Tag: สึนามิ

  • ตำรวจพบซากเท้าของมนุษย์ ลอยมาเกยที่ชายหาด คาดอาจเกี่ยวคดีฆาตกรรม

    ตำรวจพบซากเท้าของมนุษย์ ลอยมาเกยที่ชายหาด คาดอาจเกี่ยวคดีฆาตกรรม

    เมื่อไม่นานมานี้ ตำรวจแคนาดาได้พบกับคดีสยองขวัญของซากเท้ามนุษย์ที่ลอยมาเกยที่ชายหาดของรัฐบริติชโคลัมเบียประเทศแคนาดา ซากเท้าที่มีกระดูกหน้าแข้งและน่องติดมาด้วยถูกสวมใส่อยู่ในถุงเท้าสีเขาและรองเท้าวิ่งสีดำถูกพบโดย Mike Jones ชายวัย 56 ปี ขณะที่เขากำลังพาสุนัขไปเดินเล่นที่บริเวณชายหาดของเกาะแวนคูเวอร์     Jones ได้อธิบายเหตุการณ์ว่า “ตอนที่ผมพาสุนัขไปเดินเล่นอยู่ จู่ๆ มันก็เหมือนจะได้กลิ่นอะไรสักอย่าง มันเริ่มดมๆ หาอะไรสักอย่าง ผมจึงหยุดดูว่ามันเจออะไร ผมเห็นกระดูกและก็สังเกตได้ว่ามันอยู่ในติดกับรองเท้า” ซากเท้าที่คุณ Jones ได้เจอถือว่าเป็นกระดูกชิ้นที่ 13 ที่มีการพบเจอบนเกาะนี้ตั้งแต่ปี 2007 และตำรวจก็เชื่อว่าสามารถระบุตัวได้ว่าชิ้นส่วนข้อเท้านี้มันเคยเป็นของใครมาก่อน จากการระบุตัวโดยใช้ DNA ตำรวจก็สามารถระบุได้ว่าข้อเท้านี้เป็นของ Stanley Okumoto ชายวัย 79 ปีที่อาศัยอยู่ในเขต Kitsap รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ผู้ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2017 และหลังจากที่เขาหายตัวไป เจ้าหน้าที่ก็ได้พบอวัยวะบางส่วนแถวๆ Neah Bay ซึ่งห่างจากจุดที่พบรถของเขาจอดอยู่มาประมาณหนึ่งไมล์ (ราวๆ 1.6 กิโลเมตร) ในเดือนพฤศจิกายน 2017 Mark Nichols อัยการสูงสุดของเขต Clallam ก็ได้กล่าวว่าไม่พบผู้ต้องสงสัยและไม่สามารถระบุสาเหตุการตายของคุณ Okumoto ได้  …

  • การค้นหาร่างลูกสาวตลอด 5 ปี จากเหตุภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ของคุณพ่อผู้ไม่เคยสิ้นหวัง…

    การค้นหาร่างลูกสาวตลอด 5 ปี จากเหตุภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ของคุณพ่อผู้ไม่เคยสิ้นหวัง…

    เมื่อห้าปีก่อน โลกต้องเผชิญกับโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ นั่นก็คือเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ฟุกิชิมิ ประเทศญี่ปุ่น ความรุนแรงของแผ่นดินไหว ทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดยักษ์ซัดเข้าชายฝั่ง รวมทั้งทำให้เกิดภัยพิบัติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิ แน่นอน ในภัยพิบัติครั้งนั้น มีหลายพันครอบครัวต้องสูญเสียสมาชิกอันเป็นที่รักไป รวมถึงคุณโนริโอะ คิมูระ วัย 50 ปี จากเมืองโอคุมะคนนี้ด้วยเช่นกัน     ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปี ที่แล้ว เขาสูญเสียคุณพ่อ ภรรยา และ ยูนะ ลูกสาววัย 7 ขวบไปจากคลื่นสึนามิที่ถาโถมเข้ามา หลังจากเหตุการณ์สงบลง ก็พบศพพ่อและภรรยาของเขา แต่ดูเหมือนว่ายูนะ ยังไม่มีทีท่าว่าจะเจอศพแต่อย่างใด   นับตั้งแต่นั้นมา เขาได้ฝ่าซากปรักหักพังและกัมมันตรังสีเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมกับอุปกรณ์ขุดดิน และลงมือค้นหาร่างของยูนะด้วยตัวของเขาเอง   ในช่วงแรก เขาได้ทำการค้นหาเพียงลำพัง แต่เมื่อข่าวเผยแพร่ออกไป ก็มีอาสาสมัครมากมายเข้ามาร่วมช่วยค้นหา ซึ่งในแต่ละปี พวกเขาจะเข้ามายังพื้นที่ 30 วัน วันละ 5 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับกัมมันตรังสีมากเกินไปจนเป็นอันตราย   ล่าสุดหลักจากการค้นหากว่า 5 ปี แม้จะยังไม่เจอร่างของยูนะ…

  • เด็กผู้รอดชีวิตจากสึนามิในอินโดนีเซีย…ตอนนี้กลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพตามที่ใฝ่ฝันแล้ว!!

    เด็กผู้รอดชีวิตจากสึนามิในอินโดนีเซีย…ตอนนี้กลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพตามที่ใฝ่ฝันแล้ว!!

    จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่กลางมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ปี 2004 ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิพัดโถมเข้าใส่ชายฝั่งของประเทศอินโดนีเซีย สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก ทั้งสิ่งก่อสร้างและชีวิตคนนับหมื่นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิในครั้งนั้น และเช่นเดียวกันกับเด็กชายตัวน้อยวัย 7 ขวบที่ชื่อว่า Martunis คนนี้ ในวันเกิดเหตุเขาอาศัยอยู่ที่บ้านใกล้กับชายหาดในจังหวัด Banda Aceh แม่ของเขาและพี่น้องอีกสองคนเสียชีวิตในวันนั้น เขาเป็นคนเดียวที่มีชีวิตรอดและใช้ชีวิตอยู่คนเดียวบนชายหาดนานกว่า 21 วันจนกระทั่งทีมช่วยเหลือเข้าไปพบ   ในวันนั้นเขาสวมใส่ชุดนักฟุตบอลของทีมชาติโปรตุเกส เพราะกำลังจะออกไปเตะฟุตบอลข้างนอกกับเพื่อนๆ   หลังจากที่สื่อได้เข้าไปสัมภาษณ์เขาว่าทำอย่างไร ถึงเอาชีวิตรอดมาได้ด้วยตัวคนเดียวถึง 21 วัน หนูน้อย Martunis ก็ตอบไปว่า “ผมมีความฝันที่จะเป็นนักฟุตบอล มันก็ทำให้ผมไม่ยอมแพ้และต้องมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้”     เรื่องราวของหนูน้อยคนนี้โด่งดังไปทั่วโลกจนได้ยินไปถึงหูนักฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกสที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนโลกอย่าง Christiano Ronaldo เขาได้เดินทางมาเยี่ยมหาเจ้าหนู Martunis ถึงที่ ในปี 2005     นอกจากนี้ Christiano Ronaldo ยังตบปากรับคำว่าจะเป็นคนดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนเกี่ยวกับฟุตบอลของเจ้าหนู Martunis ทั้งหมดให้เอง และวันหนึ่งเขาจะได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพตามที่เขาใฝ่ฝันอย่างแน่นอน     เวลาผ่านไป 10…

  • 5 ปีผ่านไปกับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องของโทโฮะกุ หลังประสบเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ

    5 ปีผ่านไปกับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องของโทโฮะกุ หลังประสบเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ

    ด้วยลักษณะภูมิประเทศของญี่ปุ่นที่เป็นเกาะ จึงไม่อาจหลีกเลี่ยงภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิได้ เพราะในหนึ่งปีอาจจะต้องเจอมากกว่าหนึ่งครั้ง ทางการจึงต้องมีการเตรียมแผนรับมือเพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด และจะต้องทำการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน     ในช่วงเดือนมีนาคม ปีค.ศ. 2011 โทโฮะกุหนึ่งในอนุภูมิภาคทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ได้ประสบกับภัยธรรมชาติร้ายแรงอย่างแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ ทำให้ทั่วทั้งบริเวณได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ถึงแม้จะร้ายแรงแค่ไหน ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ทำการฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว       ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 มาจนถึง 2015 รวมแล้ว 5 ปีผ่านไป ตลอดทั้งอนุภูมิภาคค่อยๆ ได้รับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง จากที่เคยเหลือเพียงแต่ซากปรักหักพัง แต่ตอนนี้ก็เริ่มกลับมาเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยเหมือนเดิมแล้ว     โดยโปรเจคนี้ทำการเก็บภาพถ่ายตั้งแต่ช่วงหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดิน The Great East Japan Earthquake เป็นการเก็บภาพถ่ายผ่าน Google Street View ของญี่ปุ่น จากหลายๆ พื้นที่ในอนุภูมิภาคโทโฮะกุ เห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน แต่ก็ยังคงมีร่องรอยของภัยพิบัติหลงเหลืออยู่เช่นกัน   ที่มา : googlejapan, rocketnews24

  • ตำนาน ‘ผีเหยื่อซีนามิ’ ที่กลุ่มคนขับแท็กซี่ญี่ปุ่น เล่าลือกันถึงความหลอน

    ตำนาน ‘ผีเหยื่อซีนามิ’ ที่กลุ่มคนขับแท็กซี่ญี่ปุ่น เล่าลือกันถึงความหลอน

    ถือว่าเป็นโศกอนาตกรรมครั้งหนึ่งของชาวญี่ปุ่นเลยทีเดียว สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิถล่มที่เมืองอิชิโนมากิ รวมถึงการละลายของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟุกิชิมา ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ ภาพของความสูญเสีย ก็ยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำของชาวญี่ปุ่น แม้เหตุการณ์จะผ่านไปหลายปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าวิญญาณของผู้เสียชีวิตกว่า 6,000 คน ยังคงวนเวียนไม่ไปไหน และยังคงใช้ชีวิตอย่างปรกติ เหมือนกับไม่รู้ว่าตนเองนั้น ได้จากโลกนี้ไปนานแสนนานแล้ว!!     โดยมีแท็กซี่คนหนึ่งเล่าว่า ในช่วงที่กำลังบูรณะเมืองขึ้นมาใหม่ เขาได้ไปขับรถรับผู้โดยสารอยู่แถวนั้น กลางดึกคืนหนึ่งเขาได้รับผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งขึ้นมา เธอบอกให้เขาไปส่งที่ย่านมิฮามิฮามะ คนขับแท็กซี่ได้ยินดังนั้นจึงบอกเธอไปว่า เขตมินามิฮามะถูกคลื่นยักษ์ถล่มพังพินาศไปหมดแล้ว ผู้โดยสารคนหญิงคนนั้นฉุกกึกขึ้นมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบว่า “ฉันตายแล้วเหรอ” (ภาพประกอบ ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์จริง)   คนขับแท็กซี่งุนงงกับคำพูดของเธอ เขาจึงหันกลับไปดู แต่แล้วเขาต้องตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อเบาะหลังไม่มีใครนั่งอยู่ซักคนเดียว!! ยังไม่จบเท่านั้น คนขับแท็กซี่อีกท่านก็เล่าว่า เขาเคยรับผู้โดยสารชายคนหนึ่ง แต่เมื่อเดินทางไปถึงจุดหมาย ปรากฎว่าไม่มีใครนั่งรถมากับเขาด้วย!? ไม่เพียงแต่แท็กซี่เท่านั้น ชาวเมืองอิชิโนมากิก็เคยเห็นเหตุการณ์ประหลาดๆ เช่นกัน พวกเขาเล่าว่าบางครั้งเขาเห็นเพื่อนบ้านที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ซึนามิเดินไปเดินมาอยู่แถวบ้านที่พวกเขาอยู่เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ หรือบางคนก็เห็นพวกเขาเดินจับจ่ายซื้อของในซุปเปอร์มาเก็ต แม้กระทั่งบางคนก็เคยเห็นวิญญาณไร้หัว หรือแขนขาดขาขาด ป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณที่เคยมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก     อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่คิดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องลึกลับ ทางมหาวิทยาลัยโตโฮกุกล่าวว่า ผู้ที่มีส่วนร่วมหรืออยู่ในเหตุการณ์ที่มีความสูญเสียครั้งใหญ่ อาจมีอาการทางจิต และเห็นภาพหลอนอยู่เป็นระยะๆ ดังเช่นที่ชาวเมืองอิชิโนมากิ เคยสูญเสียญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน คนรัก…