Tag: ความเชื่อผิดๆ

  • คิดไปได้ไง 17 ผู้คนที่ไม่เพียงมีความรู้แปลกๆ ผิดๆ ในเรื่องเพศ แต่ยังฮาจนสงสัยว่าใครสอนมา

    คิดไปได้ไง 17 ผู้คนที่ไม่เพียงมีความรู้แปลกๆ ผิดๆ ในเรื่องเพศ แต่ยังฮาจนสงสัยว่าใครสอนมา

    เพศศึกษานั้นสำคัญไฉน คนเราเวลาจะต้องไปอธิบายเรื่องเกี่ยวกับเพศศึกษาให้เด็กที่อายุน้อยกว่านั้น บางครั้งเราก็รู้สึกกระดากปากใช่ไหมล่ะ จะเล่าอย่างไรไม่ให้มากเกินไป และระดับไหนที่จะไม่น้อยจนเกินไป นั่นเป็นเหตุผลที่การสนเกี่ยวกับเรื่องเพศนั้นกลายเป็นเรื่องยากจนผู้ใหญ่หลายคนก็เลือกที่จะบอกเด็กๆ ว่า “โตไปก็รู้เอง” แทน แต่การทำแบบนั้นก็มีความเสี่ยงของมันอยู่ เพราะข้อมูลที่เด็กๆ จะได้รับนั้น อาจจะกลายเป็นข้อมูลอะไรผิดๆ ได้ง่ายกว่าที่คิด เหมือนกับบุคคลเหล่านี้ ที่ไม่เพียงมีความรู้ผิดๆ ในเรื่องเพศ แต่ยังแปลกจนสงสัยว่าใครสอนมา แน่นอนว่าอ่านไปมันก็ตลกแน่ๆ แต่มันก็สะท้อนบางสิ่งให้เราเห็นอยู่เหมือนกัน   น้องสาวของฉันบอกว่าเมื่อผู้ชายแข็งตัว จะทำให้ลูกอัณฑะทั้งสองของเขาออกมากลมเป๊ะๆ เหมือนลูกบอล   ตอนที่ฉันยังอายุน้อย ฉันเชื่อว่ามีสิ่งที่เรียกว่า เซ็กส์สีรุ้งอยู่ มันเป็นการมีเซ็กส์ที่ผู้ชายจะผสมน้ำเชื้อกับประจำเดือนของผู้หญิง แล้วก็จูบกันโดยที่อมมันเอาไว้ ฉันในตอนเด็กช่างน่ากลัวจริงๆ   ในระหว่างการพูดคุยเกี่ยวกับออรัลเซ็กส์ มีผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่าเธอไม่เคยกลืน “มัน” เลย เพราะรสชาติมันห่วยแตกและเธอก็ไม่อยากจะท้องด้วย พวกเรานึกว่ามันเป็นมุกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเชื่อมาตลอดว่าถ้ากลืนจะทำให้ท้องได้   ตอนที่ฉันยังเด็กฉันคิดว่าการมีเซ็กส์เกิดขึ้นต่อหน้าครอบครัวทั้งหมด และเป็นการเฉลิมฉลองเหมือนกับงานเลี้ยงวันเกิด   เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันรู้จักในโรงเรียนมัธยมใช้มือชักให้แฟนแต่ไม่ยอมปล่อยให้เขาถึง เพราะเธอคิดว่าถ้าน้ำกามเปื้อนมือ เธอจะสามารถตั้งครรภ์ได้จากระบบดูดซึมผ่านผิวหนัง   ครูในวิทยาลัยที่ฉันเคยอยู่ เคยให้คำปรึกษาแก่สาววัยรุ่นที่งงกับการตั้งครรภ์ของตัวเอง เธอบอกว่าเธอ และแฟนหนุ่มของเธอใช้เนยแล้วแท้ๆ แต่ดันท้อง ครูของฉันเลยขอให้เธออธิบายหน่อย เธอบอกว่าเธอทาเนยที่ตัวเองเพื่อป้องกันตัวอสุจิ เนื่องจากน้ำกามมันเป็นน้ำ…

  • อือหือ!? 17 ความเชื่อผิดๆ และอาจอันตราย เกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ ที่หลายคนยังเข้าใจผิดกันอยู่

    อือหือ!? 17 ความเชื่อผิดๆ และอาจอันตราย เกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ ที่หลายคนยังเข้าใจผิดกันอยู่

    เชื่อไหมว่าในโลกนี้นั้น มีความเชื่อที่มีการพิสูจน์ว่าไม่เป็นความจริงอยู่หลายต่อหลายครั้งแล้ว ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนที่เชื่อในเรื่องพวกนี้อยู่ดี อาจเพราะความเชื่อนั้นเป็นสิ่งที่ล้มกันได้ยาก มีคนมากมายที่เชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองเชื่อมันถูกต้องที่สุดอยู่เสมอ ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไรก็ขอให้ได้เชื่อก็เป็นพอ แต่ความเชื่อบางอย่างนั้นอาจจะนำมาซึ่งเรื่องอันตรายได้ ดังนั้นผู้คนก็จะยังคงพยายามออกมาบอกให้ผู้คนที่ไม่รู้นั้นเข้าใจเสียให้ได้ ดั่งเช่นความเชื่อ 17 ข้อเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ต่อไปนี้ ที่ได้รับการยืนยันแล้วยืนยันอีก ว่ามันเป็นเพียงความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง   ต่อให้เสียบเข้าไปลึกขนาดไหน มันก็ไม่มีทางที่กระจู๋จะทิ่มไปโดนทารกระหว่างมีเซ็กส์ได้ เพราะกระจู๋นั้นไม่ใหญ่พอที่จะทะลวงผ่านคอมดลูก และ Mucus plug (เนื้อเยื่อหรือเมือกที่ปิดปากมดลูกไว้ป้องกันการติดเชื้อจากภายนอก)   การมีเซ็กส์ก่อนการแข่งขันใหญ่ไม่ได้มีผลต่อความสามารถของนักกีฬา เซ็กส์ไม่ได้เผาผลาญแคลอรีมากพอที่จะส่งผลต่อสมรรถภาพทางร่างกายของผู้แข่ง แถมถ้ามันจะมีผลต่อนักกีฬาแล้วล่ะก็ มันก็ไม่พ้นการช่วยผ่อนคลายความเครียดนั่นเอง   การสอดใส่อย่างเดียวมีโอกาสสูงมากที่ผู้หญิงจะไม่ถึง ตามสถิติแล้ว มีผู้หญิงเพียง 20-30% ที่จะถึงจากการสอดใส่อย่างเดียว ส่วน 70-80% ที่เหลือต้องมีการกระตุ้นปุ่มกระสันร่วมด้วย   ออรัลเซ็กส์นั้นไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิด ทั้งการทำให้ และการถูกทำนั้น สามารถทำให้ติดโรคทางเพศสัมพันธ์บางชนิดได้   เป้าตุงไม่ได้แปลว่าน้องชายจะตัวใหญ่เสมอไป งานวิจัยยืนยันแล้วว่าขนาดของน้องชายตอนตัวเล็กไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับความยาวตอนแข็งตัวเลย   วัยรุ่นในปัจจุบันไม่ได้มีเซ็กส์มากขึ้น แม้ว่าจะมีพ่อแม่หลายคนเชื่อแบบนั้นก็ตาม จากงานวิจัยหลายชิ้น (ของอเมริกา) พบว่าวัยรุ่นในปัจจุบันมีเซ็กส์กันน้อยกว่ารุ่นก่อนๆ อีก   ไม่ได้มีเลือดออกตอนครั้งแรกของผู้หญิงเสมอไป ผู้หญิงที่มีเลือดออกในครั้งแรกนั้น แท้จริงแล้วมีสัดส่วนต่ำกว่าครึ่งของผู้หญิงทั้งหมดด้วยซ้ำ   การทำท่ากลับหัวไม่ได้ช่วยให้ตัวอสุจิเข้าไปในไข่ง่ายขึ้นแต่อย่างใด ไม่ยังไงตัวอสุจิก็จะไปหยุดที่…

  • 10 นิสัยผิดๆ ที่พวกเราอาจจะคิดว่าทำแล้วดี แต่ที่จริงแล้วมันกลับไม่ได้ดีอย่างที่คิด

    10 นิสัยผิดๆ ที่พวกเราอาจจะคิดว่าทำแล้วดี แต่ที่จริงแล้วมันกลับไม่ได้ดีอย่างที่คิด

    ในโลกใบนี้มีความเชื่อผิดๆ อยู่มากมายกว่าที่คิด บางสิ่งบางอย่างเป็นอะไรที่เราได้ยินมาตั้งแต่เมื่อสมัยยังเด็ก และหลายๆ อย่างที่เราเชื่อกันมาเพราะมันฟังดูสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ไม่ถูกต้องนั้นสักวันก็จะถูกพิสูจน์ และนำมาซึ่งความจริงที่ถูกต้องกว่า ดั่งเช่น 10 นิสัยผิดๆ ที่พวกเราอาจจะคิดว่าทำแล้วดี แต่ที่จริงแล้วมันกลับไม่ได้ดีอย่างที่คิด ต่อไปนี้   การทำความสะอาดหู เป็นสิ่งที่ควรจะทำเป็นประจำ เรื่องแรกนี้ต้องทำความเข้าใจกันเล็กน้อย การทำความสะอาดหูนั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี แต่แคะหูด้วยตัวเองต่างหาก ที่อาจจะเป็นอันตรายได้ ขี้หูนั้นจะเคลือบด้านในของหู และปกป้องหูจากเชื้อแบคทีเรียเชื้อรา และแมลงได้ แถมร่างกายของคนเรานั้นมีกลไกที่จะกำจัดขี้หูออกไป โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่หากคุณทำความสะอาดหูด้วยตัวคุณเอง คุณอาจจะได้รับผลตรงข้าม เมื่อคุณทำการแคะหูคุณเองด้วยคอตตอนบัด ขนของคอตตอนบัดที่ตกค้างจะทำให้เกิดการผลิตขี้หูมากขึ้น สิ่งที่คุณควรทำคือการทำความสะอาดหูของคุณออกเบาๆ ด้วยผ้าเปียกหลังอาบน้ำก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตามในบางกรณีร่างกายของคนเราอาจจะไม่สามารถกำจัดขี้หูออกไปได้หมด ในกรณีนั้นแนะนำให้ไปพบผู้เชียวชาญเฉพาะทางเลยจะดีกว่า   ให้ยืนห่างๆ ไมโครเวฟเวลาเครื่องกำลังทำงาน เตาอบไมโครเวฟนั้น ไม่ได้เป็นอันตรายอย่างที่หลายคนคิด มันต่างจากรังสีเอกซ์ที่ใช้ในการเอ็กซเรย์มาก ไมโครเวฟไม่ได้ผลิตสารเคมีหรือรังสีที่เป็นไอออนไนซ์ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อดีเอ็นเอหรือการกลายพันธุ์ของยีน ในความเป็นจริงไมโครเวฟทำขึ้นเพื่อให้รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ผลิตได้ไม่หลุดออกมาข้างนอกอยู่แล้วด้วย ดังนั้นตราบใดที่คุณไม่กอดไมโครเวฟที่เปิดอยู่ การใช้ไมโครเวฟจะไม่มีความเสี่ยงใดๆ ต่อสุขภาพ   กดน้ำทันทีที่ทำธุระเสร็จโดยไม่ปิดฝาชักโครก ทุกคนรู้ดีว่าควรกดน้ำทันทีที่ทำธุระเสร็จ มันไม่ใช่เรื่องผิด แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำอย่างถูกต้อง ถ้าฝาชักโครกน้ำทิ้งไว้ก่อนกดน้ำ อนุภาคเล็กๆ ของแบคทีเรียจะสามารถพ่นขึ้นจากการกดน้ำได้สูงถึง 2 เมตร…

  • 6 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการช่วยตัวเอง ที่จริงไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดหรอกนะ!!

    6 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการช่วยตัวเอง ที่จริงไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดหรอกนะ!!

    การเกิดอารมณ์ทางเพศที่จะต้องการสืบพันธุ์กับใครสักคนนั้นถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ แต่เมื่อเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีวัฒนธรรม จึงต้องมีการควบคุมอารมณ์ไม่ให้สืบพันธุ์จนมั่วไปหมด มนุษย์จึงได้คิดค้นวิธีการยับยั้งอารมณ์เหล่านั้นโดยการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง ซึ่งมีวิธีการมากมายในแบบที่ใจเราต้องการ แต่อย่างไรก็ตามก็มีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับการช่วยตัวเองที่กล่าวต่อๆ กันมา ซึ่งความจริงแล้วอาจเป็นความเชื่อที่ผิดก็ได้   1. การช่วยตัวเองนั้นจะทำให้อวัยวะเพศของคุณเสียหายได้ เป็นเรื่องธรรมดาหากเราจะคิดว่าการสไลด์ของลับอย่างต่อเนื่องจะสามารถทำให้เกิดความเสียหายได้ แต่อย่างไรก็ตามความจริงคือมันแทบจะไม่ทำให้อวัยวะเพศของคุณเกิดความเสียหายเลย เนื่องจากอวัยวะเพศนั้นเป็นอวัยวะที่จำเป็นต่อการสืบพันธุ์ ร่างกายของเราจึงวิวัฒนาการให้อวัยวะสืบพันธุ์ของมนุษย์ยืดหยุ่นได้ ถ้าหากไม่ใช้อุปกรณ์แปลกๆ ช่วยหรือสไลด์ของลับตัวเองกับกระดาษทรายก็คงไม่มีอะไรที่ต้องกังวล แต่จะลองก็ได้นะ ใช้กับเจลหล่อลื่นก็คงไม่เจ็บหรอก (มั้ง) 2. การช่วยตัวเองจะทำให้เกิดปัญหาทางจิต ความจริงแล้วปัญหาทางจิตอย่างดียวของการช่วยตัวเองคือความรู้สึกผิด ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ถูกสั่งสอนมาว่าการช่วยตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่ผิด ถึงแม้ว่าจะมีคนมากมายกล่าวไว้แบบนั้น แต่การช่วยตัวเองเพียงอย่างเดียวนั้นไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาทางจิตแน่นอน 3. การช่วยตัวเองจะทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศเร็วขึ้น ความจริงแล้วคุณสามารถช่วยตัวเองและพ่นน้ำกี่ครั้งก็ได้ตามที่ใจคุณต้องการ คุณจะไม่เสื่อมสมรรถภาพหากช่วยตัวเองหลายครั้งจนเกินไป เนื่องจากโดยปกติแล้วร่างกายของผู้ชายจะผลิตสเปิร์มอยู่ตลอดเวลาเพื่อเติมถังเชื้อเพลิงให้เต็ม 4. เครื่องสั่นจะทำให้เซ็กส์ของสาวๆ บางคนพังทลาย เหล่าสาวๆ นั้นมักชื่นชอบในการใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อเติมเต็มประสบการณ์อันน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนที่ไวต่อการสัมผัส เมื่อมีเครื่องสั่นมากระตุ้นจะช่วยให้คุณผู้หญิงนั้นถึงจุดสุดยอดเร็วขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านั่นเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดหรอกนะ   5. ไม่ควรช่วยตัวเองหากมีแฟนแล้ว ไม่มีทางที่การช่วยตัวเองนั้นจะเป็นการนอกใจหรือการไม่ให้เกียรติคู่รักของคุณ ถ้าแฟนของคุณไม่อนุญาตให้ช่วยตัวเอง แสดงว่าเขาน่ะใจร้ายสุดๆ ไปเลย การช่วยตัวเองนั้นถือว่าเป็นกิจกรรมเสริมสร้างสุขภาพและช่วยให้คลายเครียด การที่ห้ามไม่ให้ช่วยตัวเองนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการห้ามไม่ให้มีสุขภาพที่ดีนั่นเอง 6. ช่วยตัวเองมากๆ จะทำให้ตาบอด ตำนานมากมายเกี่ยวกับการช่วยตัวเองนั้นมักจะมาจากช่วงเวลาที่ผู้คนเชื่อว่าจุดประสงค์ของการมีเพศสัมพันธ์นั้นมีไว้เพื่อการสืบพันธุ์เท่านั้น ในการห้ามผู้คนไม่ให้มีความสุขกับการช่วยตัวเองนั้น จึงมีการสร้างข่าวลือมากมาย เช่นการช่วยตัวเองจะทำให้ตาบอด…

  • นักท่องเที่ยวแห่ทำตามความเชื่อ นำเงินยัดใส่เสาศาลเจ้า “อิสึกุชิมะ” หวั่นทำให้พังในเร็ววัน…

    นักท่องเที่ยวแห่ทำตามความเชื่อ นำเงินยัดใส่เสาศาลเจ้า “อิสึกุชิมะ” หวั่นทำให้พังในเร็ววัน…

    ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่ผู้คนนิยมไปเที่ยวกันมากที่สุดอย่างปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากความโดดเด่นด้านองค์ประกอบทางทัศนียภาพ อาหาร และศิลปะวัฒนธรรม ตัวอย่างก็เช่น ย่านอะกิฮะบะระ หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่น หรือจะเป็น เมืองฮะโกะเนะ สำหรับผู้ที่สนใจในน้ำพุร้อนและการแช่ออนเซ็น เกาะมิยาจิมะ ในเมืองฮิโรชิมานั้นเองก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเช่นกัน เพราะเป็นเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาอันเต็มไปด้วยผืนป่าเขียวชอุ่มและศาลเจ้าเก่าแก่กว่าร้อยปี     ที่นั่น นอกจากจะมีกวางออกมาเดินให้เห็นในเมืองกันแล้ว ยังมีสิ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นที่สุดของเกาะ นั่นก็คือ ซุ้มประตูโทะริอิ แห่งศาลเจ้าอิสีกุชิมะ ที่โผล่ขึ้นมากลางน้ำ     เมื่อยามน้ำลดลงคุณสามารถเดินไปยังบริเวณขาตั้งของซุ้มประตูได้ เสาซุ้มประตูสีส้มนี้เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ .   และด้วยความที่ช่วงล่างของซุ้มประตูนั้นต้องอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน เสาไม้ก็เริ่มแตกและโก่งงอ แถมนักท่องเที่ยวบางกลุ่มมีความเชื่อในการนำ “เหรียญ” เข้าไปยัดในรอยแตกร้าวของเสา ซึ่งทำให้เกิดภาพที่ไม่สวยงามและส่งผลเสียต่อซุ้มโทะริอิอีกด้วย ทั้งนี้ผู้ใช้ Twitter ชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อว่า @riyusuisuiriyu ได้เผยแพร่ภาพสภาพปัจจุบันของเสาโทะริอิ พร้อมกับคำวิงวอนให้หยุดความเชื่อการยัดเหรียญดังกล่าว     ในโพสต์ของเธอมีใจความว่า “หากยังทำเช่นนี้ต่อไป เสาโทะริอิจะต้องพังแน่ๆ ดูที่เหรียญเหล่านั้นสิ ผู้คนนำมันไปยัดไว้ในรอยแตกซึ่งมันก็จะยิ่งแตกมากขึ้นกว่าเดิม ฉันไม่อยากให้เสาโทะริอินี้กลายเป็นเพียงอดีตมรดกของโลกหรอกนะ จงจำไว้ นี่คือศาลเจ้า ไม่ใช่ของเล่นในสวนสนุก” ความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่เชื่อว่าการบริจาคเหรียญด้วยวิธีการโยนหรือใส่เข้าไปในกล่องนั้นจะนำมาซึ่งโชคลาภ สุขภาพ และพรต่างๆ คงไร้ค่า และศาลเจ้าอายุนับศตวรรษก็คงจะสูญสลาย หากความเชื่อผิดๆ ที่ว่าการนำเหรียญไปยัดในเสาไม้โทะริอิที่แตกจะนำมาซึ่งสิ่งเดียวกันนั้นยังคงแพร่หลายต่อไป   การไปเที่ยวในสถานหนึ่งๆ…

  • 20 ความจริงทางวิทยาศาสตร์ ที่เราเคยเชื่อว่ามันจริงมาตลอด แต่นั่นมันไม่ใช่เลยจ้า!!

    20 ความจริงทางวิทยาศาสตร์ ที่เราเคยเชื่อว่ามันจริงมาตลอด แต่นั่นมันไม่ใช่เลยจ้า!!

    วิยาศาสตร์นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเล่นแง่ แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติ จริงๆ แล้วมันควรจะมีวัตถุประสงค์ แต่ก็มีข้อมูลผิดๆ มากมาย ซึ่งอาจจะใช้เวลายาวนานถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเลยทีเดียว กว่าจะคิดได้ว่าข้อมูลที่ได้รับมานั้นมันผิด ยกตัวอย่างเมื่อสมัยก่อน ผู้คนนั้นปฏิเสธที่จะเชื่อว่าจริงๆ แล้วโลกของเรา และดาวทั้งหลายนั้น ต่างโคจรรอบดวงอาทิตย์ จนกระทั่งนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง กาลิเลโอ ได้พิสูจน์ แต่ถึงแม้ว่าวิทยาศาสตร์จะมาไกลขนาดไหน ก็ยังจะมีคนเชื่อข้อมูลแบบผิดๆ อยู่อีก นี่คือ 20 ตัวอย่างข้อเท็จจริง ที่ผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ออกมาแล้วว่าไม่เป็นจริง   1. ผมหรือขนของคุณ จะไม่หนาขึ้นเมื่อโกนบ่อยๆ บางครั้งการโกนหนวดอาจจะทำให้ดูเหมือนว่าหนวดที่งอกขึ้นมานั้นดูหนาขึ้น แต่ในความจริงแล้วมันก็หนาเท่าเดิม   2. ผมและเล็บจะไม่ยาวขึ้นหลังจากคุณตายแล้ว เมื่อคุณตายเซลล์ต่างๆจะหยุดทำงาน ผมและเล็บจึงหยุดการเจริญเติบโต นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมคนตายถึงไม่มีเล็บเพราะว่าผิวหนังจะหดตัวลงหลังจากที่ตายแล้วนั่นเอง   3. ผมของคุณจะไม่หงอกเร็วถ้าคุณย้อมมัน จริงๆ แล้วสีผมของเราเป็นผลมาจากเซลล์เม็ดสีซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ การไม่ดูแลสุขภาพ หรือความเครียด ดังนั้นการย้อมผมไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย   4. แม่นกจะทิ้งลูกตัวเองหากถูกสมุษย์สัมผัสตัวลูก ความจริงแล้วนกนั้นมีต่อมการรับกลิ่นที่เล็กมากทำให้ความสามารถการดมกลิ่นนั้นไม่ดีนัก แม่นกจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำถ้าเราไปสัมผัสลูกของมัน   5. Daddy Longlegs ไม่ใช่แมงมุมที่พิษร้ายแรงที่สุดในโลก…

  • 12 เรื่องแปลกๆ ที่คนโบราณเขาทำกัน แต่สำหรับคนสมัยนี้บอกเลยว่าแปลก!!!

    12 เรื่องแปลกๆ ที่คนโบราณเขาทำกัน แต่สำหรับคนสมัยนี้บอกเลยว่าแปลก!!!

    พฤติกรรมหรือความเชื่อในแต่ละยุคแต่ละสมัยมีความแตกต่างกัน อาจจะด้วยเพราะวัฒนธรรมหรือธรรมเนียมที่แตกต่างจากในปัจจุบัน ซึ่งอาจทำให้คนในยุคหลังอย่างเราๆ อุทานออกมาว่า “ทำกันไปได้” และนี่คือ 12 สิ่งแปลกๆ ที่คนโบราณกาลเขานิยมทำกัน มาลองดูดีกว่าว่าจะมีความแปลกประหลาดขนาดไหน   12. การแบ่งการนอนออกเป็น 2 ช่วง ชาวยุโรปที่อาศัยอยู่ในยุคกลางแบ่งการนอนออกเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงแรกระหว่างพระอาทิตย์ตกดินไปจนถึงเที่ยงคืน หลังจากนั้นจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงเพื่อทำกิจกรรมอย่าง อ่านหนังสือ สวดมนต์ หลังจากนั้นก็จะนอนจนกว่าพระอาทิตย์จะขึ้นนั่นเอง   11. นาฬิกาปลุกที่มีชีวิต ในช่วงปี 1850-1950 ได้มีอาชีพรับจ้างปลุกเกิดขึ้น โดยพวกเขาจะเป่าเมล็ดถั่วเข้าไปที่หน้าต่างห้องนอนของลูกค้า แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าใครเป็นคนปลุกคนรับจ้างปลุกเหล่านี้   10. กระโปรงสำหรับเด็กชาย… ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 16 จนถึงปี 1920 เป็นธรรมดาของเด็กผู้ชายที่จะสวมชุดกระโปรง เหตุผลเพราะว่าเด็กโตขึ้นทุกวัน และกระโปรงนั้นสามารถขยับขยายได้ง่าย ซึ่งชุดกระโปรงที่เด็กผู้ชายสวมนี้ ก็ไม่เว้นแม้แต่ชนชั้นสูงเลยทีเดียว   9. รองเท้าพื้นแบนยกสูง เป็นรองเท้าที่มีความสูงถึง 50 เซนติเมตร โดยแรกนั้นทำมาให้คนรับใช้ใส่เพื่อไม่ให้คนรับใช้ตามแฟชั่นมากนัก แต่ระยะหลังนี้รองเท้านี้ใส่เพื่อไม่ให้เสื้อผ้าเปื้อนเวลาเดินผ่านถนนที่สกปรก   8. การถ่ายเลือดออกเพื่อรักษาโรค…

  • 13 เทคนิค “ไลฟ์แฮ็ก” ที่แชร์กันทั่วในโลกออนไลน์ แท้จริงแล้วมันทำไม่ได้หรอกนะ…

    13 เทคนิค “ไลฟ์แฮ็ก” ที่แชร์กันทั่วในโลกออนไลน์ แท้จริงแล้วมันทำไม่ได้หรอกนะ…

    ไลฟ์แฮ็กคือวิธีการง่ายๆ ที่จะทำให้ชีิวิตของเราง่ายขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นการแชร์วิธีต่างๆ เหล่านี้ทั่วโลกออนไลน์ แต่จริงๆ แล้วไลฟ์แฮ็กบางอย่าง เมื่อนำไปใช้จริงกลับทำให้มีปัญหามากกว่ามีประโยชน์ซะอีก แถมยังเปลืองเวลาและพลังงานโดยใช้เหตุ และต่อไปนี้คือไลฟ์แฮ็กที่ควรหลีกเลี่ยง   1. เคร่ื่องปิ้งขนมปังไม่ได้ทำให้ชีสสุกพอดีได้ วิธีที่ได้รับการแนะนำคือ วางชีสไว้บนขนมปังแล้วเอาไปวางในเครื่องปิ้งขนมปัง โดยให้เครื่องอยู่ในลักษณะนอน… มันคือวิธีที่ผิดและไม่ควรทำ วิธีดังกล่าวนี้นอกจากจะอันตรายแล้วมันยังไม่ได้ผลด้วย เพราะสุดท้ายแล้วชีสกับขนมปังจะไม่ติดเป็นเน่ื้อเดียวกัน เนื่องจากความร้อนที่ไม่เพียงพอ ที่สำคัญคือขนมปังอาจจะเด้งออกมา แต่ชีสจะละลายอยู่ภายในเครื่องปิ้งขนมปัง จนอาจทำให้เครื่องพังได้   2. ม้วนกระดาษทิชชู่ไม่สามารถนำมาทำเป็นลำโพงโทรศัพท์ได้ วิธีที่แนะนำคือนำแกนกระดาษทิชชู่มาต่อกัน แล้วเจาะช่องตรงกลางสำหรับเป็นช่องวางโทรศัพท์ จากนั้นเมื่อเปิดเพลงหรือเสียงอะไรก็แล้วแต่ จะทำให้เสียนั้นดังขึ้น ราวกับเปิดลำโพง แต่จริงๆ มันไม่ได้ทำเสียงดังขึ้นตามที่อ้างมา เนื่องจากมันเป็นเพียงแค่กระดาษที่ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรกับเคลื่อนที่ของเสียง แต่หากนำโทรศัพท์ไปวางในถ้วยหรือแก้ว มันจะเห็นผลมากกว่า เพราะเสียงกระทบกับแก้วจะทำให้เสียงก้องขึ้น   3. ช้อนไม้ไม่ได้ทำให้น้ำต้มไม่ทะลักออกจากหม้อ ไลฟ์แฮ็กบอกว่าให้วางช้อนไม้บนปากหม้อ สามารถป้องกันไม่ให้น้ำในหม้อทะลักออกมาและหกเลอะเทอะ วิธีนี้อาจจะใช้ได้กับหม้อตุ๋นบางประเภท แต่ถ้าเป็นหม้อทั่วไป น้ำจะเดือดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดีไม่ดีช้อนคุณอาจจะตกลงไปพร้อมน้ำก็ได้   4. ที่งัเตะปูไม่ได้ช่วยให้เปิดจุกขวดไวน์ วิธีที่แนะนำกันมาคือ ตอกตะปูเข้าไปให้แน่นแล้วก็ใช้ที่ดึงตะปูที่อยู่ปลายค้อนดึงตะปูนั้นขึ้นมา มันจะทำให้จุกไวน์ติดออกมาด้วย วิธีนี้จะได้ผลเฉพาะในกรณีที่คุณมีเคร่ื่องมือในการเปิดหลายอย่าง ดังนั้นแทนที่จะหาอุปกรณ์เหล่านี้มาแนะนำให้เปิดด้วยที่เปิดธรรมดาจะดีกว่า   5.…

  • 12 เรื่องที่เราเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “ร่างกาย” เรามาโดยตลอด จะได้เข้าใจใหม่อย่างถูกต้อง!!

    12 เรื่องที่เราเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “ร่างกาย” เรามาโดยตลอด จะได้เข้าใจใหม่อย่างถูกต้อง!!

    ทุกวันนี้มีข้อมูลข่าวสารมากมายบนโลกใบนี้ที่เราสามารถเลือกจะเสพรับเข้ามาในสมองเราได้ แต่ทว่าข้อมูลทั้งหมดก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นความจริง เป็นข้อมูลปลอมๆ หรือแม้แต่ข้อมูลที่เป็นเพียงความเชื่อที่ยังไมไ่ด้รับการพิสูจน์ก็ตาม ซึ่งทางเว็บไซต์ Brightside เลยทำภาพ 12 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับร่างกายของเรา ที่เราเชื่อกันแบบนั้นมาตลอดแต่จริงๆ แล้วมันคือข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิด ฉะนั้นมาดูกันเลยว่าจริงๆ แล้วข้อมูลที่ถูกต้องมันคืออะไรกันแน่   ความเชื่อ: เซลล์สมอง หยุดพัฒนาเมื่อโตขึ้น ความจริง: ส่วนเซลล์ประสาทจะยังคงพัฒนา ไปทั้งชีวิตของเราจนกว่าเราจะตายไป   ความเชื่อ: ตาของคนเราจะสึกหรอ ถ้าเราอ่านหนังสือในที่มืด หรือจ้องจอคอมพิวเตอร์นานๆ ความจริง: ตาของเราจะแค่ล้าไปเท่านั้น เช่นเดียวกับอวัยวะอื่นๆ ที่ใช้งานหนักก็เกิดความเหนื่อยอ่อน พอเราหลับและตื่น ตาก็จะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม   ความเชื่อ: เราสามารถรักษาปัญหาผมแตกปลายได้ด้วย แชมพู หรือ ครีมนวดต่างๆ ความจริง: เราสามารถรักษามันได้ด้วยวิธีการตัดเท่านั้น ส่วนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผมแตกปลาย   ความเชื่อ: คนเรามีประสาทการรับรู้แค่ 5 อย่างเท่านั้น การเห็น การได้ยิน การกิน การฟัง และการสัมผัส ความจริง: แต่จริงๆ แล้วเรามีประสาทการรับรู้มากถึง…

  • 10 ความเชื่อประหลาดๆเกี่ยวกับ ‘ร่างกายมนุษย์’ ที่พวกเราเข้าใจผิดมาตลอด!?

    10 ความเชื่อประหลาดๆเกี่ยวกับ ‘ร่างกายมนุษย์’ ที่พวกเราเข้าใจผิดมาตลอด!?

    บางทีคนเราก็จะมีความเชื่อที่ถูกปลูกฝังยึดติดและปฏิบัติต่อๆกันมา โดยเรามันจะเลือกเชื่อตามความคิดของคนส่วนใหญ่โดยไม่ทันยั้งคิดเลยว่า ไอUสิ่งที่เราคิดและเชื่อมาตลอดชีวิตน่ะมันผิดอยู่บ้างนะฮ๊า แล้วสิ่งเหล่านั้นมันมีอะไรบ้างล่ะ เราลองมาดูสาระดีๆ 10 ความเชื่อประหลาดๆ เกี่ยวกับร่างกายมนุษย์  กันได้เลย…     10. ไม่ควรปลุกคนที่กำลังเดินละเมอ การที่เราปลุกคนที่กำลังเดินละเมออยู่นั้นอาจทำให้พวกเข้ามีอาการตกใจและมึนงงหลังจากที่ถูกปลุก แต่เหมียวว่าเราปลุกให้เค้ารู้ตัวและกลับไปนอนดีกว่าปล่อยให้พวกเค้าเดินละเมอตกบันใดนะ     9. คุณจะเป็นหวัด ถ้าคุณตัวเปียกหรือออกไปในที่ที่มีอากาศหนาว ไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับความเชื่อนี้ แต่ไวรัสจะมีอยู่มากในเวลาที่ความชื้นต่ำอย่างในฤดูหนาว และแน่นอนว่าเราใช้เวลาอยู่ร่วมกันในบ้านมากขึ้น นั้นทำให้มีโอกาสติดหวัดมากขึ้นเมื่ออยู่ในบ้านตัวเองอีกด้วย       8. เล็บและผมยังสามารถยาวได้อีกถึงแม้ว่าเราจะตายไปแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายของมนุษย์หลังจากความตายก็แค่ผิวหนังชั้นนอกเกิดการหดตัวแล้วแห้งไปในที่สุดเท่านั้นเอง     7. ถ้าเราโกนหนวดเส้นขนที่ขึ้นมาใหม่จะสีเข้มและหนามากขึ้นกว่าเดิม จริงๆแล้วเส้นขนที่ขึ้นมาใหม่หลังจากถูกโกนไปนั้นไม่ได้หนาหรือสีเข้มขึ้นเลย เพียงแต่เส้นขนจะมีหน้าตัดที่เกิดจากการโกนเวลากระทบกับแสงจึงสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ทำดูเหมือนว่ามันมีสีเข้มขึ้นนั่นเอง     6. แชมพูและครีมนวดสามารถรักษาผมแตกปลายได้ ความจริงแล้วเราไม่สามารถรักษาผมแตกปลายให้กลับมานุ่มสลวยได้เหมือนเดิม ทั้งแชมพูและครีมนวดนั้นอาจจะช่วยป้องกันการเกิดผมแตกปลายได้แต่ก็ไม่สามารถรักษาได้จริง เพียงแค่เคลือบเส้นผมให้นุ่มขึ้นเท่านั้น     5. ผู้ชายคิดแต่เรื่องทะลึ่งทุก  7 วินาที มันคงจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากไม่น้อยในการใช้ชีวิตถ้าหากว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่ก็เป็นโชคดีนะที่มันเป็นแค่เรื่องที่พูดกันไปเรื่อยยังไม่มีนักวิจัยคนไหนวิจัยหรือพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง     4. ต่อมรับรสบนลิ้น เราคงเคยได้เรียนกันในสมัยเด็กๆ…