ภาพพี่อุ๋งหน้าเหวอ กับเบื้องหลังอันแสนเจ็บปวด โดนเพนกวินเจนทูจกลูกป๋องแป๋ง…

บางครั้งเราอาจสามารถเข้าใจสิ่งที่อารมณ์ทางสีหน้าของสิ่งมีชีวิตบางตัวที่สื่อออกมาว่าในขณะนั้นมันรู้สึกอะไรอยู่ แต่มันก็ใช่ว่าเราจะเข้าใจถูกเสมอไป เพราะอย่างรูปภาพนี้ ถ้าเราเห็นแค่หน้าของมันก็อาจเข้าใจว่าแมวน้ำตัวนี้กำลังมีความสุขหรือไม่ก็ตื่นเต้นกับอะไรบางอย่างอยู่แน่ๆ เลย

 

ภาพของแมวน้ำตัวหนึ่งที่กำลังอ้าปากกว้างงง

 

แต่ทว่าความจริงแล้วมันกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย เพราะนี่มันคือสีหน้าความเจ็บปวดของเจ้าแมวน้ำช้างที่โดนเพนกวินเจนทูจิกเข้าไปบริเวณส่วนหลัง จนทำให้มันต้องแหกปากร้องโอดโอยออกมาอย่างน่าสงสาร

 

ความจริงแล้วมันกำลังถูกเพนกวินจิกอยู่

 

สิ่งที่เราได้เห็นนี้เป็นผลงานของช่างภาพสัตว์ป่ามากฝีมือจากนอร์เวย์ Roy Mangersnes ซึ่งคาดว่าเขาน่าจะเข้าไปเก็บภาพดังกล่าวนี้ในช่วงเดือนมีนาคมหรือพฤศจิกายนปี 2017 เพราะเป็นนั่นเป็นสองเดือนที่จะมีการอนุญาตให้เข้าไปในเขตแอนตาร์กติกาได้

 

จิกเข้าไปตรงนั้นเลยหรอ นั่นมันพื้นที่ของรักของข้าเลยนะ

 

เขาบอกว่าในวันนั้นเขาได้เข้าไปเก็บภาพสิ่งมีชีวิตบนหมู่เกาะ Shetland ทางตอนใต้ของแอนตาร์กติกา แล้วก็ได้ไปเจอกับฝูงเพนกวินเจนทูจำนวนมากกำลังนอนกันอยู่ตรงริมชายหาด

 

ตะโกนสู้เลย นี่แหน่ะ

 

แต่ท่ามกลางฝูงเพนกวินเหล่านั้น กลับมีเจ้าแมวน้ำช้างตัวหนึ่งไปนอนอยู่โดยไม่ทราบสาเหตุ และนั่นก็คงทำให้เจ้าถิ่นเกิดความไม่พอใจ เลยจิกเข้าไปที่ส่วนด้านหลังของแมวน้ำซะเลย เจ้าสัตว์ต่างถิ่นก็ถึงกับเชิดหน้าร้องครวญครางออกมา ราวกับชายหนุ่มที่โดนเตะเข้าลูกป๋องแป๋งอย่างจัง

 

อะจ๊าก…รุมจกกันแบบนี้ หนังถลอกหมดแล้ววว

 

นับว่าเป็นภาพที่พอเราได้รู้เบื้องหลังของมันจริงๆ แล้ว ทำเอารู้สึกเหมือนกับว่ามันช่างต่างกับที่หลายๆ คนเข้าใจกันในตอนแรกเสียเหลือเกิน นี่แหละนะที่เขาเรียกว่ารู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ คนเราจะมองแต่ภายนอกอย่างเดียวก็ไม่ได้ มันก็ต้องมองเข้าไปถึงภายในด้วยอ่ะเนาะ

นี่ไม่ใช่ผลงานแรกของ Roy ที่ได้เข้าไปเก็บภาพของเจ้าแมวน้ำช้างในเขตเดียวกันนี้เอาไว้ เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยมีโอกาสเข้าไปพร้อมกลุ่มนักท่องเที่ยว ก่อนที่จะได้เก็บภาพความน่ารักของแมวน้ำช้างตัวหนึ่งที่มานอนอยู่บนตักของนักท่องเที่ยวสาวอย่างน่ารักน่าเอ็นดู

 

คลิปเจ้าแมวน้ำตัวน้อยเข้ามากอด มานอนตักนักท่องเที่ยวสาว

 

ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักมากๆ เลยนะ อุ๋งอุ๋ง

 

ที่มา: dailymail , goodtimes

Comments

Leave a Reply