Tag: ความเหงา

  • เด็กสาว 4 ขวบ ปิ๊งไอเดีย สร้าง ‘ปุ่มกอด’ ขึ้นมา เพื่อคลาย ‘ความคิดถึงแม่’ เมื่ออยู่ห่างกัน

    เด็กสาว 4 ขวบ ปิ๊งไอเดีย สร้าง ‘ปุ่มกอด’ ขึ้นมา เพื่อคลาย ‘ความคิดถึงแม่’ เมื่ออยู่ห่างกัน

    อย่างที่รู้กันดีว่า ‘การไปโรงเรียน’ ของเด็กๆ ในช่วงแรกๆ นั้นถือเป็นเรื่องที่ยากมาๆ เพราะจากเดิมที่พวกเขาต้องอยู่ติดกับพ่อแม่ตลอดเวลา แต่พอไปโรงเรียนแล้วจะต้องแยกกันย่อมเป็นความรู้สึกที่เด็กๆ จะรับมือได้ยากเป็นธรรมดา หรือฝั่งคนเป็นพ่อเป็นแม่เองก็อาจจะหนักกว่าเสียด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้เองแต่ละครอบครัวก็จะมีวิธีการในการจัดการกับความรู้สึกเหล่านี้ที่แตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกันกับครอบครัวนี้ ที่ใช้วิธีสุดแสนจะน่ารักเพื่อทำให้ลูกของตัวเองรู้สึกอบอุ่นหัวใจ แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน Violet Orrick เด็กหญิงวัย 4 ขวบ ที่เพิ่งจะได้เข้าโรงเรียน และได้เผชิญประสบการณ์ที่ต้องห่างจากคุณแม่ Leanne Orrick วัย 38 ปีเป็นครั้งแรก     เธอก็เลยปิ๊งไอเดีย ‘ปุ่มกอด’ ขึ้นมา เป็นการวาดปุ่มรูปหัวใจเล็กๆ ติดไว้ที่แขนของทั้งคู่ และเมื่อกดเมื่อไหร่ก็จะจินตนาการถึงอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของกันและกัน เพื่อเยียวยาความเศร้าจากการอยู่ห่างกัน Violet กล่าวถึงปุ่มรูปหัวใจดังกล่าวว่า “หัวใจก็เปรียบเสมือนกับตัว M คือ Mummy ที่ตั้งอยู่บนตัว V คือ Violet”  และทุกครั้งที่ Violet รู้สึกเหงาที่โรงเรียน เธอก็จะกด ‘ปุ่มกอด’ นี้ทุกครั้ง เพื่อรับรู้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดของคุณพ่อกับคุณแม่ ช่วยให้เธอผ่านช่วงเวลาที่อยู่โรงเรียนไปได้อย่างมีความสุข     “ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากการที่ฉันเห็นรูปที่วาดบนแขนของลูกสาวเป็นรูปหัวใจ ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงวาดมัน…

  • ชายหนุ่มเดินไกล 300 กิโลฯ ช่วยชีวิตคนไว้ถึง 350 คน ตระหนักถึง ‘ความเหงาที่ฆ่าคนได้’

    ชายหนุ่มเดินไกล 300 กิโลฯ ช่วยชีวิตคนไว้ถึง 350 คน ตระหนักถึง ‘ความเหงาที่ฆ่าคนได้’

    บนโลกอันแสนกว้างใหญ่ มีผู้คนหลายพันล้านชีวิตอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์แห่งนี้ แต่ทว่าความกว้างใหญ่กลับทำให้จิตใจของคนตัวเล็กๆ รู้สึกได้ว่า ‘เหงา’ เหลือเกิน อาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยของตัวบุคคล แต่รู้หรือไม่ว่า ‘ความเหงา’ สามารถคร่าชีวิตคนได้เลยทีเดียว เพราะยิ่งเหงามากก็ยิ่งส่งผลต่อสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ จนถึงขั้นลงมือทำในสิ่งที่ใครๆ ก็ไม่อาจคาดคิดได้…     จากรายงานด้านสุขภาพของประชาชนของประเทศเดนมาร์ก เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบว่าชาวเดนมาร์กจำนวน 350,000 คน ประสบกับภาวะเหงาบ่อยครั้ง และจากสถิติคนเหงา 16% ของประชากรเดนมาร์กทั้งหมด ก็เพิ่มจำนวนเป็น 50% ภายในเวลาไม่กี่ปีเท่านั้น จึงเป็นเรื่องที่น่ากังวลพอสมควร     นาย Patrick Cakirli จึงเล็งเห็นปัญหาความเหงาที่อาจคร่าชีวิตของคนได้ เขาจึงริเริ่มโครงการเดินคล้ายพี่ตูน ที่ไม่ใช่การระดมทุนเพื่อซื้ออุปกรณ์ให้โรงพยาบาล แต่เป็นโครงการ March Against Loneliness หรือขบวนเดินต่อต้านความเหงานั่นเอง     เริ่มต้นในวันที่ 12 จนถึงวันที่ 26 เมษายน เขาได้เดินได้ระยะทางรวม 300 กิโลเมตร จากกรุงโคเปนเฮเก้น สู่เมือง ออร์ฮูส ซึ่งการเดินในครั้งนี้เป็นครั้งที่…

  • “ความเหงา” อาจไม่ได้ฆ่าเรา แต่ผลลัพธ์มันเลวร้าย ไม่ต่างกับดูดบุหรี่วันละ 15 มวน

    “ความเหงา” อาจไม่ได้ฆ่าเรา แต่ผลลัพธ์มันเลวร้าย ไม่ต่างกับดูดบุหรี่วันละ 15 มวน

    เราอาจเคยได้ยินประโยคที่ว่า “ความเหงาไม่เคยฆ่าใคร” แต่ว่ามันก็อาจเป็นสิ่งที่ทำร้ายสุขภาพกายและใจของเราได้เป็นอย่างมาก ยิ่งสำหรับเด็กรุ่นใหม่ในปัจจุบันด้วยแล้ว คำพูดที่ว่ามานั้นได้รับการอธิบายโดยมหาวิทยาลัย California Los Angeles (UCLA) เมื่อพวกเขาจัดทำเกณฑ์การประเมินระดับความเหงาของคน โดยผลสำรวจบอกว่าเด็ก Gen Z (อายุ 18-22 ปีในยุคนี้) ต้องเผชิญกับความเหงามากยิ่งกว่าคนสูงอายุซะอีก     การสำรวจโดยบริษัทประกันชีวิต Cigna ชี้ให้เห็นว่า วัยรุ่นในช่วง Gen Z มีคะแนนระดับความเหงาอยู่ที่ 42 คะแนน ในขณะที่ผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 72 ปี) มีเพียง 39 คะแนนเท่านั้น David Cordani ประธานบริษัท Cigna บอกว่าสาเหตุของความเหงาในวัยรุ่นนั้น เกิดจากการที่พวกเขามักจะเล่นโซเชียลมีเดียมากจนเกินไป ซึ่งคนที่เล่นโซเชียลมีเดียมากๆ จะมีความรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง เหมือนกับคนที่แทบไม่ได้เล่นโซเชียลมีเดียเลย เขาอธิบายว่าสิ่งที่จะช่วยทำให้เรารู้สึกหลุดพ้นจากความเหงา คือการที่เราต้องสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนในสังคมอย่างมีความหมาย ไม่ใช่การที่เราแค่เลื่อนดูเฟซบุ๊กไปมาหรือเข้าไปเช็กโปรไฟล์ของคนรู้จักอย่างที่เราทำกันในปัจจุบัน     ยิ่งไปกว่านั้น การที่เรามีความเหงาและโดดเดี่ยวจะส่งผลเสียไปยังสุขภาพกายและใจของเราได้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความเครียด อาการซึมเศร้า นำไปสู่โรคเรื้อรังหลายต่อหลายอย่าง ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าหากจะเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ…

  • หนุ่มก่อตั้ง “กลุ่มคนเหงา” พร้อมเชิญทุกคนมากินเลี้ยงด้วยกัน จะได้ไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป

    หนุ่มก่อตั้ง “กลุ่มคนเหงา” พร้อมเชิญทุกคนมากินเลี้ยงด้วยกัน จะได้ไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป

    จากสถิติของประเทศเดนมาร์กพบว่า มีคนจำนวนมากกว่า 210,000 คนที่ต้องเจอกับปัญหาความเหงาและโดดเดี่ยว ไม่ว่าจะทั้งการไร้เพื่อน ไม่มีคู่ หรือสูญเสียครอบครัวก็ตาม ซึ่งจากจำนวนนับเป็นอัตรา 1 ต่อ 25 ของประชากรทั้งหมด Patrick Cakirli หนุ่มชาวเดนมาร์กที่ต้องทนอยู่กับความเครียดจากการต้องอยู่อย่างโดดเดียวและกลัวการพบเจอคนใหม่ๆ ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตด้วยการส่งข้อความไปบนอินเทอร์เน็ตเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2016 ว่า “ผมเครียดและกลัวการจะเจอเพื่อนใหม่ ผมรู้สึกโดดเดี่ยวมากๆ และตอนนี้ผมอยากจะผ่านจุดที่ยากที่สุดในชีวิต ผมจะนั่งอยู่ที่บันไดด้านหน้าของศาลากลางเวลา 2 ทุ่มถึง 4 ทุ่ม และผมก็จะสวมกางเกงขายาวสีดำพร้อมกับสะพายกระเป๋า North face”   คนเหงาจากทั่วเดนมาร์ก ต่างเพศต่างวัยมารวมกันให้เพียบ .   ซึ่งหลังจากเหตุการณ์เมื่อวันนั้น เขาก็ได้เจอผู้คนที่มีความรู้สึกเดียวกัน ความเหงาและความกล้าจะเผชิญของชายคนหนึ่งได้ดึงดูดคนแบบเดียวกันมากมายมาเจอกัน ปัจจุบันเขาได้สร้างเครือข่ายที่รวมคนเหงาไว้ด้วยกัน จุดประสงค์หลักก็เพื่อให้คนแบบเขาจะได้เจอคนที่ไม่กล้าจะเข้าหาคนอื่นตรงๆ ก่อน รวมถึงคนที่ต้องทนอยู่กับความเหงาได้เจอเพื่อนใหม่ๆ และมาจัดงานเลี้ยงกัน โดยไม่มีค่าเข้าร่วมใดๆ ทั้งสิ้น จะมีก็แค่ค่าอาหารที่ช่วยกันหรือแบ่งๆ กันมา ซึ่งถ้าใครที่งบน้อย Patrick ก็พร้อมจะหาทางช่วยเหลือเรื่องเงินกับสมาชิกในกลุ่ม   .   Patrick…

  • หนุ่มทดลองอยู่คนเดียวนาน 1 สัปดาห์ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ‘ความโดดเดี่ยว’ มันโหดร้ายแค่ไหน

    หนุ่มทดลองอยู่คนเดียวนาน 1 สัปดาห์ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ‘ความโดดเดี่ยว’ มันโหดร้ายแค่ไหน

    บนโลกนี้มีคนอยู่นับล้านๆ คนที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันบนดาวดวงเล็กๆ ใบนี้ ซึ่งในแต่ละวันเราก็ต้องพบปะกับผู้คนมากมายทั้งรู้จักและแปลกหน้า และด้วยความที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ทำให้หากไม่ได้พบปะหรือมีปฏิสัมพันธ์กับใครก็อาจจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘ความเหงา’ ขึ้นมาได้ ความเหงาอาจเกิดขึ้นมาได้ในตอนที่เรารู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว หรืออยากจะหาใครสักคนมาพูดคุยปรับทุกข์ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่มีใครรู้จักกับความเหงาจริงๆ ว่าความโหดร้ายจริงๆ ของมันทำให้เราทรมานได้แค่ไหนกันนะ     ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชายคนหนึ่ง ทดลองขังตัวเองไว้ในบ้านเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์โดยไม่มีการพบปะกับใคร ไม่มีการใช้โทรศัพท์ รวมถึงไม่มีการใช้อินเทอร์เน็ต เพื่ออยากจะทดสอบว่าความเหงามันจะสามารถสร้างผลกระทบอะไรแก่เขาได้บ้าง ชายนักทดลองคนดังกล่าวมีชื่อว่า Joe โดยเขาได้อัดวิดีโอตัวเองขณะทำการทดลองในครั้งนี้เอาไว้ ซึ่งจากวิดีโอของเขาจะเห็นได้ว่า     ในวันแรกๆ ของการทดลอง Joe ก็ดูจะมีความสุขดีกับความเงียบสงบภายในบ้านที่เขาอยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนัก ความเหงาก็เริ่มทำหน้าที่ของมัน จนในที่สุดมันก็ทำให้สภาพจิตใจของเขาย่ำแย่จนแทบจะไม่มีชิ้นดี จนถึงขั้นนอนไม่หลับเลยทีเดียว “มันเป็นความว่างเปล่าที่ผมสัมผัสได้ว่ามันว่างเปล่าจริงๆ” Joe กล่าว การทดลองของ Joe ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญชื่อว่า The Loneliness Project ซึ่งเป็นแคมเปญที่ต้องการกระตุ้นให้ผู้คนช่วยกันดูแลช่วยเหลือคนเหงา รวมถึงฟื้นฟูสภาพจิตใจที่ได้รับบาดเจ็บมาจากความเหงา ที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ     “ในตอนนี้มีคนที่มีภาวะเหงาเรื้อรังมากถึง 1.2 ล้านคนในสหราชอาณาจักร โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าว ก็คือพวกเขาเหล่านี้มักจะไม่ได้รับสิ่งที่เรียกว่า มิตรภาพ…

  • บรรยากาศของชาวญี่ปุ่นในฮอกไกโด ที่ต้องผจญกับความหนาวและหิมะปกคลุมไปทั่ว

    บรรยากาศของชาวญี่ปุ่นในฮอกไกโด ที่ต้องผจญกับความหนาวและหิมะปกคลุมไปทั่ว

    ในช่วงฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่น จะมีเส้นทางรถไฟสายหนึ่งที่ชื่อว่า Okhotsk no Kaze ช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปในเมืองที่ห่างไกลในจังหวัดฮอกไกโดได้ และนั่นก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับช่างภาพสาวชาวจีน Ying Yin เธอขึ้นรถไฟสายนี้ไปจบที่เมือง Abashiri และเก็บภาพการเดินทางท่ามกลางหิมะปกคลุม สร้างลักษณะโดดเด่นที่สวยงามจนออกมาเป็นซีรีส์ภาพชื่อว่า Wind of Okhotsk ซึ่งทำให้เราเห็นสิ่งปลูกสร้างหรือผู้คนภายในเมืองที่กำลังใช้ชีวิตอยู่บนพื้นหลังสีขาวโพลน Yin บอกว่า “หิมะที่ปกคลุมช่วยให้ทุกอย่างดูโดดเด่น และสามารถสื่อถึงอารมณ์ความเงียบเหงาออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม” อย่ารอช้า เราลองไปชมภาพเหล่านั้นกันเลยว่ามันมีความสวยงามมากขนาดไหน   ฮอกไกโดคือจังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ หิมะที่ปกคลุมจึงอาจเยอะกว่าที่อื่น   โดดเด่นขึ้นมาราวกับด้านหลังเป็นแค่ฉากสีขาว แต่แท้จริงแล้วมันคือหิมะ   สีสันที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีขาว ดูเป็นเอกลักษณ์   หิมะจำนวนมาก ทำให้เราเห็นคนเดินไปมาแทนการใช้รถ . . .   รถที่จอดทิ้งเอาไว้เฉยๆ เพราะไม่สามารถนำออกมาขับได้ .   ในบางจุดที่จำเป็นจะมีการกวาดหิมะออกไป เพื่อให้รถสามารถวิ่งบนถนนได้   บ้านที่เกือบจมหายไปในหิมะ .   เสาไฟฟ้าธรรมดาๆ ที่ดูๆ ไปกลับรู้สึกถึงความไม่ธรรมดา   ความโดดเดี่ยวที่สะท้อนออกมาจากภาพต่างๆ  …

  • ชายป่วยโรคซึมเศร้าเขียนจดหมายเปิดผนึกตามหามิตรภาพ แล้วเขาก็ได้รับกลับอย่างล้นหลาม

    ชายป่วยโรคซึมเศร้าเขียนจดหมายเปิดผนึกตามหามิตรภาพ แล้วเขาก็ได้รับกลับอย่างล้นหลาม

    ในช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิต เรามักจะหาใครซักคนที่คอยเป็นกำลังใจและเป็นที่ระบายได้ซึ่ง “เพื่อน” สามารถเติมเข้ามาเต็มในจุดนั้นได้ แต่หากคุณเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนก็คงจะแย่น่าดูและอาจทำเหมือนชายคนนี้ที่เขียนข้อความหาเพื่อนลงในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง ซึ่งนั่นได้ทำให้เขาได้เพื่อนใหม่อย่างมากมาย เมื่อเดือนธันวาคมปี 2016 มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อได้เขียนข้อความลงในเว็บบอร์ดชื่อดังในทวีปยุโรปที่ชื่อว่า Yik Yak โดยมีเนื้อหาว่า “ผมหมดหวังที่จะเจอเพื่อนใหม่จริงๆ ตอนนี้ผมว้าเหว่มากและกำลังเผชิญอยู่กับช่วงที่ยากที่สุดในชีวิตของผม ผมจะนั่งคอยอยู่ที่บันไดหน้าศาลากลางเมืองตั้งแต่เวลาบ่าย 2 จนถึง 2 ทุ่ม ผมใส่กางเกงสีดำและสะพายกระเป๋ายี่ห้อ North Face หากใครเห็นผมช่วยเข้ามาคุยเป็นเพื่อนผมหน่อยนะ” ในเวลานั้น หนุ่มคนนั้นคงคิดไม่ถึงว่าข้อความของเขากำลังจะส่งผลให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปเพราะว่าได้มีข้อความเข้ามาเขามากกว่า 10,000 ครั้งเลยทีเดียว   ข้อความที่ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล   “ความเครียดของผมนั้นเกิดขึ้นจากประสบการณ์ในวัยเด็กของผม ซึ่งในวัยเด็กผมต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ ความไม่ปลอดภัย และเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ซึ่งนั่นทำให้ผมเป็นคนเหมือนทุกวันนี้ โดยตอนนี้ผมเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตนเองและรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไร้ค่า” “ในเดือนกันยายนปี 2016 แฟนสาวที่คบกันมา 6 ปีของผมได้ทิ้งผมไป โลกทั้งโลกของผมในตอนนั้นเหมือนกับได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ผมไม่รู้จะทำอย่างไรจึงพยายามที่จะฆ่าตัวตายแต่ก็ไม่สำเร็จ ผมถูกส่งให้ไปอยู่โรงพยาบาลจิตเวชในท้องถิ่นและถูกปล่อยตัวออกมาในภายหลัง และผมมีเพื่อนจริงๆ เพียงแค่ 2-3 คนเท่านั้น” “นั่นคือสิ่งที่ผมเป็นอยู่ในตอนนี้ ไม่มีครอบครัว ไม่มีกระทั่งเพื่อนหรือแฟนผมรู้สึกโดดเดี่ยวมากจริงๆ ผมจึงเขียนข้อความและตัดสินใจนำมาโพสต์ให้ทุกคนได้เห็น” ชายหนุ่มคนนั้นได้เขียนเอาไว้ ชายหนุ่มคนที่เขียนข้อความดังกล่าวใช้ชีวิตวัยเด็กมากกว่าครึ่งในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า   มีคนจำนวนมากได้อ่านข้อความที่เขาเขียนและมีคนถึง 13 คนตัดสินใจจะมาอยู่เป็นเพื่อนเขาในวันที่หมดความหวังเช่นนี้…

  • เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ อธิบายว่าทำไมคุณถึงรู้สึก “เหงา” และจะส่งผลอย่างไรบ้าง!?

    เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ อธิบายว่าทำไมคุณถึงรู้สึก “เหงา” และจะส่งผลอย่างไรบ้าง!?

    เป็นธรรมดาที่เราอาจจะรู้สึก ‘เหงา’ ในบางเวลา น่าแปลกเหมือนกันนะ… เพราะโลกเรามีประชากรตั้งไม่รู้กี่หลายล้านคน แถมในชีวิตเราได้รู้จักผู้คนก็อีกตั้งมากมาย ทว่าสุดท้ายความเหงาก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ในใจเราเสมอ แต่ใช่ว่าเรื่องของความเหงาจะเป็นเพียงความรู้สึกลอยๆ ที่จับต้องไม่ได้เท่านั้น เพราะงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก ที่ศึกษากันมาตั้งแต่ปี 2006 จะมาช่วยอธิบายให้เราเห็นภาพว่าทำไมเราถึงรู้สึกเหงา และจะแก้ไขความอ้างว้างที่เกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร     งานวิจัยของ Stephanie Cacioppo และ Hsi Yuan Chen นักประสาทวิทยาที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Personality and Social Psychology Bulletin โดยทีมวิจัยได้ได้ใช้เวลานานกว่า 11 ปี ในการเก็บข้อมูลระดับความรู้สึกเหงา และสังเกตระดับนิสัยการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ของอาสาสมัครชาวเมืองชิคาโก 230 คน ซึ่งอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 50 – 68 ปี     จากการตามเก็บข้อมูลเป็นประจำทุกปีทีมวิจัยได้ค้นพบว่า กลุ่มคนที่มีระดับความเหงาเพิ่มขึ้นในแต่ละปี มีแนวโน้มที่จะมีลักษณะนิสัยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางมากขึ้นในปีต่อๆ ไป นอกจากนั้นในกลุ่มคนที่มีลักษณะนิสัยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางอยู่แล้ว ทีมวิจัยพบว่าในปีต่อๆ ไประดับความเหงาของคนกลุ่มนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นเดียวกัน     ความเหงาในระดับที่พอดีอาจเป็นแรงกระตุ้นให้เราทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้สมาธิส่วนตัวสูง แต่กลับกันถ้าความเหงาที่มากเกินไปก็อาจจะส่งผลต่อทั้งสภาพจิตใจ ร่างกาย สมอง ฮอร์โมน หรือแม้กระทั่งในระดับพฤติกรรมได้เลย…

  • 17 ภาพน่ารักๆ พิสูจน์ให้เห็นว่า… หากมี “แมว” เป็นเพื่อนแล้ว คุณจะได้อะไรกลับไปบ้าง

    17 ภาพน่ารักๆ พิสูจน์ให้เห็นว่า… หากมี “แมว” เป็นเพื่อนแล้ว คุณจะได้อะไรกลับไปบ้าง

    สำหรับสิ่งมีชีวิตขนปุยตัวน้อยๆ ที่หลายคนเรียกว่า “แมว” มันเป็นสัตว์ที่มีทั้งความซ่าส์ ความกวน และความน่ารัก ซึ่งถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในคนที่เลี้ยงแมว คุณจะรู้ทันทีเลยว่าบางเวลามันก็ทำตัวเป็นสัตว์เลี้ยง หรือบางครั้งก็ทำตัวเป็นเพื่อนที่แสนดีของคุณ และ 17 ภาพถ่ายเหล่านี้ จะมาทำให้คุณได้เห็นว่า…นี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับ หากมีเพื่อนเป็นแมวเหมียว ^^   แม้จะยุ่งแค่ไหน แต่เจ้าขนปุยก็จะคอยมานั่งให้กำลังใจอยู่ข้างๆ   เจ้าเหมียวจะคอยอยู่เป็นเพื่อนคุณตลอดเวลาทำงาน ฮร่าๆ   แถมยังมีความชื่นชอบอาหารเหมือนกับคุณอีกด้วย   ยอมให้เจ้านายทำทุกอย่าง หากพวกเขาสบายใจ   ชอบเลียนแบบพวกมนุษย์เป็นที่สุด   ในวันเหงาๆ เราจะมาอยู่เป็นเพื่อนเธอนะ   วันไหนที่คุณรู้สึกแย่ แน่นอนว่าแมวเหมียวจะมาทำให้คุณรู้สึกดีเอง   ความน่ารักของมัน ทำให้คุณหลงใหลฝุดๆ   ไม่ว่าจะทำอะไร เจ้าเหมียวก็จะตามเฝ้าอยู่ไม่ห่าง   เมื่อถึงเวลาที่มันจะทำความสะอาดตัวบ้าง คุณก็จะต้องคอยเฝ้าดูมันเหมือนกันนะ   เป็นเพื่อนในยามนอน   ชอบทำให้เจ้านายมีความสุขอยู่ตลอด   คืนนี้เรามานอนกอดกัน   ได้เห็นหน้าทีไรก็ทำให้รู้สึกแฮปปี้ทุกที   แม้จะได้เห็นเพียงแค่รูปถ่าย แต่ก็ยังทำให้เราคิดถึงมันได้เลย  …

  • ‘Ponso’ ชิมแปนซีทดลองยา ถูกนำไปปล่อยทิ้งเกาะนานกว่า 30 ปี รีบโผกอดมนุษย์ทันทีที่ไปเยี่ยม

    ‘Ponso’ ชิมแปนซีทดลองยา ถูกนำไปปล่อยทิ้งเกาะนานกว่า 30 ปี รีบโผกอดมนุษย์ทันทีที่ไปเยี่ยม

    สัตว์ก็มีหัวจิตหัวใจ และความรู้สึกเหมือนกับมนุษย์ เมื่อถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง มันก็เกิดอาการเหงา และซึมเศร้าได้เช่นกัน ก็เหมือนกับเรื่องราวของ เจ้า Ponso ชิมแปนซี ที่ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้นำมาเผยในครั้งนี้ บอกเลยว่าหากคนรักสัตว์ได้อ่าน จะต้องสงสารมันจับใจแน่นอน เพราะเรื่องราวของมัน เรียกได้ว่าสามารถทำให้คุณน้ำตาซึมออกมาก็เป็นได้     เจ้า Ponso เป็นชิมแปนซีอายุ 40 ปี มันเป็นหนึ่งในกลุ่มชิมแปนซีหลายสิบตัว ที่ถูกศูนย์โลหิตของนครนิวยอร์ก จับมาใช้ในการทดลองยา จนในที่สุด พอหมดประโยชน์จากการทดลองยา ก็เอาไปไว้บนเกาะร้างในประเทศประเทศโกตดิวัวร์ โดยที่ไม่คิดว่าพวกมันจะอยู่กับธรรมชาติได้ไหม     และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ เรียกได้ว่านี่ก็เป็นระยะเวลานานกว่า 30 ปีแล้วสินะ ที่เจ้า Ponso และครอบครัว พร้อมกับเพื่อนๆ ของมัน ถูกทิ้งไว้บนที่แห่งนี้ แต่ทว่าพวกเพื่อนๆ ก็ได้จากมันไปหมดแล้ว เหลือก็แต่เพียง Ponso นี่แหละ…ที่ยังมีชีวิตอยู่!!     แม้ว่าเจ้า Ponso ต้องใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังอยู่บนเกาะเล็กๆ โดยไม่มีแม้กระทั่งอาหาร หรือน้ำตามธรรมชาติ แต่โชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่นะ เพราะมันได้รับอาหารจากชาวบ้านใจบุญในบริเวณใกล้เคียงอย่าง Germain  …