจเผยแพร่หนังเถื่อน ส่งของให้เรียบร้อยแล้วจ้า!!

    ช่วงนี้ถือว่าแอดมินเพจกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ออกมาเยี่ยมเยือนหลายเพจมากๆ ด้วยสไตล์ที่แตกต่างไปจากแอดมินเพจอื่นๆ ของทางงานราชการ ที่เราแทบจะไม่เชื่อเลยว่านี่คือแอดมินเพจของกรมทรัพย์ทางปัญญา ตั้งแต่ใช้การวลี ‘ไม่น่ารักเลย’     ด้วยความเด็ดขาดกับการทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพจเผยแพร่ภาพยนตร์ออนไลน์ต่างๆ ที่ทำผิดกฎหมาย ข้าราชการยุคใหม่จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างเพื่อให้ทันต่อสื่อยุคใหม่ และล่าสุดนี้ เพจหมวกดำ Black Hat เผยภาพการมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับเพจปล่อยหนังเถื่อนเพจหนึ่งไปเรียบร้อย คล้ายกับวลีของบุรุษไปรษณีย์ไทยว่า ‘รับน๊าาาาาาา’     ฮร่าาาา ยังมีการตบมุกตลกโปกฮากันได้อีก แต่ถึงแม้จะได้รับหมายศาลยังไงเพจดังกล่าวก็ยังคงยืนหยัดที่จะทำอุดมการณ์เดิมต่อไปซะงั้น โดนแบนเพจ โพสต์ไม่ได้แล้ว ก็ยังหาลู่หาทางสร้างกลุ่มต่อ เอ๊ะ!! หรือว่ายังไม่เข็ดหว่า ที่มา : Black Hat

  • ทำเองได้ไม่ง้อใคร!! สาวเกาะสมุยลงทุนซื้อยางมะตอยเทพื้นเอง เพราะไม่อยากให้นทท.เจ็บตัว

    ทำเองได้ไม่ง้อใคร!! สาวเกาะสมุยลงทุนซื้อยางมะตอยเทพื้นเอง เพราะไม่อยากให้นทท.เจ็บตัว

    ในหลายๆ ครั้ง เราคงจะเคยเห็นถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ เพราะผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีการซ่อมแซมเสียที เพราะหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้ต้องรออนุมัติงบประมาณกันอยู่นานสองนาน ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนอาจได้รับอันตรายได้     เช่นเดียวกับถนนเส้นเล็กๆ แห่งหนึ่งบนเกาะสมุย ที่ได้รับความเสียหายจนเกิดเป็นหลุมเป็นบ่อ แต่เนื่องจากเกาะนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม อาจทำให้นักท่องเที่ยวได้รับอันตรายได้ หญิงสาวเจ้าของร้านสักแห่งหนึ่งบนเกาะจึงทนไม่ได้ ซื้อยางมะตอยมาราดเองซะเลย     เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจากผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่าคุณ Happy May ที่อาศัยอยู่บนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เธอทนไม่ได้ที่เห็นถนนได้รับความเสียหายและยังไม่ถูกซ่อมแซมเสียที เธอจึงซื้อยางมะตอยมาราดถนนด้วยตัวเอง แถมยังได้ชาวบ้านมาช่วยกันคนละมือสองมือด้วย     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “เสียเงินซื้อยางมะตอยแค่นี้เมย์ไม่จนหลอกคะ ไม่เป็นไรเทศบาลไม่ทำเราทำเองก็ได้ ไม่อยากทนเห็นนักท่องเที่ยวรถล้ม ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยกันได้บุญดีคะ”         ชมภาพเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย เสียเงินซื้อยางมะตอยแค่นี้เมย์ไม่จนหลอกคะ ไม่เป็นไรเทศบาลไม่ทำเราทำเองก็ได้ ไม่อยากทนเห็นนักท่องเที่ยวรถล้ม ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยกันได้บุญดีคะ Posted by Happy May on 8 กุมภาพันธ์ 2016   ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากเลยนะเนี๊ยะ ยังไงแล้วถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูของหน่วยงานราชการหรือเทศบาลแล้วล่ะก็ ฝากดูแลชาวบ้านด้วยนะจ๊ะ ที่มา Happy May

  • เมื่อส่วนราชการไม่สนใจ เจ้าอาวาสจึงต้องนำพระลูกวัดมาซ่อมแซมถนนที่พังมานานกว่า 10 ปี

    เมื่อส่วนราชการไม่สนใจ เจ้าอาวาสจึงต้องนำพระลูกวัดมาซ่อมแซมถนนที่พังมานานกว่า 10 ปี

    ถึงแม้จะไม่ค่อยออกสื่อให้เห็นบ่อยครั้ง แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้ากับการปล่อยปละละเลย ไม่สนใจความทุกข์ของชาวบ้าน อย่างในกรณีถนนหนทางที่ชาวบ้านต้องใช้สัญจรไปมา แต่กลับไม่ได้รับความสะดวกสบายเท่าที่ควร ซึ่งถนนเส้นนี้พังชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อมานานกว่า 10 ปีแล้ว       โดยถนนดังกล่าวคือเส้นทางระหว่างบ้านสะอางค์-บ้านชำแระ ต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ โดยสภาพของถนนนั้นเป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่ได้รับการซ่อมแซมมานานกว่า 10 ปี จนถึงขนาดที่หลวงพ่อปรัด อนินทิโต เจ้าอาวาสวัดบ้านชำแระ ต.ห้วยเหนือ ทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นญาติโยมลำบากในการสัญจร จึงได้นำพระลูกวัดออกมาซ่อมแซมถนนกันเอง       หลวงพ่อปรัด อนินทิโต ได้ชี้แจงไว้ว่าถนนสายนี้นอกจากญาติโยมจะขับรถราผ่านได้ยากแล้ว ยังเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้งด้วย ทั้งยานพาหนะเสียหายและได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งอุปกรณ์ที่นำมาซ่อมแซมถนนเหล่านี้ก็ได้มาจากการเงินปัจจัยที่ชาวบ้านถวายมาให้     อีกทั้งหลวงพ่อยังกล่าวปิดท้ายไว้ว่า ‘อาตมาเคยแจ้งไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหลายครั้งแล้ว แต่เรื่องกลับเงียบหายไป ก็เลยต้องตัดสินใจพาพระลูกวัดและเณรออกมาซ่อมแซมถนนเอง เพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านและเด็กนักเรียนให้เดินทางได้อย่างปลอดภัยและสะดวก’ ที่มา : รวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่น

  • เสียงลือเสียงเล่าอ้าง การดูงานของคณะไทยแลนด์ แบบ Thailand Only  ไม่เหมือนที่ไหน!!

    เสียงลือเสียงเล่าอ้าง การดูงานของคณะไทยแลนด์ แบบ Thailand Only ไม่เหมือนที่ไหน!!

    สำหรับการดูงานของหน่วยงานต่างๆ เป้าหมายที่สำคัญที่สุด ก็คงจะไม่พ้นเรื่องของการได้ความรู้ ความสามารถ เทคนิค แนวคิด รวมถึงวิสัยทัศน์ จากสถานที่ๆ ไปดู ซึ่งต้องนับได้ว่าเหนือกว่าความรู้ที่เรามีพอสมควร ไม่เช่นนั้นเราจะไปดูกันทำไม ใช่มั้ยล่ะ?? เพื่อนๆ เคยสงสัยกันบ้างมั้ยล่ะว่า การดูงานของหน่วยราชการต่างๆ โดยเฉพาะในประเทศเรานั้น เจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ความสามารถเค้าทำอะไรกันบ้างหนอ คงจะตั้งใจดูงานกันน่าดู พอดีเหมียวไปเห็นโพสต์ที่น่าสนใจของผู้รู้ท่านหนึ่งมาแหล่ะ อะไรๆ มันตรงเหมือนที่เหมียวเคยเห็นมายังไงอย่างงั้น…   แต่น แต้น แต๊นนนน หลักๆ แล้วใจความสำคัญก็คือ การดูงานในต่างประเทศของส่วนราชการไทยนั่นเอง ซึ่งก็ต้องส่งผู้มี ‘ความรู้’ และ ‘ความสามารถ’ ของประเทศ ที่ต้องเรียกได้ว่าหัวกะทิทีเดียว เพื่อไปดูงาน และนำความรู้ที่ได้กลับมา ‘พัฒนา’ ประเทศบ้านเกิดของตน   ส่วนในเรื่องค่าใช้จ่ายก็ไม่ต้องห่วงเลยแจ้ อย่างที่เรารู้ๆ กัน เพราะเขาไป ‘ดูงาน’ ในฐานะตัวแทนประเทศ ไม่ได้ไปด้วยความสมัครใจ เพราะฉะนั้นทางภาครัฐก็ต้องออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ มาจากที่ไหนน่ะเหรอ…ภาษีของประชาชนนั่นไง กิกิกิกิ   เหมียวขอไม่ยุ่งละกันเนาะเรื่องนี้ มาดูความเห็นของประชาชนคนไทยกันบ้างดีกว่า…     แปลว่าไรอ่ะ…