Tag: ดาบ

  • เด็กสาวลงไปเล่นน้ำในทะเลสาบ บังเอิญพบ ‘ดาบเก่าแก่’ ที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี!!

    เด็กสาวลงไปเล่นน้ำในทะเลสาบ บังเอิญพบ ‘ดาบเก่าแก่’ ที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี!!

    ใครเล่าจะคิดว่าการเล่นของเด็กๆ จะนำไปสู่การค้นพบหลักฐานสำคัญทาประวัติศาสตร์ ที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน ครอบครัวได้พากันไปพักผ่อนที่ริมทะเลสาบ Vidöstern ในเมือง Tånnö ประเทศสวีเดน Saga Vanecek ลูกสาววัย 8 ขวบลงไปเล่นในน้ำตามปกติอย่างสนุกสนาน ก่อนที่จะบังเอิญไปหยิบ ‘แท่ง’ บางอย่างขึ้นมาได้ “ตอนแรกหนูคิดว่าเป็นกิ่งไม้ แต่พอเอาขึ้นมาจากน้ำก็พบว่ามันมีรูปร่างคล้ายกับดาบเลย”      จากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญในพิพิธภัณฑ์ Jönköpings Läns แล้วก็ทำให้ทราบว่า อาวุธที่เด็กสาวพบนั้นอาจจะเป็นของชนเผ่าโบราณ ที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อช่วง 1,000 ปี ถึง 1,500 ปี ก่อนยุคกำเนิดชาวไวกิงเลยทีเดียว!! มันมีความยาวราวๆ 85 เซนติเมตร มีทั้งเศษไม้และเหล็กเป็นส่วนประกอบ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังไปตรวจสอบบริเวณทะเลสาบดังกล่าวเพิ่มเติม และพวกเขาก็ค้นพบชิ้นส่วนของเหล็กที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเพิ่มเติมอีกด้วย     นับว่าเป็นการค้นพบที่น่าประทับใจ และเหล่านักโบราณคดีก็เชื่อว่าในทะเลสาบแห่งนี้ยังมีอะไรซ่อนอยู่อีกมากมาย Andy Vanecek คุณพ่อของหนู Saga เล่าว่า “ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมมันถึงมาอยู่ตรงนั้น เราไปช่วยเหล่านักโบราณคดีจากพิพิธภัณฑ์ค้นหาพื้นที่ตรงนั้นอีกครั้งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ก็พบชิ้นส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมที่มาจากยุคเดียวกัน ผมไม่ทราบว่ามันคืออะไร แต่มันน่าจะเป็นสถานที่ที่เอาไว้ทำพิธีบูชายัญ”  …

  • ญี่ปุ่นผวา! หลังน้ำท่วมใหญ่ได้พัดพาเอา “ดาบซามูไร” คมกริบหลายสิบเล่มไปกับกระแสน้ำ…

    ญี่ปุ่นผวา! หลังน้ำท่วมใหญ่ได้พัดพาเอา “ดาบซามูไร” คมกริบหลายสิบเล่มไปกับกระแสน้ำ…

    หลังจากเกิดน้ำท่วมกระครั้งใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ความเสียหายจึงเกิดขึ้นทั่วพื้นที่ ความเดือนร้อนนั้นแพร่กระจายไปทุกหนแห่งที่น้ำมวลมหาศาลนี้ไหลไปเยี่ยมเยือน ไม่เว้นแม้แต่ โรงตีดาบ ชายคนหนึ่งผู้อาศัยอยู่ในเมืองเซะกิ จังหวัดกิฟุ นครแห่งดาบซามูไรชั้นยอดอันเลื่องชื่อ เขาคือช่างตีดาบที่ได้สืบสานตำนานดาบซามูไรให้ยังคงมีมนต์ขลังอยู่ในยุคปัจจุบัน     แต่ล่าสุดขณะที่หลายพื้นที่ในประเทศญี่ปุ่นต้องประสบกับภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่มวลน้ำที่ไหลหลากมาจนทะลักแม่น้ำสึโบกาวะ เมืองเซกิ ได้กลืนกินตลิ่งข้างแม่น้ำรวมไปถึงโรงเก็บดาบซามูไรอีกด้วย หลังจากภัยพิบัติเริ่มสงบลง ช่างตีดาบคนดังกล่าวจึงพยายามค้นหาดาบที่สูญหายจนทั่วบริเวณ แต่กลับพบเพียงอาวุธที่ถูกเก็บเอาไว้ในตัวอาคารเท่านั้น จากนั้นเขาจึงติดต่อเจ้าหน้าที่ภาครัฐของญี่ปุ่น ทำให้เกิดการตั้งทีม 10 คนเพื่อค้นหาใบมีดที่หายไป ซึ่งการค้นหาก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องกระทั่งปัจจุบัน   ภาพเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา https://twitter.com/masayumi5/status/1015723435438137344?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1015723435438137344&ref_url=https%3A%2F%2Fsoranews24.com%2F2018%2F07%2F11%2Fsamurai-sword-hunt-begins-as-storm-washes-away-blacksmiths-warehouse-in-gifu-prefecture%2F   อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบว่าในโรงตีดาบดังกล่าว มีดาบประมาณ 20 เล่มจาก 40 เล่มที่หายไปอยู่ ล่าสุดวันที่ 10 กรกฎาคม มีรายงานออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าดาบที่เหลืออีกราวๆ ครึ่งหนึ่งนั้นสูญหายโดยไม่สามารถค้นหาได้พบ    อย่างไรก็ตามทั้งตัวช่างตีดาบและเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นกลับเป็นห่วงถึงความอันตรายที่เกิดขึ้น หากน้ำพัดพาเอาดาบซามูไรที่มีความคมไปยังสถานที่ต่างๆ อาจจะสร้างอันตรายแก่ประชาชนได้ ที่มา: soranews24 และ @masayumi5

  • หนุ่มเล่นเกมหนัก จนแฟนสงสัยว่านอกใจ คว้าดาบซามูไรฟันแทง รอดตายได้เพราะซ้อมมาดี!!

    หนุ่มเล่นเกมหนัก จนแฟนสงสัยว่านอกใจ คว้าดาบซามูไรฟันแทง รอดตายได้เพราะซ้อมมาดี!!

    ความทุ่มเทให้กับสิ่งที่เรารักมากเกินไปจนไม่ใส่ใจคนรอบข้าง อาจจะนำไปสู่การทำร้ายร่างกายกันได้เลยทีเดียว เพราะหากอีกฝ่ายรู้สึกถึงความไม่ไว้วางใจแล้ว ทุกอย่างก็พร้อมจะพังทลายได้ทันที… เรื่องราวของพ่อหนุ่ม Alex Lovell เกมเมอร์ผู้ลงแรงไปกับการฝึกซ้อมเล่นเกม PUBG อย่างหนักหน่วง 12-13 ชั่วโมงต่อวัน ถึงขนาดที่ว่าหมดความต้องการทางเพศไปเลยทีเดียว และเป็นเหตุที่ทำให้แฟนสาวเริ่มสงสัยว่าเขานั้นจะ ‘นอกใจเธอ’   Alex Lovell   “มันทำให้พลังทางเพศของผมถดถอย ผมฝึกหนักมาก มันทำให้ผมเหนื่อยล้า ผมรู้สึกแย่ที่เธอต้องการความใส่ใจจากผมบ้าง แต่ผมกลับเมินเฉย มันเลยเถิดไปถึงขั้นที่เธอคิดว่าผมไปมีเซ็กส์กับคนอื่น” Alex วัย 29 กล่าวหลังเกิดเหตุถูกแฟนสาวทำร้าย ในคืนวันที่ 3 มีนาคม 2018 Alex ถูกพบในสภาพนอนจมกองเลือด เนื่องจากถูกดาบซามูไรฟันและแทงหลายจุด ซึ่งตำรวจพบภายหลังว่า Emily Javier แฟนสาววัย 30 ปี เป็นผู้ลงมือ หลังจากที่เธอพบแอปพลิเคชั่น Tinder ในโทรศัพท์ของฝ่ายชาย และเส้นผมสีแดงในท่อระบายน้ำ ซึ่งผมของเธอเป็นสีเขียวไม่ใช่สีแดง จึงลงมือใช้ดาบฟันแฟนหนุ่มกลางดึก   Emily Javier   โดยข้อมูลจากศาลได้เปิดเผยว่า Emily…

  • เปิดตำนานดาบต้องสาป “มุรามาสะ” ดาบแห่งความบ้าคลั่งและเรื่องราวความเป็นมาของมัน

    เปิดตำนานดาบต้องสาป “มุรามาสะ” ดาบแห่งความบ้าคลั่งและเรื่องราวความเป็นมาของมัน

    สำหรับใครที่เป็นคอเกม หรือว่าชอบศึกษาประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นคงจะรู้จักกับดาบซามูไรเป็นอย่างดี และหนึ่งในชื่อดาบที่พวกเราคุ้นหูมากที่สุดนั่นก็คือดาบมุรามาสะนั่นเอง!! มุรามาสะ เซ็นโง ช่างตีดาบในสมัยมุโระมะชิ (ช่วงศตวรรษที่ 14-16 ) ตามตำนานเล่าว่าช่างตีดาบผู้นี้เป็นหนึ่งในลูกศิษของสำนักตีดาบมาซามุเนะ ก่อนที่จะแยกตัวออกมา ในตัวของมุรามาสะเองนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความบ้าคลั่ง และเขาเองก็ได้ถ่ายทอดความเป็นตัวตนของเขาเองลงไปในดาบที่สร้างขึ้น นั่นจึงทำให้ผู้ที่ครอบครองดาบของมุรามาสะนั้นกลายเป็นนักรบที่บ้าคลั่งและโหดร้าย เหมือนกับตัวของมุรามาสะเอง     แต่ดาบของมุรามาสะนั้นแตกต่างจากดาบของอาจารย์เขาโดยสิ้นเชิง ครั้งหนึ่งมุรามาสะได้ท้าประลองดาบที่เขาสร้างกับดาบของสำนักมาซามุเนะ เพื่อหาสุดยอดดาบที่ดีที่สุดในสมัยนั้น โดยในการทดสอบครั้งนี้ทั้งสองสำนักได้นำดาบที่พวกเขาสร้างขึ้นไปปักไว้ในลำธาร และหันคมดาบขึ้นต้านกระแสน้ำ ผลจากการแข่งขันพบว่าดาบของสำนักมุรามาสะนั้นสามารถตัดได้ทุกอย่างที่ไหลผ่านคมมีดของมัน ไม่ว่าจะเป็นปลา ใบไม้ หรือแม่กระทั่งอากาศเองก็ตาม แต่ดาบจากสำนักมาซามุเนะนั้นตรงกันข้าม แต่อย่างไรก็ตามกลับเป็นดาบจากสำนักมาซามุเนะที่ชนะการประลองครั้งนั้นไป เพราะเนื่องจากคมดาบของมุรามาสะนั้นมีความกระหายเลือดและสามารถทำลายได้ทุกอย่าง แต่ดาบของมาซามุเนะนั้นกลับเป็นดาบแห่งความเมตตาและไม่ทำลายล้างโดยไม่จำเป็น   มีดสั้นจากศตวรรษที่ 14 ที่สลักชื่อของมุรามาสะไว้   นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับตำนานอาถรรพ์ของดาบจากช่างตีดาบผู้นี้อีกว่า มีการใช้ดาบของมุรามาสะในการฆ่าสมาชิกของตระกูลโทคุงาวะ หนึ่งในตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในญี่ปุ่นสมัยนั้น และหลังจากนั้นการครอบครองดาบของมุรามาสะนั้นจึงถือเป็นเรื่องที่ผิดและถ้าหากใครที่ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษอย่างหนัก และหนึ่งในการลงโทษผู้ครอบครองดาบของมุรามาสะที่โด่งดังมากที่สุดในปี 1634 นั่นก็คือกรณีของ Takanak Ume ผู้พิพากษาจากเมืองนะงะซะกิที่ครอบครองดายของมุรามาสะมากถึง 24 เล่ม เขาถูกสั่งให้ทำการ “เซ็ปปุกุ” หรือฆ่าตัวตายโดยคว้านท้อง (หรือจะเรียกอีกอย่างว่า “ฮาราคีรี” ก็ได้) เนื่องจากมีการกวาดล้างดาบของมุรามาสะอย่างหนัก หลายๆ คนที่ครอบครองดาบอยู่จึงได้พยามที่จะซ่อนดาบไว้และมีการลบสัญลักษณ์ชื่อของมุรามาสะที่อยู่บนดาบเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่     ในปัจจุบันนั้นการจะหาดาบของมุรามาสะแบบแท้ๆ…

  • เด็กสาวตก “ดาบเอกซ์แคลิเบอร์” เก่าแก่ได้ในทะเลสาบ ราวกับเป็นผู้ถูกเลือกในตำนาน!!

    เด็กสาวตก “ดาบเอกซ์แคลิเบอร์” เก่าแก่ได้ในทะเลสาบ ราวกับเป็นผู้ถูกเลือกในตำนาน!!

    เมื่อพูดถึงดาบในตำนานบนโลกใบนี้ เราก็คงจะนึกถึงดาบกันอยู่แค่ไม่กี่เล่ม แน่นอนว่า เอกซ์แคลิเบอร์ ถือเป็นดาบในตำนานที่ต้องถูกพูดถึงเป็นอันดับแรกๆ อย่างแน่นอน ด้วยความพิเศษและอำนาจของมันที่ผู้ถูกเลือกเท่านั้นจะใช้ได้ ทว่าล่าสุด Matilda Jones หนูน้อยวัย 7 ขวบ ดันตกดาบในตำนานนี้ระหว่างไปออกทริปกับครอบครัวที่ทะเลสาบ  Dozmary Pool ในประเทศอังกฤษได้เฉยเลย แบบนี้เธอก็เป็นคนที่ถูกเลือกสิเนี่ย!!     จากคำบอกเล่าของคนในท้องถิ่น พวกเขาเล่าว่าทะเลสาบแห่งนี้นี่แหละ เป็นทะเลสาบที่กษัตริย์อาเธอร์ได้เอาดาบเอกซ์แคลิเบอร์ของจริงมาทิ้งไว้ หลังจากบาดเจ็บสาหัสหลังสู้รบในเหตุการณ์ Battle of Camlann แต่ที่แปลกกว่าคือ ตอนที่มาถึงทะเลสาบดังกล่าว Paul Jones วัย 51 ซึ่งเป็นคุณพ่อของน้องหนู Matilda พึ่งจะได้คุยกับเธอและ Lois น้องสาวของเธอว่าที่นี้มีตำนานของดาบดังกล่าวอยู่ แล้วไม่นานพวกเขาก็เจอดาบจริงๆ     ซึ่งใครจะเชื่อว่าเด็กสาวที่อยากจะมาเล่นน้ำเพราะอากาศร้อน จะสามารถเจอดาบในตำนานบริเวณแม่น้ำที่ลึกแค่เอวของเด็กสาวได้…ยิ่งบวกเข้ากับที่มาของชื่อ Matilda ที่ตั้งตามจักรพรรดินี Matilda จากราชวงค์อังกฤษด้วยแล้ว มันก็ดูจะเป็นไปได้นะที่เธอจะถูกเลือกจากดาบเล่มนี้     แต่แม้ว่าดาบดังกล่าวจะมีความยาวถึง 1.2 เมตรราวกับเป็นของจริง บวกเข้ากับตำนานต่างๆ แต่คุณพ่อของน้องหนู Matilda ก็บอกว่าตัวดาบอาจจะมีอายุราวๆ 30 ปีเท่านั้น ที่สำคัญมันอาจจะเป็นแค่พรอพประกอบหนังที่ถูกเอามาทิ้งไว้นั่นเอง…   ที่มา dailymail

  • ประวัติศาสตร์อันยาวนานของ “ดาบไวกิ้ง” ตัวแทนแห่งมูลค่า และสัญลักษณ์แห่งอำนาจ…

    ประวัติศาสตร์อันยาวนานของ “ดาบไวกิ้ง” ตัวแทนแห่งมูลค่า และสัญลักษณ์แห่งอำนาจ…

    ดาบยาว (Longsword) หรือสปาตาร์ (Spatha) ไม่ได้เป็นเพียงแค่อาวุธที่น่าเกรงขามเท่านั้น แต่มันยังใช้ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์อันทรงคุณค่า และมักจะถูกรังสรรค์ขึ้นมาโดยช่างตีดาบผู้มากฝีมือ ในบรรดาดาบที่ยังถูกเก็บไว้จนทุกวันนี้ มักจะแฝงไปด้วยเรื่องราวของวัฒนธรรม ศิลปะ สงคราม พิธีกรรมทางศาสนา ประเพณีการฝังศพ กฎหมาย รวมถึงความเกี่ยวข้องทางด้านภาษีด้วย!!     ในระหว่างการครองราชย์ของกษัตริย์ชาร์เลอมาญ Charlemagne (ค.ศ. 768 – 814) ดาบยาวพร้อมฝักมีมูลค่าเท่ากับ 7 เหรียญ Solidus ซึ่งเป็นสกุลเงินในเวลานั้น จากการอ้างอิงภายใน Lex Ribuaria ซึ่งเป็นชุดของกฎหมายโบราณจากศตวรรษที่ 7 ที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องการจ่ายภาษีของผู้คนในยุคสมัยนั้น การจ่ายภาษีในยุคดังกล่าว มักจะถูกจ่ายด้วยสิ่งของ อย่างเช่น ‘ดาบ’ แทนสกุลเงิน ดังนั้นมูลค่าของสินค้าจะถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า ที่น่าสนใจคือดาบที่ไม่มีฝัก จะมีมูลค่าเพียง 3 Solidus เท่านั้น แสดงให้เห็นว่ามูลค่าของดาบขึ้นอยู่กับฝักนั่นเอง ราคานี้เมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์ ก็เปรียบได้กับม้าที่มีสุขภาพแข็งแรง จะมีราคาเท่ากับ 7 Solidus ในขณะที่วัวสุขภาพดีมีราคาเพียง 1 Solidus เท่านั้น     ในช่วงแรก…

  • ดับร้อนช่วงซัมเมอร์ด้วย “ไอศกรีมดาบคาตานะ” ทั้งเย็นและฉ่ำ ผสานวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม!!

    ดับร้อนช่วงซัมเมอร์ด้วย “ไอศกรีมดาบคาตานะ” ทั้งเย็นและฉ่ำ ผสานวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม!!

    เมื่อพูดถึงญี่ปุ่น แน่นอนว่ามีชื่อเสียงในด้านการทำดาบมาตั้งแต่โบราณ เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของประเทศเลยก็ว่าได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ญี่ปุ่นจะมีช่างทำดาบฝีมือดีมากมาย แต่ด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้ต้องพักการตีดาบโลหะไปก่อน และหันมาทำดาบที่เป็นไอศครีมแทน เพื่อดับร้อนในช่วงซัมเมอร์ของญี่ปุ่น ว่าแต่ดาบไอศกรีมมันคืออะไรกันนะ!?     ของหวานที่ดีที่สุดที่จะช่วยดับร้อนคงจะมีแค่ไอศครีมเท่านั้น ดังนั้นญี่ปุ่นจึงของรังสรรค์ไอศกรีมที่ผสานวัตนธรรมของดาบคาตานะลงไป ทำให้เกิดเป็นไอศครีมรูปทรงเหมือนดาบอย่างที่เห็น     โดยผู้ที่รังสรรค์ดาบสุดอร่อยนี้ก็ไม่ใช่ใคร เพราะเป็นเหล่านักเรียนจากโรงเรียนการพาณิชย์และอุตสาหกรรม ณ เมืองเซกิ จังหวัดกิฟู ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ก็เป็นตัวแทนถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมการผลิตดาบอันยาวของชาวเมืองเซกินั่นเอง     ไอศกรีมรูปดาบนี้มีชื่อว่า “Nihonto Aisu” (ไอศกรีมดาบญี่ปุ่น) มีให้ลิ้มลองสองรสชาติ ได้แก่ ส้มยูซุและถั่วแดง ที่เป็นรสชาติดั้งเดิมของญี่ปุ่น และยังมีแป้ง Kuzu หรือแป้งสาคูเพื่อเพิ่มรสสัมผัสอีกด้วย     สำหรับใครที่อยากจะลองชิมดู ก็ต้องรีบๆ ไปหากันมา เพราะว่าสินค้ามีจำนวนจำกัด โดยจะขายในเมืองเซกิ ใกล้ๆ กับทางด่วน Tokai-Hokuriku ในช่วงวันที่ 23-26 สิงหาคม และจะออกขายอีกครั้งในช่วงเทศกาลวัฒนธรรมของเมืองเซกิ ระหว่างวันที่ 7-8 ตุลาคม ราคาอยู่ที่ 1,000 เยน หรือประมาณ 300…

  • ญี่ปุ่นจัดแสดง ‘ดาบพระจันทร์เสี้ยว’ หนึ่งในตำนานสุดยอดห้าดาบใต้หล้า พร้อมให้ชมกันแล้ว!!

    ญี่ปุ่นจัดแสดง ‘ดาบพระจันทร์เสี้ยว’ หนึ่งในตำนานสุดยอดห้าดาบใต้หล้า พร้อมให้ชมกันแล้ว!!

    หากจะพูดถึงประเภทของดาบที่มีชื่อเสียงอยู่ทั่วโลกหลายๆ คนก็จะได้นึกถึง Katana ดาบแห่งประเทศญี่ปุ่น ที่มีความงดงามน่าหลงใหลในรูปลักษณ์ของมัน ที่มากไปกว่านั้นเมื่อถามผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ถึงที่สุดของ Katana ก็จะต้องเป็น “ห้าดาบใต้หล้า” หรือที่ญี่ปุ่นเรียก Tenko Goken โดยทั้ง 5 เล่มนั้นได้นำเสนอถึงรูปแบบวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และฝีมืออันยอดเยี่ยมของช่างที่ตีดาบเหล่านี้ขึ้นมา     ซึ่ง Mikatzuki Munechika นั้นคือดาบที่หลายคนจัดให้มีความงดงามที่สุดในทั้ง 5 เล่ม และในตอนนี้ก็ได้มีการจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์นานาชาติโตเกียว ชื่อของดาบที่ดูเหมือนจะเป็นชื่อของคนมากกว่านั้น ก็ด้วยเหตุผลที่ว่าส่วนหนึ่งมาจากชื่อของช่างที่ตีดาบนี้คือ Sanjo Munechika เขาเป็นหนึ่งในช่างตีดาบที่มีฝีมือมากที่สุดในยุคเฮอัน (ช่วงปีค.ศ. 794 ถึง 1185) โดยดาบเล่มนี้นั้นได้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 10     ส่วนชื่อ Mikazuki นั้นในญี่ปุ่นมีความหมายว่า พระจันทร์เสี้ยว โดยในระหว่างการตีดาบประเภทนี้นั้นก็จะสร้างลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ลงไปบนผิวดาบแต่ละเล่ม สำหรับเล่มนี้นั้นมีลักษณะคล้ายจันทร์เสี้ยวที่โค้งอย่างสวยงาม เป็นเรื่องน่าเสียดายที่การจะถ่ายรูปให้เห็นลวดลายผ่านกระจกป้องกันที่กั้นไว้นั้นแทบเป็นไปไม่ได้ แต่รูปทรงและแสงสะท้อนจากตัวเหล็กกล้านั้นก็ยังคงสามารถจับภาพไว้ได้     ดาบ Mikazuki Munechika ในช่วงประวัติศาสตร์อันยาวนานพันปี ก็ได้มีผู้ที่เป็นตำนานในอดีตได้นำมันไปใช้ เช่น ในศตวรรษที่ 16 ได้แก่ยอดซามูไรอย่าง Toyotomi Hideyoshi…

  • คนงานก่อสร้างบังเอิญค้นพบ “ดาบอัศวินโบราณ” อายุ 600 ปี ว่ากันว่าสมบูรณ์ที่สุด เท่าที่เคยพบมา

    คนงานก่อสร้างบังเอิญค้นพบ “ดาบอัศวินโบราณ” อายุ 600 ปี ว่ากันว่าสมบูรณ์ที่สุด เท่าที่เคยพบมา

    ในสมัยโบราณ ช่วงเวลาก่อนที่มนุษย์จะต่อสู้กันด้วยปืน หลายชนชาติล้วนเคยใช้ดาบมาก่อน แต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒไปแบบก้าวกระโดด ทำให้ดาบเริ่มกลายเป็นสิ่งที่ล้าหลังและไม่มีใครใช้อีกต่อไป ดาบบางเล่มถูกเก็บเข้าพิพิธพันธ์เพื่อนำไปโชว์ ในขณะที่บางเล่มก็สูญหายไปตามกาลเวลา     แต่เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Nationalgeographic ได้รายงานว่ามีคนงานก่อสร้างรายหนึ่งในเมือง Hrubieszow ประเทศโปแลนด์ค้นพบดาบอัศวินเก่าแก่ที่มีอายุราวๆ 600 ปีโดยบังเอิญแถวๆ บึงแห่งหนึ่ง ซึ่งดาบเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ 13 ถึง 14 เลย     ตัวดาบมีขนาดยาวประมาณ 1.2 เมตร และมีน้ำหนักราวๆ 1.3 กิโลกรัม แต่สิ่งที่มันน่าอะเมซิ่งมากๆ สำหรับการค้นพบครั้งนี้ก็คือ ถึงตัวดาบจะเก่าแก่ที่สุดแต่มันก็อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มากๆ Bartłomiej Bartecki ผู้บริหารพิพิธภัณฑ์ในโปแลนด์ให้ความเห็นว่ามันมีความเป็นไปได้ที่อัศวินผู้เป็นเจ้าของดาบเล่มนี้อาจจะถูกผลักตกลงไปในบึงหรือไม่ก็อาจจะทำหล่นเอาไว้ที่นั่นเอง     ตามรายงานไม่ได้เปิดเผยแหล่งที่ค้นพบที่แน่ชัด เนื่องจากกลัวว่าจะมีกลุ่มคนแห่กันไปขุดดินและสร้างความวุ่นวาย แต่มีการอนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญและนักโบราณคดีเข้าไปเป็นการส่วนตัว เพราะอาจจะมีสมบบัติและวัตถุโบราณรอให้ถูกค้นพบอีกหลายอย่าง ตัวดาบจะถูกส่งไปทำความสะอาดและวิเคราะห์ก่อนจะส่งมอบมันให้กับพิพิธภัณฑ์ Stanisław Staszic ในเดือนกันยายน 2017 นี้ ที่มา ladbible

  • พิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่นจัดแสดง คาตานะจากหินแร่ดาวตก ผลงานของ Okayoshi ช่างตีดาบในตำนาน!!

    พิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่นจัดแสดง คาตานะจากหินแร่ดาวตก ผลงานของ Okayoshi ช่างตีดาบในตำนาน!!

    ในหนังสือการ์ตูนเกี่ยวกับเหล่านักดาบ เพื่อนๆ อาจจะเคยได้ยินว่าในดาบแต่ละเล่มนั้นมีความแตกต่างกันไป ตามฝีมือและวัสดุที่ช่างตีดาบคนนั้นๆ ใส่ลงไปในดาบที่ตัวเองตี และดาบในตำนานส่วนมากนั้น มักจะใส่แร่จากหินดาวตกลงไปอีกด้วย หลายๆ คนอาจจะคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องแต่งในหนังสือเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วการตีดาบแบบนี้นั้นเกิดขึ้นจริงๆ และกำลังจัดแสดงอยู่ในใจกลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเลยล่ะ Mori Art Museum ที่ตั้งอยู่บนชั้น 53 ของตึก Roppongi Hills ในกรุงโตเกียว กำลังจัดงาน The Universe and Art นิทรรศการศิลปะที่รวบรวมงานศิลป์ต่างๆ ไว้มากมาย   นั่นรวมถึงดาบคาตานะที่ตีขึ้นมาจากแร่ของหินดาวตกด้วยล่ะ!!   ดาบคาตานะเล่มนี้มีความยาว 68.6 เซนติเมตร หรือราวๆ 27 นิ้วพอดี ถูกตีขึ้นโดยปรมาจารย์ช่างตีดาบเลื่องชื่อ Kunimine Okayoshi ในปี 1898 ที่นอกจากคมดาบจะสวยงามไม่แพ้คาตานะชื่อดังเล่มอื่นๆ ด้วยแล้วนั้น ดาบเล่มนี้ยังถูกตีขึ้นโดยใช้หินแร่จากดาวตกซะด้วย!!   ดูคลิปวิดีโอกันได้ที่นี่   ดาบเล่มนี้มีความสวยงามมาก จนกลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการผลิตงานศิลปะของศิลปินหลายๆ ท่าน นั่นรวมไปถึง Yoshitaka Amano นักออกแบบตัวละครผู้โด่งดังจากแอนิเมะเรื่อง Gatchaman และซีรี่ส์เกม Final Fantasy ด้วย…

  • ญี่ปุ่นจัดแสดง ดาบต้องคำสาปในตำนาน ‘มุรามาสะ’ รวบรวมมากว่า 20 เล่มจากทั่วประเทศ!!

    ญี่ปุ่นจัดแสดง ดาบต้องคำสาปในตำนาน ‘มุรามาสะ’ รวบรวมมากว่า 20 เล่มจากทั่วประเทศ!!

    ในตำนานของทุกๆ ประเทศ แน่นอนว่าจะมีเรื่องราวที่มีความเป็น ‘อาถรรพ์’ และ ‘วิญญาณร้าย’ อยู่ วันนี้เราก็จะพาเพื่อนๆ ดำดิ่งลงไปในตำนานของแดนซามูไร เกี่ยวกับดาบคาตานะ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองเจตจำนงแห่งการ ‘ฆ่า’ เพียงเท่านั้น!! คาตานะ หรือดาบซามูไรญี่ปุ่นนั้น นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ยังแฝงไปด้วยประเพณีและวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของประเทศญี่ปุ่น และดาบขึ้นชื่อของแต่ละสำนักตีดาบนั้น มักจะถูกตีขึ้นเพื่อครอบครัวใหญ่ๆ ของชนชั้นสูง หนึ่งในดาบในตำนานของประเทศญี่ปุ่นนั้นมีชื่อว่า Muramasa ที่ถูกตีขึ้นโดย Muramasa Sengo ที่ได้ชื่อว่าเป็นดาบอาถรรพ์ที่จะกลืนกินผู้ใช้ให้คลั่งไคล้ในการฆ่าและหลั่งเลือดทุกครั้งที่ออกจากฝัก!!   ตอนนี้พิพิธภัณฑ์ Kuwana ในจังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่นกำลังจัดแสดงดาบต้องคำสาปเหล่านี้อยู่…   ว่ากันว่าช่างตีดาบโดยทั่วไปแล้วจะเน้นไปที่การทำให้ดาบออกมาดูสวยงาม คม และแข็งแกร่งที่สุด   แต่ Muramasa เจ้าของสำนักตีดาบแห่งนี้จะใช้เวลาตีดาบทั้งวัน ทุบฆ้อนไปด้วยความปรารถนาแห่งการฆ่าและปลิดชีวิตเป้าหมายใดก็ตามที่ดาบของเขาเข้าถึง!!   งานของเขานั้นประณีตมาก จนไปเตะตาของ Tokugawa Ieyasu โชกุนในยุคนั้นเข้าให้   แต่ดาบของมุรามาสะนั้น ก็สร้างบาดแผลให้โชกุนมากมายเหลือเกิน เพราะทั้งพ่อและปู่ของเขาก็ต่างถูกสังหารด้วยคมดาบนี้   และลูกชายคนโตของโชกุนก็ยังถูกบังคับให้ทำฮาราคีรีโดยใช้ดาบเล่มนี้ ตอนที่พ่ายแพ้และถูกจับโดยศัตรู   นอกจากนี้ตัวโชกุนเองก็ยังเคยได้รับบาดเจ็บจากคมดาบนี้ด้วย…   จากประวัติศาสตร์และความโชคร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตัวเขาและครอบครัว ทำให้เขาประกาศห้ามการพกดาบของช่างตีดาบคนนี้อย่างเด็ดขาด  …

  • โจรควักดาบเล็กปล้นร้านขายของ พอเจ้าของร้านหยิบดาบเล่มเบ้อเร่อขึ้นมา วิ่งหนีแทบไม่ทัน!!

    โจรควักดาบเล็กปล้นร้านขายของ พอเจ้าของร้านหยิบดาบเล่มเบ้อเร่อขึ้นมา วิ่งหนีแทบไม่ทัน!!

    ในยุคที่ข้าวยากหมากแพงแบบนี้ ทำให้การหางานทำเป็นเรื่องที่ยากขึ้นเรื่อยๆ บางคนถึงขั้นตัดสินใจไปปล้นคนอื่นเพื่อนำเงิน (ที่ได้มาแบบผิดๆ) มาใช้จ่าย แต่จะเป็นโจรในยุคนี้ก็ไม่ง่ายเหมือนกันนะ เพราะคุณจะต้องเจอกับเจ้าของทรัพย์สินที่โหดขึ้นเหมือนกัน…     อย่างเช่นข่าวนี้ เป็นเหตุการณ์การปล้นทรัพย์ที่เกิดขึ้นในร้านเพอร์รี่มาร์เก็ต เมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐฯ ในช่วงค่ำคืนหนึ่งมีโจร 2 คนสวมหมวกไอ้โม่งวิ่งเข้าไปในร้านขายของชำแห่งนี้ พร้อมกับควักมีดด้ามหนึ่งออกมาเพื่อข่มขู่เจ้าของร้านเพื่อส่งเงินให้กับพวกเขา     แต่เหมือนโจร 2 คนนี้จะปล้นเงินผิดคนซะแล้ว เพราะเจ้าของร้านที่อยู่ในเคาน์เตอร์ได้ก้มหยิบดาบเล่มที่ใหญ่กว่าของโจรขึ้นมา เมื่อโจรเห็นเข้าจึงเกิดอาการตกใจและวิ่งหนีไปทันที ถึงแม้จะไม่สามารถวิ่งตามจับโจร 2 คนนั้นได้ แต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไรเลย     ทางด้านนาย M.C. Hydare พี่ชายของเจ้าของร้านในคลิปให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เขาหยิบดาบขึ้นมาไว้ในมือ ส่วนน้องชายผมก็หยิบดาบขึ้นมาบ้าง จากนั้นเขาก็วิ่งหนีไปเลย” “คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย คุณยังหนุ่มยังแน่น แข็งแรงสุขภาพดี ฉะนั้นไปหางานทำซะ นี่ไม่ทางของคุณ หนทางนี้มีแต่จะนำคุณไปสู่ความตายไม่ก็เข้าคุก อย่าทำแบบนี้เด็ดขาด คุณมีวิธีหาเงินที่ดีกว่านี้แน่นอน”     ชมคลิป   #เหมียวฟิ้น ได้ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมถึงทราบว่าเป็นเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2015 แต่มีบางเว็บไซต์ที่นำเอากลับมาเผยแพร่อีกครั้ง ทำให้ข่าวนี้กลับมาโด่งดังนั่นเอง จากเหตุการณ์บอกให้เรารู้ว่าจะปล้นใครให้ใช้ดาบเล่มใหญ่ๆ เอ้ย อย่าไปปล้นใครเขาเลยนะ มีมือมีเท้าเหมือนกัน…

  • งานดีไปอีก!! พ่อหนุ่มขอแฟนแต่งงานด้วย ‘กระบี่แสงในคราบอภินิหารแหวนครองพิภพ’

    งานดีไปอีก!! พ่อหนุ่มขอแฟนแต่งงานด้วย ‘กระบี่แสงในคราบอภินิหารแหวนครองพิภพ’

    กระแสความแรงของภาพยนตร์สงครามแห่งกาแล็คซี่มีไม่หยุดจริงๆ อย่างภาคล่าสุด The Force Awakens ก็เพิ่งเข้าโรงไปหมาดๆ ทำเอาแฟนคลับตื่นเต้นกันยกใหญ่ ในทางกลับกันกับภาพยนตร์อภินิหารแหวนครองพิภพ ก็ได้จบลงไปอย่างสมบูรณ์แล้ว แม้ว่าจะมีส่วนขยายออกไปนิดหน่อย แต่กระแสก็เริ่มจางๆ ลงไป     อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่านำจุดเด่นของทั้งสองเรื่องมารวมร่างกันล่ะ มันจะออกมาเป็นแบบไหน? พ่อหนุ่มนามว่า Dave ได้นำไอเดียดังกล่าวมาทำเป็นของเพื่อขอแฟนสาวแต่งงาน แต่ไม่ใช่แหวนนะ กลายมาเป็น ‘กระบี่แสง’ แทน     และด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของกระบี่แสงมารวมตัวกับลวดลายตัวอักษรโบราณ จึงออกมาเป็นกระบี่แสงที่มีความงดงามในโลกของอภินิหารแหวนครองพิภพ อีกทั้งยังเป็นบทกลอนความรักที่งดงามสลักลงไปบนตัวกระบี่ด้วย     ผลงานสุดจี๊ดนี้สร้างสรรค์โดย Vader’s Vault และได้ตั้งชื่อให้กับกระบี่แสงที่งดงามเล่มนี้ว่า Arod Megil ชื่อก็ยังเท่เลยแฮะ     เผยให้เห็นคริสตัลแหล่งให้กำเนิดพลังงาน   หลักการทำงานของมันจะเป็นยังไงหว่า? ชวิ้งงงงง โหว่ม โหว่ม   ถ้ายังดูแล้วไม่อิ่ม จัดแบบคลิปไปสิจ๊ะ จะรออะไร!!   ที่มา : thechive

  • Jack Churchill บรุษทหารอังกฤษ ผู้ใช้ดาบและธนูสู้ศึกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

    Jack Churchill บรุษทหารอังกฤษ ผู้ใช้ดาบและธนูสู้ศึกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

    ในอดีตยุคโบราณยังไม่มีการผลิตอาวุธปืนขึ้นมาใช้งาน การออกรบของนักรบนั้นก็จะต้องพึ่งพาดาบและธนูในการปรามข้าศึก แต่พอมาถึงยุคสมัยที่การรบเริ่มเปลี่ยนแปลง อาวุธปืนก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่มีทหารผู้หนึ่งเลือกที่จะไม่ใช้ปืน เขากลับเลือกใช้ดาบและธนูแทน!!   การนำหน่วยในระหว่างฝึกด้วยการพกดาบและภาพการยิงธนูในการแข่งขันยิงธนู   ทหารผู้นั้นมีนามว่า Jack Churchill หรือในนาม Fighting Jack Churchill และ Mad Jack เขาเกิดที่เมือง Surrey ประเทศอังกฤษ จบการศึกษาจากโรงเรียนนายทหาร Sandhurst Military Academy ในปีค.ศ. 1926   ดาบยาวของ Jack Churchill ที่พกติดตัว   โดยหลังจากที่เขาจบการศึกษาก็ได้เข้าประจำการในกองทัพอังกฤษ ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศพม่า ภายหลังในปีค.ศ. 1936 เขาก็ปลดประจำการและเข้าทำงานในฐานะบรรณาธิการหนังสือพิมพ์แทน     แต่แล้วเขาก็กลับเข้ามารับใช้กองทัพอังกฤษอีกครั้งในปีค.ศ. 1940 หลังจากที่หลังโปเเลนด์ถูกเยอรมันรุกราน และสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักไปทั่วก็คือ การที่เขาเลือกจะพกดาบยาวและธนูเข้าสู้ศึก!!     Jack Churchill เป็นทหารเพียงคนเดียวที่ใช้ดาบกับธนู ในช่วงที่หน่วยของเขาซุ่มโจมตีหน่วยลาดตระเวนของเยอรมัน เขาใช้สัญญาณการโจมตีด้วยลูกธนูพิฆาตปักที่หน้าอกของศัตรู แทนที่จะใช้เสียงจากนกหวีดหรือการตะโกน    …

  • ฉับเดียวขาด!! ซามูไรตัดลูกเบสบอลความเร็ว 160 กม./ชม. ที่พุ่งเข้ามาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

    ฉับเดียวขาด!! ซามูไรตัดลูกเบสบอลความเร็ว 160 กม./ชม. ที่พุ่งเข้ามาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

    ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะเจริญทางด้านเทคโนโลยีและศิลปะ แต่เขาก็ยังไม่ลืมที่จะคงความเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นไว้ และนำไปประยุกต์ใช้ให้ร่วมสมัย นั่นทำให้หลายๆสิ่งในอดีตไม่เคยจางหายไป อย่าเช่นซามูไร ซึ่งเป็นทหารที่มีทักษะการใช้ดาบขั้นสูง ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังมีคนอนุรักษ์และฝึกการใช้ดาบอยู่เรื่อยมา   ชายคนนี้มีชื่อว่า อิซาโอะ มะชิอิ หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม “ซามูไรแห่งยุคเฮเซ” ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเป็นที่โด่งดังเป็นอย่างมากจากการแสดงตัดของต่างๆด้วยการใช้ดาบที่ชื่อว่าไออิโด้ และครั้งนี้เขาจะทการตัดลูกเบสบอลที่ยิงออกมาจากเครื่องยิงลูก ด้วยความเร็วทั้งหมดประมาณ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แน่นอนว่าต้องมีประสาทที่ไวมากๆ ถึงจะฟันได้ตรงจังหวะที่บอลยิง อีกทั้งยังต้องฟันให้โดนด้วย เราไปดูคลิปกันเลยดีกว่า   บอกได้คำเดียวมันยากมากๆ เพราะการฟันที่เรียกกันว่า “อิไอ” โดยการดึงดาบออกมาจากฝักแล้วฟันทีเดียว ซึ่งผู้ใช้ดาบต้องผ่านการฝึกฝนมานานมากๆ ถึงจะทำแบบนี้ได้ ที่มา oriconofficial

  • ชุดเกราะ-อาวุธสุดล้ำ ศิลปะการต่อสู้แห่งโลกอนาคตในรูปแบบของกีฬา ที่น่าเล่นสุดๆ !!!

    ชุดเกราะ-อาวุธสุดล้ำ ศิลปะการต่อสู้แห่งโลกอนาคตในรูปแบบของกีฬา ที่น่าเล่นสุดๆ !!!

    โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว เหมียวว่ามันจะต้องเป็นอะไรที่ มันส์โคตรๆ แน่นอน กับผลิตภัณฑ์ในขั้นทดลองของทาง Unified Weapons Master ชิ้นนี้ โดยอุปกรณ์หลักๆ แล้วก็มีอาวุธหลากหลายชนิด รวมถึงชุดเกราะติดเซ็นเซอร์ที่เรียกกันว่าชุด Lorica ที่ตรวจวัดได้ในส่วนของความรุนแรงที่ส่วนนั้นๆ โดน เพื่อนำมาประเมิณความเสียหายต่อพลังชีวิต   ระหว่างการแข่งขัน   ชุดเกราะ Lorica สุดล้ำ   เวลาต่อสู้มีพลังลดแบบนี้ให้เห็นกันเลย   จะหมัด จะมวย จะมีด จะไม้ ได้หมด!!!   ส่วนประกอบต่างๆ ของชุด   อาวุธต่างๆ เลือกใช้สอยกันได้ตามสบาย   ลองมาชมคลิปวิดีโอกันแบบเต็มๆ ได้ที่นี่ อื้อหืออออ บอกได้คำเดียว น่าเล่นสุดๆ คือทำไมไม่รู้เหมียวอยากจะมีไว้ฟาดกบาลกันเล่นกับเพื่อนๆ เสียจริงๆ ท่าจะสนุกน่าดู ติดตรงที่ราคามันเนี่ยแหละ แพงเหลือเกินนนน T^T ที่มา: Thechive

  • ชมคลิป “โจรปล้นร้านด้วยดาบ” เจอเจ้าของชักดาบที่ใหญ่กว่าออกมา งานนี้เผ่นเป็นป่าราบ!!!

    ชมคลิป “โจรปล้นร้านด้วยดาบ” เจอเจ้าของชักดาบที่ใหญ่กว่าออกมา งานนี้เผ่นเป็นป่าราบ!!!

      นี่อาจจะเป็นเหตุการณ์ปล้นที่ฮาที่สุดเลยก็ว่าได้เมื่อมีโจร 2 คนแต่งตัวคล้านนินจา พร้อมกับอาวุธดาบ บุกเข้าไปปล้นร้านมินิมาร์ทยามค่ำคืน แล้วก็ต้องเงิบ เมื่อเจ้าของร้านได้ชักดาบที่มีขนาดใหญ่กว่ามากออกมาขู่ ซึ่งภาพทั้งหมดถ่ายไว้ด้วยกล้องวงจรปิด ภายในภาพเราจะเห็นชายสองคนพยายามที่จะปล้นร้าน Perry Market ในคืนวันศุกร์ โจรคนหนึ่งพยายามที่จะไปหลังเคาเตอร์เมื่อที่จะรีดเอาเงิน แต่แล้วเจ้าของร้านคือนาย Jewad Hayih ได้เตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์นี้ไว้แล้ว โดยการเอาดาบที่ใหญ่กว่ามาก จนโจรเผ่นหายไปเลย อีกทั้งความจริงแล้วเขาก็มีปืนไว้ป้องกันตัวด้วยนะ แต่เขาเลือกที่จะใช้ดาบมากกว่า   ถือเป็นการปล้นที่ FAILED เหลือเกินจนหลายคนพูดกันขำๆว่าพวกนี้เป็นพวกนินจาวันนาบีที่อยากเป็นโจร ที่มา TheGro100

  • ทำความรู้จักดาบโบราณ 800 ปี ที่มีตัวอักษรโบราณเขียนอยู่ ไม่มีใครรู้ว่ามันหมายความว่ายังไงเลย!?

    ทำความรู้จักดาบโบราณ 800 ปี ที่มีตัวอักษรโบราณเขียนอยู่ ไม่มีใครรู้ว่ามันหมายความว่ายังไงเลย!?

    ย้อนกลับไปในยุคที่มนุษย์เริ่มมีการประดิษฐ์อักษรเพื่อใช้ในการสื่อสารต่างๆ ก่อนที่จะมาเป็นภาษาทางการปัจจุบันอย่างเช่นภาษาอังกฤษนั้น ข้อความต่างๆ ไม่อาจสามารถเข้าใจได้เลยว่าหมายถึงอะไร และอักษรเหล่านั้นก็ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน หอสมุดของประเทศอังกฤษได้ทำการเก็บดาบเล่มนี้เอาไว้ และพยายามที่จะถอดความหมายจากอักษรโบราณที่สลักอยู่บนดาบอายุ 800 ปีเล่มนี้ จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถหาความหมายที่แท้จริงได้เลย สำหรับดาบเล่มนี้เป็นดาบที่มีคมทั้งสองด้านและเป็นส่วนหนึ่งของ “มหากฎบัตร” (Magna Carta) มีประสิทธิภาพมากพอที่จะสามารถตัดหัวมนุษย์ให้ขาดเป็นสองท่อนได้!! สิ่งที่ยังคงค้างคาใจมาจนถึงปัจจุบันก็คือ ข้อความที่สลักอยู่บนดาบนี่แหละ โดยมีใจความว่า +NDXOXCHWDRGHDXORVI+ อาจจะเป็นรูปแบบของภาษาลาติน ซึ่ง ND น่าจะเป็น Nostrum Dominos แปลว่า ผู้เป็นเจ้า และ XOX น่าจะหมายถึง สัญลักษณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ไม้กางเขน) ซึ่งข้อความเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งของพิธีการของอัศวิน และมีด้ามจับดาบเหมือนกับไม้กางเขน เพื่อเป็นสิ่งที่ไว้ยึดเหนี่ยวให้อัศวินปฏิบัติตามหน้าที่ของตนอย่างเคร่งครัด คาดว่าเป็นดาบจากสมัยยุคกลางของยุโรป อย่างไรก็ตามความหมายของดาบเล่มนี้ก็ยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ อักษรโบราณเหล่านี้อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดเอาไว้ก็ได้ ที่มา : thechive

  • นี่คือ 7 บุคคลที่มี “ทักษะการใช้ดาบ” ต่ำจนถึงขั้นเกือบทำร้ายตัวเอง

    นี่คือ 7 บุคคลที่มี “ทักษะการใช้ดาบ” ต่ำจนถึงขั้นเกือบทำร้ายตัวเอง

    ดาบถือเป็นอาวุธที่อันตรายมากๆ ถ้าใครเคยลองจับก็พอจะรู้ว่ามันไม่ได้ควบคุมง่ายเหมือนที่เราเห็นในการ์ตูนหรือเกม วันนี้เหมียวจะพาทุกท่านมาดูบุคคลที่พยายามจะโชว์ลีลาการใช้ดาบ แต่กลับพลาดจนเกือบเรื่องขึ้น ซึ่งบางคนก็ถึงกับเลือดตกยางออกกันเลยทีเดียว เราไปดูกันเลยดีกว่า   ซวยแล้วสิ   แม่นเหลือเกิน   เกือบไปแล้ววววววว   อ่ะ นั่นไง   เพลงดาบท่านไวมาก   ดาบล่องหนแน่ๆ   หวังว่าสีแดงๆนั่นคงจะไม่ใช่….   ที่มา distractify

  • เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าคิดจะเอาดาบมาผ่าแตงโม เพราะไอ้ที่แตก มันไม่ใช่แตงโมน่ะสิ!!!

    เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าคิดจะเอาดาบมาผ่าแตงโม เพราะไอ้ที่แตก มันไม่ใช่แตงโมน่ะสิ!!!

    ตามตำนานดาบของญี่ปุ่น เขาบอกว่าดาบดีๆ สามารถตัดได้แม้กระทั่งกระดาษบางๆ หรือสามารถตัดแตงโมได้ในฉับเดียว เหมียวเชื่อว่าหลายๆคนก็คงอยากลองว่า ถ้าลองเอาดาบไปฟันใส่แตงโม มันจะขาดสองท่อนจริงมั้ย   ชายคนนี้ก็เลยอยากลองว่า ถ้าเขาเอาดาบสับแตงโม มันจะเกิดอะไรขึ้น…แต่เชื่อเถอะ ผลลัพธ์มันไม่ใช่อย่างที่เขาคิดแน่อน   ไปชมความเงิบกันเลย     เล่นเอาโต๊ะกระจายเลยทีเดียว ส่วนแตงโมไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย 5555 เรียกได้ว่าเงิบสองชั้น ทีหลังจะลอง ไปลองบนพื้นแข็งๆนะ ที่มา Kirstin C.