Tag: ช่วยโลก

  • นายกสหราชอาณาจักร ประกาศแบนหลอดพลาสติก คอตตอนบัด และอื่นๆ อีกเพียบ

    นายกสหราชอาณาจักร ประกาศแบนหลอดพลาสติก คอตตอนบัด และอื่นๆ อีกเพียบ

    ถ้าคุณคือคนที่รักในการใช้คอตตอนบัด รักในการดูดน้ำจากหลอดพลาสติกและที่สำคัญคุณกำลังอาศัยหรือมีแผนไปอยู่อังกฤษ คุณคงต้องเตรียมรับมือกับการใช้ชีวิตใหม่ที่ไม่มีสิ่งของดังกล่าว เพราะอังกฤษเตรียมแบนของใช้ดังกล่าวแล้ว!? เพราะล่าสุด ‘เทเรซา เมย์‘ นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรได้ออกมาประกาศว่า เธอจะให้ประชากรในประเทศหันไปสนใจและดูแลโลกให้มากขึ้น ด้วยการแบนของใช้ที่ทำจากพลาสติกอย่างหลอด คอตตอนบัดและที่คนแก้วน้ำ     ซึ่งเธอให้เหตุผลว่าเธอจะพยายามให้ประชาชนลดการใช้สินค้าที่ไม่เป็นมิตรต่อโลกให้มากที่สุด ซึ่งนอกจากของที่กล่าวมาแล้ว เธอยังคาดว่าจะจัดการของใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเช่นแก้วน้ำหรือขวดน้ำเป็นต้น นอกจากนี้ เธอยังบอกว่าปัญหาดังกล่าวจะส่งผลต่อภาคธุรกิจน้อยกว่าการขึ้นภาษีเสียอีก และเธอก็แนะนำให้คนเริ่มหันไปผลิตของใช้ทดแทนที่ทำจากไม้หรือวัสดุย่อยสลายง่ายต่างๆ แทน   ของใช้พลาสติกจำพวกใช้แล้วทิ้งถือเป็นเป้าหมายหลักในการแบนครั้งนี้ .   เทเรซายังให้เหตุผลอีกว่าในหนึ่งปีนั้น พลาสติกถือเป็นวัสดุอันดับต้นๆ ที่ถูกทิ้งลงทะเลโดยมีสถิติรวมอยู่ที่ 12 ล้านตันเลยทีเดียว ฉะนั้นเพื่อรักษาโลกและระบบนิเวศทางทะเล เธอจึงต้องเริ่มการเปลี่ยนแปลงนี้     อย่างไรก็ตาม การแบนสินค้าพลาสติกดังกล่าวนั้นไม่ได้เริ่มทันที เพราะเธอบอกว่าเธอเข้าใจและอยากจะให้เวลาประชาชนได้ปรับตัวและหาทางเลือกอื่นก่อน ซึ่งการแบนนี้จะส่งผลจริงในปี 2019 และจะยังมีผลแค่ในประเทศอังกฤษเท่านั้น แต่เธอก็หวังว่าการแบนนี้จะส่งผลดีและขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในสหราชอาณาจักรเช่น เวลส์และสกอตแลนด์เป็นต้น   ที่มา ladbible, dailymail

  • สภาท้องถิ่นอังกฤษวางแผนเตรียมนำ ‘ขวดพลาสติก’ มารีไซเคิลใช้ทำ ‘ยางมะตอยราดถนน’

    สภาท้องถิ่นอังกฤษวางแผนเตรียมนำ ‘ขวดพลาสติก’ มารีไซเคิลใช้ทำ ‘ยางมะตอยราดถนน’

    ขวดพลาสติกนั้นถือเป็นขยะที่มีการทิ้งและรีไซเคิลมากเป็นอันดับต้นๆ ของปริมาณขยะทั้งหมดในโลก ซึ่งการจะนำไปรีไซเคิลและกลับมาใช้ใหม่บางครั้งมันก็ไม่สามารถจะช่วยลดปริมาณพลาสติกได้ทั้งหมด งานนี้ทางสภาเมืองย่านเอนฟิลด์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จึงคิดหาทางออกใหม่ในเรื่องนี้ ทางออกที่ว่านั่นก็คือการนำขวดพลาสติกมาใช้ทำถนนราดยาง ซึ่งเดิมทีการทำถนนราดยางมะตอบนั้นจะมีส่วนผสมแค่ยางมะตอยเพียงอย่างเดียวเท่านั้นซึ่งทางการคิดว่ามันยังไม่ดีพอ     แต่ว่าเมื่อนำขวดพลาสติกมาผสมเข้ากับยางมะตอย ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นเรียกว่าล้นเหลือ ทั้งทำให้สภาพถนนนั้นทนทานและใช้งานได้นานขึ้น แถมยังช่วยจัดการปริมาณขยะขวดพลาสติกที่มีเยอะจนจะนำไปรีไซเคิลในทางอื่นๆ จนไม่ทันได้อีก ที่สำคัญมันจะช่วยลดจำนวนหลุมบนท้องถนนได้ดีเลยทีเดียว!! Daniel Anderson สมาชิกฝ่ายสิ่งแวดล้อมของสภาเมืองย่านเอนฟิลด์ได้กล่าวว่า “พวกเราล้วนรู้ว่า พลาสติกนั้นสามารถส่งผลเสียร้ายแรงให้แก่สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเมื่อมันถูกนำไปทิ้งลงทะเล ฉะนั้นพวกเราจะต้องมีส่วนร่วมในการยื่นมือเข้ามาช่วยสิ่งแวดล้อมด้วยการรีไซเคิลมันให้มากขึ้น และมีความรับผิดชอบต่อวัสดุที่เราใช้ด้วย”   ปัญหาขยะที่เป็นขวดพลาสติกนั้นถือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก ถ้าหาทางกำจัดมันได้เร็วขึ้นและนำมาใช้ใหม่ได้ดีขึ้น ก็คงจะดีมากๆ เลยนะ   ทางการได้วางแผนจะเริ่มใช้ยางมะตอบแบบผสมพลาสติกในเดือนมีนาคม 2018 ที่จะถึงนี้ ส่วนผลที่ออกมาจะดีจริงไหม แล้วประเทศอื่นจะตามรอยแนวทางนี้ไหม เราก็คงต้องมาดูผลลัพธ์ของทางอังกฤษกันต่อไป     ซึ่งถ้าผลลัพธ์มันออกมาดี บ้านเราก็น่าจะลองดูบ้างนะ ทั้งช่วยโลกและยังประหยัดงบด้วย ไม่แน่อาจจะทำให้ถนนลูกรังหายไปจากประเทศจริงๆ ก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นเราคงจะได้มีรถไฟความเร็วสูงใช้เสียที…   ที่มา metro

  • หมู่บ้านปลอดขยะในญี่ปุ่น ด้วยนโยบายสุดเจ๋งที่ได้เปลี่ยนชีวิตทุกคนที่นี่ไปตลอดกาล!!

    หมู่บ้านปลอดขยะในญี่ปุ่น ด้วยนโยบายสุดเจ๋งที่ได้เปลี่ยนชีวิตทุกคนที่นี่ไปตลอดกาล!!

    บอกไปใครก็คงไม่อยากจะเชื่อ ว่าจะมีหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่สามารถทำให้ขยะหายไปได้ตลอดกาล เพราะอย่างน้อยทุกคนก็จะต้องมีการทิ้งขยะกันบ้างไม่มากก็น้อย แต่หมู่บ้าน Kamikatsu ในจังหวัดโทะกุชิมะประเทศญี่ปุ่นสามารถทำได้จริงๆ !! หมู่บ้าน Kamikatsu นั้นมีประชากรอาศัยอยู่ราว 1,500 คน ซึ่งปัจจุบันถือเป็นเมืองที่มีอัตราการปลอดขยะเยอะที่สุดในญี่ปุ่น โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นมันเริ่มมาจากที่สมัยก่อนชาวบ้านมักจะเผาขยะที่บ้านของตนเอง จึงทำให้เกิดอากาศที่ไม่สะอาดขึ้น และมันก็ส่งผลกับทุกสิ่งมีชีวิตรอบๆ     ด้วยเหตุนี้ทางหมู่บ้านจึงเริ่มนโยบายที่เรียกว่า ‘Zero Waste‘ ขึ้นมา โดยนโยบายดังกล่าวนั้นจะให้ชาวเมืองทุกคนแยกขยะอย่างชัดเจนโดยต้องไม่ทิ้งหรือเผาขยะของพวกเขาเลย และเมื่อเวลาผ่านไปอัตราการรีไซเคิลของหมู่บ้านนี้ก็เพิ่มสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับที่อื่นๆ รอบญี่ปุ่นที่มีอัตราอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น   คุณ Akira Sakano หญิงสาวผู้เริ่มคิดและประกาศใช้นโยบาย Zero Waste เมื่อปี 2003   ส่วนถ้าใครสงสัยว่า แค่การออกนโยบายมันแก้ปัญหาได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ คำตอบคือ ไม่!! ทุกคนในหมู่บ้านไม่ได้ปรับตัวเพื่อเข้ากับนโยบายดังกล่าวได้ทันที และมันก็ยากมากๆ กว่าจะสำเร็จ เช่นคุณ Takuya Takeichi เจ้าของร้านของชำในหมู่บ้าน เขาเล่าว่า “ตอนที่นโยบาย Zero Waste ประกาศ ผมลำบากใจมากเลยนะ มันให้ความรู้สึกเหมือนชีวิตต้องถูกตีกรอบ ไหนจะต้องแบ่งเวลามาจัดแยกขยะอีก”    …

  • 13 สิ่งประดิษฐ์สีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยโลกให้รอดพ้นจากปัญหาโลกร้อน

    13 สิ่งประดิษฐ์สีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยโลกให้รอดพ้นจากปัญหาโลกร้อน

    ทุกวันนี้มนุษย์เราต่างทำทุกอย่างเพื่อความสะดวกสบาย ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้มักเป็นการทำร้ายโลกให้เสื่อมโทรมลงอย่างช้าๆ แต่น้อยคนนักที่หันมาดูแลโลกอย่างจริงจัง ด้วยเหตุนี้นักประดิษฐ์สีเขียวหรือนักประดิษฐ์รักษ์โลก จึงได้สร้างสิ่งประดิษฐ์ช่วยโลกขึ้นมา เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเราสามารถสร้างสิ่งใหม่ๆ ได้โดยไม่ทำร้ายโลก ในทางตรงข้าม มันยังเป็นการช่วยโลกได้อีกด้วย   1. สร้างสเก็ตบอร์ดจากตาข่ายจับปลาที่ไม่ใช้แล้ว   บริษัท BUREO ในชิลี ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มเพื่อน 3 คน พวกเขาได้ผลิตสเก็ตบอร์ดจากตาข่ายจับปลาที่ติดอยู่ตามชายฝั่งในชิลี เพื่อเป็นการไม่เพิ่มพลาสติกให้โลก ทั้งยังเป็นการเก็บกวาดขยะพลาสติกที่อาจเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลด้วย นอกจากสเก็ตบอร์ดแล้ว พวกเขายังนำพลาสติกมาทำเป็นแว่นกันแดด เสื้อผ้า และสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย…สำหรับภาพด้านบนนั้น ชายคนหนึ่งนอนอยู่กลางขยะที่เก็บได้จากทะเล เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักก่อนจะทิ้งขยะลงน้ำ     2. ม่านอาบน้ำถาวร ม่านอาบน้ำนี้มีชื่อว่า Spiky ทำขึ้นโดยนักประดิษฐ์สีเขียว มันเป็นม่านที่จะพองตัวขึ้นเมื่อครบเวลาที่กำหนด คือเมื่อคุณอาบน้ำไป 4 นาที ม่าน Spiky จะพองตัวขึ้น เพื่อผลักคุณออกไป เป็นการช่วยไม่ให้เราใช้น้ำมากเกินไป   3. หม้อพลังงานแสงอาทิตย์ นี่คือ Solar Cookers International ที่สามารถหุงข้าว หรือทำอาหารโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีต้นทุนต่ำและทำเองได้   4. อุปกรณ์ทำความสะอาดมหาสมุทร โปรเจกต์ Seabin…

  • ใครจะเชื่อว่าเปลือกส้มที่ดูไร้ค่า จะสามารถเปลี่ยนผืนป่าคอสตาริกาให้กลับมาชีวิตได้อีกครั้งหนึ่ง!!

    ใครจะเชื่อว่าเปลือกส้มที่ดูไร้ค่า จะสามารถเปลี่ยนผืนป่าคอสตาริกาให้กลับมาชีวิตได้อีกครั้งหนึ่ง!!

    ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน ผืนป่าในประเทศคอสตาริก้านั้น อยู่ในระดับที่วิกฤตมากๆ ด้วยเหตุนี้เหล่านักนิเวศวิทยาก็ต่างพยายามต่อสู้เพื่อฟื้นฟูผืนป่าแห่งนี้ ด้วยการหาหนทางต่างๆ มากมายเพื่อป่ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง ย้อนกลับไปเมื่อปี 1997 Daniel Janzen และ Winnie Hallwachs สองสามีภรรยานักนิเวศวิทยาได้ร่วมมือกับอุทยานแห่งชาติ Área de Conservación Guanacaste เพื่อฟื้นฟูผืนป่ากลับขึ้นมาอีกครั้ง โดยในตอนนั้นพวกเขาได้ปิ๊งไอเดียบางอย่างขึ้น จึงได้เดินทางไปตกลงกับบริษัท Del Oro ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำผลไม้เจ้าใหญ่ของประเทศ     ทั้งคู่ได้เสนอบริษัทว่า ถ้าบริษัทมอบพื้นที่ป่าของบริษัทให้อุทยานแห่งชาติ พวกเขายินดีที่ให้บริษัทเอาขยะที่เป็นเปลือกส้มและเปลือผลไม้อื่นๆ มาทิ้งได้ที่อุทยาน ทางบริษัทเมื่อได้รับข้อเสนอดังกล่าวก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เพราะปกติแล้วพวกเขาต้องจ้างบริษัททำลายขยะกำจัดเปลือกส้มเหล่านี้ด้วยวิธีการกลบฝังหรือเผาทำลายเท่านั้น แต่หากสามารถนำไปทิ้งได้ที่อุทยาน พวกเขาแทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลย ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงนำเปลือกส้มจำนวนกว่า 12,000 ตันมาทิ้งทับถมกันไว้ที่อุทยานดังกล่าว กินพื้นที่ไปกว่า 3 เอเคอร์ เรียกว่าทั้งพื้นที่เต็มไปด้วยเปลือกส้ม     แต่สัญญาดังกล่าวกลับมีอายุได้เพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้น เพราะปีต่อมาบริษัท Tico Fruit คู่แข่งสำคัญของบริษัท Del Oro ได้ฟ้องร้องต่อศาลว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการทำลายป่าในอุทยานแห่งชาติ ซึ่งในท้ายที่สุดศาลตัดศาลสินให้สัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะ เวลาผ่านไป 15 ปี เปลือกส้มดังกล่าวยังคงถูกทิ้งไว้ที่เดิมโดยไม่มีใครเข้าไปใยดี แม้จะมีนักวิจัยหลายคนเข้าไปเยี่ยมเยียนพื้นที่ดังกล่าว แต่ก็ไม่มีการประเมินถึงความเสียหายจากการทิ้งเปลืองส้มในครั้งนั้นอย่างจริงจัง จนกระทั่งปี…

  • คู่รักอังกฤษเปิดมินิมาร์ทรักโลก ไม่ใช้แพ็กเกจให้สิ้นเปลือง รับรองปลอดขยะ!!

    คู่รักอังกฤษเปิดมินิมาร์ทรักโลก ไม่ใช้แพ็กเกจให้สิ้นเปลือง รับรองปลอดขยะ!!

    ในทุกๆ วัน ปัญหาขยะถือว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในธรรมชาติ แน่นอนว่าคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยก็เริ่มมองเห็นถึงปัญหาดังกล่าว และหันมาอนุษรักษ์โลกกันมากขึ้น Richard Eckersley วัย 28 และ Nicola วัย 27 สองสามีภรรยาก็มองเห็นปัญหาดังกล่าวเช่นกัน ทั้งคู่จึงจัดการเปิดร้านมินิมาร์ทที่ขายสินค้าจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นธัญพืชต่างๆ หรือเครื่องดื่มก็ตาม และสินค้าทั้งหมดก็จัดเก็บอยู่ในภาชนะรักษ์โลก ไม่มีการใช้ตู้เย็นแต่อย่างใด   โฉมหน้าของ Richard Eckersley ผู้เป็นเจ้าของร้านดังกล่าว   เขาจะเน้นการใช้ขวดแก้วในการเก็บและจำหน่ายให้ลูกค้า   ส่วนเครื่องดื่มก็จะให้ลูกค้าเอาภาชนะต่างๆ มากใส่เองโดยขายตามจำนวน   ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ทางร้านไม่ใช้แพ็กเกจใดๆ ในการใส่สินค้า ทั้งถุงพลาสติก ถุงกระดาษ หรืออะไรก็ตามที่พวกเขามองเห็นว่ามันจะกลายเป็นขยะ ฉะนั้นลูกค้าต้องเป็นคนนำภาชนะมาใส่กันเอง ร้านดังกล่าวนั้นมีชื่อว่า Earth.Food.Love โดยตั้งอยู่ในเมืองเดวอน ประเทศอังกฤษ โดย Richard ได้เล่าถึงที่มาของสินค้าในร้านว่า นอกจากสินค้าจะเป็นสินค้าจากธรรมชาติแล้ว สินค้าบางส่วนก็เป็นสินค้าที่มาจากเกษตรกรท้องถิ่นด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยเหลือกันและกันไปในตัว   ถ้าใครชื่นชอบในธัญพืช รับรองว่าร้านนี้คือจุดมุ่งหมายของคุณแน่นอน   สินค้าทุกอย่างเป็นออแกนนิค   ไม่มีถุงพลาสติกหรือขยะ   ครบสูตรช่วยโลก   ร้านก็ตกแต่งได้สวยงาม ภายนอกก็ดูเรียบง่ายมากๆ  …

  • Costa Rica ตั้งเป้าจะเป็นประเทศแรกที่ “แบนการใช้พลาสติก” เพื่อลดปัญหาโลกร้อน

    Costa Rica ตั้งเป้าจะเป็นประเทศแรกที่ “แบนการใช้พลาสติก” เพื่อลดปัญหาโลกร้อน

    ปัญหาสภาวะโลกร้อนนั้นถือเป็นปัญหาระดับโลก ที่ตอนนี้ทุกชาติและทุกภาคส่วนต้องช่วยกันแก้ไข แน่นอนว่าหลากหลายชาติก็มองเห็นพร้อมกับยื่นมือเข้ามาช่วยในหลายส่วนแล้ว แต่สำหรับประเทศ Costa Rica มันสำคัญกว่านั้น เพราะพวกเขาเลงเห็นว่าปัญหานี้มันใหญ่เกินกว่าจะแก้ทีละนิด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นายกกระทรวงสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ออกมาประกาศว่าพวกเขาจะเป็นประเทศแรกที่ยกเลิกการใช้พลาสติก!!     อย่างที่เรารู้กันดีว่า พลาสติกนั้นเป็นขยะที่ใช้เวลาในการย่อยนานมากๆ และมันก็สร้างมลพิษที่เยอะพอสมควรเลย  โดยเฉพาะพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งไม่มีการรีไซเคิล ทาง Costa Rica จึงคิดว่าควรจะเร่งดำเนินการดังกล่าวให้ไวที่สุดภายในปี 2021 จากบันทึกได้รายงานว่า ในแต่ละปีประเทศ Costa Rica ได้ผลิตขยะจำนวนมากถึง 4,000 ตัน และ 1 ใน 5 ส่วนของขยะก็ไม่เคยถูกเก็บกวาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งมันสร้างปัญหาให้กับธรรมชาติทั้งทะเลและป่าไม้     ด้านทางการก็บอกว่า พวกเขาตั้งเป้าหมายไว้แล้ว ทว่าแค่รัฐอย่างเดียวไม่สามารถจะจัดการปัญหานี้ได้ทั้งหมด เขาจึงต้องขอความร่วมมือจากประชาชนของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง เด็กหรือคนแก่ก็ตาม ทุกคนต้องช่วยกัน     ซึ่งถ้าพวกเขาสามารถทำได้จริง ประเทศนี้จะกลายเป็นประเทศผู้นำอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นพวกเราก็คงต้องช่วยกันเพื่อให้ไม่น้อยหน้า Costa Rica แล้วล่ะ…   ที่มา greenmatters

  • อินเดียสร้างสถิติโลก ปลูกต้นไม้ 66 ล้านต้นใน 12 ชั่วโมง หวังกระตุ้นให้คนสนใจเรื่องโลกร้อน

    อินเดียสร้างสถิติโลก ปลูกต้นไม้ 66 ล้านต้นใน 12 ชั่วโมง หวังกระตุ้นให้คนสนใจเรื่องโลกร้อน

    ปัญหาโลกร้อนนั้นถือเป็นปัญหาอันร้ายแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่าสิบปีแล้ว และปัญหาดังกล่าวยังถือเป็นปัญหาระดับโลกอีกด้วย ซึ่งล่าสุดชาวอินเดียก็มองเห็นว่าปัญหาดังกล่าวเริ่มยุ่งยากเข้าไปทุกที จึงจัดการรณรงค์ให้ชาวอินเดียมาช่วยกันปลูกต้นไม้นั่นเอง แต่ใครจะเชื่อกันว่า เมื่อการรณรงค์ปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ถูกกระจายข่าวออกไปผู้คนมากมายต่างพาให้ความสนใจกันเพียบ งานนี้เรียกว่าทั้งเด็กผู้ใหญ่คนเฒ่าคนแก่ และอาสาสมัครมากมายต่างมาร่วมปลูกต้นไม้พร้อมกันถึง 1.5 ล้านคนเลยทีเดียว!!     เรื่องชวนตะลึงยังไม่หมดเท่านั้น ผู้คนทั้งหมดต่างสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาปลูกต้นไม้จนได้มากถึง 66 ล้านต้น ในเวลาเพียงแค่ 12 ชั่วโมงเท่านั้น อู้วหู้ว.ว.ว.ว ต้นไม้ทั้งหมดนั้นถูกปลูกตลอดแนวแม่น้ำ Narmada ซึ่งมีความยาวกว่า 1300 กิโลเมตร งานนี้ในเวลาอีกราวๆ สิบปียี่สิบปี บริเวณดังกล่าวอาจจะเกิดเป็นป่าผืนใหม่ของอินเดียก็เป็นได้     นอกจากนั้นการปลูกป่าในครั้งนี้ยังถือเป็นการทำลายสถิติโลกอีกด้วย โดยในปี 2016 รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดียได้รวบรวมอาสาสมัครเพื่อปลูกป่าจำนวนกว่า 50 ล้านต้นภายในเวลาวันเดียว แต่เมื่อเจอสถิติใหม่ 12 ชั่วโมงทำให้สถิติเก่าต้องตกไป แต่ไม่ว่าสถิติไหนจะดีกว่ากันผลดีก็ตกอยู่กับชาวอินเดียอยู่ดีนั่นเอง นอกจากนั้น Shivraj Singh Chouhan ผู้นำรัฐมัธยประเทศได้ออกมาพูดว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้จะเป็นเหตุการณ์การประวัติศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะเดิมอินเดียถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นอันดับต้นๆ ของโลก     ฉะนั้นการช่วยกันปลูกต้นไม้สร้างผืนป่าจึงไม่เพียงแค่ช่วยเหลือประเทศแต่ยังเป็นการช่วยเหลือโลกอันเป็นผืนแผ่นดินของทุกคน สุดท้ายแล้วแผนการปลูกป่าทั้งหมดนั้นถือเป็นข้อตกลงของประเทศอินเดียกับที่ร่วมลงนามในสนธิสัญญา Paris Agreement ซึ่งเป็นข้อตกลงระดับชาติเพื่อช่วยเหลือโลกของเราและเตรียมความพร้อมกับการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของโลกก่อนปี 2030    …

  • Pornhub เริ่มแคมเปญช่วยแพนด้า ให้คนถ่ายหนังโป๊ชุดแพนด้าโอบ๊ะบ๊ะกัน อัพขึ้นเว็บไซต์!!

    Pornhub เริ่มแคมเปญช่วยแพนด้า ให้คนถ่ายหนังโป๊ชุดแพนด้าโอบ๊ะบ๊ะกัน อัพขึ้นเว็บไซต์!!

    เคยไหมที่อยากจะถ่ายเซ็กส์เท็ปของคู่รักตัวเอง แต่รู้สึกละอายมากถ้าเกิดคลิปพวกนี้หลุดออกไป แต่ปัญหานั้นจะหมดไป เพราะว่า Pornhub เริ่มแคมเปญช่วยแพนด้าสุดน่าสนใจ เพียงแค่อัดเซ็กส์เท็ปของคุณในชุดแพนด้า ก็ช่วยแพนด้าได้แล้ว!! เป็นที่รู้กันดีว่า แพนด้าคือสัตว์ที่ขี้เกียจมากๆ พวกมันจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการกินและก็นอน ซึ่งแพนด้ามันก็ดูจะไม่มีปัญหาอะไร     แต่จริงๆ แล้วมันคือเรื่องใหญ่เลยล่ะ เพราะว่าแพนด้าตัวเมียจะอยากผสมพันธุ์เพียงปีละไม่กี่วันเท่านั้น และด้วยความขี้เกียจของแพนด้าก็ทำให้แพนด้าตัวผู้ไม่สนใจ ไม่ยอมทำการบ้าน สนแต่จะกินและก็นอนเท่านั้น ทำให้ประชากรแพนด้าลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากปัญหาเรื่องถิ่นที่อยู่อาศัยลดน้อยลงแล้ว ก็คงเป็นปัญหาเรื่องนิสัยของมัน และการขี้เกียจปั่มปั๊มนี่แหละ ที่ทำให้มันกลายเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธ์ุ     ด้วยเหตุนี้ Pornhun จึงเริ่มแคมเปญช่วยแพนด้า เนื่องวันแพนด้าโลกที่ผ่านมา โดยการเพิ่มหมวดหมู่ในเว็ปขึ้นมา ซึ่งชื่อหมวดนั้นก็คือ Panda Style!!  ส่วนวิธีการเข้าร่วมแคมเปญนี่ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ให้เราสวมใส่ชุดแพนด้าแล้วมีเซ็กส์กับคู่ของตัวเองแล้วอัพโหลดคลิปของตัวเองลงหมวดหมู่ที่ว่ามานั่นเอง     ทุกๆ คลิปที่อัพลงในหมวดนี้ Porn hub จะบริจาค 100 ดอลล่าห์ (ราวๆ 3,500 บาท) ให้กับองค์กรที่ช่วยเหลือแพนด้าทั่วโลก และบริจาคทุกๆ 1 เซ็นต์ (ราวๆ 35 สตางค์)…

  • หนูน้อยวัย 7 ขวบ กับตำแหน่ง CEO บริษัทรีไซเคิล เพื่อช่วยลดขยะและอนุรักษ์โลกใบนี้!!

    หนูน้อยวัย 7 ขวบ กับตำแหน่ง CEO บริษัทรีไซเคิล เพื่อช่วยลดขยะและอนุรักษ์โลกใบนี้!!

    เรื่องราวของหนุ่มน้อย Ryan วัย 7 ปี ที่ทำการตั้งบริษัทรีไซเคิลเป็นของตัวเอง โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยโลก ลดขยะ และทำให้ผู้ใหญ่หลายๆ คนตระหนักในการดูแลสภาพแวดล้อมมากขึ้น ในรายการทอล์คโชว์ชื่อดังอย่าง The Ellen DeGeneres Show ได้เชิญเด็กน้อยคนนี้มาร่วมสัมภาษณ์ถึงบริษัทของเขา และจุดเริ่มต้นของความคิดที่แสนบรรเจิดนี้     เรื่องมันเริ่มต้นเมื่อปี 2012 ขณะที่หนูน้อย Ryan อายุได้ 3 ขวบ เขาเดินทางไปยังศูนย์รีไซเคิลใกล้บ้านเพื่อนำขวดเปล่าและกระป๋องเปล่าไปขึ้นเงิน เพื่อแลกกับค่าขนมเล็กน้อย หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นเจ้าหนู Ryan ก็สังเกตเห็นว่าคุณพ่อและคุณแม่ของเขาเดินถือถุงเปล่าเดินไปขอขวดพลาสติก และกระป๋องจากเพื่อนบ้านทุกคน เพื่อนำมาให้เขา     จนในที่สุดก็ตัดสินใจก่อตั้งขึ้นมาเป็นบริษัท Ryan’s Recycling จนถึงตอนนี้ทางบริษัทก็ได้ทำการรีไซเคิลขวดและกระป๋องไปมากกว่า 200,000 ชิ้น แถมยังสร้างรายได้มากถึง 350,000 บาทแล้วด้วย!! แม้จะดูไม่เป็นรายได้ระดับล้านหรือสิบล้าน หรือประสบความสำเร็จเป็นเศรษฐีตั้งแต่วัยเยาว์ แต่ด้วยรายได้มากถึงหลายแสนในวัยเพียง 7 ขวบ เขาก็ถือว่าเป็นเด็กน้อยที่น่าจับตามอง     โดยในอนาคต เขาหวังว่าจะนำเงินจำนวนนี้ไปซื้อรถเก็บขยะคันใหญ่ เพื่อช่วยให้การเก็บขยะมารีไซเคิลนั้นง่ายดาย และเพิ่มปริมาณมากยิ่งขึ้น และขยายธุรกิจของเขาเองให้ใหญ่โตกว่าเดิม…

  • ‘Message Me’!! โครงการช่วยโลก ด้วยข้อความของเด็กๆจาก ‘Raja Ampat’ เพื่อโลกที่ดีขึ้น

    ‘Message Me’!! โครงการช่วยโลก ด้วยข้อความของเด็กๆจาก ‘Raja Ampat’ เพื่อโลกที่ดีขึ้น

    การรณรงค์ช่วยโลกมีมานาน และก็มีรูปแบบที่หลากหลาย ส่วนใหญ่ที่เราเห็นนั้น ผู้มักจะเป็นผู้นำในเรื่องการรณรงค์เหล่านี้ แต่วันนี้ #เหมียวขี้ส่อง จำเสนอการช่วยโลก โดยกลุ่มเด็กๆจำนวน 70 คน จาก หมู่เกาะ Arborek เขต Raja Ampat, ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเกาะที่ไม่มีน้ำจืดและไม่มีไฟฟ้า ไปดูกันเลย โครงการนี้ชื่อว่า ‘Message Me’ ดำเนินการโดย 2 สามี ภรรยา ทั้งคู่เป็นช่างภาพและผู้ผลิตภาพยนต์จากลอนดอน เขาใช้เวลาเป็นปีในการเดินทางไปประเทศต่างกว่า 20 ประเทศทั่วโลก เพื่อที่จะทำวิดีโอเกี่ยวกับการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและโครงการเพื่อสังคม ทำให้องค์กรของเขาถูกเรียว่า ‘Planet Hero’     ชีวิตของเด็กที่ Arborek มีความแตกต่างมาก เมื่อเทียบเด็กทางตะวันตก เพราะเด็กที่นี่ไม่ติดทีวี แทบเล็ต หรือเกมคอมพิวเตอร์ พวกเขาเป็นเจ้าแม่แห่งธรรมชาติ เป็นพี่เลี้ยงเด็ก และเล่นในสนามเด็กเล่น โดยโครงการนี้ จะเป็นการให้เด็กเขียนข้อความแล้วใส่ลงไปในขวดพลาสติกแล้วเอาไปโยนลงในทะเล (ซึ่งเป็นการสร้างมลพิษทางน้ำ) เพื่อถ่ายรูป จากนั้นก็จะนำขวดเหล่านี้ไปรีไซเคิล   ทั้งคู่ได้ทำคลิปสั้นๆ โดยการแทรกรูปของเด็กๆที่ถ่ายรูปใต้น้ำ ในขณะที่ถือขวดที่มีข้อความของพวกเขาอยู่   Raja Ampat เป็นหนึ่งในสถานที่ที่อยู่ห่างไกลที่สุดของโลก และมีสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายที่สุดของโลก คือ…