Tag: ไม่ควร

  • 10 อาหารที่เป็นอันตรายต่อ “หมา-แมว” อย่างมาก รักน้องอย่าให้น้องกินเด็ดขาด!!

    10 อาหารที่เป็นอันตรายต่อ “หมา-แมว” อย่างมาก รักน้องอย่าให้น้องกินเด็ดขาด!!

    รู้หรือไม่ว่า เจ้าตูบเจ้าเหมียว ของเรานั้นถึงแม้มันจะกินอยู่อย่างง่ายๆ แต่มันก็มีอาหารหลายชนิดที่ “เป็นภัย” ต่อร่างกายของมันอยู่นะ บางครั้งก็เป็นอาหารธรรมดาที่เราคาดไม่ถึง เราอาจจะคิดว่าให้หมาแมวของเรากินได้ แต่อันที่จริงมันมีผลเสียมากกว่าที่คิด กว่าจะรู้ตัวเจ้าหมาเจ้าแมวก็อาจเกิดอันตรายไปแล้วก็ได้ ฉะนั้น วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า ของธรรมดาๆ อะไรบ้างที่หมาแมวไม่ควรกิน เพราะมันจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี   1. หัวหอมและกระเทียม หัวหอม กระเทียม และต้นหอมจะมีสารทำให้เกิดกลิ่น สารดังกล่าวจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดแดงของสัตว์ซึ่งนำไปสู่ภาวะ โลหิตจาง บางกรณีอาจทำอันตรายต่ออวัยวะภายในอย่างรุนแรงได้ นอกจากนี้ยังมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ความเบื่ออาหาร ความบาดเจ็บ และหัวใจเต้นเร็ว ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดไม่กี่วันหลังจากทานพืชจำพวกหัวหอมไปแล้ว ที่มา: http://www.petpoisonhelpline.com/poison/onion/   2. ดอกลิลลี่ ถึงดอกลิลลี่จะเป็นดอกไม้ที่สวยงามแต่มันอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงของคุณอย่างมาก ในดอกลิลลี่นั้นมีสารที่เป็นพิษหากเข้ากระบวนการย่อยอาหารของหมาแมว สารดังกล่าวนั้นเป็นอันตรายต่อไตอย่างมาก อาการเมื่อสัตว์เลี้ยงของคุณได้รับพิษจากดอกลิลลี่ก็คือ มันจะเริ่มเบื่ออาหาร อาเจียน ฉี่และมีน้ำลายไหลออกมามากกว่าปกติ ที่มา: http://www.pethealthnetwork.com/cat-health/cat-toxins-poisons/easter-lily-poisoning-cats   3. องุ่นและเรซิน องุ่นเพียงไม่ถึง 15 กรัม ก็สามารถทำให้สุนัขติดพิษได้ เพราะองุ่นนั้นเป็นภัยต่อไตของสุนัขอย่างมาก สัตว์เลี้ยงที่แข็งแรงเมื่อทานองุ่นเข้าไปก็อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง เฉยเมย เบื่ออาหาร และอาเจียนได้ ที่มา: https://www.petmd.com/dog/emergency/digestive/e_dg_grape_raisin_toxicity…

  • มาดู 12 สิ่ง ที่ผู้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการ “ออกกำลังกาย” ต้องทำแบบนี้สิถึงจะถูก!!

    มาดู 12 สิ่ง ที่ผู้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการ “ออกกำลังกาย” ต้องทำแบบนี้สิถึงจะถูก!!

    การออกกำลังกายถือเป็นสิ่งที่กำลังนิยมกันในปัจจุบันยุคที่ผู้คนหันมาสนใจเรื่องสุขภาพและรูปร่างกันมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายก็ได้ออกมาเผยถึงวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้องกันมากมาย แนวทางการออกกำลังกายจึงมีออกมาให้เห็นเยอะแยะไปหมด บางคนก็บอกว่าควรออกกำลังกายตอนเช้า บางคนก็บอกว่าควรออกตอนเย็น อ้าว… สรุปแล้วจะเชื่อใครดีล่ะเนี่ย? เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เพื่อให้เข้าใจตรงกัน วันนี้เราจึงขอเสนอ 12  ความเชื่อผิดๆ ของการออกกำลังกายที่อาจทำให้คุณเสียสุขภาพได้ เราอย่ารอช้า ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง…   1. ออกกำลังกาย ถ้าจะให้ดีก็ต้องตอนเช้าสิ!!   ไม่เสมอไปครับ เวลาการออกกำลังกายที่ดีที่สุดคุณเวลาไหนก็ได้ที่คุณพร้อม คุณจะพร้อมออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็นนั่นไม่สำคัญเลย สิ่งสำคัญก็คือ ความสม่ำเสมอ ต่างหาก เพราะมีงานวิจัยออกมาแล้วว่าการออกกำลังกายตอนเช้ากับตอนเย็น ไม่ได้มีความแตกต่างกันเลย   2. การบริหารสมองที่ดี ก็คือการเล่นเกมปริศนาต่างๆ   ไม่จริงเสมอไปอีกนั่นแหละ เพราะว่าการออกกำลังกายทางร่างกายเองก็สามารถบริหารร่างกายไปพร้อมกับสมองได้ด้วยเช่นกัน การออกกำลังกายที่ทำให้ เลือดไหลเวียนเร็วขึ้นย่อมดีกว่า การเล่นเกมปริศนาหลายๆ ชั่วโมง อีกอย่าง การศึกษาพบว่า การเล่นกีฬานั้นทำให้มีอารมณ์ที่ดี มีความจำดี และป้องกันสมองเสื่อม   3. พักการออกกำลังกายสัก 2-3 สัปดาห์ รูปร่างก็ยังคงเหมือนเดิม   แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น คนส่วนใหญ่สูญเสียมัดกล้ามไปหลังจากพักการออกกำลังกายเพียงแค่ 1…

  • จากการศึกษาพบว่า นี่คือ 5 เหตุผลที่คุณไม่ควรนั่งกินข้าว หน้าโต๊ะคอมและโต๊ะทำงาน!!

    จากการศึกษาพบว่า นี่คือ 5 เหตุผลที่คุณไม่ควรนั่งกินข้าว หน้าโต๊ะคอมและโต๊ะทำงาน!!

    สำหรับในโลกปัจจุบันที่แสนจะเร่งรีบ โดยเฉพาะเหล่าพนักงานออฟฟิศและมนุษย์เงินเดือนนั้น การรับประทานอาหารที่โต๊ะทำงานของตัวเองนั้นก็ออกจะดูเป็นเรื่องที่สะดวกสบาย ไม่ต้องเดินไปไหน แถมยังเป็นการประหยัดเวลาอีกต่างหาก แต่เชื่อมั้ยล่ะว่า การรับประทานอาหารที่โต๊ะทำงานของตัวเองนั้น แท้จริงแล้วส่งผลเสียมากกว่าผลดีอีกนะเออ วันนี้เราจึงอยากนำเสนอ 5 เหตุผลดีๆ ที่ว่าทำไมคุณ ‘ไม่ควร’ ทานอาหารที่โต๊ะทำงานของตัวเองจากทาง FitSugar มาฝากกัน และไม่แน่ เราอาจเปลี่ยนพฤติกรรมนี้ไปตลอดกาลเลยล่ะ…   1 . โต๊ะทำงานเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะสำหรับการทานอาหารอย่างยิ่ง อย่างแรกเลยคือโต๊ะอาหารของคุณนั้นไม่ได้เป็นจุดที่มีความสะอาดและทานอาหารกัน กล่าวคือในคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆ นั้น ใน 1 ตารางนิ้วอาจมีเชื้อโรคแฝงอยู่เฉลี่ยแล้วกว่า 719 ตัว ส่วนเม้าส์น่ะเหรอ ไม่ต้องพูดถึง ราวๆ 846 ตัวเลยทีเดียว!!   2. การลุกไปเดินทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้น ในแต่ละวันนั้นถ้าอยากให้เดินแล้วสุขภาพดีขึ้นจริงๆ ควรมีระยะทางประมาณ 5,000 ก้าวต่อวัน แต่ก็อย่างที่ทราบกันว่ามนุษย์ในปัจจุบันนั้นมีการเดินที่น้อยลงเรื่อยๆ การลุกไปหาอะไรทานเองซะบ้าง ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน อย่างน้อยๆ ก็ยืดเส้นยืดสายได้ล่ะเนาะ   3. คุณอาจพลาดโอกาสดีๆ ในการเข้าสังคม เป็นที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม และช่วงเวลาไหนที่จะพูดคุยกันได้ดีกว่าช่วงพักทานข้าวล่ะ?? ข้อมูลรนะบุว่า การออกไปกินข้าวด้วยกันนั้นทำให้เราพักได้ดีกว่า แถมยังเป็นการสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนร่วมงาน ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้นอีกด้วย…

  • ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังชี้ วิธีการดูแลผิวหน้าที่สุดคือการล้างหน้า…วันละไม่เกิน 2 รอบเท่านั้น!!!

    ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังชี้ วิธีการดูแลผิวหน้าที่สุดคือการล้างหน้า…วันละไม่เกิน 2 รอบเท่านั้น!!!

    สำหรับการล้างหน้า แน่นอนว่าเป็นกิจกรรมที่เราทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว ยิ่งอากาศร้อนๆ แบบนี้ด้วยแล้วล่ะก็ ล้างบ่อยๆ สดชื่นไม่พอยังเป็นการล้างเหงื่อไคล และฝุ่นที่เราเจอมาในอากาศเวลาเราไปไหนมาไหน แต่เพื่อนๆ เคยรู้กันมั้ยล่ะว่า การล้างหน้าบ่อยๆ นั้นไม่ได้ส่งผลดีต่อเราเสมอไป เพราะล่าสุด Dr. Terrence Keaney ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังของผู้ชายที่ขณะนี้กำลังทำงานอยู่กับบริษัท Dove ได้แนะนำว่า คนเราควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง และเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น!!!   ล้างหนึ่งครั้งในตอนเช้า และอีกครั้งตอนก่อนเข้านอน   การออกมาแนะนำขนาดนี้ผู้เชี่ยวชาญของเราก็ต้องมีคำอธิบายประกอบกันอยู่แล้ว หลักๆ แล้วก็เพราะว่า ‘เวลาที่คุณล้างหน้าด้วยสบู่หรือโฟมล้างหน้านั้น คุณไม่ได้เพียงชะล้างความมันและคราบเหงื่อไคลออก แต่จะชะล้างไขมันชนิดดีที่ผิวหน้าสร้างขึ้นไปด้วย ทำให้เกิดการระคายเคืองและสำหรับบางคนอาการจะรุนแรงกว่าคนอื่นๆ ‘ Dr. Terrence Keaney กล่าว     และ ดร. ของเราก็ยังฝากคำเตือนไปเหล่าท่านชายอีกด้วย ไม่ใช่เฉพาะผิวหน้าเท่านั้น การอาบน้ำก็เช่นกัน โดยการถูตัวหรืออาบน้ำแรงๆ เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดอาการระคายเคืองขึ้นได้ และสุดท้ายเขาก็ยังได้แนะเพิ่มว่า ตารางที่ดีที่สุดในการล้างหน้าและอาบน้ำก็คือ 1 ครั้งตอนตื่น และอีก 1 ครั้งก่อนเข้านอน ไม่รุนแรงเกินไป และถ้าจะให้ดีหลังจากการอาบน้ำก็ทาครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลดการระคายเคืองกันหน่อยนะจ๊ะ…

  • สถาบันอาหารต่างประเทศเผย ห้ามเก็บ ‘มันฝรั่ง’ ไว้ในตู้เย็น เสียรสชาติแถมสร้างสารก่อมะเร็ง!!!

    สถาบันอาหารต่างประเทศเผย ห้ามเก็บ ‘มันฝรั่ง’ ไว้ในตู้เย็น เสียรสชาติแถมสร้างสารก่อมะเร็ง!!!

    ถ้าคุณรู้กฎล่ะก็ เวลาไปช็อปปิ้งเราก็มักจะซื้อพืชผักมาแบบเยอะมากกกก และต้องการเก็บมันให้สดและคงอยู่ในสภาพแบบนั้นได้ยาวนานที่สุด วิธีการที่ดีที่สุดที่เรามีตอนนี้ก็คือยัดมันใส่ตู้เย็นซะ!!! แน่นอนว่ามันเป็นวิธีการที่เฉลียวฉลาด เป็นเหตุเป็นผล และในหลายๆ แง่ทางมันเป็นไอเดียที่ดีมากๆ แต่มันมีผักอยู่ชนิดหนึ่งที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรนำไปใส่หรือเฉียดเข้าใกล้เลยนั่นก็คือ ‘มันฝรั่ง’ !!!   ห้ามเอามันฝรั่งใส่ตู้เย็นเด็ดขาด   มันฝรั่งในที่นี้คือมันฝรั่งที่ยังไม่ได้นำไปปรุงอาหาร หรือมันฝรั่งสุดๆ นั่นแหละ ห้ามเอาไปเก็บไว้ในตู้เย็นเด็ดขาด หลักๆ แล้วก็เพราะจะทำให้มันเสียรสชาติ เพราะความเย็นจะทำให้แป้งในมันฝรั่งเปลี่ยนเป็นน้ำตาลไวขึ้น ทำให้มันฝรั่งทั้งหวานทั้งแข็ง แซ๊ดสุดๆ ไปเลย -*- เหตุผลที่รองลงมาแต่สำคัญมากนั่นก็คือเมื่อแป้งกลายสภาพเป็นน้ำตาลแล้วล่ะก็ อาจเกิดอันตรายต่อตัวคุณพอนำไปปรุงเป็นอาหารได้ หน่วยงาน Food Standards Agency ได้อธิบายว่าเมื่อนำมันฝรั่งที่แช่เย็นมาปรุงอาหารเช่นอบหรือทอด น้ำตาลที่แปลงสภาพมาจากแป้งจะไปรวมตัวกับกรดอะมิโน Asparagine ซึ่งเป็นประเภทที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย   พอรวมตัวกันแล้วก็จะเกิดเป็นสาร Acrylamide ที่ทางวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นสารก่อมะเร็ง!!!   การเก็บมันฝรั่งที่ดีที่สุดล่ะ!!?   ในส่วนของการเก็บมันฝรั่งสดๆ นั้น แค่เก็บมันใส่ตู้หรือตะกร้าก็พอแล้วล่ะ ถ้าจะให้ดีที่สุดนำมันมารวมกันไว้ในถุงกระดาษ เก็บไว้ในที่เย็นธรรมดาๆ แบบไม่ต้องใส่ตู้เย็น…   และนี่ก็คือสาเหตุที่เพื่อนๆ ไม่ควรเก็บมันฝรั่งไว้ในตู้เย็นกันนะจ๊ะ อันตรายอย่างไม่คาดคิดเลยทีเดียวเชียว ไว้วันหลังใครที่เก็บไว้ในตู้เย็นอย่าทำแบบนั้นกันอีกน้าาา ที่มา: Metro, Food Standards…