Tag: ต้องห้าม

  • รู้จักกับ 9 สถานที่ ‘ต้องห้าม’ บนโลกใบนี้ ที่ทั้งลึกลับและน่ากลัว อย่าเข้าไปเชียวล่ะ…

    รู้จักกับ 9 สถานที่ ‘ต้องห้าม’ บนโลกใบนี้ ที่ทั้งลึกลับและน่ากลัว อย่าเข้าไปเชียวล่ะ…

    บนโลกของเรานั้นมี สถานที่ต้องห้าม อยู่ไม่น้อยเลยล่ะ สถานที่เหล่านั้นพวกเราไม่มีวันได้เข้าไปเยือนแน่นอน นอกเสียจากว่าเราจะเป็นคนพิเศษเพียงไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ก่อนหน้านี้ #เหมียวโลลิ ได้นำเสนอ 10 สถานที่ต้องห้าม ไปเรียบร้อยแล้ว แต่บอกเลยว่าบนโลกเรามันไม่ได้มีสถานที่ต้องห้ามแค่ 10 แห่งหรอกนะ มันมีมากกว่านั้นอีก… วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ สถานที่ต้องห้ามแสนลึกลับ จากประเทศต่างๆ รอบโลกอีก 9 แห่ง จะมีสถานที่ไหน ณ ประเทศอะไรบ้าง เราไปชมพร้อมๆ กันเลย   1. Ploutonion At Hierapolis (ประตูแห่งเทพพลูโต), ประเทศตุรกี สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่นครโบราณเฮียราโพลีส ประเทศตุรกี เป็นที่ซึ่งเคยอุทิศให้กับเทพความตายแห่งโรมันนามว่า พลูโต ความลึกลับของสถานที่แห่งนี้ก็คือ “สิ่งมีชีวิตใดที่ผ่านประตูแห่งนี้จะพบกับความตายทันที” นักประวัติศาสตร์โบราณเคยทดลองด้วยการปล่อยนกให้บินเข้าไป ผลปรากฏว่านกตัวนั้นก็ตายลง จากนั้นในปี 1965 จึงมีการทดลองทางวิทยศาสตร์แล้วคำอธิบายก็คือ ภายในมีการรวมตัวของก๊าซ CO2 ที่ผิดปกติที่สามารถดับลมหายใจสิ่งมีชีวิตได้ภายในไม่กี่นาที การเข้าไปเยี่ยมชมใกล้ๆ สำหรับมนุษย์นั้นถือว่าไม่มีอันตรายใดๆ แต่หากต้องการผ่านประตูเข้าไปด้านใน เป็นสิ่งที่สถานที่แห่งนี้ “ห้าม” เป็นอันขาด   2. Vatican Secret Archives (หอเอกสารลับนครวาติกัน), นครวาติกัน โบสถ์คาทอลิกในนครวาติกันถือว่าเป็นสิ่งลึกลับพอสมควร…

  • รู้จักกับ 10 สถานที่ ‘ต้องห้าม’ บนโลกใบนี้ ที่ทั้งลึกลับและน่ากลัว อย่าเข้าไปเชียวล่ะ…

    รู้จักกับ 10 สถานที่ ‘ต้องห้าม’ บนโลกใบนี้ ที่ทั้งลึกลับและน่ากลัว อย่าเข้าไปเชียวล่ะ…

    เราอาจสามารถท่องเที่ยวไปยังทุกๆ ประเทศของโลก แต่เราไม่อาจเข้าไปเที่ยวได้ทุกซอกมุมของโลกนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าสถานที่หลายแห่งของโลกก็เป็น สถานที่ต้องห้าม ที่เราจะไม่มีวันได้เข้าไปชม วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ 10 สถานที่ต้องห้าม (บางที่ก็หลอน) พร้อมสาเหตุที่ว่า ทำไมพวกเราถึงถูกห้ามไม่ให้เข้าไปยังสถานที่นั้นๆ จะมีสถานที่ไหน ณ ประเทศอะไรบ้าง เราไปชมพร้อมๆ กันเลย   1. Svalbard Global Seed Vault (โรงเก็บพันธุ์พืช), ประเทศนอร์เวย์ สถานที่แห่งนี้บ้างจะเรียกกันว่า “คลังสมบัติวันโลกแตก” เพราะมันได้เก็บรวบรวมเอาสายพันธุ์พืชที่จำเป็นต่อการดำรงอยู่ของมนุษชาติเอาไว้ทั้งหมดมาเป็นเวลาราวๆ 200 ปีแล้ว มันตั้งอยู่ในหุบเขาน้ำแข็งส่วนลึกของวงแหวนอาร์กติก แม้จะมีภัยพิบัติจากธรรมชาติเกิดขึ้นมันก็ไม่เคยไหวติงสักครั้ง และสถานที่นี้ได้เก็บเมล็ดพืชที่ใช้เป็นอาหารของมนุษย์ไว้ถึง 100 ล้านสายพันธุ์ เลยทีเดียว   2. North Sentinel Island (เกาะเซนทิเนลเหนือ), ประเทศอินเดีย เกาะแห่งนี้เป็นที่อาศัยของชนเผ่าลึกลับที่ตัดขาดจากโลกมนุษย์ภายนอก พวกเขาจะใช้กำลังและความรุนแรงโจมตีผู้ที่บุกรุกเกาะของพวกเขา ในปี 2006 พวกเขาได้ฆ่าชาวประมง 2 รายที่บังเอิญเข้ามายังเกาะนี้ นอกจากนี้พวกเขายังปฏิเสธความช่วยเหลือจากรัฐบาลและผู้คนจากโลกภายนอก จึงทำให้เกาะเซนทิเนลแห่งนี้ต้องกลายเป็นสถานที่ต้องห้ามที่จะไม่มีใครรับผิดชอบหากผู้ฝ่าฝืนเข้าไปแล้วถูกฆ่าโดยชาวเกาะ   3. The Catacombs, กรุงปารีส…

  • ส่องเกาะลับแห่งมหาสมุทรอินเดีย “เซนทิเนล” ที่อาศัยของชนเผ่าดุร้าย ใครอยากลองดี เชิญ!!

    ส่องเกาะลับแห่งมหาสมุทรอินเดีย “เซนทิเนล” ที่อาศัยของชนเผ่าดุร้าย ใครอยากลองดี เชิญ!!

    มนุษย์นักสำรวจจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่ชื่นชอบการสำรวจพื้นที่ที่ยังไม่มีใครเคยไป เช่น ป่าเขาลึก เกาะร้าง หรือพื้นที่ทุรกันดาร เป็นต้น หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจลักษณะนี้ล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณรู้จักกับ เกาะเซนทิเนลเหนือ หนึ่งในหมู่เกาะอันดามันแห่งมหาสมุทรอินเดีย เกาะแห่งนี้ ถือเป็นเกาะต้องห้าม เพราะบนเกาะเป็นที่อยู่อาศัยของ ชนเผ่าเซนทิเนล ที่ว่ากันว่าดุร้าย ไม่เป็นมิตร และปิดกั้นตัวเองจากคนนอก หากใครฝ่าฝืนเข้าไปใกล้ หรือเข้าไปข้างในเกาะ จะถูกโจมตีใส่ในทันที   บนเกาะไม่มีชนกลุ่มอื่นเลย นอกจากเผ่าเซนทิเนล   ทั้งนี้ด้วยความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพและปัญหาทางธรรมชาติ รัฐบาลอินเดียจึงพยายามติดต่อกับชนเผ่านี้ให้ได้ ครั้งหนึ่งเคยส่งฑูตนามว่า T.N. Pandit เข้าไปยังเกาะ เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจเขานำมะพร้าวและของใช้ต่างๆ เข้าไปมอบให้กับชนเผ่า ในครั้งแรก ชาวเผ่าเซนทิเนลก็ต้อนรับเขาโดยไม่มีการคำนับหรือการทักทายใดๆ แต่ T.N. Pandit ก็พบว่าชาวเผ่านั้นมีสุขภาพและชีวิตการเป็นอยู่ที่ดี เติบโตได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งความช่วยเหลือจากภายนอก ภารกิจนี้จึงหยุดลง   เกาะเซนทิเนลเป็นหนึ่งในหมู่เกาะอันดามัน ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย   เกาะเซนทิเนล เป็นเกาะต้องห้ามเนื่องจากเป็นที่อาศัยของชนเผ่าดุร้ายไม่เป็นมิตร   เผ่าเซนทิเนล ปฏิเสธการติดต่อกับโลกภายนอก และจะโจมตีอย่างไม่ยั้งมือ กับทุกคนที่กล้ารุกล้ำเขตแดนของเกาะ   เพราะฉะนั้นอย่าอยากรู้อยากเห็นแล้วพยายามเฉียดเข้าไปใกล้จะดีกว่า   การติดต่อกับโลกภายนอก อาจทำให้พวกเขาได้รับเชื้อโรคจากมนุษย์ภายนอก และนั่นอาจทำให้…

  • 11 สถานที่ต้องห้ามจากทั่วทุกมุมโลก ที่คนธรรมดาไม่มีทางเข้าเยือนได้อย่างแน่นอน

    11 สถานที่ต้องห้ามจากทั่วทุกมุมโลก ที่คนธรรมดาไม่มีทางเข้าเยือนได้อย่างแน่นอน

    หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบ และรักในการผจญภัย เชื่อว่ามีสถานที่เจ๋งๆ มากมายจากทั่วทุกมุมโลกที่คุณอาจจะเคยไปเยือนมาแล้ว แต่เรามั่นใจเลยนะว่า 11 สถานที่ที่เราจะพามารู้จักเหล่านี้ ไม่มีใครที่จะสามารถเข้าไปเยือนได้อย่างแน่นอน เพราะมันขึ้นชื่อได้ว่าเป็นสถานที่ลับ ที่มนุษย์ธรรมดาๆ อย่างเราไม่สามารถเข้าไปได้ ว่าแต่จะมีที่ไหนบ้างนั้น มารับชมกันเลย   11.ฐานลับมอร์มอน ในรัญยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ลึกลงไปภายใต้หินแกรนิตขนาดใหญ่ คุณรู้หรือไม่ว่ามันมีฐานลับที่ถูกสร้างขึ้นโดยลัทธิมอร์มอนซ่อนอยู่ และตามคำบอกเล่าได้ระบุเอาไว้ว่า ภายในหินนั้นเป็นที่เก็บของโบราณเอาไว้ ซึ่งจะมีเพียงแค่กลุ่มคนชั้นสูงของโบสถ์เท่านั้น ที่จะสามารถเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม ฐานลับมอร์มอนยังเป็นสถานที่ที่สามารถทนต่อระเบิดนิวเคลียร์ได้อีกด้วย   10.อุโมงค์เมล็ดพันธุ์พืชแห่งสฟาลบาร์ บนเกาะสปีตสเบร์เกน ประเทศนอร์เวย์ สำหรับอุโมงค์เมล็ดพันธุ์พืชแห่งสฟาลบาร์ บนเกาะสปีตสเบร์เกน ประเทศนอร์เวย์ ที่เปิดในปี 2008 นี้ ว่ากันว่าเป็นสถานที่ที่ใช้ในการเก็บตัวอย่างเมล็ดพันธุ์พืชจากทั่วโลกเอาไว้มากถึง 250 ล้านสายพันธุ์เลยทีเดียว สำหรับเกาะสปีตสเบร์เกน เรียกได้ว่าเหมาะแก่การเก็บเมล็ดพืชเป็นอย่างมาก เนื่องจากมันไม่เกิดแผ่นดินไหว และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล แต่เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ปัญหาโลกร้อนทำให้ระดับน้ำเทสูงขึ้นจนเอ่อล้นเข้าท่วมอุโมงค์ดังกล่าว   9.เกาะนีเฮา ฮาวาย สหรัฐอเมริกา ฮาวายถือเป็นเกาะสวรรค์ แต่ทว่าเกาะเล็กๆ แห่งนี้ กลับไม่สามารถให้ใครเข้าไปได้ เนื่องจากเกาะนี้ได้ถูกขายให้กับครอบครัวเจ้าของโรงงานในปี 1863 และได้ปิดตัวลงในปี…

  • รู้จักกับเกาะ Okinoshima ในญี่ปุ่น อนุญาตให้เฉพาะผู้ชาย “แก้ผ้า” เท่านั้นที่จะเข้าไปได้..!!

    รู้จักกับเกาะ Okinoshima ในญี่ปุ่น อนุญาตให้เฉพาะผู้ชาย “แก้ผ้า” เท่านั้นที่จะเข้าไปได้..!!

    ใครที่ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น คงทราบดีว่าที่นี่มีทั้งเกาะแมว เกาะกระต่าย ฯลฯ แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับเกาะที่เป็นพื้นที่สำหรับผู้ชายเท่านั้น Okinoshima เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เขตของเมืองฟุกุโอกะ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือทั้งเกาะมีประชากรเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ผู้ซึ่งทำหน้าที่คอยปกป้องดูแลศาสนสถานประจำเกาะแห่งนี้   หน้าตาของเกาะ Okinoshima   ถ้าตามหาบนกูเกิ้ลแมพ เกาะก็จะอยู่แถวๆ ตรงนี้…   นอกจากจะเป็นเกาะที่อนุญาตให้เฉพาะผู้ชายเข้าไปได้เท่านั้นแล้ว ตามประเพณีผู้ชายทุกคนที่มาบนเกาะนี้จะต้องเปลือยกายด้วยเช่นกันตามหลักปรัชญาของลัทธิชินโต ส่วนสาเหตุที่ไม่ให้ผู้หญิงสามารถเข้ามาบนเกาะนี้ได้ ตามตำนานว่ากันว่าในช่วงศตวรรษที่ 17 มีหญิงสาวที่ย่างกรายมาบนเกาะนี้ และถูกเปลี่ยนให้เป็นหิน   แต่นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า น่าจะมาจากพื้นฐานความเชื่อของลัทธิชินโต ที่เชื่อว่าเลือดประจำเดือนของผู้หญิง เป็นสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์   The Japan Times รายงานว่าบริเวณเกาะดังกล่าวสำหรับชาวบ้านแล้ว เป็นเหมือนศาสนสถานที่ต้องให้ความเคารพ ซึ่งเป็นที่ๆ พวกเขาเชื่อว่ามีพระเจ้าทรงประทับอยู่ เดิมทีเกาะแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของศาลเจ้า Munakata Taisha ซึ่งก่อนหน้านี้จะอนุญาตให้เฉพาะนักบวชสามารถเข้าไปทำพิธีในเกาะได้เท่านั้น และปัจจุบันได้เปิดต้อนรับชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นผู้ต้องการเดินทางมาประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว     ล่าสุดเกาะแห่งนี้ได้ถูกเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกจากองค์กร UNESCO แต่ด้วยความที่มันถูกรักษาให้เป็นศาสนสถาน ไม่ใช่สถานที่สำหรับท่องเที่ยว จึงทำให้กลุ่มคนผู้ดูแลที่นี่ปฏิเสธการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไป Takayuki Ashizu นักบวชรุ่นอาวุโสผู้ดูแลเกาะแห่งนี้เล่าถึงสาเหตุที่ไม่ยอมขึ้นเป็นมรดกโลกไว้ว่า ‘ทางเราไม่คิดที่จะนำเกาะแห่งนี้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ถึงแม้ว่ามันจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น มีเม็ดเงินเพิ่มมากขึ้น…

  • 20 ภาพถ่ายจาก “สถานที่ต้องห้าม” ทั่วทุกมุมโลก ด้วยมุมมองของโดรนที่คนไม่ค่อยได้เห็น

    20 ภาพถ่ายจาก “สถานที่ต้องห้าม” ทั่วทุกมุมโลก ด้วยมุมมองของโดรนที่คนไม่ค่อยได้เห็น

    ต้องบอกเลยนะว่า โลกของเราใบนี้ไม่ได้เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ที่สวยงาม และน่าตื่นตาเพียงอย่างเดียว แต่มันยังเต็มไปด้วยความลับมากมายที่เราไม่เคยรู้ และเห็นมาก่อน โดยเฉพาะสถานที่ต้องห้ามจากทั่วโลก ที่เราอาจจะไม่ทราบความจริงเลยสักนิดว่า มันคืออะไรแน่ อีกทั้งยังไม่เคยเห็นภาพ หรือเข้าไปเยี่ยมชมเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่อย่างน้อยก็ยังพอมีโอกาสได้เห็นอยู่บ้าง เพราะเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง “โดรน” สามารถช่วยให้เรามองเห็นสถานที่ที่เราไม่เคยคิดว่าจะไปได้ และนั่นก็อาจจะทำให้เราได้เห็นว่าโลกนี้มีสถานที่ที่ถูกทำลายร้าง และน่ากลัวอยู่ไม่น้อย   1.ซีเรีย เมื่อ Homs ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของซีเรีย ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสำคัญของซีเรีย บัดนี้ใกล้กลายเป็นเมืองร้างเข้าไปทุกที เพราะหันไปทางไหนก็เจอแต่ซากตึกปรักหักพังอยู่เต็มไปหมด หลังจากที่ได้ถูกทำลายอย่างรวดเร็ว จากการต่อสู้อันหนักหน่วงระหว่างฝ่ายกองทัพรัฐบาล และฝ่ายกบฏ ส่งผลกระทบพื้นที่ดังกล่าวถูกทำลายไปจนเกือบหมดสิ้น และผู้คนบริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตไปนับกว่าพันคน .   2.กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน Trey Ratcliff ช่างภาพชาวอเมริกัน อยากที่จะเรียนรู้ว่าทำไมพระราชวังต้องห้าม (Palace Museum) ที่ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่งเป็นพระราชวังอิมพีเรียลของราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง จึงถูกเรียกว่า “The Forbidden City” ดังนั้น จึงทำให้เขาอยากที่จะบันทึกภาพถ่ายจากมุมสูงของพระราชวังดังกล่าวเอาไว้ แต่ทว่าการใช้โดรนบินผ่านสำนักงานใหญ่ของรัฐบาลจีนอาจเป็นสิ่งที่ต้องควรระวัง แต่อย่างน้อย Trey ก็โชคดี ที่สามารถถ่ายภาพทางอากาศได้ก่อนที่เขาจะถูกทางการของจีนจับได้ “การตัดสินใจที่จะถ่ายภาพพระราชวังต้องห้ามของจีน เป็นเหมือนกับ Luke…

  • 14 สถานที่ (ไม่) ลับจากทั่วโลก แต่คนธรรมดาเข้าไปไม่ได้ และคุณล่ะจะไปไหม!?

    14 สถานที่ (ไม่) ลับจากทั่วโลก แต่คนธรรมดาเข้าไปไม่ได้ และคุณล่ะจะไปไหม!?

    เคยอยู่เฉยๆ แล้วเกิดความรู้สึกว่าอยากจะออกไปผจญภัยในโลกกว้าง แบบที่ไม่ต้องกลับมานั่งทำงาน ตั้งแต่เช้าจรดเย็น และเที่ยวไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดบ้างมั้ย? มีงานวิจัยมากมายบอกว่า การได้เดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ ส่งผลดีหลายด้านต่อทั้งร่างกาย และสุขภาพใจเรา แต่ทว่ายังมีบางสถานที่ ที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าไปได้ ถึงแม้ว่าจะอยากไปมากแค่ไหนก็ตาม เราไปดูกันเลยว่ามีที่ไหนบ้าง   1. เกาะงูคลั่งในบราซิล เป็นเกาะที่ถูกทางการบราซิลสั่งปิดตาย ไม่ให้นักท่องเที่ยวคนไหนเข้ามาย่างกรายที่นี่โดยเด็ดขาด เพราะทั่วทั้งเกาะเต็มไปด้วยงูพิษร้ายแรงจำนวนมาก มีเพียงแค่นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มเท่านั้น ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปศึกษาพื้นที่นี้ได้   2. เกาะเฮิร์ด เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ใกล้กับแอนตาร์กติก มีเพียงนักท่องเที่ยวจำนวน 400 คนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเที่ยวได้ต่อปี แต่กว่าจะไปถึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องนั่งเรือนาน 2 อาทิตย์ แถมยังต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคด้านสภาพอากาศที่แปรปรวนสุดๆ   3. Surtsey ในไอซ์แลนด์ ความพิเศษของเกาะนี้คือ มันเกิดขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟในช่วงยุค 1960s และมันถูกควบคุมไม่ให้มนุษย์เข้าไปสำรวจ เพื่อทำการศึกษาการเป็นไปของเกาะแห่งนี้ตามธรรมชาติอย่างแท้จริง   4. ถ้ำลาสโกในฝรั่งเศส นับว่าเป็นถ้ำที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของมนุษย์มาก เพราะด้านในเต็มไปด้วยภาพศิลปะบนกำแพงของมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์ ครั้งหนึ่งมันเคยเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ทว่าในปี 1963 ถ้ำแห่งนี้ถูกปิดตัวลง เพื่อรักษาความสวยงามจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ ให้คงอยู่ต่อไป   5. เกาะเซนติเนลเหนือ เกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอันดามัน…

  • ช่างภาพแอบถ่ายรูปในประเทศ “เกาหลีเหนือ” เผยให้เห็นสิ่งที่ผู้นำคิมไม่อยากให้ทั่วโลกเห็น!!

    ช่างภาพแอบถ่ายรูปในประเทศ “เกาหลีเหนือ” เผยให้เห็นสิ่งที่ผู้นำคิมไม่อยากให้ทั่วโลกเห็น!!

    ใครๆ ต่างก็รู้ว่าประเทศเกาหลีเหนือนั้นเคร่งมากเรื่องการถ่ายรูปในประเทศของเขา เพราะว่ามันมีบางภาพที่เขาไม่ได้ต้องการให้ทั่วโลกได้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริง ประเทศเกาหลีเหนือเป็นรัฐคอมมิวนิสต์ ซึ่งนำโดยผู้นำ “คิม จอง อิล” แต่แล้วก็ได้มีช่างภาพคนหนึ่งชื่อว่า Michal Huniewicz เขาได้ท่องเที่ยวไปยังประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งในประเทศก็เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมพร้อมกับถ่ายรูปด้วย แต่รูปก็ต้องผ่านการตรวจสอบอีกทีว่ามีรูปที่เหมาะสมหรือไม่ ในขณะที่เขาถ่ายรูปอยู่นั้นไกด์ทัวร์ก็มักจะพูดเตือนบ่อยๆว่า “คุณถ่ายรูปเยอะเกินไปแล้วนะ” แต่เขาก็สามารถนำภาพเหล่านั้นกลับออกมานอกประเทศได้ ซึ่งเขาได้บอกว่าเป็นช่วงเวลาที่เครียดมากจริงๆ เราไปชมภาพที่เขาได้ถ่ายให้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่ในประเทศเกาหลีเหนือกันเลยดีกว่า แล้วจะรู้ว่ามันไม่เหมือนอย่างที่เราคิด   เราจะได้เห็นทหารคุมอยู่ทุกพื้นที่ในเปียงยาง   ความแตกต่างระหว่างเกาหลีเหนือ(ซ้าย) และประเทศจีน(ขวา)   ภาพตอนกลางคืน   คุณต้องกรอกแบบฟอร์มก่อนที่จะเข้าไป   ภาพแรกที่เขาได้ถ่าย คือถ่ายจากรถไฟ แน่นอนว่ามันผิดกฎหมายที่นั่น   ผู้คนรอขายของเสียเพื่อที่จะเอาไปเป็นปุ๋ย   พรรคแรงงานแห่งเกาหลีเป็นพรรคเดียวที่อยู่คู่ประเทศนี้มานาน   ถ้าจะไปเที่ยวที่ไหนก็ต้องขออนุญาตก่อน   ทหารเกาหลีเหนือ   ความภาคภูมิใจ   เมื่อมาถึงเปียงยาง เขาเชื่อว่าทั้งหมดเป็นการจัดฉาก เพราะว่าไม่มีรถไฟสายอื่นในวันนั้นเลย แต่กัลบมีนักท่องเที่ยวอยู่ที่นั่นอย่างไม่มีเหตุผล   ที่แห่งนี้ต้องเดินตามไกด์ทุกอย่าง เขาจะเป็นผู้นำในการตื่นและหลับของนักท่องเที่ยว   ถนนในเกาหลีเหนือ   สถาปัตยกรรมในเปียงยาง  …

  • รวม 10 คำพูดที่ไม่ควรพูดกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เพราะมีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง!!

    รวม 10 คำพูดที่ไม่ควรพูดกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เพราะมีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง!!

    โรคซึมเศร้า (Depression) อาจเป็นสิ่งที่ยังใหม่สำหรับสังคมไทย ในอดีตหลายคนอาจคิดว่าอาการนี้เป็นเรื่องของสภาพจิตใจและความคิด แต่ที่จริงแล้ว มันเกิดมาจากการหลั่งของสารเคมีในสมอง จนกระทั่งมีคนดังหลายคน เสียชีวิตจากโรคนี้ ทำให้เกิดกระแสการระมัดระวังและตื่นตัวในโรคซึมเศร้าขึ้นในไทย และแม้หลายคนจะมีจิตใจดีอยากช่วยเหลือผู้ป่วยโรคซึมเศร้า แต่หารู้ไม่ บางครั้งการพยายามช่วยเหลือกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจผู้ป่วยยิ่งกว่าเดิม วันนี้เหมียวจึงรวบรวม 10 คำพูดที่ไม่ควรพูดกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เพราะนอกจากคำพูดเหล่านั้นจะไม่ช่วยอะไรแล้ว ยังทำให้สิ่งต่างๆ เลวร้ายลงไปอีกด้วย จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย   10. “ลองหยุดพักแล้วไปเที่ยวดูสิ” การไปเที่ยวไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาโรคซึมเศร้า และยิ่งไปกว่านั้น ถ้าระหว่างที่พวกเขาไปเที่ยวแล้วเจอเหตุการณ์อะไรไม่ดีอีก พวกเขาอาจซึมเศร้าหนักกว่าเดิมก็เป็นได้   9. “ลองคิดบวกสิ”   หลายคนอาจไม่รู้ว่า การเป็นโรคซึมเศร้าและคิดอะไรแต่ในแง่ลบ บางครั้งเกิดจากสารเคมีในสมอง ฉะนั้นจะมาบอกแค่ว่า “ลองคิดบวกสิ” มันไม่ได้เป็นเรื่องง่ายขนาดนั้นหรอก   8. “ลองออกกำลังกายดูสิ” หลายคนอาจเคยได้ยินว่า การออกกำลังกายจะช่วยลดความเครียดได้ นั่นก็เป็นเรื่องจริง แต่สำหรับคนที่เป็นโรคซึมเศร้านั้น ถ้าอยากให้พวกเขาไปออกกำลังกายจริงๆ พยายามหว่านล้อมให้เขาตัดสินใจไปด้วยตัวเอง อย่าบังคับเด็กขาด ไม่อย่างนั้น เขาอาจรู้สึกเครียดกว่าเดิมก็เป็นได้   7. “หาอะไรทำสิ จะได้ไม่คิดมาก” การหางานทำเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดมาก อาจช่วยได้ในคนที่มีสภาพจิตใจปกติ…