จากเจ้าเหมียวที่ไม่มีใครเข้าใกล้เพราะ ‘โรคเรื้อน’ ได้รับอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นจากทาสผู้ใจดี

เรื่องราวชีวิตของเจ้าเหมียวที่ไม่มีใครอยากเข้าใกล้มัน เพราะป่วยเป็นโรคเรื้อน แต่สุดท้ายก็มีทาสผู้ใจดียื่นมือเข้ามากอดมันและสอนให้มันรู้จักกับความรักความอบอุ่นที่แท้จริง

 

เจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่า Valentino ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ทำให้ไม่มีใครอยากแตะต้องมันเท่าไหร่

 

ไม่รู้ว่ามันไปเจออะไรมาบ้าง แต่สภาพภายนอกของมันแย่สุดๆ ขนและผิวหนังภายนอกแห้งจนติดกันเป็นพืด

 

นอกจากนี้หนังตาของมันก็บวมเป็นอย่างมาก จนทำให้มันแทบมองไม่เห็นอะไร

 

ยิ่งไปกว่านั้น มันยังป่วยเป็นโรคขี้เรื้อนแห้งซึ่งติดต่อได้ง่ายทั้งในมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ทำให้มันถูกรังเกียจทั้งจากแมวด้วยกัน และมนุษย์คนอื่นๆ

 

โชคดีมีคนใจบุญนำตัวมันมาส่งที่สถานดูแลสัตว์ Baldwin Park เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลมันก็คือ  Elaine Seaman

 

และขณะที่เธอกำลังจับมันเข้ากรง เธอก็ได้ยินเสียงมันร้อง วินาทีนั้นเธอรู้ได้ทันทีเลยว่ามันต้องการอะไร

 

เธอถอดถุงมือ และโอบกอดมันด้วยความรัก

 

“เหมือนกับมันตะโกนบอกฉันว่า ช่วยผมด้วย”  Elaine กล่าว

 

นี่เป็นครั้งแรกที่มันได้รับความอบอุ่นและความรักจากผู้อื่น พิจารณาจากภาษากายของมันแล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันมีความสุขมากขนาดไหน เธอจะทำให้แน่ใจว่า มันจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง และจากนั้นก็จะหาผู้อุปการะต่อไป

 

 

หลังจากผ่านไปเป็นเวลา 1 สัปดาห์ในที่สุดเจ้า Valentino ก็สามารถมองเห็นได้เป็นปกติแล้ว!!

เจ้า Valentino นั้นเป็นแมวที่มีความกระตือรือร้นมาก และมักจะส่งเสียงร้องเสียงดังเมื่อถึงเวลาอาหาร มันชื่นชอบเวลาที่เจ้าหน้าที่เอามือมานวดตัวของมันมากๆ ซึ่งมันจะหายใจเป็นเสียงกรนเสียงดังจนได้ยินออกไปนอกห้องเลยล่ะ

 

มาอาบน้ำกันนะเจ้าเหมียว

 

แหม พอหายแล้วก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ยยยย

 

หลังผ่านไป 1 เดือนเจ้า Valentino ก็เริ่มจะหายดีแล้ว อาการเรื้อนของมันก็ค่อยๆ หายไป อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาอีกตั้ง 2 กิโลกรัมแน่ะ!!

“ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า เมื่อการรักษาเสร็จสิ้นแล้ว มันจะได้ไปอาศัยอยู่ที่บ้านอุปถัมภ์ร่วมกันกับทาสที่แสนใจดี และแมวเหมียวตัวอื่นๆ ที่จะกลายเป็นเพื่อนของมันในอนาคต”

 

 

ความรักสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!??

.

 

ลองไปชมความน่ารักของเจ้า Valentino กันที่ข้างล่างนี้ได้เลยนะจ๊ะ

 

ที่มา : lovemeow

Comments

Leave a Reply