Tag: สหรัฐฯ

  • ทหาร US กล่าว สงครามเกาหลีเหนือจะทำให้คนตายมากกว่าที่อิรักและอัฟกานิสถานรวมกัน

    ทหาร US กล่าว สงครามเกาหลีเหนือจะทำให้คนตายมากกว่าที่อิรักและอัฟกานิสถานรวมกัน

    หัวหน้ากองทหารสหรัฐกล่าวว่าการทำสงครามกับเกาหลีเหนืออาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายของนักรบชาวอเมริกันประมาณ 10,000 คนในช่วงเวลาเพียงแค่หนึ่งวัน ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้ที่เสียชีวิตจากสงครามในอิรักและอัฟกานิสถานรวมกันถึง 3,000 คน     พวกเขาได้รับรู้ข้อมูลอันน่ากังวลนี่หลังจากเข้าร่วมการประชุมลับที่ฮาวาย โดยมีจุดประสงค์หลักที่การคาดคะแนสถานการณ์ความขัดแย้งที่มีอยู่ โดยการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ ซึ่งได้ทำการศึกษาสถานการณ์หลายๆ รูปแบบ โดยมีเสนาธิการทหารบกนายพล Mark Milley และผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการพิเศษนายพล Raymond Thomas เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย พวกเขายังได้สรุปอีกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตของพลเรือนทั้งสองฝ่ายอาจจะมีจำนวนนับแสน หรือมากกว่านั้น     ปัจจุบันสหรัฐอเมริกามีทหารประมาณ 28,500 นายประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ ในขณะที่ขณะเมืองหลวงของเกาหลีใต้หรือกรุงโซลซึ่งอยู่ในระยะยิงปืนใหญ่ของ Kim Jong un มีประชากรอยู่ราวๆ 24 ล้านคน จากข้อมูลทั้งหมด นายพล Milley กล่าวว่า “ความโหดร้ายป่าเถื่อนของเรื่องที่อาจจะเกินขึ้น มันรุนแรงเกินกว่าประสบการณ์ทั้งชีวิตของทหารคนหนึ่งเสียอีก”   ทหารเกาหลีเหนือที่ร่วมเดินสวนสนามที่เมืองเปียงยาง   ตามรายงานระบุว่าผู้นำกองทัพยังมองอีกว่าจะต้องใช้หน่วยรบพิเศษจำนวนมากเพียงใดในการจู่โจมเป้าหมายพื้นที่ปล่อยขีปนาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ นอกจากนั้นยังมีสถานการณ์อื่นๆ เช่นโอกาสที่กองทัพสหรัฐฯ อาจต้องทำการต่อสู้ในอุโมงค์เช่นเดียวกับที่เคยทำในสงครามเวียดนาม     แม้ว่าความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ ดูเหมือนจะลดลงในช่วงหลายสัปดาห์หลังการเข้าร่วมโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ในเกาหลีใต้ แต่เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมานั้น Kim Jong un ได้กล่าวหาสหรัฐฯ และญี่ปุ่นว่า “จะทำให้เกิดสงครามรุนแรงขึ้น”…

  • เหล่าอีกัวน่าติดสตั้นท์ เจออากาศหนาวจัดแข็งไม่ขยับ ด้านผู้เชี่ยวชาญแนะมันอาจยังไม่ตาย!!

    เหล่าอีกัวน่าติดสตั้นท์ เจออากาศหนาวจัดแข็งไม่ขยับ ด้านผู้เชี่ยวชาญแนะมันอาจยังไม่ตาย!!

    ฤดูหนาวเป็นฤดูที่ใครหลายคนชื่นชอบ เพราะว่าอากาศมันทั้งเย็นสบายและไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่บางทีเมื่อมีอากาศที่เย็นเกินไป เราก็อาจจะไปซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มแบบฟินๆ ทว่าสำหรับเหล่าสัตว์แล้ว บางทีฤดูหนาวอาจจะเป็นฤดูที่โหดร้ายสำหรับพวกมันก็เป็นได้ และสำหรับฤดูหนาวของบางประเทศนั้น มันไม่เพียงแต่สร้างความหนาวเย็นให้แก่เราเท่านั้น แต่บางทีมันก็หนาวซะจนอาจจะทำให้สัตว์บางชนิดแข็งตายเลยก็เป็นไปได้ เหมือนกับเหล่าอิกัวน่าเหล่านี้ที่โดนความหนาวเหน็บเล่นงานซะจนตัวแข็งทื่อเหมือนกับตายไปแล้วยังไงยังงั้นเลย     ด้วยสภาพอากาศที่เลวร้ายและอุณหภูมิลดลงจนต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียสที่รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ได้ทำให้อิกัวน่าหลายตัวมีสภาพที่เรียกว่าถูกแช่แข็งและไม่สามารถขยับเขยื้อนในหลายพื้นที่ชนบทในรัฐนี้ “อย่าคิดว่าพวกมันตายแล้วเป็นอันขาด”  Kristen Sommers ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่ากล่าว     ส่วนสาเหตุที่เธอกล่าวเช่นนี้ก็เป็นเพราะว่า โดยปกติแล้วสัตว์เลือดเย็นซึ่งมีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่อเมริกากลางและอเมริกาใต้ จะเริ่มมีอาการเชื่องช้าแสดงให้เห็นเมื่อมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ซึ่งถ้าหากอุณหภูมิลดลงกว่านั้นอีกพวกมันก็จะไม่สามารถขยับตัวได้เพราะว่ามีอากาศที่หนาวเย็นจนเกินไป อิกัวน่าไม่ใช่สัตว์เลื้อยคลานเพียงตัวเดียวที่โดนแช่แข็งในสัปดาห์นี้ แต่ยังมีสัตว์อื่นๆ อย่างเต่าทะเลที่มีสภาวะนี้ร่วมด้วย     โดยก่อนหน้านี้นักชีววิทยาขององค์กรดูแลสัตว์ป่า ก็ได้เคยช่วยเหลือเต่าทะเลที่มีสภาวะแข็งตัวที่ลอยคอมาบริเวณใกล้ๆ กับชายฝั่ง แต่สำหรับอิกัวน่าแล้ว พวกเขาบอกเอาไว้ว่าไม่ได้เตรียมแผนการช่วยเหลือไว้แต่อย่างใดเลยทั้งสิ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่เจออิกัวน่าขณะกำลังตกอยู่ในสภาวะแข็งตัวว่าให้ปล่อยพวกมันไว้ตามธรรมชาติจะดีกว่า เพราะว่าพวกมันอาจรู้สึกว่าถูกคุกคามและอาจจะทำร้ายเราได้     สำหรับอิกัวน่าสีเขียว เป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในรัฐฟลอริด้า โดยเมื่อโตเต็มวัยมันสามารถมีความยาวได้มากถึง 152 เซนติเมตร และมูลของของมันเป็นแหล่งของแบคทีเรีย Salmonella ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษได้   ที่มา: dailymail

  • กองกำลังที่ถูกลืม หน่วยรบสำคัญผู้เป็นเบื้องหลังกองทัพสหรัฐฯ ที่เป็นชาวเอเชียอเมริกัน…

    กองกำลังที่ถูกลืม หน่วยรบสำคัญผู้เป็นเบื้องหลังกองทัพสหรัฐฯ ที่เป็นชาวเอเชียอเมริกัน…

    หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่า… หนึ่งในกองกำลังทัพสหรัฐฯ ในช่วงสงครามหลังเหตุการณ์ที่ Pearl Harbour มีกองกำลังที่ชื่อว่า ‘Nisei’ ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นผู้อาศัยในสหรัฐฯ แทบทั้งสิ้น!! ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรุ่นลูกของชาวญี่ปุ่นที่ก่อนหน้านี้ได้ย้ายมาอาศัยอยู่ก่อนแล้ว และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของ ‘Nisei’ หน่วยรบสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังชัยชนะของกองทัพสหรัฐฯ ในยุคนั้น…   ภาพของกองกำลัง 442nd Regimental Combat Team เมื่อปี 1944   ถ้าจะให้สาวเรื่องราวการก่อตั้งหน่วยกองกำลังพิเศษนี้ขึ้นมา คงต้องย้อนกลับไปในช่วงปี 1941 หลังกองทัพญี่ปุ่นบินมาถล่ม Pearl Harbour แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือกระแสสังคมชาวอเมริกัน ที่หันมาเกลียดชังคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ แต่กระนั้นทางรัฐบาลก็ได้ยื่นข้อเสนอโดยให้ผู้ชายชาวญี่ปุ่นทั้งหมดเลือกว่า จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลัง หรือจะถูกจัดให้เป็น ‘ศัตรู!!’     แต่ก็ใช่ว่าทางการจะส่งตัวเหล่าชายฉกรรจ์สัญชาติญี่ปุ่นไปเป็นทหารทันที เพราะในช่วงแรกพวกเขาถูกส่งตัวมายังค่ายกักกันบนเกาะฮาวาย… ลองนึกภาพดูว่า จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มหลายพันคนย้ายมาอาศัยบนเกาะที่มีพื้นที่จำกัด แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น พวกเขามีส่วนช่วยทำให้เศรษฐกิจและแรงงานต่างๆ บนเกาะฮาวายกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง   วันที่ 15 กรกฎาคม 1942 ทางการได้ออกคำสั่งให้ชายฉกรรจ์ชาวญี่ปุ่นที่ย้ายมาอยู่ในค่ายกักกันทั้งหมด ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยรบ 100th Infantry Battalion  …

  • สาวน้อยวัย 11 ขวบ ยื่นฟ้อง ‘รัฐบาลสหรัฐฯ’ ข้อหาพยายามทำให้กัญชาผิดกฎหมาย..!!

    สาวน้อยวัย 11 ขวบ ยื่นฟ้อง ‘รัฐบาลสหรัฐฯ’ ข้อหาพยายามทำให้กัญชาผิดกฎหมาย..!!

    อีกหนึ่งเรื่องราวการต่อสู้ของ Alexis Bortell สาวน้อยชาวเท็กซัสวัย 11 ขวบ ที่ออกมายื่นเรื่องฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับการเข้าถึงยารักษาโรคที่สกัดจาก ‘กัญชา’ เรื่องราวทั้งหมดมีอยู่ว่า… เมื่อ 3 ปีก่อน Alexis ป่วยเป็นโรคลมชักขั้นรุนแรง ส่งผลให้เธอไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เฉกเช่นเดียวกับเด็กคนอื่นๆ   Alexis Bortell และคุณพ่อของเธอ   อาการโรคลมชักขั้นรุนแรงของเธอไม่สามารถหายาชนิดไหนมารักษาได้ จนกระทั่งครอบครัวของเธอมีโอกาสได้รู้จักกับวิธีการรักษาด้วย CBD Oil (เป็นน้ำมันสกัดจากกัญชาชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์) แต่ด้วยความที่กฎหมายของรัฐเท็กซัสยังไม่มีการประกาศให้สามารถใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้ ทำให้ครอบครัวของเธอตัดสินใจย้ายไปอาศัยอยู่ที่รัฐโคโลราโดแทน และการรักษาด้วย CBD Oil ก็ทำให้เธอไม่มีอาการชักมาแล้วกว่า 2 ปี     ทว่าการเคลื่อนไหวของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ภายใต้การสนับสนุนของอัยการสูงสุด Jeff Sessions ดูจะเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม มีการเสนอผลักดันให้กัญชาเป็นยาเสพติดประเภท 1 ซึ่งไม่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษา หรือแม้แต่จะทำการทดลองใดๆ ได้ จากประเด็นนี้เองที่ทำให้ครอบครัวของ Alexis Bortell ตัดสินใจร่วมมือกับอีก 4 ครอบครัว ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องร้องรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพื่อเป็นการต่อต้านความพยายามออกกฎหมายมาปิดกั้นการเข้าถึงยารักษาที่สกัดจากกัญชาโดยตรง  …

  • รู้หรือไม่? ครั้งหนึ่งรัสเซียเคยขาย ‘อลาสก้า’ ให้สหรัฐฯ ด้วยราคาแค่ 300 ล้านบาท!!

    รู้หรือไม่? ครั้งหนึ่งรัสเซียเคยขาย ‘อลาสก้า’ ให้สหรัฐฯ ด้วยราคาแค่ 300 ล้านบาท!!

    ปัจจุบันรัฐอลาสก้านับว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะแม้แต่พระเอกหนังดังขวัญใจฮิปสเตอร์อย่างเรื่อง ‘Into the Wild’ ก็ยังไปตายที่นั่น… แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าครั้งหนึ่งพื้นที่ทั้งหมดของอลาสก้าเคยเป็นของรัสเซีย ก่อนที่จะขายให้สหรัฐฯ ในปี 1867 ด้วยราคา 7.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 300 ล้านบาท) และสร้างมูลค่าอย่างมหาศาลให้กับสหรัฐฯ ในเวลาต่อมา     อลาสก้ายุคก่อนเป็นของสหรัฐฯ ย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 19 อาณาเขตของอลาสก้าที่อยู่ใต้การปกครองของรัสเซีย ถือเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจสำคัญของโลก ในยุคนั้นมีเมืองหลวงที่ชื่อ Novoarkhangelsk (Sitka) ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ใช้ในการรับซื้อสินค้าจากจีน เช่นผ้า ถ่านหิน แร่ธาตุ ชา ธัญพืช หรือแม้แต่ทองคำ นอกจากนั้นยังเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มพ่อค้าชาวรัสเซียจำนวนมากต่างหลั่งไหลเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมการส่งออกงาของตัววอลรัส ซึ่งมีราคาสูงพอๆ กับงาช้าง โดยหลักๆ ในช่วงนั้นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีส่วนแบ่งในตลาดมากที่สุดตกเป็นของ Russian-American Company ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่ผูกขาดการค้ามากซะจนสามารถต่อรองกับรัฐบาลได้ จนช่วงเวลาต่อมาเขตอลาสก้าก็ถูกพัฒนาให้มีการใช้ธงและสกุลเงินเป็นของตัวเอง   ตัวอย่างเหรียญทองส่วนหนึ่งจากอลาสก้าที่ถูกใช้แลกเปลี่ยนในยุคนั้น   RAC ท่อน้ำเลี้ยงสำคัญของอลาสก้า Alexander Baranov พ่อค้าหัวใสชาวรัสเซีย ได้เปลี่ยนจากเมืองอลาสก้าที่มีแต่อุตสาหกรรมและเครื่องจักร ให้เพรียบพร้อมไปด้วยสถานศึกษา สถานพยาบาลให้แก่กลุ่มแรงงาน และถ่ายทอดความรู้ด้านการเพาะปลูกให้คนพื้นเมือง ภายใต้การบริหารงานของเขาทำให้กำไรของบริษัท…

  • ตามไปดูภาพบรรยากาศของเหล่า ‘นาวีและนาวิก’ ของสหรัฐฯ ที่มีสระว่ายน้ำใหญ่ที่สุดในโลก..!!

    ตามไปดูภาพบรรยากาศของเหล่า ‘นาวีและนาวิก’ ของสหรัฐฯ ที่มีสระว่ายน้ำใหญ่ที่สุดในโลก..!!

    การแบกรับภาระหน้าที่เป็นรั้วของชาตินั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไหนจะต้องเข้ารับการฝึกฝนอย่างหนัก ต้องออกกำลังกายให้แข็งแรงเสมอ ยิ่งถ้าเป็นบ้านเราด้วยแล้ว.. ต้องตัดหญ้าเป็นด้วย!! และคราวนี้เราจะขอพาข้ามฝั่งมหาสมุทร ไปชมภาพบรรยากาศของเหล่าทหารหน่วยนาวีและนาวิกโยธินแห่งกองทัพสหรัฐฯ กันบ้าง ด้วยความที่ต้องอยู่กินบนเรืออยู่แล้ว เมื่อไหร่ที่ถึงเวลาพักพวกเขาก็พร้อมที่จะกระโดดลงน้ำทะเลทันที     เอ้าาา พวกเรากระโดด!!   กลุ่มลูกเรือทั้งหมดนี้เป็นพลทหารประจำการอยู่บนเรือ USS Halsey และกำลังว่ายน้ำอย่างสนุกสนานในคาบสมุทรฟิลิปปินส์ .   กลุ่มทหารนาวิกฯ กำลังกระโดดลงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน   พลทหารจากเรือ USS Antietam และคาบสมุทรอินเดีย   บรรยากาศจากเรือ USS Kearsarge พร้อมพลทหารที่กำลังกระโดดลงสู่แม่น้ำแห่งเมือง Aqaba ประเทศจอร์แดน   USS Jason Dunham และคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียน   พลทหารกำลังเล่นกีฬาทางน้ำอย่างสนุกสนานภายในพื้นที่เรือ USS Cleveland   เหล่าทหารเรือที่ดูดีอกดีใจกับการพักผ่อนที่อ่าว Aden บนเรือ USS Iwo Jima   ไม่ใช่แค่การพักผ่อนเท่านั้น แต่บางครั้งก็มีการฝึกฝนทางทะเลด้วย เช่นภาพการฝึกซ้อมจากบนเรือ USS Dwight D. Eisenhower…

  • ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ ค้นพบเรือสหรัฐฯ ที่เคยจมหายไปใต้มหาสมุทร เมื่อ 72 ปีก่อน..!!

    ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ ค้นพบเรือสหรัฐฯ ที่เคยจมหายไปใต้มหาสมุทร เมื่อ 72 ปีก่อน..!!

    นับว่ากำลังเป็นข่าวดังไปทั่วโลก หลังจากที่ Paul Allen หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ และทีมของเขา ได้ค้นพบเรือ USS Indianapolis ที่เคยจมหายไปตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ทีมของ Paul Allen ได้ประกาศค้นพบเรือที่เคยใช้เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการที่ฮิโรชิม่า ณ มหาสมุทรแปซิฟิคเหนือ ในระดับความลึก 5,500 เมตร   USS Indianapolis   ข้อความจากทวีตเตอร์ของ Paul Allen หลังจากที่ทีมของเขาค้นพบซากเรือดังกล่าว   “ในฐานะอเมริกันชน ผมอยากจะให้เกียรติเหล่าทหารกล้าที่ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนั้น ทว่าพวกเขาไม่มีโอกาสได้กลับไปเจอครอบครัว เพราะนั่นคือสิ่งที่พวกเขายอมเสียสละให้แก่เราทุกคน ผมเชื่อว่าใครที่มีญาติที่เคยปฏิบัติภารกิจอยู่บนเรือลำนี้ จะต้องรู้สึกผูกพันกับการค้นพบครั้งนี้แน่นอน” Paul Allen ให้สัมภาษณ์   สภาพส่วนหนึ่งของเรือ   ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 1945 ในช่วงสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 USS Indianapolis เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการทิ้งขีปนาวุธที่ฮิโรชิม่า และนางาซากิ ทว่าระหว่างการปฏิบัติภารกิจ เรือลำนี้กลับถูกโจมตีโดยกองทัพญี่ปุ่น…

  • ชมวิถีชีวิตในอดีตของ ‘หญิงขายบริการ’ เมื่อ 100 ปีที่แล้ว ก่อนจะกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

    ชมวิถีชีวิตในอดีตของ ‘หญิงขายบริการ’ เมื่อ 100 ปีที่แล้ว ก่อนจะกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

    อาชีพ ‘หญิงขายบริการ’ หรือที่เรียกกันว่า ‘โสเภณี’ ถือเป็นอีกอาชีพที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานมาตั้งแต่ยุควัฒนธรรมโบราณเลยก็ว่าได้ เช่นเดียวกับที่รัฐนิวออร์ลีนส์ ในอดีตราว 100 ปีก่อน การขายบริการถือเป็นเรื่องถูกกฎหมาย จนกระทั่งมันถูกทำให้กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายและศีลธรรม และทั้งหมดนี้เป็นภาพเล่าวิถีชีวิตของหญิงสาวในอดีตจากช่างภาพ E. J. Bellocq   ภาพถ่ายของ Josie Arlington หนึ่งในสาวงามประจำสถานที่ขายบริการ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงเวลานั้น   ภาพทั้งหมดนี้ถูกถ่ายขึ้นในปี 1917 และที่ Storyville นี้ก็ถือเป็นที่สุดท้ายในสหรัฐอเมริกาที่การค้าประเวณีเคยถูกกฎหมาย   หญิงสาวขายบริการส่วนใหญ่จะต้องเปลือยกายในงานเลี้ยง แต่สำหรับ Josie Arlington ในยุคนั้นเธอมีชื่อเสียงมากพอที่จะใส่ชุดราตรีไปร่วมงานของกลุ่มคนไฮโซได้   สำหรับที่ Storyville เป็นที่เดียวที่ให้บริการคนทุกระดับชั้น ตั้งแต่ชาวเมืองแรงงานไปจนถึงนักธุรกิจระดับสูง   Storyville ก่อตั้งครั้งแรกตั้งแต่ปี 1897 สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ.. สถานบริการนำรายได้เข้ารัฐมากเป็นอันดับต้นๆ ในช่วงนั้น   ภายในสถานบริการจะถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ประดับสุดหรู   สำหรับ Josie Arlington เธอมีค่าตัวสูงถึง 5 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อชั่วโมง ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำในยุคนั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 22 เซนต์ต่อชั่วโมงเท่านั้น…

  • เผยโฉมบ้านอเมริกา หน้าตาธรรมดาไม่หรูหราอะไรเลย เริ่มต้นที่ 8,800,000,000 บาทเอ๊งงงงง!!

    เผยโฉมบ้านอเมริกา หน้าตาธรรมดาไม่หรูหราอะไรเลย เริ่มต้นที่ 8,800,000,000 บาทเอ๊งงงงง!!

    วันนี้ #จ่าสิบเหมียว จะพาเพื่อนๆ ไปพบกับบ้านที่แพงที่สุดในประเทศสหรัฐฯ ด้วยราคา 250 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 8,800,000,000 บาท!! (อื้อหือออ 0 จะเยอะไปไหน)   บ้านเลขที่ 924 บนถนน Bel Air แห่งแคลิฟอร์เนียของ Bruce Makowsky และในปัจจุบันนี้คือบ้านที่แพงที่สุดในสหรัฐอเมริกาในตอนนี้ และก็อยู่ในกลุ่มบ้านที่แพงที่สุดในแนวหน้าของโลก ด้วยพื้นที่ 3,530 ตารางเมตรนี้ อัดแน่นไปด้วยความหรูหราและเทคโนโลยีเต็มขั้น 12 ห้องนอน 21 ห้องน้ำ ห้องครัว 3 ห้อง ห้องชมภาพยนตร์ สระว่ายน้ำ ห้องโยนโบวลิ่ง สนามกอล์ฟ แถมมีลานจอดฌอลิคอปเตอร์ให้อีกต่างหาก!!   924 บนถนน Bel Air แห่งแคลิฟอร์เนีย   คลิปวิดีโอแบบเต็มๆ ได้เห็นวิวและภาพบรรยากาศเต็มที่เลยล่ะ   การเดินแบบปกติ ต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์มา   คอลเล็คชั่นรถหรู   โยนโบวล์ก็ยังได้   ห้องชมภาพยนตร์…

  • แผนการรบสุดประหลาด ของสหรัฐฯ แกล้งเป็น ‘ผีดูดเลือด’ เข้ายึดพื้นที่ข้าศึก แถมได้ผลด้วย!!

    แผนการรบสุดประหลาด ของสหรัฐฯ แกล้งเป็น ‘ผีดูดเลือด’ เข้ายึดพื้นที่ข้าศึก แถมได้ผลด้วย!!

    ตลอดเวลาของมนุษยชาตินั้นได้มีสงครามเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเริ่มต้นด้วยเรื่องไหนๆ เราก็คงเคยได้ประจักษ์เรื่องราวเกี่ยวกับวีรบุรุษหลายๆ คน รวมถึงแผนยุทธศาสตร์ทางสงครามต่างๆ สุดหยั่งคิดของวีรบุรุษเหล่านั้น ที่สำคัญที่สุด บางครั้งแผนบ้าๆ บอๆ ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ ดันประสบผลสำเร็จซะงั้น เหมือนดั่งเรื่องนี้!?   ในปี 1950 นาวาอากาศตรี Edward G. Lansdale ถูกส่งไปยังประเทศฟิลิปปินส์เพื่อทำสงครามขับไล่กลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ชื่อว่า Huks ซึ่งขณะนั้นกำลังยึดครองพื้นที่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งอยู่ อย่างที่ตำราพิชัยสงครามได้ระบุไว้คือการใช้ ‘สงครามประสาท’ เพื่อลดทอนขวัญกำลังใจของศัตรูและทำให้พวกเขาละทิ้งฐานที่มั่น และทาง Lansdale เองก็เข้าใจในจุดนั้นเป็นอย่างดี เขาเลยลองศึกษาเรื่องตำนานและความเชื่อของชาวพื้นเมืองในละแวกนั้นดู   ‘Aswang’ คือตำนานที่นาวาอากาศของเราเลือกใช้!!   ‘Aswang’ คือตำนานพื้นบ้านของประเทศฟิลิปปินส์ มันคืออสูรที่สามารถแปลงกายได้ มีลักษณะคล้ายๆ กับแวมไพร์ในตะวันตก หรืออาจเป็นพ่อมดหมอผีที่สามารถแปลงกายเป็นปีศาจกระหายเลือดได้ แต่ลักษณะเด่นที่ตรงกันก็คืออสูรชนิดนี้จะดูดเลือดจากเหยื่อจนหมดตัว และถือว่าเป็นปีศาจที่ชาวฟิลิปปินส์หวั่นเกรงกันที่สุด Aswang ในตอนกลางวันนั้น จะใช้ชีวิตปกติราวกับเป็นชาวบ้านทั่วๆ ไป หลบลี้ที่จะรู้จักผู้คน แต่พอตกกลางคืนเมื่อไหร่ ก็จะแปลงร่างออกไปหาเหยื่อ ซึ่งก็คือมนุษย์นี่ล่ะ!!   นาวาอากาศตรี Edward G. Lansdale เจ้าของแผนการแกล้งเป็นผีดูดเลือด   ก่อนหน้านี้เขาก็เคยทำสำเร็จมาก่อนในแผนการปล่อยข่าวออกไปหลอกนักรบคอมมิวนิสต์บางส่วนว่า ถ้าพวกเขาเข้าร่วมกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ก็จะถูกสาปจากพระเจ้า ทำให้นักรบคอมมิวนิสต์ในพื้นที่หลายๆ…

  • ยัง ยังไม่หยุด ภาพ Obama เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ Trump เกิดเป็นการตัดต่อภาพสุดฮา…(อีกแล้ว)

    ยัง ยังไม่หยุด ภาพ Obama เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ Trump เกิดเป็นการตัดต่อภาพสุดฮา…(อีกแล้ว)

    ก็เรียกได้ว่าในการเลือกตั้งทุกๆ ครั้งของประเทศสหรัฐฯ นั้นจะได้รับการสนใจและติดตามจากทั่วโลก ส่วนหนึ่งแล้วก็เพราะว่าการได้เป็นผู้นำของประเทศนี้นั่นหมายถึงการมีสถานะเป็นผู้นำของโลกด้วยนั่นเอง และทุกๆ ครั้งของการเลือกตั้งนั้น เมื่อว่าที่ประธานาธิบดีได้รับเลือกตั้งและเตรียมแต่งตั้งนั้น เป็นประเพณีเลยก็ว่าได้ที่ประธานาธิบดีที่รับตำแหน่งปัจจุบันจะต้องเปิดทำเนียบขาวเพื่อทำการต้อนรับว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ และการเปิดทำเนียบขาวต้อนรับ Donald Trump ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของประธานาธิบดี Barrack Obama นั้น ช่างภาพก็ได้ถ่ายภาพของทั้งสองที่จับมือกัน และแน่นอนกลายเป็น Meme ที่ชาวเน็ตเค้านำมาตัดต่อล้อเลียนกันซะมันเลยทีเดียว   รูปภาพออริจินัล   กลายเป็นอีโรติคไปซะเลย ความรักและมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างสองประธานาธิบดี   Get along well shirt หรือเสื้อที่พ่อแม่จะให้พี่น้องฝรั่งใส่เวลาทะเลาะกัน   เค้าให้จับ ดันมาบีบซะได้นี่ ปั๊ดถ่อววววว!!   เอิ่มมม รับกลับบ้านมั้ยแบบนี้?   เหมือนว่าทีมงานของ Obama จะไม่ค่อยพอใจนะ   และก็ไม่รอดของทุกๆ Photoshop Battle ที่ต้องเข้าไปอยู่ในงานศิลป์ระดับโลก   Trump is coming!!   ไม่อยากจะจับเล้ยยยยยยย   หน้าตาฟินเลยนะโอบาม่า ฮร่าาาา   เหมือนว่าเฮีย…

  • เอากับเค้าด้วยหรอ!! สื่อนอกรายงาน iPhone 7 Plus ระเบิดคากล่องทั้งที่ยังไม่ได้ใช้งาน

    เอากับเค้าด้วยหรอ!! สื่อนอกรายงาน iPhone 7 Plus ระเบิดคากล่องทั้งที่ยังไม่ได้ใช้งาน

    ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนคงเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับ Samsung Galaxy Note 7 ที่เกิดระเบิดจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกมาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ Samsung เพียงบริษัทเดียวซะแล้วสิ ที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะทางบริษัทดังอย่าง Apple ก็มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นเช่นกัน โดยเมื่อวันพุธที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ทางผู้ใช้ Reddit ที่ชื่อ “kroopthesnoop” ได้ทำการโพสต์ภาพ iPhone 7 Plus ของเพื่อนร่วมงานที่ยังไม่ทันได้เปิดใช้งาน ก็ระเบิดตู้มคากล่องไปซะแล้ว     ตามรายงานระบุว่า iPhone 7 Plus สีดำเครื่องนี้ อาจได้รับความเสียหายมาจากการระเบิดระหว่างการขนส่งโดยบริษัท UPS เนื่องจากตัวเครื่องมีรอยไหม้ จอแตก และตัวเครื่องเปิดอ้าออก อีกทั้งตัวกล่อง และอุปกรณ์ที่อยู่ภายในกล่องก็มีรอยจากการไหม้เช่นเดียวกัน     ทางด้านเจ้าหน้าที่ของ Apple ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ได้ทำการติดต่อเจ้าของโพสต์ดังกล่าวเพื่อแสดงความรับรับผิดชอบต่อการเสียหายที่เกิดขึ้นไปเป็นที่เรียบร้อย พร้อมทั้งได้ช่วยประสานงานกับ AT&T เพื่อเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้กับทางลูกค้า แม้ว่ายังไม่สามารถระบุวันเวลาได้ในตอนนี้ก็ตาม     ทั้งนี้ หลังจากที่ได้รับเครื่องใหม่แทนเครื่องที่ระเบิดไปแล้ว…

  • Corgi Beach Day งานชุมนุมคอร์กี้ประจำปีครั้งที่ 13 มีเจ้าขาสั้นตัวยุ่งเข้าร่วมมากถึง 600 ตัว!!!

    Corgi Beach Day งานชุมนุมคอร์กี้ประจำปีครั้งที่ 13 มีเจ้าขาสั้นตัวยุ่งเข้าร่วมมากถึง 600 ตัว!!!

    สำหรับเจ้าหมาขาสั้นอย่างคอร์กี้ที่ครองหัวใจคนทั่วโลกโดยไร้ข้อกังขา เพื่อนๆ ก็อาจจจะยังไม่ทราบว่ามันก็มีเทศกาลเป็นของมันเองด้วยนะเออ ในประเทศสหรัฐฯ ชายหาดแคลิฟอร์เนีย ที่จัดขึ้นอย่างเป็นประจำทุกๆ ปี และปีนี้ก็เป็นปีที่ 13 แล้วล่ะ สำหรับเทศกาลงาน Corgi Beach Day ในแคลิฟอร์เนีย โดยมีเจ้าของนำเหล่าคอร์กี้ของตัวเองมาเข้าร่วมงานกว่า 600 ชีวิตเลยทีเดียว และนี่คือภาพบรรยากาศของงานนี้…   ขอต้อนรับสู่เทศกาลคอร์กี้ชายหาด   ที่เหล่าคอร์กี้จะได้เอ็นจอยกันอย่างเต็มที่   แต่เหล่าคนไปดูคงจะเอ็นจอยกว่าแน่นอน   หอมแก้ม 1 ที   เพราะจัดขึ้นแถบชายหาด การสวมชุดป้องกันจึงเป็นเรื่องจำเป็นนิดนึง สำหรับเจ้าขาสั้นที่ชอบว่ายน้ำ   คอสเพลย์ก็มาเต็ม งานนี้     ดูหน้าเจ้าตูบสิ ฮ่าๆๆ     งานประกวดก้นสวยรึเปล่า?   เห็นก็รู้แล้วว่าชอบคอร์กี้ขนาดไหน   เล่นทรายซะหน่อย   หรือจะไปโต้คลื่นกับเจ้าตัวนี้ดี?   ไปเล่นน้ำกันนนนน   หมดแรง   ทุกๆ คนมีช่วงเวลาที่เยี่ยมสุดๆ…

  • ทางการสหรัฐฯ ส่งตัวคุณแม่ชาวไต้หวันกลับประเทศ หลังจงใจคลอดบนเครื่องให้ลูกได้สัญชาติอเมริกัน!!!

    ทางการสหรัฐฯ ส่งตัวคุณแม่ชาวไต้หวันกลับประเทศ หลังจงใจคลอดบนเครื่องให้ลูกได้สัญชาติอเมริกัน!!!

    เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเหมียวไม่รู้จะพูดยังไงจริงๆ เมื่อทาง Shanghaiist ได้รายงานว่า มีคุณแม่ท้องแก่ขึ้นเครื่องบินของสายการบิน China Airlines จากไทเป สู่ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐฯ ระหว่างทางก็เกิดเหตุการณ์ลุ้นระทึกกันทั้งเครื่อง เมื่อเธอต้องทำคลอดฉุกเฉินบนไฟลท์ ซึ่ง Lucienne Chen คุณแม่มือใหม่ ไม่ได้แจ้งถึงสถานะการตั้งท้องของเธอต่อสายการบิน ซึ่งข้อกำหนดนั้นชัดเจนว่าห้ามผู้โดยสารที่ตั้งครรภ์นานกว่า 32 สัปดาห์ขึ้นเครื่อง   แต่สถานะการตั้งท้องของเธอแพทย์ได้ระบุว่า มีอายุครรภ์ถึง 36 สัปดาห์   ในขณะที่เครื่องบินๆ อยู่นั้น เธอก็มีอาการปวดท้องคลอดลูก ซึ่งทางแอร์โฮสเตสของเครื่องก็บอกให้เธอนอนราบต่ำ เธอกลับไม่สนใจและเฝ้าถามแต่เพียงว่า ‘ตอนนี้เราอยู่บนน่านฟ้าสหรัฐอเมริกาแล้วหรือยัง??’ อยู่ตลอด ทั้งนี้เมื่อเธอคลอดเสร็จ ทำให้สายการบินต้องเปลี่ยนแผนไปลงที่ Anchorage ในอะลาสก้า เพื่อให้พวกเขาได้รับการตรวจสอบทางการแพทย์ น่าสงสารเหล่าลูกเรือและผู้โดยสารที่ต้องดีเลย์ไฟลท์ไปทั้งสาย และแน่นอนต้องอยู่ในอะลาสก้าเป็นเวลา 1 วันเพื่อรอไฟลท์ใหม่เลยทีเดียว ในส่วนของเหตุการณ์นี้ประกอบกับเหตุการณ์ที่เธอไม่ยอมบอกข้อมูลที่แท้จริง เกี่ยวกับสถานะการตั้งครรภ์แก่สายการบิน ทางการของประเทศสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาจัดการในเรื่องนี้ โดยส่งเธอกลับไต้หวันทันที ส่วนลูกน้อยก็อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและแพทย์ในอะลาสก้าต่อไป..     พอเธอถูกส่งกลับประเทศ เหล่านักข่าวก็เข้าจู่โจมเธออย่างหนักหน่วง แต่เธอไม่ได้ตอบคำถามอะไร และหลีกเร้นหนีหน้า   ลองมาชมคลิปวิดีโอประกอบข่าวนี้กันได้เลย…