Tag: หยุด

  • ชมโปรเจ็กต์ “It Happens” ภาพถ่ายทรงพลังรณรงค์ให้ผู้คนเลิกพฤติกรรม ‘คุกคามทางเพศ’

    ชมโปรเจ็กต์ “It Happens” ภาพถ่ายทรงพลังรณรงค์ให้ผู้คนเลิกพฤติกรรม ‘คุกคามทางเพศ’

    ปัญหาหนึ่งของสังคมที่เปรียบเสมือนโรคร้ายรุนแรงและรักษาไม่หายขาดก็คือ การคุกคามทางเพศ มันเป็นโรคที่ไม่เคยเลือกว่าจะเกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ และกับใครบนโลกใบนี้ แต่มัน “เกิดขึ้น” ราวกับไม่มีทางควบคุมได้ สิ่งที่พวกเราพอจะทำได้ก็มีเพียงการรณรงค์ให้ผู้คนหยุดพฤติกรรมที่ส่อไปในทางคุกคามทางเพศเท่านั้น ช่างภาพหญิงสาวนามว่า Yana Mazurkevich จึงสร้างผลงานภาพออกมารณรงค์และเตือนสติ   Yana Mazurkevich   โปรเจกต์ของ Yana มีชื่อว่า “It Happens” มันเป็นเซ็ตภาพซึ่งสื่อให้เห็นว่าโรคร้ายที่ชื่อว่า “การคุกคามทางเพศ” (Sexual Assault) นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาโดยที่เราอาจไม่ทันระวังตัว แต่ละภาพของเซ็ต “It Happens” นั้นจะมีชื่อภาพที่ต่อจากคำว่า “It Happens” เสมอ เราไปชมภาพเหล่านั้นพร้อมๆ กันเลยดีกว่า   It Happens Suddenly: มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน   It Happens Unexpectedly: มันเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดคิด   It Happens Unwillingly: มันเกิดขึ้นได้แม้เราไม่ต้องการ   It Happens With Anyone:…

  • ชายผู้ติดอยู่ในร่างเด็ก อาการผิดปกติที่ทำให้เขาหยุดเจริญเติบโต แม้จะมีอายุ 23 ปีแล้วก็ตาม…

    ชายผู้ติดอยู่ในร่างเด็ก อาการผิดปกติที่ทำให้เขาหยุดเจริญเติบโต แม้จะมีอายุ 23 ปีแล้วก็ตาม…

    โดยธรรมชาติแล้ว ทุกชีวิตเมื่อเกิดมาจนผ่านไปจนถึงระยะเวลาหนึ่ง ร่างกายก็จะเจริญเติบโตขึ้นตามอายุด้วย แต่สำหรับชายชาวอินเดียผู้นี้แล้ว หากใครเห็นเขาเป็นครั้งแรก ก็คงจะคิดว่าเป็นเด็กในช่วงแรกเกิด ซึ่งในความเป็นจริงเขามีอายุ 23 ปีแล้ว…     Manpreet Singh วัย 23 ปี จากทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ประสบกับอาการผิดปกติที่ทำให้เขาต้องติดอยู่ในร่างกายแบบเด็ก มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ราวๆ 5 กิโลกรัมเท่านั้น แม้จะมีอายุถึงหลัก 20 แล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม เขามีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์พร้อมในช่วงแรกเกิดปี 1995 และหยุดการเจริญเติบโตก่อนที่เขาจะหัดเดินและหัดพูดได้ และปัจจุบันเขาก็ต้องได้รับการดูแลเหมือนเด็กน้อยอยู่ตลอด โดยที่มีคุณลุงและคุณป้าคอยพาไปทุกที่     ด้านนักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า Manpreet อาจจะเป็นโรคกลุ่ม Laron Syndrome อาการผิดปกติหายาก แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากทางครอบครัวยังไม่มีเงินมากพอที่จ่ายเพื่อเข้ารับการตรวจร่างกาย ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 220,000 บาท     สำหรับผู้เป็นโรคกลุ่ม Laron นั้นจะขาดฮอร์โมนที่ชื่อว่า Insulin-like Growth Factor 1 (IGF-1) ที่ทำหน้าที่กระตุ้นเซลล์ให้เจริญเติบโตและแบ่งตัวออกเป็นเซลล์ใหม่ Manpreet…

  • บริษัทในอินเดียเริ่มปรับตัว ให้พนักงานหญิง ‘ลาช่วงประจำเดือน’ ไม่ต้องทนปวดมาทำงาน

    บริษัทในอินเดียเริ่มปรับตัว ให้พนักงานหญิง ‘ลาช่วงประจำเดือน’ ไม่ต้องทนปวดมาทำงาน

    แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่มีวันได้สัมผัสความเจ็บปวดของการเป็นประจำเดือน แต่เราก็พอจะเข้าใจได้ว่าเมื่อไหร่ที่ช่วงนั้นของเดือนมาถึง เราไม่ควรปล่อยให้สาวๆ ต้องทำงานหนัก และดูเหมือนว่าปัญหาด้านนี้จะเป็นที่ตระหนักถึงมากขึ้นในประเทศอินเดีย เพราะหลายๆ บริษัทเอกชนเริ่มปรับตัวหันมาเพิ่มวันลาหยุดให้แก่พนักงานผู้หญิงในช่วงวันนั้นของเดือน     Culture Machine เป็นหนึ่งในตัวอย่างบริษัทที่เพิ่มนโยบายนี้ให้พนักงานหญิงกว่า 75 ชีวิต หลังจากที่บริษัทได้ปล่อยคลิปวิดีโอเป็นภาพของพนักงานสาวพูดถึงการทำงานในช่วงวันนั้นของเดือน นอกจากนั้นบริษัทดังกล่าวยังส่งเรื่องไปถึงกระทรวงพัฒนาสตรีและเด็ก และกระทรวงเพื่อเรียกร้องให้มีการเพิ่มสวัสดิการดังกล่าวให้แก่ลูกจ้างทั่วประเทศ     สำหรับเรื่อง ‘ประจำเดือน’ ของหญิงสาวในอินเดียนั้นถือว่าเป็นปัญหาที่ผูกติดอยู่กับประเพณีดั้งเดิมมาอย่างช้านาน ยกตัวอย่างเช่นทางความเชื่อของชาวฮินดู จะมีประเพณี Chhaupadi ซึ่งเป็นประเพณีโบราณที่ยังปฏิบัติกันอยู่ในหลายๆ พื้นที่ชนบทของประเทศ โดยมีความเชื่อที่ว่า ‘หญิงสาวที่เป็นประจำเดือนถือเป็นสิ่งสกปรก’ และพวกเธอจะต้องถูกขับไล่ให้ออกไปนอนนอกบ้าน และนั่นก็นำมาซึ่งข่าวโศกนาฎกรรมการเสียชีวิตของหญิงสาวตามชนบทที่มักจะเห็นได้บ่อยๆ ในสื่ออินเดีย   คลิปวิดีโอที่บริษัทให้พนักงานออกมาพูดถึง ความยากลำบากในการทำงานระหว่างเป็นประจำเดือน   นอกจากเรื่องประจำเดือนแล้ว อินเดียยังขึ้นชื่อในเรื่องของการกดขี่สิทธิทางเพศมาอย่างช้านาน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าจากกระแสดังกล่าวอาจทำให้สังคมอินเดียหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น ในขณะที่บางประเทศทางฝั่งเอเชียอย่างเช่น ญี่ปุ่น และไต้หวัน การเพิ่มสวัสดิการลาหยุดช่วงประจำเดือนให้แก่พนักงานสาวถือว่าเป็นสิ่งที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด     ไหนจะต้องรับมือกับความเจ็บปวด อารมณ์ที่แปรปรวนอีก ถ้ายังต้องมาทำงานอยู่ก็น่าเห็นใจเหมือนกันนะเนี่ย ที่มา: Reuters

  • เรื่องราวของ “Chang” ชายผู้ยับยั้งการสร้างนิวเคลียร์ในไต้หวัน และถูกตราหน้าเป็นกบฎ!!

    เรื่องราวของ “Chang” ชายผู้ยับยั้งการสร้างนิวเคลียร์ในไต้หวัน และถูกตราหน้าเป็นกบฎ!!

    อะแฮ่ม… วันนี้เราจะขอทำตัวมีสาระกันบ้าง โดยเราจะพาไปรู้จักกับเบื้องหลังเรื่องราวของ Chang Hsien-yi นักวิทยาศาสตร์ชาวไต้หวัน ผู้ยับยั้งการสร้างนิวเคลียร์ในประเทศไต้หวันได้สำเร็จ แต่ทว่าเขากลับถูกทางการตราหน้าว่าเป็นกบฎ!! ย้อนกลับไปเมื่อปี 1949 ได้เกิดเหตุที่ทำให้ไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ ต้องแยกตัวออกจากกัน แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือการแข่งขันทั้งทางการทหารและเศรษฐกิจ   Chang Hsien-yi   จนกระทั่งในช่วงปี 1960 จีนแผ่นดินใหญ่มีโครงการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลทำให้รัฐบาลไต้หวันตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก และเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ Hau Pei-tsun ดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำแห่งเกาะไต้หวัน ทำให้ไต้หวันมีโครงการที่จะสร้างอาวุธนิวเคลียร์ด้วยเช่นกัน ท่ามกลางยุคสงครามเย็นเช่นนี้ มีหลายฝ่ายที่เห็นด้วยกับการสร้างนิวเคลียร์ ทว่ากลับมี Chang Hsien-yi นักวิทยาศาสตร์ผู้ค้านหัวชนฝา และเชื่อว่านิวเคลียร์ไม่อาจนำมาซึ่งสันติภาพที่แท้จริงได้อย่างที่หลายคนคิด   โรงงาน 221 เชื่อว่าเป็นสถานที่ทำการวิจัย และทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของจีน   Chang เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าประจำสถาบันศูนย์วิจัยพลังงานนิวเคลียร์แห่งไต้หวัน ในช่วงแรกเขามีความสุขกับการได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าที่ได้รับการคัดเลือกจากทางการไต้หวัน ทว่าต่อมา… เจ้าตัวก็เริ่มตั้งคำถามว่า แท้จริงแล้วเกาะไต้หวันต้องการนิวเคลียร์จริงๆ หรือ? บวกกับเหตุการณ์ระเบิดหายนะที่เชอร์โนบิล ประเทศรัสเซีย ก็ยิ่งทำให้เขามั่นใจว่า การไม่มีนิวเคลียร์จะเป็นผลดีต่อทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ และไต้หวัน มากกว่า     ด้วยอุดมการณ์ที่ค้านอย่างหัวชนฝา ทำให้ Chang…

  • นี่คือ 21 ประเทศที่มีวันลาพักร้อนมากที่ตลอด 1 ปี และยังคงได้รับเงินเดือนอยู่!!

    นี่คือ 21 ประเทศที่มีวันลาพักร้อนมากที่ตลอด 1 ปี และยังคงได้รับเงินเดือนอยู่!!

    สำหรับพนักงานเงินเดือนทั้งหลายแล้ว จะรู้กันดีว่าชีวิตการทำงานนั้นมันช่างหนักหน่วงขนาดไหน ครั้นจะไม่ทำก็กลัวจะไม่มีกินอีก รถก็ต้องผ่อน บ้านก็ต้องส่ง โอ๊ยย!! จะบ้าตายยย พอถึงวันหยุดมันก็ผ่านไปไวปานสายฟ้าแลบ หรือจะเป็นวันลา มันก็ช่างน้อยนิดซะเหลือเกิน พักยังไม่ทันหายเหนื่อยก็ต้องกลับมาทำงานอีกซะแล้ว แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยกันมั้ยว่าแต่ละประเทศรอบโลก จะมีวันลากันเยอะแยะมากมายขนาดไหนบ้าง? (โดยที่ไม่โดนหักเงินเดือนนะ) และนี่คือ 21 อันดับของประเทศที่มีวันลาพักร้อนมากที่สุดภายใน 1 ปี และยังคงได้รับเงินเดือนอยู่ โดยอ้างอิงมาจากกฎหมายแรงงานของแต่ละประเทศ มีประเทศไหนบ้างและจะสามารถหยุดงานได้ทั้งหมดกี่วัน ไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่า…   21. ออสเตรเลีย 28 วัน เป็นวันลาพักร้อน 20 วัน และลาหยุด 8 วัน   20. ไอร์แลนด์ 29 วัน เป็นวันลาพักร้อน 20 วัน และลาหยุด 9 วัน   19. ตูนีเซีย 30 วัน เป็นวันลาพักร้อนทั้งหมด 30 วัน   18.…

  • บริษัทเบียร์ ให้พนักงานลาพักได้อาทิตย์นึง เงื่อนไขถ้าพวกเขา “รับเลี้ยงสุนัขตัวใหม่”!!

    บริษัทเบียร์ ให้พนักงานลาพักได้อาทิตย์นึง เงื่อนไขถ้าพวกเขา “รับเลี้ยงสุนัขตัวใหม่”!!

    เรียกว่าเป็นนโยบายแปลกแต่น่าสนใจจริงๆ สำหรับบริษัทเบียร์จากสก็อตแลนด์ที่อนุญาตให้พนักงานสามารถลาหยุดได้หนึ่งสัปดาห์ไปแบบฟรีๆ หากพวกเขารับสุนัขตัวใหม่มาเลี้ยง     บริษัทเบียร์ดังกล่าวมีชื่อว่า BrewDog จากเมืองอันเบอร์ดัน ประเทศสก็อตแลนด์ พวกเขาขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทที่รักสุนัขมากๆ โดยในสำนักงานใหญ่มีสุนัขอยู่เกือบ 50 ตัว และพวกเขาถือว่าสุนัขเหล่านั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเช่นกัน ล่าสุดพวกเขากำลังจะเปิดสำนักงานอีกแห่งที่เมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งที่สำนักงานใหม่นี้เอง พนักงานทุกคนจะได้รับสวัสดิการในการลาพักร้อนหนึ่งสัปดาห์ หากพวกเขารับสุนัขใหม่มาเลี้ยง     James Watt และ Martin Dickie สองผู้บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท ซึ่งตอนตั้งพวกเขาก็เลี้ยงสุนัข และให้พวกมันเป็นส่วนหนึ่งตั้งแต่แรกด้วย ได้กล่าวว่า “การมีสุนัขในออฟฟิศจะทำให้บรรยากาศในการทำงานผ่อนคลายขึ้น แต่เรารู้ดีว่า เวลาสุนัขที่ต้องย้ายมาอยู่บ้านใหม่ การที่มันยังไม่คุ้นเคย อาจทำให้มันเครียดได้” “เราจึงอนุญาตให้พนักงานของเรา สามารถลาพักร้อนซักหนึ่งสัปดาห์ เพือใช้เวลาช่วงนี้ สานสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”     BrewDog  ถือว่าเป็นบริษัทเบียร์ที่เติบโตเร็วที่สุดบริษัทหนึ่งในโลก โดยพวกเขาก่อตั้งด้วยสมาชิกเพียงสองคนในปี 2007 ด้วยผู้ถือหุ้นไม่กี่ราย แต่ภายในไม่กี่ปีให้หลัง ภายในปี 2015 พวกเขามีพนักงานถึง 540 คน และมีผู้ถือหุ้นกว่า 32,000 รายอีกด้วย…

  • ถึงกับน้ำตาร่วง “ราฟาเอล นาดาล” หยุดการแข่งขันเทนนิส แล้วช่วยคุณแม่ตามหาลูกที่หลงทาง!!

    ถึงกับน้ำตาร่วง “ราฟาเอล นาดาล” หยุดการแข่งขันเทนนิส แล้วช่วยคุณแม่ตามหาลูกที่หลงทาง!!

    การแข่งขันกีฬาย่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวนักกีฬาว่าจะรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้ยังไง แต่สำหรับการแข่งขันเทนนิสนัดนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อ Rafael Nadal นักเทนนิสผู้โด่งดัง ได้ทำการหยุดแมชเทนนิสที่กำลังแข่งอยู่ เมื่อได้ยินว่ามีแม่กำลังประกาศหาลูกที่พลัดหลงกันในฝูงชน ในคลิปนั้นเราจะได้เห็นว่าเป็นฝ่ายของ Nadal ที่ได้เสิร์ฟ ซึ่งเป็นการแข่งขันคู่พร้อมกับเพื่อนร่วมทีมชาวสเปน Simon Solbas และคู่ต่อสู้เป็นอดีตมือ 1 ของโลกในอดีต Carlos Moya วัย 40  ปี และตำนาน John McEnroe วัย 57 ปี แต่แล้วทั้งสนามกว่า 7,000 คน ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อคุณแม่ท่านหนึ่งตะโกนคำว่า “คลาร่า” และนั่นก็ทำให้ทุกคนรู้ได้เลยว่าเธอกำลังตามหาลูกของเธอ Nadal เห็นดังนั้นก็เลยตัดจินใจหยุดเล่นไปก่อน เพื่อให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ   ทั้งสนามก็ต่างช่วยกันตามหาลูกของเธอ บ้างก็ตะโกนช่วยเพื่อให้ได้เจอ   จนกระทั่งลูกของเธอก็ปรากฎตัว ทั้งสนามต่างปรบมือพร้อมทั้งระเบิดอารมณ์ของความประทับใจ บางคนถึงกับหลังน้ำตา เช่น John McEnroe ที่กำลังแข่งอยู่ในสนาม   ส่วนตัว Nadal เองก็รู้สึกยินดีที่แม่ลูกได้พบกันอีกครั้ง  …

  • การแสดงวาดภาพกลับหัวของ Corinne Sutter สอนให้รู้ว่า “การรอ” คือสิ่งที่ทรงคุณค่า!!!

    การแสดงวาดภาพกลับหัวของ Corinne Sutter สอนให้รู้ว่า “การรอ” คือสิ่งที่ทรงคุณค่า!!!

    Corinne Sutter เธอคือหนึ่งในผู้ประกวดรายการ Switzerland Got Talent ที่ได้สร้างความโด่งดังไปทั่วโลก เนื่องจากการแสดงของเธอนั้นทำให้หลายคนถึงกับอ้าปากค้าง ทั้งๆ ที่กรรมการได้กดให้เธอหยุดแสดงไปแล้ว ในตอนเริ่มนั้นเธอได้วาดรูปของกรรมการคนหนึ่ง แต่จนเวลาผ่านไป กรรมการเริ่มเห็นท่าว่าจะไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นไปมากกว่านี้แล้ว ก็เลยค่อยๆ กดให้เธอหยุดการแสดง     กรรมการคนที่เธอวาดก็พยายามบอกคนอื่นว่าให้รอดูไปเรื่อยๆ ก่อน แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะนานเกินไป จนสุดท้ายเขาก็กดหยุดการแสดงเป็นคนสุดท้าย   แต่แล้วเธอก็วาดไปเรื่อยๆ เพราะเหลืออีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว จนกระทั่งเธอได้ทำสิ่งที่ทำให้กรรมการต้องกลับไปคิดใหม่ เราไปชมการวาดภาพของเธอกันเลย   คลิปได้นี้ถูกแชร์ไปทั่วโลก มันทำให้เราได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง หนึ่งในนั้นก็คือคุณค่าของการรอนั่นเอง ทุกวันนี้ทุกคนต้องการอะไรที่มันเร็ว ย่อยง่าย แต่บางครั้งสิ่งดีๆ มันก็อาจจะเกิดขึ้นตอนจบก็เป็นได้ ที่มา Die grössten Schweizer Talente

  • ประเทศสวีเดน กับกฎหมายให้คุณลางานไปเลี้ยงลูกได้ 480 วันเต็มๆ และยังได้เงินเดือน 80%

    ประเทศสวีเดน กับกฎหมายให้คุณลางานไปเลี้ยงลูกได้ 480 วันเต็มๆ และยังได้เงินเดือน 80%

    สำหรับเหล่าลูกๆ ยิ่งตอนเป็นเด็กทารกด้วยนั้น การได้รับความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่นั้นก็เรียกได้ว่ามีความสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพื่อพัฒนาการที่ดีทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ หนึ่งในประเทศที่เห็นความสำคัญเรื่องนี้ที่สุดก็คือประเทศสวีเดน ที่พ่อหรือแม่สามารถลางานไปเลี้ยงลูกได้ทั้งสิ้น 480 วันเต็มๆ แถมยังได้รับค่าจ้าง 80 เปอร์เซ็นต์ของการทำงานแบบปกติด้วย!!! และประเด็นคือถ้าแบ่งวันลาให้เท่าๆ กันระหว่างพ่อและแม่ด้วยล่ะก็ จะได้รับโบนัสเพิ่มเติมด้วยล่ะ!!!   Nils คุณพ่อมือใหม่วัย 31 ที่ทำอาชีพดีไซน์เนอร์   แต่ถึงจะได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย ก็มีคุณพ่อจำนวนน้อยเท่านั้นที่ลางานแบบนี้เพื่อมาดูแลลูก และเพียง 14 เปอร์เซ็นต์ของพ่อแม่ทั้งหมดในประเทศสวีเดนที่เลือกแบ่งวันลาให้เท่ากัน… Johan Bävman หนึ่งในคุณพ่อมือใหม่และช่างภาพ เกิดแนวคิดที่จะจุดประกายให้เหล่าคุณพ่อชาวสวีเดนใช้เวลากับลูกๆ มากขึ้น จึงถ่ายภาพชุดนี้ออกมาล่ะ และนี่คือเหล่าคุณพ่อที่เขาขอถ่ายรูปมาเก็บในอัลบั้มภาพชุดนี้ของเขา   Murat คุณพ่อโปรแกรมเมอร์วัย 34 ปี   Tomas คุณพ่อและคุณครูวัย 34 ปีเช่นกัน   Jonas คุณพ่อมือใหม่และคุณครูวัย 38   Patrik นักเศรษฐศาสตร์วัย 35 ปี   Uffe ไลฟ์การ์ดวัย…

  • ใส่ใจทุกรายละเอียด!! รถไฟฟ้าญี่ปุ่นจอดกะทันหัน เพราะ “มันฝรั่ง” ขวางทางรถไฟอยู่

    ใส่ใจทุกรายละเอียด!! รถไฟฟ้าญี่ปุ่นจอดกะทันหัน เพราะ “มันฝรั่ง” ขวางทางรถไฟอยู่

    เรื่องมาตรฐานความปลอดภัย เรียกว่าใส่ใจกันเป็นที่หนึ่งจริงๆ สำหรับชาวญี่ปุ่น ล่าสุดเหล่าผู้โดยสารรถไฟเส้นทางโอดาคิว ต้องไปถึงที่หมายช้าไปนิดหน่อย เพราะรถไฟต้องจอดอย่างกะทันหัน หลังมี “มันฝรั่ง” ตกขวางทางรถไฟอยู่     โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา รถไฟที่ออกจากสถานียามาโตะเพื่อไปยังสถานีโชนันไดต้องหยุดกะทันหัน หลังจากมีคุณยายคนหนึ่ง ทำถุงมันฝรั่งขาด จนมันฝรั่งที่ซื้อมาตกอยู่กลางทางรถไฟ เมื่อรถไฟที่กำลังแล่นมาเห็นดังนั้น ทางคนขับรถจึงจอดรถในทันที แล้วลงไปเคลียร์มันฝรั่งเหล่านั้นให้ออกจากเส้นทาง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวรถไฟ     ส่วนเจ้าของมันฝรั่งก็ยืนอยู่ข้างทาง แล้วคอยมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างงงๆ     เมื่อชาวเน็ตเห็นภาพดังกล่าว ก็ออกมาคอมเมนต์แบบฮาๆ มากมายเช่น “สงสัยคุณป้าอยากทำมันฝรั่งบด” “คุณป้าทำไปทำไมเนี่ย สงสัยร้อนจัดจนเพี้ยนซะละมั้ง” “ปกติทำแบบนี้ไม่โดนจับเหรอ?”     พนักงานเค้าใส่ใจทุกรายละเอียดดีจริงๆ ถ้าเป็นรถไฟไทยนี่เหยียบเละไปแล้วแน่นอน แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองแสดงความเห็นกันเข้ามาดูนะเหมียว ที่มา Rocketnews24

  • รู้จัก Vasili Alexandrovich Arkhipov นายทหารหนุ่ม ผู้หยุดยั้งสงครามโลกครั้งที่ 3!!

    รู้จัก Vasili Alexandrovich Arkhipov นายทหารหนุ่ม ผู้หยุดยั้งสงครามโลกครั้งที่ 3!!

    เป็นเวลากว่าเกือบ 80 ปีแล้วที่โลกไม่ได้พบกับสงครามขนาดใหญ่นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงไปเมื่อปี 1945 แต่รู้หรือไม่ โลกเราเคยตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะมีสงครามโลกครั้งที่ 3 มาหลายต่อหลายครั้ง แต่โชคดีที่มี “ฮีโร่” มาช่วยเอาไว้ อย่างเช่นเรื่องราวของนายทหารหนุ่มชาวรัสเซีย Vasili Alexandrovich Arkhipov คนนี้ ที่โลกต้องขอบคุณเขาจริงๆ ไม่อย่างนั้น เราอาจต้องผจญกับสงครามโลกอีกครั้งแล้วก็เป็นได้     เรื่องราวเกิดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ปี 1962 ในตอนนั้นถือว่าเป็นช่วงที่วิกฤติและล่อแหลมที่สุดของสงครามเย็นระหว่างสหรัฐอเมริกาและโซเวียต เมื่อเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐลำนึงถูกยิงตกในประเทศคิวบา และอีกเครื่องสูญหายไปในน่านฟ้าโซเวียต ทั้งสองประเทศใกล้จะเปิดสงครามกันเต็มที (เครื่องบินสอดแนม U2 ที่หายไปในน่านฟ้าโซเวียต)   ในวันนั้นเอง เรือดำน้ำ B-59 ที่ติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ของฝ่ายโซเวียตที่มีกัปตัน Valentin Savitsky เป็นผู้บัญชาการถูกเรือพิฆาตของสหรัฐ USS Beale เข้าโจมตี เป้าหมายการโจมตีนั้นไม่ได้ต้องการทำลายล้างให้สิ้นซาก แต่เพียงต้องการให้เรือดำน้ำดังกล่าวโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำเท่านั้น (เรือดำน้ำ B-59 ของโซเวียต)   ฝ่าย B-59 ไม่ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแม้แต่น้อย พวกเขาอยู่ในสภาวะตึงเครียดไม่รู้จะทำอย่างไรดี หากพวกเขายิงหัวรบตอบโต้กลับไป สงครามโลกครั้งที่ 3 จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และโลกก็จะตกอยู่ในความวุ่นวายอีกครั้ง ในขณะที่ยังเลือกไม่ได้ว่าจะทำอย่างไร…

  • ร้านหนังสือการกุศลวอนหยุดบริจาค ‘Fifty Shades Of Grey’ ได้แล้ว มันล้นห้อง!!

    ร้านหนังสือการกุศลวอนหยุดบริจาค ‘Fifty Shades Of Grey’ ได้แล้ว มันล้นห้อง!!

    หลายคนคงรู้จักเรื่อง Fifty Shades Of Grey ทั้งในรูปแบบหนังและนิยายกันไปแล้ว ก็คงจะรู้ว่ามันอีโรติกมากแค่ไหน ซึ่งหลังจากหนังออกไปก็ทำให้คนเริ่มสนใจอยากจะอ่านเวอร์ชั่นนิยาย แล้วก็ไปหามาอ่านจนติดใจกันไปเยอะแยะมากมาย ที่ร้านหนังสือ Goldstone Books ซึ่งเป็นร้านการกุศลที่ตั้งอยู่ในเมือง Swansea, South Wales ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่นิยายเรื่องนี้เข้าถึงจนบางทีก็สงสัยว่าคนเขาอ่านนิยายเรื่องนี้กันทุกคนเลยเหรอ มันถึงเข้ามาแบบที่ว่าแทบไม่มีที่จะเก็บเลย เนื่องจากทางร้านรับบริจาคหนังสือ ทำให้ผู้คนต่างก็ส่งนิยายเรื่อง Fifty Shades Of Grey มาให้แบบไม่ขาดสาย จนมันกองเป็นภูเขาตามภาพนี้เลย   จนทางร้านต้องออกมากล่าว “เราซาบซึ้งในจริงๆ สำหรับการบริจาคหนังสือทั้งหมด แต่โปรดลดเรื่อง Fifty Shades ให้น้อยลงหน่อย ขอเป็นเรื่องอื่นแทนได้ไหม”     ตอนนี้กลายเป็นปัญหามากๆ เพราะไม่สามารถระบายหนังสือเล่มนี้ออกไปได้ ขายก็ขายไม่ออก จะให้เอาไปรีไซเคิลก็ไม่ได้ด้วย พนักงานก็เลยเอามาสร้างเป็นป้อมปราการแทนแล้วกัน ที่มา distractify

  • นักประดิษฐ์ผุดไอเดียเครื่องบินที่ห้องโดยสารสามารถ “ดีดตัวออก” พร้อมร่มยามฉุกเฉิน

    นักประดิษฐ์ผุดไอเดียเครื่องบินที่ห้องโดยสารสามารถ “ดีดตัวออก” พร้อมร่มยามฉุกเฉิน

    ในปีที่ผ่านมา ได้มีข่าวเครื่องบินตกหลายครั้งจนเป็นที่น่าสะเทือนขวัญ บางคนถึงขั้นไม่กล้านั่งเครื่องบินไปเลยก็มี เพราะเวลาเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง นั้นคือหายนะอย่างใหญ่หลวง เพราะการตกจากที่สูงเป็นเรื่องที่รอดยาก ด้วยความที่ไม่มีร่มชูชีพให้กับผู้โดยสาร อีกทั้งไม่มีใครกระโดดร่มเป็น นักประดิษฐ์จึงคิดค้นเครื่องบินที่แบ่งออกเป็นสองส่วน นั่นก็คือส่วนผู้โดยสารและส่วนคนขับ     ไอเดียนี้คิดโดย Vladimir Tatarenko ผู้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้มา 3 ปี ซึ่งดูเหมือนเป็นไอเดียที่เข้าใจได้ง่ายมากๆ เมื่อเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายกลายอากาศ ในส่วนของห้องผู้โดยสารนั้นก็จะหลุดออกมา แล้วมีร่มกางออก ทำให้ตกถึงพื้นได้อย่างนิ่มนวล ทั้งพื้นน้ำและบก อีกทั้งยังมีห่วงยางรองรับไว้อีก     ส่วนที่นั่งของคนขับก็ต้องปล่อยให้ตก (เหมียวว่าถ้าทำออกมาจริงๆ น่าจะทำให้คนขับรอดด้วยนะ) เราไปชมคลิปการสาธิตกันเลย   ถือเป็นไอเดียที่ดีที่ช่วยให้เราสามารถรักษาชีวิตของผู้โดยสารได้ แต่ไม่รู้ว่าจะถูกผลิตจริงหรือไม่ ยังไงก็อยากให้เกิดขึ้นจริงมากๆ เพราะอย่างน้อยเราก็จะได้อุ่นใจ ที่มา metro