Tag: คนจรจัด

  • มิตรภาพของ ‘คนไร้บ้าน’ และ ‘สุนัขจรจัด’ แม้ลำบากแค่ไหน ก็ไม่เคยทิ้งกัน

    มิตรภาพของ ‘คนไร้บ้าน’ และ ‘สุนัขจรจัด’ แม้ลำบากแค่ไหน ก็ไม่เคยทิ้งกัน

    สุนัขหลายตัวถูกทิ้งด้วยเหตุผลต่างๆ นานาของเจ้าของ เช่น ย้ายบ้านบ้าง มีปัญหาทางการเงินบ้าง ไม่อยากเลี้ยงแล้วบ้าง หรือสุนัขแก่เกินไป โดยลืมไปว่าครั้งหนึ่งสัตว์เลี้ยงพวกนี้เคยมอบความสุขให้พวกเขามากแค่ไหน แต่สำหรับคนไร้บ้านเหล่านี้ ต่อให้ไม่มีแม้แต่ที่อยู่อาศัย พวกเขาก็ไม่เคยคิดจะทอดทิ้งสุนัขเลย เช่นเดียวกับสุนัขที่ไม่หนีเจ้าของไปไหน ต่อให้ต้องอดมื้อกินมื้อก็ตาม   1. นี่คือความรัก ความผูกพันที่คนไร้บ้านกับสุนัขมีให้กัน   2. แม้ว่าจะไม่มีอะไรเลย แต่คนจรจัดก็ยังรักและดูแลน้องหมาอย่างดีที่สุด   3. ลูกหมาสองตัวหลับในอ้อมกอดของพ่อ ผู้ไม่มีให้อะไรให้นอกจากความรัก   4. ความรักสามารถเอาชนะทุกอย่างได้ ไม่ว่าสถานการณ์จะยากลำบากแค่ไหน   5. สุนัขพร้อมที่จะภักดีกับเจ้าของเสมอ แม้เจ้าของจะไม่มีอะไรให้ก็ตาม   6. ในวันที่หนาวเหน็บ พวกเขาจะไม่หนาวไม่เพียงลำพัง   7. พวกเขาคอยปกป้องสุนัขเสมอ   8. บางคนไม่มีแม้แต่อาหารประทังชีวิต แต่พวกเขาก็ไม่เคยสุนัขอดอาหาร   9. สิ่งที่พวกเขาทำให้กัน มีค่ามากกว่าคำพูด   10. ต่อให้ต้องอยู่ท่ามกลางอากาศหนาว แต่สุนัขอุ่นใจเสมอเมื่อได้อยู่กับคนที่รักมัน   11. สำหรับคนจรจัดแล้ว…

  • ชายจรจัดช่วยหมาที่ถูกทิ้งกลางถนน เพราะไม่อยากให้มันไม่มีบ้านอยู่เหมือนเขา

    ชายจรจัดช่วยหมาที่ถูกทิ้งกลางถนน เพราะไม่อยากให้มันไม่มีบ้านอยู่เหมือนเขา

    คนหัวอกเดียวกันเข้าใจความรู้สึกและความลำบากที่ต้องเจอดีที่สุด ชายไร้บ้านที่ไม่มีบ้านอยู่รู้ดีว่ามันลำบากขนาดไหน เขาก็ไม่อยากให้เจ้าหมาที่โดนทิ้งต้องกลายเป็นหมาจรจัด เลยขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเพื่อหาบ้านให้กับมัน เมื่อประมาณปลายเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา ขณะที่ Angel Janes ขับรถกลับบ้านที่เมืองซอลต์เลค รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอก็เห็นคนไร้บ้านคนหนึ่งยืนชูป้ายขอเงินช่วยเหลือหรือของานทำอยู่ เธอก็เลยเอาบุหรี่ไปแบ่งให้เขา ตอนที่เธอเข้าไปใกล้ๆ เขา เธอก็เห็นเขาเอาผ้าห่มคลุมตัวให้หมาชิวาว่าตัวหนึ่งแทนที่จะเอาคลุมกันหนาวให้ตัวเอง เธอก็เลยรู้ว่าเขาให้ความสำคัญกับมันมากกว่าตัวเอง แล้วก็เริ่มถามไถ่เรื่องราวของเจ้าหมาจากเขา     ชายไร้บ้านแนะนำตัวว่าชื่อ Ron เขาเจอเจ้าหมาเมื่อ 2 ชั่วโมงก่อนหน้านี้เอง มีผู้หญิงคนหนึ่งจอดรถแล้วทิ้งมันเอาไว้กลางถนน เขากลัวว่ามันจะได้รับอันตรายก็เลยวิ่งไปช่วยมันออกมา สิ่งเดียวที่เขาอยากขอร้องเธอในตอนนี้ก็คือ ให้เธอช่วยหาบ้านให้กับมัน เพราะเขาคิดว่ามันสิ่งที่ควรทำและไม่อยากให้มันอยู่เป็นคนไร้บ้านเหมือนกับตัวเอง     Janes รู้สึกประทับใจในการกระทำของ Ron มาก แต่เธอเองก็ไม่รู้จะไปหาให้มันได้ที่ไหน เธอก็เลยโพสต์เรื่องของมันลงบนเฟซบุ๊ก แล้วเพื่อนของเธอก็แชร์โพสต์ต่อไปอีก มีคนแชร์โพสต์ของเธอไปในเพจคนรักสัตว์ Kathleen Dallmann ซึ่งอาศัยอยู่แถวนั้นพอดีเห็นเข้าก็เลยรีบออกมารับตัวมันหลังจาก Janes โพสต์ได้ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง เธอยินดีจะช่วยดูแลมันจนกว่าจะมีคนยอมรับเลี้ยงเจ้าหมา แถมเธอยังให้เงิน Ron อีก 50 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,500 บาท)…

  • ชายหนุ่มตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ ในที่สุดแล้วเขาก็ได้รับการตอบแทนเป็นร้านบาร์เบอร์

    ชายหนุ่มตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ ในที่สุดแล้วเขาก็ได้รับการตอบแทนเป็นร้านบาร์เบอร์

    แทบทุกคนเคยชินกับการตัดผมในร้านบาร์เบอร์หรือร้านเสริมสวยที่มีเกลียวหมุนๆ อยู่หน้าร้าน แต่สำหรับที่เมืองฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา คุณสามารถเห็นการตัดผมได้ง่ายๆ ตามท้องถนน กับฝีมือของช่างตัดผมที่มีชื่อว่า Brennon Jones ชายหนุ่มผู้ตัดผมให้กับคนไร้บ้านโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ชายคนนี้ทำอาชีพตัดผมมานานกว่า 11 ปี แต่เขาก็ได้วางกรรไกรและหันไปทำงานอื่น ก่อนที่จะกลับมาเป็นช่างตัดผมอีกครั้งหนึ่งที่ตัดผมให้กับคนไร้บ้านแบบฟรีๆ ภายใต้โครงการที่เขาตั้งชื่อให้ว่า Haircuts for Homeless   ช่างตัดผมหนุ่ม Brennon ผู้ที่คอยตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ   ด้วยความที่ชายหนุ่มไม่มีร้านเป็นของตัวเอง เขาจึงแบกอุปกรณ์ทุกอย่างเดินไปบนท้องถนนและตัดผมให้กับคนไร้บ้านตามทางเท้า หัวมุมตึก หรือเกาะกลางถนน ด้วยเก้าอี้และโต๊ะที่เตรียมมา เขาไม่ได้ตัดผมให้กับคนไร้บ้านที่อาศัยกันอยู่ในเมืองฟิลาเดลเฟียเพียงที่เดียว เพราะเขาได้เดินทางไปยังเมืองแคมเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ เมืองที่มีประชากรคนไร้บ้านมากเป็นอันดับ 4 ของสหรัฐอเมริกา และเขาก็ได้ไปตัดผมให้กับคนเหล่านั้น     Brennon เล่าว่า “ก่อนหน้านี้ผมได้รู้จักกับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่งที่ทำให้ผมได้มองชีวิตต่างออกไปจากที่เคย และนั่นก็ได้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมทำสิ่งนี้ขึ้นมา” เขาได้ตัดผมให้คนไร้บ้านทุกๆ วัน โดยในแต่ละวันจะมีเข้ามาประมาณ 20 คน เขาบอกว่าตอนนี้น่าจะตัดผมให้คนไร้บ้านไปมากกว่า 1,000 คนแล้ว     จนกระทั่งในเดือนเมษายน 2017 เขาได้รู้จักกับ Sean…

  • เด็กสาวตัวน้อยแสนใจบุญ ปลูกผักและสร้างบ้านให้กับ ‘คนไร้บ้าน’ ได้ถึง 11 หลัง!!

    เด็กสาวตัวน้อยแสนใจบุญ ปลูกผักและสร้างบ้านให้กับ ‘คนไร้บ้าน’ ได้ถึง 11 หลัง!!

    เวลาที่เจอกับคนไร้บ้าน พวกเราส่วนใหญ่ก็จะซื้ออาหารไปให้พวกเขาหรือเอาเงินให้ไปซื้อของที่จำเป็น โดยที่ไม่ได้ต่อยอดอะไร แต่สำหรับเด็กน้อยคนนี้กลับทำสิ่งที่มากกว่านั้น เมื่อเด็กสาววัย 9 ขวบที่ชื่อว่า Hailey Ford ตัดสินใจปลูกผักแจกจ่ายให้กับคนไร้บ้าน รวมทั้งพยายามสร้างบ้านให้กับพวกเขาอีกด้วย จนเรื่องราวของเธอกลายเป็นที่ชื่นชมบนโลกอินเตอร์เน็ต จะเป็นอย่างไร เราลองไปชมกันเลย   สาวน้อยคนนี้อาศัยอยู่ในเมือง Bremerton รัฐวอชิงตัน วันหนึ่งเธอกับแม่ได้เจอกับชายไร้บ้านตกงานชื่อ Edward เข้า พวกเธอจึงซื้ออาหารมาให้เขา แต่ว่าการให้ในครั้งนั้นเด็กสาวเชื่อว่ามันยังไม่เพียงพอ   เธอตัดสินใจปลูกผักสวนครัวเพื่อที่จะทำไปแจกจ่ายให้กับคนไร้บ้าน โดยในปีแรกที่เธอเริ่มปลูกผัก เธอสามารถแจกจ่ายไปได้ถึง 58 กิโลกรัม และเธอก็ทำมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้   แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพออีกอยู่ดี หลังจากนั้นไม่นาน เธอจึงเกิดไอเดียสร้างบ้านเคลื่อนที่ให้กับคนไร้บ้านซะเลย   เธอบอกว่า “การที่ยังมีคนไร้บ้านอยู่เป็นเรื่องไม่ถูกต้องอย่างมาก ฉันคิดว่าทุกคนควรต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง” .   บ้านที่เธอได้วางแผนเอาไว้คือ หลังคาจะติดตั้งด้วยแผ่นรับพลังงานแสงอาทิตย์ ส่วนรอบๆ ก็จะบุด้วยผ้ายีนส์เพื่อกันความร้อน   แน่นอนว่าหากไม่มีเงินทุนเธอคงไม่สามารถทำให้ฝันเป็นจริงได้ Miranda แม่ของเธอจึงได้ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ให้เข้ามาบริจาคเงินผ่านองค์กรที่ชื่อว่า Together Rising เพื่อนำมาสานฝันครั้งนี้ .   เธอได้รับเงินบริจาคมากถึง 100,000…

  • “ความยากจน-ยาเสพติด-เซ็กส์” ชีวิตของคนจรจัดในสถานีรถไฟ Kamalapur แห่งบังกลาเทศ

    “ความยากจน-ยาเสพติด-เซ็กส์” ชีวิตของคนจรจัดในสถานีรถไฟ Kamalapur แห่งบังกลาเทศ

    Kamalapur เป็นสถานีรถไฟที่ใหญที่สุดในบังกลาเทศ และยังเป็นสถานีขนส่งทางรถไฟที่สำคัญที่เชื่อมระหว่างกรุงธากา เมืองหลวงของประเทศและส่วนที่เหลือของบังกลาเทศด้วย เด็กข้างถนนจำนวกมากมาอาศัยอยู่ที่สถานีแห่งนี้ และส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน ที่สำคัญที่นี่เป็นทั้งสถานที่เกิดและสถานที่ตายสำหรับพวกเขาบางคน   ช่างภาพถ่ายรูปขณะที่เด็กชายคนนี้สูบบุหรี่ที่รางรถไฟ แม้ว่าเด็กจะรู้ว่าช่างภาพมองอยู่แต่เขาก็ยังคงสูบบุหรี่ต่อไป ช่างภาพพยายามถามชื่อเขาหลายครั้ง แต่เขาไม่ยอมบอก ที่รู้ๆ คือเขาอายุแค่ 9 ขวบเท่านั้น   สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กๆ ถูกทิ้งตั้งแต่เกิดเพราะพวกเขาเป็นลูกนอกสมรสบ้าง เกิดมาในครอบครัวที่ยากจนบ้าง จนทำให้ถูกนำตัวมาทิ้งไว้ที่นี่ เด็กหลายคนโตมาเป็นขโมย วิ่งราวสัมภาระของผู้โดยสารในสถานี แต่ก็มีอีกหลายคนที่ช่วยเหลือตัวเองด้วยการเก็บขวดพลาสติกไปขาย   ช่างพยายามถามชื่อเด็กชายที่มีแขนข้างเดียวนี้ แต่เขาก็ไม่ยอมบอกอีกเหมือนกัน เขาอายุ 9 ขวบ ที่น่าตกใจคือ เขาบอกว่ายอมให้เพื่อนๆ ตัดแขนออกข้างหนึ่ง เพื่อที่จะได้กลายเป็นขอทานข้างถนน   ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้เด็กผู้หญิงที่โตขึ้นต้องทำอาชีพโสเภณีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนเด็กผู้ชายโตก็จะอยู่ในแวดวงยาเสพติด แม้จะมีองค์พัฒนาสังคมหลายแห่งเข้ามาให้ความช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านี้ แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอสำหรับจำนวนคนจรจัดในสถานี Kamalapur ภาพเหล่าและเรื่องราวเหล่านี้บันทึกโดย ​Nasif Imtiaz   เด็กชายคนนี้ชื่อ Nishad เป็นหนึ่งในคนจรจัดที่สถานี Kamalapur   เด็กชายพยายามกระโดดลงมาจากหลังคารถไฟ   ขอทานผู้ไม่มีขากำลังสูบกัญชา   เขากำลังผสมบุหรี่กับกัญชา  …

  • คุณแม่เล่าเรื่องราวแบ่งเบอร์เกอร์และเบียร์ให้ “ชายไร้บ้าน” จนทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล..

    คุณแม่เล่าเรื่องราวแบ่งเบอร์เกอร์และเบียร์ให้ “ชายไร้บ้าน” จนทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล..

    ใครจะคิดว่าการเจอคนไร้บ้านระหว่างฉลองวันเกิด และได้พูดคุยกันในฐานะคนแปลกหน้า จะเปลี่ยนชีวิตของคนไร้บ้านคนนั้นไปตลอดชีวิต จนเกิดเป็นเรื่องราวสุดประทับใจ… Ayesha Haworth คุณแม่ลูกสองวัย 38 ปี ได้แชร์เรื่องราวของตัวเธอเองผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งข้อความนั้นเล่าถึงค่ำคืนที่ตัวเองได้ไปฉลองวันเกิดกับเพื่อนๆ ในคืนวันศุกร์ ซึ่งมันทำให้เธอได้พบกับ Matt ด้านนอกผับแห่งหนึ่งในเมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์   Ayesha และ Matt ในค่ำคืนที่เปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่   เธอเล่าว่าเธอบังเอิญเจอกับ Matt โดยบังเอิญด้านนอกผับ และทั้งคู่ก็ได้พูดคุยกันอยู่พักหนึ่งจนรู้สึกถูกคอ รู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปชั่วโมงครึ่งเสียแล้ว และจากบทสนทนาก็ทำให้ Ayesha ยังไม่ได้กินอะไร จึงจัดการซื้อเบอร์เกอร์และเบียร์มาให้พร้อมพูดคุยกันต่อ Ayesha ยังบอกอีกว่า ในประโยคสนทนานั้น เขาได้พูดคุยกับ Matt เกี่ยวกับชีวิตของเขาว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นคนจรจัดได้ เขายังเล่ากับเธออีกว่าบางวันตัวเขาเองนั้น ใช้ชีวิตบนท้องถนนวันหนึ่งโดยไม่คุยกับใครเลยด้วยซ้ำ   Ayesha และครอบครัวของเธอ ซึ่งเธอบอกว่าครอบครัวเธอภูมิใจในตัวเธอมากๆ เลยล่ะ   ทว่าการที่เขาได้มาเจอกับ Ayesha และพูดคุยแลกเปลี่ยน แถมยังได้กินเบอร์เกอร์กับเบียร์อร่อยๆ มันก็ทำให้จิตใจของเขารู้สึกดีขึ้นมากๆ ที่สำคัญเงินก็ไม่ใช่ตัวการสำคัญที่ทำให้คนสองคนเชื่อมเขาหากันด้วยซ้ำ และเมื่อเรื่องราวนี้เผยแพร่ออกไป ก็มีข้อความมากมายส่งเข้ามาหาเธอ เพื่อหยิบยื่นงานและอยากช่วยเหลือ Matt เธอยังบอกปิดท้ายว่า…

  • พนักงานไม่ยอมขายอาหารให้ลูกค้า เมื่อรู้ว่าเขาจะเอาไปให้กับคนจรจัด อ้างเป็นกฎของสถานี

    พนักงานไม่ยอมขายอาหารให้ลูกค้า เมื่อรู้ว่าเขาจะเอาไปให้กับคนจรจัด อ้างเป็นกฎของสถานี

    คนจรจัดถือเป็นเรื่องใหญ่ที่หลายประเทศต้องการแก้ไขและกวาดล้างให้หมดไปด้วยวิธีการต่างๆ หนึ่งในนั้นคือห้ามช่วยเหลือคนจรจัดเพราะมันเท่ากับเป็นการส่งเสริม และเพราะแบบนี้จึงทำให้ช่างภาพคนหนึ่งถูกพนักงาน Costa Coffee ปฏิเสธที่จะขายแซนวิชให้ เพราะรู้ว่าเขาจะเอามันไปให้กับคนจรดจัด     เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ Adrian Pinsent จาก Walton-upon-Thames อยู่ที่สถานี Waterloo Station เขาก็เห็นคนจรจัดนอนอยู่ข้างนอก เขาจึงพาคนจรจัดคนนั้นเข้าไปในร้านกาแฟเพื่อซื้อแซนวิชและเครื่องดื่มให้ แต่เมื่อพนักงานรู้ว่าเขาจะซื้อให้คนจรจัด จึงปฏิเสธที่ขายให้ โดยอ้างว่าเป็นนโยบายของสถานี หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษตามกฎที่ตั้งไว้ Pinsent ก็เลยบอกพนักงานว่างั้นเขาจะซื้อกินเอง แต่ก็ถูกปฏิเสธอยู่ดี และพูดแค่เพียงว่า “ขอโทษด้วยนะครับ ขอโทษจริงๆ แต่เราไม่สามารถขายให้คุณได้”     พนักงานบอกว่า “เราทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ มันไม่ใช่กฎของ Costa Coffee แต่เป็นนโยบายของสถานีค่ะ ถ้าเราฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี” ช่างภาพเลยหันไปถามพนักงานอีกคน แต่ก็ถูกปฏิเสธเหมือนกัน Pinsent เล่าว่าเขาเจรจากับพนักงานอีกประมาณ 5 นาที และตลอดเวลานั้นพนักงานไม่พูดกับคนจรจัดที่เขาพาเข้ามาเลย ในที่สุดช่างภาพก็เอาเงินให้คนจรจัดแล้วบอกให้พนักงานขายอาหารให้คนจรจัดคนนี้ด้วย ส่วนตัวเขาเองนั้นต้องรีบไป ไม่งั้นจะพลาดรถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายของวันนี้     จากนั้นคนจรจัดก็เดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ และมองกลับมาที่ Pinsent บางครั้งด้วยความกังวล แต่รู้มั้ยตลอดเวลาที่ยืนอยูที่นั้น พนักงานไม่พูดกับเขาเลย ช่างภาพพูดอย่างหัวเสียว่า “ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนบอกพนักงานเกี่ยวกับข้อปฏิบัติแบบนั้น แต่เห็นได้ชัดพวกเขาทำตามอย่างเคร่งครัดจนไม่สนใจอะไรเลย” เมื่อเหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป โฆษกของ Network…

  • คนไร้บ้านวัย 46 ฮึดสู้ จาก ‘คนติดยา’ กลายเป็นเศรษฐี ร้านขายน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพชื่อดัง

    คนไร้บ้านวัย 46 ฮึดสู้ จาก ‘คนติดยา’ กลายเป็นเศรษฐี ร้านขายน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพชื่อดัง

    คนเราเกิดมาพร้อมกับพลังนักสู้ที่แฝงอยู่ในจิตใจ หากคุณนำมันมาใช้ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา มันก็อาจเปลี่ยนชีวิตที่ย่ำแย่ของคุณให้กลายเป็นวันที่สดใสได้เหมือนอย่างชายคนนี้แน่นอน นี่คือเรื่องราวอันน่าทึ่งของนาย Khalil Rafiti เศรษฐีชาวอเมริกันวัย 46 ปีผู้อาศัยอยู่ในลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา     ย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีก่อน ในปี 2001 ตอนนั้นเขายังเป็นเพียงคนเร่ร่อนไปวันๆ เสพติดเฮโรอีน และอาศัยอยู่ในเขตเสื่อมโทรมของลอสเองเจลิส ร่างกายผอมแห้ง มีแผลเต็มตัว และหนักเพียง 48 กิโลกรัม เขาเล่าว่าตัวเองเคยติดเฮโรอีนอย่างหนัก จน “ลืมตาย” มาแล้ว เพราะมันทำให้เขามีความสุข และความฝันในวัยเด็กก็กลายเป็นจริงด้วยการเสพยา     นาย Rafiti เริ่มติดมันหนักขึ้นเรื่อยๆ และเกือบตายในปี 2001 เพราะเสพยาเกินขนาด แต่โชคดีที่ตอนนั้นมีคนพาเขาไปส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา ในระหว่างนั้นเขาก็ไปก่อคดีเข้าและถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ Los Angeles County Jail และถูกปล่อยตัวในปี 2003 ตอนนั้นเขาปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอะไรแบบนี้อีกแล้ว     นาย Rafati อุทิศตนให้กับสุขภาพมากขึ้น ออกกำลังกาย กินแต่อาหารที่มีประโยชน์ แต่สิ่งที่เปลี่ยนชีวิตของเขาจริงๆ เลยก็คือตอนที่เพื่อนของเขาแนะนำให้เขารู้จักกับน้ำผลไม้คั้นสดและอาหารเพื่อสุขภาพ เมื่อรู้สึกชอบ เขาก็เลยเริ่มต้นลงมือทำน้ำผลไม้ด้วยตัวเอง…

  • องค์กรการกุศลช่วยเหลือ “ชายจรจัดคนหนึ่ง” เปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ ให้มันดีขึ้นกว่าเดิม…

    องค์กรการกุศลช่วยเหลือ “ชายจรจัดคนหนึ่ง” เปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ ให้มันดีขึ้นกว่าเดิม…

    หากเราเห็นคนจรจัด คนไร้บ้าน หรือ ขอทานอยู่ข้างถนน เราจะช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นได้อย่างไรบ้าง ในบ้านเราก็คงทำได้เพียงซื้ออาหารหรือของใช้จำเป็นมอบให้แก้ขัดเป็นครั้ง เป็นคราว แต่ไม่สามารถทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นได้อย่างถาวร     แต่สำหรับกรณีที่ #เหมียวเลเซอร์ กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ คือการเปลี่ยนแปลงชีวิตของชายจรจัดหนึ่งคน ให้พลิกกลับมาดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยความช่วยเหลือจากเหล่าอาสาสมัครของร้านการกุศล ShareShop และองค์กรการกุศล Chester Aid to the Homeless แห่งเมืองเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ     เรื่องราวของชายนามว่า David ชายไร้บ้าน ไร้ซึ่งทุกอย่าง จากก่อนหน้านั้น 12 เดือน เขาได้เดินเข้าไปรับอาหารฟรีจากร้าน ShareShop และเมื่ออาสาสมัครเห็น David ปุ๊บ ก็เริ่มให้การช่วยเหลือกับเขาทันที จุดเริ่มต้นนั้นมาจากกาแฟที่มีผู้อื่นจ่ายไว้ให้แล้ว David ก็รับกลับมาพร้อมกับแซนด์วิชฟรีของห้าง Tesco ในท้องถิ่น ยิ่งนานวันผ่านไป เขาได้รับน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากอาสาสมัครมากขึ้น จึงทำให้เขารู้สึกพร้อมที่กลับเข้าสู่สังคมอีกครั้ง     ทางร้าน ShareShop จึงช่วยเขาในด้านการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ภายนอก โกนหนวดเครา…

  • โมเม้นต์ประทับใจ หนุ่มทดลองให้เงินโฮมเลสไปซื้อของ สุดท้ายได้รับ ‘แรงบันดาลใจ’ ตอบแทน

    โมเม้นต์ประทับใจ หนุ่มทดลองให้เงินโฮมเลสไปซื้อของ สุดท้ายได้รับ ‘แรงบันดาลใจ’ ตอบแทน

    หลายคนคงจะรู้จักคนเร่ร่อน (หรือที่ในต่างประเทศชอบเรียกโฮมเลส) พวกเขาจะอาศัยนอนหลับตามเก้าอี้สาธารณะ ใต้สะพานลอย ตามแหล่งเสื่อมโทรมต่างๆ พวกเขาไม่มีเงิน เนื้อตัวมอมแมม และถูกตราหน้าจากสังคมว่าเป็นพวกไม่เอาไหน ติดยา ที่ไม่น่าคบค้าสมาคมด้วย แต่เชื่อไหมว่าหลังจากที่คุณได้ดูคลิปการทดลองต่อไปนี้ คุณอาจจะมองพวกเขาไปในทางที่ดีขึ้นไม่มากก็น้อยล่ะ   คลิปที่#เหมียวฟิ้นจะขอมาแนะนำในวันนี้มาจากช่องยูทูบของชายหนุ่มที่ชื่อ Johal เขาชอบถ่ายคลิปแกล้งผู้คนและการทดลองทางสังคมต่างๆ มาเผยแพร่ให้คนในอินเตอร์เน็ตได้ดูกันจนโด่งดัง จนตอนนี้มีคนติดตามดูเขามากกว่า 5 แสนคนแล้ว   วันหนึ่งนาย Johal ได้ไปเจอเข้ากับคนเร่ร่อนคนหนึ่งที่นอนอยู่บนเก้าอี้สาธารณะ เขาจึงตัดสินใจทำการทดลองบางอย่างและถ่ายคลิปมาให้พวกเราดู “ผมพยายามที่จะสร้างการทดลองกับคนเร่ร่อนเพื่อให้แรงบันดาลใจแก่พวกคุณทุกคน” คือข้อความที่นาย Johal เขียนไว้ใต้คลิปวิดีโอ   แรกเริ่มเลย นาย Johal ได้แอบนำธนบัตรไปสอดไว้ในกระเป๋าของคนเร่ร่อนคนนั้นแล้วรอให้เขาตื่นขึ้นมาเห็นเอง เมื่อคนเร่ร่อนคนนั้นเห็นเข้าก็ถึงกับอึ้งปนดีใจมากๆ เมื่อได้มันมาแล้วเขาก็เดินตรงไปยังร้าน Target (ซุปเปอร์มาร์เก็ตคล้าย Lotus, BigC บ้านเรา) และซื้อของกินของใช้ที่เขาต้องการ จากนั้นก็กลับมานั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม     10 นาทีต่อมาต่อ Johal ก็ทำทีเป็นคุยโทรศัพท์แล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ ชายเร่ร่อนคนนั้น แต่บทสนทนาที่เขาคุยกับปลายสายดูจะเครียดพอสมควร เพราะเขาพูดคร่าวๆ ว่าลูกสาวของเขาป่วยหนักและต้องใช้เงินเพื่อซื้อยารักษาด่วน แต่เขาต้องรออีกประมาณ 1 สัปดาห์กว่าจะมีเงินก้อนใหม่เข้ามา   เมื่อการคุยโทรศัพท์จบลง ชายเร่ร่อนจึงเดินเข้ามาหาเขาและถามถามว่าเกิดอะไรขึ้น? เมื่อ Johal อธิบายเรื่องทั้งหมด ชายเร่ร่อนจึงขอให้เขารออยู่ตรงนั้นสักครู่แล้วเฝ้ากระเป๋าให้เขาด้วย…

  • นาทีอบอุ่นหัวใจ หนูน้อยมะกันแบ่งอาหารในจานให้กับคนเร่ร่อน ที่นั่งหิวอยู่นอกร้าน

    นาทีอบอุ่นหัวใจ หนูน้อยมะกันแบ่งอาหารในจานให้กับคนเร่ร่อน ที่นั่งหิวอยู่นอกร้าน

    นี่คือเรื่องราวของหนูน้อยใจดี Ella Scott ที่โด่งดังในโลกออนไลน์ของต่างประเทศในขณะนี้ สำหรับหลายคนที่ยังไม่รู้จักเธอ ลองมาดูเรื่องนี้กัน… โดยเว็บไซต์เดลีเมล์ได้รายงานว่าหนูน้อย Ella และคุณพ่อ Eddie ได้ไปทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา     ซึ่งในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังนั่งกินอาหารอยู่ภายในร้านนั้นเอง เด็กน้อยก็สังเกตเห็นว่าที่ด้านนอกร้านมีคนเร่ร่อนนั่งอยู่ 1 คน เธอจึงเกิดความสงสารและขออนุญาตคุณพ่อเพื่อนำเอาอาหารของเธอไปให้กับคนเร่ร่อนได้กิน จากนั้นเธอจึงเดินออกไปนอกร้านพร้อมกับถือจานสเต็กไปให้เขา     หลังจากนั้น Ella ก็กลับเข้ามาในร้านอาหารและนั่งตรงข้ามกับพ่อของเธอ พ่อเลยบอกกับลูกสาวว่า “เก่งมาก Ella หนูสุดยอดมาก พ่อคิดว่าหนูทำให้เขามีความสุขมากนะวันนี้ หรืออาจจะมีความสุขไปทั้งสัปดาห์เลย มันทำให้หนูรู้สึกยังไงบ้าง?”  หนูน้อย Ella ตอบเพียงสั้นๆ ว่า “หนูชอบนะคะ”     คุณพ่อ Eddie จึงอดไม่ได้ที่จะถ่ายคลิปทั้งหมดแล้วนำมันมาเผยแพร่ลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง พร้อมกับบอกว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้สอนลูกของเขาให้เห็นใจเพื่อนมนุษย์และมอบโอกาสให้กับคนที่ยากไร้ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในเมืองอย่างนิวยอร์กก็ตาม   .   คลิปที่คุณพ่อถายทอดออกมา แบ่งปันให้กับสังคมได้เห็นแง่มุมดีๆ   แหม่ ต้องเลี้ยงลูกยังไงถึงจะเติบโตมาเป็นคนดีของสังคมแบบนี้ น่าชื่นชมคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ขัดเกลาให้เธอเป็นคนน่ารักแบบนี้จริงๆ…

  • หญิงวัย 80 เป็น ‘คนเร่ร่อน’ นับสิบปี เพื่อต่อสู้เรียกเงินประกันสังคม 3.4 ล้านที่เธอควรได้

    หญิงวัย 80 เป็น ‘คนเร่ร่อน’ นับสิบปี เพื่อต่อสู้เรียกเงินประกันสังคม 3.4 ล้านที่เธอควรได้

    คนจรจัดส่วนใหญ่ มักถูกเหมารวมว่าเป็นคนสติไม่ดี หรือเป็นคนมีปัญหาทางจิต จึงไม่ค่อยมีใครใส่ใจกับพวกเขาสักเท่าไร ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว มันอาจจะไม่ใช่อย่างนั้นไปซะทุกคน…. เช่นเดียวกับกรณีของ Wanda Witter ที่ต้องใช้ชีวิตเป็นคนเร่ร่อนข้างถนนเป็นเวลาหลายสิบปี ซึ่งเป็นผลจากความผิดพลาดของประกันสังคมที่เธอได้ทำไว้ ทำให้เธอต้องกลายเป็นคนจรจัดในที่สุด เรื่องราวของเธอเริ่มขึ้นเมื่อเธอตกงาน ก็ได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองวอชิงตัน ดี.ซี. ในปี 1999 พร้อมลูกๆ อีก 4 คน โดยเธอหวังว่าจะหางานใหม่ที่นั้น แต่สุดท้ายก็ไม่มีงานทำอยู่ดี Witter จึงตัดสินใจถอนเงินประกันสังคมออกมา     โดยเงินที่เธอต้องได้นั้นคือ 31,038 บาทต่อเดือน แต่ทางประกันสังคมแจ้งว่า เธอจะได้รับแค่ 10,346 บาทต่อเดือน เธอคิดว่า ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ เธอจึงขอให้พวกเขาตรวจสอบอีกครั้ง แต่ก็ได้รับการยืนยันเหมือนเดิม เธอตัดสินใจไม่รับเงินเพื่อพิสูจน์ว่า พวกเค้าคิดเงินผิดไปจริงๆ ในระหว่างที่เธอพยายามที่เรียกร้องให้มีการตรวจสอบนี้ เธอกลายเป็นคนจรจัดที่ต้องนอนอยู่ข้างถนน พร้อมกระเป๋าเอกสารอีกสามใบ โดยพยายามติดต่อกับรัฐบาลหลายครั้ง เพื่อเล่าเรื่องราวของเธอ แต่คนส่วนใหญ่หาว่าเธอจิตไม่ปกติและไม่สนใจสิ่งที่เธอพูด     เธอจะนอนใกล้กับร้านแมคโดนัลด์ ในย่านดาวน์ทาวน์ของวอชิงตัน ดี.ซี. พร้อมกระเป๋าเอกสาร 3 ใบ   แต่แล้วในที่สุด Julie…

  • ช่างภาพนำรูป ‘คนจรจัด’ มาสร้างเป็น ‘อาชีพในฝัน’ ที่พวกเขาอยากเป็น แต่ไม่มีวันได้ทำ…

    ช่างภาพนำรูป ‘คนจรจัด’ มาสร้างเป็น ‘อาชีพในฝัน’ ที่พวกเขาอยากเป็น แต่ไม่มีวันได้ทำ…

    คนเราไม่ว่าจะเกิดที่ไหน ฐานะเป็นยังไงเราต่างก็มีความฝันด้วยกันทั้งนั้น แต่ต้องยอมรับว่า บางคนที่อยู่ได้ทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขามีความฝัน แม้กระทั่งคนจรจัดไร้บ้าน ที่ไม่มีอะไรเลย แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขามีไม่ต่างจากคนทั่วไปก็คือ ‘ความใฝ่ฝัน’ นั่นเอง Horia Manolache ช่างภาพที่ได้ตามไปถ่ายรูปคนไร้บ้าน พร้อมถามถึงความใฝ่ฝันของพวกเค้า แล้วได้นำรูปของพวกเค้ามาทำเป็นภาพความใฝ่ฝันของแต่ละคน     โดยล่าสุดนี้ เค้าได้ระดมเงิน เพื่อจะทำเป็นหนังสือที่ตีแผ่เรื่องราวของพวกเค้า ชื่อว่า “The Prince and the Pauper” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายของ Mark Twain (เนื่องจากช่างภาพยังไม่ได้ระบุชื่อและอาชีพของแต่ละคนอย่างชัดเจน ทางเว็บ Catdumb จึงคาดเดาความใฝ่ฝันจากรูปภาพ ซึ่งผู้อ่านสามารถคิดต่างได้)   1. อยากเป็นทหารบก   2. Tammy มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนางงาม   3. Bill ใฝ่ฝันอยากใช้ชีวิตหรูๆ ในวัยชรา   4. ชุดคนนี้เดาให้นึกถึงกะลาสีเรือนะ   5. Honey อยากเป็นนักสำรวจใต้น้ำ   6. Mike อยากเป็นนักโบราณคดี  …

  • ชมคลิปสุดใจสลาย เมื่อเจ้าหน้าที่ “พรากสุนัข” ไปจากชายไร้บ้านอย่างรุนแรง

    ชมคลิปสุดใจสลาย เมื่อเจ้าหน้าที่ “พรากสุนัข” ไปจากชายไร้บ้านอย่างรุนแรง

      เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส ได้มีเจ้าหน้าที่ 2 คน คาดว่าน่าจะเป็นสถานควบคุมสัตว์จาก “Cause Animale Nord” ได้ทำการพรากสุนัขตัวน้อยจากคนไร้บ้านที่ได้เลี้ยงดูไว้ด้วยความรุนแรง โดนมีประชาชนมุงดูอยู่รอบๆ ชายไร้บ้านคนนั้นพยายามที่จะยื้อเอาสุนัขของตนกลับคืนมา พร้อมทั้งร้องไห้ แต่ก็ไม่สำเร็จ อีกทั้งวันนี้ยังเป็นวันของ วันมรดกยุโรป อีกด้วย เราไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลยดีกว่า   ทั้งนี้เรายังไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมต้องยึดสัตว์ไปจากชายไร้บ้านคนนี้ หรือจะเป็นคำสั่งจากเบื้องบนก็ไม่อาจทราบได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้เห็นความความรักความผูกพันของชายไร้บ้านกับสุนัขตัวนี้ที่ถูกพรากไป เห็นแล้วมันเศร้าใจจริงๆ ที่มา Seven LE DUC