Tag: ทำแท้ง

  • คู่รักตกลง ‘ทำแท้ง’ เรียนจบค่อยแต่งงานมีลูกใหม่ ฝ่ายชายบอกเลิกทิ้งให้จมกับความเศร้า

    คู่รักตกลง ‘ทำแท้ง’ เรียนจบค่อยแต่งงานมีลูกใหม่ ฝ่ายชายบอกเลิกทิ้งให้จมกับความเศร้า

    ‘การมีเพศสัมพันธ์’ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะลงมือทำเพราะหากเรายังไม่พร้อมจริงๆ อาจเกิดข้อผิดพลาดจนเกิดท้องขึ้นมา และทำให้กลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเรื่องราวมันเกิดขึ้นไปแล้ว หลายๆ คนก็อาจจะมีวิธีที่แตกต่างกันออกไปในการจัดการ ซึ่งก็ต้องมีการพูดคุยกันหลายฝ่ายจนได้ข้อสรุปเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ ที่วัยรุ่นหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่บังเอิญท้องขึ้นมา ทั้งๆ ที่ป้องกันทุกครั้งแต่สุดท้ายก็เกิดข้อผิดพลาดขึ้นจนได้ จากการพูดคุยกันทั้งคู่ตกลงกันว่าจะเอาลูกออก หลังจากทำสำเร็จฝ่ายชายกลับบอกเลิกฝ่ายหญิง จนทำให้ผู้หญิงต้องจมอยู่กับความเศร้าจนคิดฆ่าตัวตาย   ลองไปอ่านเรื่องราวเต็มๆ กันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า….   “สรุปเรื่องให้ฟังนะ ผช.กับผญ.มีอะไรกัน ป้องกันแล้ว แต่มีครั้งนึงถุงนางขาด คิดว่ากินยาคุมอยู่แล้วไม่เป็นไรแต่ดันท้อง ต่อมาปรึกษากันไม่อยากให้พ่อแม่รู้เลยไปทำแท้ง   ตอนแรกฝ่ายหญิงก็ยอม ก็ตกเลือดทรมานแล้วบอกว่าไม่เอาอีกแล้ว แต่ฝ่ายชายบังคับให้กินยาทำแท้งต่ออีกให้หมด บอกรอเรียนจบค่อยแต่งงานมีลูกใหม่ จะรักเหมือนเดิม จนสุดท้ายแท้งในที่สุด ฝ่ายหญิงก้ได้ถูกบอกเลิกในเวลาถัดมา   ตัวเองจมอยู่กับความเสียใจที่โดนบอกเลิก โดนวิญญาณเด็กหลอกหลอน และกลายเป็นโรคซึมเศร้าจนกินยาเกินขนาด แต่มีคนพาไปล้างท้องนอนไอซียูจนออกมาใช้ชีวิตปกติได้ แต่ขาดยาโรคซึมเศร้าไม่ได้   น้องต้องการมาเรียกร้องให้ฝ่ายชายมารับผิดชอบ ที่ทำให้ตนเป็นโรคซึมเศร้า และมาขอโทษขอขมากรรมเด็กที่ตายแล้ว ก็เลยดำเนินเรื่องเอาผิดวินัยนักศึกษากับฝ่ายชายที่มหาลัยแต่ไม่เป็นผล   พ่อฝ่ายชายก็เข้าข้างลูก บอกอยากลองดีก็เชิญ จะเอาให้จุก เพราะตนมีเพื่อนคือนายตำรวจระดับประเทศชื่อดังมากๆ แล้วก็ขึ้นรูปโปรที่ถ่ายคู่กับนายตำรวจนายนั้น   แล้วก็อวยผู้หญิงอีกคนว่าคบกับลูกชายมา 4 ปี…

  • ธุรกิจมาแรง ‘เช่าเจ้าบ่าวและแขกเหรื่อ’ กลวิธีหลีกเลี่ยงคำวิจารณ์ของสาวโสด ในสังคมเวียดนาม

    ธุรกิจมาแรง ‘เช่าเจ้าบ่าวและแขกเหรื่อ’ กลวิธีหลีกเลี่ยงคำวิจารณ์ของสาวโสด ในสังคมเวียดนาม

    ท่ามกลางสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความเจริญทางด้านวัตถุที่กำลังก้าวหน้าไปไม่สิ้นสุด แต่กลับกันประเพณีตามสังคมในหลายๆ ประเทศ ยังคงถูกรักษาและปฏิบัติตามธรรมเนียมเดิมอยู่ และหากพูดถึงการแต่งงาน โดยหลักแล้วก็จะต้องเป็นคู่บ่าวสาวที่มีความรักให้แก่กัน และตกลงที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันจนถึงวาระสุดท้าย ซึ่งในประเทศเวียดนามกลับมีบางสิ่ง ที่เริ่มแตกต่างออกไปในรายละเอียดจุดนี้     เว็บไซต์ Straitstimes รายงานว่า ผู้หญิงในประเทศเวียดนามนั้นนิยมจัดฉากการแต่งงาน โดยเลือกใช้บริการจากธุรกิจ ‘เจ้าบ่าวให้เช่า’ เนื่องจากต้องการที่จะหลีกเลี่ยงคำวิจารณ์และความอัปยศ ที่จะตีตราว่าเป็นหญิงนอกสมรส หรือมีลูกก่อนแต่ง ความนิยมในธุรกิจดังกล่าวนั้น สามารถทำสร้างกำไรให้กับผู้ให้บริการอย่างคาดไม่ถึง แม้จะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง  แต่หญิงแม่ลูกเดี่ยวก็ยังคงเลือกที่จะจ่าย เพราะไม่อยากตกเป็นที่วิจารณ์ของผู้คนในสังคม     และเพื่อไม่ให้ปัญหาการทำแท้งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ธุรกิจดังกล่าวจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ อันเป็นทางเลือกให้กับผู้หญิงที่ต้องการจะเลี้ยงลูกของตน และไม่อยากจะทำให้ตัวเองและครอบครัว ได้รับความอับอายจากความผิดพลาด การจัดฉากแต่งงานเหล่านี้ไม่ถือว่าเป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ตราบใดที่ไม่มีเรื่องของการจดทะเบียนสมรสเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นเหมือนการจ้างนักแสดงมาสวมบทบาททั่วไป   นาย Nguyen Xuan Thien หนึ่งในผู้ก่อตั้งและให้บริการในธุรกิจดังกล่าว   Nguyen Xuan Thien หนึ่งในผู้ก่อตั้งและเป็นผู้ให้บริการธุรกิจเช่า เผยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 บาท และ 130,000 บาท สำหรับแพคเกจเต็มรูปแบบ โดยที่ผ่านมาเขาเคยจัดงานแต่งปลอมมากว่า…

  • 10 ภาพถ่ายที่สื่อถึง ‘การทำแท้งผิดกฎหมาย’ ได้อย่างลึกซึ้ง อันกลายมาเป็นตราบาปในชีวิต

    10 ภาพถ่ายที่สื่อถึง ‘การทำแท้งผิดกฎหมาย’ ได้อย่างลึกซึ้ง อันกลายมาเป็นตราบาปในชีวิต

    [บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม]   ปัจจุบันคู่รักหนุ่มสาววัยรุ่นนั้นมักมีพฤติกรรมการร่วมเพศที่ไม่มีการป้องกันอย่างถูกต้อง ผลร้ายที่ตามมาก็คงหนีไม่พ้นโรคติดต่อทางเพศและแน่นอน “การตั้งครรภ์” ก่อนวัยอันควร ซึ่งเมื่อเกิดความผิดพลาดจนทำให้ตั้งครรภ์แบบไม่พึงประสงค์แล้ว ทางออกที่คนจำนวนไม่น้อยเลือกก็คือ “การทำแท้ง” อย่างไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งสามารถก่อให้เกิดอันตรายกับสุขภาพของผู้หญิงอย่างมาก ดังนั้นจึงมีศิลปินท่านหนึ่งออกมาผลักดันและป้องกันไม่ให้ผู้คนมองว่าการทำแท้งแบบผิดกฎหมายเป็นสิ่งที่ดี และศิลปินท่านนี้มีชื่อว่า Laia Abril  Laia เป็นศิลปินที่ผลงานส่วนใหญ่ของเธอจะเน้นไปที่เรื่องของความเป็นผู้หญิง โดยในงานนี้เธอใช้ภาพและคำบรรยายเป็นสื่อให้ผู้ชมรับรู้ถึงความรุนแรงและข้อเสียของการทำแท้งแบบผิดกฎหมาย 1. Hippocratic Betrayal (ทรยศจรรยาบรรณ)   ภาพนี้เสนอเรื่องของการ “ไม่มีช่องทางเข้าถึงการทำแท้งที่ถูกต้อง” ที่ทำให้แต่ละปี มีผู้หญิงกว่า 47,000 คนต้องเสียชีวิต และบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจอีกนับพันจากการทำแท้งแบบผิดกฎหมาย บางคนก็ถูกจับกุม ถูกทดสอบ ถูกกล่าวโทษ ถูกริดรอนอิสรภาพ รวมไปถึงถูกยัดเยียดความเป็นมารดาให้ ภาพนี้ Laia กล่าวว่าเขามีจิตใจที่ค่อนข้างเห็นใจและลำเอียงไปทางหญิงสาวที่ทำแท้งแบบผิดกฎหมาย เธอบอกว่าถึงคุณจะมีอิสระที่จะตัดสิน แต่มันก็ไม่อิสระโดยสมบูรณ์หรอก สิ่งที่สะท้อนออกมาไม่อาจถูกตัดสินได้ว่าถูกหรือผิด ดำหรือขาว มันควรเป็นสิ่งที่มนุษย์แต่ละคนสามารถเลือกได้อย่างอิสระ   2. Knitting Needle Procedure (กระบวนการเข็มถักผ้า)   ภาพตัดขวางสามมิตินี้แสดงให้เห็นถึงกระบวนการทำแท้งที่กระทำโดยผู้ที่ไม่ชำนาญ และใช้อุปกรณ์ที่ไม่ถูกต้อง หญิงตั้งครรภ์ที่ต้องการทำแท้งนั้น ต้องเสียเวลารอเปล่าประโยชน์ถึง 3 เดือนเพราะ ส่วนมากการทำแท้งแบบผิดกฎหมายนั้นจะทำกับครรภ์ที่มีอายุมากกว่า…

  • ตำรวจสั่งจำคุกครอบครัวทำร้ายเด็กสาวจนแท้ง หลังถูกพี่ชายข่มขืนจนตั้งครรภ์

    ตำรวจสั่งจำคุกครอบครัวทำร้ายเด็กสาวจนแท้ง หลังถูกพี่ชายข่มขืนจนตั้งครรภ์

    เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าว Dalla News ได้มีการรายงานข่าวผลการตัดสินคดีคนในครอบครัวทำร้ายหญิงวัยรุ่นที่กำลังตั้งครรภ์ จนส่งผลให้เธอแท้งลูก คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2013 แต่เพิ่งได้รับการตัดสินสิ้นสุดคดีเมื่อต้นปี 2018 ย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อ ปี 2013 หญิงสาววัยรุ่น (สงวนชื่อ) อายุ 14 ปีซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน ถูกคนในครอบครัวประกอบด้วย Sharon Jones, Cecila McDonald, Lonnell McDonald และ Cedric Jones Jr. ทำร้ายร่างกายจนเด็กที่อยู่ในครรภ์แท้งออกมา แต่เรื่องราวมันซับซ้อนยิ่งกว่านั้น เพราะพ่อของเด็กที่อยู่ในท้องของเด็กสาวก็คือ Robert Cayald พี่ชายของเธอที่ข่มขืนจนเธอตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางครอบครัวพยายามปิดบังไว้   ผู้ต้องหา   เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อตัวเหยื่อและน้องสาวถูกส่งให้มาอยู่กับนาง Sharon ผู้เป็นป้าหลังจากที่คุณย่าของพวกเขาเสียชีวิตไป   แต่เธอนั้นไม่ได้ไปอยู่ที่บ้านของ Sharon โดยตรง เพราะถูกส่งไปอยู่อพาร์ตเมนต์ร่วมกับ Cecila ผู้ซึ่งเป็นลูกสาวของหล่อนแทน ซึ่งที่แห่งนั้นก็มี Lonnell และ Robert ก็อาศัยอยู่ด้วย Robert ไม่เพียงแต่ข่มขืนเหยื่อจนตั้งครรภ์ แต่ยังล่วงละเมิดทางเพศลูกๆ…

  • ศาลสั่งจำคุกเหยื่อข่มขืน 30 ปี ในข้อหาฆาตกรรม หลังจากที่เธอแท้งลูกในท้องโดยไม่รู้ตัว!?

    ศาลสั่งจำคุกเหยื่อข่มขืน 30 ปี ในข้อหาฆาตกรรม หลังจากที่เธอแท้งลูกในท้องโดยไม่รู้ตัว!?

    กลายเป็นเรื่องที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนที่ประเทศเอกวาดอร์เป็นอย่างมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ซ้ำเติมกับหญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อของการข่มขืน และเธอถูกศาสสั่งจำคุก 30 ปีหลังจากที่เธอแท้งลูกออกมา!? Evelyn Beatriz Hernandez Cruz หญิงสาวชาวเอกวาดอร์วัย 19 ปีถูกแจ้งข้อหาฆาตกรรม โดยทางอัยการกล่าวว่า เธอนั้นไม่ต้องการเด็กและโยนเขาทิ้งไว้ในชักโครกหลังจากที่เด็กน้อยคลอดออกมา     ทารกที่ออกมานั้นมีอายุครรภ์เพียงแค่ 32 สัปดาห์เท่านั้น หญิงสาวถูกข่มขืนมานานหลายเดือนก่อนที่เธอจะตั้งครรภ์ โดยเธอนั้นไม่ทราบมาก่อนว่าตัวเองตั้งท้องและกำลังจะคลอดลูก ส่วนการที่เด็กหลุดออกมานั้นเกิดจากภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ของเธอ   เธอถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 30 ปี เนื่องจากการแท้งลูกโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ และลูกในครรภ์นั้นก็เกิดมาจากการข่มขืน   แต่อย่างไรก็ตามทางอัยการยังคงยืนยันว่าเธอนั้นมีเจตนาที่จะฆ่าเด็กทารก และตอนนี้ทนายความของ Hernandez กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขอยื่นอุทธรณ์ต่อศาลในวันพุธที่จะถึงนี้ต่อไป     ประเทศเอกวาดอร์นั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่ถือว่าการทำแท้ง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือกรณีใดๆ ก็ตามต่างก็เป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยกฎหมายดังกล่าวถูกบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 1998 แล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีผู้ถูกตัดสินจำคุกเพราะการทำแท้งจำนวนมาก อย่างเช่นในปี 2011 มีหญิงสาวคนหนึ่งถูกตัดสินจำคุกนานถึง 40 ปีจากข้อหานี้ หลังจากที่เธอเกิดปวดท้องกระทันหันและแท้งลูกที่บ้านของตัวเอง     สำนักข่าว Mirror รายงานว่าการตัดสินคดีความของ Hernandez นั้นขาดการพิจารณาในหลายๆ ด้านและไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะบอกว่าเธอจงใจทำแท้ง ทางด้านองค์การสหประชาชาติได้ออกมาเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายข้อนี้ โดยทางด้านคุณ Erika Guevara-Rosas ผู้อำนวยการของ…

  • บาทหลวงผู้แอนตี้ “การทำแท้ง” และตราหน้าผู้ทำแท้งเป็นฆาตรกร ไม่ต่างกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์!!

    บาทหลวงผู้แอนตี้ “การทำแท้ง” และตราหน้าผู้ทำแท้งเป็นฆาตรกร ไม่ต่างกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์!!

    ปัญหาเรื่องการทำแท้งนั้น เป็นปัญหาที่หลายๆ สังคมต้องพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศของเราหรือต่างประเทศก็ตาม แน่นอนว่าในแต่ละพื้นที่แต่ละสังคมเองก็มีวิธีในการจัดการที่แตกต่างกันออกไป… บ้างก็สนับสนุนให้การทำแท้งเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของคนที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตที่เกิดมา (เด็กอาจเกิดมาพร้อมกับโรคที่ร้ายแรง หรือฝ่ายแม่ตั้งท้องโดยการถูกข่มขืน) บ้างก็ต่อต้านเพราะมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดมนุษยธรรม   เนื่องจากแคทดั๊มบ์ตั้งเป้าจะนำเสนอเรื่องราวให้ครบทุกแง่มุม คราวก่อนเคยลงเรื่องผู้สนับสนุนการทำแท้ง คราวนี้เราจึงพามาดูในอีกแง่มุมหนึ่งบ้าง… แต่สำหรับนาย Jeff Durbin บาทหลวงวัย 38 ปีจาก คณะบาทหลวง Red Door Ministry จากรัฐ Arizona มีความเชื่อว่าการทำแท้งนั้นเป็นสิ่งที่แย่กว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวเสียอีก!!     นอกจากนี้เขายังได้ทำการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อรณรงค์ยกเลิกการทำแท้งขึ้นมาชื่อว่า Babies are murdered here.com ขึ้นมาด้วย ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ศาลได้ติดสินให้ผู้หญิงมีสิทธิที่จะทำแท้งลูกได้ เขาจึงแสดงออกมาเป็นการประท้วง     Durbin กล่าวว่า “พวกเราตัดสินให้การทำแท้งนั้นคือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน”   เขาเชื่อว่าผู้หญิงที่ทำการยกเลิกการตั้งครรภ์ควรถูกลงโทษสถานเดียวกันกับนักโทษคดีฆาตกรรม เขากล่าวว่า “ไม่ว่าจะเป็นแม่ที่ฆ่าทารกที่อยู่ในครรภ์ หรือแม่ที่ฆ่าลูกวัย 5 ขวบของตัวเองด้วยการกดน้ำ ก็ควรได้รับข้อหาฆาตรกรรมเช่นเดียวกัน ชีวิตต้องแลกมาด้วยชีวิต!!”     นอกจากนี้เขายังทำการรณรงค์ต่อต้านการทำแท้งด้วยการนำป้ายและเดินขบวน แล้วก็ยังใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียในการเผยแพร่ความคิดของเขาให้ชาวโลกได้รับรู้อีกด้วย   “พวกเราจะสอนบุตรหลานของเราให้ทำในสิ่งที่ยุติธรรม…

  • เมื่อรัฐอาร์คันซอ อนุญาตให้ผู้ข่มขืน ฟ้องเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องการทำแท้งได้!?

    เมื่อรัฐอาร์คันซอ อนุญาตให้ผู้ข่มขืน ฟ้องเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องการทำแท้งได้!?

    ปกติแล้วคดีข่มขืนถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรงมากๆ และตัวเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายสามารถที่จะเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ แต่ถ้าเกิดกรณีที่ข่มขืนแล้วท้องขึ้นมาล่ะ!? กรณีข่มขืนและท้องในแต่ละประเทศก็จะมีนโยบายด้านกฎหมายต่างกัน บ้างก็ยังผิดกฎหมายด้านการทำแท้ง ทำให้เกิดการทำแท้งเถื่อนตามมา หรือบางประเทศก็จะเปิดให้ทำแท้งได้เป็นกรณีพิเศษ     ล่าสุดมีรายงานว่าทางรัฐอาร์คันซอในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ตั้งกฏหมายขึ้นมาใหม่ว่า ถ้าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากคดีข่มขืนต้องการที่จะทำแท้ง สามารถที่จะถูกฟ้องจากผู้ก่อเหตุคดีข่มขืนได้ ในฐานะที่เป็นพ่อของลูกคนนั้น กฏหมายตัวนี้จะถูกนำมาใช้งานในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้ โดยนาย Andy Mayberry ตัวแทนของรัฐอาร์คันซอและเป็นผู้ร่วมลงนามในกฏหมายตัวนี้ ได้บอกว่า “ถึงแม้กฏหมายตัวนี้จะอนุญาตให้ผู้ก่อเหตุคดีข่มขืนสามารถฟ้องร้องผู้เสียหายในกรณีที่จะทำแท้งได้ แต่พวกเขาก็ไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องสิทธิทางการเงินต่างๆ เช่นกัน”     Karen Musick ผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายผู้สนับสนุนการทำแท้ง ที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ก็ออกมาตอบโต้ถึงกรณีที่กฎหมายดังกล่าวกำลังจะถูกนำมาใช้งานจริง “ฉันไม่เข้าใจสักนิดเดียวว่าทำไม ผู้ก่อเหตุคดีข่มขืนที่ทำให้ผู้เคราะห์ร้ายตั้งครรภ์ โดยที่พวกเขาไม่ได้ตั้งใจหรือพร้อมที่จะมีลูก ได้รับสิทธิที่ชอบธรรมนั้นไป”  กฎหมายตัวนี้ที่เรียกว่า Act.45 จะแบนการทำแท้งในระยะที่ 2 ของการตั้งครรภ์ (ช่อง 4-6 เดือน) ซึ่งกว่า 95% ของคนที่ทำแท้งจากการตั้งครรภ์โดยผิดพลาด จะใช้ช่วงนี้มากที่สุด และหากใครละเมิด ก็อาจจะโดนโทษปรับสูงถึง 350,000 บาทเลยทีเดียว     กฏหมายตัวนี้จึงยังเป็นเรื่องถกเถียงกันเป็นอย่างมาก ว่าการให้สิทธิแบบนี้กับผู้ที่ก่อคดีข่มขืนเป็นเรื่องที่ถูกแล้วเหรอ? การทำแบบนี้จะช่วยลดการทำแท้งได้จริงไหม? การอนุญาตให้ทำแท้งได้เป็นเรื่องสิทธิของตัวคนที่ตั้งครรภ์หรือเปล่า? แล้วแบบนี้เพื่อนๆ คิดยังไงกันบ้างเกี่ยวกับกฏหมายตัวนี้…