Tag: คดีความ

  • ‘หนุ่ม กะลา’ โดนหมายจับฐานละเมิดเพลง ‘ยาม’ นำไปร้องหลายครั้ง โดยไม่ขออนุญาต

    ‘หนุ่ม กะลา’ โดนหมายจับฐานละเมิดเพลง ‘ยาม’ นำไปร้องหลายครั้ง โดยไม่ขออนุญาต

    วงกะลานั้นเป็นวงดนตรีของไทยที่ต้องยอมรับว่าโด่งดังในบ้านเราเป็นอย่างมากแม้ว่าวันเวลาจะผ่านไปหลายต่อหลายปี นับตั้งแต่วงกะลาได้ออกอัลบั้มแรก วงกะลา ก็ยังครองใจใครหลายคนอยู่เสมอ แน่นอนว่าวงดนตรีดังแบบนี้ จุดเด่นของวงอย่างนักร้องย่อมต้องเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง หนุ่ม นักร้องนำวงกะลา ที่น้อยคนนักจะไม่รู้จัก     หนุ่ม หรือ หนุ่ม กะลา ต้องงานเข้าอย่างหนักเมื่อการร้องเพลงของเขาได้นำมาซึ่งข้อพิพาททางกฎหมาย หลังจากที่เขานำเพลงที่มีชื่อว่า “ยาม” ของวงลาบานูน ไปร้องโดยมิได้ขอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ขณะที่ตนทำการแสดงคอนเสิร์ต หนุ่มได้นำเพลง ยาม ไปร้องหลายต่อหลายครั้งทั้งที่ไม่มีการขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ จนทางตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์ต้องทำการแจ้งความ เพื่อออกหมายเรียกตัวหนุ่มให้เข้ามาพบเพื่อเจรจาตกลงกันถึงเรื่องลิขสิทธิ์เพลง แต่หนุ่มนั้นไม่ยอมมาพบสักครั้ง     จนสุดท้าย ประธารคณะกรรมการบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลง เพ็ชรเมโทร จำกัด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำหมายจับมาเพื่อจับกุมตัว หนุ่ม กะลา ในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นพร้อมเผยแพร่ภาพและเสียงออกสู่สาธารณะชนเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต คดีนี้ถือว่า หนุ่ม กะลา มีความผิดทางอาญา ซึ่งมีโทษจำคุก 4-6 ปี และปรับ 100,000-800,000 บาท ปัจจุบัน ทางต้นสังกัดของ หนุ่ม กะลา เองก็แจ้งมาว่า ตอนนี้ หนุ่ม ยังไม่เข้ามาที่บริษัทอีกด้วย…

  • คดีสุดอลม่าน เมื่อนักโทษถูกตัดสินประหารชีวิต แต่ความจำเลือนลางจำการก่อเหตุไม่ได้…

    คดีสุดอลม่าน เมื่อนักโทษถูกตัดสินประหารชีวิต แต่ความจำเลือนลางจำการก่อเหตุไม่ได้…

    ในการตัดสินคดีความร้ายแรงต่างๆ นั้น ผู้ต้องหาจะรู้อยู่แก่ใจตนเองว่าได้กระทำการอันใดลงไป และหลังจากศาลได้ทำการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็จะทำการพิพากษาโทษแก่ผู้ก่อคดีตามสมควร ซึ่งในคดีความของนาย Vernon Madison วัย 67 ปี กลับไม่ได้เป็นไปตามนั้น เขาถูกพิพากษารับโทษประหารชีวิตไปเมื่อ 30 ปีก่อน และจะถูกประหารในปี 2016 แต่ด้วยเหตุที่เขาถูกลบความจำจากอาการช็อกหลายต่อหลายครั้ง ทางทนายความจึงขอเลื่อนวันประหารชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้!?   Vernon Madison   นาย Madison จะได้รับการประหารในเดือนพฤษภาคม 2016 จากการก่อคดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ตำรวจในปี 1985 ภายหลังไม่นานก่อนที่สำนวนคดีจะถูกสรุป ทนายความของเขาได้ทำการยื่นอุทธรณ์ไว้ว่า… ลูกความของเขาประสบกับโรคหลอดเลือดสมอง มีอาการช็อกหลายครั้ง ส่งผลทำให้ระบบประสาทเสียหาย และจำอะไรไม่ได้เลยเกี่ยวกับอาชญากรรมในครั้งนั้น   ภาพของนาย Madison ในปี 1985   ศาลจึงทำการเลื่อนการประหารออกไป เนื่องจากสภาพจิตใจของนักโทษนั้นยังไม่สามารถประหารได้ จนกว่าตัวนักโทษจะมีความเข้าใจในบทลงโทษ และเหตุผลที่พวกเขาต้องได้รับโทษ และหลังจากนั้นการประหารนาย Madison ก็ประสบกับโรคเลื่อนแล้วเลื่อนอีกตลอด 2 ปี ที่ถูกตัดสิน โดยครั้งแรกที่นาย Madison มีอาการช็อกนั้นเกิดขึ้นในปี 2015…

  • ‘เขาคือปีศาจในร่างมนุษย์’ ความในใจนักยิมนาสติกสหรัฐฯ ผู้ถูกแพทย์ผู้ดูแลล่วงเกิน

    ‘เขาคือปีศาจในร่างมนุษย์’ ความในใจนักยิมนาสติกสหรัฐฯ ผู้ถูกแพทย์ผู้ดูแลล่วงเกิน

    ในช่วงปีที่ผ่านมานั้น หากจะกล่าวถึงคดีความที่เกิดขึ้นและกลายเป็นกระแสไปทั่วโลก ก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของคดีการล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางวาจาและการปฏิบัติลงมือ ต่างก็ถูกเปิดเผยออกมาจากผู้มีชื่อเสียงในหลากหลายวงการ ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ จนเกิดเป็นกระแสการต่อต้านและแฉพฤติกรรมฉาวผ่านแฮชแท็ก #metoo ไปทั่วโลกออนไลน์ และในครั้งนี้ #เหมียวเลเซอร์ ก็จะขอพูดถึงประเด็นนี้อีกครั้ง เนื่องจากมีคดีความใหญ่เกิดขึ้นในแวดวงกีฬาของประเทศสหรัฐอเมริกา และเพิ่งจะขึ้นศาลฟ้องร้องกันไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม 2018   McKayla Maroney นักยิมนาสติกทีมชาติสหรัฐฯ ผู้คว้าเหรียญทองโอลิมปิกในปี 2012   จุดเริ่มต้นของเรื่องอื้อฉาวในวงการยิมนาสติกของสหรัฐฯ Lawrence G. Nassar คือแพทย์ผู้ดูแลนักยิมนาสติกทีมชาติสหรัฐอเมริกา เขาได้รับใบประกอบวิชาชีพแพทย์ในสาขาออสทีโอพาธี (อันเป็นระบบการดูแลสุขภาพ ที่ประสานการนวดเข้ากับการแพทย์แผนปัจจุบัน) และเขาก็ได้ทำการเปิดคลินิก พร้อมทั้งเป็นผู้ดูแลชมรมยิมนาสติก ของมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตตอีกด้วย   Lawrence G. Nassar แพทย์ผู้ดูแลนักยิมนาสติกทีมชาติสหรัฐอเมริกา   จนกระทั่งในเดือนกันยายน ปี 2016 หนังสือพิมพ์ Indianapolis Star เปิดเผยว่า อดีตสองนักยิมนาสติกได้กล่าวหานาย Nassar ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเมื่อทางมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตตทราบเรื่อง จึงทำการย้ายงานสอนในชมรมของเขา ก่อนที่จะไล่ออกในเวลาเพียงไม่นาน…   การจุดประกายไฟเล็กๆ…

  • หญิงสาวร่ำไห้กลางศาล ระหว่างไต่สวนอดีตแฟนหนุ่ม ที่บังคับให้เธอเดินเปลือยกลางเมือง

    หญิงสาวร่ำไห้กลางศาล ระหว่างไต่สวนอดีตแฟนหนุ่ม ที่บังคับให้เธอเดินเปลือยกลางเมือง

    การหึงหวงนั้นอาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ยังแสดงให้เห็นว่าคนรักของคุณนั้นยังคงแคร์และใส่ใจคุณอยู่ แต่บางครั้งความหึงหวงที่เกินกว่าเหตุก็อาจจะนำมาสู่ความรุนแรงและทำร้ายคนรักของคุณได้เช่นกัน คณะลูกขุนต้องอึ้งกันทันทีหลังจากที่ได้เห็นคลิปวิดีโอของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกบังคับให้เดินเปลือยกายทามกลางอากาศหนาวของเมืองนิวยอร์ก หลังจากที่แฟนหนุ่มของเธอจับได้ว่าเธอแอบส่งข้อความหาชายอื่น     “เขาบีบคอฉัน และทรมานฉัน ในตอนนั้นฉันแทบจะหมดลมหายใจทีเดียว” หญิงสาววัย 25 ปีให้การกับศาล หลังจากที่เธอถูก Jason Melo แฟนหนุ่มทรมานนานกว่า 2 ชั่วโมงก่อนที่จะบังคับเธอออกมาด้านนอกพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเดียวท่ามกลางอากาศหนาว และอัดคลิปวิดีโอประจานเธอ นอกจากนี้หนุ่มวัย 26 ปียังถูกกล่าวหาอีกว่าเขาพยายามจะขว้างรูปปั้นพระพุทธรูปใส่เธอ ในขณะที่ลูกสาวตัวน้อยของพวกเขานอนห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร   ภาพบางส่วนจากคลิปวิดีโอที่ชายหนุ่มถ่ายประจารแฟนสาวของเขา   คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในอินสตราแกรมและ LiveLeak ก่อนที่จะถูกนำมาฉายให้คณะลูกขุนในชั้นศาลเมื่อวันจันทร์ที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ภายในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นถึงคำด่าทอของชายหนุ่มที่พูดกับแฟนสาวของเขาอย่างรุนแรง “ถอดผ้าขนหนูของเธอออก แล้วเดินไปเธอมันคือนางแพศยา หันมาสวัสดีกล้องแล้วบอกสิ ว่าทำไมเธอถึงต้องทำแบบนี้”     “ถอดผ้าเช็ดตัวออกเพื่อตอบแทนกับความละอายใจที่เธอทำกับฉัน ฉันบอกว่าเธอคือผู้หญิงที่ดีที่สุดและอยากจะมีครอบครัวกับเธอ แต่เธอกลับแอบคุยกับผู้ชายมากกว่า 7 คน” คำพูดของชายหนุ่มภายในคลิปวิดีโอ หลังจากนั้นหญิงสาวก็หันมาตอบว่า “แต่ฉันไม่ได้มีเซ็กส์กับพวกเขานะ” นาย Jason ดึงผ้าขนหนูของแฟนสาวออก และปล่อยให้เธอเปลือยกายอยู่บนถนน ก่อนที่หญิงสาวจะพยายามเอามือปิดร่างกายของเธอ และเข้าไปหลบบริเวณที่จอดรถใกล้ๆ     หลังจากถูกจับกุมตัว ชายหนุ่มให้การว่าเขาไม่ได้ทำร้ายร่างกายเธอแต่อย่างใด และตอนนั้นคนอื่นๆ ก็เห็นว่าเธอมีความสุขดี “นักโทษคนอื่นๆ ยังบอกผมเลยว่าบางคนทำสิ่งที่เลวร้ายกว่าผมอีก”…

  • เมืองไทยคิดว่ายังไง!? นี่คือบทลงโทษใหม่ ที่รัฐบาลเกาหลีใต้ จะใช้กับผู้กระทำความผิดคดีข่มขืน!!

    เมืองไทยคิดว่ายังไง!? นี่คือบทลงโทษใหม่ ที่รัฐบาลเกาหลีใต้ จะใช้กับผู้กระทำความผิดคดีข่มขืน!!

    เมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้ยินข่าวเกี่ยวกับการข่มขืน บทลงโทษที่เรามักจะได้ยินเกี่ยวกับโทษในลักษณะนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นการถูกตัดสินจำคุก แต่สำหรับที่ประเทศเกาหลีใต้นั้นพวกเขาได้ออกมาตรการใหม่ในการลงโทษดังกล่าวนั่นก็คือการฉีดสารที่ทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั่นเอง!! ขณะนี้ทางการเกาหลีได้พิจารณาการนำสารเคมีลดสมรรถภาพทางเพศนี้มาใช้ในการลงโทษสำหรับคดีอนาจารและคดีข่มขืน โดยผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดคดีข่มขืนเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปี จะต้องเข้ารับการบำบัดด้วยสารดังกล่าวทุกๆ 1 เดือนนานถึง 15 ปี     ร่างกฎหมายดังกล่าวนั้นถูกนำเสนอผ่านคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และกำลังมีการประชุมหารือถึงรายละเอียดในการลงโทษต่างๆ เกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าวอยู่ในขณะนี้ สารเคมีดังกล่าวนั้นจะอยู่ในรูปของยาเม็ดหรือยาฉีด ซึ่งจะช่วยลดความต้องการทางเพศของผู้ต้องหา และนอกจากนี้ยังทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัวอีกด้วย โดยทางการคาดว่าการบำบัดนี้จะประสบความสำเร็จ ถึงแม้ว่าผู้ต้องหาจะออกจากโครงการแล้วก็ตาม     ประเทศเกาหลีใต้ได้เริ่มแนวคิดดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2011 และกลายเป็นประเทศแรกในแถบเอเชียที่เริ่มนำวิธีดังกล่าวมาใช้ในกระบวนการยุติธรรม หลังจากที่ปัญหาอาชญากรรมทางเพศในประเทศนั้นเริ่มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ในร่างกฎหมายดังกล่าวยังได้เสนอเงื่อนไขให้มีการใช้ยาดังกล่าวกับนักโทษก่อนที่พวกเขาจะพ้นโทษประมาณ 6 ถึง 9 เดือน     ถึงแม้ว่าการใช้ยาดังกล่าวนั้น จะได้รับการศึกษาและการประเมินทางจิตเวชจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว แต่ทางด้านฝ่ายค้านเองก็ได้ตั้งข้อสงสัยว่าการใช้สารเคมีดังกล่าว จะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องหาหรือไม่ นอกจากนี้ทางด้านผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เองก็ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้การศึกษาเกี่ยวกับตัวยาดังกล่าวนั้นยังมีข้อมูลไม่เพียงพออีกด้วย   ชมรายงานเพิ่มเติมได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย…   ที่มา koreaherald

  • หญิงสาวตัด ‘ก้านดวงใจ’ ชายหนุ่มด้วยกรรไกรตัดกิ่งไม้ ป้องกันตัวเองจากการถูกคุกคามทางเพศ!!

    หญิงสาวตัด ‘ก้านดวงใจ’ ชายหนุ่มด้วยกรรไกรตัดกิ่งไม้ ป้องกันตัวเองจากการถูกคุกคามทางเพศ!!

    ในวันที่ 27พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าว Daily Mail ได้มีการรายงานเกี่ยวกับคดีของสถาปนิกสาววัย 26 ปี Brenda Barrattani ที่ทำการตัดไอ้จ้อนของนักดนตรีหนุ่มวัย 40 ปีที่กำลังหลับอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของเธอเอง ก่อนที่เขาจะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลด้วยความเจ็บปวดและเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุด เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เมือง Cordoba ประเทศอาร์เจนตินา โดยหญิงสาวถูกจับกุมตัวและให้การรับสารภาพว่าเธอได้ใช้กรรไกรตัดกิ่งไม้ตัดน้องชายของนักดนตรีที่ใช้ชื่อว่า Sergio F. จริง แต่ยังไม่มีการระบุถึงเหตุผลที่ทำให้เธอต้องทำอย่างนั้นกับเขา   Brenda หญิงสาวผู้ใช้กรรไกรตัดกิ่งไม้พรากไอ้จ้อนของชายหนุ่มไป   ต่อมาทางสำนักข่าว European News ก็ได้รายงานข่าวออกมาว่า Carlos Nayi ทนายของฝ่ายหญิงบอกว่า ที่เธอต้องทำอย่างนั้นก็เพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกคุกคามทางเพศ เขาเล่าว่า “เธอยอมให้นักดนตรีหนุ่มเข้าไปในห้องเพราะเห็นว่าเป็นคนรู้จักกับพี่ชายเธอ และเขาก็อ้างว่าต้องการเข้าไปหยิบเครื่องดนตรีออกมาเท่านั้น แต่เขาก็ได้พยายามที่จะทำมิดีมิร้ายเธอ และนั่นจึงทำให้เธอต้องป้องกันตัวเอง”   ภาพส่วนหนึ่งในสถานที่เกิดเหตุ ที่พอจะสามารถนำมาเผยแพร่กับสาธารณชนได้   อย่างไรก็ตามทาง Eduardo Perez ทนายของฝ่ายชายก็ออกมาชี้แจงไปในอีกลักษณะหนึ่ง เขาบอกว่า “ทั้งสองรู้จักกันมาหลายเดือน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ นักดนตรีหนุ่มก็ไม่ได้หลับอยู่ด้วย” “พวกเขาร่วมรักกันแบบแปลกๆ พิเรนทร์ๆ หน่อยเท่านั้นเอง โดยในขณะที่ฝ่ายชายกำลังถูกปิดตาอยู่ก็เกิดความผิดพลาดขึ้นเท่านั้นเอง…

  • ครอบครัวยูทูบเบอร์ถูกศาลสั่งตัดสินสั่งจำคุก 5 ปี หลังทำคลิปวิดีโอแกล้งลูกแรงเกินเหตุ

    ครอบครัวยูทูบเบอร์ถูกศาลสั่งตัดสินสั่งจำคุก 5 ปี หลังทำคลิปวิดีโอแกล้งลูกแรงเกินเหตุ

    บางครั้งการเล่นสนุกก็ควรจะมีขอบเขตและอยู่ในกรอบบ้าง เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้คุณต้องกลายเป็นผู้ต้องหาแบบครอบครัวนี้ก็ได้!! Michael และ Heather Martin สองสามีภรรยาจากรัฐแมริแลนด์ เจ้าของช่องยูทูบ DaddyOFive ได้ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี หลังจากที่ถูกแจ้งข้อหาทารุณกรรมเด็กเมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา     โดยคลิปวิดีโอที่เป็นต้นเหตุเรื่องครั้งนี้ก็คือคลิปวิดีโอที่ใช้ชื่อว่า “Kids Prank” ซึ่งภายในคลิปวิดีโอดังกล่าวนั้นเผยให้เห็นถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมกับเด็กๆ ในบ้านของเขา ภาพบางส่วนจากคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่าสองสามีภรรยานั้นได้ตะคอกใส่พวกเด็กๆ อย่างรุนแรงจนพวกเขาร้องไห้ออกมา และนอกจากนี้ยังมีการลงมือทำร้ายร่างกายเด็กน้อยคนหนึ่งด้วยการผลักจนกระทั่งเจ้าหนูมีเลือดออกที่จมูก ทางสำนักงานตำรวจจาก Frederick County และศูนย์คุ้มครองเด็กภายในพื้นที่รัฐแมรี่แลนด์ จึงได้เริ่มทำการสืบสวนหาข้อเท็จริง หลังจากที่ถูกหลายๆ ฝ่ายร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของสามีภรรยาคู่นี้     คุณ Lindy Angel ผู้ช่วยอัยการเขตกล่าวว่า ทางครอบครัว Martins พร้อมกับเด็กๆ อีก 5 คนได้เข้ารับการประเมินทางด้านจิตวิทยา และพบว่าเด็กน้อย 2 จาก 5 คนนั่นก็คือหนูน้อย Cody วัย 10 ขวบและ Emma วัย 11 ขวบได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจซึ่งเป็นผลมาจากคลิปวิดีโอดังกล่าว นอกจากนี้ในคลิปวิดีโอส่วนใหญ่ของพวกเขาแล้ว เจ้าหนูน้อย Cody มักจะตกเป็นคนที่ถูกด่าและทำร้าย โดยหนึ่งในคลิปวิดีโอที่ถูกลบไปนั้น เผยให้เห็นตอนที่คุณ Heather ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของ Cody และ Emma กำลังด่าเด็กน้อยอย่างรุนแรงหลังจากที่เขาทำหมึกหกใส่พรหม…

  • Taylor Swift ชนะคดีความล่วงละเมิดทางเพศ เรียกร้องค่าเสียหายแค่ 1 ดอลลาร์เท่านั้น

    Taylor Swift ชนะคดีความล่วงละเมิดทางเพศ เรียกร้องค่าเสียหายแค่ 1 ดอลลาร์เท่านั้น

    หลังจากที่ตกเป็นข่าวใหญ่เกี่ยวการถูกล่วงละเมิดทางเพศของนักร้องสาวตาคมอย่าง Taylor Swift กับดีเจหนุ่ม David Mueller จนเกิดเป็นคดีความและมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ล่าสุดศาลได้พิจารณาตัดสินให้นักร้องสาวเป็นฝ่ายชนะเป็นทีเรียบร้อยแล้ว และเธอก็เรียกร้องค่าเสียหายแบบหักหน้าอีกฝ่าย ด้วยจำนวนเงินเพียงแค่ 1 ดอลลาร์ หรือแค่ประมาณ 33 บาทเท่านั้น     ซึ่งคดีความดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทางนักร้องสาวได้ออกมาฟ้องร้องดีเจหนุ่ม ข้อหาลวนลามเธอด้วยการเอามือล้วงเข้าไปใต้กระโปรงระหว่างการถ่ายรูปเมื่อปี 2013 แต่ทางฝ่ายชายได้ออกมาปฏิเสธพร้อมกลับฟ้องกลับในข้อหากุเรื่องทำให้เขาเสียชื่อเสียง และเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินมากถึง 3 ล้านเหรียญเลยทีเดียว หลังจากที่มีการสืบสวนเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง ก็กลับกลายเป็นฝ่ายนักร้องสาวที่ชนะคดีไป โดยเธอบอกว่าการเรียกร้องค่าเสียหายเพียงแค่ 1 ดอลลาร์นั้น     การกระทำดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ต้องการเงิน แต่เธออยากจะแสดงให้ผู้หญิงคนอื่นๆ ที่กำลังตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดออกมาพูดในสิ่งที่ถูกต้องและต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมของตัวเอง “ถ้าพวกเธอบอกว่า ไม่ ก็แปลว่าไม่นั่นแหละ พวกผู้หญิงควรจะมีสิทธิ์บอกว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายของพวกเธอ” คุณ Douglas Baldridge ทนายของนักร้องสาวกล่าว ที่มา independent

  • แฟนๆ คิดเห็นอย่างไร กรณี ‘สรยุทธ’ ถูกศาลสั่งจำคุก ควรจัดรายการต่อไปดีหรือไม่?

    แฟนๆ คิดเห็นอย่างไร กรณี ‘สรยุทธ’ ถูกศาลสั่งจำคุก ควรจัดรายการต่อไปดีหรือไม่?

    เรียกได้ว่าเป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ทีเดียว สำหรับกรณีนักข่าวชื่อดังอย่างนาย สรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกในคดี บ.ไร่ส้ม ทุจริตค่าโฆษณา อสมท เป็นเวลา 13 ปี 4 เดือน แต่สุดท้ายก็ขอประกันตัวไปในวงเงิน 2 ล้านบาท   ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 1 มีนาคมคุณสรยุทธก็ยังคงเดินทางมาจัดรายการเรื่องเล่าเช้านี้เป็นปกติ พร้อมกับอ่านข่าวของตัวเองออกอากาศเป็นข่าวแรกและยืนยันว่าจะขอสู้ในชั้นศาลต่อไป     ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนดูทางบ้านตามมาว่า เหมาะสมหรือไม่ที่สรยุทธยังคงกลับมาจัดรายการตามปกติ? เพราะตนเองมีคดีความอยู่ แต่ทำไมทางผู้บริหารของช่องกลับอนุญาตให้กลับมาจัดรายการได้?   ทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ไปในแง่มุมต่างๆ เช่นเพจของอีเจี๊ยบเลียบด่วน ที่มองว่าสรยุทธเองเป็นคนดังและทำรายการต่อเนื่องมาสิบกว่าปี จนมีแฟนรายการรอชมอย่างเหนียวแน่น และแถบจะเป็นนักข่าวคนเดียวในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ที่เราได้เห็นหน้าเขาผ่านทีวีทุกๆ วัน หากขาดสรยุทธไป รายการข่าวของช่อง 3 อาจจะมีปัญหาเอาได้   ไม่ว่าเหตุบ้านการเมืองใดก็ตามที่ถึงมือสรยุทธ มักจะกลายเป็นข่าวใหญ่โต จนเกิดความเคลื่อนไหวในสังคมเสมอ แต่หากมองอีกแง่หนึ่ง บริษัทที่สรยุทธทำงานอยู่นั้นก็ถูกตัดสินให้มีความผิดจริง และหากเจ้าตัวยังคงทำหน้าที่อยู่ในสังคมต่อไปแบบนี้ อาจจะถูกประชาชนตำหนิเอาได้ว่าเกิดความลำเอียงต่อคนรวยและคนมีชื่อเสียง มาๆๆๆ ว่างคุยเรื่องเฮียสอเค้าหน่อย ปรามก่อนเลยว่า ไอ้พวกมาแนวเรื่องการเมืองกีฬาสี เรื่องไปพูดแขวะศาล ประชดศาล เก็บเห็ดซี… Posted by อีเจี๊ยบ…

  • แบบนี้ก็มีเหรอ? สาวแฉผ่านเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ เพราะขี้เกียจทำคดี!?

    แบบนี้ก็มีเหรอ? สาวแฉผ่านเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ เพราะขี้เกียจทำคดี!?

    ถือเป็นเรื่องราวเหวอๆ ที่เหมียวอ่านแล้วแถบไม่เชื่อสายตา และอยากจะให้เพื่อนๆ ลองใช้วิจารณญาณกันดูนะ     นี่เป็นเรื่องราวของผู้ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า Sandy HaHa เธอได้เข้ามาโพสต์ภาพและข้อความลงในโลกออนไลน์เมื่อช่วงเวลา 4 นาฬิกาของวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา โดยเล่าเหตุการณ์ที่มีชายหนุ่มชาวต่างด้าว 2 คน ได้พยายามงัดเข้าไปยังห้องของพี่ผู้หญิงท้องแก่ที่รู้จักกันคนหนึ่ง     ในระหว่างนั้นพี่ผู้หญิงก็ได้โทรเรียกสามีให้รีบกลับมาที่ห้องเพื่อดูเหตุการณ์ เมื่อสามีของเธอมาถึงก็ต่อยทั้ง 2 คนก่อนจะโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อทั้งหมดเดินทางไปยังโรงพักก็ถึงกับเหวอเลยทีเดียว เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าหากพวกเขาแจ้งความหนุ่มต่างด้าว พวกเขาอาจจะถูกหนุ่มต่างด้าวแจ้วความกลับในข้อหาทำร้ายร่างกาย     ทั้งนี้เจ้าของเฟซบุ๊กได้ให้เหตุผลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำแบบนั้นก็เพราะว่าขี้เกียจทำคดี และในช่วง 6 โมงเช้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไปพบกับหัวหน้าด้วย ทำให้ต้องพยายามไกล่เกลี่ยให้เร็วที่สุด         เอิ่ม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบนี้จริงๆ เหรอเนี๊ยะ ยังไงก็ฟังหูไว้หูก่อนนะจ๊ะ ที่มา Sandy HaHa