Tag: วาฬเพชรฆาต

  • เจ้าแมวน้ำหัวใส กระโดดขึ้นเรือนักท่องเที่ยว รอดพ้นการล่าจากฝูงวาฬเพชฌฆาตแบบหวุดหวิด!!!

    เจ้าแมวน้ำหัวใส กระโดดขึ้นเรือนักท่องเที่ยว รอดพ้นการล่าจากฝูงวาฬเพชฌฆาตแบบหวุดหวิด!!!

    ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ สิ่งหนึ่งที่หวงแหนกันเป็นที่สุดเลยก็คือชีวิตของตัวเอง เรียกได้ว่าสามารถทำได้ทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่างเพื่อเอาชีวิตให้รอดจากสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่โดยสมาชิกยูทูปชื่อ kirk fraser โดยโพสต์วิดีโอเกี่ยวกับเรื่องราวน่ารักที่เขาเจอ เมื่อฝูงวาฬเพชฌฆาตกว่า 12 ตัวด้วยกันกำลังล้อมวงเพื่อล่าเจ้าแมวน้ำตัวอ้วนพีตัวนี้อยู่   ทันใดนั้นเหมือนเจ้าแมวน้ำก็เห็นเรือผ่านมาพอดี เลยขอกระโดดขึ้นมาหลบซะเลย   งานนี้ทำเอาเหล่านักล่าเซ็งไปตามๆ กันเลยทีเดียว ฮร่าาาา   ลองมาชมคลิปกันได้ที่นี่เลย   ส่วนนี่เป็นคลิปเหตุการณ์เต็มๆ ในเวอร์ชั่นที่ยาวกว่า ให้เลือกดูอีก…   ถึงแม้บางคนจะไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการขัดขวางระบบความเป็นไปของธรรมชาติ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าเจ้าตัวนี้กระโดดมาขึ้นเรือ เพื่อนๆ จะใจร้ายโยนมันกลับลงน้ำรึเปล่า?? ใครๆ ก็รักชีวิตของตัวเองกันทั้งนั้นหรอกเนาะ…     ที่มา: kirk fraser

  • เชิญพบ J2 วาฬเพชรฆาตแก่ที่สุดในโลก 105 ปี แต่ก็ต้องดิ้นรน มีชีวิตต่อไป…

    เชิญพบ J2 วาฬเพชรฆาตแก่ที่สุดในโลก 105 ปี แต่ก็ต้องดิ้นรน มีชีวิตต่อไป…

    เมื่อคุณได้เห็นภาพของเจ้าวาฬตัวนี้แล้ว คุณอาจจะเห็นว่ามันดูมีชีวิตชีวิาใช่ไหมล่ะ แต่หากเราบอกคุณว่าเจ้าวาฬตัวนี้ใช้ชีวิตบนโลกนี้มานานแค่ไหนแล้ว คุณอาจจะต้องร้องว้าวก็ได้นะ นี่คือเรื่องราวสุดอัศจรรย์ของเจ้าวาฬเพรชฆาตที่ชื่อว่า J2 มันใช้ชีวิตอยู่ในท้องทะเลมานานมากๆ จากการศึกษาของทีมนักวิจัย คาดกัน่ามันน่าจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้มานานกว่า 105 ปีแล้ว     เจ้า J2 (หรือคุณยาย J2) ถูกพบโดยช่างภาพในเครือข่าวของทีมวิจัยวาฬที่ชื่อว่า Heather MacIntyre เธอพบมันขึ้นมาแหวกว่ายอยู่บนผิวน้ำ และกระโดดไปมาอย่างสนุกสนาน แถวๆ ชายฝั่งซานฮวน รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา แต่ถึงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีแค่ไหนก็ตามที่เราได้พบพวกมันขึ้นมาพบปะผู้คนแบบนี้ แต่ในปัจจุบันพวกมันกำลังลดจำนวนลงเรื่อยๆ และอาจจะสูญพันธุ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้แล้ว     ชีวิตอันสวยงาม แต่น่าเศร้าใจ… ตั้งแต่เมื่อช่วงปี 1970 เป็นต้นมา วาเพชรฆาตถูกล่าโดยชาวประมงและถูกทางสวนสัตว์น้ำหลายๆ แห่งจับตัวไปฝึกเพื่อแสดงโชว์ให้ผู้คนได้ดูกัน เราจึงเหลือวาฬเพชรฆาตสวยๆ ในท้องทะเลน้อยลงทุกวันๆ และปัญหาใหญ่ที่สุดของวาฬเพชรฆาตเลยก็คือ พวกมันขาดแคลนอาหาร โดยปกติแล้ววาฬเพชรฆาตจะกินแซลมอนสายพันธุ์ชีนุคเป็นหลัก แต่เนื่องจากมนุษย์ก็บริโภคปลาแซลมอนเช่นกัน ทำให้ตอนนี้จำนวนแซลมอนลดลงกว่า 95% ส่งผลให้วาฬเพชรฆาตหาอาหารยากขึ้นด้วย     นาง MacIntyre ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ช่วงเวลาแบบนี้ช่างเป็นความสวยงามที่เจ็บปวด เพราะพวกมันกำลังขาดแคลนอาหารและอาจตายได้ ผู้คนไม่ได้ตระหนักเลยว่าถ้าพวกเราไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องอาหารของพวกมัน เราจะไม่ได้เห็นวาฬแบบนี้อีกใน 20 ปี ข้างหน้า”…

  • ‘วาฬหลังค่อม’ ผู้พิทักษ์แห่งท้องทะเล ที่คอยปกป้องผู้อ่อนแอ จากกลุ่มนักล่า ‘วาฬเพชรฆาต’

    ‘วาฬหลังค่อม’ ผู้พิทักษ์แห่งท้องทะเล ที่คอยปกป้องผู้อ่อนแอ จากกลุ่มนักล่า ‘วาฬเพชรฆาต’

    ก็เรียกได้ว่าเป็นการตั้งข้อสังเกตของเหล่านักวิทยาศาสตร์กันเลยทีเดียวถึงพฤติกรรมของเหล่าวาฬหลังค่อมจากทั่วโลกที่มักจะเข้าไปช่วยเหล่าแมวน้ำที่โดนฝูงวาฬเพชรฆาตไล่ล่าอยู่เสมอๆ หลายต่อหลายครั้งที่แมวน้ำเคราะห์ร้ายถูกล้อมด้วยฝูงวาฬเพชรฆาต เพราะในด้าวความพริ้วไหวนั้นถือว่าแมวน้ำอยู่เหนือกว่ามาก วาฬเพชรฆาตเลยต้องล่าแบบกลุ่มและล้อมวงเพื่อไม่ให้แมวน้ำหนีได้   นี่คือคลิปวิดีโอที่มาของการหาข้อมูลครั้งนี้ สังเกตว่าวาฬหลังค่อยมาช่วยชีวิตไว้   แต่นั่นเป็นแค่เรื่องบังเอิญ หรือความตั้งใจกันล่ะ!?   จากการรายงานของทาง Live Science พบว่า เหล่านักชีววิทยาจากรอบโลกที่ทำการศึกษาเรื่องวาฬหลังค่อมอย่างจริงจังพบว่าวาฬเหล่านี้มักจะเข้ามาช่วยเหล่าแมวน้ำเสมอ ถ้ามันถูกรุมล่า ด้วยเหตุนี้พวกเขาเลยตั้งข้อสงสัยว่า ที่มันมักจะเข้ามาช่วยนั้นเพราะมันได้ยินเสียงร้องด้วยความกลัวของเหล่าแมวน้ำ หรือมีแรงผลักดันอื่นกันแน่ที่ทำให้มันมีพฤติกรรมแบบนี้!!?   นอกจากนี้แมวน้ำก็ไม่ใช่สายพันธุ์เดียวด้วยล่ะที่เหล่าวาฬหลังค่อมเคยปกป้อง!!!   Lucy Babey หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ‘เหตุการณ์ที่วาฬหลังค่อมไปปกป้องสัตว์ตัวอื่นๆ นั้นเรียกได้ว่าแทบจะนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน นั่นก็คือเวลาถูกวาฬเพชรฆาตไล่ล่า ก่อนหน้านี้ก็มีรายงานมาว่าพวกมันยังปกป้องลูกวาฬสีเทาที่พลัดหลงจากแม่ และเกือบโดนวาฬเพชรฆาตรุมกัดกินอีกด้วย’ Dr. Pitman และนักชีววิทยา John Durban ได้เขียนลงในนิตยสาร  Natural History magazine ว่า ‘วาฬหลังค่อมนั้นมีสัญชาตญาณของความเป็นแม่อยู่ ถึงแม้จะไม่ใช่ลูกจริงๆ ของมัน มันก็จะเข้าไปช่วยเหลือในสถานการณ์ขับขัน’   และกว่า 60 ปีที่ผ่านมาพบว่ามีเหตุการณ์ที่วาฬหลังค่อมเข้ามาขัดขวางการล่าราวๆ 112 ครั้งเลยทีเดียว (เท่าที่นักสำรวจได้พบ)   แถมยังมีเทคนิคที่ป้องกันค่อนข้างแพรวพราวมากๆ ทั้งการใช้ปะการังเป็นเครื่องป้องกัน การพาไปยังโซนน้ำตื้น หรือแม้กระทั้งใช้ครีบยกขึ้นไปบนตัวเพื่อให้อยู่เหนือน้ำพ้นจากการโจมตีของเหล่าวาฬเพชรฆาต!!! แต่ก็มีนักวิจัยหลายท่านเช่นกันออกมาแย้งว่า วาฬเพชรฆาตกับวาฬหลังค่อมนั้นไม่ค่อยถูกกันอยู่แล้ว เพราะถ้ามีโอกาสวาฬเพชรฆาตก็จะล่าลูกของวาฬหลังค่อมเช่นกัน…

  • ‘Lolita’ วาฬเพชรฆาตผู้โดดเดี่ยวมาอย่างยาวนานกว่า 45 ปี ใช้ชีวิตอยู่แต่ในอควาเรียมแคบๆ!!

    ‘Lolita’ วาฬเพชรฆาตผู้โดดเดี่ยวมาอย่างยาวนานกว่า 45 ปี ใช้ชีวิตอยู่แต่ในอควาเรียมแคบๆ!!

    สวนสัตว์และอควาเรียมคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่ามากมายหลายชนิดทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ แต่ลองมานึกย้อนกันดูอีกทีว่าสิ่งเหล่านี้คือสถานที่กักกันสัตว์ที่พรากความเป็นอิสระของพวกมันไปอย่างที่ควรจะเป็นตามธรรมชาติ อย่างเช่นในเรื่องราวของปลาวาฬเพชรฆาต Lolita ที่อาศัยอยู่ในแท๊งค์น้ำเล็กๆ ของ Miami Seaquarium ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีหน้าที่ให้ความสนุกสนานและตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมตลอด 45 ปี     ความเป็นมาของเจ้าวาฬเพชรฆาต Lolita นั้นถูกจับมาจากมหาสมุทรตั้งแต่ปี.ศ. 1970 ตอนที่มันยังมีอายุเพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น และถูกนำมาฝึกการแสดงตั้งแต่มีขนาดตัวยาวเพียงแค่ 1.2 เมตร กาลเวลาผ่านไปจวบจนถึงปัจจุบัน เจ้า Lolita ก็มีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นแต่ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ภายในแท๊งค์น้ำแคบๆ แบบนี้มาทั้งชีวิต     ย้อนกลับในช่วงค.ศ. 1980 มีคู่หูวาฬเพศผู้ที่ชื่อว่า Hugo อาศัยอยู่ด้วย จึงทำให้ไม่เหงามาก แต่สุดท้ายเจ้า Hugo ก็ได้จากไปเสียก่อน จึงทำให้ปัจจุบันเจ้า Lolita ต้องใช้ชีวิตอย่างเดียวดายตลอดมาและอีกไม่นานชะตากรรมของมันก็คงเดินรอยตามการสูญเสียเช่นกัน     หากปล่อยไว้เป็นแบบนี้ก็คงไม่ดีแน่ ทางด้านเจ้าหน้าที่จาก National Oceanic และ Atmospheric Administration (NOAA) ได้ออกมาขอร้องให้ทางอควาเรียมปล่อยตัว Lolita…