Tag: violence

  • งานที่แย่ที่สุดในบริษัทเฟซบุ๊ก “ผู้ตรวจสอบเนื้อหารุนแรง” เหมือนเครื่องจักรที่ไม่มีใครใส่ใจ

    งานที่แย่ที่สุดในบริษัทเฟซบุ๊ก “ผู้ตรวจสอบเนื้อหารุนแรง” เหมือนเครื่องจักรที่ไม่มีใครใส่ใจ

    บนโลกอินเทอร์เน็ตอันไร้ขอบเขตใดๆ ผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะเสพสื่อต่างๆ ตามความชื่นชอบหรือความสนใจของตัวเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด และด้วยความไร้ขอบเขตเหล่านี้ โลกอินเทอร์เน็ตจึงมีสภาพเป็นสีเทา ที่มีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีอยู่ โดนเฉพาะบนเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ค และเพื่อให้สังคมกลุ่มหนึ่งอยู่ภายใต้การควบคุม เนื้อหาที่ถูกเผยแพร่ออกมาจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ก็จะต้องผ่านผู้ดูแลตรวจสอบเสียก่อน เพื่อไม่ให้ความไม่จรรโลงใจไปกระทบกับจิตใจของผู้อื่นในวงกว้าง     งานดังกล่าวก็คือ งานตรวจสอบเนื้อหาของผู้ดูแลระบบหลังบ้านของเฟซบุ๊ก โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เพื่อคอยจัดการ ‘ตรวจสอบและลบ’ เนื้อหาที่ถูกแจ้งละเมิดเข้ามาทุกๆ วัน เป็นพันๆ เคส     หนึ่งในผู้ดูแลทางด้านดังกล่าวนามว่า Laura เปิดเผยว่า งานดังกล่าวเป็นงานที่สำคัญที่สุด และแย่ที่สุดในเฟสบุ๊ก อีกทั้งยังไม่มีใครใส่ใจอะไรกับงานนี้เลย… เนื่องจากการทำงานของเธอจะต้องเจอกับ เนื้อหาที่ล่อแหลมและกระทบกระเทือนจิตใจ อย่างเช่น การตัดหัว สื่อลามกเด็ก การทารุณกรรมสัตว์ ฯลฯ     สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้ตรวจสอบเนื้อหาจะต้องพบเจอทุกวัน จากการรายงานเข้ามาของผู้ใช้งานของเฟซบุ๊ก เธอเปิดเผยว่าตัวผู้ทำงานจะกลายมาเป็นเครื่องจักร ที่คอยทำการกดปุ่มถัดไป ปุ่มใช่หรือไม่ใช่ กระบวนการดังกล่าวจะวนลูปกลายมาเป็น กดถัดไป ตัดสินใจ และกดถัดไป ตัดสินใจ หลายต่อหลายครั้งภายในหนึ่งวัน     สำหรับ…

  • ครอบครัวตั้งกล้อง แอบถ่ายพี่เลี้ยงเด็กที่ทำร้ายลูกของเขาด้วยการทุบตีและบีบจมูก

    ครอบครัวตั้งกล้อง แอบถ่ายพี่เลี้ยงเด็กที่ทำร้ายลูกของเขาด้วยการทุบตีและบีบจมูก

    ปัจจุบันหลายครอบครัวนิยมจ้างพี่เลี้ยงเด็กให้มาดูแลลูกของตัวเอง เพราะตนเองไม่ว่างและไม่อยากปล่อยให้เด็กอยู่ในบ้านตามลำพัง แต่ก่อนจะรับพี่เลี้ยงเด็กมาควรจะตรวจสอบประวัติและพฤติกรรมของเธอให้ดี ไม่เช่นนั้นลูกของคุณอาจจะลำบากเพราะการเลี้ยงดูที่ไม่ดีของพี่เลี้ยงเด็กเอาได้เหมือนกับครอบครัวนี้ Elena Levendeeva เป็นคุณแม่อายุ 26 ปี เธออาศัยอยู่ในเมือง Nefteyugansk ประเทศรัสเซีย เมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งจ้าง Anastasia Zhelyabova หญิงอายุ 31 ปี มาเป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ให้กับลูกชายอายุ 8 เดือนของเธอ   Elena Levendeeva และลูกชายของเธอ   แต่พอพี่เลี้ยงมาดูแลลูกได้ไม่นาน เธอก็สังเกตเห็นว่าลูกของเธอร้องไห้งอแงทุกครั้งเมื่อพี่เลี้ยงคนนี้มาทำงาน เธอจึงเอะใจว่าบางทีพี่เลี้ยงคนนี้อาจจะเลี้ยงลูกของเธอได้ไม่ดีก็ได้ เธอจึงลองติดกล้องวงจรปิดไว้ในบ้านเพื่อสังเกตพฤติกรรมของพี่เลี้ยงดู หลังจากติดกล้องวงจรปิดได้วันเดียวเท่านั้น สิ่งที่กล้องบันทึกภาพได้ก็ทำให้เธอโมโหมาก เพราะ Zhelyabova ใช้ความรุนแรงกับลูกของเธอหลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว   ในตอนต้นของคลิป ในขณะที่เธอกำลังให้นมหนุ่มน้อยอยู่ เขาคงขัดขืนจนทำให้เธอโมโหเธอก็เลยใช้มือตบก้นและหน้าของเขา   เท่านั้นยังไม่พอตอนที่เธอป้อนนมหนุ่มน้อยอยู่ เธอก็ใช้มือบีบจมูกของเขาเอาไว้ด้วย เพื่อบังคับให้เขาดื่มนมเข้าไป   หลังจากเธอป้อนนมเขาเสร็จเธอก็จับมือของเด็กชายไว้และลากเขาไปตามทาง แล้วเธอก็โยนเด็กน้อยไปบนพื้นข้างๆ กันด้วย   พอดูคลิปวิดีโอที่เธอแอบถ่ายเอาไว้จบ เธอก็ตัดสินใจนำคลิปวิดีโอส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้พวกเขาดำเนินคดีกับ Zhelyabova ทันที นอกจากนี้เธอยังอัปโหลดคลิปวิดีโอลงในโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับครอบครัวอื่นที่คิดจะจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกของตัวเองด้วย โดยเธอโพสต์ว่า “เนื่องจากลูกของฉันร้องไห้บ่อยมาก ฉันก็เลยลองติดกล้องวงจรปิดดู…

  • ข้อความสุดเศร้า จากลูกถึงพ่อแม่ ระหว่างเหตุกราดยิง ภายในโรงเรียนรัฐฟลอริดา

    ข้อความสุดเศร้า จากลูกถึงพ่อแม่ ระหว่างเหตุกราดยิง ภายในโรงเรียนรัฐฟลอริดา

    ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมานี้เกิดเหตุยิงปืนในโรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High School เมืองฟลอริด้า รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา มีคนเสียชีวิตมากถึง 17 คน กลายเป็นเหตุสะเทือนขวัญที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังในขณะนี้     ช่วงที่คนร้าย Nikolas Cruz เริ่มเปิดฉากกราดยิงได้ไม่นาน หน่วย S.W.A.T ยังไม่ได้เข้าไปควบคุมสถานการณ์ในทันที ช่วงนั้นเองก็มีนักเรียนติดอยู่ในโรงเรียนเป็นจำนวนมาก พวกเขาทำได้เพียงหลบในห้องเรียนโดยหวังว่ามือปืนจะไม่มาเจอพวกเขาเข้า     ระหว่างนั้นพวกเขาก็ส่งข้อความติดต่อกับทางบ้านด้วย เพื่อหาที่พึ่งทางจิตใจ และเป็นการติดต่อกันเผื่อในกรณีที่ตัวเองอาจไม่มีชีวิตรอดกลับมาเจอกัน ลองไปดูกันว่าในเหตุการณ์นั้นนักเรียนส่งข้อความอะไรไปหาพ่อแม่บ้าง   ถ้าหนูไม่รอดกลับไป หนูอยากให้แม่รู้ว่าหนูรักแม่มาก และอยากขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่ทำให้หนูมาตลอด   พ่อบอกลูกชายว่าแม่อยากจะไปรับเขาออกมาจากโรงเรียน แต่ลูกชายบอกว่าอย่ามาเพราะมันอันตรายแถมตำรวจก็ล้อมบริเวณนั้นไว้แล้ว พ่อจึงบอกให้เขาซ่อนตัวและขอให้เขาปลอดภัย   ข้อความจากนักเรียน James Harrison ส่งถึงพ่อเลี้ยงของเขาว่า “ที่โรงเรียนมีคนยิงกันอยู่ ผมกลัวมากเลย ผมรักพ่อนะ ถ้าทำได้พ่อช่วยโทรแจ้งตำรวจด้วย แต่อย่าโทรมาหาผมเพราะผมต้องอยู่เงียบๆ เพื่อหลบคนร้าย”   คุณพ่อบอกให้ลูกเอาโต๊ะมาทำเป็นกำบังไว้ ลูกจึงบอกว่าเขาอยู่ตรงมุมห้องกับเพื่อนๆ และเขาอยู่มุมด้านในสุด ต่อมาลูกได้ยินเสียงกรีดร้องจากบริเวณใกล้เคียง คุณพ่อจึงบอกว่าเขารักลูก…

  • คุณแม่ออกความเห็น เด็กใช้ปืนสร้างความรุนแรงไม่ควรโทษพ่อแม่ มันมีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น…

    คุณแม่ออกความเห็น เด็กใช้ปืนสร้างความรุนแรงไม่ควรโทษพ่อแม่ มันมีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น…

    ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2018 ที่ผ่านมา เกิดเหตุยิงปืนในโรงเรียนของประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนมาก ล่าสุดในรัฐฟลอริด้าก็เพิ่งมีอดีตนักเรียนได้ก่อเหตุกราดยิงภายในโรงเรียน จนมีผู้เสียชีวิตถึง 17 ราย (ตามอ่านข่าวได้ ที่นี่) ทางด้านเพจเฟสบุ๊ก Everytown for Gun Safety ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านการใช้ความรุนแรงด้วยปืนกล่าวว่าเหตุการณ์นี้เป็นการยิงกันครั้งที่ 18 ตั้งแต่เริ่มต้นคริสตศักราช 2018 อีกทั้งสำนักข่าว FOX 26 Houston ก็ชี้ข้อมูลมาในทางเดียวกันด้วย   แผนที่แสดงจุดที่มีการใช้ปืนยิงบริเวณใกล้เคียงกับโรงเรียนตั้งแต่ต้นปี 2018 จนถึงปัจจุบัน   เมื่อชาวเน็ตได้เห็นข้อมูลดังกล่าวแล้วก็รู้สึกเช่นกัน ว่าเกิดเหตุความรุนแรงจากการใช้ปืนเป็นจำนวนมากในระยะเวลาเพียงแค่เดือนกว่าๆ เอง ชาวเน็ตส่วนหนึ่งนั้นเห็นว่าต้นเหตุน่าจะมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่ล้มเหลว โดยพวกเขาพูดไว้แบบนี้   Eric Smith บอกว่า “ถ้าเราเอาเด็กๆ ออกจากโรงเรียนรัฐ แล้วเลี้ยงดูพวกเขาเองอย่างดีก็คงจะไม่เกิดปัญหาพวกนี้ขึ้น แต่ก่อนถึงเราจะมีปืินแต่ไม่มีโรงเรียนก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย”   Todd Benzkofer บอกว่า “มีการอนุญาตให้คนทั่วไปใช้ปืนมาตั้งหลายปีแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่สาเหตุของการยิงกันเหล่านี้ แต่คนที่ยิงปืนต่างหากที่เป็นปัญหา อะไรบางอย่างในสังคมของเราเปลี่ยนเด็กเล็กให้กลายเป็นเศษสวะ บางทีอาจจะเป็นสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่เป็นปัญหาก็ได้”   Gwen Papillion เองก็บอกว่ามันเป็นความผิดของพ่อแม่นั่นแหละที่ปล่อยปละละเลยให้เด็กมีอาวุธในครอบครองได้แบบนั้น พ่อแม่ควรจะใส่ใจลูกให้มากกว่านี้เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น  …

  • สาววัยรุ่นอายุ 13 ปี ก่อเหตุตบหน้า “หญิงวัยกลางคน” กลางถนนในกรุงลอนดอน

    สาววัยรุ่นอายุ 13 ปี ก่อเหตุตบหน้า “หญิงวัยกลางคน” กลางถนนในกรุงลอนดอน

    แม้ทุกคนจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่าความรุนแรงไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงให้เห็นอยู่เป็นประจำ เมื่อไม่นานมานี้ที่ประเทศอังกฤษเองก็เกิดเหตุใช้ความรุนแรงที่ไม่ทราบเหตุผลขึ้น โดยเด็กสาววัยรุ่นอายุ 13 ปีคนหนึ่งได้เข้าไปตบหน้าหญิงวัยกลางคนอย่างโจ่งแจ้ง คลิปนี้ถูกเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตและมีคนรับชมจำนวนมาก     เหตุเกิดขึ้นกลางถนน Hounslow Hign ที่พลุกพล่านในกรุงลอน ประเทศอังกฤษ คลิปวิดีโอนี้ถูกอัปโหลดลงในอินสตาแกรมเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมานี้เอง การใช้ความรุนแรงครั้งนี้ถูกบันทึกภาพไว้ด้วยกล้องมือถือของคนที่อยู่ในบริเวณนั้น จะเห็นได้ว่านอกจากเด็กสาวและหญิงสาวแล้ว ยังมีวัยรุ่นชายอยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่เห็นเหตุการณ์นั้น และน่าจะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งเห็นเหตุการณ์จากด้านหลังกล้องมือถือด้วย ในช่วงแรกของคลิปวิดีโอสาววัยรุ่นซึ่งสวมชุดนักเรียนอยู่ตะคอกใส่หญิงสาวว่า “แกกำลังพูดถึงใครอยู่” ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่าหญิงสาวอาจจะพูดบางอย่างกับเธอก่อนหน้านี้หรือไม่ได้พูดก็ได้ แต่กล้องบันทึกภาพไว้ได้ไม่ทัน     หญิงวัยกลางคนเองก็ไม่ได้ตอบอะไร เธอเพียงแค่ส่ายหน้าด้วยท่าทางตื่นกลัว แต่เด็กสาวรุ่นก็ตบหน้าเธออย่างแรง ทางด้านหญิงสาวทำได้เพียงกรีดร้องด้วยความตกใจและยืนร้องไห้อยู่นิ่งๆ เท่านั้น หลังจากที่สาววัยรุ่นตบหน้าหญิงสาวแล้วเธอก็เดินหนีออกไปจากที่เกิดเหตุทันที ส่วนหญิงวัยกลางคนก็มีคนที่อยู่ในบริเวณนั้นเข้ามาช่วยเหลือและให้กำลังใจเธอ คลิปวิดีโอจบลงเพียงเท่านี้ คลิปวิดีโอนี้ถูกอัปโหลดลงในโปรแกรมสแนปแชต โดยผู้ที่ใช้ชื่อว่า Skye หลังจากนั้นไม่นานคลิปวิดีโอก็ถูกนำไปเผยแพร่ต่อในอินสตาแกรมและมีคนเข้าไปชมมากกว่า 200,000 คนแล้ว     เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลเรื่องนี้ให้ข้อมูลว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2018 เวลา 16.10 น. ทางด้านสาววัยรุ่นมีอายุเพียง 13 ปี ส่วนหญิงสาวที่โดนตบนั้นมีอายุประมาณ…

  • คุณแม่อธิบายว่าทำไมถึงหัวเสียจนต้องตีลูก หลังลูกทำตั๋วรถไฟราคา 5 หยวนหาย

    คุณแม่อธิบายว่าทำไมถึงหัวเสียจนต้องตีลูก หลังลูกทำตั๋วรถไฟราคา 5 หยวนหาย

    เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2018 ที่ผ่านมานี้ในเว็บไซต์ Pear Video  ซึ่งเปรียบเสมือนยูทูบของประเทศจีน ได้มีคนอัปโหลดคลิปวิดีโอของคุณแม่คนหนึ่งที่ตีลูกชายเพราะเขาทำตั๋วรถไฟหาย ในคลิปเธออธิบายถึงสาเหตุของการตีลูกให้ชาวเน็ตฟังด้วย ชาวเน็ตได้ฟังแล้วก็พูดไม่ออกเลย     โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นในรถไฟใต้ดินในเมือง Nanchang มณฑล Jiangxi ประเทศจีน คุณแม่ท่านหนึ่งเดินทางมากับลูกชายของเธอ แต่จู่ๆ เธอก็โกรธลูกชายแล้วทุบเขาที่หลัง ทำให้คนในรถไฟหันมาสนใจเธอกันหมดเลย คนที่อยู่ใกล้ๆ ก็เลยนำมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ ตอนที่เธอตีลูกนั้นเธอพูดว่า “ทำไมพูดแล้วไม่ยอมฟังเลย เวลาที่บอกว่าอย่าเล่นก็ห้ามเล่น เข้าใจไหม!” จากนั้นเรื่องก็ดูเหมือนจะสงบลง แต่ผ่านไปสักพักเธอก็ตีลูกอีกครั้งหนึ่งและด่าลูกไม่หยุดเลย คนที่เห็นเหตุการณ์อยู่จึงทนดูไม่ได้     เมื่อแม่และลูกลงจากรถไฟใต้ดินแล้ว คนที่ถ่ายคลิปอยู่จึงเข้าไปสอบถามเหตุการณ์จากคุณแม่ เธอจึงอธิบายว่าสาเหตุที่เธอตีลูกไปเพราะโมโหที่เขาทำตั๋วรถไฟราคา 5 หยวน (ประมาณ 25 บาท) หายไปนั่นเอง พอได้ฟังแล้วหญิงที่อยู่ข้างๆ ก็เลยแนะนำว่าแค่ซื้อตั๋วใหม่เสียก็จบแล้ว ทว่าคุณแม่กลับตอบมาว่า “ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอก” เธออธิบายต่อว่าแม้ว่าเงินจำนวนนั้นอาจจะดูไม่มากสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับเธอแล้วเงินจำนวนนั้นมีค่ามากกว่าที่คนอื่นคิด เธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีเงินเดือนเพียง 900 หยวน (ประมาณ 4,500 บาท) เท่านั้น แต่ค่าใช้จ่ายในการดูแลลูกชายแต่ละเดือนก็ปาเข้าไป 1,000 หยวน…

  • สองหนุ่มบุกรุกฟาร์มผึ้ง ทำลายรวงผึ้งซะราบเป็นหน้ากลอง ผึ้งกว่าครึ่งล้านตายเรียบ

    สองหนุ่มบุกรุกฟาร์มผึ้ง ทำลายรวงผึ้งซะราบเป็นหน้ากลอง ผึ้งกว่าครึ่งล้านตายเรียบ

    ผึ้งอาจจะเป็นสัตว์ที่หลายคนหวาดกลัว เพราะหากถูกมันต่อยเข้าล่ะก็จะรู้สึกเจ็บแสบไม่ใช่น้อยเลย แต่จริงๆ แล้วผึ้งเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อโลกนี้มาก มันมีส่วนช่วยในการผลิตพืชผักกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกเลยทีเดียว แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ผึ้งมีจำนวนลดน้อยลงมากเนื่องจากมีการใช้ยาฆ่าแมลง นอกจากนี้แหล่งที่อยู่อาศัยของมันยังถูกบุกรุกด้วย และเหตุการณ์ที่เด็กชายสองคนบุกไปฆ่าผึ้งในฟาร์มกว่า 500,000 ตัวก็คงมีผลไม่น้อยเลยทีเดียว     เหตุเกิดที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง Wild Hill Honey ในเมือง Sioux รัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีเด็กชาย 2 คนอายุ 12 ปีและ 13 ปีบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ของฟาร์มผึ้งแห่งนี้ จากนั้นทั้งคู่ก็ทำลายข้าวของทุกอย่างที่ขวางหน้า รวมไปถึงรวงผึ้งด้วย จากนั้นตำรวจจึงจับกุมเด็กชายทั้งสองคน นาย Engelhardt เจ้าของฟาร์มเล่าว่า “พวกเขาทำลายรวงผึ้งทุกรวงทิ้งราบคาบ ทำให้ผึ้งทุกตัวของเราตาย เหมือนกับว่าพวกเขาทำให้เราหมดตัวเลยทีเดียว” และในเมื่อรวงผึ้งพังทลายลงไปหมด ก็เป็นเหตุให้ผึ้งที่เลี้ยงไว้ไม่มีที่อยู่ด้วย ในหน้าหนาวแบบนี้ผึ้งก็ย่อมจะทนลมหนาวไม่ได้เป็นธรรมดา ผึ้งที่มีอยู่กว่าครึ่งล้านตัวในฟาร์มจึงตายเกลี้ยง     นอกจากนี้ข้าวของอุปกรณ์ในฟาร์มก็เสียหายเช่นกัน ดังที่เจ้าของบอกว่า “พวกเขาบุกเข้ามาในห้องเก็บอุปกรณ์ของเรา แล้วก็เอาอุปกรณ์ทุกอย่างโยนทิ้งไว้กลางหิมะ จากนั้นก็ทำลายทุกสิ่งที่เห็น ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาขโมยอะไร แต่ข้าวของทุกอย่างนั้นพังหมดเลย” เมื่อคำนวณมูลค่าความเสียจากการถูกบุกรุกครั้งนี้แล้วรวมเป็นมูลค่ามากถึง 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 2…

  • ชายชาวเมเลย์พุ่งเข้าตบหญิงสาวผู้ไม่สวมฮิญาบ เมื่อเธอบอกว่ามีสิทธิ์เลือกที่จะไม่ใส่

    ชายชาวเมเลย์พุ่งเข้าตบหญิงสาวผู้ไม่สวมฮิญาบ เมื่อเธอบอกว่ามีสิทธิ์เลือกที่จะไม่ใส่

    เมื่อเวลาผ่านไป ความเชื่อและระเบียบวินัยด้านศาสนาก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ยกตัวอย่างเรื่องที่พระสงฆ์ต้องซ้อนรถจักรยานยนตร์เพื่อเดินทางไกลแล้ว แม้ว่าในทางวินัยจะไม่ควรทำ แต่คนอีกส่วนหนึ่งก็เข้าใจว่าต้องปรับให้เข้ากับยุคสมัยตามสมควร อย่างไรก็ตามในสังคมของเราก็ยังมีทั้งกลุ่มคนที่เป็นพวกอนุรักษณ์นิยม ที่เชื่อว่าทุกอย่างควรจะเป็นไปตามกฎดั้งเดิมของศาสนาเท่านั้น และคนอีกกลุ่มที่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงแล้วอาศัยอยู่ร่วมกัน จึงอาจะทำให้เกิดความขัดแย้งกันได้   ชายหนุ่มสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงวอร์ม เข้าไปคุยกับหญิงชุดดำ   เหตุการณ์นี้ก็เป็นผลจากความขัดแย้งเรื่องระเบียบของศาสนาเช่นกัน เรื่องเกิดขึ้นที่จุดรอรถประจำทางในประเทศมาเลเซีย โดยมีชายคนหนึ่งเดินเข้าไปต่อว่าและทำร้ายหญิงกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่รอรถอยู่ เนื่องจากพวกเธอไม่ยอมสวมผ้าโพกหัวตามความเชื่อของศาสนาอิสลาม คลิปนี้ถูกถ่ายไว้โดยคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ในคลิปจะเห็นว่าชายซึ่งสวมเสื้อกันหนาวแขนยาวและกางเกงวอร์ม ได้เข้าไปถามหญิงสาวที่แต่งตัวด้วยชุดสีดำว่าเธอนับถือศาสนาใด เมื่อเธอตอบเขาว่านับถือศาสนาอิสลาม เขาจึงถามต่อด้วยท่าทางโมโหว่าทำไมเธอถึงไม่สวมผ้าโพกหัว   เขาไม่พอใจที่เธอไม่ยอมสวมผ้าโพกหัวตามความเชื่อดั้งเดิมของศาสนาอิสลาม   หญิงสาวก็ตอบเขาว่าเธอไม่สวมผ้าโพกหัวเพราะมันเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะเลือกใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ทว่าคำตอบของเธอทำให้เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า แล้วใช้หลังมือตบหน้าเธอทันที ทันทีที่คนรอบข้างเห็นดังนั้น พวกเธอก็ลุกขึ้นมาปกป้องหญิงสาว และต่อว่าชายคนดังกล่าวทันที โดยหญิงที่สวมผ้าโพกหัวและถือโทรศัพท์มือถืออยู่ได้ลุกขึ้นมาเถียงกับผู้ชายคนนี้แทนหญิงที่ถูกตบหน้า และคลิปวิดีโอก็จบลงเพียงเท่านี้   ชายหนุ่มตบหน้าหญิงสาวในที่สาธารณะทันทีที่ได้ยินคำตอบจากเธอ   คลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กของประเทศมาเลเซีย และได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก โดยคนที่ได้เห็นคลิปนี้แล้ว ส่วนหนึ่งรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของชายคนนี้เอาเสียเลย   คลิปวิดีโอเหตุการณ์   ประชากรกว่า 30 ล้านคนในเทศมาเลเซียนั้นเป็นคนที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในประเทศเลยทีเดียว และตามความเชื่อดั้งเดิมแล้ว ผู้หญิงอิสลามก็ควรจะสวมผ้าโพกหัวเวลาออกไปข้างนอกบ้านด้วย ไม่เช่นนั้นจะถือว่าแต่งกายไม่มิดชิด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ คนในประเทศมาเลเซียมีความเชื่อเรื่องอนุรักษณ์นิยมของศาสนาอิสลามเพิ่มมากขึ้น ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงใดๆ…