Tag: ฮิญาบ

  • L’Oreal เปิดตัวนางแบบในชุดฮิญาบ พร้อมบอกแม้ผมที่อยู่ใต้ผ้าคลุมก็ต้องได้รับการดูแลเช่นกัน

    L’Oreal เปิดตัวนางแบบในชุดฮิญาบ พร้อมบอกแม้ผมที่อยู่ใต้ผ้าคลุมก็ต้องได้รับการดูแลเช่นกัน

    แบรนด์ L’Oreal บริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลความงามและเส้นผมที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก ได้เปิดตัวนางแบบในแคมเปญ L’Oreal Elvive ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอันใหม่ล่าสุด การเปิดตัวนางแบบครั้งล่าสุดนี้ทาง L’Oreal ได้ความร่วมมือจาก Amena Khan บล็อกเกอร์ผู้ทรงอิทธิพลในอินเตอร์เน็ต ที่เข้าร่วมแคมเปญการดูแลผมแบบไม่ต้องโชว์เส้นผม     ทางแบรนด์ L’Oreal ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเหล่าหญิงสาวมุสลิมที่ถึงแม้ว่าพวกเธอจะสวมฮิญาบปกปิดเส้นผม แต่พวกเธอก็ต้องได้รับการดูแลเส้นผมที่ซ่อนเอาไว้ให้มีสุขภาพดีเหมือนหญิงสาวคนอื่นๆ     แคมเปญนี้ได้ช่างภาพระดับตำนานอย่าง Rankin มาเป็นผู้ถ่ายภาพแสดงความงามของความงามของหญิงสาวในทรงผมต่างๆ     Amena บอกว่า “เส้นผมเป็นหนึ่งในความงามของผู้หญิง ฉันชอบในการจัดแต่งทรงผม และรักผมที่มีสุขภาพดี แม้ตอนถอดฮิญาบออกมาก็สามารถเห็นผมที่สวยและเงางามของฉันได้”     “ฉันตื่นเต้นมากและแทบไม่เชื่อว่าฉันจะเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ระดับโลกอย่าง L’Oreal มันแสดงถึงความเปิดกว้างของผลิตภัณฑ์ที่สามารถรองรับการจัดแต่งทรงผมหลากหลายประเภท” เธอกล่าวเสริม Amena รู้ดีว่าหญิงสาวที่สวมฮิญาบทั้งหลายต่างก็ต้องการที่จะดูแลรักษาเส้นผมให้อยู่ในสภาพดีเช่นกัน ดังนั้นผลิตภัณฑ์ของ L’Oreal นี้สามารถตอบโจทย์ได้ดีที่สุดสำหรับเธอและหญิงสาวทั่วโลก   ที่มา dailymail

  • นักฟุตบอลสาวทีมชาติอิหร่านถูกแบนและประกาศจับ หลังจากไม่สวม ‘ฮิญาบ’ ขณะเล่นฟุตบอล

    นักฟุตบอลสาวทีมชาติอิหร่านถูกแบนและประกาศจับ หลังจากไม่สวม ‘ฮิญาบ’ ขณะเล่นฟุตบอล

    นักฟุตบอลสาวทีมชาติอิหร่านจำเป็นต้องลี้ภัยอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเธอกำลังถูกดำเนินคดีและจับกุมตัว หลังปรากฎภาพของเธอระหว่างเล่นฟุตบอลโดยไม่สวมฮิญาบและใส่กางเกงขาสั้น Shiva Amini นักฟุตบอลสาววัย 28 ปี ถูกทางสมาคมฟุตบอลของประเทศอิหร่านตั้งข้อหาดังกล่าว ในระหว่างที่เธอกำลังพักผ่อนส่วนตัวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยกฎการสวมผ้าคลุมศีรษะสำหรับสาวอิสลามนั้นถูกบังคับใช้ในอิหร่านหลังจากที่เกิดการปฏิวัติเมื่อปี 1979     นักฟุตบอลสาวคนดังกล่าวถูกสั่งแบนจากทีมชาติ และขณะนี้กำลังลี้ภัยอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เธอได้ให้สัมภาษณ์ว่าเธอไม่สามารถที่จะกลับประเทศบ้านเกิดได้แล้ว เนื่องจากเธอกลัวที่จะถูกจับกุม “ฉันไม่สามารถกลับไปที่อิหร่านได้แล้ว ฉันจะถูกจับทันทีเมื่อถึงสนามบิน และจากนั้นก็จะถูกส่งตัวเข้าคุก” หญิงสาวกล่าว   ภาพของเธอที่ถูกทางสมาคมฟุตบอลของประเทศตั้งข้อหา   อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถเปิดเผยที่อยู่ของตัวเองในสวิตเซอร์แลนด์ได้ เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่ทางการอิหร่านก็ได้ทำการติดต่อกับทางครอบครัวของเธอเพื่อสืบหาที่อยู่ของนักฟุตบอลหญิง Amini อธิบายว่าเธอถูกตั้งข้อหาดังกล่าวหลังจากที่อัพภาพของตัวเองระหว่างเล่นฟุตบอลลงสื่อโซเชียลมีเดีย เธอได้พูดคุยกับคนของสมาคมและเพื่อนๆ หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ ซึ่งบางคนก็เข้าใจในสิ่งที่เธอทำ แต่ขณะที่บางคนบอกว่าสิ่งที่เธอทำนั้นเป็นการต่อต้านรัฐอิสลาม     “เจ้าหน้าที่ระดับสูงบอกกับฉันว่าภาพดังกล่าวนั้นมันค่อนข้างชัดเจนว่าฉันทำงานให้กับพวกกลุ่มฝ่ายค้าน และต่อต้านรัฐบาล” หญิงสาวกล่าว นักฟุตบอลสาวเริ่มกังวลในความปลอดภัยของเธอ หลังจากที่สื่อต่างๆ เริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ Voice of America ได้รายงานเรื่องของเธอในภาษาเปอร์เซีย ในทุกๆ เช้า Amini จะออกไปวิ่งและใช้เวลาเล่นฟุตบอลกับผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ เธอยังหวังจะได้กลับไปเล่นฟุตบอลอาชีพและตามหาความท้าทายในฐานะนักกีฬาอาชีพอีกครั้ง     นอกจากนี้เธอยังได้พูดถึงกฎการสวมฮิญาบอีกว่ามันไม่ควรที่จะเป็นประเด็นสำคัญสำหรับนักกีฬาหญิง และเธอเองก็เสียใจมากที่ถูกตัดชื่อออกจากทีมชาติเพียงเพราะสาเหตุดังกล่าว “ฉันได้รับจดหมายจากสมาคมฟุตบอลเกี่ยวกับเรื่องสวมฮิญาบ และไม่เพียงแค่นั้นพวกเขายังบอกว่าฉันเล่นฟุตบอลกับพวกเด็กๆ ผู้ชายอีกด้วย ดังนั้นฉันจึงถูกตัดสิทธิ์จากทีมชาติ” นอกจากจะเสียใจที่ถูกตัดสิทธิ์จากทีมชาติแล้ว…

  • สาวมุสลิมใจรักคอสเพลย์ โชว์ให้โลกเห็นว่าเธอสามารถปรับเปลี่ยนให้ ‘ฮิญาบ’ เข้าได้กับทุกตัวละคร

    สาวมุสลิมใจรักคอสเพลย์ โชว์ให้โลกเห็นว่าเธอสามารถปรับเปลี่ยนให้ ‘ฮิญาบ’ เข้าได้กับทุกตัวละคร

    ‘เพียงแค่คุณสวมฮิญาบ ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะแต่งคอสเพลย์ไม่ได้’ คอสเพลย์อาจจะเป็นวัฒนธรรมที่เริ่มมาจากญี่ปุ่น แต่ในปัจจุบันมันกลายเป็นอะไรที่รู้จักและครอบคลุมไปทั้งโลกเรียบร้อบแล้ว จนไม่ว่าใครๆ ก็สามารถจะลุกขึ้นมาแต่งคอสเพลย์ได้ เช่นเดียวกับ Misa หญิงสาวชาวมาเลเซียวัย 21 ปี ทีนับถือศาสนาอิสลามคนนี้ ซึ่งถ้าเราพูดถึงศาสนาดังกล่าวเราก็จะรู้กันว่าสาวๆ ต้องสวมฮิญาบตลอดเวลา ฉะนั้นการคอสเพลย์จึงเป็นเรื่องที่ตัดออกทันที แต่เธอไม่ปล่อยให้มันมาเป็นอุปสรรคในความชอบของเธอ     เธอได้ทำให้ทุกคนเห็นว่า แม้จะสวมฮิญาบอยู่ก็สามารถคอสเพลย์และทำให้มันเข้ากันกันได้ โดยเธอโพสต์การคอสเพลย์ระหว่างสวมฮิญาบของเธอลงอินสตาแกรม โดยวิธีหลักๆ ในการคอสเพลย์ของเธอคือพยายามเลือกฮิญาบสีต่างๆ ให้เจ้ากับการคอสเพลย์ในตัวละครนั้นๆ   เป็นตัวละครจาก Attack on Titan ก็ยังได้   และด้วยการใช้ไอเดียดังกล่าว จึงทำให้ไอเดียในการคอสเพลย์นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไอเดียใหม่ๆ บังเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ และมันก็ออกมาดูดีมากๆ ไม่ว่าเธอจะคอสเพลย์เป็นอะไรก็ตาม   ใช้ฮิญาบสีต่างๆ มาเป็นทรงผมของตัวละคร ถือเป็นหนึ่งในไอเดียที่น่าสนใจ   อย่างมิซากิจากนารูโตะที่ผมสีฟ้า เธอก็ใช้ฮิญาบสีฟ้าก็สามารถคอสเพลย์ได้ไม่ยากแล้ว   ถ้าตัวละครผมดำ ก็ใช้ฮิญาบดำ   นารูโตะก็เหมือนกัน ใช้ฮิญาบสีเหลืองมาเป็นผม เท่ไม่หยอก   ได้ลงหนังสือด้วยนะ ธรรมดาที่ไหน   เอาเป็นว่าถ้าใครชื่นชอบอยากจะติดตามเธอแล้วละก็ สามารถเข้าไปกดติดตามได้ที่อินสตาแกรมของเธอที่ miisa_mhc และสุดท้ายอย่าปล่อยให้อะไรมาปิดกั้นความชื่นชอบของคุณ…

  • รู้จักกับ “นางแบบชาวมุสลิมคนแรก” ที่สวมฮิญาบถ่ายภาพลงปกนิตยสาร ALLURE

    รู้จักกับ “นางแบบชาวมุสลิมคนแรก” ที่สวมฮิญาบถ่ายภาพลงปกนิตยสาร ALLURE

    เมื่อพูดถึงชาวมุสลิมแล้วสิ่งที่เราคุ้นตากันดีก็คือชาวมุสลิมที่เป็นผู้หญิงจะใส่ผ้าฮิญาบปกคลุมศีรษะไปจนถึงหน้าอก เพื่อเป็นการปกปิดร่างกายให้มิดชิดตามบทบัญญัติของศาสนา ซึ่งในปัจจุบันนี้อุตสาหกรรมแฟชั่นเพื่อชาวมุสลิมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชุดเดรสมุสลิมหรือฮิญาบที่มีรูปแบบหลากหลายมากขึ้น และไม่ใช่แค่แฟชั่นเครื่องแต่งกายของชาวมุสลิมที่ได้เข้ามามีบทบาทในอุสาหกรรรมแฟชั่น แต่ในตอนนี้ได้มีนางแบบสาวชาวมุสลิมคนแรกที่ได้เซ็นสัญญากับแบรนด์แฟชั่นยักษ์ใหญ่ และแน่นอนว่าเธอนั้นสวมฮิญาบด้วย   Halima Aden เธอเป็นสาวมุสลิมคนแรกที่ได้สวมฮิญาบถ่ายแบบในนิตยสาร ALLURE ในขณะที่เธออายุได้เพียง 19 ปีเท่านั้น เธอได้เซ็นสัญญากับแบรนด์ IMG และได้เดินแฟชั่นโชว์ของ Yeezy Season 5    ในการสัมภาษณ์เธอได้เล่าเรื่องราวของที่มาในการสวมใส่ฮิญาบว่า เธอเกิดมาในค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศเคนย่า และได้เข้ามาในสหรัฐอเมริกาตอนเธออายุได้ 7 ปี เมื่อเธออายุได้ 8 ปี เธอเห็นว่าแม่ของเธอที่สวมใส่ฮิญาบนั้นเป็นเหมือนกับฮีโร่ และเมื่อเธอเติบโตขึ้นก็ได้มองว่าการสวมใส่ฮิญาบนั้นมีความหมายและยังคาบเกี่ยวไปถึงความเชื่อของศาสนามุสลิม ซึ่งการใส่ฮิญาบของเธอนั้นจึงเป็นการแสดงตัวตนของเธอนั่นเอง   Aden กล่าวว่า “สังคมสร้างแรงกดดันมากๆ ต่อเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่แตกต่าง”  เธอยังกล่าวเสริมอีกว่า  “ฉันมีอะไรมากกว่าที่จะนำเสนอรูปลักษณ์ภายนอกอย่างร่างกายของฉันฮิญาบช่วยปกป้องฉันจากจากคำว่า คุณผอมเกินไป คุณอ้วนเกินไปและพวกคนที่จ้องมองสะโพกของเธอหรือต้นขา ฉันแทบไม่ต้องกังวลกับเรื่องพวกนี้เลย”   การใส่ฮิญาบนั้นเป็นวิธีการตีความศาสนาของเธอ   ซึ่งในตอนนี้ก็มีแบรนด์ดังอย่าง Dolce & Gabbana และ H&M รวมทั้ง Nike ที่ผลิตสินค้าสำหรับชาวมุสลิมอย่าง “Pro Hijab” ขึ้นมา   สาวคนนี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า คุณสามารถแสดงความเป็นตัวเองและความสามารถได้ทุกที่ ที่มา sobadsogood

  • Nike เปิดตัวคอลเลคชั่น “ฮิญาบ” ออกแบบโดยคนมุสลิม ให้กีฬาข้ามความต่างศาสนา!!

    Nike เปิดตัวคอลเลคชั่น “ฮิญาบ” ออกแบบโดยคนมุสลิม ให้กีฬาข้ามความต่างศาสนา!!

    สำหรับชาวมุสลิมผู้หญิงปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในการในการเล่นกิฬาก็คงจะเป็นการใส่ ฮิญาบ ที่บางครั้งมันก็ดูจะไม่ค่อยคล่องตัวสักเท่าไหร่ และนั่นอาจจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้หลายๆ คนไม่อยากเล่นกีฬา ซึ่งทาง Nike ได้ร่วมมือกับนักกีฬามืออาชีพที่เป็นชาวมุสลิมและต้องใส่ฮิญาบในการเล่นกีฬาทุกครั้งมาช่วยพัฒนาคอลเลคชั่นตัวนี้ ซึ่งพวกเขาบอกว่าต้องใช้เวลาหลายปีเลยทีเดียวเพื่อที่จะให้ผลงานชิ้นนี้ออกมาดีที่สุด   Nike Pro Hijab สินค้าคอลเลคชั่นใหม่ที่จะมาตอบสนองนักกีฬาสาวชาวมุสลิม   ผ้าทำจากโพลีเอสเตอร์ ซึ่งมีน้ำหนักเบา จะเห็นได้ว่ามีโลโก้ Nike ติดอยู่ทางด้านซ้ายด้วย   ทาง Nike ได้บอกว่าฮิญาบที่พวกเขาออกแบบมานี้ใช้ผ้าที่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี   “ทางบริษัทเรียกผ้าชิ้นนี้ว่า ผ้าที่หายใจได้มากที่สุด โดยการใช้ Nike Pro เพียงเลเยอร์เดียว”   Nike บอกว่าจะเปิดขายฮิญาบนี้ในปีหน้า   แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีฟีดแบ็คเกี่ยวกับตัวฮิญาบอยู่หลายเสียงเหมือนกัน จึงขอหยิบมายกเป็นตัวอย่างเช่น   ฮิญาบสำหรับกีฬานี้มันไม่ได้ใหม่เลย แถมก็ไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรพิเศษนอกจากมีโลโก้ Nike ติดอยู่   หรือบางคนก็รู้สึกตื่นเต้นกับฮิญาบชุดนี้   ส่วนเธอคนนี้ดูจะตื่นเต้นมากๆ ถึงกับบอกว่าเหมือน Nike ทำความฝันของเธอให้เป็นจริง   ไม่ว่าจะมีความคิดเห็นกันยังไง แต่ก็มั่นใจได้ว่า Nike พยามที่จะเข้าตีตลาดชาวมุสลิม ซึ่งก็ฟังดูน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะ และดูทรงว่าคงจะขายดีอย่างแน่นอน ที่มา buzzfeed

  • 23 ภาพแฟชั่น ‘ผ้าคลุมฮิญาบอิหร่าน’ ที่ก้าวข้ามขีดจำกัด ไม่แพ้แฟชั่นแบบนิวยอร์กเกอร์!!?

    23 ภาพแฟชั่น ‘ผ้าคลุมฮิญาบอิหร่าน’ ที่ก้าวข้ามขีดจำกัด ไม่แพ้แฟชั่นแบบนิวยอร์กเกอร์!!?

    เผื่อใครที่ยังไม่รู้ว่าทุกวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ของทุกปีจะถูกจัดว่าเป็น ‘วันฮิญาบโลก’ ซึ่งวันเฉลิมฉลองนี้ถูกก่อตั้งครั้งแรกก็เมื่อปี 2013 ที่ผ่านมานี้เอง จุดประสงค์ก็เพื่อต้องการเผยแพร่ให้ชาวโลกได้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของการสวมฮิญาบตามธรรมเนียมของชาวอิสลาม   ผ้าคลุมฮิญาบตามหลักศาสนาอิสลาม และในประเทศอิหร่าน หรือชื่อเต็มว่า สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน เราคงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าที่นี่เขาได้จัดให้อิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ แน่นอนว่ามีกฎหมายเกี่ยวกับการสวมผ้าคลุมฮิญาบของผู้หญิงด้วย คนภายนอกอย่างเราๆ อาจจะเผลอคิดได้ว่าผู้หญิงที่นี่เค้าคงดูไม่มีความสุข เพราะต้องอยู่กับกฎระเบียบที่ไม่เท่าเทียมกันทางเพศ   ผ้าคลุมฮิญาบในยุคสมัยใหม่ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดแบบเดิมๆ   แต่เปล่าเลย!! เพราะถึงแม้ว่าจะมีจารีตประเพณีตามศาสนาแบบดั้งเดิมอยู่ แต่สำหรับที่กรุงเตหะรานแห่งนี้ เชื่อไหมว่าความเก๋ไก๋แบบโลกสมัยใหม่และผ้าคลุมฮิญาบตามความเชื่อดั้งเดิม สามารถมาบรรจบกันได้อย่างลงตัว จนออกมาเป็นภาพแฟชั่นสุดชิคที่เราเอามาให้ดูทั้งหมดนี้ต่างหากล่ะ   บอกแล้วไงว่าแฟชั่นแต่ละคนหน่ะ สวยงามจัดเต็มไม่แพ้งานแฟชั่นวีคส์จากนิวยอร์กเลยหล่ะเธอว์…!! ที่มา: Boredpanda

  • ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Playboy กับการเผยภาพถ่ายนางแบบสวม ‘ผ้าฮิญาบ’ !!

    ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Playboy กับการเผยภาพถ่ายนางแบบสวม ‘ผ้าฮิญาบ’ !!

    ก็เรียกว่าเป็นสิ่งที่ค้างคาใจกันมาแสนนาน แต่ในช่วงปีหลังๆ นี้เราจะสามารถเห็นได้ว่าในวงการแฟชั่นต่างๆ ก็มีการสวมผ้าฮิญาบ หรือผ้าโพกหัวเครื่องแต่งกายของหญิงชาวมุสลิม เพื่อให้พื้นที่ในวงการทางแฟชั่นกับการสวมใส่ผ้าคลุมแบบนี้ ล่าสุดทางนิตยสารระดับโลกอย่าง Playboy ก็เช่นกัน ที่นำเสนอการสวมใส่ผ้าฮิญาบในหนังสือของพวกเขา แถมได้นางแบบหน้าสวยอย่าง Noor Tagouri มาถ่ายแบบให้กับพวกเขาด้วย   Noor Tagouri   เธอคือหนึ่งในกลุ่มหญิงผู้กล้าที่จะแหวกแนวเดิมๆ ซึ่งในกรณีนี้คือการสวมใส่ผ้าฮิญาบ หนึ่งในสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลามถ่ายแบบให้กับนิตยสารอย่าง Playboy ซึ่งไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน กลุ่มของเธอนั้นมีชื่อว่า  Playboy’s Renegades พวกเธอต้องการแสดงให้เห็นว่าเราสามารถไปได้ไกลขนาดไหน ถ้าไม่ถูกตีกรอบ แต่ด้วยแนวคิดนี้ บางครั้งก็อาจจะก่อความเสี่ยงให้กับพวกเขาได้อย่างมหาศาลเช่นกัน   แต่จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้ถ่ายออกมาดูโป๊หรือเสียหายแต่ประการใด   กลุ่มของพวกเขานั้นส่วนมากก็เต็มไปด้วยคนรุ่นใหม่ไฟแรง นอกจาก Tagouri แล้วก็มีทั้งนักแต่งนิยายอย่าง Paul Beatty ดาวตลก Ali Wong และแม้กระทั่งนักขับเคลื่อนและรณรงค์ทางเพศอย่าง Stoya   นอกจากวงการแฟชั่นแล้ว เธอมีงานประจำคือนักข่าวของสำนักข่าว Newsy อีกด้วย   ตอนนี้เธอก็เกือบจะได้เป็นผู้ประกาศข่าวรายแรกๆ ที่ได้สวมผ้าฮิญาบรายงานแล้วล่ะ   ‘ฉันจะทำสิ่งนี้ให้สำเร็จให้ได้เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง เมื่อผู้หญิงรู้ว่าพวกเธอทำอะไรก็ได้โดยที่ไม่ต้องเสียความเป็นตัวของตัวเอง ถึงฉันจะแต่งตัวต่างจากผู้อื่นคือสวมผ้าโพกหัว แต่ด้วยอาชีพนักข่าวของฉันที่ราวกับเป็นกระบอกเสียง ทำให้ฉันสามารถเปิดมุมมองเหล่านี้ให้กับผู้คนนับพันได้เห็น’ เธอกล่าวระหว่างการสัมภาษณ์กับนิตยสาร Playboy   ‘ใช้ชีวิตในแบบตัวของคุณเอง ทำในสิ่งที่คุณรัก และอย่าลืมชักชวนผู้อื่นให้ทำในแบบเดียวกัน!!’…

  • แบรนด์เสื้อผ้า Dolce & Gabbana ปล่อยแฟชั่น “ฮิญาบ” คอลเล็คชั่นออกมาเป็นครั้งแรก!!

    แบรนด์เสื้อผ้า Dolce & Gabbana ปล่อยแฟชั่น “ฮิญาบ” คอลเล็คชั่นออกมาเป็นครั้งแรก!!

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ได้เกิดเรื่องราวที่สะเทือนวงการแฟชั่นอยู่พอสมควร เมื่อแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังอย่าง Dolce & Gabbana (โดลเช่ แอนด์ แกบบาน่า) ได้เปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่เป็นเสื้อผ้าฮิญาบและอาบายา โดยคอลเล็คชั่นนี้จะเน้นไปทางสีดำและสีเบจเพื่อให้ดูเรียบร้อย ไม่ฉูดฉาดมากนัก แต่ก็ยังประดับไปด้วยลายดอกไม้และลวดลายของมะนาวเพิ่มความเปรี้ยวเข้าไป โดยคอนเซ็ปต์ของชุดนี้ก็คือความงามที่ดูเพ้อฝันท่ามกลางทะเลทรายและท้องฟ้าแห่งตะวันออกกลาง สื่อให้เห็นความงามของผู้หญิงแห่งอาราเบีย เราไปชมภาพชุดเหล่านี้กันเลย     ถือเป็นการตีตลาดของเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่ทำออกมาได้งดงามมากๆเลย เอาจริงๆ เหมียวก็ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน ที่มา boredpanda

  • กระแสเริ่มแรง Dolce & Gabbana เผยภาพชุดแรกแฟชั่นผ้าฮิญาบ ตีตลาดสาวมุสลิมทั่วโลก!!!

    กระแสเริ่มแรง Dolce & Gabbana เผยภาพชุดแรกแฟชั่นผ้าฮิญาบ ตีตลาดสาวมุสลิมทั่วโลก!!!

    เรียกได้ว่าไม่ยอมกันเลยทีเดียว เมื่อล่าสุดทาง H&M ได้ริเริ่มเทรนด์โดยการใช้นางแบบชาวมุสลิมหลายๆ คนมาโปรโมทให้กับพวกเขา โดยการสวมผ้าฮิญาบ เครื่องแต่งกายของผู้หญิงในศาสนาอิสลาม และตอนนี้ได้เกิดกระแสกระเทือนไปยังแบรนด์อื่นๆ แล้ว   พรีเซนเตอร์ของทาง H&M ที่สวมผ้าฮิญาบ   เรื่องแบบนี้มีเหรอผู้นำแฟชั่นอย่าง Dolce & Gabbana จะปล่อยผ่าน พวกเขาก็ได้ปิ๊งไอเดียว่า แฟชั่นสำหรับสาวชาวมุสลิมนั้นยังไม่เป็นที่แพร่หลาย พวกเธอเลยยังไม่มีทางเลือกในการแต่งกายเท่าไหร่นัก…   และนี่คือภาพชุดแรกของแฟชั่นฮิญาบของทาง Dolce & Gabbana   มีหลายสีสันและแบบให้เหล่าสาวๆ ชาวมุสลิมได้เลือกกัน   ในส่วนของราคาทาง Dolce & Gabbana ก็ยังไม่ได้เปิดเผยออกมาเท่าไหร่นัก   แต่คงจะมีราคาสูง ก็แน่ล่ะมันเป็น Dolce & Gabbana นี่นา -*- แต่เราก็ยังอยากได้อยู่ดีอ่ะเนาะ ฮ่าๆๆ   สำหรับแฟชั่นชุดนี้ได้ถูกแสดงโดยเว็บไซต์ของ ArabiaStyle เป็นเจ้าแรกนะจ๊ะ ซึ่งถ้าใครอยากจะไปชมกันแบบเต็มๆ ก็เข้าไปได้ตามลิ้งค์เลยจ้า ที่มา: ArabiaStyle

  • Sadaf Taherian นักแสดงสาวถูกเนรเทศจากอิหร่าน เพราะโพสต์ภาพไม่ใส่ผ้าคลุมฮิญาบ!!

    Sadaf Taherian นักแสดงสาวถูกเนรเทศจากอิหร่าน เพราะโพสต์ภาพไม่ใส่ผ้าคลุมฮิญาบ!!

    ประเด็นละเอียดอ่อนทางศาสนาภายในประเทศที่เคร่งครัดสูงมากอย่างประเทศอิหร่าน ที่ได้นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งทางประเทศอิหร่านออกก็ได้ออกกฏหมายที่ว่าสตรีจะต้องสวมผ้าคลุมศีรษะ (ฮิญาบ) ในที่สาธารณะรวมไปถึงหญิงสาวชาวต่างชาติด้วย     ทั้งนี้กฏหมายฉบับดังกล่าวนั้นมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีค.ศ. 1979 หลังการปฏิวัติศาสนาอิสลามในอิหร่าน ทั้งนี้เรื่องราวของนักแสดงสาวชาวอิหร่านที่ชื่อว่า Sadaf Taherian เธอได้ทำการโพสต์รูปภาพของเธอผ่านอินสตาแกรมโดยคลุมผ้าฮิญาบมาโดยตลอด     จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอได้ทำการโพสต์รูปภาพตัวเธอเองอีกครั้ง แต่ในคราวนี้ไม่ได้ทำการสวมผ้าคลุมฮิญาบ และเมื่อกระทรวงวัฒนธรรมอิหร่านรู้ว่าเธอทำแบบนี้ ก็ได้สั่งแบนทันที เพิกถอนใบอนุญาต ห้ามแสดงภาพยนตร์ใดๆ ในประเทศอิหร่าน และถูกขับไล่ออกนอกประเทศ จนถึงขนาดต้องลี้ภัยไปยังเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กันเลยทีเดียว     เธอเองก็ได้กล่าวไว้ว่า ‘ฉันไม่เคยคิดเลยว่าผู้คนในอิหร่าน จะรุมด่าสาปแช่งได้มากมายถึงเพียงนี้ ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆ แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้ ฉันก็แค่อยากใช้ชีวิตในแบบที่ฉันมีความสุข’     อย่างไรก็ตามสื่ออิหร่านประกาศเตือนเอาไว้ว่าการที่ผู้หญิงไม่สวมผ้าคลุม เป็นต้นเหตุของการทำร้ายร่างกายด้วยความรุนแรง เนื่องจากไปกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของผู้ชาย ทั้งนี้ Sadaf Taherian ก็เปิดเผยว่าในระหว่างการแสดงภาพยนตร์ ถึงแม้จะใส่ผ้าคลุมเธอก็ยังถูกลวนลามจากผู้กำกับอยู่ดี ที่มา : independent, telegraph