Tag: ชาวบ้าน

  • เศรษฐีจีนทุ่มเงิน 1,000 ล้าน สร้างหมู่บ้านให้คนชนบทอยู่ฟรี เพราะ “อยากตอบแทนบ้านเกิด”

    เศรษฐีจีนทุ่มเงิน 1,000 ล้าน สร้างหมู่บ้านให้คนชนบทอยู่ฟรี เพราะ “อยากตอบแทนบ้านเกิด”

    ความกตัญญูถือเป็นเรื่องที่อยู่คู่กับสังคมบ้านเรามาอย่างช้านาน ในประประเทศจีนเองค่านิยมในเรื่องของความกตัญญูก็เป็นเรื่องที่อยู่คู่กับคนจีนมาตั้งแต่อดีตเช่นเดียวกัน ดังเช่นเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะหยิบมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้ ที่เศรษฐีชาวจีนรายหนึ่งทุ่มเงินมากกว่า 200 ล้านหยวน หรือราวๆ 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างบ้านแจกให้กับผู้คนในหมู่บ้านชนบท อันเป็นบ้านเกิดของเขา     Chen Sheng วัย 54 ปี ตัดสินใจใช้เงินกว่า 1,000 ล้านบาท สร้างบ้านให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านกวนหู มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เพราะที่หมู่บ้านแห่งนั้นเป็นหมู่บ้านเกิดของเขา เขาจึงตัดสินใจมอบบ้านสุดหรูให้กับทุกคนในหมู่บ้านแบบฟรีๆ เพื่อตอบแทนบุญคุณ   ภาพโดยรวมของหมู่บ้าน   แม้ว่าในช่วงแรกจะมีปัญหาในเรื่องของการโต้แย้งกันว่าใครจะเป็นผู้รับบ้านใหม่ กับการจัดการกับบ้านเก่าอย่างไร รวมถึงชาวบ้านอีกหลายคนก็บอกว่าลูกหลานแต่งงานกันไป ครอบครัวมีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ไม่มีพื้นที่พอในการอยู่อาศัย จนทำให้ระงับการก่อสร้างชั่วคราว     แต่สุดท้าย Chen ก็ตัดสินใจสร้างต่อไป และใช้วิธีในการ ‘จับสลาก’ มาเป็นตัวตัดสินว่าใครจะได้บ้านหรือไม่ได้บ้านไป   ภาพภายในบ้าน   ที่มา : xinhanews, chinaplus

  • ทำบุญหรือทำบาป? เมื่อชาวบ้านขนไก่ขึ้นสิบล้อ นำไปปล่อยที่วัดเกือบ 200 ตัว!!

    ทำบุญหรือทำบาป? เมื่อชาวบ้านขนไก่ขึ้นสิบล้อ นำไปปล่อยที่วัดเกือบ 200 ตัว!!

    ธรรมดาเราอาจเคยเห็นคนนำสัตว์เลี้ยงไปปล่อยไว้ตามวัด เช่นเดียวกันกับสิ่งที่เกิดขึ้นใน วัดเขาบายศรี ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จังหวัดชลบุรี แต่สิ่งที่คนนำมาปล่อยกลับไม่ใช่หมาแมวทั่วๆ ไป เพราะเขานำเอา “ไก่” มาปล่อยไว้ให้ทางวัดดูแล เป็นจำนวนเกือบ 200 ตัวเลยทีเดียว!!   ไก่จำนวนมากถูกนำมาปล่อยที่วัด   เรื่องราวดังกล่าวถูกนำเสนอผ่านรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ในวันที่ 29 เมษายน 2018 เมื่อมีคนขับรถเข้ามาสอบถามกับพระอนันต์ ปภงกโร เจ้าอาวาสวัดเขาบายศรี โดยมีจุดประสงค์ต้องการนำไก่มาปล่อยที่วัด ในตอนแรกพระอนันต์คิดว่าชาวบ้านจะนำมาปล่อยแค่ 2 หรือ 3 ตัว แต่ที่ไหนได้ วันต่อมากลับมีรถสิบล้อบรรทุกไก่จำนวนถึง 196 ตัวนำมาปล่อยที่วัดดังกล่าว สร้างความตกใจให้กับเจ้าอาวาสเป็นอย่างมาก   พระจำเป็นต้องช่วยกันดูแล   นี่จึงกลายเป็นความเดือดร้อนของทางวัดที่ต้องคอยดูแลไก่ทั้งหมด โดยทางเจ้าอาวาสจำเป็นต้องเลี้ยงพวกมันร่วมกันกับหมา แมว และหมูที่อยู่ในวัด ยิ่งไปกว่านั้นคือ ไก่ที่ถูกนำมาปล่อยทั้งหมดเป็นไก่ไข่ตัวผู้ซึ่งถูกเลี้ยงไว้กรงเล็กๆ ทำให้พวกมันไม่ชินกับการหาอาหารด้วยตัวเอง ทำได้เพียงแค่เดินตามพระผู้คอยให้อาหารพวกมันเท่านั้น     เจ้าอาวาสอนันต์บอกว่าจำเป็นต้องนำอาหารไปซ่อน ปล่อยให้ไก่ไปขุดคุ้ยหาบ้าง เพื่อให้พวกมันได้ออกกำลังกายและสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนกับไก่บ้านทั่วๆ ไป พระอนันต์ยังพูดติดตลกอีกว่า…

  • เพื่อนโจรวางช่อดอกไม้ทำที่เคารพศพให้โจรที่โดนแทงตาย แถมปิดถนนเดือดร้อนชาวบ้าน

    เพื่อนโจรวางช่อดอกไม้ทำที่เคารพศพให้โจรที่โดนแทงตาย แถมปิดถนนเดือดร้อนชาวบ้าน

    เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมานาย Henry Vincent หัวขโมยวัย 37 ได้เสียชีวิตลงในโรงพยาบาลหลังจากที่ถูกแทงโดยนาย Richard Osborn-Brooks ชายวัย 78 ปีผู้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยเงินบำนาญกับภรรยาผู้พิการ ในระหว่างที่เขาลักลอบเข้าไปขโมยของ   Richard Osborn-Brooks เจ้าของบ้าน (ซ้าย) กับ Henry Vincent หัวขโมยผู้เสียชีวิต (ขวา)   หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางศาลได้มีการละเว้นโทษของนาย Richard ในคดีฆ่าคนตายโดยบอกว่าเป็นการลงมือเพื่อป้องกันตัว ทำให้บรรดาคนที่รู้จักของ Vincent ไม่พอใจเป็นอย่างมาก พวกเขาได้รวมตัวกันเพื่อนำช่อดอกไม้ไปวางที่รั้วบ้านของนาย Richard ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุไปราวๆ 18 เมตร ทำให้พื้นที่ในบริเวณที่ว่ากลายเป็นที่เคารพศพของนาย Vincent ไป   . .   เนื้อความในช่อดอกไม้นั้นมีตั้งแต่การแสดงความเสียใจต่อนาย Vincent ที่จากไป เรื่อยไปจนถึงจดหมายจากลูกสาวของเขาและจดหมายที่ระบุว่าเพื่อนๆ ของเขาจะทำการล้างแค้นให้แก่เขาให้ได้     เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเนื้อความในจดหมายที่พบสร้างความไม่สบายใจให้แก่ชาวบ้านในละแวกนั้นมาก ชาวบ้านบางส่วนถึงกับออกมาบอกว่าการกระทำที่ทำเหมือนกับว่านาย Vincent เป็นเหยื่อคนหนึ่ง ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้ว เขามีความคิดที่จะทำร้ายร่างกายคนชรา และคนพิการมันเป็นอะไรที่น่าขยะแขยงมาก     นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านที่ออกมาบอกด้วยว่าเหล่าเพื่อนๆ ของนาย Vincent ได้ออกมาทำการปิดถนน สร้างความเดือดร้อนจนต้องมีการขอร้องให้ตำรวจทำอะไรสักอย่าง อย่างไรก็ตามทางตำรวจได้ออกมาบอกว่าการสร้างที่เคารพศพแก่คนตายในครั้งนี้ไม่ได้ขัดต่อหลักกฎหมายทำให้ทางตำรวจไม่สามารถรื้อถอนที่เคารพศพนี้ออกไปได้ สถานการณ์ล่าสุดของเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ทนไม่ไหวกับการปิดถนนได้เข้าไปพยายามทำลายที่เคารพศพของนาย Vincent  …

  • ชาวบ้านต่อสู้กับงูอานาคอนด้ายักษ์ เพื่อช่วยชีวิตเจ้าตูบที่กำลังจะกลายเป็นอาหารอีกมื้อของมัน

    ชาวบ้านต่อสู้กับงูอานาคอนด้ายักษ์ เพื่อช่วยชีวิตเจ้าตูบที่กำลังจะกลายเป็นอาหารอีกมื้อของมัน

    ภาพเหตุการณ์สุดระทึก เมื่อชาวบ้านในประเทศบราซิลได้สังเกตว่าสุนัขที่พวกเขาเลี้ยงไว้นั้นได้หายตัวไป ชาวบ้านต่างไม่รอช้ารีบกระจายกำลังกันออกตามหาเจ้าตูบทันที ชาวบ้านใช้เวลาไม่นานในการตามตัวสุนัขของพวกเขา ซึ่งทั้งหมดได้ไปเจอเจ้าตูบสีดำบริเวณริมน้ำ โดยที่สภาพของมันเรียกว่าไม่ดีเลย เพราะเจ้าอนาคอนด้าขนาดใหญ่กำลังรัดตัวเพื่อที่เตรียมพร้อมจะปลิดชีพและลากไปกินในน้ำ   ชาวบ้านใจกล้า ลงไปลากเจ้างูยักษ์ขึ้นมา หวังว่าสุนัขของพวกเขาจะรอดพ้นจากความตาย   เพียงแต่ว่าเมื่อสุนัขตัวนี้เป็นสุนัขที่ชาวบ้านรัก ทุกคนจึงตัดสินใจเข้าไปดึงหางเจ้าอนาคอนด้าตัวต้นเหตุขึ้นมาอย่างไม่เกรงกลัว และทุกคนต่างพากันใช้ไม้หรืออุปกรณ์ต่างๆ ฟาดลงไปที่เจ้างูยักษ์หวังให้มันรีบปล่อยสุนัขของพวกเขาออกมา   ในตอนแรกทุกคนยังไม่ได้ใช้ไม้ฟาดมัน แต่พวกเขาอยากจะลองเขย่าๆ ให้มันยอมปล่อยด้วยตัวเองดูก่อน   ในคลิปเราจะเห็นว่า งูนั้นเริ่มรัดสุนัขไปทั้งตัวแล้วทำให้เราตัดสินจากสายตาได้ว่า สุนัขอาจจะตายแล้วก็ได้ แต่ไม่เลย เพราะหลังจากชาวบ้านจัดการฟาดไม้ลงไปที่ตัวงูจนสุดท้ายมันยอมปล่อย สุนัขตัวดังกล่าวรีบวิ่งออกให้ห่างจากงูตัวแสบอย่างรวดเร็วด้วยสัญชาติญาณของมัน   เพื่อให้เจ้างูยักษ์ยอมปล่อย ไม้ถือเป็นตัวช่วยหลักที่ชาวบ้านเลือกใช้เพราะไม่อยากฆ่ามัน   ส่วนสุดท้ายแล้ว เจ้างูอนาคอนด้ายักษ์จะมีชะตาชีวิตเป็นอย่างไร ชาวบ้านจะจับมันไปกินไหม หรือว่าพวกเขาตัดสินใจปล่อยมันกลับไป ก็ไม่มีใครทราบและให้คำตอบได้นั่นเอง…      ที่มา dailymail

  • แห่แชร์คลิปคุณป้าฉุนหนัก ควักขวานจามรถไม่ยั้ง อัดอั้นที่เคยถูกจอดขวางจนมีคนเสียชีวิต

    แห่แชร์คลิปคุณป้าฉุนหนัก ควักขวานจามรถไม่ยั้ง อัดอั้นที่เคยถูกจอดขวางจนมีคนเสียชีวิต

    ในช่วงวันสองวันที่ผ่านมานั้นได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับคลิปเหตุการณ์ในบ้านเรา โดยเป็นคลิปของคุณป้าคนหนึ่งที่เอาไม้กวาดไปทุบรถของชาวบ้าน ซึ่งชาวเน็ตก็พากันเข้ามาบ่นคุณป้ากันยกใหญ่ว่าป้านั้นทำเกินไป     เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่ตลาดสวนหลวง ร.9 ซึ่งเป็นตลาดที่ผู้คนมักจะมาจับจ่ายกันอยู่เยอะ แน่นอนว่ารถก็ต้องเยอะจนเกิดปัญหาที่จอดรถไม่พอแน่นอน แต่ปัญหาหลักมันอยู่ตรงที่รถกระบะสีขาวคันดังกล่าวได้ไปจอดบริเวณหน้าบ้านของคุณป้าในคลิป ซึ่งทำให้คุณป้าที่จะออกจากบ้านไม่สามารถไปไหนได้     งานนี้คุณป้าที่พยายามบีบแตรก็แล้ว เรียกก็แล้วเจ้าของรถก็ไม่มาจัดการ คุณป้าจึงจัดการเอาไม้กวาดมาฟาดลงที่หน้ารถคนดังกล่าวอย่างต่อเนื่องจนคนมากมายต่างพากันมามุงดู ซึ่งตอนแรกชาวเน็ตก็บอกว่าคุณป้าทำเกินไป จนมีคนออกมาบอกความจริงอีกด้านว่า บ้านคุณป้าดังกล่าวนั้นเคยมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่คนมาจอดในลักษณะแบบนี้ โดยชาวเน็ตท่านนั้นได้ชี้แจงว่าบ้านของคุณป้าแกมักจะถูกจอดรถขวางเป็นประจำในวันเสาร์อาทิตย์ และแรงจูงใจหลักที่ทำให้ป้าไม่ชอบคือ ในอดีตนั้นคุณป้าเคยจะพาคุณพ่อที่ป่วยหนักไปส่งโรงพยาบาล แต่ว่าดันมีรถมาจอดบังเช่นเดียวกับตอนนี้ ทำให้คนที่บ้านไปส่งคุณพ่อของคุณป้าคนดังกล่าวไม่ทันจนคุณพ่อของคุณป้าเสียชีวิตในที่สุด     และที่หนักกว่าคือป้ายจำนวนมากหน้าบ้านแกก็เขียนไว้ชัดเจนว่าห้ามจอดรถหน้าบ้าน เพราะคดีจอดรถที่ทำให้พ่อของคุณป้าเสียชีวิตนั้น คุณป้าเป็นผู้ชนะคดีความนั่นเอง ทางบ้านแกจึงได้ขอป้ายศาลมาติดไว้เพื่อไม่ให้คนมาจอดและเกิดเหตุซ้ำ แต่สุดท้ายไม่วายก็ยังมีคนมาจอดอยู่ดี   เราจะเห็นว่าหน้าบ้านของคุณป้ามีป้ายอยู่เยอะและใหญ่มากๆ   สุดท้ายเมื่อทุกคนทราบถึงเหตุผล งานนี้ลมก็เลยเปลี่ยนทิศทันที ชาวเน็ตต่างพากันรุมด่าเจ้าของรถที่จอดรถอย่างไร้จิตสำนึกทันที…   ถ้าใครอยากดูอีกมุมหนึ่งกับคำพูดจากปากคุณป้า ก็ลองชมคลิปข่าวจากทาง Workpoint ดู   ที่มา Workpoint News ข่าวเวิร์คพอยท์

  • Google จ้างพนักงานเพิ่ม 30 คน เพื่อตามหาจักรยานของพนักงานที่ชาวบ้านขโมยไปกว่า 250 คัน!!

    Google จ้างพนักงานเพิ่ม 30 คน เพื่อตามหาจักรยานของพนักงานที่ชาวบ้านขโมยไปกว่า 250 คัน!!

    หลังจากที่ทาง Google ได้สร้างอาณาจักรของพวกเขาขึ้นที่ Silicon Valley  เราต่างรู้ดีว่าบริษัทไอทียักษ์ใหญ่นี้มีสวัสดิการให้พนักงานมากมาย รวมถึงการให้บริการรถจักรยานฟรีเพื่อให้สามารถสัญจรไปมาในออฟฟิศขนาดกว้างใหญ่นี้ ล่าสุดดูเหมือนว่าบริการดังกล่าวจะมีปัญหาซะแล้ว หลังจากที่รถจักรยานจำนวนมากถูกชาวบ้านในละแวกนั้นขโมยไปใช้ซะอย่างนั้น!!     เมือง Mountain View รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ Google กำลังเผชิญกับปัญหาจักกรยานของเหล่าพนักงานกว่า 100-250 คันที่ถูกขโมยไป จากทั้งหมด 1,100 คัน!? งานนี้ทำเอาบริษัทดังถึงขั้นต้องกลับมาคิดหนักเรื่องให้บริการจักรยานฟรี และจ้างคนสำหรับตามหารถที่หายไปโดยเฉพาะกันเลยทีเดียว     หลังจากคิดหาทางแก้ปัญหาอยู่หลายวิธี ในที่สุดทาง Google ได้ลงทุนจ้างพนักงานกว่า 30 ตำแหน่งและรถตู้อีก 5 คันสำหรับการปฏิบัติภารกิจตามหาจักรยานที่หายไปนี้ นอกจากนี้พวกเขาก็ยังได้ติดตั้งระบบ GPS พร้อมกำหนดให้เฉพาะพนักงานเท่านั้น ที่สามารถใช้โทรศัพท์มืิอถือเพื่อปลดล็อครถจักรยาน เป็นการแก้ปัญหาอีกทางด้วยเช่นกัน     โครงการจักรยานสำหรับพนักงานนี้เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2007 ก่อนที่จะพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี 2015 ทางบริษัทได้ลงทุนมากกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐในการพัฒนาจักรยานและระบบดังกล่าวเพื่อใช้ใน Mountain View ซึ่งเป้าหมายของพวกเขาคือต้องการให้คนเมืองนี้หันมาใช้จักรยาน รวมถึงทำให้เป็นเมืองจักรยานอย่างเช่นเมือง Copenhagen ของเดนมาร์กนั่นเอง     คุณ Ken Rosenberg นายกเทศมนตรีของ Mountain…

  • เปิดประเด็นเดือด…เมื่อเจ้าหน้าที่เจอโน็ตแปะหน้ากระจกรถพยาบาลว่า “อย่ามาจอดขวาง”

    เปิดประเด็นเดือด…เมื่อเจ้าหน้าที่เจอโน็ตแปะหน้ากระจกรถพยาบาลว่า “อย่ามาจอดขวาง”

    กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันหนักมากๆ หลังจากที่มีการโพสต์ภาพรถพยาบาลที่ถูกชาวบ้านเอากระดาษมาแปะไว้ข้างหน้ารถว่า “รู้นะว่ามาช่วยคนเจ็บ แต่ช่วยอย่าจอดรถขวางทางตรูจะได้ไหม” ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2017 โดยเป็นภาพที่ทาง West Midlands Ambulance Service เป็นคนปล่อยออกมา โดยพวกเขาเล่าว่ามันเกิดขึ้นหลังจากที่ได้รับแจ้งให้ไปช่วยเหลือชายที่บาดเจ็บสาหัส แน่นอนว่าในจังหวะนั้นการจอดรถให้ถูกจุดมันเป็นเรื่องรองสำหรับพวกเขา การช่วยชีวิตต้องมาก่อน     แต่ด้วยการจอดรถแบบเร่งรีบโดยไม่ได้แคร์อะไร เพื่อนบ้านของชายที่บาดเจ็บจึงมอบกระดาษโน็ตพร้อมคำพูดดังกล่าวไว้ให้กับทีมกู้ภัย ซึ่งเป็นใครอ่านแล้วก็ต้องรู้สึกแย่ เจ้าหน้าที่ได้ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวผ่าน Mirror Online ว่า “พวกเรารีบเดินทางไปช่วยชายคนหนึ่งที่อาเจียนออกมาเป็นเลือดไม่หยุด สภาพของเขาย่ำแย่มากๆ ขนาดที่ว่าพอไปถึงโรงพยาบาลต้องเข้าห้องไอซียูทันที แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ของเราพยายามจะจอดรถเพื่อไม่ให้เดือดร้อนใครมากที่สุด แต่บางครั้งก็เกรงว่าจะไม่ทันเวลา”     อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่นั้นก็จะแสดงไปในทิศทางเดียวกันว่า เจ้าหน้าที่มาเพื่อช่วยเหลือทำไมเจ้าของกระดาษโน็ตถึงเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้ หรือไม่ก็แนวๆ ว่า ถ้าคราวหน้าเจ้าของกระดาษโน็ตนี้ป่วยแล้วโทรแจ้งก็บอกเขาไปว่า ไปช่วยไม่ได้นะถนนมันโดนปิดอยู่…   .    แล้วเพื่อนๆ มีความคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้บ้าง ลองเข้ามาแชร์ความคิดเห็นกันดูสิ   ที่มา ladbible

  • คุณแม่รู้สึกแย่… เมื่อมีจดหมายติถึงลูก ‘ออทิซึม’ ส่งเสียงดังเกินไป และใช้คำเรียกว่า ‘มัน’

    คุณแม่รู้สึกแย่… เมื่อมีจดหมายติถึงลูก ‘ออทิซึม’ ส่งเสียงดังเกินไป และใช้คำเรียกว่า ‘มัน’

    สู่ประเด็นการตั้งคำถามของชาวเน็ต เกี่ยวกับความเหมาะสมของเรื่องนี้ หลังจากที่คุณแม่ได้รับจดหมายเตือนจากเพื่อนบ้าน เกี่ยวกับการส่งเสียงดังยามค่ำคืนของลูกชายตัวน้อยที่ป่วยเป็นออทิซึม โดยเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า คุณแม่วัย 27 ปี Jessica Green ออกมาเรียกร้องถึงความถูกต้อง หลังจากที่เพื่อนบ้านส่งจดหมายเตือนมาหาเธอ โดยใช้สรรพนามแทนลูกของเธอว่า ‘มัน’   Jessica Green และลูกชายวัย 3 ขวบ Henry   คุณแม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เธอรู้สึกหวาดระแวงและกลัวว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับลูกน้อยของเธอ หลังจากที่มีเพื่อนบ้านเอาจดหมายเตือนเกี่ยวกับปัญหาเรื่องเสียงดังในยามค่ำคืน โดยเนื้อหาในจดหมายมีดังนี้: “ถึงเพื่อนบ้าน… ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนบ้านของคุณ เราอยากรบกวนให้คุณช่วยจัดการกับเสียงกรีดร้องที่มักจะดังขึ้นมาในยามค่ำคืนจากบ้านของคุณ และในระหว่างที่มันกำลังออกมาวิ่งเล่นข้างนอกส่งเสียงดัง ได้โปรดรับรู้ไว้ด้วยว่าเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ทนฟังเสียงกรีดร้องของมันไม่ไหวเช่นกัน”     “จนตอนนี้หลายคนเริ่มสงสัยแล้วว่า… ตกลงแล้วคุณเลี้ยงลูกอย่างถูกต้องจริงๆ รึเปล่า? เพราะเชื่อว่าคงไม่มีพ่อแม่คนไหนปล่อยให้ลูกออกมากรีดร้องแบบนี้แน่ๆ  ถ้าหากคุณยังไม่แก้ปัญหาที่มันค้างคามานานนับปี เราจะเอาเรื่องนี้ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่รัฐและอาจนำมาซึ่งการย้ายคุณออกจากพื้นที่นี้ได้เลย ตอนนี้ไม่มีเพื่อนบ้านคนไหนกล้าที่จะออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เพราะเสียงกรีดร้องจากลูกของคุณ และปัญหานี้ก็คาราคาซังมานานนับปีแต่ไม่มีวี่แววว่าจะเบาลงเลย มีแต่ดังขึ้นทุกวัน ยังไงเราก็หวังว่าคุณจะช่วยแก้ปัญหานี้ให้เราได้นะ จากเพื่อนบ้านในละแวกนี้ทุกคน”   ภาพจดหมายดังกล่าว   จากประเด็นดังกล่าวคุณแม่ก็ออกมาเรียกร้องถึงความเหมาะสม ที่เพื่อนบ้านใช้คำสรรพนามเรียกลูกชายเธอว่า ‘มัน’ แต่ถึงกระนั้นคุณแม่ก็ได้ชี้แจงคืนว่า คนส่วนใหญ่มักจะไม่เข้าใจความต้องการของเด็กที่ป่วยเป็นออทิซึม……

  • ชมสภาพเมือง ‘Rio de Janeiro’ หลังจบโอลิมปิค และต้องเผชิญปัญหาเศรษฐกิจล้มละลาย

    ชมสภาพเมือง ‘Rio de Janeiro’ หลังจบโอลิมปิค และต้องเผชิญปัญหาเศรษฐกิจล้มละลาย

    การจะเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิคได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะอย่างน้อยๆ ประเทศเจ้าภาพก็ต้องมั่นใจว่าเศรษฐกิจของตัวเองดีพอ และมีเงินหมุนมากพอ ที่จะไม่ทำให้ประชาชนต้องตกระกรำลำบากหลังจบงานไปแล้ว ทว่าหลังจบงานโอลิมปิคปี 2016 เมือง Rio de Janeiro ก็ได้ประกาศเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจล้มละลาย ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชมสภาพบ้านเมืองหลังจบงานโอลิมปิคอีกครั้ง…   หลังเสร็จสิ้นพิธีปิดได้ไม่นาน ก็มีการประกาศเข้าสู่สภาพวะเศรษฐกิจล้มละลาย   แม้ว่าหน้าฉากในช่วงการแข่งขัน เราจะเห็นภาพรอยยิ้มของชาวบราซิล ทว่าหลังจบงานสภาพการเป็นอยู่ของพวกเขากลับไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นกันในสื่อ   นักกีฬาผู้เป็นดั่งฮีโร่ของชาวบราซิลหลายๆ คน ก็ไม่ได้รับค่าตัวจากรัฐบาลหลังการแข่งขัน   Maicon Andrade นักกีฬาเหรียญทองแดงเทควันโดให้สัมภาษณ์ว่า “ผมคิดว่าเส้นทางกีฬาจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น แต่เปล่าเลย… แม้แต่ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ได้รับค่าตอบแทนแม้แต่สตางค์เดียว”   หนึ่งในสเตเดียมที่ใช้ทุนสร้างมหาศาล ทว่าหลังจบการแข่งขันมันก็กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่ไร้ประโยชน์ทันที   หลายๆ พื้นที่การแข่งขัน ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ชุมชนแออัด ทำให้มีประชาชนจำนวนมากกลายเป็นคนไร้ที่อยู่ และไม่ได้รับการเหลียวแลใดๆ จากรัฐบาล   และทั้งหมดก็มีสเตเดียมที่กลายเป็นพื้นที่รกร้างไปแล้วมากกว่า 27 แห่ง   ยกตัวอย่างเช่นสนามแข่งปั่นจักรยาน ที่เคยใช้งานเพียงแค่ครั้งเดียวหลังสร้างเสร็จ ทว่าต้องสูญเงินไปกับค่าบำรุงรักษาสูงถึงปีละ 840,000 ยูโร (ราว 32 ล้านบาท)  …

  • คุณปู่ชาวจีนวัย 66 ซ้อมจัดงานศพแบบหลอกๆ ของตัวเอง เพื่อเช็คว่าจะมีคนมาร่วมงานศพมากแค่ไหน

    คุณปู่ชาวจีนวัย 66 ซ้อมจัดงานศพแบบหลอกๆ ของตัวเอง เพื่อเช็คว่าจะมีคนมาร่วมงานศพมากแค่ไหน

    สมัยนี้ไม่ว่าจะทำอะไร หลายคนก็มักจะวางแผน และกำหนดเป้าหมายในชีวิตเอาไว้ก่อน เพื่อเตรียมรับมือกับอนาคต บางคนก็วางแผนว่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือทำในสิ่งที่ตนเองรัก แต่จะมีใครบ้างละที่คิดวางแผนซ้อมจัดงานศพของตัวเอง แน่นอนว่าคงไม่มีใครเคยคิดแบบนี้หรอกใช่ไหม แต่ความคิดที่แปลกสุดขั้วแบบนี้มันดันเข้าไปอยู่ในหัวของ Zhang Deyang คุณปู่วัย 66 ปี ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ  ณ มณฑลซานตง ประเทศจีน คนนี้ซะแล้ว งานนี้แกก็เลยตัดสินใจซ้อมจัดงานศพของตัวเองขึ้นมายังไงละ หา!! เอาจริงหรอเนี่ยคุณปู่     โดยวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าว Shanghaiist ได้รายงานว่า เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา คุณปู่ Zhang คนนี้ ได้ตัดสินใจจัดงานศพหลอกๆ ของตัวเองขึ้น เพื่อเป็นการซ้อมก่อนงานศพของจริง     ซึ่งสาเหตุที่คุณปู่ได้จัดงานศพหลอกๆ ของตัวเองขึ้นมา ก็เพราะคุณปู่อยากจะเช็คเรทติ้งสักหน่อย ว่าจะมีชาวบ้านมาร่วมงานศพหลอกๆ ของแกสักกี่คนกัน     และในที่สุดตัวเลขที่ได้ ก็เป็นที่พออกพอใจกับคุณปู่เป็นอย่างมากเลยละ เพราะการซ้อมงานศพหลอกๆ ของคุณปู่ในครั้งนี้ มีชาวบ้านมาร่วมพิธีถึง 40 คน และนอกจากชาวบ้านในหมู่บ้านของเขาแล้ว…

  • แบบนี้ต้องแชร์!! ‘พิซซ่าไข่’ เมนูอาหารสไตล์พื้นบ้านแบบไทยๆ หน้าตาดูดี มีสีสัน น่ากินที่สุด

    แบบนี้ต้องแชร์!! ‘พิซซ่าไข่’ เมนูอาหารสไตล์พื้นบ้านแบบไทยๆ หน้าตาดูดี มีสีสัน น่ากินที่สุด

    เรียกได้ว่าถูกคิดค้นมาจากภูมิปัญญาชาวบ้านอย่างแท้จริงเลยก็ว่าได้ สำหรับเมนู พิซซ่าไข่ ที่ชื่อดูหรูหราอย่างกับมาจากอิตาลี แต่วิธีทำสไตล์บ้านๆ แบบไทยแท้ งานนี้รับรองว่าคนชอบกินไข่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด และที่สำคัญทางเราก็ต้องขอขอบคุณ คุณมั่นใจ ไทยเจริญ เป็นอย่างมาก ที่ได้อนุญาตให้เราได้นำสูตรพิซซ่าสุดเด็ดมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ไปลองทำตามกัน ส่วนวิธีทำจะเป็นอย่างไรนั้น ไปเริ่มกันเลย   สิ่งที่ต้องเตรียม -ไข่ไก่ -ซอสปรุงรส -ปูอัด ไส้กรอก มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ เห็ด หรืออะไรก็ได้ตามชอบเลย -ผักต่างๆ เช่น ต้นอ่อนทานตะวัน หรืออะไรก็ได้ตามชอบ -ซอสพริก หรือซอสมะเขือเทศ -ใบตอง   วิธีทำ 1.เริ่มจากเตรียมกระทะก้นแบน ใบตองสด นำไปตั้งบนเตา เตาถ่านหรือเตาแก๊สก็ได้จ้า   2.ตีไข่ลงในภาชนะ แล้วใส่ซอสปรุงรสตามลงไป จากนั้นก็ค่อยๆ เทลงบนใบตองได้เลย   3.กดให้ใบต้องสัมผัสก้นกระทะมากที่สุด อย่าให้ใบตองแตก เพราะไข่อาจจะไหลลงไปติดกระทะ   4.จากนั้นเติมเครื่องลงไป เช่น ปูอัด ไส้กรอก มะเขือเทศ หอมใหญ่ เห็ด…

  • ชาวบ้านสุดแค้น รุมประชาทัณฑ์โจรจนบาดเจ็บปางตาย หลังพยายามขโมยสุนัขไปขาย!!

    ชาวบ้านสุดแค้น รุมประชาทัณฑ์โจรจนบาดเจ็บปางตาย หลังพยายามขโมยสุนัขไปขาย!!

    เมื่อช่วงวันที่ 27 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์โจรสามคนพยายามขโมยสุนัขในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในมณฑลกวางตุ้ง ในขณะที่พวกเขาพยายามขับรถหลบหนี ก็เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำจนเจ้าของสุนัขสามารถตามมาเจอได้ทัน       ในขณะที่โจรทั้งสามกำลังจะหลบหนีอีกครั้ง กลุ่มชาวบ้านที่กำลังโกรธแค้นก็เข้ามาช่วยจับและลงประชาทัณฑ์ในทันที จนหนึ่งในโจรนั้นบาดเจ็บสาหัสเลยทีเดียว       เมื่อชาวบ้านเข้าไปค้นในรถคันดังกล่าว ก็พบสุนัขหลายตัวถูกขังอยู่ในกรงภายในรถ และก็ได้มีการช่วยเหลือออกมา ส่วนโจรที่เหลือก็ถูกนำส่งโรงพักไปตามระเบียบ       สำหรับเหตุการณ์การรุมประชาทัณฑ์ของชาวบ้าน ครั้งนี้ถือว่าเบาแล้ว เพราะเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน มีเหตุการณ์คล้ายๆกันแบบนี้เกิดขึ้น แต่โจรสองคนนั้นถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์จนเสียชีวิตไปหนึ่งคน และอีกคนยังบาดเจ็บสาหัสอยู่ในโรงพยาบาล       ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้นล่ะนะ แต่เหมียวก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการรุมประชาทัณฑ์แบบนี้เท่าไหร่ น่าจะแค่จับกุมตัวไว้ก็พอ แล้วรอให้ตำรวจมาจัดการ ไม่งั้นเราจะกลายเป็นศาลเตี้ยไปเนอะ ที่มา shanghaiist

  • เสือดาวตัวนี้ หัวติดคาหม้อนานถึง 6 ชั่วโมง หลังเอาหัวมุดเข้าไป แต่สุดท้ายเอาออกไม่ได้

    เสือดาวตัวนี้ หัวติดคาหม้อนานถึง 6 ชั่วโมง หลังเอาหัวมุดเข้าไป แต่สุดท้ายเอาออกไม่ได้

    เวลาที่เรานึกถึง ‘เสือ’ ส่วนใหญ่เราจะนึกถึงความดุร้าย ความน่ากลัว และความแกร่งของมันใช่ไหมละ แต่ภาพที่เหมียวจะพามาชมในวันนี้ เป็นภาพของเจ้าเสือสิ้นลายผู้น่าสงสาร ที่หัวของมันดันไปติดคาหม้อ แถมยังเอาออกไม่ได้แบบนี้     ความจริงแล้ว เจ้าเสือดาวผู้โชคร้ายตัวนี้มันกำลังมองหาน้ำดื่มในหมู่บ้านอินเดียเหนือ แต่ดันไปเจอหม้อใบหนึ่ง งานนี้มันเลยเอาหัวมุดเข้าไป แต่สุดท้ายหัวของมันก็ติดอยู่ในหม้อ เป็นเวลานานถึง 6 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว     มันเดินไปเดินมาในสภาพที่มีหม้อติดคาหัว ใกล้ๆ หมู่บ้าน แถมยังทำให้ชาวบ้านตื่นกลัวกันเป็นแถว ที่เจอเสือดาวหลุดออกมาจากป่าแบบนี้     แต่ด้วยความสงสารชาวบ้านก็ได้ช่วยกัน แจ้งทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาช่วยเหลือ ก่อนที่จะส่งตัวมันกลับคืนสู่ผืนป่าไปในที่สุดยังไงละ     ที่มา : Shazzy Mazzy AR3

  • ชาวบ้านพบสัตว์ประหลาดขนฟูตัวใหญ่กลางป่า จนท. ไปตรวจสอบ แท้จริงเป็นแกะหลง ไม่ได้ตัดขนมา 5 ปี!!!

    ชาวบ้านพบสัตว์ประหลาดขนฟูตัวใหญ่กลางป่า จนท. ไปตรวจสอบ แท้จริงเป็นแกะหลง ไม่ได้ตัดขนมา 5 ปี!!!

    งานนี้ทำเอาตกอกตกใจกันไปหมด เมื่อล่าสุดในประเทศออสเตรเลียมีการรายงานจากคนในท้องถิ่น แถบ Canberra ว่ามีผู้พบสัตว์ประหลาดที่ไม่เคยใครพบมาก่อน แถมมีตัวใหญ่ยักษ์แบบประหลาดสุดๆ !!!   นี่คือภาพที่คนแถบนั้นถ่ายไว้ได้   องค์กรป้องกันการทารุณกรรมสัตว์แห่งประเทศออสเตรเลียเลยเข้าไปสำรวจดู พบว่าเป็นแกะธรรมดานี่เองแหละ   ซึ่งมันได้หนีจากฟาร์มไปราวๆ เมื่อ 5 ปีก่อน ดูทรงผมแอโฟร่ของมันสิ   โดยต้องใช้คนมาช่วยกันตัดขนของมันกว่า 5 คนเลยล่ะ   หนามากๆ ใช้เวลากว่า 40 นาทีเลยล่ะ   เยอะมากกกก   โกนได้ขนหนักกว่า 89 ปอนด์เลยทีเดียว และนั่นเป็นสถิติโลกเลยล่ะ!!!   ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ ตอนนี้มีคนรับเลี้ยงเจ้าแกะของเราแล้วล่ะ   ส่วนสีแดงๆ นั่นเป็นสเปรย์ใช้สำหรับโกนนะจ๊ะ อย่ากังวล อิอิ แหม…นึกว่าปีศาจกระหายเลือดอะไรซะอีก อิอิ ชอบทรงผมใหม่ของแกเหมือนกันนะ ฮร่าๆๆๆ ที่มา: Distractify