หนุ่มเล่าประสบการณ์สุดหวาดเสียว…บังเอิญตื่นขึ้นมาระหว่าง ‘การผ่าตัด’ แต่หมอไม่รู้!?

สำหรับคนที่เคยผ่านการ ‘ผ่าตัด’ มาก่อน คงจะเคยจินตนาการในด้านลบกันไปต่างๆ นาๆ ว่าถ้าหากเราดมยาสลบแล้วไม่ฟื้นล่ะ? หรือถ้าเราตื่นขึ้นมาระหว่างการผ่าตัดเหมือนในหนังล่ะ? จะเป็นอย่างไร…

แต่สำหรับชายหนุ่ม Fenn Settle วัย 25 ปี กลับได้เจอประสบการณ์ฟื้นขึ้นมาระหว่างการผ่าตัดไส้ติ่งแบบจริงๆ ไม่อิงนิยาย และเขาก็ได้ออกมาเล่าถึงความรู้สึกกับเหตุการณ์ดังกล่าว

นาย Fenn เข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งที่โรงพยาบาล หลังจากที่ดมยาสลบไปแล้วเขาก็รู้สึกตัวและตื่นขึ้นมากลางคัน “ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังสำลักฝาขวดตาย เพราะมีท่อสอดเข้าไปที่คอของผม พร้อมๆ กันก็รู้สึกถึงของมีคมที่กำลังเฉือนเข้าไปที่ท้องของผม”

 

 

“ตอนนั้นผมคิดว่าผมกำลังจะตาย ในใจก็คิดถึงหน้าของพ่อแม่ตลอดเวลา ผมพยายามกลั้นหายใจเพื่อที่จะให้ตัวเองสลบไปอีกครั้ง จากนั้นก็ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับได้ยินเสียงการทำงานของเครื่องมือ และความรู้สึกถึงของมีคมที่ผ่าเข้ามาที่บริเวณท้องของผม”

“ผมรู้ตัวอยู่ตลอดว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตอนนั้นผมอยู่ในระหว่างการผ่าตัด แต่ผมไม่สามารถขยับได้ เหมือนกับกลายเป็นอัมพาต ผมพยายามลืมตา ส่งเสียงร้อง และขยับปลายนิ้วมือนิ้วเท้า”

“ผมพยายามทำทุกสิ่งเพื่อให้พวกเขารู้ตัว แต่สิ่งที่พอทำได้ก็คือการปล่อยปัสสาวะออกมา จนในที่สุดแพทย์ก็รู้ตัว และให้ยาสลบเขาอีกรอบ” Fenn เล่า

 

 

หลังจากการผ่าตัดผ่านพ้นไป เขาได้บอกกับพยาบาลว่า “การผ่าตัดเมื่อสักครู่ผมจำมันได้ ผมตื่นขึ้นมากลางการผ่าตัด” แต่นางพยาบาลตอบกับเขาว่า “มันก็แค่ความฝันเท่านั้นแหละ”

เช้าวันต่อมาเขาได้รับการตรวจกับหมอ และคุณหมอก็พูดกับเขาว่า “ผมเกรงว่าคุณกำลังมีอาการ ‘หวาดระแวงกับการผ่าตัด’ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามอย่าค้นกูเกิ้ลดูนะ เพราะมันอาจจะทำให้คุณคิดมากกว่าเดิมด็ได้”

 

 

แม้ว่าจะรอดผ่านการผ่าตัดมาได้และกลับไปทำงานตามปกติ แต่ Fenn ก็ ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการผ่าตัดครั้งที่ผ่านมา ทั้งสุขภาพจิต และความเครียดรุมเร้าเขาอย่างมาก จึงตัดสินใจยื่นฟ้องมูลนิธิ Calderdale and Huddersfield NHS Foundation Trust ที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลดังกล่าว

 

 

จากการตรวจสอบแล้วก็พบว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำการจดน้ำหนักของเขาผิดพลาด จนทำให้ปริมาณยาสลบที่ให้น้อยเกินไปอันอาจเป็นเหตุให้เขาฟื้นขึ้นมาท่ามกลางการผ่าตัด จึงทำให้เขาชนะคดีและได้เงินชดใช้ค่าเสียหายเป็นมูลค่าหลายพันปอนด์หรือมากกว่า 50,000 บาท

 

 

ที่มา : metro, dailymail

Comments

Leave a Reply