Tag: เด็กกำพร้า

  • อดีตเศรษฐีนีใจบุญ รับเลี้ยงเด็กกำพร้ากว่า 118 ชีวิต ถูกจับกุมในข้อหาแบล็คเมล์และต่อต้านรัฐ

    อดีตเศรษฐีนีใจบุญ รับเลี้ยงเด็กกำพร้ากว่า 118 ชีวิต ถูกจับกุมในข้อหาแบล็คเมล์และต่อต้านรัฐ

    เรื่องราวของหญิงอดีตเศรษฐีนีใจบุญ ผู้รับเลี้ยงเด็กกำพร้ากว่า 118 ชีวิต แต่โชคชะตากลับตอบแทนด้วยมะเร็งร้ายกลับมาให้เธอ (ข่าวเก่า) มิหนำซ้ำยังถูกจับกุมและคุมขัง เนื่องจากพฤติกรรมการแบล็คเมล์และขัดขืนต่อคำสั่งราชการ!! ปัจจุบัน Li Lijuan ในวัย 48 ปี อดีตเจ้าของเหมืองแร่เหล็กจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ถูกจับกุมเมื่อช่วงวันเสาร์ในกรุงปักกิ่ง ช่วงระหว่างที่เธอเข้ารับการรักษามะเร็ง โดยได้รับการยืนยันจากนาย Han Wen ผู้เป็นลูกชายแล้ว     นาง Li ถูกจับกุมในข้อหาละเมิดคำสั่งจัดการสังคม การบีบบังคับ และข้อหาทางอาชญากรรมอื่นๆ โดยทางเว็บไซต์ The Paper ได้ทำการรายงานเอาไว้พร้อมกับรายละเอียด ที่ทางการทำการอายัดบัญชีธนาคารของเธอ มีเงินอยู่ภายในนั้นมากถึง 20,000,000 หยวน (100,000,000 บาท) และสกุลเงินสหรัฐฯ อีก 20,000 ดอลลาร์ เงินจำนวนดังกล่าวนั้นมาจากการเปิดรับบริจาคที่ผ่านมาตลอด 21 ปี เพื่อนำมาใช้เป็นทุนในการบริหารจัดการสถานสงเคราะห์ของเธอ     นอกจากนี้ยังมีรายงานว่านาง Li เคยทำการแบล็คเมลเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 70,000 หยวน…

  • พ่อแม่สุดช็อก หลังรู้ความจริงว่าลูกเป็นเด็กกำพร้า กับ 7 ปีที่ทำใจเชื่อว่าเสียชีวิตไปแล้ว…

    พ่อแม่สุดช็อก หลังรู้ความจริงว่าลูกเป็นเด็กกำพร้า กับ 7 ปีที่ทำใจเชื่อว่าเสียชีวิตไปแล้ว…

    สำหรับคนที่เป็นพ่อคนแม่คนแล้ว ลูกๆ ของพวกเขาเปรียบเสมือนได้กับแก้วตาดวงใจ ที่รวบรวมความสุขของพวกเขาเอาไว้ แต่ก็ด้วยความโชคร้ายทำให้พ่อแม่บางคนต้องเสียลูกไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องเต็มไปด้วยความโศกเศร้าที่ยังอยู่ในหัวใจของพวกเขาเหล่านี้ ทว่าก็มีพ่อแม่คู่หนึ่งที่ได้มีโอกาสกลับมาเลี้ยงดูลูกของพวกเขาอีกครั้ง หลังจากที่คิดว่าเสียชีวิตไปแล้วถึง 7 ปี แต่แท้จริงแล้วเด็กคนนี้กลับต้องไปอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และพวกเขาก็คงจะไม่รู้เลยถ้าหากไม่มีความผิดพลาดบางอย่างเกิดขึ้น!!     โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้เริ่มขึ้นที่เมืองวอลโกกราด ประเทศรัสเซียตั้งแต่ปี 2011 เมื่อมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นที่โรงพยาบาลในเมืองวอลโกกราด ทว่าเด็กคนนี้กลับมีร่างกายที่ไม่แข็งแรงนัก และคุณหมอก็ได้บอกกับพ่อแม่ว่าเธอคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ อีกทั้งยังบอกพ่อแม่ให้ทำใจกับการจากไปของเด็กคนนี้เอาไว้ซะ คุณแม่ผู้ให้กำเนิดจึงเกิดความเสียใจเป็นอย่างมาก จนกระทั่งในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเซ็นชื่อสละสิทธิ์ในตัวของเด็กคนนี้ และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐในการดูแลต่อไป ทว่าในอีก 5 วันหลังจากที่มีการเซ็นสละสิทธิ์นี้ พ่อแม่คู่นี้ก็คิดว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนักอีกทั้งยังคิดว่าถึงจะมีเวลาใช้ร่วมกันอย่างน้อยนิดแต่อย่างไรก็น่าจะใช้ร่วมกันอย่างมีค่าที่สุด พวกเขาจึงกลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อจะรับลูกน้อยกลับมาอยู่ในอ้อมอก     แต่เมื่อกลับไปถึงโรงพยาบาลทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าพวกเขามาช้าเกินไป เพราะว่าทารกคนนั้นได้เสียชีวิตไปก่อนหน้าที่พวกเขาจะมาถึงแล้ว สิ่งนี้ได้ยินสร้างความเสียใจให้แก่พวกเขาเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรชีวิตก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปและพวกเขาก็ดำเนินชีวิตไปข้างหน้าเฉกเช่นสิ่งที่ควรจะเป็น ก่อนที่พวกเขาจะเพิ่งได้รู้ว่าเด็กคนนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ในปี 2017 ที่ผ่านมา ซึ่งถ้าไม่มีการผิดพลาดของระบบเกิดขึ้น พ่อแม่คู่นี้ก็คงไม่มีทางได้รู้ว่าลูกของพวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ และได้อยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า Volgograd มาเป็นเวลาถึง 7 ปีเต็มๆ     โดยเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา เมื่อหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางรัสเซีย (Federal Bailiff Service) ได้รับเอกสารจากผู้บริหารแสดงให้เห็นว่ามีคู่รักคู่หนึ่งที่ติดหนี้รัฐเป็นเงินจำนวน 230,000…

  • ชายผู้ถูกยกย่องเป็นฮีโร่ หลังพลีชีพร่วมกับเด็กชาวยิวเกือบ 200 คนในห้องรมแก๊ส

    ชายผู้ถูกยกย่องเป็นฮีโร่ หลังพลีชีพร่วมกับเด็กชาวยิวเกือบ 200 คนในห้องรมแก๊ส

    ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 1940 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นพวกนาซีได้ทำการกวาดล้วงชาวยิวที่อาศัยอยู่ในแถบประเทศโปแลนด์และประเทศเยอรมันด้วย ทำให้โลกของเราต้องสูญเสียประชากรไปหลายแสนคนเลยทีเดียว นับเป็นเรื่องน่าเศร้าสลดใจอย่างยิ่ง ทว่าในเหตุการณ์ที่ดูสิ้นหวังนั้นก็ยังมีแสงสว่างส่องประกายเจิดจ้าอยู่ เขาคือ Janusz Korczak ผู้อุทิศชีวิตให้กับเด็กๆ  แม้ว่าเขาจะช่วยชีวิตเด็กจากการกวาดล้างของนาซีไม่ได้ แต่เขาก็ยอมสละชีวิตของตัวเองเพื่อให้เด็กเหล่านั้นรู้สึกสบายใจจนวาระสุดท้ายของชีวิต     Henry Goldszmit เกิดที่กรุงวอร์ซอว์ในสาธารณรัฐโปแลนด์ ตัวเขาเป็นชาวโปแลนด์ที่มีเชื้อสายชาวยิว แต่ว่าเป็นที่รู้จักมากกว่าในชื่อ Janusz Korczak เขาเป็นทั้งแพทย์ คุณครู นักเขียน และนายทหารอีกด้วย แต่เขาโดดเด่นมากในฐานะนักกิจกรรมสังคม เนื่องจากเขาเป็นคนที่รักเด็กมากเขาจึงใช้เวลาส่วนมากในชีวิตอุทิศให้กับเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นการสอนหนังสือหรือการเรียกร้องสิทธิต่างๆ ให้กับเด็กด้วย เขาเคยกล่าวว่า “พวกเด็กๆ เองก็มีสิทธิที่จะได้รับความเคารพและความอ่อนโยนจากผู้ใหญ่ เพราะพวกเขาเองก็เป็นมนุษย์เช่นเดียวกับผู้ใหญ่อย่างเรา”     นอกจากนี้ในปี 1912 เขาก็ได้ร่วมก่อตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในกรุงวอร์ซอวร์เพื่อช่วยเหลือเด็กชาวยิวที่ไม่มีที่พึ่งอีกด้วย เขาทั้งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งที่นี่และยังเป็นคนดูแลเด็กๆ เองอีกต่างหาก ทว่าในปี 1939 บ้านเด็กกำพร้าชาวยิวของเขาก็ได้รับผลกระทบจากการกวาดล้างชาวยิวของนาซี โดยทหารได้สั่งให้เด็กที่อาศัยอยู่ที่นั่นทั้งหมดจำนวน 192 คนย้ายเข้าไปอยู่ในค่ายมรณะในเมือง Treblinka ประเทศเยอรมันด้วยอำนาจเผด็จการ แม้ว่า Korczak จะไม่มีความจำเป็นต้องไปอยู่ในค่ายมรณะด้วย แต่ตัวเขาเองก็ไม่อาจจะทิ้งเด็กที่อยู่ในความดูแลให้ไปลำบากกันเองได้ เขาจึงอาสาจะไปอาศัยอยู่ที่นั่นกับเด็กๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขา    …

  • คู่รักรับเด็ก 3 พี่น้องมาเลี้ยง แต่มารู้ภายหลังว่าพวกเขามีน้องเล็กอีกคน เลยขอให้เพื่อนบ้านช่วย!!

    คู่รักรับเด็ก 3 พี่น้องมาเลี้ยง แต่มารู้ภายหลังว่าพวกเขามีน้องเล็กอีกคน เลยขอให้เพื่อนบ้านช่วย!!

    หลังจากที่ใช้เวลานานหลายปีในสถานรับเลี้ยงเด็ก Michael, Jess, Camden และ Elijah ก็ได้มีโอกาสพบกับชีวิตใหม่อีกครั้งหลังจากที่พวกเขาได้พบกับสองสามีภรรยาผู้ใจบุญ ถึงแม้ว่าคุณ Julia Washington และสามีของเธอจะมีลูกแท้ๆ อยู่ด้วยกันถึง 2 คนแล้ว แต่ทั้งสองก็ยังได้รับเด็กๆ ทั้ง 3 เข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาเพิ่มอีก และถึงแม้ว่าการมีสมาชิกในครอบครัวเพิ่มจะเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับพวกเขา และหนูน้อย Jess วัย 5 ขวบนั้นจะมีความพิการทางสมอง แต่ทั้งสองก็ได้ยื่นเรื่องขอรับบุตรบุญธรรมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา     แต่หลังจากที่รับเจ้าหนูทั้ง 3 คนเป็นลูกบุญธรรมเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็พบว่าเด็กๆ ทั้ง 3 ยังมีน้องสุดท้องอีกหนึ่งคนนั่นก็คือ หนูน้อย Elijah วัย 17 เดือนนั่นเอง “เรารู้ดีว่ามีเด็กๆ ประมาณ 2 ถึง 5 คน และหนึ่งในนั้นก็ต้องการการดูแลอย่างเป็นพิเศษ บางคนอาจจะต้องแยกจากพี่น้องของเขาไปอยู่ที่ไกลๆ ถ้าหากเราไม่รับพวกเขาไว้ทั้งหมด” คุณ Julia กล่าว     การดูแลเด็กๆ มาถึง 7 คนอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับครอบครัวของ Julia เธอจึงได้ปรึกษากับเพื่อนบ้านและเพื่อนสนิทของเธออย่างคุณ Jay Houston เพื่อช่วยรับดูแลพวกเด็กๆ…

  • แม่ชาวอินเดียเสียลูกสาวไป กลายเป็นแรงบันดาลใจให้รับเด็กกำพร้ากว่า 800 คนมาเลี้ยง!!

    แม่ชาวอินเดียเสียลูกสาวไป กลายเป็นแรงบันดาลใจให้รับเด็กกำพร้ากว่า 800 คนมาเลี้ยง!!

    ส่ิงที่ทำให้แม่เจ็บปวดใจมากที่สุดคือการสูญเสียลูกอันเป็นที่รัก เพราะลูกคือแก้วตาดวงใจของแม่ ที่ไม่ว่าใครหรืออะไรก็ไม่สามารถมาทดแทน แต่สำหรับ Dr. Sarojini Agarwal การเสียลูกสาวด้วยอุบัติเหตุบนท้องถนนเมื่อ 40 ปี แล้ว กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอช่วยเหลือเด็กหญิงคนอื่น ๆ ที่ถูกทอดทิ้ง ตั้งแต่ช่วงปี 1980 หญิงวัย 80 ปี ได้พาเด็กหญิงประมาณ 800 คนมาอยู่ด้วย เธอให้การดูแลพวกเขา และทำให้ทุกคนได้รับการศึกษาที่ดี เพื่อที่จะโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มั่นใจและช่วยเหลือตัวเองได้     เมื่อ 40 ปีก่อน ในขณะที่ Sarojini ขับมอเตอร์ไซค์บนถนนใกล้บ้านใน Lucknow ประเทศอินเดีย โดยมี Manisha ลูกสาววัย 8 ขวบนั่งซ้อนท้าย แต่แล้วก็อุบัติเหตุเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว อุบัติเหตุครั้งนั้นส่งผลให้ผู้เป็นแม่รอดชีวิต แต่ลูกสาวที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเธอกลับเสียชีวิตในวันนั้น… Sarojini จมอยู่กับความเสียใจจากการสูญเสียนานหลายปี เธอเฝ้าถามตัวเองเสมอว่า “ทำไมต้องเป็นลูกที่ตาย?” จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอตระหนักได้ว่ามีเด็กหญิงอีกมากมายที่ต้องการความรักจากแม่ ด้วยเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเด็กๆ ที่ขาดแม่เหล่านั้นอย่างดีที่สุด เพื่อเป็นการระลึกถึงลูกน้อย Manisha ที่จากไป     Sarojini บอกว่า “เมื่อ Manisha จากไป ฉันเฝ้าถามตัวเองด้วยความโมโหว่าทำไมต้องเป็นเธอที่จากไป ฉันเอาแต่ร้องไห้ แต่แล้ววันหนึ่งฉันก็คิดขึ้นได้ว่า…

  • ชาวเวียดนามอพยพมาอยู่อเมริกา ฝันจะสร้างบ้านเด็กกำพร้า ผ่านไป 16 ปี ฝันของเธอก็เป็นจริง…

    ชาวเวียดนามอพยพมาอยู่อเมริกา ฝันจะสร้างบ้านเด็กกำพร้า ผ่านไป 16 ปี ฝันของเธอก็เป็นจริง…

    แม้ทุกวันนี้จะมีหลายหน่วยงานคอยให้การช่วยเหลือเด็กกำพร้า แต่ก็ยังมีเด็กกำพร้าอีกจำนวนมากที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือและต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ด้วยเหตุนี้ Tracy Vu ชาวเวียดนามที่อพยพไปยังอเมริกาในปี 2000 จึงมีความใฝ่ฝันว่าสักวันเธออยากจะสร้างบ้านเพื่อเด็กกำพร้าให้ได้     Vu ได้อพยพไปพร้อมกับสามีและลูกๆ อีก 3 คน ตอนนั้นเธอทั้งยากจนและพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย จนกระทั่ง 16 ปีผ่านไป ไม่เพียงแค่พูดอังกฤษได้ แต่เธอยังเป็นเจ้าของร้านเสริมสวยที่ประสบความสำเร็จในแคปิโตลา ซานตาครูซเคาท์ตี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย แม้จะประความสำเร็จแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ลืมความฝันที่จะสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเวียดนาม และได้พยายามมาโดยตลอดเพื่อให้ฝันเป็นจริง     Vu บอกว่า “ฉันเรียนจบแค่ ป.5 เท่านั้นค่ะ แต่ฉันรู้ว่าการศึกษามันสำคัญขนาดไหน ฉันก็เลยอยากให้เยาวชนในบ้านเกิดของฉันได้เรียนหนังสือและจะสนับสนุนพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” Truong Xe วัย 18 ปี ลูกชายของ Vu บอกว่าหลังจากที่แม่ตั้งเนื้อตั้งตัวได้ มีความมั่นคงทางการเงินพอสมควร เธอก็ได้เดินทางกลับประเทศเวียดนามทุกๆ 3 ปี เพื่อช่วยเหลือคนยากจนและเด็กกำพร้า     และเมื่อเดือนพฤษภาคมของปี 2016 เธอก็ตัดสินใจที่จะเติมเต็มความฝันให้สมบูรณ์ด้วยการสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเวียดนาม Vu เริ่มจากการระดมเงินบริจาคจากชุมชนซานตาครูซ ครอบครัว เพื่อนๆ และเงินส่วนตัวของเธอเองที่เตรียมไว้สำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ…

  • คู่รักเกย์ที่รับเด็กมาเลี้ยงถึง 3 คน เปิดใจในเรื่อง “ครอบครัว” พร้อมทั้งแง่คิดดีๆ ที่เราควรได้อ่าน…

    คู่รักเกย์ที่รับเด็กมาเลี้ยงถึง 3 คน เปิดใจในเรื่อง “ครอบครัว” พร้อมทั้งแง่คิดดีๆ ที่เราควรได้อ่าน…

    แม้ว่าในยุคนี้สังคมของชาว LGBTQ จะมีการเปิดกว้างและมีการยอมรับที่มากขึ้น แต่เราก็ต้องเข้าใจว่าสังคมบางแห่งก็ยังปิด หรือบางที่ก็ยังไม่ได้ยอมรับในเรื่องนี้ 100 เปอร์เซ็นเสียทีเดียว ด้วยเหตุนี้ทางเว็บไซต์ Upworthy จึงได้ทำการทดลองอันน่าสนใจ ด้วยการไปถามความเห็นคู่รักเกย์คู่หนึ่ง เกี่ยวกับมุมมองของพวกเขาในการมีครอบครัวว่าทั้งคู่คิดยังไง…   ซึ่ง Fred Swanson ก็คือคนที่จะมาบอกเล่าความรู้สึกของเขาในครั้งนี้ เขาบอกว่าเขารู้ตัวเสมอว่าตัวเองเป็นเกย์และอยากจะมีลูกอีกด้วย แต่ว่าอย่างที่เรารู้กันว่าในบางรัฐของสหรัฐอเมริกายังไม่เปิดรับในเรื่องนี้ และสถานรับเลี้ยงหลายแห่งก็ยังไม่เปิดให้พ่อแม่เกย์มารับเลี้ยงลูกนั่นเอง     เขาได้เล่าเรื่องของตัวเองว่า เขาเริ่มเปิดเผยและรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ก็ช่วงยุค 1990 ซึ่งในตอนนั้นยังมีคนจำนวนไม่มากนักที่แสดงออกจริงจังว่าเป็นเกย์ หรือเป็นเกย์ที่มีลูกนั้นยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้ จนมาถึงปี 2003 ชีวิตของ Fred ก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับ Adam Diamond ทั้งคู่เริ่มเดทกันจนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไปได้ด้วยดี พวกเขาจึงตัดสินใจจะวางแผนระยะยาวด้วยกันโดยการรับเลี้ยงบุตรนั่นเอง     ในช่วงแรกทั้งคู่ยังไม่สามารถที่จะรับเลี้ยงบุตรหรือหาบุตรให้พวกเขารับเลี้ยงได้ แม้ว่าเด็กกำพร้าทั่วอเมริกาจะมีอยู่มากมายก็ตาม ด้วยเหตุนี้ในปี 2008 ทั้งคู่จึงเริ่มต้นด้วยการไปช่วยงานกับองค์กร Amara ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือเด็กกำพร้าในเมืองซีแอตเทิล พอเข้าปี 2009 โอกาสที่ทั้งคู่จะมีลูกก็มาถึง เมื่อพวกเขาได้รับเลี้ยงดู Jaylen เด็กชายผิวสีวัย 3 ขวบ มาเป็นบุตรบุญธรรม แต่แล้วไม่นานนักเรื่องเซอร์ไพรส์ก็เกิดขึ้นกับพวกเขา    …