Tag: สงครามโลกครั้งที่ 1

  • ผลงานภาพถ่ายขาวดำจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เผยให้เห็นอีกด้านหนึ่งของสงคราม

    ผลงานภาพถ่ายขาวดำจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เผยให้เห็นอีกด้านหนึ่งของสงคราม

    ภาพของเหล่าทหารเยอรมันที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และภาพของเด็กๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ เป็นภาพถ่ายสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 จากฝีมือของ Käthe Buchler ช่างภาพสาวชาวเยอรมัน ช่างภาพของเราได้บันทึกภาพต่างๆ ในช่วงเวลานั้น พร้อมกับให้ความหมายของภาพถ่ายเธอว่า “นี่คือความดื้อรั้นของพลเรือนชั้นกลาง”     ตามมาด้วยภาพของเหล่าทหารที่กำลังดื่มชา หรือพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเหล่าที่ช่วยย้ำเตือนถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี โดยผลงานของช่างภาพสาวรายนี้ ถูกถ่ายด้วยฟิล์มแบบขาวดำทั้งหมด ซึ่งเธอตั้งชื่อผลงานชุดนี้ว่า Beyond the Battlefields และถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายในเมืองเบราน์ชไวก์ ประเทศเยอรมัน     ชุดภาพถ่ายดังกล่าวถูกแสดงในนิทรรศการการท่องเที่ยว ที่พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ Birmingham ประเทศอังกฤษระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม 2017 ถึง 14 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา   ภาพของพยาบาลสาวและทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสงครามโลกครั้งที่ 1 . .   เด็กๆ ในสถานพยาบาล ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1   ภาพถ่ายของ Käthe Buchler ที่เผยให้เห็นอีกมุมหนึ่งของสงครามได้เป็นอย่างดี . .   ภาพของเด็กชายชาวเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่…

  • กองทัพผีในสมรภูมิ Gallipoli ในช่วง WWI ทำเหมือนยังมีคนยิงอยู่ ทั้งๆ ที่หนีกันไปหมดแล้ว

    กองทัพผีในสมรภูมิ Gallipoli ในช่วง WWI ทำเหมือนยังมีคนยิงอยู่ ทั้งๆ ที่หนีกันไปหมดแล้ว

    หากย้อนกลับไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มต้นขึ้นในเดือนธันวาคม 1915 ตอนนั้นหลายๆ ที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสมรภูมิรบที่มีการยิงปืนใส่กันตลอดเวลา ซึ่งคาบสมุทร Gallipoli ในเขตประเทศตุรกี ก็นับว่าเป็นหนึ่งจุดที่มีการห้ำหั่นกันอยู่เรื่อยๆ ในตอนนั้นทางฝ่ายกองกำลัง ANZAC (กองทหารที่รวมตัวกันของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์) ต้องการที่จะล่าถอยออกจากสมรภูมิ นั่นจึงกลายเป็นต้นกำเนิดของสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า Drip Rifle หรือ ไรเฟิลหยดน้ำ   สิ่งประดิษฐ์ที่ชื่อว่า Drip Rifle   เจ้าสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวเกิดจากไอเดียของนายทหารชาวออสเตรเลียคนหนึ่งที่มีชื่อว่า สิบตรี William Scurry และได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนของเขา Bunty Lawrence ที่ช่วยทำให้สร้างเจ้าสิ่งนี้ออกมาได้สำเร็จ การทำงานของ Drip Rifle คือเจาะรูในกระป๋องน้ำให้หยดใส่ลงถังด้านล่าง โดยถังที่รองอยู่จะมีเชือกผูกติดเอาไว้กับไกปืน ทำให้พอน้ำหยดลงมามีน้ำหนักที่มากพอ ไกปืนก็จะถูกดึง เป็นการยิงปืนแบบที่ไม่ต้องใช้คนนั่นเอง   สิบตรี Willam Scurry ผู้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้   การทำงานแบบสุ่มเวลา ทำให้ปืนแต่ละกระบอกยิงออกไปไม่พร้อมกัน   กลวิธีดังกล่าวจึงทำให้ฝ่ายศัตรูชาวออตโตมันคิดว่ายังคงมีทหารฝั่ง ANZAC คอยยิงปืนอยู่เรื่อยๆ และพวกเขาก็ไม่กล้าโผล่ออกมาดูด้วยตาของตัวเอง แต่ถึงแม้จะมองไปที่บังเกอร์ฝั่งตรงข้ามในความมืดจากระยะไกล พวกเขาก็จะเห็นเหมือนเงายืนอยู่…

  • ภาพแปลกๆ สมัยสงครามโลก ที่นำมาลงสีใหม่แสดงให้เห็นถึงความพยายามของทหารในสมัยนั้น

    ภาพแปลกๆ สมัยสงครามโลก ที่นำมาลงสีใหม่แสดงให้เห็นถึงความพยายามของทหารในสมัยนั้น

    ตามประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกไว้บนโลกนี้กล่าวเอาไว้ว่า โลกของเราเคยมีสงครามใหญ่ๆ เกิดขึ้นระหว่างประเทศหรือเรียกว่า ‘สงครามโลก’ เกิดขึ้นมาแล้วถึง 2 ครั้งซึ่งก็ได้สร้างความสูญเสียอย่างประเมินค่าไม่ได้ให้แก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก และนี่คือภาพสมัยสงครามโลกทั้ง 2 ครั้งที่หาดูได้ยาก โดยแต่ละภาพจะแสดงให้เห็นถึงวิธีการต่างๆ ในสมัยสงครามตั้งแต่การเริ่มหัดพรางตัวโดยพรางเป็นม้าลาย หรือแม้กระทั่งการนำปืนกลไปตั้งไว้บนหลังช้าง รวมถึงยังมีภาพแปลกๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นระหว่างที่มีสงคราม ซึ่งถือได้ว่าพวกเขาเหล่านี้เป็นต้นแบบของวิทยาการสงครามในสมัยใหม่เลยก็ว่าได้ โดยแต่เดิมนั้นภาพเหล่านี้เป็นเพียงแค่ภาพขาวดำ แต่เมื่อเร็วๆ มานี้ได้รับการนำมาลงสีใหม่โดยเด็กหนุ่มชาวสเปนวัย 17 ปีืชื่อว่า Joel Bellviure  ภาพที่เขาได้เนรมิตขึ้นมาใหม่นี้ทำให้เราได้เห็นถึงรายละเอียดต่างๆ ได้มากขึ้นรวมถึงยังสามารถสื่ออารมณ์ในสมัยสงครามโลกได้ดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะมีอะไรแปลกๆ บ้างนั้น เรามาดูพร้อมกันเลยดีกว่า   ภาพของทหารคนหนึ่ง ขณะทดสอบชุดพรางตัวสีขาวดำที่มีชื่อเรียกว่า ‘razzle dazzle’ ที่จะให้ทหารใช้สำหรับพรางตัวขณะปีนต้นไม้ ซึ่งภาพนี้ถูกถ่ายขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน 1917   ภาพของนาวิกโยธินสหรัฐฯ ขณะกำลังนั่งอยู่บนหลังช้างพร้อมกับปืนกล Colt M1895 ซึ่งภาพแปลกๆ นี้สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดขึ้นในปี 1914-1918   ภาพของทหารอเมริกันขณะสวมชุดเกราะ ‘Brewster Body Shield’ ซึ่งมีทั้งส่วนที่ปกคลุมส่วนตัวและส่วนหัว ซึ่งนี่เป็นชุดเกาะของประเทศสหรัฐอเมริกาชิ้นแรกที่พัฒนาขึ้น ให้กองกำลังสหรัฐใช้ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1   ร้อยโท…

  • เรื่องราวจาก WWI เมื่อทหารทั้งสองฝั่งหยุดจับปืน แล้วมาร่วมจับมือเฉลิมฉลองคริสต์มาสแทน…

    เรื่องราวจาก WWI เมื่อทหารทั้งสองฝั่งหยุดจับปืน แล้วมาร่วมจับมือเฉลิมฉลองคริสต์มาสแทน…

    สงครามโลกครั้งที่ 1 คือหนึ่งในสงครามอันแสนเลวร้ายที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ทหารและพลเรือนต้องตายไปหลายล้านคน แต่ท่ามกลางสมรภูมิรบที่แสนหดหู่นั้นกลับมีเรื่องราวที่แสนอบอุ่นหัวใจเกิดขึ้นมาอยู่ด้วย ในปี 1914 ช่วงสงครามดังกล่าว จากความยืดเยื้อของการห่ำหั่นกันอย่างยาวนาน สงครามจึงกินเวลาไปควบในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสในปีนั้น ทำให้ทหารจากทั้งสองฝ่ายที่ยิงใส่กันมาตลอด วางอาวุธลงและร่วมฉลองวันพิเศษนั้นไปด้วยกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางสมรภูมิ Tennenberg ประเทศโปแลนด์ ในวันคริสต์มาสอีฟปีนั้น ทหารจากอังกฤษและฝรั่งเศสได้ออกไปร่วมเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลกับทหารฝั่งเยอรมันที่เป็นศัตรู     จากเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ที่ถูกบันทึกเอาไว้ ทหารอังกฤษนายหนึ่งเล่าว่า “ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส พวกเราและทหารฝั่งเยอรมันวางอาวุธลง เดินขึ้นมาจากหลุมป้องกันภัย มารวมกันอยู่ตรงพื้นที่ที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ระหว่างกองทัพของทั้งสองฝั่ง และพวกเราก็ได้จัดโต๊ะเลี้ยงฉลองไปด้วยกัน” เขาเล่าอีกว่า “เวลาเพียง 5 นาที ลานดังกล่าวก็เต็มไปด้วยทหารจากทั้งสองฝั่ง พวกเราสวมกอดกันและกัน สูบบุหรี่ไปด้วยกัน แลกของที่ระลึกหรือมอบของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่กัน” นอกจากที่พวกเขาจะสนุกไปด้วยกันแล้ว ทหารทุกฝ่ายยังช่วยกันฝังศพให้กับคนที่ตายไปในสมรภูมิดังกล่าวอีกด้วย     งานเลี้ยงฉลองยังคงมีต่อไปถึงวันที่ 26 ธันวาคม 1914 เป็นวันที่เรียกว่า Boxing Day พวกเขายังคงเฮฮาไปกับงานเทศกาล ก่อนที่ทุกอย่างจะสิ้นสุดลงในวันที่ 27 การร่วมใจกันจากทหารของทั้งสองฝ่าย ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่นี่ที่เดียว เพราะจากการบันทึกเล่าว่า มีทหารอังกฤษจากกองทัพแพทย์ทหารบกเขียนมาในจดหมายที่ส่งกลับมาลอนดอนว่า พวกเขาได้ไปแข่งเตะบอลกับทหารฝั่งเยอรมันและแพ้ไป…

  • สงครามเปลี่ยนคน.. ภาพก่อน-หลังศัลยกรรมใบหน้า ของเหล่าทหารกล้าที่บาดเจ็บใน WW1

    สงครามเปลี่ยนคน.. ภาพก่อน-หลังศัลยกรรมใบหน้า ของเหล่าทหารกล้าที่บาดเจ็บใน WW1

    ขึ้นชื่อว่าสงคราม เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะล้วนแล้วแต่มีความหวาดกลัว ความสูญเสียต่อทั้งสองฝ่ายซึ่งหากนับความเสียหายแล้วน่าจะเป็นความเสียหายต่อด้าน ทรัพย์สิน สมบัติ และสิ่งที่มีค่าที่สุดนั่นคือ ชีวิตของผู้คนในระหว่างสงครามและหลังจากสงครามนั่นเอง ภาพทั้งหมดถ่ายในปี 1918-1919 หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 การเยียวยาช่วยเหลือทหารหลังจากผ่านศึกดูจะเป็นสิ่งที่ Anna Coleman Ladd ประติมากรชาวอเมริกันสามารถช่วยเหลือได้ โดยเธอช่วยทหารที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า โดยการสร้างหน้ากากจากทองแดงเจือจาง ให้คล้ายคลึงกับหน้าเดิมของผู้บาดเจ็บให้ได้มากที่สุด   โดยเธอได้ร่วมกับ Harold Gillies ศัลยแพทย์หนุ่ม ในการนำหน้ากากที่ได้จากการปั้นของเธอไปซ่อมแซมส่วนที่ขาดหายไประหว่างสงครามของทหารผ่านศึกทั้งหลายก่อนที่จะส่งกลับไปที่ภูมิลำเนาของทหารคนนั้นๆ ซึ่งผลงานของเธอก็ช่วยทหารหลายๆคนให้มีความสุขมากกว่าเดิมได้ดังต่อไปนี้   ทหารนายหนึ่งที่สูญเสียดวงตาข้างขวาและใบหน้าที่ผิดรูปไป   Harold Page พลทหารนายหนึ่งที่สูญเสียดวงตา แต่หน้ากากเปลี่ยนให้ดูเหมือนยังมีดวงตาอยู่    Soldier F เป็นผู้ป่วยที่รูปลักษณ์เสียโฉมที่สุดของผู้ป่วยทั้งหมดของ Ladd   ทหารนายหนึ่งที่สูญเสียจมูกทั้งหมดไปก่อนที่จะได้รับการศัลยกรรมโดยหน้ากาก   ทหารสวมชุดเครื่องแบบเกียรติยศที่สูญเสียทั้งจมูกและปากไปและได้รับการศัลยกรรมตกแต่ง   พลทหาร B โพสท่าให้เห็นถึงความสูญเสียที่แสนจะน่ากลัวของเขา   พลทหาร William Thomas สูญเสียใบหน้าส่วนกลางไป ต้องใช้เวลากว่า 6 ปีและ ผ่าตัดกว่า 19 ครั้งเพื่อให้ได้…

  • ภาพถ่ายที่หาชมได้ยาก ของเหล่าทหารใน “ชุดเกราะเหล็ก” ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1

    ภาพถ่ายที่หาชมได้ยาก ของเหล่าทหารใน “ชุดเกราะเหล็ก” ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1

    การทำสงครามนอกจากจะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการวงแผนการรบและความสามารถของทหารแล้ว หนึ่งในตัวแปรสำคัญที่อาจจะช่วยให้คว้าชัยชนะในสงครามได้นั้นก็คืออาวุธยุทโธปกรณ์ในการรบ และวันนี้เราก็จะขอพาทุกคนย้อนไปชมหนึ่งในยุทโธปกรณ์ทางทหารในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่หาชมได้ยาก และเป็นหนึ่งในต้นแบบของชุดเกราะในสมัยนี้ นั้นก็คือชุดเกราะเหล็กของเหล่าทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 นั่นเอง เจ้าชุดเกราะเหล็กนี้ถูกออกแบบมาสำหรับทหารแนวหน้าได้สวมใส่ เพื่อป้องกันลูกกระสุนและอาวุธของฝ่ายตรงข้าม และแต่ละกองทหารนั้นก็จะมีรูปแบบของชุดเกราะที่แตกต่างกันออกไป   อย่างเช่นชุดของหน่วยจู่โจมของเยอรมันนายนี้ ที่ประกอบไปด้วยชุดเกราะและระเบิดมืออีก 2 ลูก โดยชุดเกราะนี้สามารถช่วยป้องกันกระสุนปืนกล กระสุนจากปืนไรเฟิล และอาวุธอื่นๆ ได้อีกด้วย   ชุดเกราะของนายทหารที่ทำมาจากแผ่นเหล็ก มันช่วยป้องกันช่วงหน้าอกและท้องของเขาในปี 1914   ชุดเกราะหนักของทหารอเมริกันที่ใช้ในสมรภูมิฝรั่งเศสในปี 1917   นายทหารอเมริกัน ที่กำลังลองสวมชุดเกราะของทหารฝ่ายเยอรมันในปี 1918   หมวกเหล็กต้นแบบที่ถูกคิดค้นโดยบริษัท E J Codd จากรัฐแมริแลนด์ แผงโซ่ที่ห้อยลงมานั้นจะคอยป้องกันตาของทหารจากเศษหิน ปลอกระสุน และชิ้นส่วนอื่นๆ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1   นายทหารติดอาวุธนายหนึ่งพร้อมกับปืนไรเฟิล กำลังทักทายกับนายทหารในชุดเกราะแบบเต็มยศที่ใช้ขวานเป็นอาวุธ ภาพถ่ายเดือนตุลาคมปี 1917   นักรบชาวจอร์เจียของชนเผ่า Khevsur ในชุดเกราะแบบดั้งเดิมของพวกเขา ภาพถ่ายเดือนพฤษภาคมปี 1918   นายทหารชาวไอริชสามคน ในชุดเกราะของทหารเยอรมันที่กำลังตรวจสอบปืนกล ในสนามรบ Pilckem…

  • รวมภาพประวัติศาสตร์ “การพรางตัว” ของทหารหญิงฝ่ายสัมพันธมิตร ในสงครามโลกครั้งที่ 1

    รวมภาพประวัติศาสตร์ “การพรางตัว” ของทหารหญิงฝ่ายสัมพันธมิตร ในสงครามโลกครั้งที่ 1

    สงครามโลกครั้งที่ 1 เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมหาสงครามที่เรียกได้ว่ารุนแรงและมีความสูญเสียมากที่สุดของมวลมนุษยชาติเลยก็ว่าได้ เทคโนโลยีและยุทธการการรบต่างๆ ถูกคิดค้นเพื่อมาพิชิตเหล่าฆ่าศึก และหนึ่งในนั้นก็คือสายลับหญิงนั่นเอง และวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับหน่วยนักรบหญิงที่มีชื่อว่า The Women’s Reserve Camouflage Corps กองกำลังทหารหญิงที่มีความเชี่ยวชาญในการสืบเสาะและพรางตัว     ในปี 1918 พื้นที่ของอุทยาน Van Cortlandt Park ในพื้นที่ของมหานครนิวยอร์ก ซึ่งเต็มไปด้วยป่าไม้ ทุ่งหญ้า และโขดหินมากมาย แต่ใครจะรู้ว่าในพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตรนั้นได้มีเหล่าของนักรบหญิงซ่อนตัวอยู่ในนั้น เหล่าผู้หญิงที่ซ่อนตัวอยู่ในที่อุทยานแห่งนี้ คือหนึ่งในนักเรียนวิชาศิลปะการพรางตัวหรือที่เรียกว่าเป็นหนึ่งในคอร์สการฝึกหน่วยลับของฝ่ายพันธมิตร ที่จะใช้ในสงคราม     การฝึกดังกล่าวจะรวบรวมศิลปินหญิงจากทั่วสหรัฐอเมริกาเพื่อมาทำการฝึกร่วมกับหน่วยรบพิเศษในนิวยอร์ก และหลังจากนั้นพวกเธอจะถูกส่งตัวเพื่อเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 1 สาเหตุที่ต้องเป็นเหล่าศิลปินหญิงนั้นก็เนื่องจากว่าทางการนั้นต้องการอาศัยความสามารถในการประดิษฐ์ การวาดภาพ การลงสีของพวกเธอเพื่อช่วยในการพัฒนารูปแบบของชุดสำหรับพรางตัว ให้มีความสมจริงมากที่สุดนั่นเอง     การฝึกในอุทยาน Van Cortlandt Park นั้นเป็นการทดสอบชุดพรางต่างๆ และให้พวกเธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับลักษณะของภูมิประเทศเพื่อใช้ในการวาดลายพรางบนชุดในคล้ายกับลักษณะภูมิประเทศต่างๆ อย่างเช่น ก้อนหิน หรือสนามหญ้า เพื่อใช้ในสนามรบ   ภาพของเหล่าจิตรกรหญิงที่กำลังฝึกสเก็ตภาพภูมิประเทศเพื่อนำไปปรับใช้กับการออกแบบชุดพรางตัว   ภาพถ่ายการฝึกชุดนี้ถูกเปิดเผยโดยสำนักงานหอจดหมายเหตุแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ซึ่งบางภาพนั้นคุณจะเห็นภาพของพวกเธออยู่ใกล้ๆ กับโขดหินหรือต้นไม้ และหลังจากนั้นในภาพต่อมาพวกเธอกลับพรางตัวได้แนบเนียนสุดๆ…

  • ภาพถ่ายหายากถ่ายทอดชีวิต เด็กกำพร้าและคนไร้บ้าน ต้องดิ้นรนในสหภาพโซเวียตช่วงปฏิวัติ

    ภาพถ่ายหายากถ่ายทอดชีวิต เด็กกำพร้าและคนไร้บ้าน ต้องดิ้นรนในสหภาพโซเวียตช่วงปฏิวัติ

    หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1922 การปฏิวัติของรัสเซียและสงครามกลางเมืองได้ส่งผลให้เกิดการสูญเสียอย่างน้อย 16 ล้านคนภายในเขตแดนของสหภาพโซเวียต เหตุการณ์นี้ทำให้เด็กกว่า 7 ล้านคนกลายเป็นเด็กกำพร้าและไร้บ้าน ความอดอยากครั้งใหญ่ในปี 1921 – 1922 ส่งผลทำให้เด็กๆ กว่า 5 ล้านคนเสียชีวิตด้วยความหิวโหย ในขณะที่เด็กๆ บางส่วนถูกทอดทิ้งโดยพ่อแม่ที่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ นอกจากความอดอยากแล้ว โรคอหิวาต์และโรคร้ายแรงอื่นๆ ก็คร่าชีวิตคนไปเป็นจำนวนมาก แม้จะมีความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึง The American Relief Administration (ARA) ได้เข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่เพียงพอ   กลุ่มเด็กกำพร้าต่อคิวเพื่อขึ้นรถไฟ .   กลุ่มเด็กกำพร้ารอรอบรถไฟไปสถานรับเลี้ยงเด็กที่ต่างๆ   เด็กกำพร้ากับการแต่งตัวของเขา   วิถีชีวิตบางวันของพวกเขาคือการนั่งจับกลุ่มเล่นไพ่   แม้ว่าจะอดอยาก แต่เด็กบางคนเลือกที่จะไม่ทิ้งเพื่อนคู่ใจของพวกเขา   โต๊ะลงทะเบียนสำหรับเด็กๆ ที่จะเข้าโรงเรียนวิชาชีพที่จัดตั้งขึ้นโดยกรุงมอสโกว .   ชั้นเรียนต่างๆ ในโรงเรียนถูดจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย   เด็กๆ ล้อมวงกันฟังข่าวสารจากวิทยุ   มื้ออาหารแต่ละมื้อที่พวกเขาต้องช่วยกันบริการเพื่อนๆ และตัวเอง .…

  • เรื่องราวประวัติศาสตร์ ที่หลายคนไม่รู้ของ “รถถัง” ยักษ์หุ้มเกราะสุดแกร่ง แห่งสงครามโลกครั้งที่ 1

    เรื่องราวประวัติศาสตร์ ที่หลายคนไม่รู้ของ “รถถัง” ยักษ์หุ้มเกราะสุดแกร่ง แห่งสงครามโลกครั้งที่ 1

    สงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามขนาดใหญ่ในยุโรป เป็นการต่อสู้กันระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตร( อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย อิตาลี) และฝ่ายมหาอำนาจกลาง (เยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี จักรวรรติออตโตมัน) ว่ากันว่ามันคือหนึ่งในสงครามที่มีการสูญเสียมากที่สุด มีทหารกว่า 70 ล้านนายถูกเกณฑ์เข้าร่วมสงครามนี้ มีผู้สูญหายและเสียชีวิตระหว่างสงครามกว่า 40 ล้านคน อาวุธต่างๆ มากมายถูกพัฒนาขึ้นในช่วงสงคราม และหนึ่งในอาวุธที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในการทำสงครามของทั้งสองฝ่าย ที่เรียกได้ว่าทรงพลังและแข็งแกร่งมากชนิดหนึ่งนั้นก็คือ “รถถัง” เรื่องราวและประวัติศาสตร์ของมันจะเป็นอย่างไรนั้นไปชมพร้อมๆ กันเลย   รถถังรุ่นแรกๆ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ลักษณะคล้ายกับรถไถ สร้างโดย Rustin และ Hornsby  ปี 1902   รถถังคือสิ่งที่ตอบสอนองและพัฒนาแนวการรบของชาติตะวันตกให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อาวุธต่างๆ มากมายเช่น เกราะเหล็ก ปืน และการเคลื่อนที่ที่สามารถไปได้ในทุกพื้นผิวภูมิประเทศ ถูกเอามารวมเข้าไว้ในรถเหล็กคันใหญ่ เมื่อมันถูกนำมาใช้ในสงคราม โดยกองทัพ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมายจากอาวุธสงครามชนิดนี้     รถถังคันแรกของประเทศอังกฤษชื่อว่า Little Willie ผลิตโดยบริษัท William Foster…

  • ภาพตรึงใจ ช่วงเวลาพักผ่อนของทหาร ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ก่อนจะเสียชีวิตนับล้านคน…

    ภาพตรึงใจ ช่วงเวลาพักผ่อนของทหาร ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ก่อนจะเสียชีวิตนับล้านคน…

    เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางสำนักข่าว Daily Mail ได้นำคอลเล็กชั่นภาพสุดหายากของเหล่าทหารอังกฤษ ก่อนที่จะเริ่มยุทธการแม่น้ำซอมม์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งปฏิบัติการนี้เองถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจมากสำหรับกองทัพอังกฤษ เพราะมีทหาเสียชีวิตไปกว่าหนึ่งล้านนาย โดยในภาพแสดงทำให้เราได้เห็นถึงวิถีชีวิตและอารมณ์ของเหล่าทหาร ก่อนที่เขาจะเข้าร่วมสงครามครั้งที่โหดร้ายที่สุดครั้งหนึ่งที่โลกเคยมีมา ซึ่งในแต่ละภาพ จะมีสถานะของทหารเหล่านั้นกำกับเอาไว้ เพื่อให้ผู้ชมได้รู้ว่า ชะตากรรมของพวกเขาในสงครามเป็นอย่างไร   *หมายเหตุ Killed = เสียชีวิต / Wounded = ได้รับบาดเจ็บ / Survived = รอดชีวิต / Unknown = ไม่ทราบชะตากรรม   ยุทธการแม่น้ำซอมม์ถือว่าเป็นการปะทะกันครั้งแรกของกองทัพอังกฤษและกองทัพเยอรมัน ทั้งสองฝ่ายต่างทุ่มกำลังเพื่อจะยึดพื้นที่ของอีกฝ่ายให้ได้ ซึ่งทั้งสองต่างผลัดกันรุกผลัดกันรับเป็นเวลากว่า 2 ปี แต่ก็ยังไม่ได้ผลแพ้ชนะ   จนสุดท้ายสหรัฐอเมริกาได้เข้าร่วมสงคราม และเข้าไปสลับเปลี่ยนกำลังพลกับทหารอังกฤษและฝรั่งเศส ทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรเริ่มได้เปรียบและกลายเป็นฝ่ายชนะในที่สุด   แต่ถึงกระนั้นกองทัพอังกฤษก็ต้องเสียกำลังพลไปกว่าหนึ่งล้านนายจากยุทธการแม่น้ำซอมม์ครั้งนี้   เราไปชมภาพกันดีกว่า . . . . . .   สงครามมีแต่ความสูญเสียจริงๆ ขนาดดูจากภาพผู้เสียชีวิตยังมีมากกว่าแบบอื่นๆ…