Tag: นิทาน

  • หนังสือนิทาน “ซินเดอเรลลา” วาดโดยนักวาดจาก Final Fantasy วางขายแล้วในญี่ปุ่น!

    หนังสือนิทาน “ซินเดอเรลลา” วาดโดยนักวาดจาก Final Fantasy วางขายแล้วในญี่ปุ่น!

    เมื่อพูดคำว่า ซินเดอเรลลา หลายคนก็คงจะนึกถึงใบหน้าใสแบ๊วกับรองเท้าแก้วคู่ใจ ตามสไตล์และเอกลักษณ์ของการ์ตูน Disney ใช่ไหมล่ะ? แต่หลายครั้ง ตัวละครนี้ก็ถูกนำมาวาดขึ้นใหม่โดยนักวาดทั่วทั้งโลก รวมไปถึงศิลปินชาวญี่ปุ่นนามว่า Yoshitaka Amano คนนี้ด้วย โดยภาพซินเดอเรลลาฝีมือของ Yoshitaka นั้นก็ดูงดงามแต่กลับดูแตกต่างจากเวอร์ชันของ Disney เสียเหลือเกิน แถมมันยังดูคุ้นๆ ตาชอบกลอีกด้วย   ซินเดอเรลลา ฝีมือของ Yoshitaka   ที่ลายเส้นอาจจะดูคุ้นตาก็เพราะว่า Yoshitaka เป็นนักออกแบบตัวละครให้กับซีรีส์เกมสุดโด่งดังอย่าง Final Fantasy ในช่วงหกภาคแรก ทั้งนี้ Yoshitaka ก็ได้วาดภาพของซินเดอเรลลาประกอบหนังสือนิทานเล่าเรื่องสั้นๆ ออกมา ลองไปชมผลงานการวาดของเขาในหนังสือซินเดอเรลลากันเลยดีกว่า   . .   ในช่วงแรกที่หนังสือถูกตีพิมพ์ออกมา หน้ากระดาษเป็นเพียงหน้าเล็กๆ แต่พอมันถูกพิมพ์ขึ้นเป็นหน้ากระดาษแผ่นใหญ่ ผลงานของ Yoshitaka ก็กลายเป็นผลงานที่ติดตรึงใจเด็กๆ จำนวนมาก นอกจากนี้หนังสือของเขายังพิมพ์ขึ้นเป็นสองภาษา (ญี่ปุ่นและอังกฤษ) โดยภาษาที่ใช้ทั้งสองภาษานั้นมีการปรับให้เป็นประโยคที่อ่านแล้วเข้าใจง่ายเหมาะสมกับเด็กๆ   .   หนังสือเล่มนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Amano Yoshitaka Meiga Monogatari Cinderella มีความยาว 30 หน้า…

  • ชาวเน็ตต่อยอด จากภาพถ่ายเมแกนหน้าพระราชวัง อยากได้ใครต้องไปถ่ายรูปหน้าบ้านเค้า!?

    ชาวเน็ตต่อยอด จากภาพถ่ายเมแกนหน้าพระราชวัง อยากได้ใครต้องไปถ่ายรูปหน้าบ้านเค้า!?

    หมั้นหมายสู่การเสกสมรสระหว่างเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล ปัจจุบันมีบรรดาศักดิ์เป็นดัชเชสเรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องราวความโรแมนติกพลิกชีวิตหญิงสามัญชนรายนี้ ยังคงวนเวียนอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ต…   ชีวิตรักอันสุดแสนจะโรแมนติกที่เปลี่ยนชีวิตเมแกน   ไม่ว่าจะด้วยความยินดีปรีดา หรือความอยากจะเป็นเหมือนดั่งเธอที่มีชีวิตเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเทพนิยายนิทานเจ้าชายเจ้าหญิง และภาพของเมแกนที่ถ่ายอยู่หน้าพระราชวังบักกิงแฮมเมื่อ 22 ปีก่อน ก็ฮิตเหลือเกิน     ด้วยกระแสจะทวิตเตอร์ดังกล่าว พร้อมกับภาพถ่ายของเมแกนเมื่อ 22 ปีก่อน บริเวณหน้าพระราชวังบังกิงแฮม ใครเล่าจะรู้ว่า ในวันนี้เธอจะได้กลายมาเป็นเจ้าหญิงจริงๆ https://twitter.com/EarlCraig06/status/997775641973084160   ตกลงคือ ‘พรหมลิขิต’ ใช่มั้ยห์ (ออกเสียงแบบพี่แด๊กซ์)   ย้อนกลับไปตอนนั้นเธอยังมีอายุเพียงแค่ 15 ปี แต่ไม่เคยรู้เลยว่า 22 ปีต่อมาจะได้แต่งงานกับเจ้าชาย   และแล้วก็เริ่มกลายมาเป็นความเชื่อว่า ไปนั่งหน้าบ้านใคร ก็จะได้คนนั้นมาเป็นคู่ครอง กรณีนี้ไปนั่งหน้า Disney World แล้วก็ได้หนูมาอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ นายต้องเป็น Mickey แน่นอน!! 22 years ago I sat outside Disney…

  • เรื่องสั้นสอนใจ Mother’s Sacrifice “การเสียสละของแม่” หญิงพิการผู้ทำทุกอย่างเพื่อลูกเสมอ..

    เรื่องสั้นสอนใจ Mother’s Sacrifice “การเสียสละของแม่” หญิงพิการผู้ทำทุกอย่างเพื่อลูกเสมอ..

    Mother’s Sacrifice หรือ “การเสียสละของแม่” เป็นเรื่องเล่าสอนใจที่เชื่อว่ามีต้นกำเนิดมาจากดินแดนเกาหลี ว่าด้วยเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำทุกอย่างเพื่อลูกชายของเธอ ต่อให้ลูกชายของเธอเกลียดเธอมากแค่ไหนก็ตามที มันเป็นเรื่องราวสั้นๆ แต่แสดงให้เห็นถึงความรักและความห่วงใย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ขอให้รับชมกันได้ที่นี่…     การเสียสละของแม่ แม่ของผมมีตาข้างเดียว… รู้ไหมว่าคนเราเวลามีเบ้าตาที่กลวงโบ๋มันน่ารังเกลียดแค่ไหน? นั่นทำให้ผมเกลียดแม่มากๆ จะบอกว่าเธอเป็นความน่าอับอายของผมเลยก็ว่าได้ แม่เปิดร้านเล็กๆ ในตลาดเก่าๆ แห่งหนึ่ง เพราะไม่มีใครอยากรับคนที่มีตาข้างเดียวไปทำงานด้วยหรอก เธอเก็บสมุนไพรเล็กๆ น้อยขายเพื่อหาเงินใช้ ผมยังจำวันที่แม่มาที่โรงเรียนของผมได้ดี และจะไม่มีวันลืม เพื่อนๆ ทุกคนล้อผมว่า เป็นลูกของปลาตาเดียวบ้างล่ะ มีแม่เป็นโจรสลัดบ้างล่ะ วันนั้นผมได้แต่ส่งสายตารังเกียจให้แม่ แต่เธอก็ไม่รู้ตัวเสียที จนในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว และต้องวิ่งหนีจากทุกคนทั้งน้ำตา     คุณแม่ตามผมมาหลังจากนั้น ทั้งๆ ที่ผมอยากจะอยู่คนเดียว ดังนั้นเพื่อที่จะไล่แม่ไปให้พ้นๆ ผมเลยบอกแม่ไปว่า “แม่!! ทำไมแม่ต้องมีตาข้างเดียวด้วย แม่รู้ไหมว่าแม่ทำให้ผมอายแค่ไหน ไปตายซะเลยไป๊!!” แม่ไม่ตอบอะไรกลับมา ผมคิดว่าตัวเองพูดแรงเกินไปอยู่บ้าง แต่ท่าทางแม่จะไม่ได้คิดมากเท่าไหร่ ก็เธอไม่ดุผมด้วยซ้ำนี่นะ คืนนั้นผมตื่นขึ้นมาตอนกลางคืนและพบแม่แอบร้องไห้อยู่ในครัว คุณรู้รึเปล่าว่าคนเรานั้นน้ำตาไหลได้แม้ไม่มีลูกตา? อย่างไรก็ตามสำหรับผมแล้วน้ำตาที่ไหลออกมาจากเบ้าตากลวงๆ นั้น มันน่าขยะแขยงสุดจะบรรยาย ในตอนนั้นเองผมก็บอกกับตัวเองว่า ทางเลือกที่ดีที่สุดของผมคงเป็นการโตขึ้นประสบความสำเร็จ จะได้ไม่ต้องมายากจนหมดหวัง…

  • White Lie เรื่องเล่าจากประเทศญี่ปุ่น โกหกที่ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็นำมาซึ่งเรื่องราวอันน่าเศร้า

    White Lie เรื่องเล่าจากประเทศญี่ปุ่น โกหกที่ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็นำมาซึ่งเรื่องราวอันน่าเศร้า

    White Lie หรือการโกหกสีขาว คือการโกหกเพื่อความสบายใจของผู้ที่รับฟัง จะเรียกว่าการโกหกที่ไม่ใช่เรื่องผิด หรือการโกหกที่ไร้เดียงสาก็ได้ บ่อยครั้งที่เป็นการกระทำเพื่อรักษาน้ำใจของอีกฝ่าย กล่าวง่ายๆ ว่ามักจะเป็นการโกหกด้วยความหวังดีนั่นเอง แต่การโกหกสีขาวนั้นก็ไม่ได้นำมาซึ่งเรื่องที่ดีเสมอไป เพราะสุดท้ายนั้น การโกหก ก็ยังคงเป็นการโกหกอยู่ดี เรื่องเล่าในครั้งนี้เป็นเรื่องเล่ากึ่งนิทานของประเทศญี่ปุ่น ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กสาวขี้โกหก กับคุณแม่ผู้เกลียดการโกหกเข้าไส้ ด้วยชื่อเรื่อง “White Lie”     ครั้งหนึ่งเคยมีเด็กสาวชื่อว่าจิอากิ เธอได้ยินเสียงของแม่เรียกในระหว่างที่กำลังเล่นอยู่ในห้องนอน เธอเดินลงมาจากชั้นสองและพบกับคุณแม่ที่อยู่ในห้องครัว “จิอากิมานี่หน่อยสิ แม่มีอะไรจะถาม” แม่ของเธอกล่าว พลางกวักมือเรียกจิอากิเข้าไปหา “อะไรเหรอแม่?” จิอากิถาม “ลูกรู้ไหมว่าใครเป็นคนกินเค้กสำหรับแขกไป?” แม่ของเธอถามกลับ “อืม…ไม่รู้ค่ะ” เธอปฏิเสธ “ลูกกินไปรึเปล่า?” แม่ของเธอถามด้วยความสงสัย “หนูไม่ได้กินนะแม่” เด็กสาวปฏิเสธอีกครั้ง พลางบิดมือด้วยความไม่สบายใจ     “จิอากิแม่ดูออกนะเวลาลูกโกหก” แม่ของเธอกล่าว จิอากิอาจจะไม่รู้ตัวแต่เวลาเธอโกหกเธอจะบิดมือเหมือนกับตอนนี้ “การเป็นหัวขโมยมันเริ่มต้นจากการโกหกนี่ล่ะ และหัวขโมยจะต้องถูกจับและลงโทษเสมอ ลูกเข้าใจที่แม่พูดไหม” จิอากิทนรับความรู้สึกผิดไม่ไหว จึงยอมรับผิด เธอร้องไห้และบอกว่าเธอเป็นคนที่แอบกินเค้กไปเอง “โอ้ โอ้ หยุดร้องไห้เถอะลูก” แม่ของเธอกล่าว “แม่ไม่ได้เกลียดลูกหรอกนะ ก็แค่ไม่อยากให้ลูกเป็นคนขี้โกหกเท่านั้นเอง” เรื่องราวประมาณนี้เกิดขึ้นอยู่หลายต่อหลายครั้ง บางทีนั่นอาจจะเป็นการเรียกร้องความสนใจในแบบของเด็กสาวก็เป็นได้…

  • โปรเจคชุดภาพ ‘เจ้าหญิงดีสนีย์กับอาชีพในฝัน’ พลิกบทโลกแฟนตาซี เนื่องในวันสตรีสากล

    โปรเจคชุดภาพ ‘เจ้าหญิงดีสนีย์กับอาชีพในฝัน’ พลิกบทโลกแฟนตาซี เนื่องในวันสตรีสากล

    หากเรากำลังเหนื่อยล้าอยากจะพักผ่อนจากโลกแห่งความเป็นจริง นวนิยายหรือการ์ตูนต่างๆ ก็มักจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเราได้ และโลกของเจ้าหญิงดีสนีย์นั้นก็เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย อันต้องการเติมเต็มจินตนาการในช่วงที่กำลังขาดหายไป หากเพียงแต่ว่า เรามองโลกแฟนตาซีให้ใกล้ชิดตัวเรามากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องสวมมงกุฎดั่งในนิทาน ก็สามารถเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างได้เช่นเดียวกัน   กาลครั้งหนึ่งกับอาชีพในฝัน…   โปรเจกต์ชุดภาพดีๆ จาก Ali Williams นักคอสเพลย์เมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเจ้าหญิงดีสนีย์ให้ใกล้ตัวเรามากขึ้น ควบคู่ไปกับความรักความชื่นชอบในแบบดีสนีย์ เนื่องในโอกาสวันสตรีสากลที่ผ่านมา “ด้วยการนำเวทมนตร์วิเศษออกไป และนำตัวละครเหล่านี้เข้ามาอยู่ในยุคโมเดิร์น พวกเธอก็จะดูมีความใกล้เคียงชีวิตจริงมากยิ่งขึ้น” Williams กล่าวผ่านเว็บไซต์ Buzzfeed   แล้วเหล่าเจ้าหญิงจะทำงานอะไรกันบ้างในยุคสมัยปัจจุบัน เราลองมาดูกันเถอะ!!   สำหรับ Snow White แล้ว เธอมักจะหาข้อดีให้กับผู้อื่นอยู่และคอยสนับสนุนพวกเขาอย่างดีที่สุดเสมอ เธอจึงเหมาะกับการเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านบำบัด   ถัดมาคือ Pocahontas นักการเมืองหญิงชนเผ่าอเมริกันคนแรก ที่จะได้ดำรงตำแหน่งประธานาธบดีสหรัฐฯ   Elsa สถาปนิกสายบรรเทาภัยพิบัติ เธอมักจะช่วยครอบครัวซ่อมแซมบูรณะสิ่งก่อสร้าง หลังเกิดภัยพิบัติธรรมชาติอยู่เสมอ   คุณครู Rapunzel เรียนจบทางด้านการพัฒนาเด็ก ช่วยทำให้เธอมองการณ์ไกล มากกว่าที่จะเฝ้ารอคอยเจ้าชาย อยู่บนหอคอยอย่างโดดเดี่ยว…

  • คุณพ่อใช้เวลากว่า 18 เดือน เนรมิตห้องนอนลูกให้กลายเป็นโลกนิทานบ้านต้นไม้!!

    คุณพ่อใช้เวลากว่า 18 เดือน เนรมิตห้องนอนลูกให้กลายเป็นโลกนิทานบ้านต้นไม้!!

    เหมือนเชื่อว่าเด็กหญิงทุกคนคงมีความฝันที่อยากจะมีห้องนอนที่เหมือนเทพนิยาย ประดับไปด้วยแสงต่างๆ ซึ่งมันเป็นไปได้ยากมากที่จะทำได้ แต่สุดยอดคุณพ่อท่านนี้เขาได้ทำให้ลูกสำเร็จแล้ว คุณพ่อได้โพสต์ผลงานของเขาลงในเว็บไซต์ Reddit ซึ่งเป็นห้องนอนที่เขาได้ทำให้กับลูกสาวของเขาโดยใช้เวลากว่า 350 ชั่วโมง หรือ 18 เดือน สร้างเวทมนตร์ขึ้นมา โดยใช้งบประมาณทั้งหมด 150,000 บาทเลยทีเดียว อื้อหืออออ แน่นอนว่างบเยอะขนาดนี้ อุปกรณ์ทุกอย่างนั้นล้วนมีคุณภาพทั้งนั้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณพ่อถึงสร้างอะไรแบบนี้ได้คนเดียว เพราะเขาคือศิลปินผู้ออกแบบเกมต่างๆ นั่นเอง คุณพ่อเล่าว่าสิ่งที่เขากลัวที่สุดก็คือเมื่อลูกของเขาอายุครบ 13 แล้ว เขาคงต้องเอาสิ่งพวกนี้ออกไป   นี่คือห้องเดิมก่อนที่จะเติมแต่งลงไป ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเปลี่ยนไปมาก   และนี่ก็คือภาพห้องนอนหลังจากตกแต่งเรียบร้อยแล้ว   ภาพการทำงานของคุณพ่อ ดูก็รู้ว่าทุ่มเทกับการสร้างมากๆ เพราะทำเองคนเดียวหมดเลย . . . .   นี่เราควรมอบรางวัลพ่อดีเด่นประจำปีให้เลยรึเปล่านะ . .   ที่มา boredpanda

  • คุณแม่สั่งห้ามลูกอ่านนิทานเรื่อง ‘เจ้าหญิงนิทรา’ เพราะการจูบผู้หญิงในตอนหลับมันไม่ถูกต้อง!!

    คุณแม่สั่งห้ามลูกอ่านนิทานเรื่อง ‘เจ้าหญิงนิทรา’ เพราะการจูบผู้หญิงในตอนหลับมันไม่ถูกต้อง!!

    เชื่อว่าน้อยคนที่จะไม่รู้จักนิทานเรื่อง เจ้าหญิงนิทรา เพราะเราจะได้ยินพ่อแม่หรือครูที่โรงเรียนเล่าให้ฟังกันมาตั้งแต่เด็ก ฉากสำคัญที่ทุกคนจำได้ก็คือตอนเจ้าชายจูบเจ้าหญิงเพื่อปลุกให้เธอตื่นขึ้นจากการหลับไหลอันยาวนาน แต่ฉากนี้ก็ได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้คุณแม่คนหนึ่งรู้สึกไม่พอใจและไม่เห็นด้วย คุณแม่คนนี้มีชื่อว่า Sarah Hall วัย 40 ปีผู้อาศัยอยู่ในเมือง North Shields ประเทศอังกฤษ เธอบอกว่าการที่เจ้าชายจูบเจ้าหญิงในตอนที่หลับอยู่เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและไม่ควรให้ลูกชายวัย 6 ขวบของเธอต้องมารับรู้อะไรแบบนี้   Sarah Hall คุณแม่ผู้ไม่เห็นด้วยกับการให้เด็กอ่านหนังสือเจ้าหญิงนิทรา   เธอบอกว่า “การจูบผู้หญิงในตอนที่เธอหลับอยู่เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมกับการเป็นอยู่ของสังคมในปัจจุบัน เพราะการจูบที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามความยินยอมของเจ้าหญิงเลย ดังนั้นจึงไม่ควรให้ลูกชายวัย 6 ขวบของฉันต้องมาเรียนเรื่องอะไรแบบนี้ เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็จะจดจำทุกอย่างที่เขาเห็นไป” Sarah ได้เริ่มมีความคิดนี้จากการที่หลายๆ คนเริ่มพูดถึงเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศภายใต้ชื่อ Me Too เธอบอกอีกว่า “นี่เป็นสิ่งที่ปลูกฝังให้กับเด็กๆ แสดงให้เห็นว่าสังคมของเราเต็มไปด้วยพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม แม้อาจดูเป็นสิ่งเล็กๆ แต่มันก็สามารถทำให้เกิดความแตกต่างในความคิด ความเข้าใจของคนได้ เพราะฉะนั้นมันจึงไม่เหมาะที่จะไปอยู่ในนิทานสำหรับเด็ก”   ฉากเจ้าชายจูบเจ้าหญิงเพื่อปลุกให้เธอตื่นจากนิทรา   คุณแม่ยื่นเรื่องไปให้กับทางโรงเรียนของลูกชาย เพื่อให้ถอดถอนนิทานเรื่องเจ้าหญิงนิทราออกจากการเรียนของเด็กเล็ก เธออธิบายว่า “เด็กที่อายุยังน้อยไม่อาจแยกแยะความเหมาะสมในสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ได้ แต่เราสามารถอธิบายความถูกผิด สมควรหรือไม่สมควรให้กับเด็กโตเข้าใจได้”   วันที่ 19 พฤศจิกายน 2017…

  • เปิดเผยเรื่องราวต้นฉบับของหุ่นไม้ ‘พิน็อคคิโอ’ แท้จริงแล้วเป็นเด็กนิสัยไม่ดีที่ไม่ยอมฟังใครเลย!!

    เปิดเผยเรื่องราวต้นฉบับของหุ่นไม้ ‘พิน็อคคิโอ’ แท้จริงแล้วเป็นเด็กนิสัยไม่ดีที่ไม่ยอมฟังใครเลย!!

    หลายคนคงได้ยินนิทานสุดแสนจะคลาสสิคอย่างเรื่อง Pinocchio ที่เป็นเรื่องราวของหุ่นไม้ตัวหนึ่งที่กลับมีชีวิตขึ้นมาอย่างปาฎิหาริย์จนเกิดเป็นเรื่องราวสุดประทับใจ แต่ใช่ว่านั่นจะเป็นเรื่องจริงทั้งหมด เพราะมันยังมีเรื่องราวอีกด้านที่เป็นต้นฉบับของการ์ตูนเรื่องนี้ที่ไม่ได้ถูกหยิบมาเล่าเช่นกัน ย้อนกลับไปในปี 1940 ทาง Disney ได้นำการ์ตูนเรื่องพิน็อคคิโอนี้มาดัดแปลงเนื้อเรื่องใหม่โดยมีเนื้อเรื่องว่ามีช่างไม้ชราคนหนึ่งชื่อว่า Geppetto ที่ใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวโดยไม่มีภรรยาหรือบุตรหลาน     วันหนึ่ง Geppetto ได้เกิดไอเดียในการสร้างหุ่นกระบอกที่ทำจากไม้ขึ้นมา 1 ตัว และในคืนที่สร้างเจ้าหุ่นนี้เสร็จ เขาได้จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่ออธิษฐานขอพรอย่างหนึ่ง ปรากฎว่าเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าเจ้าหุ่นไม้ที่เขาตั้งชื่อให้ว่า Pinocchio ก็มีชีวิตขึ้นมาอย่างมีปาฎิหาริย์ และนี่คือเรื่องราวคร่าวๆ ที่ทาง Disney ได้นำเสนอไว้     แต่ว่าจริงๆ แล้วพิน็อคคิโอได้เกิดนำเนิดมาตั้งแต่ช่วง 1880-1990 แล้วโดยมีผู้แต่งคือ Carlo Collodi ได้ให้ชื่อหนังสือไว้ว่า “The Adventures of Pinocchio” โดยเนื้อเรื่องนั้นจะแตกต่างกับเรื่องที่เรารู้จักโดยสิ้นเชิง สำหรับ Collodi นั้นไม่มีบุตรทั้งชายหรือหญิงและเรื่องที่เขาแต่งขึ้นมานั้นเพราะว่าในสมัยทศวรรษที่ 18 ได้มีการถกเถียงกันในระบบการศึกษาว่าเด็กควรจะเติบโตมาในทิศทางไหน? ในสมัยนั้นมีนักจิตวิทยาคนหนึ่งที่ชื่อว่า Jean Jacques Rousseau ได้ออกมาบอกว่าเด็กๆ ควรที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในชีวิตจากความผิดพลาด ซึ่งผู้ที่แต่งเรื่องนี้ก็มีจุดประสงค์เพื่อจะทำให้เห็นว่าหากเด็กโตมาโดยไม่เชื่อฟังคำผู้ใหญ่จะมีผลลัพธ์เป็นอย่างไร     แม้จะดูเป็นแนวคิดที่เบ็ดเสร็จไปหน่อย แต่นั่นก็คือที่มาของ Pinocchio ซึ่งแต่เดิมนั้นเป็นหุ่นไม้หัวดื้อและเอาแต่ใจโดยเขาจจะไม่ยอมเชื่อฟังใครเลยและจะเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเองเท่านั้น…

  • เจาะตำนานหลายเวอร์ชั่นเก่าๆ ของ ‘หนูน้อยหมวกแดง’ ที่ตอนจบอาจหดหู่กว่าที่ได้ยินมา

    เจาะตำนานหลายเวอร์ชั่นเก่าๆ ของ ‘หนูน้อยหมวกแดง’ ที่ตอนจบอาจหดหู่กว่าที่ได้ยินมา

    ปกติแล้วถ้าพูดถึงนิทานเรื่อง ‘หนูน้อยหมวกแดง’ เราคงคุ้นเคยแต่กับเวอร์ชั่นที่มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับวัยเด็กมากยิ่งขึ้น แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าอันที่จริงแล้ว… เรื่องราวของเด็กสาวกับหมาป่า ถูกนำไปดัดแปลงไว้มากมาย และคราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับเวอร์ชั่นที่มีความโหดร้ายที่มากกว่า     ย้อนกลับไปช่วงศตวรรษที่ 10 ในประเทศฝรั่งเศส ได้มีการนำนิทานเรื่องนี้มาเล่าก่อนแล้ว โดยใช้ชื่อว่า ‘The Story of Grandmother’ ตามแบบฉบับดั้งเดิมเล่าว่า… ‘กาลครั้งหนึ่งมีเด็กสาวถูกไหว้วานจากคุณแม่ให้เอาขนมปังไปให้คุณยาย เมื่อเด็กสาวเดินทางมาถึงสี่แยกแห่งหนึ่ง เธอก็ได้พบกับ bzou หมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ เธอถูกหลอกถามว่าจะนำของไปให้คุณยาย ณ ที่แห่งใด.. เมื่อเจ้า bzou  รู้ที่หมายแล้ว มันจึงรีบไปดักหน้าและฆ่าคุณยายทิ้งและรอการมาถึงของเด็กสาว เมื่อเด็กสาวมาถึง เธอกลับไม่รู้เลยว่าคุณยายของเธอถูก bzou ฆาตกรรมและปลอมตัวเป็นคุณยายซะเอง bzou โน้มน้าวให้เด็กสาวทานอาหารและดื่มไวน์ ที่ทำมาจากเนื้อหนังและเลือดของคุณยายเธอเอง จากนั้นเด็กสาวก็ถูกคุณยายตัวปลอมหว่านล้อมให้ทำตามคำสั่ง ทั้งถอดเสื้อและให้ไปหลับนอนด้วย ทว่าเด็กสาวจับผิดสังเกตได้ว่าคุณยายของเธอมีลักษณะที่แตกต่างจากเดิม เมื่อรู้อย่างนั้นแล้วเด็กสาวก็เรียกร้องที่จะออกไปข้างนอกให้ได้ bzou จึงผูกเชือกไว้กับเท้าของเด็กสาว และปล่อยให้เธอออกไปวิ่งเล่นข้างนอกอยู่ครู่หนึ่งเด็กสาวดูมีท่าทางพิรุธเหมือนกำลังจะผูกเชือกไว้กับอะไรบางอย่าง หมาป่าชักไม่แน่ใจจึงออกไปดูก่อนจะพบว่า.. เด็กสาวได้หนีกลับบ้านไปแล้ว’     Dr. Jamie Tehrani นักมานุษยวิทยา ได้ค้นพบตำนาน ‘หนูน้อยหมวกแดง’ ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นจากยุคกรีกเมื่อศตวรรษที่…

  • รอยสักเล็กๆ น่ารักๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของ “นิทานในวัยเด็ก” เหมาะสำหรับสาวๆ

    รอยสักเล็กๆ น่ารักๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของ “นิทานในวัยเด็ก” เหมาะสำหรับสาวๆ

    เราเคยเสนอรูปแบบการสักแบบน่ารักๆ กันไปมากมายหลายแบบแล้ว ซึ่งในวันนี้ก็เช่นกันเรามีรอยสักในแบบที่มีความน่ารัก เหมาะกับสาวๆ และที่แตกต่างไปจากเดิมก็คือ รอยสักเหล่านี้นั้นสร้างมาเรื่องราวในนิทานที่เรารู้จักกัน ทำให้มองเมื่อไหร่ก็นึกถึงเรื่องราวในวัยเด็กเหล่านั้น   Ahmet Cambaz คือผู้ที่สร้างสรรค์ผลงานรอยสักที่มีเรื่องราวเหล่านี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาเคยทำงานเป็นนักวาดการ์ตูนในนิตยสารแห่งหนึ่งในอิสตันบูล โดยต่อมาภรรยาของเขาสนับสนุนให้ Ahmet แสดงความสามารถในการสัก และการสักของเขานั้นมีเอกลักษณ์ มีเรื่องราว มีความเรียบง่าย แค่ก็ทันสมัยอยู่ในตัว “รอยสักของผมมีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์และสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา”  “เรากำลังมีชีวิตอยู่ในสังคมที่ซับซ้อน นั้นเป็นเหตุผลที่ผมสร้างสรรค์ผลงานขนาดเล็ก ผมอย่างทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น” . . . . . . . . . . . . . . . . . . .   เพื่อนๆ คนไหนที่ถูกใจผลงานของช่างสักคนนี้ ก็สามารถเข้าไปติดตามผลงานได้ที่นี่เลย ahmet_cambaz ที่มา boredpanda

  • ยกเรื่องราวในวัยเด็กมาใกล้ตัวคุณ ด้วย “สร้อยนิทาน” สุดงดงาม จับต้องได้!!

    ยกเรื่องราวในวัยเด็กมาใกล้ตัวคุณ ด้วย “สร้อยนิทาน” สุดงดงาม จับต้องได้!!

    “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว..” เป็นคำพูดที่เราได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ว่าเด็กคนไหนต่างก็รอขอให้พ่อแม่เล่านิทานให้ฟังก่อนนอน ถึงแม้ว่านิทานเรื่องนั้นจะเล่าเป็นร้อยเป็นพันรอบแล้วก็ตาม เพราะเราเชื่อว่าจะทำให้เราฝันดี แต่พอโตขึ้น นิทานก็ไม่จำเป็นสำหรับเราแล้ว แต่บางครั้งก็ยังนึกถึงมันบ้าง เพราะเราเติบโตมากับมัน วันนี้ #เหมียวสามสี จะทำให้ความทรงจำในวัยเด็กของคุณกลับมาอีกครั้งหนึ่งด้วยสร้อยนิทาน นักออกแบบ Laliblue ชาวสเปน ได้ทำสร้อยแฮนด์เมดออกมาด้วยไม้จากธรรมชาติ พร้อมกับวาดเรื่องราวและตกแต่งลงในไม้ด้วยกระดาษ เป็นนิทานที่เราคุ้นเคยไม่ว่าจะเป็น The Little Mermaid, Bambi, Alice In Wonderland และ Cinderella เหมือนกับว่าเรากำลังนั่งไทม์แมกชีนกลับไปไปยังตอนเด็กๆเลย เราไปดูผลงานเหล่านี้กันดีกว่า     แต่ละชิ้นสวยงามและเลอค่ามากๆ ถ้าสนใจก็ลองไปชมได้ที่ Etsy ราคาประมาณ 1,000 – 1,400 บาท ที่มา sobadsogood

  • เรื่องราวของสุนัขที่รอวันจะมีคน “รับไปเลี้ยง” ถ่ายทอดในรูปแบบการ์ตูนยิ้มปนน้ำตา

    เรื่องราวของสุนัขที่รอวันจะมีคน “รับไปเลี้ยง” ถ่ายทอดในรูปแบบการ์ตูนยิ้มปนน้ำตา

    ในประเทศญี่ปุ่นนั้น มีร้านขายสัตว์เลี้ยงอยู่มากมาย ชีวิตเล็กๆเหล่านี้ถูกขายในราคาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับรุปร่างและความสวยงาม และนี่คือเรื่องราวของสุนัขที่เป็นหนึ่งในสินค้านั้น เรื่องนี้กล่าวถึงชีวิตของสุนัขตัวหนึ่งที่มีชีวิตอันน่าเศร้าอยู่แต่ในกรง ไม่มีใครที่จะรับมันไปเลี้ยงเสียที จนกระทั่งวันหนึ่ง ได้มีชายชราได้มองเห็นมัน และพามันกลับบ้านไปเลี้ยง และนี่คือเรื่องราวสุดแสนดราม่า…   ในวันที่ฝนตก มีอากาศหนาวเย็น   สุนัขตัวหนึ่งกำลังรู้สึกเศร้าใจ   จู่ๆ มีผู้หญิงคนหนึ่งมาอยู่อยู่ที่หน้ากรงของมัน เจ้าสุนัขรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก   แต่.. มันไม่ใช่คนที่ถูกเลือก.. เป็นสุนัขโชคดีอีกตัวที่ถูกรับไปเลี้ยงแทน   ในทุกๆ ครั้งที่มันมองออกมาหน้ากรง เจ้าสุนัขที่โชคดีตัวนั้นดูมีความสุขและสนุกกับการออกมาเดินเล่น   ในทุกๆวัน มันรู้สึกเศร้า แต่วันหนึ่ง มีชายชรามองได้หันมามองที่ตัวมัน   และในที่สุด เจ้าสุนัขก็สามารถออกมาสู่โลกกว้างได้แล้ว   บางครั้ง ก็อาจมีขัดใจกันบ้าง   บางที เจ้าสุนัขก็ทำให้เขารำคาญบ้าง   แต่ในทุกๆวัน ชายชราก็ดูแลเอาใจใส่เจ้าสุนัขเป็นอย่างดี   เจ้าสุนัขตัวนี้มีความหมายกับเขามากๆ   หน้าหนาวมาถึงแล้ว และนั่นทำให้ชายชราล้มป่วย   ทุกอย่างเลวร้ายกว่าเดิม เพราะเขาต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล   เจ้าสุนัขรอคอยเขาอยู่ที่บ้าน…

  • ไปดูความแตกต่างระหว่างนิทานเวอร์ชั่นดิสนี่ย์ vs. ความเป็นจริง นี่มันทำลายฝันกันชัดๆ!!

    ไปดูความแตกต่างระหว่างนิทานเวอร์ชั่นดิสนี่ย์ vs. ความเป็นจริง นี่มันทำลายฝันกันชัดๆ!!

    หลายคนอาจเคยทราบมาว่าเหล่าการ์ตูนดิสนี่ย์ทั้งหลายนั้น ถูกดัดแปลงมาจากนิทานพื้นบ้านหรือไม่ก็ตำนานจากทั่วโลก แน่นอน ด้วยความที่เป้าหมายของดิสนี่ย์คือเด็ก พวกเขาจึงต้องปรับเนื้อเรื่องให้เบาลง เพื่อให้เด็กสามารถรับชมได้อย่างมีความสุข แต่วันนี้เหมียวจะพาทุกท่านไปชมความแตกต่างของเรื่องราวระหว่างเวอร์ชั่นดิสนี่ย์กับเวอร์ชั่นความเป็นจริง จะแตกต่างจะฝันสลายขนาดไหน ไปชมกันเลย   Mulan เวอร์ชั่นดิสนี่ย์: มู่หลานกลับมาหาพ่ออย่างปลอดภัยในฐานะฮีโร่ และแต่งงานอยู่กินกับนายกองซางอย่างมีความสุข เวอร์ชั่นจริง : ตอนที่มู่หลานกลับมา พ่อของเธอก็เสียชีวิตแล้ว และอาณาจักรก็ถูกปกครองโดยพวกมองโกล มู่หลายถูกบังคับให้เป็นสนมของท่านข่านกษัตริย์มองโกล ด้วยเหตุนั้นเธอจึงฆ่าตัวตาย   Beauty and The Beast เวอร์ชั่นดิสนี่ย์: เบลล่ากับอสูรอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เวอร์ชั่นจริง : อสูรโกรธเบลล่ามาก จนกินเธอทั้งเป็นหลังจากเข้าพิธีแต่งงาน   The Little Mermaid เวอร์ชั่นดิสนี่ย์ : Ursula ขโมยเสียง Arial ไป สุดท้าย Arial กับ Eric ก็แต่งงานกับอย่างมีความสุขตลอดไป เวอร์ชั่นจริง : Ursula ตัดลิ้นของ Arial และ Arial ต้องทุกข์ทรมาณอย่างมากเวลาอยู่ในร่างมนุษย์ เจ้าชาย Eric แต่งงานกับผู้หญิงอีกคนและบังคับให้…

  • ชาวเน็ตแห่แชร์นิทานเรื่อง “ฉันอยากกินน้ำของโถส้วม” จากฝีมือของเด็ก 7 ขวบ

    ชาวเน็ตแห่แชร์นิทานเรื่อง “ฉันอยากกินน้ำของโถส้วม” จากฝีมือของเด็ก 7 ขวบ

    กลายเป็นเรื่องน่ารักๆที่มีคนกดแชร์มากที่สุดในขณะนี้เลย สำหรับนิทานไอเดียล้ำๆอย่าง “ฉันอยากกินน้ำของโถส้วม” ของน้องแปดวัย 7 ขวบ ผ่านเฟซบุ๊ค Pat little artist โดยเล่าเรื่องจองเด็กชายคนหนึ่งที่ชอบกินน้ำจากส้วมและไม่สามารถหยุดกินได้   ซึ่งล่าสุดมีสมาชิกในเฟซบุ๊คกดไลค์นิทานที่ว่านี้ไปแล้วกว่า 8 พันครั้ง และมีการแชร์ต่อไปอีกกว่า 5 พันครั้งทีเดียว พร้อมกับยังมีข้อความสนับสนุนความสามารถของน้องแปดเข้ามาอีกมากมาย ทำเอาเหมียวภูมิใจแทนคนเป็นพ่อเป็นแม่จริงๆ เราลองไปอ่านนิทานของเขาแบบเต็มๆเลย                               เอ้า สำนักการ์ตูนเจ้าไหนมองเห็นความสามารถของน้องแล้ว ก็ติดต่อเอาไปปั้นได้เลยนะ จินตนาการล้ำแบบนี้อนาคตไกลแน่ๆ   ที่มา Pat little artist