Tag: เมาแล้วขับ

  • สายปาร์ตี้อ่านไว้ ‘เมาแล้วขับ’ โดนจับปรับหนัก แถมติดเครื่องติดตาม 15 วันอีกด้วย!!!

    สายปาร์ตี้อ่านไว้ ‘เมาแล้วขับ’ โดนจับปรับหนัก แถมติดเครื่องติดตาม 15 วันอีกด้วย!!!

    อีกหนึ่งสาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ได้รับการจัดอันดับไว้เป็นอันดับต้นๆ นั่นก็คือ เมาแล้วขับ ที่สร้างความเสียหายมากมายไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อทรัพย์สิน ความเสียหายต่อส่วนรวม และความเสียหายต่อชีวิตไม่ว่าจะเป็นตัวเองหรือผู้อื่น ทางรัฐบาลจึงต้องมีมาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อลดอัตราจำนวนผู้เมาแล้วขับเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะตามมา จึงได้มีการตั้งข้อกฎหมายหนักๆ รวมไปถึงการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ร่วมด้วย นั่นก็คือการใช้ เครื่อง EM หรือเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่มาพร้อมกับตัวติดตามสัญญาณ GPS สวมติดข้อเท้าเอาไว้ตลอดเวลา เคยถูกนำมาใช้ตั้งแต่ปี 2557 แล้วก็ยกเลิกไป และนำมาใช้ใหม่ในปี 2561 เครื่อง EM ถูกนำกลับมาใช้พร้อมกับตั้งข้อหาใหม่ เชื่อว่าคงไม่มีใครที่อยากจะต้องใช้เครื่องนี้อย่างแน่นอน #เหมียวบู้บี้ จึงขอนำเรื่องราวของสาวคนหนึ่งที่ได้มาเผยแพร่เรื่องราวประสบการณ์การโดนเครื่อง EM ติดตัว   “ฝากเตือนสำหรับพวกที่ชอบปาร์ตี้หนัก เจอมากับตัวเลย นี่โดนด่านวัดแอลกอฮอล์ได้ 175 โดนรับโทษ 4 ข้อหา 1. จำคุกสองเดือน ปรับ 17,000 บาท จำคุกรอลงโทษไว้ 2 ปี 2. ต้องมารายงานตัวและอบรม 4 ครั้ง  3. บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง 4. ติดอุปกรณ์ติดตาม ห้ามออกจากที่พักตั้งแต่…

  • หนุ่มขับรถชนแล้วหนีถึงกับสลด พบว่า “ผู้หญิงที่เจ็บ” และ “เด็กที่ตาย” คือลูกเมียตัวเอง

    หนุ่มขับรถชนแล้วหนีถึงกับสลด พบว่า “ผู้หญิงที่เจ็บ” และ “เด็กที่ตาย” คือลูกเมียตัวเอง

    ทุกคนทราบกันดีว่าเราไม่ควรขับขี่ขณะที่กำลังมึนเมา เพราะมีความเสี่ยงสูงที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ และมันอาจเลวร้ายมากกว่านั้นหากเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายคือคนในครอบครัวของเราเอง เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2018 เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานข่าวของชายแซ่ Zhang ที่ได้ออกไปดื่มสังสรรค์ที่บ้านญาติในเมือง Zibo มณฑลซานตง ประเทศจีน พร้อมกับพาลูกชายและภรรยาไปด้วย   ภาพของชายแซ่ Zhang   ชายหนุ่มนั้นเลือกที่จะอยู่สังสรรค์ต่อ ในขณะที่ภรรยาตัดสินใจจะพาลูกกลับไปพักผ่อนที่บ้านก่อน เธอจึงพาลูกซ้อนมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากลับ ผ่านทางถนนที่มืดมิดในช่วงกลางดึก จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.30น. ตามเวลาท้องถิ่น แม่ที่กำลังพาลูกชายกลับบ้านอยู่นั้นก็ถูกรถยนต์ชนเข้าอย่างจัง ก่อนที่รถคันก่อเหตุจะขับหนีไป ท่ามกลางสายตาของพยานผู้เห็นเหตุการณ์หลายราย ชาวบ้านจึงรีบโทรเรียกรถพยาบาลและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำตัวแม่ลูกทั้งสองคนส่งโรงพยาบาล ผู้เป็นแม่บาดเจ็บสาหัสต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ฝั่งลูกชายนั้นกลับต้องจากโลกนี้ไปอย่างน่าเศร้า   สภาพของรถจักรยานยนต์ที่ถูกชน   รองเท้าของเด็กชายที่ลอยกระเด็นไป   เมื่อตำรวจทำการตรวจเช็กกล้องวงจรปิดและพิจารณาคำให้การของพยาน จึงพบว่าแท้จริงแล้วคนที่ขับรถชนแล้วหนีในครั้งนี้คือหนุ่มแซ่ Zhang สามีของเหยื่อที่บาดเจ็บและพ่อของเด็กที่เสียชีวิตไป ตำรวจจึงจับกุมตัวชายคนนี้มาดำเนินคดี โดยเมื่อพาเขาไปพบกับผู้ประสบเหตุทั้งสองรายที่โรงพยาบาล จึงทำให้ชายหนุ่มพบว่าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกเขาชนแล้วหนีนั้นคือภรรยาและลูกชายของตัวเอง เขาถึงกับร้องไห้โฮออกมาด้วยความเสียใจ กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่กับการจากไปของลูก   ชายหนุ่มเศร้าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก   เขาให้การกับตำรวจว่าตัวเองนั้นมีอาการมึนเมาเป็นอย่างมาก และขับรถตู้สีเงินกลับบ้านเพื่อไปหาลูกเมีย แล้วระหว่างทางก็ได้ชนเข้ากับรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง แต่ก็เลือกที่จะขับหนีไปโดยไม่รู้ว่าเหยื่อทั้งสองนั้นคือคนที่ใกล้ชิดกับเขามากที่สุด…

  • เดี๋ยวดูแลเอง!! ตำรวจจับคุณแม่เมาแล้วขับ แถมอ้วกใส่ลูก… เดี๋ยวลุงจะดูแลเองนะหนู

    เดี๋ยวดูแลเอง!! ตำรวจจับคุณแม่เมาแล้วขับ แถมอ้วกใส่ลูก… เดี๋ยวลุงจะดูแลเองนะหนู

    เรื่องของหน้าที่การดูแลบุตรหลานนั้นเป็นความรับผิดชอบของผู้ปกครอง แต่ถ้าหากว่าผู้ปกครองอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมล่ะ จะให้ใครมาช่วยดูแลแทน!? อาจจะเป็นญาติพี่น้องหรืออะไรก็ว่ากันไป แต่ในเมื่อมันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ก็ต้องให้เป็นหน้าที่ของคุณตำรวจแล้วล่ะ   อย่างในกรณีนี้เกิดขึ้นที่เมือง Princeton รัฐ West Virginia ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อมีคุณแม่รายหนึ่งถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับ และจากการตรวจสอบภายในรถก็พบว่ามีลูกน้อยอายุ 1 ขวบของเธอนั่งมาด้วยในเบาะหลัง แต่อยู่ในสภาพที่นั่งเด็กแบบไม่ปลอดภัยและร่างกายเต็มไปด้วยอ้วกเลอะเทอะเต็มตัว     เห็นท่าแบบนี้ก็คงจะไม่ดีเป็นแน่แท้ เพราะคุณแม่เองก็ดูไม่ได้สติและโดนจับไปแล้ว ครั้นจะเรียกผู้เป็นญาติใกล้ชิดมาดูแลก็คงจะต้องรอนาน คุณตำรวจก็เลยพาหนูน้อยไปล้างเนื้อล้างตัวในอ่างล่างมือที่สำนักงานตำรวจด้วยตัวเองเลย   เจ้าหน้าที่ตำรวจ D.C. Graham ผู้ช่วยอาบน้ำหนูน้อยกล่าวว่า ‘ผมทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว และในครั้งนี้ก็เป็นอะไรที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เมื่อมาเห็นเด็กในสภาพนี้ พวกเราพาหนูน้อยกลับมาที่สำนักงาน กลิ่นอ้วกกระจายไปทั่วห้องเลย และเด็กก็ร้องไห้หนักด้วย พวกเราพยายามทำทุกอย่าง เพราะเราจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้’     หลังจากที่พาตัวหนูน้อยมาชำระล้างร่างกายที่สำนักงานตำรวจแล้ว เขาก็บอกว่าว่า ‘เมื่อผมพาเจ้าหนูมาอาบน้ำอาบท่าในอ่างล่างมือปุ๊บ รอยยิ้มของเจ้าหนูก็เริ่มกลับมาแล้วล่ะ’     เมื่ออาบน้ำเสร็จเขาก็เช็ดตัวหนูน้อยและพาอุ้ม พาเล่นกับตุ๊กตาหมีไปก่อน จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณสามชั่วโมงเจ้าหน้าที่จากหน่วยดูแลเด็กก็มารับช่วงต่อ ส่วนแม่ของหนูน้อยก็ไม่ได้สติที่จะตอบคำถามใดๆ และถูกตั้งข้อหาไปตามระเบียบ…!!   ที่มา : cnn, unilad

  • ชมโฆษณารณรงค์ ‘เมาไม่ขับ’ สุดครีเอท ให้นักโทษที่ถูกดำเนินคดีเมาแล้วขับ มาคุยกับคนเมา!!

    ชมโฆษณารณรงค์ ‘เมาไม่ขับ’ สุดครีเอท ให้นักโทษที่ถูกดำเนินคดีเมาแล้วขับ มาคุยกับคนเมา!!

    ปัจจุบันนี้มีการรณรงค์ในเรื่องของเมาไม่ขับมากมาย นอกจากจะก่อให้เกิดความเสี่ยงบนท้องถนนจนทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินแล้วยังผิดกฎหมายอีกด้วย ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีบทลงโทษที่เรียกว่าหนักหน่วงจริงๆ สำหรับคนเมาแล้วขับ คือปรับไม่เกิน 70,000 จำคุกตั้งแต่ 72 ชั่วโมง ถึง 180 วัน, พักใบอนุญาตขับขี่ 90-365 วัน และหากตรวจพบว่าครอบครองภาชนะเครื่องดื่มแอลกอฮล์ที่เปิดฝาอยู่ จะถูกขังเพิ่มอีก 3-6 วัน นอกจากนี้ยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีเป็นจำนวนเงิน 70,000 บาทเป็นระยะเวลา 3 ปีเพื่อรักษาสถานภาพของใบขับขี่อีกด้วย เพราะในสหรัฐนั้นใบขับขี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก บริษัทหรือการจ้างงานส่วนใหญ่มักจะเรียกตรวจขอดูใบขับขี่กันทั้งนั้น นี่แค่เมาแล้วขับนะ ยังเสียหายหลายแสนเลยนะเนี่ย แต่ถ้าหากว่าเมาแล้วเกิดชนคนตายขึ้นมาล่ะก็ โทษจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล โดยจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับไม่เกิน 700,000 บาท และต้องบำเพ็ญประโยชน์อีก 240-800 ชั่วโมง   ก็เลยมีองค์กรที่คิดไอเดียเพื่อรณรงค์ไม่ให้คนเมาแล้วขับด้วยการให้นักโทษที่ติดคุกเพราะโทษเมาแล้วขับนี้มาคุยกับคนที่กำลังเมาถึงที่เลย   นักโทษคนดังกล่าวคือ Kris Caudilla เขาได้รับการตัดสินให้จำคุกถึง 15 ปีเพราะเขาก่อเหตุเมาแล้วขับชนตำรวจนายหนึ่งจนถึงแก่ชีวิต   เขาก็เลยไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีกก็เลยร่วมมือกับองค์กร We Save Lives ทำโครงการ Reflections from…

  • อดีตแชมป์มวยปล้ำเมาแล้วขับ ต่อสู้ขัดขืนเลือดท่วม จนต้องใช้เจ้าหน้าที่ถึง 7 ราย เพื่อควบคุมตัวเขา

    อดีตแชมป์มวยปล้ำเมาแล้วขับ ต่อสู้ขัดขืนเลือดท่วม จนต้องใช้เจ้าหน้าที่ถึง 7 ราย เพื่อควบคุมตัวเขา

    ฮ่าๆๆๆ เรื่องนี้ถ้าจะบอกว่าผิดก็คือผิดเต็มๆ เลยล่ะ แหม๊…นึกว่าเล่น WWE อยู่หรือว่าอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ งานนี้พี่นอนคุกยาวอย่างแน่นอน >< เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ Vyacheslav Oliynyk อดีตนักมวยปล้ำผู้ครอบครองเหรียญโอลิมปิกยูเครนปี 1996 และตอนนี้เขาก็มีอายุได้ 50 ปีแล้วล่ะ แต่กระนั้นก็ยังไม่ยอมทิ้งลายความเก่งฉกาจที่เคยมีแต่อย่างใด โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่โดนตำรวจเรียกให้จอดเพราะเขาเมาแล้วขับ…แต่เขาไม่จอด จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่โตล่ะ   Vyacheslav Oliynyk   หลังจากพูดคุยปะทะคารมกันไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ตำรวจรายนึงจึงใช้สเปรย์พริกไทยฉีดใส่หน้าเขา ทำให้เขาโกรธมาก กระโดดเข้าต่อยตีเจ้าหน้าที่คนนั้นทันที และแม้ว่าจะโดนทุบด้วยไม้กระบอกไปอีกหลายครั้ง เขาก็ยังไม่สะทกสะท้าน!!!   ถึงแม้จะมีเลือดท่วมกาย แต่ความแค้นของเขาก็ยังไม่จบ พยายามทำเหมือนคุยดีๆ เพื่อที่จะได้เข้าใกล้เจ้าหน้าที่ผู้ฉีดสเปรย์ใส่หน้าเขา แล้วสอยเขาให้ร่วงอีกสักป๊าบ   ท้ายที่สุดต้องใช้นายตำรวจถึง 7 นายเลยทีเดียว เพื่อจัดการกับเขา   และถึงแม้จะถูกจับนอนกับพื้นแล้วก็ตาม ทักษะมวยปล้ำก็มีอยู่!!! คือถึงจะใช้คนถึง 7 คน ก็ยังไม่สามารถใส่กุญแจข้อมือเขาได้ เพราะเขาใช้ทักษะมวยปล้ำที่ร่ำเรียนมานานขัดขืนแถมบอกให้ตำรวจ ‘ไปตายซะ’ ซะด้วย กระนั้นเขายอมให้จับแต่โดยดีเมื่อเพื่อนของเขาขับรถมาถึง และบอกให้เขาใจเย็น โดยเฉพาะให้นึกถึงลูกชายที่นั่งมาด้วยในรถ ที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก ทั้งนี้แชมป์มวยปล้ำของเราก็แอบบอกว่าจะไปสู้ต่อในชั้นศาลแน่นอน…

  • สายแข็งระวังตัวไว้ สงกรานต์นี้ใครเมาแล้วขับถูกส่งไปทำงานห้องดับจิตแน่นอน!!

    สายแข็งระวังตัวไว้ สงกรานต์นี้ใครเมาแล้วขับถูกส่งไปทำงานห้องดับจิตแน่นอน!!

    ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกๆ ปี สิ่งหนึ่งที่น่ากังวลใจนอกเหนือไปจากเรื่องของการเล่นน้ำ การแต่งตัวล่อแหลมแล้ว ยังมีเรื่องของการเมาแล้วขับด้วยนะ ซึ่งการเมาแล้วขับถือเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเลยก็ว่าได้   ล่าสุดทางกรมคุมประพฤติและกระทรวงยุติธรรมได้มีการประชุมเพื่อหามาตรการในการควบคุมความประพฤติของผู้ที่เมาแล้วขับ โดยจะมีตั้งแต่การยึดใบขับขี่นาน 30 วัน และยึดรถตั้งแต่ 7-15 วัน     นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขได้มีการประชุมร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาตและกระทรวงยุติธรรม เพื่อออกมาตรการให้คนเมาแล้วขับไปช่วยงานห้องดับจิต มีการประสานไปยังโรงพยาบาลในเครือข่ายต่างๆ ถึง 105 แห่งเพื่อให้รับบุคคลเหล่านี้เข้าช่วยงาน   ทั้งนี้ทางด้านคณะบดีแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นก็ได้ออกมาบอกว่า การให้ผู้กระทำผิดได้มาเห็นคนตายจะได้เกิดความเกรงกลัว ตรงนี้ถือเป็นเรื่องของจิตวิทยาที่จะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม     แต่ทั้งนี้งานที่ห้องดับจิตอาจจะไม่ได้มีให้ทำเยอะเหมือนกับงานส่วนอื่นๆ เกรงว่างานอาจจะไม่เพียงพอ หากญาติของผู้ตายไม่ยินยอมก็อาจจะเป็นการละเมิดสิทธิ์ได้ และหากมีคนเมาแล้วขับถูกส่งไปทำงานที่ห้องดับจิตเยอะๆ อาจทำให้เจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ไม่สะดวกได้เช่นกัน   และเมื่อวันที่ 10 เมษายน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมพร้อมกับสำหรับมาตรการนี้แล้ว และมีการประสานไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศกว่า 100 แห่งแล้วเรียบร้อย     เมาก็นอนอยู่บ้าน แวะปั๊มหรือจอดข้างทางเถอะนะ #เหมียวฟิ้นขอร้อง ที่มา เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร , voicetv

  • โพสต์สุดท้ายของหนุ่มอดีตทหารถูกแชร์นับหมื่น หลังตกเป็นเหยื่อของพวกเมาแล้วขับ!!

    โพสต์สุดท้ายของหนุ่มอดีตทหารถูกแชร์นับหมื่น หลังตกเป็นเหยื่อของพวกเมาแล้วขับ!!

    ในช่วงเวลาก่อนที่จะเข้าสู่ปีใหม่นั้น ใครๆ ต่างก็มักจะบอกกับตัวเองว่าปีที่ผ่านมาเราเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เราทำอะไรบ้าง ทำมาดีหรือแย่แค่ไหน และสัญญาว่าในปีหน้าต่อไปจะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม เฉกเช่นเดียวกันกับอดีตทหารผ่านศึกอิรัก Matthew DeRemer     เมื่อช่วงวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2015 ที่ผ่านมา เขาก็ได้ทำการโพสต์รูปภาพพร้อมกับข้อความกินใจ โดยตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะเป็นคนที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป แต่เหตุการณ์กลับผลิกผันภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมา อดีตทหารวัย 31 ปีผู้นี้ ตกเป็นเหยื่อของพวกเมาแล้วขับ ในระหว่างที่เขากำลังขับรถจักรยานยนต์ในบริเวณใกล้ๆ บ้าน ทำให้เขาเสียชีวิตในวันนั้น     ถึงแม้ว่าตัวเขาจะจากไปแล้ว แต่เรื่องราวของเขายังคงอยู่ในโซเชียลและดำเนินต่อไป ด้วยข้อคิดที่เขาทิ้งเอาไว้ให้ชาวเน็ตได้ระลึกถึงอย่างเช่นรูปภาพพร้อมกับข้อความที่ว่า ‘เราเกิดภายใน 1 วัน เราตายภายใน 1 วัน เราเปลี่ยนแปลงภายใน 1 วัน และเราก็ตกหลุมรักภายใน 1 วัน อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ภายใน 1 วัน’       และเพื่อนๆ ของเขาก็ได้ทำการแชร์โพสต์สุดท้ายที่เป็นข้อความอันทรงพลัง เพื่อเป็นการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน…

  • ก็เก๊าเป็นห่วงเตง!! พ่อหนุ่มนักบิดจอดมอเตอร์ไซค์เฝ้าคนเมาหลับกลางสะพาน ห่วงจะได้รับอันตราย

    ก็เก๊าเป็นห่วงเตง!! พ่อหนุ่มนักบิดจอดมอเตอร์ไซค์เฝ้าคนเมาหลับกลางสะพาน ห่วงจะได้รับอันตราย

    ถือว่าเป็นอะไรที่น่าประทับใจเป็นอย่างมากเลยล่ะ เมื่อมีพ่อหนุ่มนักบิดรายหนึ่งได้จอดรถมอเตอร์ไซค์ของตนเอง เพื่อเฝ้าคนขับรถยนต์ที่จอดรถอยู่กลางสะพาน ในสภาพที่เมาหลับไม่รู้เรื่อง แถมยังเปิดกระจกไว้อีกต่างหาก เสี่ยงต่ออันตรายเป็นอย่างมาก     โดยต้นเรื่องมาจากคุณ กฤษณะ คำสอน โพสต์ด้วยใจความว่า “พี่เค้าเล่นหลับกลางสะพานเลย หน้าที่ของผมคือ เฝ้าพี่เค้าจนกว่าจะมีคนมาช่วย กลัวเค้ามีอันตรายอะ วัยรุ่นเยอะมาก”       สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม เวลาประมาณ 02.00 น. ในระหว่างที่คุณ กฤษณะ คำสอน วัย 34 ปี ขับรถจักรยานยนต์จากบางเลน เพื่อไปยังท่าน้ำนนท์ ก็พบกับรถเก๋งคันนี้จอดอยู่กลางถนน บนสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์     ตรวจสอบก็พบว่าคนขับหลับคาพวงมาลัย แถมยังเปิดกระจกเอาไว้ด้วย แม้จะพยายามปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น ดูจากสภาพแล้วน่าจะเมา เขาก็ได้โทรแจ้งไปยังหมายเลข 191 แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รับสายเลย     ทั้งนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวก็ได้มีรถกระบะคันหนึ่งผ่านมา เขาก็ได้โบกให้จอดเพื่อสอบถามเบอร์กู้ภัยหรือเบอร์ตำรวจในท้องที่ ซึ่งทางคนขับรถกระบะเองก็ไม่รู้เช่นกัน เลยบอกว่าให้ขับมอเตอร์ไซค์ไปตามตำรวจ น่าจะเร็วกว่า แต่เขาก็ไม่อาจไว้วางใจใครได้ เพราะเป็นห่วงคนเมา เกรงว่าจะได้รับอันตราย ทางคนขับรถกระบะจึงรับปากจะไปแจ้งตำรวจให้…

  • ตำรวจตามจับกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนอง นำม้านั่งปิกนิกติดล้อออกมาซิ่งบนถนนในออสเตรเลีย

    ตำรวจตามจับกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนอง นำม้านั่งปิกนิกติดล้อออกมาซิ่งบนถนนในออสเตรเลีย

    การเล่นอะไรแผลงๆ หรือทำไปเพื่อความสนุก และความคึกคะนอง นอกจากจะทำให้ผู้อื่นเดือนร้อนแล้ว ตัวของคุณเองก็อาจจะต้องเดือดร้อน และซวยไปด้วยก็ได้ ก็เหมือนกับเหตุการณ์ของวัยรุ่นกลุ่มนี้ ที่อยู่ดีไม่ว่าดี จู่ๆ ก็นำม้านั่งปิกนิกมาดัดแปลงติดเครื่องยนต์และใส่ล้อ ออกมาวิ่งบนถนนบริเวณหาดสการ์โบโรห์ ใกล้เมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย     งานนี้ทำเอาทางตำรวจถึงกับตามไล่จับกันเลยทีเดียว เพราะดูเหมือนว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้กำลังเมาอยู่อีกด้วย     ดังนั้นทางตำรวจจึงออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ของกรมตำรวจเวสเทิร์นออสเตรเลีย เพื่อตามหาเบาะแสของกลุ่มวัยรุ่น โดยระบุว่า ‘พวกเขากำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนกลุ่มวัยรุ่น ที่นำม้านั่งปิกนิกมาวิ่งบนถนน’     โดยการนำม้านั่งมาขับบนถนนที่มีรถวิ่งแบบนี้ ทางตำรวจมีความกังวลว่า มันอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย อีกทั้งยังจะทำให้วัยรุ่นกลุ่มนี้ได้รับบาดเจ็บ     อย่างไรก็ตามดูเหมือนวัยรุ่นกลุ่มนี้จะโดนข้อหาหลายกระทงเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การขับขี่รถที่ไม่ได้รับอนุญาตให้วิ่งบนถนน เมาแล้วขับ รวมถึงไม่มีใบอนุญาตขับขี่อีกด้วย ที่มา : news

  • ชายจีนสุดมึน บอกตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ S.H.I.E.L.D. หลังจากโดนตำรวจโบกเพราะเมาแล้วขับ!!!!

    ชายจีนสุดมึน บอกตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ S.H.I.E.L.D. หลังจากโดนตำรวจโบกเพราะเมาแล้วขับ!!!!

      ตำรวจจีนถึงกับมึน หลังจากโบกรถคนหนึ่ง แล้วคนขับรถบอกว่าตัวเองเป็น S.H.I.E.L.D. หน่วยงานปกป้องโลกจากการ์ตูนของ Marvel   ตำรวจจากเมือง Shishi ในประเทศจีน ได้โบกรถคันหนึ่งที่มีอาการเหมือนกับเมาแล้วขับ พอรถคันนั้นจอด ตำรวจก็ขอดูใบขับขี่ คนขับรถกลับควักกระเป๋าตังออกมา พร้อมกับบัตรประจำตัวของเจ้าหน้าที่ S.H.I.E.L.D. แล้วบอกว่า “ผมกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่”   โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้บ้าจี้ไปด้วย เขาจึงยึดใบขับขี่ของชายคนนั้น พร้อมบอกว่า “ถึงจะกอบกู้โลกอยู่ แต่จะมาเมาแล้วขับแบบนี้ไม่ได้”   สุดท้ายเขาก็โดนยึดใบขับขี่ พร้อมไปนอนในห้องขังซักสองสามวัน เพี้ยนจริงๆเลย ที่มา Marvel Thailand Fanpage