Tag: อนุรักษ์

  • พบกับ ‘ลูกสิงโตหลอดแก้ว’ สองตัวแรกของโลก ความสำเร็จที่ช่วยให้รอดจากการ ‘สูญพันธุ์’

    พบกับ ‘ลูกสิงโตหลอดแก้ว’ สองตัวแรกของโลก ความสำเร็จที่ช่วยให้รอดจากการ ‘สูญพันธุ์’

    ถึงแม้เหล่าแมวยักษ์อย่างเสือและสิงโตจะเป็นสัตว์ป่าดุร้ายและอันตรายต่อมนุษย์ แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์ที่ไม่มีใครอยากให้มันต้อง “สูญพันธุ์” ไป ช่วงระยะหลังสัตว์จำพวกนี้มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากขึ้นเนื่องจากหลายสาเหตุ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเราจะสามารถช่วยเหลือเหล่าเสือสิงโตจากการสูญพันธุ์ได้แล้วด้วยการ เพาะเลี้ยงทารกในหลอดแก้ว เจ้า Victor และ Isabella เป็นลูกสิงโตสองตัวแรกที่ถูกเพาะเลี้ยงจากหลอดแก้วได้สำเร็จ นอกจากทั้งคู่จะเป็นความภาคภูมิใจของแม่สิงโตแล้วยังเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า “สปีชีส์ของมันยังไม่สูญพันธุ์” อีกด้วย   เจ้า Victor และ Isabella (น่ารักมากเลย)   นักวิจัยเผยว่าความสำเร็จในการเพาะลูกสิงโตสองตัวนี้เป็นความก้าวหน้าที่สำคัญ หลังพยายามหาวิธีรักษาเผ่าพันธุ์ของแมวยักษ์เหล่านี้มาเนิ่นนาน ทั้งคู่กำเนิดขึ้นมาได้หลังทำการปฏิสนธิเทียมกับแม่สิงโตเป็นเวลาครึ่งเดือน โดยปัจจุบันสามแม่ลูกนั้นมีสุขภาพที่แข็งแรงและปกติดีในศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าประเทศแอฟริกาใต้   เจ้าสิงห์น้อยเพิ่งคลอดอายุได้ราวหนึ่งสัปดาห์เท่านั้นเอง   ก่อนหน้านี้ สิงโตกำลังมีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ แต่ปัจจุบันเริ่มมีภาวะคงตัวมากขึ้นในแอฟริกาใต้ ทำให้พวกมันกลายเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการทดลองเพาะเลี้ยงในหลอดแก้ว ซึ่งหากสำเร็จจะสามารถนำไปใช้กับสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ ได้ Dr. Isabel Callealta หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า “การวิจัยของเรา ในอนาคตตั้งใจจะใช้วิธีเดียวกันนี้กับสัตว์สายพันธุ์แมวยักษ์ชนิดอื่นๆ เช่น เสือดาวหิมะและเสือโคร่ง เป็นต้น”     ปัจจุบันเป็นที่คาดว่ามีเสือโคร่งในทวีปเอเชียอยู่ไม่ถึง 4,000 ตัว และมีเสือดาวหิมะอยู่ไม่ถึง 7,000 ตัวในเอเชียกลาง ส่วนลิงซ์สเปนเองก็มีไม่ถึง 300 ตัวในประเทศสเปน ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ได้ผลิตตัวอ่อนของสิงโตแอฟริกันจากรังไข่แช่แข็งเป็นที่สำเร็จแล้ว…

  • สิ่งสะเทือนใจ เมื่อ ‘ขยะชายหาดไทย’ กลายเป็นปัญหาระดับโลก ให้ฝรั่งมาเดินเก็บ!?

    สิ่งสะเทือนใจ เมื่อ ‘ขยะชายหาดไทย’ กลายเป็นปัญหาระดับโลก ให้ฝรั่งมาเดินเก็บ!?

    ประเทศไทย คืออีกหนึ่งสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสวยงามตามธรรมชาติหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะทะเลหรือชายหาดที่มีชื่อเสียงหลายต่อหลายแห่ง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งนั้นอาจกลายเป็นเพียงแค่อดีต เพราะปัญหาขยะจำนวนมากที่เกิดขึ้น ความสวยงามของชายหาดหรือทะเลในบ้านเรากลับค่อยๆ ลดลงไปอย่างน่าใจหาย เมื่อต้องประสบกับหนึ่งในปัญหาที่น่าหนักใจมากที่สุดนั่นคือ “ปัญหาขยะมูลฝอยเกลื่อนชายหาด”     หากให้พูดถึงสาเหตุของปัญหานี้ อย่างแรกที่เชื่อว่าเราทุกคนสามารถรับรู้ได้คือ การขาดความรับผิดชอบของคนในท้องที่และนักท่องเที่ยวนั่นเอง เราเลือกที่จะทิ้งสิ่งต่างๆ ไปตามชายหาดโดยที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบในภายหลัง ปล่อยปละละเลยขยะตามพื้นทราย ไม่สนใจที่จะเก็บมันไปไว้ให้ถูกที่ถูกทาง ทางเว็บไซต์ The Culture Trip ยังพูดถึงเรื่องของหลอดและถุงพลาสติกที่เราไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร ซึ่งเหล่าลูกค้าประจำของร้านสะดวกซื้อจะเข้าใจได้เป็นอย่างดี เพราะเรามักจะได้รับหลอดพลาสติกและถุงพลาสติกกลับมาด้วยเสมอ แล้วสุดท้ายมันจะจบลงด้วยการกลายเป็นขยะที่เกลื่อนเต็มพื้น อีกสาเหตุที่เว็บไซต์ดังกล่าวพูดถึงคือเรื่องของถังขยะและถังขยะรีไซเคิล สองอย่างนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก โดยเฉพาะตามริมหาด จนเรารู้สึกไม่มีกำลังใจที่จะนำมันไปทิ้งในถังขยะนั่นเอง     จากสาเหตุเหล่านั้นจึงทำให้เกิดขยะที่มีอยู่เต็มชายหาด ทำลายความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆ แห่ง ไม่ว่าจะเป็น อ่าวมาหยา เกาะสมุย เกาะเต่า และ เกาะพงัน เศษขยะเหล่านั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวทำลายความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวในบ้านเราเพียงอย่างเดียว เพราะมันยังเป็นสิ่งที่ทำลายธรรมชาติ ตัวการสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและการเติบโตของปะการังใต้น้ำ     ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะจำนวนของขยะที่ลงน้ำไปเยอะมากจนทำให้เกิดเป็นเกาะขึ้นมาได้เกาะหนึ่งเลย ซึ่งเมื่อปี 2017 ได้มีชาวประมงที่กำลังล่องเรืออยู่ใกล้กับชายฝั่งอ่าวไทย พวกเขาพบเข้ากับ “กองขยะลอยน้ำ”…

  • 15 ‘สิ่งประดิษฐ์รักษ์โลก’ ที่จะช่วยกอบกู้โลกของเราให้กลับมาน่าอยู่อีกครั้ง

    15 ‘สิ่งประดิษฐ์รักษ์โลก’ ที่จะช่วยกอบกู้โลกของเราให้กลับมาน่าอยู่อีกครั้ง

    จากที่เราทราบกันดีว่าโลกของเราตอนนี้กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างหนัก ส่วนหนึ่งก็มาจากการทำลายธรรมชาติของมนุษย์เอง ที่เป็นตัวการทำให้โลกเปลี่ยนไป เมื่อโลกกำลังถึงจุดวิกฤติ ก็ถึงเวลาที่มนุษย์จะต้องหาวิธีที่จะช่วยให้โลกกลับมาน่าอยู่อีกครั้ง ด้วยการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ เพื่อจะทำให้โลกน่าอยู่ยิ่งขึ้น เช่นสิ่งประดิษฐ์ต่อไปนี้   1. กระดาษกันน้ำจากใยต้นกล้วย คิดค้นโดย Green Banana Paper นำต้นกล้วยที่หมดประโยชน์แล้วมาเข้ากระบวนการเพื่อนำใยของมันมาจัดทำเป็นกระดาษที่สามารถกันน้ำได้   2. Hobbit Hole ผลงานจาก Green Magic Homes สร้างบ้านที่เหมือนกับกระท่อมของเหล่าฮอบบิท ปกคลุมด้วยดินที่จะช่วยควบคุมอุณภูมิ โครงสร้างบ้านก็แข็งแรงทนทาน ใช้เวลาสร้างไม่นาน และยังสามารถปลูกพืชไม่ว่าจะเป็นตรงผนังบ้านหรือบนหลังคาก็ได้นะ   3. โลงศพที่จะช่วยอนุรักษ์ป่า ในการทำโลงศพแต่ละโลงต้องใช้ไม้จากต้นไม้ในการทำหลายต้น ทาง Capsula Mundi จึงได้คิดค้นโลงศพรูปไข่ที่ทำจากวัสดุย่อยสลายได้ โดยจะมีเมล็ดพันธุ์ของต้นไม้ที่จะค่อยๆ เจริญเติบโตขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป   4. Thermostat เครื่องควบคุมอุณหภูมิ อุปกรณ์อัจฉริยะที่จะช่วยจะจัดการการใช้พลังงานของคุณ สามารถปรับเปลี่ยนอุณหภูมิภายในบ้าน และจะปิดตัวเมื่อไม่มีใครอยู่บ้าน   5. บับเบิ้ลกินได้ นี่คือ Ooho จาก Skipping Rocks Lab ที่ได้คิดค้นทำฟองสบู่ที่สามารถกินได้…

  • มีเสือดำไหม!? Lacoste เปลี่ยนโลโก้จระเข้เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ หวังให้คนตื่นตัวมากขึ้น

    มีเสือดำไหม!? Lacoste เปลี่ยนโลโก้จระเข้เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ หวังให้คนตื่นตัวมากขึ้น

    อย่างที่รู้กันดีว่าแบรนด์ Lacoste นั้นจะมีโลโก้แบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์ เพียงแค่เห็นเป็นตราจระเข้ ก็รู้ทันทีเลยว่าใช่ Lacoste แน่ๆ แต่ล่าสุดจากการร่วมมือระหว่างองค์กร International Union for Conservation of Nature หรือ องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ กับ Lacoste ออกคอลเลกชั่นใหม่ในชื่อ Save Our Species เป็นชุดเสื้อโปโลที่เปลี่ยนโลโก้จากเดิมที่เป็นจระเข้ เป็นสัตว์ป่าสงวนที่ใกล้สูญพันธุ์ เพื่อรณรงค์ให้ผู้คนหันมาสนใจและร่วมมือกันอนุรักษ์สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์กันมากขึ้น     โดยจะประกอบไปด้วยสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์นานาชนิด ดังนี้…   1. โลมาวากิต้า (Vaquita) ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 30 ตัว   2. เต่าหลังนูนพม่า (Burmese Roofed Turtle) ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 40 ตัว   3. ลีเมอร์นอร์เทิร์นสปอร์ตีฟ (Northern Sportive Lemur) ปัจจุบันเหลือเพียง 50 ตัว   6. แรดชวา (Javan Rhino)…

  • 15 ภาพวาดบนกำแพงสุดเจ๋ง ที่สะท้อนการกระทำของมนุษย์ต่อโลก ธรรมชาติ และสังคม

    15 ภาพวาดบนกำแพงสุดเจ๋ง ที่สะท้อนการกระทำของมนุษย์ต่อโลก ธรรมชาติ และสังคม

    โลกเราในยุคปัจจุบันได้ฝ่าฟันปัญหาต่างๆ มามากมาย โดยส่วนใหญ่ก็เกิดจาก “ฝีมือของมนุษย์” ที่ทำให้ความเป็นอยู่ของชีวิตตามธรรมชาตินั้นได้เสื่อมลง แต่กลับกลายเป็นเพิ่มพูนความสุขสบายของผู้คน ทั้งนี้เพื่อรักษาโลกใบนี้ รวมไปถึงธรรมชาติ ให้คงอยู่ไปนานๆ จึงมีการรณรงค์และขอร้องให้หยุดทำลายโลกและสังคม แต่ถึงกระนั้น ผู้ที่มีอำนาจเองก็ไม่ได้สนใจที่จะเปลี่ยนแปลง จึงทำให้ผู้ที่มีอำนาจน้อยนิดเกิดการรวมตัวรวมใจกัน ผลักดันให้พฤติกรรมทำลายล้างของมนุษย์เกิดความเปลี่ยนแปลงบ้าง เหล่าศิลปินเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมใจผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่ควรเกิดขึ้นเพื่อรักษาโลก ธรรมชาติ และทำให้เกิดสังคมที่น่าอยู่ โดยการสร้างสรรค์ “ศิลปะบนกำแพง” (Graffiti) ที่มีข้อความเสียดแทงใจมนุษย์ที่เห็นแก่ตัว เพื่อให้คนเหล่านั้นได้ฉุกคิดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมโลก วันนี้ เราจึงรวบรวม 15 ภาพบนกำแพงที่มีทั้งความสวยงาม และเนื้อหาเสียดแทงผู้คนที่ทำลายโลกและสังคมในปัจจุบัน จะมีภาพอะไรบ้าง ไปชมกันเลย…   1. “อย่าเชื่อเรื่องโลกร้อน” ถูกเขียนไว้เพื่อแดกดันขณะที่น้ำกำลังท่วม ซึ่งเป็นสัญญาณว่าโลกกำลังร้อน   2. สวนสาธารณะ (Park) และที่จอดรถ (Parking) เขียนต่างกันนิดเดียว แต่ส่งผลต่อโลกต่างกันอย่างมาก   3. “โลกไม่ได้จะตาย แต่มันกำลังถูกฆ่า และคนที่ฆ่ามันก็คือ ผู้ที่มีทั้งชื่อและที่อยู่” พูดง่ายๆ ก็คือมนุษย์นั่นเอง   4. อุตสาหกรรมต่างๆ กำลังดูดกินชีวิตของโลกอยู่  …

  • สหราชอาณาจักรเตรียมแบน ‘หลอดพลาสติก’ หวังลดปัญหาขยะพลาสติกในธรรมชาติ

    สหราชอาณาจักรเตรียมแบน ‘หลอดพลาสติก’ หวังลดปัญหาขยะพลาสติกในธรรมชาติ

    หลอดพลาสติกคือสิ่งที่เรามักจะใช้ในชีวิตประจำวัน โดยที่เราอาจไม่เคยสังเกตเลยว่ามันเป็นขยะพลาสติกที่เราใช้กันฟุ่มเฟือยมากขนาดไหน และนั่นคือสิ่งที่รัฐบาลแห่งสหราชอาณาจักรเล็งเห็นถึงปัญหา พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะแบนการใช้เจ้าสิ่งนี้ในอนาคตอันใกล้ Michael Gove เลขาธิการด้านสิ่งแวดล้อมแห่งสหราชอาณาจักร บอกว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบมาจากการใช้หลอดพลาสติกเป็นจำนวนมากนั้น ทำให้รัฐบาลตั้งใจที่จะสั่งห้ามการใช้สิ่งดังกล่าว อันเป็นผลสืบเนื่องและเป็นการขยายแผน 5P ที่ใช้สำหรับการสั่งห้ามถุงพลาสติกเมื่อก่อนหน้านี้   เลขาธิการ Michael Gove   จากการคำนวณของสมาคมอนุรักษ์พื้นที่ท้องทะเลพบว่า สหราชอาณาจักรมีการใช้หลอดพลาสติกมากกว่า 8,500 ล้านชิ้นต่อปี และสิ่งนี้ถือว่าเป็น 1 ใน 10 ของขยะที่ถูกพบเห็นได้บ่อยที่สุดตามชายหาด ซึ่งมันจะส่งผลเสียให้กับสิ่งมีชีวิตตัวอื่นๆ ที่เผลอบริโภคมันเข้าไป กลุ่มรณรงค์ Refuse The Straw ได้ออกมาบอกเพิ่มเติมอีกว่า หลอดพลาสติกต้องใช้เวลานานกว่า 20 ปีสำหรับการย่อยสลาย     Michael คือคนที่ไม่ใช้พลาสติกเลยในช่วงเทศกาลมหาพรต (เทศกาลของศาสนาคริสต์) และเขายังได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Evening Standard ว่า “พวกเราส่วนใหญ่มองว่ามันคือสิ่งอำนวยความสะดวก แต่มันเปรียบได้กับฆาตกรสำหรับสิ่งมีชีวิตอื่น หลอดพลาสติกที่เราใช้และทิ้งมันอย่างไม่ใส่ใจ อาจทำให้สัตว์เหล่านั้นต้องถึงแก่ความตาย” เขาพูดอีกว่า “สิ่งนี้จะไปฝังอยู่ในโพรงจมูกของเต่าทะเล ติดอยู่ในช่องคอของเหล่าโลมา หรืออาจทำให้ปลาหลายๆ ชนิดต้องสำลักน้ำ ทั้งหมดนี้เป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากสิ่งที่ทำให้มนุษย์กินน้ำได้เร็วขึ้นเท่านั้นเอง”…

  • มหัศจรรย์!! พบกับ Alby ลูกเต่าตนุเผือกแสนน่ารัก ที่พบได้ยาก และมีเพียงไม่กี่ตัวบนโลก

    มหัศจรรย์!! พบกับ Alby ลูกเต่าตนุเผือกแสนน่ารัก ที่พบได้ยาก และมีเพียงไม่กี่ตัวบนโลก

    สำหรับสัตว์เผือก หรือสัตว์ที่มีสีผิดปกติ ที่ต่างจากสัตว์สายพันธุ์เดียวกัน ถือว่าเป็นสัตว์ที่หาพบได้ยากมากๆ สิ่งเหล่านี้เกิดจากความผิดปกติในร่างกายที่เกิดยีนด้อยในพันธุกรรม ทำให้ยีนที่ควบคุมการเกิดสีภายในร่างกายบกพร่อง และทำให้เม็ดสีภายในร่างกายเปลี่ยนแปลงจนเกิดเป็นสีขาวเผือกนั่นเอง   และนี่คือ Alby ลูกเต่าตนุเผือกหายาก ที่ถูกพบบนชายหาดคาสต์อะเวย์ ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย บอกเลยว่าน่ารักสุดๆ   ย้อนเวลากลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 อาสาสมัครจากหน่วยงานดูแลชายฝั่งของออสเตรเลีย ได้พบลูกเต่าตนุเผือกหายากบนชายหาดในรัฐควีนส์แลนด์ นั่นทำให้พวกเขารู้สึกตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก โดยลูกเต่าตัวน้อยที่พบนี้ เป็นเพียง 1 ในลูกเต่าตนุ 122 ตัว ที่มีความผิดปกติไปจากเต่าตัวอื่นๆ หลังจากที่ถูกพบอยู่ในหลุมวางไข่บนหาด ทางด้าน Linda Warneminde ประธานกลุ่มอาสาสมัครได้ออกมาเผยว่า “มันดูร่าเริงมาก และพอได้ลงน้ำมันก็ดูมีความสุขเป็นที่สุด”     จากการรายงานระบุว่า โดยปกติแล้วลูกเต่าตนุจะมีโอกาสรอดชีวิตจากการฟักตัวไปจนถึงได้ลงสู่ท้องทะเลน้อยมาก โดยจะมีโอกาสรอดเพียงแค่ 1 ใน 1,000 ตัวเท่านั้น ในขณะที่เต่าเผือก จะมีอัตราการรอดชีวิตต่ำกว่าเต่าปกติหลายเท่า     ด้าน Jayne Walton ผู้ที่ได้ทำการบันทึกภาพของเจ้า Alby เอาไว้…

  • ภาพสะเทือนอารมณ์ จากแคมเปญต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า เพราะคุณกำลังฆ่าสัตว์อยู่…

    ภาพสะเทือนอารมณ์ จากแคมเปญต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า เพราะคุณกำลังฆ่าสัตว์อยู่…

    ทุกครั้งที่มีการตัดไม้ทำลายป่า มันไม่ได้ส่งผลเสียกับแค่ต้นไม้ ใบหญ้าเท่านั้น แต่มันคือการฆ่าสัตว์ไปด้วย เพราะป่าไม้คือที่อยู่อาศัยของสัตว์ เมื่อไม่มีป่าแล้วสัตว์จะอยู่อย่างไร? ด้วยเหตุนี้ Ganesh Prasad Acharya จึงได้จัดทำภาพแคมเปญต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่าขึ้นมา ให้กับทางมูลนิธิปกป้องสัตว์ป่า Sanctuary Asia ได้นำไปเผยแพร่กับผู้คนให้ได้รับรู้ ปกติการอนุรักษ์ด้วยภาพสัตว์น่ารัก หรือป่าเขียวชอุ่ม อาจไม่ได้รับความสนใจมากพอ แคมเปญนี้จึงเน้นภาพที่สะเทือนอารมณ์ ซึ่งเป็นภาพที่สื่อสารได้ชัดเจนมากกว่า หวังจะให้ผู้คนหันมาใส่ใจสัตว์ป่ามากขึ้น     มูลนิธิปกป้องสัตว์ป่า Sanctuary Asia ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1981 โดย Bittu Sahgal ตามคำสั่งของนักอนุรักษ์ Fateh Singh Rathore     Sanctuary Asia เป็นองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติชั้นนำของอินเดีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสารกับผู้อ่านให้ทำความเข้าใจเหตุผลของการคุ้มครองสัตว์ป่าและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยมุ่งเน้นที่อนุทวีปอินเดีย     ดังนั้นนับตั้งแต่ก่อตั้งมา Sanctuary Asia ก็กลายเป็นศูนย์รวมของการอนุรักษ์สัตว์ป่านับไม่ถ้วน และยังทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับกลุ่มบุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้องในการแลกเปลี่ยนความรู้ด้วย   ที่มา  Sanctuary Asia l Instagram l Facebook l designyoutrust

  • ภารกิจของ ‘ผู้ดูแลแพนด้า’ ที่ต้องใส่ชุดเป็นหมีแพนด้าตลอดเวลา แม้จะเละเทอะฉี่อยู่ก็ตาม!?

    ภารกิจของ ‘ผู้ดูแลแพนด้า’ ที่ต้องใส่ชุดเป็นหมีแพนด้าตลอดเวลา แม้จะเละเทอะฉี่อยู่ก็ตาม!?

    อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า ‘หมีแพนด้า’ เป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ หลายประเทศทั่วโลกต่างจัดตั้งองค์กรขึ้นมา เพื่อช่วยกันดูแลรักษาเผ่าพันธุ์แพนด้า โดยเฉพาะที่ประเทศจีน วันนี้เราจะพาไปชมภาพตัวอย่างการทำงานของ ‘ผู้ดูแลแพนด้า’ อาชีพนี้เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลย เพราะพวกเขาต้องพรางตัวเป็นแพนด้าอยู่ตลอดเวลา เอาไปเอามาบางคนกลายเป็นหมีแพนด้าไปจริงๆ เลยก็มี (เฮ้ย..มั่วแล้ว!!)   ที่มณฑลเสฉวนมีศูนย์วิจัยและอนุรักษ์หมีแพนด้าอยู่ และแน่นอนว่ามันต้องเต็มไปด้วยแพนด้าน้อยใหญ่   อันที่จริงมันก็คล้ายๆ กับพื้นที่อนุรักษ์แพนด้าที่อื่นๆ นั่นแหละ แต่จะต่างก็ตรงที่นี่มีพนักงานที่สวมชุดแพนด้าแบบนี้อยู่…   National Geographic รายงานว่า สำหรับที่ศูนย์อนุรักษ์แห่งนี้แพนด้าน้อยทุกตัวจะถูกปล่อยกลับเข้าไปอยู่ในป่า เพื่อเรียนรู้ที่จะดำรงชีพด้วยตัวเอง   และพวกเขาก็ไม่ต้องการให้แพนด้ารู้สึกคุ้นชินกับคน ดังนั้นพนักงานทุกคนที่นี่จะต้องสวมชุดคอสเพลย์เป็นหมีแพนด้า ดูน่ารักมุ้งมิ้งไปอีกแบบ   แพนด้าทุกตัวจะต้องผ่านการทดสอบ การเอาตัวรอดในป่า โดยจะแบ่งเป็น 3 ระดับตามขนาดความกว้างของพื้นที่ป่าที่มันถูกปล่อยไป   หลังจากพวกมันสอบผ่านทั้ง 3 ระดับแล้ว พวกมันก็จะถูกปล่อยคืนสู่ผืนป่าโดยสมบูรณ์   ศูนย์อนุรักษ์แห่งนี้มีอุปกรณ์ และทีมแพทย์ครบครันที่พร้อมจะช่วยเหลือแพนด้า   หมีแพนด้า หมีแพนด้า หมีแพนด้า หมี หมี แพนด้า…. ที่มา: Buzzfeed

  • ชวนชมหนังสั้นสต๊อปโมชั่นสุดซึ้ง ชวนให้เราตระหนักถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติมากยิ่งขึ้น!!

    ชวนชมหนังสั้นสต๊อปโมชั่นสุดซึ้ง ชวนให้เราตระหนักถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติมากยิ่งขึ้น!!

    ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมถูกทำลายโดยน้ำมือมนุษย์ นับว่าเป็นปัญหาที่ยังคงแก้กันไม่ตกจริงๆ ไม่ใช่แค่คนที่ทำอาชีพเป็นนายพรานล่าสัตว์ หรือผู้รับจ้างตัดไม้เพื่อนายทุนเท่านั้น เพราะแม้แต่พวกเราเองที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองก็มีส่วนในการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ทางอ้อมเหมือนกัน วันนี้เราจะพาไปชมหนังสั้นแบบสต๊อปโมชั่นที่สร้างขึ้นโดยกลุ่ม ‘DDB New York’ เพื่อนำไปฉายที่งาน ‘Wildlife Conservative Film Festival’ โดยเนื้อหาจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวการถูกล่าของสัตว์ 3 สายพันธุ์ ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ขึ้นทุกที่ นอกจากจะเป็นหนังสั้นที่มาในรูปแบบสต๊อปโมชั่นแล้ว เรียกได้ว่าอาจจะทำให้แฟนๆ ที่ชอบติดตามผลงานของ ‘Les Misérables’ ถึงกับกรี๊ดแตกได้เลย เพราะหนังสั้นเรื่องนี้ได้นำเพลง ‘I Dreamed a Dream’ มาใช้เล่าเรื่องด้วย เอาเป็นว่าเราไปชมผลงานหนังสั้นที่จะช่วยทำให้เราตระหนักถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติมากยิ่งขึ้น กันเลยดีกว่า…     เราตามไปดูปฏิกริยาของชาวเน็ตทั่วโลก หลังจากได้ชมหนังสั้นเรื่องนี้กันบ้าง…   ‘มนุษย์เรานี่เป็นสปีชีส์ที่แย่ที่สุด พวกเราเป็นคนทำลายทุกสิ่งอย่าง!!’   ‘ปกติไม่มีอะไรที่ทำให้ฉันร้องไห้ได้หรอกนะ ยกเว้นก็แต่อันนี้แหละ…’   ‘ฉันถึงกับร้องไห้ นี่เป็นเรื่องเศร้าเพราะมนุษย์เราแย่ที่สุด’   ‘นับว่าเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดเท่าที่ฉันเคยดูมาเลยล่ะ’   ‘ฉันร้องไห้ให้กับแรด แมวน้ำ และนก’   เป็นเรื่องจริงนั่นแหละที่เราทุกคนคือส่วนหนึ่งของการทำลายธรรมชาติ และมันก็เป็นหน้าที่ของเราทุกคนเช่นกัน ที่จะช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติไว้ให้โลกนี้น่าอยู่…

  • รวม “สะพานเพื่อชีวิต” สร้างให้สัตว์ป่าปลอดภัย อยู่ร่วมกับความเจริญอย่างเป็นสุข…

    รวม “สะพานเพื่อชีวิต” สร้างให้สัตว์ป่าปลอดภัย อยู่ร่วมกับความเจริญอย่างเป็นสุข…

    แนวคิดการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาตินั้นกำลังแพร่ขยายไปทั่วโลก เนื่องจากว่าหากมนุษย์ยังคงอยู่อาศัยในแบบที่เป็นอยู่ ไม่ชีวิตทางธรรมชาติหรืออาจจะเป็นชีวิตของมนุษย์เองที่ต้องพบกับการสูญเสีย   สะพานลอยสำหรับสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา   ดั่งเช่นในเรื่องของปัญหาการสัญจรผ่านเส้นทางหลวง ที่มีรถยนต์แล่นผ่านไปมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งในบางเส้นทางจะตัดผ่านกับอุทยานแห่งชาติอันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และนั่นก็คือสาเหตุของอุบัติเหตุอันนำพาชีวิตและทรัพย์สินที่ต้องแลกไป   สะพานข้ามสำหรับสัตว์ป่าในประเทศเบลเยี่ยม   บรรดานักอนุรักษ์พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องสัตว์ป่าเหล่านี้มาอย่างช้านาน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุรถชนหรือไม่ถูกพรากไปจากแหล่งที่อยู่อาศัยทางธรรมชาติ เพราะฉะนั้นแล้ว แนวคิดของ Wildlife Crossing จึงถือกำเนิดขึ้นมา สะพานเพื่อความปลอดภัยของทั้งมนุษย์และสัตว์ป่า มีประสิทธิภาพมากกว่าป้ายเตือนลดระดับความเร็วหลายเท่าตัว   สะพานลอยสำหรับสัตว์ป่าในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา   เพียงแค่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ระบบถนนหนทางส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศถึง 1 ใน 5 พื้นที่ของประเทศ และอุบัติเหตุรถยนต์ชนสัตว์ป่าคิดเป็นมูลค่าเสียหายสูงถึง 8 พันล้านดอลลาร์ต่อปี (280 พันล้านบาท) สะพานทางข้ามทางลอดสามารถช่วยสัตว์ป่าให้เดินข้ามถนน จากท้องถนนอันวุ่นวายได้อย่างปลอดภัย เพื่อให้พวกมันสามารถใช้ชีวิตตามวิถีธรรมชาติได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ถูกมนุษย์รบกวนแม้แต่น้อย   สะพานสำหรับสัตว์ป่าในรัฐมอนแทนา สหรัฐอเมริกา   สะพานข้ามสำหรับสัตว์ป่า สะพานลอดสำหรับรถยนต์ ในประเทศเนเธอร์แลนด์   สะพานข้ามสำหรับสัตว์ป่านั้นเริ่มขึ้นเป็นที่แรกในประเทศฝรั่งเศส ในช่วงปี 1950…

  • ‘Gerenuk’ สัตว์หายากที่ ‘ไม่เคยกินน้ำ’ เพราะแค่กินอาหารทั่วไป ก็อยู่ได้ตลอดชีวิตแล้ว!!

    ‘Gerenuk’ สัตว์หายากที่ ‘ไม่เคยกินน้ำ’ เพราะแค่กินอาหารทั่วไป ก็อยู่ได้ตลอดชีวิตแล้ว!!

    เมื่อพูดถึงสัตว์ป่า แน่นอนว่า มีสัตว์ป่ามากมาย ทั้งที่เรารู้จักและที่ไม่เคยรู้จัก บางทีสัตว์ที่เราไม่คิดว่าจะมีอยู่บนโลกใบนี้ ก็ยังมีเลย นี่เลย เกรินุก สัตว์ป่าที่มีชีวิตอยู่ได้โดยไม่กินน้ำเลย เป็นไปได้หรอ?? ยังไง งั้นไปดูกันเลยดีกว่า   Nuk เป็นเกรินุกกำพร้า ที่ได้รับการช่วยเหลือเมื่อปี 2013 โดย David Sheldrick Wildlife Trust(DSWT) ในเคนยา มันเป็นหนึ่งในสัตว์กำพร้าที่น่าจดจำมากตัวหนึ่งในสถานเลี้ยงสัตว์กำพร้าแห่งนี้   Nuk ไม่ได้มีแค่หูที่ยาวโดดเด่นหรือขนตายาวสวยงามเท่านั้น แต่มันยังมีความแตกต่างจากสัตว์ชนิดอื่นๆตรงที่ ‘มันสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่กินน้ำเลย’   Nuk และเพื่อนๆของมัน จะกินใบใม้ในปริมาณมากๆ น้ำจากใบพืชนั้นก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยให้มันดำรงชีวิตอยู่ได้ ทำให้มันเป็นสัตว์ที่ไม่ต้องไปหาแหล่งน้ำเพื่อกินน้ำเลย นั่นแตกต่างจากสัตว์กินพืช ที่เรามักจะเห็นในสารคดี ว่าไปกินน้ำแล้วกลายเป็นเหยื่อของจระเข้ที่เฝ้ารอ คอของพวกมันมีพัฒนาการยาวเหมือนยีราฟ ขาหลังของมันต้องมีความแข็งแรงมากๆ เพื่อที่จะสามารถยืนไปกินอาหารบนที่สูงๆได้ มันสามารถยืดตัวได้สูงถึง 2 เมตร จากพื้นดิน นอกจากนี้ ขนตาของพวกมัน นับว่าเป็นส่วนที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง เพราะจะช่วยนำทางให้พวกมันสามารถเข้าไปหาอาหารในดงหนามโดยไม่มีรอยขีดข่วนตามลำตัว   ตั้งแต่ที่ Nuk ได้รับการช่วยเหลือ มันก็พยายามเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยตัวเอง และเมื่อมันโตขึ้น เจ้าหน้าที่ก็ปล่อยให้มันกลับเข้าป่า เพื่ออยู่ร่วมกับฝูงของมัน…

  • ‘Bujing’ ลิงอุรังอุตังชีวิตย่ำแย่ที่สุด ถูกล่ามโซ่มาตลอด 4 ปี และมันถูกช่วยเหลือแล้ว!!

    ‘Bujing’ ลิงอุรังอุตังชีวิตย่ำแย่ที่สุด ถูกล่ามโซ่มาตลอด 4 ปี และมันถูกช่วยเหลือแล้ว!!

    เรื่องราวของเจ้า Bujing ลิงอุรังอุตัง ที่ถูกชาวบ้านในประเทศอินโดนีเซียนำไปขายในตลาดมืด หลังจากที่แม่ของมันตาย เจ้า Bujing ถูกขายไปในราคา 2,600 บาท เพื่อนำมันไปเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ก็ไม่ได้ดูแลมันได้ดีเท่าที่ควร ผู้ซื้อล่ามโซ่มันไว้ในบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ในฝั่งตะวันตกของจังหวัด Kalimantan เป็นเวลานานกว่า 4 ปี จนมันมีสภาพผอมโซ ขนหลุดร่วงแทบจะทั้งตัว และมีบาดแผลอยู่เต็มลำตัว   เจ้าของผู้เลี้ยงได้เปิดเผยว่า ตอนเอามันมาเลี้ยงใหม่ๆ ยังเป็นเด็กเล็กๆ น่ารักเขาได้ทำการเลี้ยงดูอาบน้ำให้นมมันเป็นประจำ แต่พอมันโตขึ้นเขาจึงจับมันมาล่ามไว้หลังบ้าน เพื่อไม่ให้มันไปรบกวนเพื่อนบ้าน   แต่โชคดีที่มันถูกช่วยเหลือออกมาได้โดยคุณ Kylie Bullo นักอนุรักษ์ที่เป็นผู้จัดการโครงการช่วยเหลือและอนุรักษ์อุรังอุตังจากประเทศออสเตรเลีย เขาได้เดินทางมายังประเทศอินโดนีเซียเพื่อทำการช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ถูกมนุษย์จับไปหาผลประโยชน์ และบังเอิญได้ไปพบกับเจ้า Bujing เข้า เขาและทีมเจ้าหน้าที่ได้ทำการเจรจากับเจ้าของเป็นเวลานานกว่า 8 ชั่วโมงด้วยกัน จนทำให้เขายอมปล่อยเจ้าลิงอุรังอุตังวัย 9 ปีให้มาอยู่ในความดูแลของทีมอนุรักษ์   เวลาผ่านไปเกือบ 2 ปี เจ้าหน้าที่ทำการดูแลรักษามันเป็นอย่างดี ให้ทานอาหารที่มีประโยชน์ และตอนนี้สุขภาพของมันหายดีเป็นปลิดทิ้งแล้ว ขนของมันเริ่มยาว น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น และสามารถห้อยโหนปีนป่ายไปมาบนต้นไม้ได้อย่างอิสระ .   น่าดีใจแทนเจ้า Bujing จริๆ…