Tag: จน

  • ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพบัตรคนจนและเงิน 500 จากรัฐ แต่ใส่ทองและขับรถกันรึ่ม?

    ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพบัตรคนจนและเงิน 500 จากรัฐ แต่ใส่ทองและขับรถกันรึ่ม?

    สำหรับประเทศไทยบ้านเรา ที่ต้องยอมรับว่าแม้จะมีเศรษฐีเดินให้เกลื่อนกลาด แต่ขณะเดียวกันนั้นเองก็ยังคงมี คนยากคนจน ที่รายได้น้อยอยู่จำนวนมากเช่นกัน ทางรัฐบาลจึงออกมาตรการช่วยเหลือ โดยให้ผู้มีรายได้น้อยนั้นมาลงทะเบียนรับ “บัตรคนจน” (บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) เพื่อรับสวัสดิการดีๆ จากภาครัฐนั่นเอง     ล่าสุด ในวันที่ 9 ธันวาคม 2561 ทางรัฐบาลก็ได้ทำการมอบสวัสดิการเป็นเงินจำนวน 500 บาทกับผู้ถือบัตรคนจนทุกคน ทำให้ชาวเน็ตที่ได้รับสวัสดิการครั้งนี้ ออกมาโพสต์ภาพโชว์กันเป็นแถว ประเด็นอยู่ตรงที่ บางคนมีการโพสต์ภาพอวดเงิน 500 บาท แต่ในภาพกลับพบว่ามีการ ขับรถยนต์และสวมเครื่องประดับมูลค่าสูง ชาวเน็ตจึงสงสัยว่าผู้คนเหล่านี้เป็น “คนจน” จริงๆ หรือ? ถ้าคนเหล่านี้ มิได้เป็นผู้มีรายได้น้อยจริง แต่กลับสามารถลงทะเบียนทำบัตรคนจนได้ มันก็จะสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานที่คลุมเครือของรัฐบาล และทำให้เกิดคำถามว่า “แบบนี้เข้าข่ายเอาเปรียบหรือไม่?”   คนจน??   เราก็ได้สิทธิ์นะ   ค่าแชร์ เข้าใจว่า บางคนอาจจะเพิ่งมา “รวยภายหลัง” แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ มันก็สะท้อนให้เห็นการจัดการของระบบนี้หละหลวม เพราะหากวันหนึ่งมีคนจริงๆ แล้วดันรวยขึ้นมาภายหลัง เขาก็ยังคงจะได้รับสวัสดิการจากรัฐเทียบเท่าคนที่มีรายได้น้อยอยู่อย่างนั้นหรือ?   ขอบคุณภาพจาก: ควาย+Social Smile

  • ‘ปั๊กปั๊ก’ อาหารที่ปรุงจาก “เศษขยะ” เลี้ยงปากท้องคนจนในฟิลิปปินส์ให้อิ่มในราคา 7 บาท

    ‘ปั๊กปั๊ก’ อาหารที่ปรุงจาก “เศษขยะ” เลี้ยงปากท้องคนจนในฟิลิปปินส์ให้อิ่มในราคา 7 บาท

    อาหาร คือสิ่งที่จำเป็นที่สุดในการดำรงอยู่ของทุกชีวิต รวมไปถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยเช่นกัน สำหรับมนุษย์บางกลุ่มอาหารนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ไม่ยากนัก แต่ขณะเดียวกันเองก็มีมนุษย์อีกจำนวนไม่น้อยที่ “อาหาร” เป็นสิ่งที่หาได้อย่างยากลำบาก และพวกเขาก็พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารเลี้ยงปากท้อง ตัวอย่างเช่น “ปั๊กปั๊ก” วิธีการหนึ่งที่ผู้คนในชุมชนสลัมของฟิลิปปินส์ใช้เพื่อเข้าถึงอาหาร ปั๊กปั๊กคือเศษอาหารเหลือจากกองขยะรายวัน ที่ถูกนำมาปรุงใหม่เพื่อขายให้คนจนได้ทานในราคาเพียง 7 บาทเท่านั้น     ประเทศฟิลิปปินส์ที่ปัจจุบันมีประชากรมากถึง 100 ล้านคนเข้าไปแล้ว รวมถึงวัฒนธรรมในประเทศที่ผสมผสานอย่างหลากหลายทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยขนาดใหญ่ กลายเป็น ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ที่ยากเกินจะแก้ไข ผู้คนที่มีอันจะกิน เจียดเงินเพียงเล็กน้อยแลกกับอาหารระดับกลางที่ทานจนเบื่อและบางครั้งก็ทานไม่หมด ของเหลือจากผู้ร่ำรวยเหล่านี้นี่เองที่กลายเป็นอาหารมื้อสวรรค์ของบรรดาผู้ที่ตกอยู่ภายใต้ความยากจนแร้นแค้น     ขั้นตอนของการทำปั๊กปั๊กเริ่มขึ้นตั้งแต่หัวค่ำของวัน รถเก็บขยะจะไปรอที่ร้านอาหารต่างๆ รวมถึงร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด เพื่อรีบเก็บขยะจากร้านและนำไปคัดแยก   การคัดแยกจะทำจนถึงเช้ารุ่งของอีกวัน ส่วนใหญ่จะคัดเอาพวกกระดูกไก่ที่ติดเนื้อมากกว่าจะเอาเนื้อหมู เพราะพวกเขาคิดว่าเนื้อหมูมีไขมันเยอะและอาจติดโรคได้ง่าย .   เมื่อคัดแยกเสร็จแล้วก็นำไปขายให้กับร้านอาหารชุมชน ทางร้านก็จะรีบนำเศษอาหารเหล่านี้ไป “ล้างน้ำเปล่า” ราว 4 รอบจนกระทั่งน้ำล้างไม่ขุ่นมัวและไม่มีเศษดินติดออกมา   ล้างเสร็จก็จัดแจงปรุงเป็นเมนูอันโอชะ ทำเป็นสตูว์พื้นเมืองของฟิลิปปินส์ ซอสมะเขือเทศนั้นเป็นสิ่งสำคัญของปั๊กปั๊กเลยก็ว่าได้ ต้องใส้ให้เยอะเข้าไว้เพราะนอกจากจะช่วยให้รสชาติที่ดีขึ้นแล้วยังช่วยกลบกลิ่นต่างๆ ที่ติดมาจากกองขยะอีกด้วย   อาหารที่ปรุงเสร็จก็จะออกมามีหน้าตาแบบนี้ นี่แหละที่พวกเขาเรียกกันว่า “ปั๊กปั๊ก”  …

  • คลิปสัมภาษณ์ ‘สาวๆ ชาวจีน’ เงินหรือนิสัยสำคัญกว่ากันในการ ‘เลือกคู่ครอง’!!

    คลิปสัมภาษณ์ ‘สาวๆ ชาวจีน’ เงินหรือนิสัยสำคัญกว่ากันในการ ‘เลือกคู่ครอง’!!

    (คำเตือน: เนื้อหาในบทความเป็นเพียงความคิดส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่สามารถเหมารวมถึงประชากรทั้งหมดได้)   ชาวจีนรวมถึงชาวเอเชียหลายๆ ประเทศมักถูกมองว่ามีความเป็น วัตถุนิยม ค่อนข้างสูง และยิ่งเมื่อกระแสภาพยนตร์เรื่อง Crazy Rich Asians โด่งดังไปยังนานาประเทศก็ยิ่งตอกย้ำความคิดนี้เข้าไปใหญ่ ทางแชแนลยูทูบ Asian Boss จึงได้ออกไปทำการสำรวจสาวจีนหลายๆ คนถึงสิ่งที่พวกเธอหวังจะได้รับจากชายหนุ่ม เพื่อวัดดูว่าสาวจีนส่วนมากนั้นนิยมในวัตถุมากกว่าบุคคลจริงๆ อย่างที่ชาวโลกมองหรือไม่   คลิปวิดีโอสัมภาษณ์สาวจีนในหัวข้อ “วัตถุนิยม” โดยการถามถึงวิธีการเลือกคู่ครอง คลิปวิดีโอถูกโพสต์เมื่อวันพุธที่ 5 กันยายน 2018    คำถามหลักๆ ที่ผู้สัมภาษณ์เข้าไปถามกับสาวๆ ชาวจีนในพื้นที่ คือให้เลือกว่าสิ่งใดสำคัญกว่ากันหากจะเลือกคู่ครอง ระหว่างเงินและบุคลิก คำตอบจะออกมามีแนวโน้มไปทางไหนเราลองไปชมพร้อมๆ กันเลย… สาวๆ บางคนบอกว่า “เงินคือสิ่งสำคัญอันดับแรกเลยเวลาเลือกแฟน” บางคนก็บอกว่า “เงินซื้อไม่ได้ทุกสิ่งก็จริง แต่ถ้าไม่มีมันคุณก็ทำอะไรไม่ได้เลยเช่นกัน”   “เงินซื้อไม่ได้ทุกสิ่งก็จริง แต่ถ้าไม่มีมันคุณก็ทำอะไรไม่ได้เลยเช่นกัน”   ขณะที่บางส่วนก็ตอบว่าสิ่งสำคัญก็คือ ความพยายามและความทะเยอทะยาน เหตุผลก็เพราะว่าบุคคลที่มีสองสิ่งนี้ในจะจบลงด้วยการเป็นคนจนอย่างแน่นอน ส่วนสาวๆ บางกลุ่มก็กล่าวว่าสิ่งที่สำคัญก็คือ ความมั่นคงทางการเงิน เพราะต่อให้มีเงินมากมายแต่ไม่มั่นคงก็ไม่อาจจะมีความสุขในระยะยาวได้ พอถึงช่วงที่ผู้สัมภาษณ์ถามถึงว่าพ่อแม่ของสาวๆ คิดอย่างไรหากพวกเธอมีแฟนที่ฐานะยากจน คำตอบส่วนใหญ่ก็ออกมาว่า พ่อแม่ของพวกเธอมักไม่ให้การยอมรับชายที่ตกงานหรือว่ายากจน…

  • ศิลปินหันมาใช้ “เกลือ” ในการวาดภาพ เพราะไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์ กลายเป็นงานสุดเจ๋ง!!

    ศิลปินหันมาใช้ “เกลือ” ในการวาดภาพ เพราะไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์ กลายเป็นงานสุดเจ๋ง!!

    มนุษย์เราไม่สามารถเลือกได้ว่าจะเกิดมาในครอบครัวรวยหรือว่าจน แต่สิ่งที่เราเลือกได้ก็คือการใช้ชีวิต เราเลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตเป็นคนดี คนขยัน หรือคนมีความสามารถ หรือทั้งสามอย่างรวมกัน อย่างเช่นศิลปินนามว่า Bashir Sultani ผู้ที่เกิดมาพร้อมความสนใจและความสามารถด้านศิลปะอย่างเต็มเปี่ยม แม้ว่าเขาจะไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองก็ตาม เขาไม่มีเงินมากพอจะซื้ออุปกรณ์วาดเขียนแพงๆ เขามีเพียงปากกา ดินสอ และกระดาษธรรมดาๆ เท่านั้น และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกเบื่อหน่ายเกินทนแล้วเสียด้วย   ผลงานของเขาจากปากกาแท่งเดิมๆ ที่เขาเบื่อหน่าย   ด้วยความเบื่อหน่ายจึงทำให้เขาหันมาสนใจการใช้ “เกลือ” ในการวาดภาพ   เขาเริ่มนำเกลือมาใส่สีต่างๆ และพยายามผลิตสีใหม่ๆ ขึ้นมาให้หลากหลายมากขึ้น “กลับมาที่เกลือ สร้างสีใหม่ๆ และลุยต่อ” Bashir Sultani กล่าว สำหรับใครที่สงสัยว่าเกลือมันจากสร้างสรรค์ออกมาเป็นผลงานศิลปะได้จริงหรือไม่ และมันจะสวยงามหรือเปล่า อย่ารอช้า เรารีบไปชมผลงานของเขากันเลยดีกว่า…   ป้าดดด   เท่เวอร์   เนียนเชียวนะ   เกลือที่เขาผสมสีต่างๆ ด้วยตัวเอง   ซูชิอันน่ารับประทาน แต่ทานไปอาจจะเป็นโรคไตได้   โลกแสนสวยด้วยเม็ดเกลือ   มาเป็นกาแล็กซี   ภาพ Bob…

  • สิ่งที่สะท้อนผ่าน “ของเล่นเด็ก” เหล่านี้ คือคุณภาพชีวิตของแต่ละบ้านที่ฐานะแตกต่างกัน

    สิ่งที่สะท้อนผ่าน “ของเล่นเด็ก” เหล่านี้ คือคุณภาพชีวิตของแต่ละบ้านที่ฐานะแตกต่างกัน

    Anna Rosling Rönnlund ริเริ่มก่อตั้งทีมนักถ่ายภาพให้ออกไปถ่ายภาพของ 264 ครัวเรือนจำนวน 50 ประเทศ โดยในแต่ละบ้านที่พวกเขาเข้าไปถ่ายนั้นจะใช้เวลาเกือบทั้งวัน พวกเขาต้องถ่ายสิ่งของราว 135 ชิ้นในบ้านนั้นๆ เช่น รองเท้า แปรงสีฟัน หรือแม้แต่ของเล่นที่พวกเขามีให้กับลูกๆ สิ่งของเหล่านี้จะแสดงให้เห็นถึง สภาพความเป็นอยู่ คุณภาพชีวิต และรายได้ของแต่ละครอบครัว สิ่งที่เราจะนำมาให้ทุกท่านได้พินิจพิจารณากันในวันนี้ก็คือ ภาพของเล่นเด็ก ในแต่ละบ้าน ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างทางสังคม บางครอบครัวที่มีรายได้หลักแสนต่อเดือน ของเล่นลูกๆ ก็จะเป็นแบบหนึ่ง ส่วนครอบครัวที่มีรายได้ต่อเดือนหลักพัน ก็จะมีของเล่นให้กับลูกๆ อีกแบบที่ต่างกันไป ลองไปชมภาพเหล่านั้นกันเลยดีกว่า…   ครอบครัวในประเทศบูร์กินาฟาโซ รายได้ 931 บาท ต่อผู้ใหญ่ 1 คน/เดือน ของเล่นที่ดีที่สุดของหนูก็คือ ยางรถเก่าๆ   ครอบครัวในประเทศบุรุนดี รายได้ 931 บาท ต่อผู้ใหญ่ 1 คน/เดือน ของเล่นแสนสนุกของผมคือ หัวปลี   ครอบครัวในประเทศอินเดีย รายได้ 995 บาท ต่อผู้ใหญ่ 1…

  • งานวิจัยไขข้อสงสัยว่า ‘เงิน’ สามารถซื้อความสุขให้เราได้จริงๆ หรือเปล่า

    งานวิจัยไขข้อสงสัยว่า ‘เงิน’ สามารถซื้อความสุขให้เราได้จริงๆ หรือเปล่า

    หลายคนคงเคยได้ยินใช่ไหมว่า “เงินนั้นไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง” หรือ “เงินนั้นซื้อความสุขไม่ได้” และเชื่อว่าหลายๆ ท่านก็คงใช้ประสบการณ์ของตนเองตอบได้ทันทีว่าคำพูดเหล่านั้นเป็นจริงดังว่าหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนก็จะต้องมีคำตอบเป็นของตัวเอง และเกิดเป็นประเด็นถกเถียงกันในที่สุด วันนี้ คำถามที่ว่า “เงินซื้อความสุขได้หรือไม่?” ได้มีการศึกษากันอย่างเป็นวิทยาศาสตร์แล้ว โดยนักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเออร์ไวน์ ที่ได้ทำการศึกษาว่า ต้องใช้เงินมากขนาดไหนถึงทำให้คนรู้สึกได้ถึงความสุข ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ยังได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Emotion โดย American Psychological Association อีกด้วย     มีงานวิจัยก่อนหน้านี้ที่ศึกษาถึงรูปแบบการเข้าสังคมแบบมุ่งเน้นตนเอง หรือมุ่งเน้นผู้อื่น จำแนกตามแต่ละชนชั้นทางสังคม โดยภายหลัง นักวิทยาศาสตร์ชื่อว่า Paul K. Piff กลุ่มนักศึกษา และผู้ช่วยวิจัย จึงพยายามจะขยายผลโดยการใช้ข้อมูลรายได้ในครอบครัวของแต่ละคนจากงานวิจัยก่อนหน้ามาใช้เทียบกับการเกิดอารมณ์ต่างๆ ทั้ง 7 ที่เป็นองค์ประกอบของความสุข ได้แก่ อารมณ์ขัน ความกลัว ความเห็นอกเห็นใจ ความพึงพอใจ ความกระตือรือร้น ความรัก และความภาคภูมิใจ     ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ การที่ได้รายได้สูงนั้นสัมพันธ์กันกับอารมณ์พึงพอใจ ภาคภูมิใจ และอารมณ์ขัน ซึ่งอารมณ์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มุ่งเน้นไปยังตนเอง ในขณะที่การมีรายได้ต่ำนั้นสัมพันธ์กันกับอารมณ์ที่มุ่งเน้นไปยังผู้อื่น…

  • 12 ภาพบรรยายความสุขของ “คนมัธยัสถ์” ที่เหล่ามหาเศรษฐีอาจไม่เข้าใจเท่าไหร่!!

    12 ภาพบรรยายความสุขของ “คนมัธยัสถ์” ที่เหล่ามหาเศรษฐีอาจไม่เข้าใจเท่าไหร่!!

      การมีความสุขนั้น บางครั้งก็ไม่ต้องเริ่มจากการใช้ของแพงๆ หรือใช้เงินเยอะๆ ไปซะทีเดียว เพราะความสุขนั้นบางครั้งมันก็มักจะเริ่มจากสิ่งเล็กๆ เสมอ ไม่ว่าคุณจะรวยหรือจนก็ตาม… บางครั้งต่อให้เรามีเงิน แต่ถ้าเราสามารถหาทางออกที่สร้างความสนุกให้ตัวเองได้เช่นจอมือถือแตก แต่เราก็ไม่อยากซื้อใหม่แม้เงินจะเหลือ เราก็เลยจัดการสร้างวอลเปเปอร์ที่มันเข้ากับรอยแตกขึ้นมา ซึ่งมันก็เจ๋งและรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ดู แต่ถ้าใครยังคิดไม่ออกว่าจะหาความสุขเล็กๆ ที่ว่าจากไหน งั้นลองมาดูตัวอย่างการหาความสุขแบบง่ายๆ จากคนเหล่านี้ดูสิ!!   บางครั้งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ก็สร้างความสุขที่ยิ่งใหญ่ได้เหมือนกันนะ   ที่สำคัญมันยังเสริมความคิดสร้างสรรค์ได้ดีเลยทีเดียวล่ะ   มือถือพังแต่ไม่อยากซื้อใหม่ ก็เลยแก้ปัญหากันแบบนี้เลยก็แล้วกัน แถมยังเจ๋งไม่ใช่เล่น   ไม่มีรถแต่มีภาพมาติดก็สร้างความสุขเล็กๆ ได้ไม่ยาก   ขอแค่มีเพื่อนสนิทมาฉลองด้วยกัน จะเป็นขนมธรรมดาก็สร้างความสุขได้   จะเซลฟี่หมู่กันทั้งทีแม้จะลำบากหน่อยๆ แต่น่าจดจำ   ตกแต่งวันคริสต์มาสกันแต่พอดีแต่แฮปปี้   รองเท้าหนึ่งคู่ก็สำคัญเท่ากับจักรยานหนึ่งคัน   ความสุขเล็กๆ ของการเก็บสะสมซอส   คนประหยัดจะทำให้ตัวเองค้นพบว่า เห็ดที่เป็นเชื้อราเรายังกินได้ เชื้อราบนขนมปังทำไมเราจะกินไม่ได้   ความสุขเบาๆ ที่ทำให้เรารู้ว่าสบู่หนึ่งขวดมีค่าแค่ไหน   แค่เปลี่ยนมุมมองต่อของบางอย่าง เราก็จะพบว่ามันแตกต่างกัร แต่จริงๆ ก็เหมือนกันนั่นแหละ  …

  • สองครอบครัว สองฐานะ… สลับบ้านกันอยู่เป็นเวลา 1 สัปดาห์ กับบทเรียนที่เงินไม่อาจทดแทนได้

    สองครอบครัว สองฐานะ… สลับบ้านกันอยู่เป็นเวลา 1 สัปดาห์ กับบทเรียนที่เงินไม่อาจทดแทนได้

    เคยคิดบ้างไหมว่า ถ้าอยู่ดีๆ เราที่เคยร่ำรวยสุดๆ สามารถใช้เงินโดยไม่คิดอะไรมากใช้ยังไงก็ไม่มีวันหมด ต้องมาสลับบ้านไปอยู่ในบ้านราคาถูก ส่วนคนที่เคยจนต้องใช้เงินอย่างประหยัดทำอะไรก็ต้องคิด อยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนไปรวยจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณคิดไม่ออก รายการ Rich House, Poor House จากช่อง Channel 5 ในอเมริกาจัดให้!! โดยพวกเขาได้นำครอบครัวของ Matt และ Moniqe Fiddes ที่เป็นคนรวย สลับกันใช้ชีวิตกับ Andy และภรรยาพิการ ของเขา Kim Leamon      ทั้งหมดจะต้องแลกความเป็นอยู่ รวมถึงฐานะกันเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์เต็มๆ จากนั้นก็รอดูสิ่งที่พวกเขาได้จากการสลับสับเปลี่ยนในครั้งนี้ ซึ่งแค่ฟังดูมันก็น่าสนใจแล้ว เริ่มกันที่ครอบครัวของ Andy Leamon กันก่อน โดยเขาได้รับการเพิ่มรายรับจากเดิมอยู่ที่ราวๆ 7,400 บาทต่อสัปดาห์ ให้กลายเป็นเท่ากับรายรับของ Matt Fiddes ซึ่งมีรายรับอยู่ที่ 65,000 บาทต่อสัปดาห์ ซึ่งมากกว่าหลายเท่าเลยล่ะ และเช่นเดียวกันด้าน Matt ก็ต้องไปอยู่ในฐานะเดียวกับที่ Andy เคยเป็น     ด้าน Andy ที่ได้กลายเป็นคนรวย ก็ค้นพบว่าครอบครัวของ Matt นั่นใช้เงินมากกว่า…

  • ชมสภาพเมือง ‘Rio de Janeiro’ หลังจบโอลิมปิค และต้องเผชิญปัญหาเศรษฐกิจล้มละลาย

    ชมสภาพเมือง ‘Rio de Janeiro’ หลังจบโอลิมปิค และต้องเผชิญปัญหาเศรษฐกิจล้มละลาย

    การจะเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิคได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะอย่างน้อยๆ ประเทศเจ้าภาพก็ต้องมั่นใจว่าเศรษฐกิจของตัวเองดีพอ และมีเงินหมุนมากพอ ที่จะไม่ทำให้ประชาชนต้องตกระกรำลำบากหลังจบงานไปแล้ว ทว่าหลังจบงานโอลิมปิคปี 2016 เมือง Rio de Janeiro ก็ได้ประกาศเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจล้มละลาย ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชมสภาพบ้านเมืองหลังจบงานโอลิมปิคอีกครั้ง…   หลังเสร็จสิ้นพิธีปิดได้ไม่นาน ก็มีการประกาศเข้าสู่สภาพวะเศรษฐกิจล้มละลาย   แม้ว่าหน้าฉากในช่วงการแข่งขัน เราจะเห็นภาพรอยยิ้มของชาวบราซิล ทว่าหลังจบงานสภาพการเป็นอยู่ของพวกเขากลับไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นกันในสื่อ   นักกีฬาผู้เป็นดั่งฮีโร่ของชาวบราซิลหลายๆ คน ก็ไม่ได้รับค่าตัวจากรัฐบาลหลังการแข่งขัน   Maicon Andrade นักกีฬาเหรียญทองแดงเทควันโดให้สัมภาษณ์ว่า “ผมคิดว่าเส้นทางกีฬาจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น แต่เปล่าเลย… แม้แต่ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ได้รับค่าตอบแทนแม้แต่สตางค์เดียว”   หนึ่งในสเตเดียมที่ใช้ทุนสร้างมหาศาล ทว่าหลังจบการแข่งขันมันก็กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่ไร้ประโยชน์ทันที   หลายๆ พื้นที่การแข่งขัน ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ชุมชนแออัด ทำให้มีประชาชนจำนวนมากกลายเป็นคนไร้ที่อยู่ และไม่ได้รับการเหลียวแลใดๆ จากรัฐบาล   และทั้งหมดก็มีสเตเดียมที่กลายเป็นพื้นที่รกร้างไปแล้วมากกว่า 27 แห่ง   ยกตัวอย่างเช่นสนามแข่งปั่นจักรยาน ที่เคยใช้งานเพียงแค่ครั้งเดียวหลังสร้างเสร็จ ทว่าต้องสูญเงินไปกับค่าบำรุงรักษาสูงถึงปีละ 840,000 ยูโร (ราว 32 ล้านบาท)  …

  • ผลสำรวจสาวๆ ญี่ปุ่น 1,000 คน ระหว่าง “ไม่หล่อแต่รวย” กับ “หล่อแต่ไม่มีงานทำ” จะเลือกใคร!?

    ผลสำรวจสาวๆ ญี่ปุ่น 1,000 คน ระหว่าง “ไม่หล่อแต่รวย” กับ “หล่อแต่ไม่มีงานทำ” จะเลือกใคร!?

    บ่อยครั้งที่เราจะเห็นการถกเถียง การตั้งคำถามกันในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นในการเลือกคบคน เช่น “หากมีคนหล่อแต่จนกับคนไม่หล่อแต่รวยมาจีบ คุณจะเลือกใคร?” เพื่อดูว่าผู้หญิงจะเลือกคบคนแบบไหนมาเป็นแฟน เพื่อให้การตั้งคำถามนั้นเกิดผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง นิตยสาร AneCan ในญี่ปุ่นจึงได้ทำการสำรวจสาวๆ ประมาณ 1,000 คน เพื่อสอบถามพวกเธอว่าอยากจะได้ผู้ชายแบบไหนมาเป็นแฟน ระหว่าง “ผู้ชายหน้าตาไม่หล่อแต่มีเงินถัง” (มีรายได้ต่อปี 90 ล้านบาท) กับ “ผู้ชายหล่อแต่ไม่มีงานทำ”     หลังจากที่ได้ออกไปสำรวจสาวๆ ทั้งหมด ผลที่ได้ก็คือ 75.5% ของผู้หญิงที่ตอบแบบสอบถาม เลือกผู้ชายที่รวยและประสบความสำเร็จในด้านการเงิน ในอีกด้านหนึ่งราวๆ 24.5% ของผู้หญิงที่ตอบแบบสอบถาม บอกว่าพวกเธอยินดีจะจ่ายค่าอาหารแทนหนุ่มๆ ตราบใดที่พวกเธอยังได้นั่งมองหน้าหล่อๆ ของพวกเขา (สายเปย์นั่นเอง)     หลังจากที่ผลสำรวจนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็ทำให้ชาวเน็ตหลายคนพากันแสดงความคิดเห็นกันไปอย่างหลากหลาย เช่น “เราควรจะดูกันที่ภายใน” “ดูกันที่ภายใน = ก็เงินไง!” “เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าทุกคนเลือกคนรวย” “ในท้ายที่สุดแล้ว เงินคือทุกสิ่ง” “ฉะนั้นไม่ใช่ตัวผู้ชายหรอกที่เนื้อหอม แต่เงินของเขาต่างหากที่เนื้อหอม” “ผมเป็นผู้ชายนะ แต่ผมก็คงตอบแบบเดียวกันถ้าผมเป็นผู้หญิง”     จากผลสำรวจเห็นได้ชัดว่าสาวๆ เลือกคนที่คิดว่าจะสามารถดูแลพวกเธอได้ แต่นั่นก็อาจแปรผกผันไปตามช่วงอายุของสาวๆ…

  • ช่างภาพตามถ่าย ชีวิตของ “สัตว์เลี้ยง” ทั่วทุกมุมโลก จากครอบครัวที่มีรายได้แตกต่างกัน

    ช่างภาพตามถ่าย ชีวิตของ “สัตว์เลี้ยง” ทั่วทุกมุมโลก จากครอบครัวที่มีรายได้แตกต่างกัน

    มีสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ ที่ได้ก่อกำเนิดขึ้นมาเป็นเวลานานนับหมื่นปี เช่นเดียวกับการเลี้ยงสัตว์ ที่มนุษย์ได้เริ่มเลี้ยงเมื่อประมาณ 15,000 ปีมาแล้ว ดังนั้น จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนทั่วโลก ถึงแบ่งปันความรักให้กับเจ้าสัตว์ตัวน้อยๆ อย่างหมา แมว กระต่าย ฯลฯ และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางด้านเว็บไซต์ Dollar Street ได้เผยชุดภาพจากทาง Gapminder ที่เก็บรวบรวมภาพถ่ายของสัตว์เลี้ยงจากทั่วทุกมุมโลก โดยมีจุดประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันของพวกสัตว์ ที่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีฐานะดี ไปจนถึงครอบครัวที่ยากจนที่สุด และเปิดหูเปิดตาให้คนทั่วไป ได้เห็นชีวิตของสัตว์เลี้ยงทั่วโลกว่าเป็นอย่างไรบ้าง ว่าแล้วก็มาชมภาพถ่ายของพวกมันกันเลย…   เหมียวจากครอบครัวชาวไลบีเรีย ที่มีรายได้เดือนละ 1,700 บาท   เจ้าเหมียวที่อาศัยอยู่กับครอบครัวของชาวรัสเซีย ที่มีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือน   พี่หมาที่อาศัยอยู่กับเจ้านายชาวเม็กซิกัน ที่มีรายได้ 224,000 บาทต่อเดือน   สุนัขตัวนี้ อาศัยอยู่กับครอบครัวชาวเฮติ ที่มีรายได้เดือนละ 1,400 บาท   แมวเหมียว จากครอบครัวชาวตูนิเซีย ที่มีรายได้เดือนละ 7,700 บาท…

  • 18 สรรพสัตว์ที่พกเอาความน่ารักมาอย่างเต็มพิกัด จนคุณอาจต้องกรีดร้องขอชีวิต!!

    18 สรรพสัตว์ที่พกเอาความน่ารักมาอย่างเต็มพิกัด จนคุณอาจต้องกรีดร้องขอชีวิต!!

    ดูคอนเท้นท์เครียดๆ กันมาเยอะแล้ว มาดูอะไรน่ารักๆ บ้างดีกว่า และถึงจะไม่หล่อมั่นหรือสวยเนี๊ยบ แต่วันนี้ 18 สัตว์เลี้ยงเหล่านี้พกความน่ารักมาเต้มพิกัดจริงๆ น่ารักจนคุณต้องร้องขอชีวิตเลยล่ะ!!   เจ้าจิงโจ้น้อยตัวนี้คงไม่ปล่อยให้ของเล่นหลุดมือไปง่ายๆ   ขนยุ่งนักก็จับมาถักซะเลยนี่ อิอิ   เจ้านกน้อยกับเท้าที่ผิดรูปของมัน สุดท้ายก็ได้รับการรักษา   ลูกหมูที่กำลังช่วยงานทำสวนอย่างเคร่งเครียด   รู้เลยว่าขั้นต่อไปจะลากรองเท้าไปขย้ำใช่มั้ยยยยย ><   คนลำบากสุดก็คงจะไม่พ้นน้องหมา T^T   ทำความสะอาดบ้านอยู่เท่านั้นแหละ…Cat happens!!   ก็ไม่มีอะไรมากอ่ะนะ กระต่ายขนปุกปุย 2 ตัวเท่านั้นเอง…   เอ่อ สวัสดีครับคุณ ไม่ทราบว่าขอเข้ากล้องด้วยคนได้มั้ยครับ?   เจ้าเหมียวกับแพนเค้ก   ถึงจะหน้าโหดแต่ดูดวงตาของมันสิ อ่อนโยนมาก   บอกตรงๆ แกะไม่ปลื้มมม ฮ่าาาา   ใครหน๊อออ ในกระจกเนี่ย หล่อจริงๆ !!   พร้อมจะไปปาร์ตี้แล้วครับผ๊มมมมม!!   เวลาคุณกำลังจะออกจากบ้านแล้วมองไปที่รถของคุณ…แกจะไปไหน มนุษย์!!…

  • ให้เด็กน้อยแต่งเป็น ‘คนจน vs คนรวย’ เพื่อทดสอบว่า สังคมปฏิบัติต่อเธอต่างกันยังไง!!?

    ให้เด็กน้อยแต่งเป็น ‘คนจน vs คนรวย’ เพื่อทดสอบว่า สังคมปฏิบัติต่อเธอต่างกันยังไง!!?

    ในสังคมเราปัจจุบันนี้ จะดูการการกระทำอย่างเดียว คงไม่พอเสียแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกก็ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จำทำให้เราได้เข้าถึงโอกาสต่างๆในชีวิตด้วย และนี่คือตัวอย่างโครงการจาก Unicef ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของรูปลักษณ์ภายนอก ว่ามีความสำคัญต่อสังคมอย่างไร…   เด็กน้อยวัย 6 ขวบ  Anano เธอแต่งตัวเป็นเด็กสาวที่ดูดี เพียบพร้อม กับ เด็กน้อยที่ดูยากจน น่าสงสาร .   คนที่เดินผ่านไปผ่านมา หยุด เมื่อเห็นหนูน้อยแต่งตัวดี ใส่รองเท้าแพงๆ และเธอว่า ‘อายุเท่าไร หลงทางหรือเปล่า บ้านอยู่ไหน’   แต่เมื่อหนูน้อยเปลี่ยนการแต่งตัวแบบโทรมๆ ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ดูสกปรก ผู้คนก็จะเดินผ่านไปโดยไม่สนใจเธอเลย   องค์การ UNICEF ได้ทำวิดีโอ ที่แสดงให้เห็นถึงวิธีการแก้ไขปัญหาความยากจนที่ส่งผลกระทบต่อโอกาสในชีวิตของเด็ก และนี่ก็เป็นวิดีโอที่อธิบายให้เห็นว่า ทำไมคนเราต้องตัดสินคนอื่นที่การแต่งตัว ซึ่ง หนูน้อย Anano ก็บอกว่า ‘เป็นเพราะ หน้าตามอมแมม และเสื้อผ้าที่ดูสกปรก พวกเขาเลยแสดงอาการแบบนััน’   ตอนที่เธอแต่งตัวสะอาดสะอ้าน มีแต่คนเข้ามาคุย มาทักเธออย่างเป็นมิตร   แต่เมื่อเธอแต่ตัวด้วยเสื้อผ้ามอมแมม มีแต่คนผลักไสไล่ส่ง   มันทำให้ฉันเศร้า…

  • อย่าล้อเล่นสิ!! การ์ตูนบอกเล่ามุมมองของนักศึกษาที่ไม่ได้เกิดมารวย ก็ต้องดิ้นรนกันไป

    อย่าล้อเล่นสิ!! การ์ตูนบอกเล่ามุมมองของนักศึกษาที่ไม่ได้เกิดมารวย ก็ต้องดิ้นรนกันไป

    การศึกษาในระดับอุดมศึกษานั้นมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม ค่าตำราเรียน ค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าหอ และอื่นๆ อีกมากมายหลายสิ่งที่ไม่อยากจะเอ่ย เนื่องจากเป็นภาระหน้าที่และจะต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งมันช่างแตกต่างกับระดับมัธยมซะเหลือเกิน สำหรับใครที่ไม่มีปัญหาทางด้านการเงิน ครอบครัวให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ก็คงจะไม่ลำบากซักเท่าไหร่ แต่สำหรับนักศึกษาที่ไม่ค่อยจะมีเงินมากนัก ก็ต้องดิ้นรนกันไป ยกตัวอย่างให้เห็นจากการ์ตูนเหล่านี้   การมีอินเตอร์เน็ต Wi-Fi = ไปนั่งเล่นในบริเวณที่ปล่อยให้เล่นฟรี   งานปาร์ตี้ธีมอะไรไม่สน = ขอแค่มีของฟรีก็พอ!!   พ่อแม่ = ตู้ ATM   เสื้อผ้าที่เห็นน้อยๆ ในตู้ = เสื้อผ้าที่มีเยอะเต็มตู้นั่นแหละ   งานปาร์ตี้ต้องจ่ายค่าเข้า = ถึงต้องขายอวัยวะแทนเงินกันเลยทีเดียว   กินมาม่า = กินอย่างราชาแล้ว   ของตกแต่งเก่าๆ = ของชิ้นใหม่ที่ซื้อจากห้าง   โอ้โห่!! ทำไมมันช่างตรงกับชีวิตจริงซะเหลือเกิน นี่แค่ระดับมหาวิทยาลัยนะ ถ้าไปต่อในช่วงทำงาน แทบไม่ต้องพูดถึง จนๆ อย่างเหมียวก็มาม่าตลอดนั่นแหละ…

  • ทั่วโลกวิจารณ์ เปรูสร้าง ‘กำแพงแห่งความอับอาย’ เพื่อกั้นเขตระหว่างคนรวยและคนจน

    ทั่วโลกวิจารณ์ เปรูสร้าง ‘กำแพงแห่งความอับอาย’ เพื่อกั้นเขตระหว่างคนรวยและคนจน

    เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Odditycentral ได้เผยแพร่ภาพกำแพงสุดหดหู่ใจ จากเมืองลิมา ประเทศเปรู ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งกั้นดินแดนระหว่างคนรวยและคนจน     ตามรายงานบอกว่ากำแพงแห่งนี้มีความยาวทั้งสิ้น 10 กิโลเมตร ถูกสร้างด้วยคอนกรีตและพันด้วยลวดหนาม จุดประสงค์ที่มีการสร้างมันก็เพื่อให้เหล่าคนรวยรู้สึกปลอดภัยจากคนจน ที่อาจจะรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ของพวกเขา และป้องกันอาชญากรรมต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้     ทั้งนี้ ฝั่งในกำแพงมีชื่อว่า Las Casuarinas (ลาส คาซัวรินาส์) เป็นพื้นที่ของบรรดาคนรวย ส่วนด้านนอกมีชื่อว่า Vista Hermosa (วิสต้า เฮอร์โมซา) เป็นพื้นที่ของคนจนที่แทบจะไม่มีเครื่องใช้อำนวยความสะดวกหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเลย     การสร้างกำแพงขึ้นแบบนี้ ทำให้เหล่าประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ Vista Hermosa นั้นรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะมันแบ่งแยกพวกเขาอย่างชัดเจน ทำให้พวกเขารู้สึกไม่มีความสุขเลย แต่ยังไงก็ตาม เขต Las Casuarinas รู้สึกปลอดภัยและคิดว่ากำแพงแห่งนี้มีความจำเป็นมากสำหรับพวกเขา     กำแพงแห่งความอับอายแห่งนี้เริ่มเป็นที่จับตามองของชาวโลก และถูกตั้งชื่อเล่นให้ว่า กำแพงเบอร์ลินแห่งเปรู ทำให้ชาวเมืองเริ่มรวมกลุ่มกันไปวาดภาพลงบนกำแพง เกิดเป็นจิตรกรรมฝาผนังขึ้น เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของผู้สร้างกำแพง ให้เห็นถึงผลกระทบของมัน  …

  • เมื่อหนุ่มโปแลนด์แต่งตัวเป็นคนจนสลับกับคนรวย เพื่อดูว่าหญิงสาวจะเลือกใคร งานนี้ถึงกับจุก!!

    เมื่อหนุ่มโปแลนด์แต่งตัวเป็นคนจนสลับกับคนรวย เพื่อดูว่าหญิงสาวจะเลือกใคร งานนี้ถึงกับจุก!!

    แม้ว่าเงินจะไม่สามารถซื้อความสุขได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเงินนั้นช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นเยอะ   วันนี้เหมียวจะพาไปพิสูจน์ว่าเงินนั้นช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นแค่ไหน ผ่านคลิปวิดีโอของนาย Sadam หนุ่มชาวโปแลนด์ ผู้ที่อยากจะทดลองทางสังคม โดยการแต่งตัวเป็นหนุ่มธรรมดาๆ เดินเข้าไปคุยกับหญิงสาว และขอนั่งข้างๆ เธอ แต่เหมือนเธอจะไม่แยแส แถมยังบอกให้เขาไปให้พ้นๆ อีก     จากนั้นนาย Sadam ก็ทำหน้าจ๋อยและหลบมุมไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้ากลายเป็นหนุ่มสปอร์ต หล่อรวย พร้อมกับควบบิ๊กไบค์กลับมายังจุดเดิมที่เขาพบหญิงสาวคนเมื่อกี้     จากนั้นเขาก็เริ่มคุยกับเธอเป็นภาษาอังกฤษ โดยบอกกับเธอว่า “ผมเพิ่งย้ายมาอยู่แถวนี้ ผมชื่อ Sadam นะ ผมเพิ่งซื้อบ้านใหม่ที่นี่ ผมมีคฤหาสน์ สระว่ายน้ำ อยู่ห่างจากที่นี่ประมาณ 100 เมตร” ต่อมาเขาก็เอ่ยปากชวนเธอไปที่บ้านของเขา จากนั้นเธอก็ตอบตกลงไปแบบไม่ลังเลย     แต่หลังจากที่เธอขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซค์ได้ไม่นาน นาย Sadam ก็หยุดรถและหันมาถามเธอว่า “เธอจำผู้ชายที่เพิ่งคุยกับเธอเมื่อ 10-15 นาทีก่อนได้ไหม?” และเขาก็ถอดหมวกออก หญิงสาวถึงกับตกใจในใบหน้าของเขาเพราะไม่คิดว่าจะเป็นคนๆ เดียวกัน     ก่อนที่นาย Sadam จะจากไป เขาได้ถามเธอว่าต้องการเงินมากนักใช่ไหม? เขาจึงล้วงไปหยิบเศษเหรียญในกระเป๋าและโยนลงไปต่อหน้าเธอ ทำเอาหน้าชาแบบบอกไม่ถูกเลยทีเดียว  …

  • ชายหนุ่มที่เกิดมามีมือไม่สมประกอบ แต่ไม่ยอมแพ้ ฝึกฝนจนมีความสามารถ แม้คนปกติยังต้องอาย!!!

    ชายหนุ่มที่เกิดมามีมือไม่สมประกอบ แต่ไม่ยอมแพ้ ฝึกฝนจนมีความสามารถ แม้คนปกติยังต้องอาย!!!

    เหมียวขอชื่นชมากใจเลยจริงๆ สำหรับชายหนุ่มคนนี้ ที่เกิดมามีความบกพร่องทางด้านร่างกาย ในส่วนของมือของเขาที่ผิดรูปผิดร่าง แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขายอมแพ้แม้แต่น้อย เพราะถึงจะมีมือที่ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ความสามารถของเขาอาจกลับเหนือกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำ ทั้งการเล่นดนตรี การสร้างงานศิลปะต่างๆ มากมาย แม้แต่คนธรรมดายังต้องอายเลยล่ะ   ถึงมือของเขาจะไม่เหมือนของคนปกติ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เป็นปัญหาแม้แต่น้อย   ขาสามารถแก้รูบิคได้ายในระยะเวลาอันรวดเร็ว น้อยกว่า 1 นาทีเสียด้วยซ้ำ   สร้างงานศิลป์เจ๋งๆ   เล่นเปียโนได้เก่งฉกาจ   แถมร็อคกีต้าร์ได้แบบคนสมประกอบยังต้องอาย มาชมวิดีโอเรื่องราวของเขากันได้ที่นี่เลยเมี๊ยววว นี่แหละเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคำว่า ความพยายามที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นจริงๆ อุปสรรคมีไว้ก้าวผ่านไม่ใช่ยอมแพ้นะเมี๊ยวว เราเกิดมามีมือมีเท้าครบก็อย่าให้อายเขาล่ะ ที่มา: Metro