Tag: แซลม่อน

  • สาวสุดภูมิใจ ถ่ายคลิปดื่มเบียร์จาก ‘ศพปลาแซลมอน’ โดนชาวเน็ตวิจารณ์เละ!!

    สาวสุดภูมิใจ ถ่ายคลิปดื่มเบียร์จาก ‘ศพปลาแซลมอน’ โดนชาวเน็ตวิจารณ์เละ!!

    หากย้อนกลับไปสมัยยังเป็น ‘วัยรุ่น’ หลายๆ คนก็คงจะเคยทำเรื่องที่ผิดพลาดจนถูกพ่อแม่ดุกันมาบ้าง…   แต่สำหรับสาวคนนี้ที่เป็นแม่คนแล้วกลับใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานแบบหลุดโลก จนทำให้เกิดกระแสวิจารณ์กันไปทั่วโลกออนไลน์ เพราะเธอดันเล่นพิเรนทร์ ‘ดื่มเบียร์’ จากศพของปลาแซลมอน Aimee Lynn คุณแม่ลูกหนึ่งได้ออกไปล่องเรือเล่นที่ท่าเรือวอชิงตัน ในรัฐนิวยอร์ก กับเพื่อนๆ อีกสองคน แต่แล้วจู่ๆ พวกเธอก็นึกสนุกเอาปลาแซลมอนที่ตกมาได้ไปคว้านท้องแล้วก็เอาขวดเบียร์ใส่ไว้ข้างใน จากนั้นก็เทใส่ปากของ Aimee     เธอเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า “คุณรู้มั้ยว่าวันนั้นน่ะ ฉันเกือบจะสำลักออกมาแล้วล่ะ ฉันพยายามที่จะกลั้นหายใจเพื่อไม่หัวเราะ แต่สุดท้ายก็ดื่มเบียร์จนหมด”     แต่อย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าของฟาร์มแซลมอนก็ได้บอกว่าการกระทำของเธอนั้นก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่มันค่อนข้างจะแปลกไปสักหน่อยเท่านั้นเอง     ชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า…   เธอได้นำคลิปวิดีโอเหตุการณ์นี้โพสต์ลงบนโลกออนไลน์จึงกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา   บ้างก็ดุด่าอย่างรุนแรง “เป็นอะไรที่โง่เง่ามาก!! เรามาภาวนาให้นังคนนี้ติดเชื้อจากแบคทีเรียหรือไวรัสจากปลาตัวนั้นกันเถอะ!!”   บ้างก็ว่านับวันคนเรายิ่งทำอะไรแปลกๆ มากเข้าไปทุกที “นับวันคนเรายิ่งเปลี่ยนไป ทำแต่อะไรแปลกๆ กันเยอะแยะจริงๆ”   บ้างก็เป็นห่วงสุขภาพของเธอ “เอิ่มมมม เธอจะรู้ไหมนะว่าไอ้เจ้าแบคทีเรียกินเนื้อคนเนี่ย มันสามารถอาศัยอยู่ในน้ำได้”   บ้างก็แนะนำให้เธอน่ะกระโดดลงน้ำไปซะ “บางทีเธอควรจะกระโดดลงน้ำไป…

  • 24 สิ่งของที่มันดั๊นบังเอิญไปเหมือนของกินสุดๆ ที่สำคัญมันดันน่ากินจนละสายตาไม่ได้เลย

    24 สิ่งของที่มันดั๊นบังเอิญไปเหมือนของกินสุดๆ ที่สำคัญมันดันน่ากินจนละสายตาไม่ได้เลย

    เมื่อความบังเอิญบวกเข้ากับจินตนาการของเรา บางครั้งสิ่งของหลายๆ อย่างก็สามารถที่จะเปลี่ยนรูปร่างหรือทำให้เราคิดเป็นอื่นไกลได้เสมอ เช่นของใช้ที่ดันมีหน้าตาเหมือนอะไรบางอย่าง หรืออาจจะทำให้เราเห็นอะไรทะลึ่งๆ ได้ในบางเวลา แต่ที่เด็ดกว่าคือ บางครั้งของใช้หรือสิ่งของทั่วๆ ไปมักจะกลายเป็นของกินได้ง่ายๆ โดยเฉพาะเวลาที่เรากำลังหิว และแม้ว่าเราจะรู้ตัวดีว่ามันกินไม่ได้ แต่ลึกๆ เราก็มักจะรู้สึกว่าอยากจะลองชิมดูสักคำ…   ช่างเป็นเบาะที่ดูแล้วน่ากินจริงๆ เพราะมันดูเหมือนไอศกรีมแซนวิชเลย   ผาหินที่ดูแล้วเหมือนเป็นเนื้อมีเดี่ยมแรร์ อ่าห์ หิวเหลือเกิน   ไม่ปงไม่แปรงมันแล้ว นี่มันปลาดิบชัดๆ!!   อยากจะลองชิมประตูโรงรถดูสักคำ   ดูผ่านๆ นึกว่าชิ้นเนื้อ ที่ไหนได้กระดาษทราย เกือบไปแล้วๆ   เห็ดที่หน้าตาเหมือนขนมปังไซส์บิ๊ก   ดัมเบลที่ด้านข้างดูแล้วเหมือน m&m   นี่ไม่ใช่ขนมปังครัวซอง แต่มันคือสบู่ที่เอาไปเข้าไมโครเวฟต่างหาก   เทมปูระ!!   ต่อไม้ที่เหมือนขนมปัง…นี่มันบังเอิญหรือเราหิวกันนะ   อันนี้ไม่ว่าจะบังเอิญแล้วละมั่ง แต่ดูแล้วก็อยากลองกัดดูสักคำจริงๆ   หินแร่ที่ดูแล้วนึกว่าขนมปังโรลไส้หมูหยอง   ถ้าย้อมสีอีกสักนิด เบคอนกับไข่ดาวเลย   บอกฉันทีพี่ชายว่า ลายหินมันเหมือนเบค่อน หรือจริงๆ มันคือเบค่อนขนาดใหญ่กันแน่…

  • เมนูเด็ด ‘ซูชิยักษ์’ ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในเกาหลี จัดไปไซส์บิ๊กเบิ้ม น่ารักจนไม่กล้าทาน

    เมนูเด็ด ‘ซูชิยักษ์’ ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในเกาหลี จัดไปไซส์บิ๊กเบิ้ม น่ารักจนไม่กล้าทาน

    ซูชิ อีกหนึ่งอาหารจากญี่ปุ่นที่ไม่ว่าใครก็ชอบทาน ความอร่อยของซูชิส่วนมากจะขึ้นอยู่กับความสดของวัตถุดิบที่นำมาทำ ว่ากันว่า ยิ่งสด ยิ่งดี เพราะส่วนมากซูชิจะนิยมใช้เนื้อปลาแบบดิบๆ มาแล่ แล้วโปะลงบนข้าวปั้นขนาดพอดีคำ ทานคู่กับวาซาบิและโชยุ เป็นอาหารแบบง่ายๆ ของญี่ปุ่นแต่ก็ต้องใช้ฝีมืออย่างสูงในการทำ โดยทั่วไปแล้วซูชิจะมีขนาดที่พอดีคำ เหมาะสำหรับทานให้หมดในครั้งเดียว เพื่อให้ได้สัมผัสรสชาติสดๆ ของเนื้อที่แปะลงบนข้าว แต่ที่ร้านอาหารญี่ปุ่น 낮과 밤 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการแชร์ภาพเมนูเด็ดของร้านเป็นภาพของซูชิขนาดยักษ์ที่นำมาเสิร์ฟกันแบบจัดหนักจัดเต็มไปเลย ซูชิแบบธรรมดามันไม่จุใจ จัดไปแบบใหญ่ๆ แซลมอนชิ้นโตๆ วาซาบิสุดเผ็ดร้อน พร้อมตกแต่งด้วยสาหร่ายเป็นคุณซูชิสุดน่ารัก บรรยากาศของร้าน 낮과 밤   หน้าร้าน   ภาพซูชิน่ารักๆ ภายในร้าน   มาเป็นเซ็ตแบบนี้ จุกแน่นอน   นี่พ่อครัวเขาขี้เกียจหั่นปลาใช่ไหม   ส่งวิ๊งๆ เชิญชวนมาลองชิม   คำเดียวก็น่าจะอิ่มแล้วนะเนี่ย ใหญ่มาก   ยิ้มแย้มแจ่มใส   แถมวาซาบิให้อีกก้อนใหญ่ๆ   ใหญ่กว่าฝ่ามือไปอีก   ต้องมากินสองคน คนเดียวไม่น่าจะหมด   น้องงงง…

  • โผล่อีกราย… ชายสิงคโปร์ผู้บริโภคซาชิมิ กลายเป็นแหล่งเพาะพันธ์ุพยาธิตัวตืดยาว 2.8 เมตร!!

    โผล่อีกราย… ชายสิงคโปร์ผู้บริโภคซาชิมิ กลายเป็นแหล่งเพาะพันธ์ุพยาธิตัวตืดยาว 2.8 เมตร!!

    บนโลกนีี้มีของอร่อยๆ สำหรับมนุษย์เราอยู่อย่างมากมายทั้งหมู เห็ด เป็ด ไก่ต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องนำมาผ่านกรรมวิธีปรุงให้สุกเพื่อให้มีความปลอดภัยแก่ร่างกาย รวมทั้งเพิ่มความโอชะให้กับอาหารประเภทนั้นๆ ด้วย ทว่าสำหรับบางคนนั้น อาหารดิบๆ กลับกลายเป็นอาหารชั้นเลิศ เราจึงเห็นเมนูของดิบๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย โดยในบ้านเราก็มีทั้งลาบดิบ กุ้งเต้นหรืออื่นๆ อีกมากมาย แต่ก็ไม่ใช่แต่เฉพาะกับประเทศไทยเท่านั้น เพราะว่าในต่างประเทศก็มีการทานของดิบที่ว่านี้เช่นกัน เช่น ปลาดิบ (ซาซิมิ) ก็เคยมีให้เห็นกันอย่างละลานตา ซึ่งก็เป็นที่รู้กันดีว่าอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงให้สุกนั้นมีอันตรายมากมายซ่อนอยู่ มันอาจจะทำให้เราปวดท้อง อาหารเป็นพิษหรือมันอาจจะทำให้มีเชื่อโรคเข้าไปเติบโตในร่างกายของเราได้ เหมือนกับในเคสนี้ที่มีนายแพทย์พบพยาธิตัวตืดที่มีความยาวถึง 2.8 เมตรอยู่ในร่างกายของมนุษย์!!   พยาธิตัวตืดที่ค้นพบในร่างกายของชายคนหนึ่ง   เหตุการณ์สยองพองเกล้าครั้งนี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลทั่วไปสิงคโปร์ (SGH) เมื่อทางทีมแพทย์ได้กล่าวว่าพวกเขาได้นำพยาธิตัวตืดออกจากร่างของชายคนหนึ่งผ่านทางรูทวารหนัก โดยพยาธิที่นำออกมานี้พวกเขากล่าวเอาไว้ว่า เมื่อนำมาเรียงต่อกันจะมีความยาวมากถึง 2.8 เมตรเลยทีเดียว แต่กระนั้นชายผู้ป่วยคนดังกล่าวก็ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นกับตัวของเขาทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่จริงแล้วพยาธิที่ว่านี้อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และอาจมีอันตรายจนถึงชีวิตได้ ซึ่งสิ่งที่ทำให้เขามาพบแพทย์ก็เป็นเพราะ เขาสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างเล็ดลอดออกมาทางรูทวารของเขา จึงได้มาปรึกษากับแพทย์จนในที่สุด   อร่อยอย่างนี้ ต้องระวังกันนะจ๊ะ   สำหรับสาเหตุ ยังไม่แน่ใจว่าการติดเชื้อพยาธิเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากการทดสอบไม่สามารถสรุปได้ แต่พยาธิชนิดนี้จะสามารถพบได้ในเนื้อหมู เนื้อวัว…

  • ภาวะโลกร้อนทำให้ “หมีกริซลี่” ต้องกลายเป็นมังสวิรัติ กระทบต่อระบบนิเวศเป็นอย่างมาก

    ภาวะโลกร้อนทำให้ “หมีกริซลี่” ต้องกลายเป็นมังสวิรัติ กระทบต่อระบบนิเวศเป็นอย่างมาก

    เจ้าหมีกริซลี่ที่หลายคนจะรู้กันดีว่าพวกมันจะกินปลาแซลมอนที่ว่ายทวนน้ำขึ้นมา ทำเอาหลายคนที่ชอบกินอาหารญี่ปุ่นโดยเฉพาะปลาชนิดนี้ต้องรู้สึกอิจฉากันไปบ้าง ทว่าตอนนี้เราคงไม่ได้ต้องรู้สึกอย่างนั้นกันอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าพวกมันเลิกกินแซลมอนแล้วหันไปกินเอลเดอร์เบอรรี่กันแทนแล้ว แต่จุดเริ่มต้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะว่าพวกมันเลือกเอง หากเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศของโลกเรา ด้วยอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นทำให้เบอรร์รี่สามารถสุกได้เร็วกว่าปกตินั่นเอง ในขณะเดียวกันนั้นก็ทำให้ลำธารน้ำใสบนเกาะ Kodiak ในอลาสก้าเต็มไปด้วยแซลมอนว่ายกันมากมาย ซึ่งปกติแล้วเจ้าหมีจะได้กินแซลมอนตัวแรกในช่วงต้นฤดูร้อน ตามด้วยการหันไปกินเบอร์รี่แทนในช่วงท้ายๆ ของฤดูเดียวกัน นั่นคือช่วงสิงหาคมและกันยายน     William Decay นักชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัยรัฐ Oregon ผู้ทำการศึกษาปรากฏการณ์ดังกล่าวได้ออกมาพูดว่า “นี่คือการจัดการแบ่งตารางเวลา เพราะมันก็เหมือนกับคุณกินมื้อเช้าและมื้อเที่ยงพร้อมกันทำให้จะไม่มีอะไรกินจนกว่าจะถึงเย็น คุณจึงต้องเลือกระหว่างสองมื้อนั้นเพราะคุณสามารถกินได้เต็มที่ได้เพียงละระยะเวลาเดียว” จากการศึกษาก็พบว่าในช่วงอากาศร้อนที่ผิดปกติของหน้าร้อนในปี 2014 เจ้าหมีจะต้องมาล่าแซลมอนมากกว่า 75 เปอร์เซนต์ กลับไม่มีให้เห็นในเขตลำธารเลย พวกมันไปให้ความสนใจในการกินเบอร์รี่อยู่ในป่าที่ให้โปรตีนน้อยกว่า แต่ก็สูญเสียพลังงานในการกินที่น้อยกว่าเช่นเดียวกัน ทำให้พวกมันอ้วนขึ้นมากกว่าเดิม     นอกจากนี้ยังได้ออกมาเตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะสร้างปัญหาให้กับระบบนิเวศทั้งหมดเอาได้ เพราะปุ๋ยธรรมชาติที่เกิดจากซากศพปลารอบๆ แม่น้ำ จะไม่เกิดขึ้นทำให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่นั้น และจำนวนปลาแซลมอนที่จะมีเยอะมาก ค่าเฉลี่ยของการสุกของต้นเบอร์รี่จะเร็วขึ้น 2 วันครึ่งในทุกๆ 10 ปี และอนาคตต่อไปข้างหน้ามีการทำนายไว้ว่า แซลมอนจะมีมากขึ้นทับซ้อนกันในปี 2070 ทั้งหมดคือการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์ใน Proceedings of the National Academy of Sciences…

  • เชิญพบ J2 วาฬเพชรฆาตแก่ที่สุดในโลก 105 ปี แต่ก็ต้องดิ้นรน มีชีวิตต่อไป…

    เชิญพบ J2 วาฬเพชรฆาตแก่ที่สุดในโลก 105 ปี แต่ก็ต้องดิ้นรน มีชีวิตต่อไป…

    เมื่อคุณได้เห็นภาพของเจ้าวาฬตัวนี้แล้ว คุณอาจจะเห็นว่ามันดูมีชีวิตชีวิาใช่ไหมล่ะ แต่หากเราบอกคุณว่าเจ้าวาฬตัวนี้ใช้ชีวิตบนโลกนี้มานานแค่ไหนแล้ว คุณอาจจะต้องร้องว้าวก็ได้นะ นี่คือเรื่องราวสุดอัศจรรย์ของเจ้าวาฬเพรชฆาตที่ชื่อว่า J2 มันใช้ชีวิตอยู่ในท้องทะเลมานานมากๆ จากการศึกษาของทีมนักวิจัย คาดกัน่ามันน่าจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้มานานกว่า 105 ปีแล้ว     เจ้า J2 (หรือคุณยาย J2) ถูกพบโดยช่างภาพในเครือข่าวของทีมวิจัยวาฬที่ชื่อว่า Heather MacIntyre เธอพบมันขึ้นมาแหวกว่ายอยู่บนผิวน้ำ และกระโดดไปมาอย่างสนุกสนาน แถวๆ ชายฝั่งซานฮวน รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา แต่ถึงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีแค่ไหนก็ตามที่เราได้พบพวกมันขึ้นมาพบปะผู้คนแบบนี้ แต่ในปัจจุบันพวกมันกำลังลดจำนวนลงเรื่อยๆ และอาจจะสูญพันธุ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้แล้ว     ชีวิตอันสวยงาม แต่น่าเศร้าใจ… ตั้งแต่เมื่อช่วงปี 1970 เป็นต้นมา วาเพชรฆาตถูกล่าโดยชาวประมงและถูกทางสวนสัตว์น้ำหลายๆ แห่งจับตัวไปฝึกเพื่อแสดงโชว์ให้ผู้คนได้ดูกัน เราจึงเหลือวาฬเพชรฆาตสวยๆ ในท้องทะเลน้อยลงทุกวันๆ และปัญหาใหญ่ที่สุดของวาฬเพชรฆาตเลยก็คือ พวกมันขาดแคลนอาหาร โดยปกติแล้ววาฬเพชรฆาตจะกินแซลมอนสายพันธุ์ชีนุคเป็นหลัก แต่เนื่องจากมนุษย์ก็บริโภคปลาแซลมอนเช่นกัน ทำให้ตอนนี้จำนวนแซลมอนลดลงกว่า 95% ส่งผลให้วาฬเพชรฆาตหาอาหารยากขึ้นด้วย     นาง MacIntyre ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ช่วงเวลาแบบนี้ช่างเป็นความสวยงามที่เจ็บปวด เพราะพวกมันกำลังขาดแคลนอาหารและอาจตายได้ ผู้คนไม่ได้ตระหนักเลยว่าถ้าพวกเราไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องอาหารของพวกมัน เราจะไม่ได้เห็นวาฬแบบนี้อีกใน 20 ปี ข้างหน้า”…

  • อู้วหูวว…พาทำ “ห่อหมกทะเลแซลมอนกุ้ง” เมนูอาหารแสนอร่อย แถมหน้าตาน่ากินสุด

    อู้วหูวว…พาทำ “ห่อหมกทะเลแซลมอนกุ้ง” เมนูอาหารแสนอร่อย แถมหน้าตาน่ากินสุด

    “ห่อหมกทะเลแซลมอนกุ้ง” แค่พูดชื่อนี้ขึ้นมาก็ทำเอาหลายๆ คนถึงกับน้ำลายสอกันแล้วใช่ไหมละ และแน่นอนว่าวันนี้เหมียวเชพเหมียวจะพาคุณไปเข้าครัวกับเมนูนี้กัน บอกเลยว่าเป็นเมนูแสนอร่อยที่ทำเองได้แบบง่ายมากๆ เลยละ ที่สำคัญนอกจากหน้าตาจะดูน่าทานแล้ว รสชาติยังอร่อยถูกปากอีกด้วย ยิ่งถ้าได้กินกับข้าวสวยร้อนๆ มันฟินมากจริงๆ ว่าแล้วก็เริ่มหิว  ถ้าอย่างนั้นไปลงมือทำกันเลยดีกว่า     ส่วนผสมและเครื่องปรุงมีดังนี้… -กุ้ง 4 ตัว -แซลมอน 200 กรัม -ไข่ไก่ 1 ฟอง -น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ -พริกแกงแดง 50 กรัม -ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ -กะทิ 200 กรัม -ใบโหระพา ใบมะกรูด และพริกแดง   วิธีทำ 1.เริ่มจากนำน้ำกะทิมาปรุงรส โดยการใส่พริกแกงแดง ตามด้วยน้ำตาล ไข่ไก่ ซีอิ้วขาว แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นใส่แซลมอนลงไป คนต่อไปเรื่อยๆ แล้วค่อยๆ เทแป้งมันตามลงไป คนผสมให้เข้ากัน   2.จากนั้นเตรียมถ้วยขนาดตามภาพ แล้วนำใบโหระพาไปรองพื้นถ้วย…

  • งานวิจัยเผยชีวิตของ ‘แซลมอน’ ในฟาร์ม มีอาการเศร้าและหดหู่ ราวกับคนพยายามฆ่าตัวตาย!!!

    งานวิจัยเผยชีวิตของ ‘แซลมอน’ ในฟาร์ม มีอาการเศร้าและหดหู่ ราวกับคนพยายามฆ่าตัวตาย!!!

    ก็เรียกได้ว่าเป็นอาหารโปรดของหลายๆ คนเลยทีเดียว กับหลากหลายเมนูแซลมอน แต่กระนั้นที่มาของอาหารชนิดนี้น่าเศร้าจนหลายๆ คงอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยทีเดียว เพราะเหล่าแซลมอนที่มาเสิร์ฟบนจานอาหารของคุณนั้น พวกมันมีชีวิตที่เศร้ามาก และมีแนวโน้มในการฆ่าตัวตายสูงสุดๆ โดยเฉพาะในฟาร์มปลาแซลมอนที่เลี้ยงกันไว้เป็นกระชังหรือบ่อที่แออัด   ชีวิตอันแสนเศร้าของแซลมอน   ล่าสุดในงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์โดย Royal Society Open Science พบว่า เหล่าแซลมอนที่ไม่ได้อยู่ในธรรมชาติ คือถูกเลี้ยงมาในฟาร์มนั้น มีพฤติกรรมซึมเศร้า แถมสารเคมีที่หลั่งออกมาจากสมองของพวกมันนั้น ยังเป็นสารที่คล้ายคลึงกับคนตอนหลั่งออกมาเวลาเศร้าหรือเสียใจอยู่!!? หนักไปกว่านั้นก็คือ บางครั้งในกระชังเราก็จะสามารถเห็นแซลมอนบางตัวลอยขึ้นมา มีอาการเหมือนซึมเศร้าสุดๆ จนไม่อยากทำอะไร เหมือนกับสิ้นหวังในชีวิตและอยากฆ่าตัวตายเลยทีเดียว     Marco Vindas ผู้เชี่ยวชาญแห่งมหาวิทยาลัย Gothenburg กล่าวว่า ‘เราจะไม่พูดว่าเหล่าแซลมอนพยายามฆ่าตัวตายหรอกนะ แต่มันอยู่ในจุดๆ ที่เกือบจะทนไม่ไหวแล้ว และการเลี้ยงแบบแออัดในฟาร์มนั้นยังทำให้พวกมันมีโอกาสตายสูงขึ้นอีกด้วย’     มันก็น่าเศร้าเหมือนกันนะ เพราะตามธรรมชาติแล้วคงได้ว่ายน้ำกันเล่นแบบไม่แออัด แต่การต้องมาอยู่ในกระชังว่ายวนๆ อยู่ที่เดิมเรื่อยๆ จนถูกจับไปขาย… ใครไม่เศร้าก็บ้าแล้วเนาะ!!! ที่มา: Metro

  • อะไรนะ!! สบู่อสุจิแซลม่อนยอดขายกระหน่ำ ความเชื่อที่อยากขาวแบบผิดๆ มันช่วยได้จริงหรือ!?

    อะไรนะ!! สบู่อสุจิแซลม่อนยอดขายกระหน่ำ ความเชื่อที่อยากขาวแบบผิดๆ มันช่วยได้จริงหรือ!?

    ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าความนิยมชมชอบในผิวพรรณขาวผ่องใสนั้นอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นว่าอยากมีผิวขาวใสจนหลับหูหลับตา เห็นโฆษณาผลิตภัณฑ์อะไรก็ช่าง แค่อ้างว่ามีคุณสมบัติทำให้ผิวขาวได้ ก็หลงเชื่อซื้อมาใช้โดยที่ไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน     ล่าสุดนี้มีการโฆษณาผลิตภัณฑ์ให้ความขาวตัวใหม่ที่กำลังมาแรงเป็นอย่างมาก มันก็คือ ‘สบู่อสุจิแซลม่อน’ โดยกล่าวอ้างสรรพคุณผิวเผินว่า เป็นสารให้ความขาวที่ดีที่สุดในโลก ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ทั้งสิ้น แถมยังผ่านมาตรฐาน อย. อีกต่างหาก จนทำให้มียอดขายพุ่งสูงมากถึงหลักแสนก้อนเลยทีเดียว     แต่ก่อนที่จะเชื่อสรรพคุณอันสุดยอดของสบู่อสุจิแซลม่อนนี้ ทางเพจ Drama-addict ก็ได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับสรรพคุณที่แท้จริงของอสุจิแซลม่อน กล่าวคืออสุจิแซลม่อนเป็นของเสีย นิยมนำมาใช้เป็นตัวทำละลายสำหรับห้องทดลอง และในอนาคตมีแนวโน้มว่าจะนำไปใช้บำบัดน้ำเสียได้ด้วย ทั้งนี้ไม่มีส่วนช่วยทำให้ผิวขาวแต่อย่างใด   มีคำถามจากทางบ้านเข้ามาว่า อสุจิแซลม่อน นี่มันเมพแบบที่โฆษณาสบู่ผิวขาวที่อ้างว่ามีอสุจิแซลมอนเป็นส่วนผสมเขาอ้างว่าใช้ปุ๊… Posted by Drama-addict on Friday, November 6, 2015   ทางผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาว่าสบู่อสุจิแซลม่อนช่วยทำให้ผิวขาวได้จริงๆ ก็ได้งัดงานวิจัยต่างๆ เอามาสู้แบบไม่ยั้ง แต่ผลสุดท้ายก็คือเป็นการทดลองสารสกัดจากอสุจิแซลม่อน ช่วยในเรื่องของเพิ่มความชุ่มชื้น ความเต่งตึง ลดรอยเหี่ยวย่น โดยไม่เกี่ยวข้องกับความขาวของผิวเช่นเดียวกัน   มีคนออกมาแย้งเรื่องอสุจิแซลมอนบอกว่ามันใช้ทำให้ผิวขาวได้จริงๆนะเว้ย ไอ้พวกที่บอกว่าไม่มีงานวิจัยอ่ะมันโชวโง่ แล้วไอ้คนนี… Posted by…