Tag: ประเทศสวีเดน

  • สวีเดนผุดแคมเปญช่วยลดความเครียด ให้ผู้คนมาใช้ชีวิตชิวๆ ในกระท่อมกลางธรรมชาติ!!

    สวีเดนผุดแคมเปญช่วยลดความเครียด ให้ผู้คนมาใช้ชีวิตชิวๆ ในกระท่อมกลางธรรมชาติ!!

    ภาวะความเครียด เกิดจากผลกระทบหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านการเรียน ด้านการเงิน รวมถึงด้านการทำงาน แม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่อาจไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้มากนัก แต่สำหรับผู้คนในประเทศสวีเดนแล้ว มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขามาก ด้วยเหตุนี้ สวีเดนจึงได้มีการจัดทำแคมเปญที่ชื่อว่า “72 Hour Cabin” ขึ้นมา เพื่อเชิญชวนให้กลุ่มวัยทำงาน 5 คนที่มีความเครียดมาใช้เวลา 3 วันเต็ม ใน “กระท่อมเรือนกระจก” ที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติอันร่มรื่น และเงียบสงบ กับบรรยากาศแบบชนบทในสวีเดน   .   สำหรับแคมเปญ 72 Hour Cabin นี้ มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้คนที่มีความเครียดระดับสูงจากการทำงาน และจากเมืองใหญ่ที่มีความวุ่นวาย มาใช้ชีวิตในกระท่อมกลางป่าที่รอบล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์อันงดงาม ทั้งนี้ เพื่อจะได้เป็นการช่วยบำบัดสภาพจิตใจ และทำให้คุณภาพชีวิตของพวกเขาดีขึ้น ซึ่งแคมเปญดังกล่าวยังหวังที่จะช่วยส่งเสริมให้ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกได้ทำตามอีกด้วย   .   และผู้โชคดี 5 คนไม่ว่าจะเป็นผู้ประกาศข่าว พร้อมนักข่าวจากประเทศอังกฤษ คนขับรถแท็กซี่จากกรุงปารีส นักจัดอีเว้นท์ในนิวยอร์ก และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเยอรมัน ที่ได้เข้ามาร่วมแคมเปญนี้ จะได้เรียนรู้ถึงวิถีชีวิตของผู้คนในชนบท รวมถึงได้เห็นสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่สวยงาม…

  • สถานีโทรทัศน์สวีเดน ใส่ซับอภิปรายการเมืองผิด ดันไปนำซับจากรายการเด็กมาใส่ซะงั้น!?

    สถานีโทรทัศน์สวีเดน ใส่ซับอภิปรายการเมืองผิด ดันไปนำซับจากรายการเด็กมาใส่ซะงั้น!?

    ในช่วงนี้ถ้าพูดถึงการเมืองถ้าไม่ใช่โดนัลด์ ทรัมป์ การจะทำให้เวทีทางการเมืองอันตึงเครียดให้เป็นเรื่องฮาก็คงจะเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร แต่ใครจะเชื่อว่าช่องโทรทัศน์ของสวีเดนสามารถทำได้!!? เหตุการณ์สุดฮาดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งในประเทศสวีเดน ที่บังเอิญใส่ซับไตเติ้ลผิด จากการอภิปรายและโต้เถียงของนักการเมืองที่กำลังลังดุเดือด กลายมาเป็นซับไตเติ้ลของรายการโชว์สำหรับเด็กซะงั้น ซึ่งภาพที่เราจะได้ดูกันนั้น ก็ถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษและนำมาเผยแพร่โดยสมาชิกเว็บไซต์ Imgur ที่ชื่อว่า TheBlondeSwede ว่าแต่จะฮาจริงไหมลองมาดูกันดีกว่า…   เปิดมาภาพแรกก็เงิบกันแล้ว เมื่อรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมกล่าวทักทายผู้ประชุมว่า “สวัสดีชาวโลก”   ยังไม่หมดเท่านั้น ท่านรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมยังบอกอีกว่า “ฉันมีรองเท้าตั้ง 2 คู่ คู่หนึ่งเป็นสีแดง อีกคู่เป็นสีเหลือง”   และท่านรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมก็ปิดท้ายต่อจากประโยคที่แล้วว่า “แล้วฉันจะเลือกคู่ไหนดีล่ะ? ฉันจะลองไปถามตุ๊กตาของฉันดูก็แล้วกัน” มุ้งมิ้งน่ารักจริงๆ   เปลี่ยนมาทางด้านของท่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษากันบ้าง ซึ่งประโยคแรกของเขาก็เกทับทุกคนได้สบายๆ “ฉันจะสร้างปราสาททรายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในกาแลคซี่ให้ดู”   พอเจอรัฐมนตรีคนก่อนหน้าเกทับ รัฐมนตรีคนถัดไปจึงกล่าวแย้งว่า “ทิ้งบรรทัดฐานเดิมทิ้งไปซะ ไดโนเสาร์ทุกตัวนะมีรูปทรงที่ไม่เหมือนกันซักตัว”   พออยู่ดีๆ จากปราสาททรายกลายเป็นไดโนเสาร์ ท่านโฆษกก็เลยตามน้ำไปว่า “ขอตรวจตั๋วหน่อยครับ อ๊ะ!! สวัสดีครอบครัวไดโนเสาร์ Pteranodon”   ยังไม่หมดแค่นั้น ท่านโฆษกยังชวนครอบครัวไดโนเสาร์ไปดำน้ำอีกว่า “พวกคุณจะไปเที่ยวใตน้ำกันไหมวันนี้?”   นายกรัฐมนตรีสวีเดนที่ทนฟังมานานแล้วเริ่มอยากมีปากเสียงบ้างจึงพูดขึ้นมาว่า “น่าอายนะที่ไม่มีรถไฟขบวนไหนเลยที่สามารถท่องเที่ยวไปใต้ทะเลได้โดยไม่ต้องใช้ราง”…

  • นักการเมืองสวีเดน หาเสียงระหว่างผ่านการ “เล่นเกม” บอกพร้อมผลักดัน e-Sports เต็มที่

    นักการเมืองสวีเดน หาเสียงระหว่างผ่านการ “เล่นเกม” บอกพร้อมผลักดัน e-Sports เต็มที่

    ถ้าใครที่ติดตามข่าวเกี่ยว e-Sport บ้านเราก็น่าจะได้ยินข่าวคราวกันมาบ้างเกี่ยวกับการดัน e-Sports ให้กลายเป็นกีฬาอย่างเป็นทางการ ซึ่งมันก็คงต้องใช้เวลาพอสมควรเลยกว่าที่จะเป็นไปได้จริงๆ แต่ไม่ใช่แค่บ้านเราเท่านั้นที่กำลังผลักดันกีฬาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Sports นักการเมืองในประเทศสวีเดนก็กำลังพยายามเช่นเดียวกัน โดยล่าสุดได้มีนักการเมืองที่ชื่อว่า Rickard Nordin สมาชิกของพรรคเสรีนิยม Centre Party  แถมยังเป็นเกมเมอร์ตัวยงอีกต่างหาก เพราะเขาบอกว่าตลอดชีวิตของเขาก็เล่นเกมมาตลอด     เขาหาเสียงพร้อมอภิปรายถึงการผลักดังเรื่องดังกล่าวในประเทศสวีเดน ระหว่างที่เขากำลังสตรีมเกม Hearthstone บนเว็บไซต์ Twitch ว่าเขาต้องการให้ e-Sports มีสถานะเทียบเท่ากับกีฬาปกติ และอยากให้มีวีซ่าที่สามารถสนับสนุนตัวนักกีฬาในการเดินทางไปแข่งขัน เหมือนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาทำอยู่     นอกจากนี้ทางสำนักข่าวที่ชื่อว่า glixel ก็ได้ไปสัมภาษณ์เขาว่าอะไรคือจุดเริ่มต้นให้เขาหันมาสตรีม Hearthstone บอกพูดคุยเรื่องการเมืองกับคนดูไปด้วย ซึ่งเขาก็บอกว่า “ผมอยากจะทำให้การเมืองมันเข้าถึงง่ายสำหรับคนรุ่นใหม่ และเขาก็ชอบการทำแบบนี้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ก่อนหน้านี้ผมก็ได้สร้างแอพพลิเคชั่นการเมืองตัวแรกขึ้นมา เพื่อให้คนเข้าไปโหวตนักการเมืองสวีเดนที่ตัวเองชื่นชอบ และไม่นานมานี้ผมก็ได้ลองเล่น Hearthstone แน่นอนว่าผมก็รู้สึกชอบมันพอสมควรเลย แถมยังมีโอกาสได้เข้าไปดูคนอื่นเล่นใน Twitch แล้วรู้สึกว่าผมน่าจะสามารถเอาความชอบและงานของผมเข้ามารวมกันได้ ผมก็เลยเริ่มสตรีมผ่านแพลตฟอร์มนี้ พร้อมพูดคุยเรื่องการเมืองกับคนที่เข้ามาดูไปพร้อมๆ ในขณะที่นักการเมืองคนอื่นพูดถึงเรื่องซุปเปอร์มาร์เก็ต ราคาสินค้า แต่ตัวผมกลับสนใจเรื่องของ e-Sports มากกว่า”     ทาง glixel ยังถามต่ออีกว่าแล้ววัฒนธรรมเกี่ยวกับเกมในประเทศสวีเดนเป็นยังไงบ้าง เขาก็บอกว่าตอนนี้วัฒนธรรมเกมและ e-Sports ในประเทศกำลังไปได้สวยเลย ไม่ใช่แค่เกมคอมพิวเตอร์เท่านั้น บอร์ดเกมและเกมมือถือก็กำลังโตขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน แถมประเทศสวีเดนก็มีไอดอลนักกีฬา e-Sports…

  • 2 เสือโคร่งไซบีเรีย เปิดศึกแย่งชิงเสือสาวอย่างดุเดือด ท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บ!!

    2 เสือโคร่งไซบีเรีย เปิดศึกแย่งชิงเสือสาวอย่างดุเดือด ท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บ!!

    เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยภาพของ 2 เสือโคร่งไซบีเรีย ขณะต่อสู้กันเพื่อแย่งเสือตัวเมียกันอย่างดุเดือด ท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บ โดยภาพดังกล่าวถูกบันทึกได้โดย Ingo Gerlach ช่างภาพชาวเยอรมัน ผู้ที่ได้เดินทางไปยังอุทยาน Orsa-Björn Wildlife Park ประเทศสวีเดน และได้พบกับเจ้าเสือ 2 ตัวนี้ กำลังต่อสู้กันพอดี นั่นจึงทำให้เขาได้บันทึกภาพเหตุการณ์สุดระทึกนี้เอาไว้     สำหรับอุทยาน Orsa-Björn Wildlife Park ถือเป็นบ้านของสัตว์ป่าหายากหลายสายพันธุ์ เช่น หมีสีน้ำตาล หมีขั้วโลก หมาป่ายุโรป และโคร่งไซบีเรีย   เรียกได้ว่าการศึกการต่อสู้ของพวกมันสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก   ถือเป็นภาพเหตุการณ์ที่หาชมได้ยากมากจริงๆ   ทางด้าน Ingo Gerlach ผู้เป็นช่างภาพได้เผยว่า “พวกมันได้ต่อสู้กันรุนแรงมาก ซึ่งเป็นการโจมตีในระเวลาเพียงสั้นๆ จากนั้นเสืออีกตัวหนึ่งก็ได้ถอยออกไป ส่วนสาเหตุที่พวกมันได้ต่อสู้กันอาจจะเป็นเพราะแย่งเสือตัวเมีย และต้องการแย่งชิงอาณาเขต”     การต่อสู้ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นภาพที่ดูน่าเกรงขามพอสมควร  …

  • นโยบายบริษัทในสวีเดน ร่วมกันปรับเวลาทำงานเหลือแค่วันละ 6 ชั่วโมง เพื่อเน้นคุณภาพ!?

    นโยบายบริษัทในสวีเดน ร่วมกันปรับเวลาทำงานเหลือแค่วันละ 6 ชั่วโมง เพื่อเน้นคุณภาพ!?

    ในประเทศไทยเราน่าจะคุ้นชินกับการทำงานวันละ 8 ชั่วโมง ตอกบัตรเข้างาน 8 โมงเช้า เลิกงาน 4 โมงเย็น บางคนอาจจะมองว่าเป็นช่วงเวลาที่มากเกินไป ยิ่งช่วงบ่ายยิ่งง่วงเหงาหาวนอนจนหลายคนแอบอู้งานเป็นประจำ ด้วยปัญหาเหล่านี้เองทางการของประเทศสวีเดนเลยเริ่มเล็งเห็นถึงปัญหาและแนวทางการแก้ไข พวกเขาก็เลยเริ่มปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่จากวันละ 8 ชั่วโมงเหลือเพียงแค่วันละ 6 ชั่วโมงเท่านั้น (ลดไป 2 ชั่วโมง)     เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดยสำนักข่าวต่างประเทศหลายๆ แห่ง บอกว่าบริษัทและห้างร้านหลายๆ ที่เริ่มหันมาปรับเวลาทำงานให้เหลือแค่วันละ 6 ชั่วโมง ยกตัวอย่างเช่นผู้พัฒนาแอพฯ มือถือ Filimundus ที่ปรับให้พนักงานของพวกเขาทำงานแค่ 6 ชั่วโมงมาตั้งแต่เมื่อปี 2015 แล้ว     โดยนายจ้างได้ให้เหตุผลว่าการทำงานเป็นเวลา 8 ชั่วโมง ทำให้งานของพวกเขาไม่ได้ประสิทธิภาพ เพราะต้องจดจ่อกับการทำงานเป็นเวลานานๆ ทำให้สมาธิหรือความสนใจลดน้อยลง ยิ่งใช้เวลาทำงานมากก็ยิ่งใช้เวลาพักมากขึ้น ซึ่งจะเสียเวลาไปแบบเปล่าประโยชน์     หลังจากที่พวกเขาปรับเวลาทำงานแล้ว ผลงานของพวกเขากลับดีขึ้นกว่าตอนที่ทำงานเต็มเวลาเสียอีก พนักงานและลูกจ้างแต่ละคนมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นกว่าตอนที่ทำ 8 ชั่วโมงด้วยซ้ำ เพราะใช้เวลาทำงานน้อยลง ทำให้พวกเขาสามารถเต็มที่กับงานตรงหน้าได้มากขึ้น ตอนนี้เริ่มมีหน่วยงานหลายแห่งทำตามแล้ว เช่นคลีนิค…

  • ชะตากรรมอันแสนเศร้าของ Raccoon Dog ที่กำลังถูกกวาดล้างในประเทศสวีเดน เพื่อรักษาระบบนิเวศน์…

    ชะตากรรมอันแสนเศร้าของ Raccoon Dog ที่กำลังถูกกวาดล้างในประเทศสวีเดน เพื่อรักษาระบบนิเวศน์…

    อีกหนึ่งสัตว์สุดน่ารัก ที่กำลังถูกไล่ล่าและกวาดล้างในประเทศสวีเดน เหล่า Raccoon Dog หรือจิ้งจอกแรคคูน หรือเจ้าทานุกิ หลังจากมันเริ่มคุกคามความเป็นอยู่ของสัตว์อื่นๆ ในละแวก เพราะหลักๆ แล้วเจ้าทานุกิเหล่านี้แหละ หากินกับเหล่าสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และสัตว์บกจำพวกนกที่สร้างรังอยู่ตามต้นไม้ ทั้งกินไข่ทั้งรุกรานชีวิตและความเป็นอยู่จนทำให้ระบบนิเวศน์ของประเทศเปลี่ยนแปลงไปจนนักวิจัยสังเกตได้ และนำเสนอโปรเจ็คต์เพื่อกำจัดเจ้าทานุกิขึ้น!!!   Raccoon Dog หรือจิ้งจอกแรคคูน   โดยโปรเจ็คต์นี้อาจจะต้องบอกว่าโหดร้ายพอสมควรเลยทีเดียว เพราะเครื่องมือที่จะใช้ลดจำนวนประชากรของเหล่าจิ้งจอกแรคคูนก็คือจิ้งจอกแรคคูนเองนี่แหละ!!! เหล่านักวิทยาศาสตร์จะจับสัตว์ชนิดนี้มาส่วนหนึ่ง เพื่อตั้งโปรเจ็คต์ Judas animals’ ขึ้น ติด GPS แล้วทำหมันพวกมัน จากนั้นก็ปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ เพื่อให้ไปหาคู่ครองตามธรรมชาติ   จิ้งจอกแรคคูนเป็นสัตว์ที่จะอยู่กับคู่ครองของมันเพียงตัวเดียวตลอดชีวิต…     พอสัญญาณ GPS หยุดนิ่งอยู่กับที่ นั่นหมายความว่าพวกมันเจอหนึ่งในจิ้งจอกแรคคูนคู่ครองของมันแล้ว และจะส่งเจ้าหน้าที่ไปจัดการมันซะ!!!! 80 ปีก่อน เจ้าแรคคูนเหล่านี้ถูกปล่อยออกมาโดยสหภาพโซเวียต เพื่อเป็นแหล่งผลิตขนสัตว์ให้กับพวกเขา และเคยประสบความสำเร็จอย่างมากเพราะมันแพร่พันธุ์ได้เร็ว แต่ตอนนี้กลับกลายว่ามันเป็นหายนะของระบบนิเวศน์ซะแล้ว… ทางโฆษกของโครงการนี้กล่าวว่า ‘ถึงมันจะฟังดูโหดร้าย แต่เราก็มีการต่อต้านจากเหล่าสิทธิสัตว์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะทุกคนเข้าใจว่าเราทำสิ่งนี้เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ บางทีการที่จะรักษาสมดุลทางธรรมชาตินั้น เราก็ต้องตัดใจทำสิ่งที่เราไม่อยากทำเหมือนกัน…’   แต่ในกรณีนี้ถ้าคิดเปรียบเทียบว่าเหล่าจิ้งจอกแรคคูนคือมนุษย์ล่ะ ที่เพิ่มจำนวนประชากรได้รวดเร็วและรุกรานสัตว์อื่นๆ จนสูญพันธุ์…?…

  • Old Tjikko ต้นไม้ที่มีอายุมากที่สุดในโลก กว่า 9,500 ปี ที่ถูกค้นพบในประเทศสวีเดน

    Old Tjikko ต้นไม้ที่มีอายุมากที่สุดในโลก กว่า 9,500 ปี ที่ถูกค้นพบในประเทศสวีเดน

    เพื่อนๆ เคยสงสัยมั้ยว่าต้นไม้น่ะ มีอายุยืนได้กี่ปีกันแบบสุดๆ อันนี้เหมียวก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ แต่ล่าสุดก็ได้มีการค้นพบต้นไม้ที่เรียกได้ว่า มีอายุมากที่สุดในโลกที่ประเทศสวีเดนล่ะ!!! “Old Tjikko” เป็นชื่อที่ถูกตั้งให้สำหรับต้นสนนอร์เวย์ ต้นไม้ที่แก่ที่สุดในโลกด้วยอายุและความเก่าแก่กว่า 9,500 ปีด้วยกัน!!!   ผู้ที่ค้นพบเจ้าต้นไม้ต้นนี้ก็คือ ศาสตราจารย์ Leif Kullman แห่ง Umeå University   พอเขานำชิ้นส่วนของต้นไม้ไปตรวจคาร์บอนเพื่อที่จะได้ทราบอายุก็พบว่า มันมีอายุมายาวนานกว่า 9,500 ปีเลยทีเดียว   ซึ่งตอนนี้ต้นไม้ที่แก่ที่สุดในโลกก็ยังคงสร้างสถิติต่อไป   รอดพ้นจากการถูกตัดและนำไปตกแต่งเป็นต้นคริสมาสต์มาอย่างยาวนาน   การที่มันสามารถโคลนตัวเองได้ คือเคล็ดลับในการอายุยืนของมัน   เพราะแต่ละหน่อจะมีอายุราวๆ 600 ปี แต่พอหน่อเดิมตาย หน่อใหม่ก็จะเข้ามาแทนที่ นั่นคือสิ่งที่ทำให้มันอายุยืนได้ขนาดนี้     เรียกได้ว่ามีอายุย้อนกลับไปได้ถึงยุคน้ำแข็งเลยทีเดียว และตอนนี้มันก็กำลังทำลายสถิติต่อไปอยู่เรื่อยๆ เลยทีเดียว สู้ๆ นะ “Old Tjikko” !!! 10,000 ปีอยู่ไม่ไกล เพื่อนนน ที่มา: NationalGeographic