Tag: book

  • หมาจรจัดแอบคาบหนังสือ ‘ช่วงเวลาที่ฉันโดนทิ้ง’ ไปอ่าน ดังระเบิดจนมีคนรับไปดูแล

    หมาจรจัดแอบคาบหนังสือ ‘ช่วงเวลาที่ฉันโดนทิ้ง’ ไปอ่าน ดังระเบิดจนมีคนรับไปดูแล

    ณ ร้านหนังสือของมหาวิทยาลัย Feevale University ในเมือง Novo Hamburgo รัฐ Rio Grande do Sul ประเทศบราซิล จู่ๆ ก็มีสุนัขจรจัดสีน้ำตาลตัวหนึ่งมาปักหลักอาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ไม่มีใครรู้เลยว่าเจ้าหมามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร มันอาจจะถูกนำมาทิ้งไว้ก็ได้ หรือมันอาจจะเป็นหมาจรจัดที่มาจากที่อื่นก็ได้เช่นกัน แต่ที่แน่ๆ ก็คือทุกคนสามารถพบเห็นมันได้ใกล้ๆ กับร้านหนังสือแห่งนี้     จนเมื่อกลางเดือนมีนาคม ปี  2018 ที่ผ่านมา เจ้าหมาก็สร้างวีรกรรมที่นำพาชื่อเสียงมาให้กับตัวเอง มันได้แอบย่องเข้าไปในร้านหนังสือ แล้วคาบหนังสือเล่มหนึ่งออกไปอย่างเงียบๆ แถมหนังสือที่มันขโมยไปก็เป็นเรื่อง ‘The Days of Abandonment (ช่วงเวลาที่ฉันโดนทิ้ง)’ อีกด้วย ถ้านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เจ้าหมาก็คงเอาหนังสือไปอ่านเพื่อปลอบใจตัวเองล่ะมั้ง กว่าพนักงานในร้านจะรู้ตัวว่าหนังสือหายไป ก็ตอนที่ชายคนหนึ่งเดินเอาหนังสือเข้ามาคืนในร้านแล้ว ชายคนนั้นเห็นเจ้าสุนัขคาบหนังสือออกไปจากร้าน ก็เลยหยิบมาคืนให้นั่นเอง   เหตุการณ์ทั้งหมดถูกบันทึกไว้ในกล้องวงจรปิดของร้านอย่างชัดเจน พนักงานก็เลยเอาคลิปวิดีโอนี้ไปเผยแพร่ลงในโซเชียลมีเดีย มีชาวเน็ตเข้าไปดูคลิปกันมากตั้งเกือบล้านครั้งเชียวนะ เจ้าหมาก็เลยกลายเป็นที่รู้จักของชาวเน็ตและคนส่วนมากในมหาวิทยาลัยไปทันที หลังจากนั้นมันก็ได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ พวกเขาพามันไปหาสัตวแพทย์เพื่ออาบน้ำและฉีดวัคซีนด้วย ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้   เป็นเซเลบแล้วก็มีคนพาไปหาหมอเลย   ได้อาบน้ำแว้ว ตัวห๊อมหอม ทีนี้คนก็จะแย่งกันกอดแล้ว  …

  • 22 พฤติกรรมของ “หนอนหนังสือ” ที่คนธรรมดาจะไม่เข้าใจ แต่เหล่าคนรักการอ่านนั้นรู้ดี…

    22 พฤติกรรมของ “หนอนหนังสือ” ที่คนธรรมดาจะไม่เข้าใจ แต่เหล่าคนรักการอ่านนั้นรู้ดี…

    คนที่ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจมักจะมีพฤติกรรมบางอย่างที่แตกต่างจากคนทั่วไป หลักๆ ก็คือพวกเขามีความรักการอ่านที่สูงกว่าคนธรรมดาทั่วไปจนเทียบไม่ติดเลยนั่นแหละ คนที่ไม่ใช่คอหนังสืออาจะทำความเข้าใจคนชอบอ่านได้ยาก วันนี้เราเลยลองรวบรวมพฤติกรรมและนิสัยบางอย่างที่คนชอบอ่านหนังสือน่าจะเป็นกันมาให้ทุกคนได้ดู เจอกันคราวหน้าจะได้เข้าใจพวกเขามากยิ่งขึ้น   1. ว่าด้วยเรื่องการชอปปิ้ง แทนที่จะเอาเงินไปซื้อเสื้อผ้าสวยๆ หรือของใช้เหมือนคนทั่วไป พวกเขาคิดว่าเก็บเงินไว้ซื้อหนังสือนี่แหละดีที่สุด     2. บางครั้งเราก็รู้สึกว่าการได้อ่านหนังสือเงียบๆ มีความสุขกว่าการออกไปสังสรรค์พูดคุยกับคนหมู่มากเสียอีก   3. แม้ว่าจะอ่านหนังสือเล่มเก่าจนจบหมดแล้ว แต่ก็ทำใจทิ้งมันไม่ลงอยู่ดี ขอยอมให้หนังสือกองท่วมบ้านยังดีซะกว่า   4. เมื่อคุณเข้าสู่โลกของการอ่านแล้ว ไม่ว่าจะโจรขึ้นบ้าน ไฟไหม้ แผ่นดินไหว หรือโลกแตกก็ไม่สามารถฉุดคุณให้หยุดอ่านได้     5. นักอ่านตัวจริง ต้องอ่านหนังสือได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นบนรถไฟฟ้า หรือตอนว่างจากการทำงาน   6. ถ้าเกิดหนังสือเล่มไหนถูกเอาไปทำเป็นภาพยนตร์ แต่พวกเขายังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนั้นก่อน ก็จะไม่มีวันไปดูภาพยนต์เรื่องนั้นจนกว่าจะได้อ่านหนังสือจบเด็ดขาด   7. สำหรับคนที่เป็นแฟนของคนชอบอ่านหนังสือ คุณไม่จำเป็นต้องหาเรื่องคุยกันตลอดเวลาก็ได้ แค่นั่งเป็นเพื่อนเธอตอนเธออ่านหนังสืออยู่ก็ได้ใจเธอไปเต็มๆ แล้ว 8. หนังสือแต่ละเล่มเปรียบเสมือนเพื่อนคนหนึ่ง แม้ว่าเราจะใช้เวลาด้วยกันมาไม่มาก แต่เธอจะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป     8. ด้วยความที่อ่านหนังสือมามาก เวลาจะจีบใครสักคน หนอนหนังสือมักจะมีสกิลในการพูดจาไพเราะเพราะพริ้งเหมือนกับบรรยายฉากรักอยู่เลย แต่บอกไว้ก่อนว่าเราพูดไม่ค่อยเก่งหรอกนะ   9. คนรักการอ่านจะต้องจัดเวลาว่างให้ตัวเองได้อ่านหนังสือเสมอ ถ้าหากเพื่อนชวนไปเที่ยวแต่ไม่ได้อ่านหนังสือล่ะก็…

  • ความป่วนชวนฮาสไตล์ ‘บรรณน่ารัก’ ก็อยู่ห้องสมุดมันว่าง อยากแกล้งคนแบบน่ารักๆ บ้าง!!

    ความป่วนชวนฮาสไตล์ ‘บรรณน่ารัก’ ก็อยู่ห้องสมุดมันว่าง อยากแกล้งคนแบบน่ารักๆ บ้าง!!

    บรรณารักษ์เป็นเจ้าหน้าที่ประจำห้องสมุด ที่คอยดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของทั้งหนังสือและคนใช้ห้องสมุดด้วย หลายคนจึงมองว่าพวกเขาเป็นคนเข้มงวดมากๆ ไหนจะแต่งตัวในสไตล์เจ้าระเบียบอีก แต่ลึกๆ แล้วบรรณารักษ์ที่คุณเคยเจออาจจะเป็นคนที่มีอารมณ์ขันมากคนหนึ่งเลยก็ได้ เพียงแต่พวกเขาต้องรักษากฎระเบียบของห้องสมุดไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ก็เลยห้ามไม่ให้คุณคุยเสียงดัง หรือไม่มาคุยเล่นกันในห้องสมุดแค่นั้นเอง วันนี้เราได้รวบรวมความน่ารักที่เหล่าบรรณารักษ์เตรียมไว้ในห้องสมุดให้ผู้อ่านได้คลายเครียดกัน พอคุณเห็นแล้วจะรู้สึกว่าการหยอกล้อเหล่านี้ช่างเต็มไปด้วยความเป็น ‘บรรณน่ารัก’ จริงๆ   ตอนแรกก็งงที่เข้าห้องสมุดไปเจอแพนด้าทำงานอยู่ ที่แท้ก็แค่ใส่หมวกนี่เอง   หลายคนมักจะเข้าไปถามหาหนังสือจากบรรณารักษ์ แต่ดันจำชื่อหนังสือไม่ได้ จำได้แค่สีเท่านั้น บรรณารักษ์เลยจัดโซนหนังสือสีแดงให้ซะเลย   และก็แถมให้อีกโซนหนึ่งสำหรับหนังสือสีฟ้าด้วย หนังสือสีไหนก็ไปหากันเอาเลย   รู้ไหมทำไมไดโนเสาร์ถึงสูญพันธุ์? เพราะพวกมันไม่อ่านหนังสือไงล่ะ ถ้าไม่อยากสูญพันธุ์ก็อ่านหนังสือซะนะ   มุมหนังสือลึกลับจริงๆ ด้วย ลึกลับจนไม่รู้เลยว่าหนังสือเล่มไหนเป็นเรื่องอะไร พี่บรรณารักษ์แกเล่นหันสันเข้าไปด้านในหมดเลย   รู้สึกหนาวเหรอ? มาเอาหนังสือไปอ่านสักเล่มสิ! ถึงมันจะไม่ช่วยให้คุณหายหนาว แต่อย่างน้อยก็มีหนังสืออ่านนะ   บรรณารักษ์ท่าจะว่างจัด เรียงชั้นหนังสือให้เป็นวิวซะเลย เหมือนมองกระจกเงาอยู่ยังไงยังงั้น   จ๊ะเอ๋ ตกใจรึเปล่า (เอามาใส่ไว้ทำม๊ายยย)   ถ้าคุณกำลังมองหาอาวุธอยู่ล่ะก็ ‘หนังสือ’ นี่แหละเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในโลก   ทิ้งคอมฯ ไว้แป๊บเดียว กลับมาเจอการ์ดเตือนระวังของหายจากบรรณารักษ์ “คราวหน้าคนที่มาเจออาจจะเป็นขโมยก็ได้…”…

  • 20 แผนภาพของโลก แสดงสิ่งต่างๆ ที่เปิดหูเปิดตา ให้เรากระจ่างแจ้งถึงอะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อน!!

    20 แผนภาพของโลก แสดงสิ่งต่างๆ ที่เปิดหูเปิดตา ให้เรากระจ่างแจ้งถึงอะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อน!!

    โลกใบนี้มีเรื่องราวมากมายให้ค้นหา บางเรื่องเป็นเรื่องใกล้ตัว บางเรื่องเป็นเรื่องไกลตัวที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน แต่วันนี้มีหนังสือที่รวบรวมความจริงบนโลกนี้มาให้เราดูแล้ว หนังสือนี้มีชื่อว่า New Views: The World Mapped Like Never Before ที่เขียนโดย Alastair Bonnett ศาสตราจารย์ด้านสังคมและภูมิศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ได้ใช้ข้อมูลต่างๆ จากดาวเทียมที่แสดงให้เห็นถึงเรื่องที่โลกกำลังเป็นไปในปัจจุบันอย่างแม่นยำ อาทิ ระดับน้ำทะเล อัตราการบริโภคน้ำตาล หรือกระทั่งการจัดระดับความสุข  และนี่คือข้อมูลบางส่วนจากหนังสือเล่มนี้   เส้นทางการเดินเรือต่างๆ ในมหาสมุทร เส้นสีฟ้าที่ปรากฎในแผนภาพ แสดงให้เห็นถึงเส้นทางการเดินเรือต่างๆในมหาสมุทร ผ่านมหาสมุทรแปซิฟิคเหนือ มหาสมุทรแอนแลนติกเหนือ รวมทั้งมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งมีเรือจำนวนมากที่ใช้ข้อมูลนี้ในการเดินเรือ   จุดที่ดาวเคราะห์ขนาดเล็กตกสู่โลก แผนภาพนี้ถูกเผยแพร่ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 จากองค์การนาซ่า เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงจุดที่ดาวเคราะห์ขนาดเล็กที่มีขนาดตั้งแต่ 1 เมตรไปจนถึง 20 เมตร ที่ตกลงมาบนโลกระหว่างปี 1994-2013 โดยจุดสีส้มคือดาวเคราะห์ที่ตกลงมาในเวลากลางวัน สีน้ำเงินคือ ดาวเคราะห์ที่ตกลงมาในเวลากลางคืน และขนาดที่แตกต่างกันคือผลกระทบจากการตกของดาวเคราะห์ ในภาพแสดงให้เห็นว่ามันกระจายไปทั่วโลก ซึ่งไม่มีที่ไหนที่สามารถจะหลบได้บนโลกใบนี้   ทะเลที่โลกยังไม่รู้จัก นักวิทยาศาสตร์กว่า 2,700 คนและนักสำรวจทะเลกว่า 540 คน…

  • ผศ. ทำหนังสือหาย ก็เลยสั่งเล่มใหม่มา แต่ทว่าดันได้เล่มเดิมที่หายไป กลับมาซะงั้น!?

    ผศ. ทำหนังสือหาย ก็เลยสั่งเล่มใหม่มา แต่ทว่าดันได้เล่มเดิมที่หายไป กลับมาซะงั้น!?

    กลายเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้จริง แต่มันก็ดันเกิดขึ้นแล้ว กับกรณีที่ว่าของหายไปแล้ว แต่ดันได้คืนมาเป็นชิ้นเดิมที่ทำหายไป ซึ่งถ้าในกรณีปกติทั่วๆ ไปเลยก็คือ การสั่งของใหม่มาแทนอันเก่าก็มักจะเป็นของใหม่ไปเลย… อาจจะฟังดูงงๆ แต่กรณีนี้เกิดขึ้นกับ Gena Zuroski ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาขาภาษาอังกฤษและวัฒนธรรมศึกษา จากมหาวิทยาลัย McMaster ที่ทำหนังสือเล่มหนึ่งของเธอหายไปจากบนชั้นในห้องทำงานของตัวเอง     ในเมื่อมันหายไปแล้ว เธอก็เลยทำการสั่งหนังสือเล่มเดิมมาใหม่เพื่อมาแทนเล่มเก่า แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อหนังสือที่สั่งไปมาส่งถึงมือเธอ เพราะมันก็คือเล่มเดิมที่หายไปนั่นเอง!!   Gena Zuroski กับหนังสือที่หายไป   เธอให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed News ไว้ว่าเธอซื้อหนังสือเล่มนี้จากร้าน Brown Bookstore ในระหว่างที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาเอก และเก็บหนังสือเล่มนี้ไว้บนชั้นหนังสือในห้องทำงานของเธอ เพื่อให้นักศึกษาได้ยืมไปอ่าน   ‘หนังสือเล่มนี้เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากๆ ฉันใช้งานมันอย่างหนักในระหว่างการทำงานวิจัยวิทยานิพนธ์ แล้วมาถึงจุดหนึ่งที่ฉันให้นักศึกษายืมไปใช้ และไม่ได้คืนกลับมาเลย ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้มักจะเกิดเป็นประจำซะด้วย’ ‘มันเป็นหนังสือที่ฉันมักจะแนะนำให้นักศึกษานำไปใช้อยู่บ่อยๆ จนกลายมาเป็นต้นเหตุที่ทำให้มันหายไป และก่อนช่วงคริสต์มาส ฉันก็คิดว่ามันเป็นอะไรที่แย่มาก ที่ไม่มีเล่มสำรองเก็บไว้ในห้องทำงาน ก็เลยตัดสินใจสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้ผ่านเว็บไซต์อเมซอน โดยเลือกเล่มมือสองที่มีราคาถูกที่สุดมา’   จนกระทั่งหนังสือเล่มที่เธอสั่งเอาไว้ มาส่งถึงมือ… เธอรู้สึกว่าคงจะแปลกๆ ถ้าได้อ่านหนังสือที่ผ่านการไฮไลท์เนื้อหาของคนอื่นมาแล้ว  …

  • 15 รูปภาพชวนคิดลึก ที่สำคัญมันดันไปอยู่บน ‘หนังสือเด็ก’ นี่สิ ผู้ใหญ่เห็นนี่ยิ้มกรุ้มกริ่มแน่ๆ

    15 รูปภาพชวนคิดลึก ที่สำคัญมันดันไปอยู่บน ‘หนังสือเด็ก’ นี่สิ ผู้ใหญ่เห็นนี่ยิ้มกรุ้มกริ่มแน่ๆ

    ในสมัยเด็กแน่ล่ะต้องมีหนังสือให้อ่านกันเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนิทานก่อนนอน หนังสือการ์ตูน หรือหนังสือเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะ ความคิดต่างๆ แต่หารู้ไม่ว่าที่ต่างประเทศเขามีหนังสือที่เป็นนิทานหรือหนังสือเรียนแบบฮาๆกันด้วยนะ ไม่รู้ว่าคนเขียนเขาจงใจหรือพลาดอะไรรึป่าวนะ   1. ฉันต้องการเด็กผู้ชาย – เพื่อที่จะได้เป็นเกาะที่มีแต่ความสุข เด็กน้อย อย่ากลัวไปเลยยย TT   2. จูบ แน่ใจนะ ว่านั่นใช่จูบ ไม่ใช่รู…   3. เกี่ยวกับความอึดอัด รูปมันสื่ออะไรแปลกๆ (เอ็งไม่ได้จะทำไรไอ้แกะใช่ไหม??)   4. ถ้าคุณหัวเราะ แสดงว่าคุณคิดไปไกลละล่ะ หญิงสาวคนนั้นทำอะไรน๊อออ?   5. ไม่มีเด็กคนไหนอยากรู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านของ Roger แล้วไอ่ something ที่ว่าคืออะไรง่ะะะ   6. นี่คือการสอนเกี่ยวกับร่างกายม้าที่ถูกต้องใช่มั้ย? แล้วไอ่ใต้ม้านั้นคืออาร๊ายยยยยยยยย!!!!   7. ไม่มีใครอยากรู้หรอก เหมียวว่า ท่าทางมันแปลกๆพิกล   8. ความลับฉบับสิงโต   9. นั่งแล้วดูอะไร? นั่นดิ่ นั่งแล้วมองไรฟระะ เจ้าหมีมอง……

  • ทะลึ่งตึงตัง แต่น่าลองนะ!! หนังสือเกรี๊ยนเกรียนโผล่ ‘กามสูตร สตาร์ วอรส์’ ท่วงท่าแห่งจักรวาล

    ทะลึ่งตึงตัง แต่น่าลองนะ!! หนังสือเกรี๊ยนเกรียนโผล่ ‘กามสูตร สตาร์ วอรส์’ ท่วงท่าแห่งจักรวาล

    โอ้ยยยยย!! คือแบบว่ากระแสหนังมันแรงจริงอะไรจริง แรงจนฉุดไม่อยู่ มีของเล่น ของขายคลอดออกมาตามๆ กันแบบไม่หยุด ล่าสุดนี้เหมียวก็ไปเจอของที่เกี่ยวข้องกับสงครามกาแลคซี่อีกแล้ว แต่รอบนี้เป็นหนังสือที่มาพร้อมกับความทะลึ่งตึงตังแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน   แท่น แท๊นนนน เปิดด้วยภาพปกของหนังสือก่อนเลย   หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า ‘Star Wars Kamasutra’ หรือ กามสูตรฉบับสตาร์วอรส์ นั่นแหละ อย่างที่รู้ๆ กันว่ากามสูตรก็คือเรื่องของเพศศึกษา ว่ากันด้วยท่วงท่าและลีลาส่งตรงมาจากกาแลคซี่อันไกลโพ้น และไม่ได้มาเล่นๆ นะมีขายจริงในราคา 17.55 ดอลลาร์ (ประมาณ 632 บาท)   แนะนำท่าแรก AT-AT Style สาธิตโดยหุ่น AT-AT ตัวที่หนึ่งและสอง พร้อมฮาน โซโล กับ R2D2 เป็นตัวประกอบ     ท่าต่อไป กองทัพโคลนจู่โจม สาธิตท่าโดยเหล่าทหารโคลนนั่นแหละ   ท่า The Perfect Man สาธิตโดยเจ้าหญิงเลอากับฮาน โซโล ในร่างแช่แข็ง…

  • ถูกใจคนชอบฉีกกระดาษ เหมียวขอเสนอสมุดที่สามรถฉีกได้ และต่อกลับเข้าไปใหม่ได้!?

    ถูกใจคนชอบฉีกกระดาษ เหมียวขอเสนอสมุดที่สามรถฉีกได้ และต่อกลับเข้าไปใหม่ได้!?

    เชื่อว่าในสมัยเรียนนั้น คงมีหลายๆ คนที่มีนิสัยชอบฉีกสมุด เพื่อนำมาเขียนโน๊ต ทำรายงานหรืออะไรก็แล้วแต่ การฉีกสมุดนั้น แม้ว่าจะเป็นเรื่องง่าย แต่ก็ทำให้สมุดนั้นเสียรูปทรง และหากฉีกบ่อยๆ ก็อาจทำให้แม็กนั้นหลุดและกระดาษทั้งหมดก็อาจหลุดออกมาด้วย     ด้วยปัญหาเหล่านี้เอง เหมียวเลยอยากจะขอนำเสนอ The Rekonect สมุดเล่มแรกของโลก ที่ถูกออกแบบมาเพื่อฉีกและต่อกลับเข้าไปใหม่ได้นั่นเอง!!     เจ้าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ถูกออกแบบมาให้ใช้แม่เหล็กเป็นสันสมุด แทนที่จะเป็นกาวแบบเดิม ทำให้เราจะสามารถถอดมันออก หรือใส่มันกลับเข้าไปใหม่ แถมยังสามารถสลับหน้าของมันได้อย่างสะดวกอีกด้วย     ด้วยคุณสมบัติที่สามารถฉีกและใส่มันกลับเข้าไปได้นั้น ทำให้เราสามารถฉีกกระดาษไปถ่ายเอกสารโดยที่นำกลับมาเก็บที่เดิมได้ หรือขยับกระดาษขึ้นลงเพื่อความสะดวกในการจดข้อความก็ได้เช่นกัน       ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   หากใครอยากได้สมุดนี้มาไว้ในครองครองล่ะก็ เหมียวขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะเจ้า The Rekonect ยังอยู่ในขั้นตอนการระดมทุนอยู่ หากใครสนใจลองเข้าไปชมต่อได้ที่ kickstarter เลยนะจ๊ะ ที่มา Charles Goodman , boredpanda

  • ไอเดียเก๋!! จีนเปิดตัว ‘ร้านหนังสือซื่อสัตย์’ ไม่ต้องมีพนักงานขาย ใช้ความซื่อสัตย์ล้วนๆ

    ไอเดียเก๋!! จีนเปิดตัว ‘ร้านหนังสือซื่อสัตย์’ ไม่ต้องมีพนักงานขาย ใช้ความซื่อสัตย์ล้วนๆ

    เมื่อวันที่ 29 ก.ค. เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่ามีการเปิดตัว ‘ร้านหนังสือซื่อสัตย์’ ร้านหนังสือแนวใหม่ที่ไม่ต้องมีโต๊ะคิดเงิน หรือพนักงานคอยเฝ้าแม้แต่คนเดียว เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในเมืองนานจิงมณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน   นโยบายของร้านนี้มีเพียงข้อความสั้นๆว่า “จ่ายได้เท่าที่คุณจะจ่าย” ร้านหนังสือซื่อสัตย์ตั้งอยู่บนถนน Xinjiekou โดยตัวร้านจะมีขนาดเล็กและมีชั้นวางหนังสือเพียง 4 ชั้นเท่านั้น   ตัวร้านหนังสือ ทำงานด้วย “ความไว้วางใจ” โดยไม่มีพนักงานแม้แต่คนเดียว หากใครต้องการซื้อหนังสือสักเล่ม คุณก็แค่เดินไปหยอดเงินลงไปกล่องที่จัดเตรียมไว้ให้ ตามแต่ความต้องการของคุณเอง จะจ่ายเยอะหรือน้อยก็ไม่มีใครว่า   นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ผู้จัดงานร้านหนังสือดังกล่าว สามารถขายหนังสือไปได้กว่า 300 เล่ม ในวันเปิดร้าน และเงินทั้งหมดก็ถูกใส่ไว้ในกล่องที่เตรียมไว้ ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายเอามากๆ   หลังจากข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ในจีน ทำให้ได้รับเสียงตอบรับอย่างมากมาย ซึ่งดูแล้วจะให้ผลตอบรับด้านบวกเสียมากกว่า แต่ใช่ว่านโยบาย “จ่ายได้เท่าที่คุณจะจ่าย” จะประสบความสำเร็จเสมอไป   เพราะก่อนหน้านี้เมื่อปี 2013 ได้มีนักธุรกิจในจีนเปิดร้านอาหารที่มีนโยบายคล้ายคลึงกันนี้ แต่กลับขาดทุนกว่า 10,000 หยวน ในเดือนแรกที่เปิดกิจการ ที่มา shanghaiist