ศิลปินญี่ปุ่นใช้สองมือ เปลี่ยนก้อน ‘กระดาษฟอยล์’ ให้กลายเป็นบอลอัญมณีที่สวยงาม

กระดาษฟอยล์ คงเป็นสิ่งของทั่วๆ ไปที่เราใช้สำหรับการห่อโน่นนี่นั่น ไม่ค่อยมีอะไรสะดุดตาเราสักเท่าไหร่ แต่หากเพื่อนๆ ได้ลองมาเห็นผลงานของเขาคนนี้ อาจจะเปลี่ยนความคิดที่ผ่านมาไปเลยก็ได้

เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อว่า @puchuco709 ได้ทำการเปลี่ยนม้วนกระดาษฟอยล์ความยาว 16 เมตร ให้กลายเป็นลูกบอลที่ดูสวยงามวิจิตรตระการตา ควรค่าแก่การเก็บเอาไปใช้ตกแต่งสิ่งต่างๆ เป็นยิ่งนัก โดยเขาใช้เพียงแค่สองมือบวกกับเครื่องมือทั่วๆ ไปเท่านั้นเอง เราลองไปดูกรรมวิธีขั้นตอนการทำของเขากันเลย

 

เริ่มจากการขยำกระดาษฟอยล์ ให้มีรูปร่างเหมือนลูกบอลแบบนี้

 

จากนั้นใช้ค้อนทุบให้มันกลมเข้าไปมากที่สุด โดยอาจมีฐานครอบทรงกลมช่วยจัดทรงไปเรื่อยๆ

 

จากนั้นลูกบอลฟอยล์ของเราก็จะแน่นยิ่งขึ้น

 

แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ก็ให้ทำซ้ำอย่างนั้นไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะแน่นจริงๆ

 

ชวนลูกๆ เด็กๆ มาช่วยกันทำด้วยก็ได้นะ

 

เมื่อรู้สึกว่ามันแน่นมากแล้ว ค่อยใช้กระดาษทรายขัดให้เรียบ

 

หน้าตาจะเริ่มออกมาในลักษณะนี้

 

เสริมความเงาด้วยน้ำยาขัดเงาสักหน่อย

 

แท่น แท้นนน เราก็จะได้ลูกบอลออกมาหน้าตาแบบนี้

 

เพื่อความสมบูรณ์แบบ ให้ใช้ผ้าสำหรับเช็ดแว่นตาหรือกระจก เอามาเช็ดให้ทั่ว

 

เงาวาววับจับตาเลยมั้ยล่ะพ่อคู๊ณณณ

 

สวยเกิ๊นนน

 

แค่วางไว้ก็ดูดี ราวกับเป็นลูกบอลเหล็กยังไงยังงั้น

 

ขนาดของลูกบอลขึ้นอยู่กับปริมาณของกระดาษฟอยล์ที่เราใช้

 

หากใครกำลังตามหาลูกบอลไว้ห้อยต้นคริสต์มาสตอนปลายปี นี่แหละใช่เลย

 

คลิปขั้นตอนการทำอย่างละเอียด

 

ผลงานของชายคนนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์ และผลลัพธ์ที่ดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดี

 

เขาคนนี้คิดว่ามันสุดยอดเลยจริงๆ ทึ่งในความสามารถด้านงานฝีมือของชาวญี่ปุ่น

 

แสดงให้เห็นถึงความพยายาม ตั้งใจ ด้วยสองมือของตัวเอง

 

“สิ่งที่ฉันคิดมันสิ้นเปลืองเวลามากๆ เมื่อเทียบกับสิ่งนี้ ไม่เป็นอันตรายและยังเจ๋งอีกด้วย”

 

เป็นงานประดิษฐ์ที่เหมาะแก่การฝึกความอดทน ความอุตสาหะ ความใส่ใจในรายละเอียด ซึ่งเป้าหมายของสิ่งเหล่านั้นก็คือผลงานอันสวยงามชิ้นนี้

 

เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ มากกว่าเป็นอันตราย เหมาะสำหรับคนที่รู้สึกเบื่อๆ ในช่วงนี้

 

เพื่อนๆ คนไหนชื่นชอบก็สามารถลองทำกันได้ด้วยตนเอง แม้มันอาจจะกินไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราได้มีผลงานเก็บไว้อวดลูกอวดหลาน

 

ที่มา: boredpanda

Comments

Leave a Reply