จากขยะข้างถนน สู่ “คีย์บอร์ด DIY” ผลงานคนไทย ผสมศิลปะและเทคโนโลยีอย่างลงตัว

หลายคนอาจจะไม่รุ้ว่าคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ที่เราใช้กันทุกวันนี้จะมีอยู่สองประเภทด้วยกัน ซึ่งจะแบ่งออกเป็นคีย์บอร์ดยาง และคีย์บอร์ดสปริง หรือที่เรารู้จักกันในยุคนี้ว่า “แมคคานิคอล คีย์บอร์ด

แน่นอนว่าหลายคนอาจจะคิดว่าเจ้า แมคคานิคอล คีย์บอร์ด ที่ว่าพึ่งจะมาที่ฮิตกันในช่วงนี้ มันพึ่งจะมีมาไม่นานนี้ แต่จริงๆ แล้วมันมีมานานแล้วต่างหาก เพียงแต่ว่าในยุคก่อนคอมพิวเตอร์นั้นมีราคาที่แพง การที่จะขายคีย์บอร์ดแพงด้วยจึงไม่เป็นผลดีแน่ๆ ทางผู้ผลิตจึงลดต้นทุนลงมาเป็นคีย์บอร์ดยาง เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงได้ง่าย

 

 

 

วันนี้ #เหมียวมู่ทู่ จะพามารู้จัก คุณเปรี้ยว วัย 40 ปี ผู้ที่เล็งเห็นว่าในกองขยะมีคีย์บอร์ดประเภทดังกล่าวถูกทิ้งอยู่เยอะมาก และบางอันมันยังใช้งานได้ หรืออาจจะนำกลับมาใช้ได้ใหม่

ด้วยเหตุนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เขาฉุกคิด และเปลี่ยนเศษขยะเหล่านั้นให้กลายมาเป็นสินค้าแฮนด์เมด รวมความเป็นศิลปะและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน

 

ส่วนอันนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน (เป็นตัวต้นแบบของรูปด้านบน)

 

เอาเป็นว่าลองมาดูบทสัมภาษณ์ที่ #เหมียวมู่ทู่ ได้คุยกับเขามากันดีกว่า ว่าจะเขามีความคิดเห็นยังไงกันนะ….

เหมียวมู่ทู่: คุณเปรี้ยวใช้เวลาการโมคีย์บอร์ดแต่ละอันประมาณกี่วันเหรอครับ?

คุณเปรี้ยว: ผมทำตอนว่างๆนะครับ ผมเป็นฟรีแลนซ์ทำงานที่้บ้านแบบเดียวกะหนังเรื่องฟรีแลซ์เลย จะลุกไปทำวันละนิด เวลาผมพักสายตาจากคอมครับ ตัวนึงเดียวนี้ 3-4เดือนครับ พยายามจะไม่ทำให้ซ้ำกันเลยต้องคิดเทคนิคใหม่เรื่อยๆบางตัวคิดไม่ออกตั้งทิ้งไว้เป็นเดือนก็มี

 

ส่วนตัวเหมียวมู่ทู่ ชอบอันนี้ที่สุดแล้ว

 

เห็นสีสันสวยงามแบบนี้แต่หารู้ไม่ ว่าดีไซน์สีสันต่างๆ ไม่ได้มาจากตัวเขาเองหรอกนะ เพราะคุณเปรี้ยวเป็นคนที่ตาบอดสีทำให้มีปัญหาในการดีไซน์สีต่างๆ ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลังความสวยงามก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นลูกชายของคุณเปรี้ยวนั่นเอง

 

และนี้ก็คือโฉมหน้าของอาร์ตไดเรกเตอร์ ผู้อยู่เบื้องหลังงานออกแบบ

 

เหมียวมู่ทู่: แล้วแต่ละแบบนี่ได้ไอเดียมาจากไหนเหรอครับ?

คุณเปรี้ยว: ดูจากเว็บต่างประเทศหรือกลุ่มเกมส์ครับ ตอนนี้คีย์บอร์ดสปริงกำลังกลับมานิยม มีไอเดียเยอะมาก แต่ ส่วนมากจะเป็นการแค่เปลี่ยน Keycaps เป็นปุ่มสีต่างๆ แล้วก็คุยกะลูกชายครับถามเค้าว่าตัวใหม่เอาไงดี อย่างตัวถัดไปก็จะเป็นคีย์บอร์ดแมวครับ ลูกผมบอกอยากได้ ผมก็จะทำ

 

ตัวเล็ก แต่ฝีมือไม่เล็กตาม อนาคตไกลแน่นอน

 

เหมียวมู่ทู่: แสดงว่าลูกชายมีอิทธิพลต่องานแต่ละชิ้นพอสมควรเลยสินะครับ?

คุณเปรี้ยว: เยอะครับ เพราะผมทำมาแล้ว 4-5 ปี บางทีมันตันคิดอะไรไม่ออกก็คุยกันทุกวัน เพราะผมอยู่กะลูกชายแค่สองคน บางทีก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง อย่างคีย์บอร์ดที่เป็นลายพรางเพ้นท์มือเค้าก็เป็นคนติด ผมเลยบอกว่าถ้าคิดแล้วก็ลงมือทำด้วย เค้าเลยต้องลงมานั่งเพ้นท์บางส่วนครับ

 

 

เหมียวมู่ทู่: อีกหน่อยจะพัฒนาเป็นอาชีพเสริมเลยไหมครับ?

คุณเปรี้ยว: ผมมีความคิดอย่างหนึ่งคือ ถ้าอะไรที่เราชอบแล้วมีเรื่องเงินมาพัวพันมันจะกดดันและมันจะไม่สนุก ถ้าผมรับ Mod รับพ่นสีปะผุนั้นนี่ บางทีความสวยมันเป็นสิ่งที่ไม่มีค่าตายตัว ผมเห็นว่าสวย ผมเห็นว่าสีเรียบ แต่คนจ่ายเค้าบอกว่าไม่เรียบ เถียงกันไปมาดราม่าออกสื่อ

ถ้าจะขายก็คงทำขายเป็นตัวๆ ออกไปตามใจศิลปินครับ น่าจะออกมาในแนวๆ นั้น  เพราะต้องยอมรับว่าบ้านเรานั้น คนที่สนใจคีย์บอร์ดส่วนใหญ่ยังเป็นเด็กยังเข้าใจโลกศิลปะไม่มากพอ ส่วนถ้าเป็นขายให้ชาวต่างชาติ โอกาสน่าจะมีมากกว่าครับ

 

 

เหมียวมู่ทู่: สุดท้ายนี้คุณเปรี้ยวได้อะไรจากการโมคีย์บอร์ดแบบนี้บ้างครับ?

คุณเปรี้ยว: ตอบยากเนอะ ถ้าตอบแบบนางงามก็คือใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แต่ผมไม่เลือกตอบแบบนั้นนะ ผมตอบว่าผมแสดงให้เห็นว่าบางทีถ้าเราชอบและมุ่งมั่นทุ่มเทกับมัน สิ่งที่ผมได้กลับมาในวันนี้คือความภูมิใจในตัวเอง และลูกชายก็ภูมิใจว่าถึงเรื่องที่เราทำจะเป็นเรื่องเล็กๆ

แต่เราก็เป็นที่ 1 ในวงการเล็กๆ นั้น และอีกอย่างหนึ่งคือสิ่งที่เหมือนจะสิงอยู่ในคีย์บอร์ดคือช่วงเวลาที่ทำครับ เพราะตัวหนึ่งสามเดือน มันจะมีช่วงเวลาของสิ่งที่ทำฝังอยู่ในนั้น มองเห็นทีไรก็จะนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตตอนที่ทำมันเสมอ ร้องไห้ดีใจเสียใจ มีหมดครับ

 

.

.

.

.

.

.

 

นี้ก็เป็นบทสัมภาษณ์ที่ได้คุยกับคุณเปรี้ยวมานะครับ เราจะเห็นได้ว่าเขาให้คุณค่ากับงานของเขาเป็นศิลปะมากกว่า ตั้งใจเพื่อจะทำขายจริงๆ แถมความตั้งใจในการทำสิ่งเหล่านี้น่าจะส่งต่ออะไรบางอย่างให้กับลูกชายของเขาได้ดีเลยล่ะ

ถ้าใครชอบและอยากจะติดตามผลงานของคุณเปรี้ยว สามารถที่จะเข้าไปกดไลค์เพจของเขาได้ที่ 6664 mech Keyboard Mod ยังมีผลงานสวยๆ งามอีกมากมายให้ได้ชมกันอีกเพียบ

 

ที่มา pantip

Comments

Leave a Reply