Tag: หลักฐาน

  • จริงหรือปลอม!? หนุ่มอ้างย้อนเวลามาจากปี 2130 พกคลิปวิดีโอมาเป็นหลักฐานด้วยนะเออ!!

    จริงหรือปลอม!? หนุ่มอ้างย้อนเวลามาจากปี 2130 พกคลิปวิดีโอมาเป็นหลักฐานด้วยนะเออ!!

    มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่อ้างว่าตนนั้นเป็นผู้ที่เดินทางข้ามกาลเวลามาจากอนาคต แต่สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นเรื่องหลอกลวง ล่าสุดก็มีชายอีกคนที่กล่าวอ้างว่าตนนั้นเดินทางย้อนเวลากลับมาจากโลกยุค 2130 นายคนนี้มีชื่อว่า Noah เขาได้อธิบายในคลิปวิดีในหนึ่งของแชแนลยูทูบ ApexTV ว่าเขาย้อนมาปี 2018 นี้ได้เพราะเขา “ทำภารกิจพลาด”   คลิปวิดีโอของ Noah ชายผู้มาจากปี 2030 ผู้ที่มาเตือนชาวโลกปัจจุบันถึงอันตราย    ทั้งนี้ Noah อธิบายว่าเขาตั้งใจจะย้อมเวลามายังปี 2120 และปี 2016 และเขาเองก็ได้เอาคำเตือนมาฝากมนุษย์โลกยุคปัจจุบันอีกด้วย เขาเล่าว่าขณะที่เขาใช้ชีวิตอยู่ในปี 2120 เขาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย แถมยังบอกอีกว่า เขามีข้อมูลมากมายจากอนาคตที่เตรียมเอาไว้มาเตือนคนปัจจุบัน     “พวกคุณคงได้ยินเรื่องที่ประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จับมือเป็นพันธมิตรกันแล้วใช่ไหมล่ะ นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต พวกเขากลับมาแตกคอกันอีกครั้ง ขอโทษที่ผมต้องพูดแบบนี้ แต่มันคือความจริง พวกเขาจะทำให้เกิดสงครามอีกครั้ง มันไม่ใช่สงครามโลก แต่เป็นสงครามระหว่างหลายประเทศ หนึ่งในนั้นมีสหรัฐอเมริการวมอยู่ด้วย” Noah เล่าผ่านคลิปวิดีโอ     เขากล่าวว่าไม่สามารถให้ข้อมูลได้มากกว่านี้ ถึงแม้เขาต้องการจะบอกก็ตาม แต่เขาไม่สามารถทำได้เนื่องจากการย้อนเวลาถือเป็นวงเวียนแห่งความย้อนแย้ง (Paradoxes) และแล้วก็ถึงเวลาที่ Noah จะโชว์หลักฐานของเขาเสียที คลิปวิดีโอที่เขาบันทึกมาจากโลกในปี 2120…

  • ก็ซื่อเกิ๊น… เพื่อนขอรูปพาสปอร์ต จะเช็คอินออนไลน์ หนุ่มหน้ามนก็ส่งรูป ‘พาสปอร์ต’ ให้แต้ๆ

    ก็ซื่อเกิ๊น… เพื่อนขอรูปพาสปอร์ต จะเช็คอินออนไลน์ หนุ่มหน้ามนก็ส่งรูป ‘พาสปอร์ต’ ให้แต้ๆ

    ความหน้ามึนของคนอาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ อย่างสองคู่หูชาวสก็อต Ollie และ Dave ในระหว่างที่กำลังเตรียมตัวจะไปเที่ยวเมือง Malia บนเกาะครีต ประเทศกรีซ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อพ่อหนุ่มวัย 21 ปี นามว่า Ollie กำลังยุ่งกับการจัดการทริปสุดวุ่นวายอยู่ และในช่วงจังหวะที่ตัดสินใจจะเช็คอินผ่านระบบออนไลน์ เขาก็ต้องการภาพถ่ายหนังสือเดินทางของเพื่อนรัก Dave ด้วย   สองสหาย Ollie และ Dave   “ผมได้รับอีเมลในตอนเช้าที่บอกว่าสามารถเช็คอินออนไลน์ได้ ผมก็เลยส่งข้อความไปบอกเพื่อนเพื่อจะเช็คอินและรับบอร์ดดิ้งพาส…     ก็อย่างที่เห็นกันอยู่ตามภาพ ผมต้องการรูปถ่ายหนังสือเดินทาง เพื่อใช้เลขบนหนังสือเดินทางสำหรับการเช็คอิน แต่ไม่รู้ว่าเขาคงคิดเป็นต้องใช้ภาพหลักฐานว่ามีพาสปอร์ต หรือแค่ส่งรูปพาสปอร์ตไปเฉยๆ พอเห็นภาพที่เขาส่งมาให้ผม ระหว่างพักทานมื้อเที่ยงก็ปล่อยขำก๊ากชุดใหญ่กลางโรงอาหารเลย Dave บอกว่ามันเป็นแค่มุกตลกขำๆ แต่ผมว่าเขาคิดแบบนั้นจริงๆ” Ollie ให้สัมภาษณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น     แหม่ ส่งภาพหน้าพาสปอร์ตแบบนี้มี ใครๆ ก็มีมั้ยล่ะพ่อหนุ่ม ฮร่าาา ถ้าคิดเสียว่าเป็นมุกตลกก็โอเคนะ แต่ถ้าไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นก็ยินดีกับ Dave อีกที เพราะมันทำให้คนอื่นขำได้จริงๆ โอ๊ยยย จะซื่ออะไรปานนี้…  …

  • รวม 8 เหตุการณ์ตำนานรักไม่รู้เรื่อง เผลอเข้ามาอยู่เฟรมเดียวกัน รู้ตัวอีกทีเป็นคู่ชีวิตไปแล้ว…

    รวม 8 เหตุการณ์ตำนานรักไม่รู้เรื่อง เผลอเข้ามาอยู่เฟรมเดียวกัน รู้ตัวอีกทีเป็นคู่ชีวิตไปแล้ว…

    ช่วงจังหวะชีวิตของคนเรานั้น ไม่อาจคาดเดาได้อย่างแม่นยำ แม้โลกนี้จะมีหมอเดา หมอดูที่ว่าแม่นแค่ไหน ก็ยังไม่ตรงกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเราในจังหวะตอนนั้นเลย… ยิ่งในเรื่องของดวงความรักก็ยิ่งไปใหญ่ อาจจะเฝ้าเพ้อฝันถึงคู่แท้ เจ็บมานักต่อนักก็ยังไม่เจอเสียที จนรู้สึกเข็ดและขยาดไปในที่สุด แต่ว่าถ้าหากทุกอย่างมันลงตัว ในเวลาที่ใช่ ต่อให้ห่างไกลกันแค่ไหนก็จะกลับมาคู่กันอยู่ดี อย่างเช่น 8 เหตุการณ์ดังต่อไปนี้ ระหว่างจะเกิดอาการอิจฉาล่ะ…   1. ภาพจากคุณ pcsbor จากเว็บไซต์ Reddit (ชายคนด้านซ้ายของภาพ) ที่อยู่ในเฟรมเดียวกันกับครอบครัวเจ้าสาวในอนาคต ณ เมืองรีโอเดจาเนโร ในปี 1985 เป็นภาพในช่วงเวลา 7 ปี ก่อนที่เขาจะได้มาพานพบกับศรีภรรยา   2. สาวน้อย Donna ทางด้านขวา และเด็กชาย Alex ผู้ที่อยู่ในรถเข็นด้านหลัง หลายสิบปีต่อมา ในช่วงเพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนแต่ง Donna และ Alex Voutsinas เพิ่งจะรู้ว่านี่มันเป็นเรื่องบังเอิญชัดๆ โดยที่ทั้งคู่ก็ไม่ได้อยู่ประเทศเดียวกันในช่วงปี 1980 ด้วย   3. คู่รักชาวอังกฤษ Aimee Maiden…

  • ร่วมพิสูจน์ทฤษฎี “การเปลี่ยนทรงผม” ช่วยทำให้ดูเด็กลงได้ โดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม…

    ร่วมพิสูจน์ทฤษฎี “การเปลี่ยนทรงผม” ช่วยทำให้ดูเด็กลงได้ โดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม…

    ผู้หญิงหลายคนมีวิธีการทำให้ใบหน้าของตัวเองดูอ่อนวัยลงในแบบที่แตกต่างกันออกไป หลายคนอาจจะไปพึ่งการทำศัลยกรรมความงาม หรือบางคนอาจเน้นไปที่การแต่งหน้า และนอกจากนี้ที่กล่าวมาแล้ว สาวๆ รู้หรือไม่ว่า “ทรงผม” ก็สามารถช่วยลดอายุได้เหมือนกัน วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์มีรายงานว่า Maria Matthews นักออกแบบ และตกแต่งภายใน วัย 51 ปี จากซัมเมอร์เซ็ท ได้ออกมาพิสูจน์แล้วว่า “ทรงผม” สามารถทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยได้จริงๆ   และนี่คือ Maria Matthews กับภาพก่อนและหลังการทำทรงผมของเธอ ซึ่งมีผลทำให้ใบหน้าดูเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าเหลือเชื่อ   สำหรับ Maria เธอไม่เคยคิดที่จะทำศัลยกรรมตกแต่งใดๆ เลย แต่เคล็ดลับที่อยู่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของเธอนั้น มันได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ได้ไปเยือนร้านทำผม และเมื่อ Maria ได้ทดลองเปลี่ยนทรงผมของตัวเอง ก็ทำให้เธอได้ค้นพบว่า การเปลี่ยนทรงผมมันดีเท่ากับการทำศัลยกรรมดึงหน้าเลยละ แถมยังมีราคาถูกกว่าด้วยนะ   จากการระบุว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยจากประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเผยถึงสถิติการทำศัลยกรรมของผู้หญิงในปีที่แล้วซึ่งลดลงถึงร้อยละ 39 อีกทั้งในปี 2015 ก็มีอัตราการทำศัลยกรรมลดลง โดยการผ่าตัดยกคิ้วลดลงถึงร้อยละ 71 ในขณะที่การยกกระชับหน้าและคอลดลงถึงร้อยละ 53…

  • คิดว่าตัวเองคือโคนัน… หนุ่มจับ ‘ซากแมงกะพรุน’ มาให้ตำรวจ นึกว่าเป็นหลักฐานในคดีฆาตกรรม

    คิดว่าตัวเองคือโคนัน… หนุ่มจับ ‘ซากแมงกะพรุน’ มาให้ตำรวจ นึกว่าเป็นหลักฐานในคดีฆาตกรรม

    เมื่อกล่าวถึง ‘อาชีพนักสืบ’ ไม่ว่าใครต่างก็ชื่นชอบกันเป็นแถว ทั้งจากภาพยนตร์ หรือจากการ์ตูนแนวสืบสวนต่างๆ ก็จะรู้กันดีว่าการเป็นนักสืบนั้นมันช่างน่าสนุกเสียนี่กระไร เพราะฉะนั้นการที่จะมีใครซักคนมาติ๊ต่างตัวเองว่าเป็นนักสืบ เห็นอะไรก็ต้องสงสัยว่าเป็นเบาะแสของการฆาตกรรมเอาไว้ก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย อย่างเช่นเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้ เป็นเรื่องของชายหนุ่มที่ไปพบเจอเข้ากับวัตถุประหลาด ก็เลยนำมาส่งให้กับตำรวจและบอกว่านี่คือหลักฐานชิ้นสำคัญในคดีฆาตกรรม ราวกับยอดนักสืบมาเอง   เรื่องมีอยู่ว่า จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มลึกลับปรากฏตัวขึ้นมาที่สถานีตำรวจ Maroochydore Station ในเมือง Queensland พร้อมกับถือวัตถุแปลกประหลาดมาด้วย จากนั้นเขาก็ยื่นมันให้กับตำรวจเพราะเชื่อว่ามันอาจจะเป็นอวัยวะเทียมที่หลุดออกมาจากร่างกายของ ‘ใครสักคนที่ถูกฆาตกรรมหรือจมน้ำตาย’     แต่เอาจริงๆ หลังจากการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่แล้ว พบว่าเจ้าสิ่งของลักษณะแปลกๆ ที่ดูเหมือนกับซิลิโคนหรือเยลลี่นั้นแท้จริงแล้วก็คือ ‘ซากแมงกะพรุน’ นั่นเอง ทั้งนี้เองเจ้าหน้าที่ตำรวจของเมือง Queensland ก็ได้ทำการถ่ายภาพเจ้าซากแมงกะพรุนตัวนั้นเก็บไว้ พร้อมกับนำมันมาใส่ถุงซิปล็อคเก็บไว้เป็นอย่างดีพร้อมกับติดแท็กเเก็บไว้เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญเหมือนกับหลักฐานในคดีอื่นๆ     จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ออกเอกสารใบรับให้กับชายผู้หวังดีด้วยหลังจากที่เขานำ “อวัยวะเทียม” มาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ (เหรอออ???) เพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่นิ่งนอนใจที่จะอยู่เฉยๆ และหวังดีว่ามันจะมีประโยชน์นั่นเอง งานนี้ก็เลยเรียกรอยยิ้มได้ทั้งโรงพักเลยล่ะ     หรือว่าอีตาคนนี้จะเป็น ‘โมริ โคโกโร่’ ในเวอร์ชั่นที่ยังไม่ถูกโคนันยิงยาสลบใส่กันนะ!? ฮร่า ที่มา…

  • เรื่องราวของชายผิวสีได้รับการพิสูจน์ DNA ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ หลังถูกตัดสินจำคุก 25 ปี ในข้อหาข่มขืน!!

    เรื่องราวของชายผิวสีได้รับการพิสูจน์ DNA ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ หลังถูกตัดสินจำคุก 25 ปี ในข้อหาข่มขืน!!

    เรื่องราวอันน่าสะเทือนใจเกี่ยวกับการถูกกล่าวหาในสิ่งที่ตนเองไม่ได้กระทำนั้นยังมีให้เห็นอยู่เสมอ โดยทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากระบบการตัดสินที่ผิดพลาดและไม่ยุติธรรมอย่างที่ควรจะเป็น     Darryl Pinkins ชายผิวสีวัย 63 ปี ถูกศาลตัดสินสั่งจำคุกเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1991 หลังจากมีการกล่าวหาจากผู้เสียหายว่าถูกเขาลากไปในรถเพื่อทำร้ายร่างกายและข่มขืน เมื่อปี ค.ศ 1989 แม้ว่าเขาจะพยายามแสดงความบริสุทธิ์ใจมากแค่ไหน คณะลูกขุนก็ไม่มีทีท่าจะยอมรับฟัง     เมื่อเวลาผ่านไป ได้มีการเรียกร้องให้ทำการตรวจสอบอีกครั้ง โดยในครั้งนี้อยู่ในการตรวจสอบหลักฐานของ Indian Innocence Project ใช้เทคโนโลยีร่วมสมัยในการตรวจสอบ DNA ผลสุดท้ายไม่มีสารอะไรที่เกี่ยวข้องอย่างที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง     ในช่วงเวลาที่เขาถูกจองจำอยู่ในคุก เขาทุกข์ทรมานกับโรคเบาหวานและโรคต่อมไทรอยด์ด้วย จนกระทั่งวันที่เขารอคอยก็มาถึง ได้พบหน้าครอบครัวอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้พบหน้าลูกชายวัย 24 ปีเป็นครั้งแรก เพราะลูกชายของเขาเพิ่งเกิดหลังที่เขาถูกจำคุก     ในปีค.ศ. 2007 ได้มีการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่โดยคณะอาจารย์จาก University Law School ใช้วิธีตรวจสอบ DNA ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า TrueAllele ที่มักถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ตามหาคนหายหรือช่วยระบุหน้าของผู้ต้องสงสัยในคดีต่างๆ     จนกระทั่งมีการรื้อคดีมาหลายรอบ…

  • เห็นแล้วเข่าแทบทรุด!! เมื่อเจ้านายปล่อยให้สุนัขรู้ใจอยู่บ้านเพียงลำพัง สุดท้ายก็เหมือนในภาพนี่แหละ…

    เห็นแล้วเข่าแทบทรุด!! เมื่อเจ้านายปล่อยให้สุนัขรู้ใจอยู่บ้านเพียงลำพัง สุดท้ายก็เหมือนในภาพนี่แหละ…

    มีคนเคยบอกว่า “สุนัข” เป็นสัตว์ที่น่ารัก เชื่อง เลี้ยงง่าย และเป็นมิตรแท้เมื่อยามเหงา ซึ่งส่วนใหญ่เราก็มัวแต่ชื่นชมสิ่งเหล่านี้ จนลืมไปว่าบางทีภายใต้ความดี อาจจะมีความร้ายกาจซ่อนอยู่ภายในตัวอย่างมหาศาล เหมียวขี้อ้อนก็เชื่อนะว่า คนที่เลี้ยงสัตว์ 4 ขา อย่างพวกสุนัข ก็คงจะเคยพบเจอกับวีรกรรมชวนปวดหัวของมันมามากมายพอสมควรแล้ว แต่ถ้าหากใครที่หลงใหลในตัวของมัน และอยากจะเลี้ยงหมาขึ้นมาละก็…ช้าก่อน!! เพราะถ้าคุณได้เห็นภาพเหล่านี้ คุณอาจจะอยากเปลี่ยนใจขึ้นมาทันทีก็เป็นได้ และนี่ก็คือน้องหมา ตัวต้นเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นภายในบ้านทั้งหมด เห็นหน้าตาน่ารัก ใสซื่อ บริสุทธิ์ จนทำให้เจ้านายหลงนักหลงหนาแบบนี้ บอกเลยว่าแสบเอาการนะพูดเลย     เพราะในขณะที่เจ้านายไม่อยู่บ้าน ความเป็นอิสรภาพก็เกิดขึ้น   เจ้าหมาแสนแสบ ไปแอบเล่นน้ำหมึกอย่างสนุกสนาน จนในที่สุดสิ่งที่ไม่คาดคิดก็บังเกิด   หลังจากที่เจ้านายกลับบ้าน ก็ทำเอาเข่าแทบทรุดลงกับพื้น (แต่คงเอาเข่าแตะพื้นไม่ได้เพราะเดี๋ยวเลอะหมึก) เพราะสภาพเบื้องหน้าที่เห็น มันยากที่จะบรรยายเหลือเกิน     ไม่ว่าจะเป็นทุกซอกทุกมุมของบ้าน   เดินไปทางซ้ายหรือทางขวา ก็เห็นแต่ภาพหมึกเลอะเต็มไปหมด   เท่านั้นยังไม่พอ เจ้าหมาสุดที่รักยังฝากรอยเท้าเอาไว้ซะด้วย แหมๆ แสบเหลือเกิน   งานนี้ก็โดนดุไปตามระเบียบ แถมยังทำเป็นตีหน้าเศร้า เพื่อให้เจ้านายสงสาร…

  • หนุ่มอ้างว่าโดนปาดในเลน โดนทุบกระจก ไหนจะขับชนท้าย แต่ในคลิปขับถอยหลังใส่ซะยับ!!

    หนุ่มอ้างว่าโดนปาดในเลน โดนทุบกระจก ไหนจะขับชนท้าย แต่ในคลิปขับถอยหลังใส่ซะยับ!!

    ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก มีการอุปกรณ์ที่สามารถบันทึกภาพอยู่ทุกมุม อย่างเช่นในมือของทุกคนที่มีสมาร์ทโฟนคู่กาย เมื่อเกิดเหตุการณ์แปลกๆ หรือน่าตกใจก็มักจะคว้าขึ้นมาบันทึกภาพไว้ทันที อย่างในกรณีของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนเช่นนี้     สำหรับคลิปเหตุการณ์อุบัติเหตุชนท้ายนี้ เปิดมาที่การทะเลาะเกือบชวนตี โดยจะสังเกตได้ว่ารถเก๋งได้ชนท้ายรถกระบะสีดำเข้าอย่างจังแบบว่าหน้ายับท้ายยับกันเลยล่ะ     เมื่อเข้าไปสอบถามก็ได้ใจความว่า ถูกปาดเข้าเลนมา พ่อหนุ่มเสื้อน้ำเงินก็เลยไม่ยอมให้เข้า เพิ่มเติมว่าอีกฝ่ายลงจากรถจะเข้าทำมาร้ายตน และปิดท้ายด้วยประโยคดังกล่าว ‘เจอคนแบบนี้ ในสังคมแบบนี้ แย่มากครับ’     แต่ในตอนท้ายคลิปเป็นหลักฐานที่ยืนยันความจริงว่าใครทำอะไร แบบไหน จากคำพูดที่ได้รับมานั้น มันกลับสวนไปคนละทาง คดีพลิกทันที!!   คิดว่ามีแต่ต่างประเทศ ประเทศไทยก็มีเน้อ โหดสัสรัสเซีย ซีเรีย แอน โมนาโค Posted by เอก คอนเน็กชั่น on Thursday, January 7, 2016   คลิปจากฝ่ายรถเก๋ง #คลิป4 ''กระบะดำ-ตั้งใจถอยชนเก๋งแดง'' (8/1/59) ::–> #คลิป4 ''กระบะดำ-ตั้งใจถอยชนเก๋งแดง'' (8/1/59) <–::โดย[@Body-boy Sawangarom]_ได้โพสต์ไว้ว่า:…

  • อ๊ะ ตอผุด!? คลิปสัมภาษณ์ Stanley Kubrick ยอมรับว่าการไปเหยียบดวงจันทร์มันไม่มีจริง

    อ๊ะ ตอผุด!? คลิปสัมภาษณ์ Stanley Kubrick ยอมรับว่าการไปเหยียบดวงจันทร์มันไม่มีจริง

    ย้อนไปกลับใปในช่วงยุคสมัยที่มนุษย์ริเริ่มและพยายามอย่างมากกับการที่จะออกไปสำรวจนอกโลก โดยมีจุดหมายเริ่มต้นเป็นที่ใกล้ๆ นั่นก็คือดวงจันทร์ บริวารที่มีระยะใกล้โลกมากที่สุด จนกระทั่งสหรัฐอเมริกาก็ได้พิสูจน์ให้คนทั้งโลกได้เห็นว่าสามารถไปเหยียบบนดวงจันทร์ได้แล้ว     แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้มีคนเชื่อไปซะทุกคน มีทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ เกิดขึ้นเยอะมาก พร้อมกับตั้งคำถามและข้อสังเกตของคลิปวิดีโอก้าวแรกของมนุษย์ที่ไปเหยียบบนดวงจันทร์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของแสงและเงา ความผิดปกติของธงที่นำไปปักบนดวงจันทร์ และอื่นๆ อีกมากมาย     และบุคคลที่ได้ชื่อเสียงมากที่สุดจากการไปเหยียบดวงจันทร์เป็นคนแรกก็คือ Neil Armstrong ซึ่งภายหลังจากการเสียชีวิตของเขาประมาณ 15 ปี คลิปวิดีโอนี้ก็ถูกปล่อยออกมาเพื่อเปิดเผยเบื้องหลังว่าที่แท้จริงแล้วเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นถูกกำกับโดยรัฐบาลสหรัฐฯ และ NASA     โดยที่ทางด้าน Stanley Kubrick ก็ออกมายอมรับว่านักทฤษฎีสมคบคิดนั้นถูกต้องแล้ว โดยภาพที่เห็นนั้นเป็นผลงานของผู้กำกับสารคดีชื่อดัง T. Patrick Murray     อีกทั้งยังบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นถูกจัดฉากเพื่อสนองคำพูดของประธาณาธิบดี John F Kennedy ที่ต้องการจะแสดงให้ทั้งโลกได้เห็นพลังของสหรัฐอเมริกาภายใต้การปกครองของตน     แต่สำหรับ T. Patrick Murray แล้วการสร้างภาพในการลงจอดบนดวงจันทร์นั้นถือว่าเป็นผลงานชื้นเอกของเขาเลยก็ว่าได้ อีกทั้ง Kubrick ยังกล่าวเสริมไว้ด้วยว่า ก่อนที่จะถ่ายทำนั้นเขาถูกยัดเยียดข้อมูลที่ผิดๆ…