Tag: ยากลำบาก

  • ผู้คนในอินเดียร่วมแรงร่วมใจ ช่วยชีวิตน้องหมา 3 ตัวที่นอนจมอยู่ในบ่อน้ำมันดินจนปลอดภัย

    ผู้คนในอินเดียร่วมแรงร่วมใจ ช่วยชีวิตน้องหมา 3 ตัวที่นอนจมอยู่ในบ่อน้ำมันดินจนปลอดภัย

    ในเมือง Udaipur รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ชาวบ้านแถวนั้นบังเอิญไปเจอลูกหมาสามตัวติดอยู่ในบ่อน้ำมันดิน พวกเขาจึงพยายามช่วยชีวิตพวกมันเอาไว้และรีบติดต่อกลุ่ม Animal Aid ให้เข้ามาช่วยด้วยอีกแรง กลุ่มสงเคราะห์สัตว์ดังกล่าวจึงได้โพสต์วิดีโอการช่วยเหลือครั้งนี้เอาไว้ในยูทูบ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2017 ทำให้เราได้เห็นการช่วยเหลือเจ้าหมาทั้งสามตั้งแต่ต้นจนจบว่า สุดท้ายแล้วมันสามารถรอดชีวิตมาได้หรือไม่   ลูกหมาสามตัวติดอยู่ในบ่อน้ำมันดิน ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย ทำได้แค่ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสงสาร   ชาวบ้านที่พบเห็นพยายามช่วยชีวิตพวกมัน ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องงัดบ่อน้ำมันดังกล่าวออกมาทั้งแถบ   ความพยายามอย่างยากลำบาก เพื่อให้เจ้าหมาปลอดภัยมากที่สุด   ปากล่างของน้องหมาตัวหนึ่งติดอยู่กับบ่อน้ำมัน ทำให้การจะช่วยมันออกมายิ่งยากมากกว่าเดิม   เมื่อชาวบ้านสามารถดึงพวกมันออกมาได้แล้ว พวกเขาได้ส่งต่อให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลต่อ   พวกเขาจำเป็นต้องให้น้ำดับกระหายน้องหมาผ่านเข็มฉีดยา และใช้พวกน้ำมันพืชในการทำให้เศษน้ำมันที่ติดตัวอยู่อ่อนลง   พวกเขาทำอย่างนั้นอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อละลายความเหนียว   จนกระทั่งสามารถล้างน้ำมันที่ติดตัวพวกมันออกมาได้มากพอสมควรแล้ว   เจ้าหมาทั้งสามอยู่ในสภาพอิดโรย   น้ำมันที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทำให้ต้องอาบน้ำเจ้าหมาด้วยสบู่ นวดอยู่นานถึง 3 วัน   สภาพร่างกายของมันยังคงย่ำแย่ และไม่รู้ว่าหลังจากนี้มันจะสามารถรอดชีวิตไปได้หรือไม่   แต่ด้วยความรักและพลังใจของพวกมัน ก็สามารถช่วยให้กลับมาร่าเริงได้อีกครั้ง   อีกทั้งยังได้เจอแม่ด้วย…

  • ชีวิตอันยากลำบากของ ‘เด็กอ้วนที่สุดในโลก’ อายุเพียง 10 เดือนแต่หนักเท่าเด็ก 9 ขวบ!!

    ชีวิตอันยากลำบากของ ‘เด็กอ้วนที่สุดในโลก’ อายุเพียง 10 เดือนแต่หนักเท่าเด็ก 9 ขวบ!!

    คำว่า “ที่สุดของโลก” หลายคนเข้าใจว่ามันคงมีแต่เรื่องเจ๋งๆ เช่นวิ่งเร็วที่สุดในโลกหรือกระโดดได้สูงที่สุดในโลก แต่ในความเป็นจริงการเป็นที่สุดของบางเรื่องอาจตามมาด้วยผลกระทบที่เลวร้าย เหมือนกับเด็กน้อยคนนี้ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเพราะเขาเป็นเด็กที่อ้วนที่สุดในโลก เด็กน้อยคนนี้มีชื่อว่า Luis Manuel อาศัยอยู่แถบชายฝั่งแปซิฟิก รัฐโกลีมา ประเทศเม็กซิโก เด็กชายคนนี้มีอายุเพียงแค่ 10 เดือนแต่กลับมีน้ำหนักมากถึง 28 กิโลกรัม!! เทียบเท่ากับเด็ก 9 ขวบเลยทีเดียว   เด็กน้อยที่อ้วนที่สุดในโลกวัย 10 เดือนแต่หนักเท่าเด็ก 9 ขวบ   ในตอนแรก Isabel Pantoja แม่ของเด็กคิดว่าที่ลูกเธอมีน้ำหนักมากกว่าปกติขนาดนี้เป็นเพราะว่าน้ำนมจากอกของเธอมีคุณภาพดีเท่านั้นเอง เด็กคนนี้เกิดมามีน้ำหนัก 3.5 กิโลกรัม พอๆ กับเด็กทั่วๆ ไป พอผ่านไป 2 เดือนเขาก็มีน้ำหนัก 10 กิโลกรัมจนกระทั่งมีกลายเป็นเด็กที่อ้วนที่สุดในโลกในปัจจุบัน ซึ่งเขามีขนาดตัวที่ใหญ่กว่า Mario พี่ชายอายุเกือบ 3 ขวบของเขาซะอีก   ร่างกายของเด็กมีขนาดใหญ่กว่าเด็กที่โตกว่าซะอีก   ด้วยความผิดปกติที่เห็นได้ชัดขนาดนี้ครอบครัวจึงได้พาเขาไปตรวจที่โรงพยาบาลท้องถิ่น แต่หมอกลับไม่สามารถให้คำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แพทย์สันนิษฐานว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นจากโรคที่มีชื่อว่า Prader-Willi Syndrome…

  • คู่รักจ้างช่างภาพไปปีนเขาใช้เวลาขึ้นลงภูเขากว่า 14 ชั่วโมง เพื่อถ่ายพรีเวดดิ้งแสนงดงาม

    คู่รักจ้างช่างภาพไปปีนเขาใช้เวลาขึ้นลงภูเขากว่า 14 ชั่วโมง เพื่อถ่ายพรีเวดดิ้งแสนงดงาม

    Trolltunga หรือที่เรียกว่า Troll Tongue คือแนวหินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศนอร์เวย์ หากใครได้ไปเห็นทิวทัศน์ด้านบนนั้นแล้วก็อาจหยุดหายใจกันไปเลยเพราะมันสวยงามเอามากๆ จนทำให้คู่บ่าวสาวคู่หนึ่งต้องการขึ้นไปถ่ายรูปแต่งงานในสถานที่แห่งนั้น   วิวทิวทัศน์ด้านบนแนวหิน Trolltunga   พวกเธอจึงไปร้องขอให้ช่างภาพสาว Priscila Valentina ตามขึ้นไปเก็บภาพของพวกเธอ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์ภาพชุดนี้ที่แสดงให้เห็นเลยว่าการเดินทางอันยากลำบากและผลลัพธ์ที่คุ้มค่านั้นมันออกมาเป็นอย่างไร   เรื่องราวนี้ถูกแชร์ในเว็บไซต์ Petapixel เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2017   พวกเขาทั้งสามจำเป็นต้องเดินทางกันตั้งแต่เวลา 5.25 นาฬิกา หรือเช้าตรู่ของวันนั้น เพราะต้องเผื่อเวลาสำหรับการเดินขึ้นลงแนวโขดหิน .   เมื่อมาถึงที่จอดรถด้านล่างโขดหิน พวกเขาต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินขึ้นไป   เจ้าบ่าวเจ้าสาวคอยดูแลกันและกันไม่ห่าง .   ความน่ารักที่มากมายขนาดนี้ทำให้ช่างภาพต้องคอยเก็บภาพบรรยากาศต่างๆ เอาไว้อยู่เสมอ   การเดินทางอันแสนเหน็ดเหนื่อยและยากลำบากของทั้งคู่ รวมถึง Priscilla ที่ต้องแบกอุปกรณ์ถ่ายภาพทุกอย่างหนักเกือบ 16 กิโลกรัม   ในที่สุดทั้งสามก็ขึ้นมาถึงด้านบนเป็นที่เรียบร้อย กางเต้นท์ไว้สำหรับเปลี่ยนชุด   ชายหนุ่มในมาดเจ้าบ่าวแบบเต็มตัว   และเจ้าสาวที่สวยสง่า เข้ากับบรรยากาศด้านหลังสุดๆ .…

  • นักบินอวกาศผู้ใช้ชีวิตในอวกาศนาน 1 ปี เผยว่าการใช้ชีวิตบนนั้น ยากเกินกว่าที่เราจะคาดเดาได้…

    นักบินอวกาศผู้ใช้ชีวิตในอวกาศนาน 1 ปี เผยว่าการใช้ชีวิตบนนั้น ยากเกินกว่าที่เราจะคาดเดาได้…

    นักบินอวกาศอาจเป็นอาชีพในฝันของใครหลายคน เพราะนี่คือหนึ่งในไม่กี่อาชีพที่จะได้ออกไปอยู่ในอวกาศ ได้เห็นสิ่งสวยงามต่างๆ ที่ไม่เคยมีโอกาสได้เห็นมาก่อน หลายคนอาจบอกว่าอาชีพนี้น่าอิจฉาแต่ความเป็นจริงอาชีพนี้ก็ต้องแลกมาด้วยความยากลำบากและความทุกข์มากมาย Scott Kelly นักบินอวกาศจากสหรัฐอเมริกา จึงได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวให้ทุกคนได้รู้ว่า การใช้ชีวิตอยู่บนอวกาศนาน 1 ปีของเขานั้นต้องพบเจอกับอุปสรรคอะไรมาบ้าง   Scott Kelly ถ่ายภาพเซลฟี่ภายในยานอวกาศมีพื้นหลังเป็นโลกของเรา   ชายคนนี้เป็นนักบินอวกาศคนแรกที่ขึ้นไปใช้ชีวิตอยู่ใน สถานีอวกาศนานาชาติ เป็นเวลานานขนาดนี้ เขาบอกว่าการใช้ชีวิตอยู่นอกโลก เพียงแค่การเดิินก็ทำให้เขาเหนื่อยมากๆ แล้ว เขาจำเป็นต้องเดินอยู่ในอวกาศด้านนอกของสถานีเพื่อเช็คความเรียบร้อยหรือซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของยาน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยมากๆ นอกจากนั้นยังมีครั้งหนึ่งที่เขาหลงทางอยู่นอกอวกาศหาทางกลับไม่ได้เพราะตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนมันจึงค่อนข้างมืด “ผมต้องอยู่ในสภาพเหมือนกับยืนกลับหัว และแม้ว่ามันจะไม่ได้น่ากลัวอะไรแต่ความก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกนะ” เขาพูดถึงตัวเองในตอนนั้น อีกทั้งบนอวกาศมีเศษหินก้อนเล็กๆ ลอยอยู่เต็มไปหหมด และถ้าหากมันลอยมาโดนตัวก็จะสร้างแรงปะทะได้มากพอสมควรเลยทีเดียว     เขาได้พูดถึงนักสำรวจ Ernest Shackleton ผู้ที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในขั้วโลกเหนือได้ โดย Scott บอกว่า “สิ่งที่ผมและเขามีเหมือนกันในการเอาชีวิตรอดคือความอดทน พลังงาน และความกระตือรือร้นที่มีอยู่ในตัว” เขาพูดอีกว่า “แต่ผมคิดว่าเราไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ซะทีเดียว เพราะ Ernest ต้องอยู่กับความพยายามเอาชีวิตรอดจากสภาพอากาศอันเลวร้าย ส่วนของผมมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น”     สิ่งที่เขาคิดว่ายากที่สุดสำหรับภารกิจนี้ก็คือ การที่ต้องตัดขาดจากครอบครัวหรือคนรู้จักออกไปเป็นเวลานาน โดยที่เขาไม่มีโอกาสเดินทางกลับไปหาญาติสนิทมิตรสหายเหล่านั้นในระหว่างภารกิจได้เลย…

  • 22 ภาพที่สื่อไม่นำเสนอ น้ำท่วมครั้งใหญ่ในแถบอินเดีย ที่คร่าชีวิตคนไปกว่า 1,200 ราย…

    22 ภาพที่สื่อไม่นำเสนอ น้ำท่วมครั้งใหญ่ในแถบอินเดีย ที่คร่าชีวิตคนไปกว่า 1,200 ราย…

    ในขณะที่ทั่วโลกกำลังมุ่งประเด็นไปที่ผลกระทบจากเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มาพร้อมกับน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทว่าที่แห่งนั้นไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่เดียวที่ต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะสำนักข่าวนานาชาติเริ่มมีการพูดถึงอีกพื้นที่หนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบหนักไม่แพ้กัน… สำหรับปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศแถบทวีปเอเชียตอนใต้ ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย เนปาล ปากีสถาน และบังกลาเทศ ต้องเจอกับฝนตกหนักเกือบตลอดทั้งเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมและดินถล่มสร้างความเสียหายให้กับอาคารที่อยู่อาศัยกว่า 1,000 หลังคาเรือน นอกเหนือจากนั้นก็เกิดปัญหาขาดแคลนอาหารและยาตามมา เป็นเหตุที่คร่าชีวิตชาวบ้านในละแวกนั้นมากถึง 1,200 คน โดยในจำนวนนี้รวมถึงเด็กด้วย และยังมีคนกว่าอีกล้านคนที่ต้องอพยพออกมา โดยไม่มีที่อยู่อาศัยและต้องการความช่วยเหลืออย่า่งเร่งด่วน ซึ่งภาพเหล่านี้จะสามารถบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นกันชัดเจนมากยิ่งขึ้น…   ชายคนหนึ่งต้องปล่อยหลานสาวให้ลอยไปตามแม่น้ำ Koshi ในเนปาล เพราะไม่สามารถหาพื้นที่โล่งเพื่อฝังเธอได้   หนุ่มเนปาลแบกแพะของตนไว้บนบ่า ขณะที่กำลังเดินทางไปยังพื้นที่ปลอดภัยในหมู่บ้าน Topa ภูมิภาค Saptari   ชาวเนปาลสองคนกำลังว่ายน้ำพร้อมลากห่วงยางขนาดใหญ่ในภูมิภาค Parsa   เด็กหนุ่มใช้แพจากต้นกล้วยในการลำเลียงหนังสือของตนออกมา จากรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย   หญิงสาวเดินอยู่กลางน้ำท่วมในหมู่บ้าน Motihari ประเทศอินเดีย   แรดอินเดียเดินลุยน้ำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ารัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย   ผู้คนยืนต่อแถวเพื่อบรรจุน้ำดื่มจากแท็งค์น้ำเทศบาล ในพื้นที่น้ำท่วมเมืองอาห์เมดาบัด ประเทศอินเดีย   หญิงสาวเดินลุยน้ำในหมู่บ้านที่น้ำท่วมสูงรัฐพิหาร…

  • สื่อต่างชาติเผย กว่า 50% ของผู้หญิงในอินเดีย ใช้ชีวิตยากลำบากและเสี่ยงถูกข่มขืน!?

    สื่อต่างชาติเผย กว่า 50% ของผู้หญิงในอินเดีย ใช้ชีวิตยากลำบากและเสี่ยงถูกข่มขืน!?

    ถ้าพูดถึงประเทศ ‘อินเดีย’ หลายคนอาจจะไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าวีถีชีวิตของผู้คนที่นี่จะเป็นอย่างไร และน้อยคนนักที่จะรู้ว่า… กว่า 636 ล้านคน (โดยเฉพาะผู้หญิง) ในอินเดีย ไม่มีห้องน้ำใช้และต้องเสี่ยงถูกข่มขืนอีกด้วย โดยข้อมูลทั้งหมดถูกนำมาเผยแพร่โดย Channel4News เพื่อเป็นการตระหนักให้ทั่วโลกรู้ถึงปัญหา และหวังว่าหญิงสาวทุกคนในอินเดียจะมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น     Bhumi Pednekar นักแสดงสาวจากอินเดีย ได้ออกมาเรียกร้องต่อสื่อต่างชาติถึงเรื่องนี้ว่า ปัจจุบันในอินเดียมีผู้หญิงเกินกว่าครึ่งประเทศต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ประการแรกคือพวกเธอไม่มีห้องน้ำใช้ และประการที่สองเมื่อพวกเธอเข้าห้องน้ำกลางดึก พวกเธอก็เสี่ยงที่จะถูกข่มขืนด้วยเช่นกัน   เด็กสาวชาวอินเดียเมื่อถึงวัยที่มีประจำเดือน พวกเธอมักจะลาออกจากโรงเรียน เนื่องจากไม่มีห้องน้ำ หรือในบางพื้นที่ๆ ยากจนจริงๆ พวกเธอไม่มีแม้แต่ผ้าอนามัย   “มันเป็นปัญหาหลายเรื่องที่ทับซ้อนกันมายาวนานหลายสิบปี เนื่องจากในชนบทไม่มีห้องน้ำที่เพียงพอ ต่อมาสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเมื่อหญิงสาวไปใช้ห้องน้ำยามค่ำคืน พวกเธอมักจะถูกข่มขืน และนั่นก็ทำให้หญิงสาวในอินเดียหลายๆ คน ต้องปรับตัวตื่นนอนแต่เช้ามืดเพื่อไปเข้าห้องน้ำ ก่อนที่พวกเธอจะไม่ได้ใช้ห้องน้ำอีกเลยตลอดทั้งวัน”     ถึงแม้ว่าบนฉากเวทีโลก อินเดียจะเป็นประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียเป็นอันดับ 3 และประธานาธิบดีอินเดียได้ออกมาชี้แจงว่าในเวที G20 ว่าจะแก้ปัญหาสุขลักษณะให้หมดไปภายในปี 2019 แต่ดูเหมือนว่ารากฐานของปัญหาในอินเดียจะหยั่งรากลึกลงไปมากกว่านั้น เพราะอินเดียเป็นประเทศที่ประชากรยึดถือและยึดมั่นในความเชื่อดั้งเดิมของพวกเขาสูงมาก อีกทั้งยังมีเรื่องของการแบ่งชนชั้นวรรณะ ที่แม้จะเคยมีการออกกฎหมายห้ามปรามเรื่องการแบ่งชนชั้นมาแล้ว แต่ด้วยความที่ยังยึดถือในประเพณีดั้งเดิม ทำให้กฎหมายก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ทั้งหมดอยู่ดี    …

  • ต้นทุนชีวิตที่ต่างกัน… 15 เส้นทาง “ไปโรงเรียน” สุดโหดจากทั่วโลก แม้ลำบากแต่ไม่ท้อถอย

    ต้นทุนชีวิตที่ต่างกัน… 15 เส้นทาง “ไปโรงเรียน” สุดโหดจากทั่วโลก แม้ลำบากแต่ไม่ท้อถอย

    ว่ากันว่าโอกาสทางการศึกษาคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีอีกหลายชีวิตที่กว่าจะเข้าถึงการศึกษาได้ พวกเขาต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมาย ไม่เพียงแค่เรื่องเงินๆ ทองๆ เท่านั้น แต่ยังหมายถึง “การเดินทาง” อีกด้วย ถ้าเพื่อนๆ ยังนึกไม่ออกว่าพวกเขาต้องพบกับความยากลำบากขนาดไหน ตาม #เหมียวอ๊อดโด้ ไปชม 5 เส้นทาง “ไปโรงเรียน” สุดโหดจากทั่วโลก ที่เห็นแล้วต้องนับถือใจพวกเขาจริงๆ   1.โรงเรียนประถม Bango จากหมู่บ้าน Gulu ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน นักเรียนส่วนมากต้องเดินทางผ่านช่องเขาแคบๆ เป็นระยะเวลากว่า 5 ชั่วโมงเพื่อมาโรงเรียน แน่นอนว่า พวกเขาจะต้องอยู่โรงเรียนตลอดสัปดาห์ และจะได้กลับบ้านช่วงวันหยุดเท่านั้น   2. เด็กนักเรียนจากหมู่บ้าน Zhang Jiawan ในมณฑลเสฉวนประเทศจีน ต้องปีนป่ายบันไดไม้บนหน้าผา ที่ไม่มีหลักประกันความปลอดภัยใดๆ เพื่อไปโรงเรียนทุกๆ สัปดาห์ และพวกเขาต้องอาศัยอยู่ที่โรงเรียนตลอดสัปดาห์ กว่าจะได้กลับบ้านก็แค่ช่วงเสาร์อาทิตย์เท่านั้น   3. เด็กๆ จากหมู่บ้านแถบเทือกเขาหิมาลัย ต้องเดินฝ่าน้ำแข็งและหิมะเพื่อไปเรียนที่โรงเรียนในเมือง Zanskar ไม่ต้องบอกคงพอคาดคะเนความยากลำบากของพวกเขาได้   4. เด็กๆ จากหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมือง Lebak ประเทศอินโดนีเซียต้องปีนป่ายข้ามสะพานไม้ที่ชำรุดอย่างหนักจนน่าหวาดเสียวเป็นอย่างยิ่ง เพื่อข้ามแม่น้ำในระหว่างทางไปโรงเรียน…