Tag: ดื่มน้ำ

  • 9 สัญญาณบ่งบอกว่า คุณเสพติด ‘การดื่มน้ำ’ มากเกินไป ส่งผลเสียต่อร่างกายนะคร้าบ!!

    9 สัญญาณบ่งบอกว่า คุณเสพติด ‘การดื่มน้ำ’ มากเกินไป ส่งผลเสียต่อร่างกายนะคร้าบ!!

    คิดว่าหลายๆ คนทราบดีอยู่แล้วว่า การดื่มน้ำเยอะๆ มีประโยชน์หลากหลายมากๆ เช่นช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล… ไหนจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย แต่ว่าอะไรที่มากเกินไปมันก็ไม่ดีหรอก เช่นเดียวกันกับการดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ การดื่มน้ำมากเกินไปจะทำให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษ หรือที่รู้จักในชื่อ Hyponatremia (ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ) โดยปริมาณโซเดียมในเลือดจะต่ำกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น ปวดศีรษะ อ่อนล้า คลื่นไส้อาเจียน หรือเลวร้ายที่สุดอาจถึงขั้นเสียชีวิต หากเพื่อนๆ กังวัลว่าตัวเองจะเป็นคนที่ดื่มน้ำมากเกินไปหรือไม่ ก็ควรสำรวจ 9 สัญญาณดังต่อไปนี้ ที่จะคอยบอกกลายๆ ว่าคุณดื่มน้ำมากเกินไปแล้วนะ!!   1. คุณจะไม่ออกจากบ้านไปไหน หากไม่มีขวดน้ำติดตัวไปด้วย หากคุณเป็นคนที่ชอบถือขวดน้ำติดตัวไปไหนมาไหนด้วยตลอด และหากเห็นปริมาณน้ำในขวดลดลงก็จะเติมให้เต็มอยู่เสมอ แสดงว่าคุณอาจจะเป็นคนที่ดื่มน้ำมากเกินไปแล้วล่ะ   2. คุณมักจะดื่มน้ำ แม้ว่าคุณจะไม่กระหายก็ตาม หากเรารู้สึกกระหายน้ำเมื่อไหร่ แปลว่าร่างกายเราเรียกร้องให้เราเติมน้ำเพื่อรักษาสมดุล มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะบอกได้ว่าควรดื่มน้ำหรือยัง และถ้าหากคุณดื่มน้ำอยู่ตลอด โดยที่ไม่รู้สึกกระหายเลย นั่นแปลว่าเพื่อนๆ ดื่มน้ำมากเกินไปแล้ว   3. คุณจะดื่มน้ำอย่างต่อเนื่อง จนกว่าปัสสาวะของคุณจะใส เชื่อว่ามีหลายๆ คนที่คิดว่าการที่ดื่มน้ำจนปัสสาวะกลายเป็นสีใสๆ แสดงว่าสุขภาพดี แต่ว่าจริงๆ แล้วการที่จะรู้ว่าสุขภาพดีนั้น ปัสสาวะต้องเป็นสีเหลืองน้ำตาลคล้ายๆ กับฟางข้าวต่างหาก…

  • ทำความรู้จักกับ ‘โรคเบาจืด’ จำเป็นต้องดื่มน้ำ 20 ลิตรต่อวัน เพื่อจะมีชีวิตรอดในแต่ละวัน

    ทำความรู้จักกับ ‘โรคเบาจืด’ จำเป็นต้องดื่มน้ำ 20 ลิตรต่อวัน เพื่อจะมีชีวิตรอดในแต่ละวัน

    ใครหลายคนอาจจะรู้จักกับโรคเบาหวาน และในประเทศไทยก็มีผู้ป่วยเป็นโรคนี้จำนวนมาก แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีอีกโรคหนึ่งที่ชื่อว่า ‘เบาจืด’ ซึ่งโรคนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเรานัก แต่โรคเบาจืดได้สร้างปัญหาใหญ่ให้กับชีวิตของชายคนหนึ่ง เพราะว่าเขาต้องดื่มน้ำกว่า 20 ลิตรเพื่อจะให้มีชีวิตรอดผ่านไปในแต่ละวัน Marc Wübbenhorst สถาปนิกชาวเยอรมันผู้ป่วยเป็นโรคเบาจืด ต้องดื่มน้ำอย่างต่ำวันละกว่า 20 ลิตรเพื่อไม่ให้ร่างกายของเขาเกิดภาวะขาดน้ำซึ่งเป็นผลมาจากโรคดังกล่าว และหาก Marc หยุดดื่มน้ำเขาจะตายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง อาการกระหายน้ำ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต Marc ตั้งแต่เขายังจำความได้ โดยอาการของเขาไม่ใช่การกระหายแบบคนปกติ ซึ่งคนปกติหากกระหายน้ำก็ดื่มน้ำเพียงแก้วสองแก้วก็จะหายจากการกระหายแล้ว     แต่เพราะด้วยไตของเขาขับถ่ายน้ำออกจากร่างกายอยู่ตลอดเวลา ทำให้ร่างกายของเขาต้องรับน้ำเข้าไปใหม่ มิฉะนั้นแล้วเขาจะมีอาการ ริมฝีปากแตก มึนงงสับสน ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการขาดน้ำของคนขาดน้ำประมาณ 2-3 วัน แต่กับ Marc จะมีอาการเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงชั่วโมง     ในแต่ละวันชีวิตของชายคนนี้จะเริ่มต้นขึ้นด้วยการดื่มน้ำขวดยักษ์ และต่อจากนั้นไม่นานเขาก็ต้องรีบไปเข้าห้องน้ำเพื่อปัสสาวะทันที และในช่วงเวลากลางคืนก็ยิ่งลำบากขึ้นไปอีก เขาบอกว่าเขาไม่เคยนอนนานกว่า 2 ชั่วโมงเลยตลอดทั้งชีวิต เพราะว่าเขาต้องคอยตื่นมาดื่มน้ำและเข้าห้องน้ำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งใน 1 วัน Marc ต้องเข้าห้องน้ำกว่า 50 รอบเลยทีเดียว     นอกจากนี้ Marc…

  • เปิดข้อมูลวิจัยการเติมน้ำดื่มจากขวดเดิมซ้ำๆ โดยไม่ล้าง สกปรกกว่าเอาลิ้นเลียฝาชักโครก!?

    เปิดข้อมูลวิจัยการเติมน้ำดื่มจากขวดเดิมซ้ำๆ โดยไม่ล้าง สกปรกกว่าเอาลิ้นเลียฝาชักโครก!?

    เชื่อว่าหลายๆ คนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายคงมีขวดน้ำหรือแก้วน้ำเป็นของตัวเอง แล้วก็ใช้มันเติมน้ำใช้ต่อกันอยู่บ่อยๆ เพราะคิดว่ามันคงไม่เป็นอะไร ใครๆ เค้าก็ทำกัน (รวมถึงเราก็ทำกันอยู่บ่อยๆ แถมไม่ล้างด้วย) แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้วการใช้ขวดน้ำใบเดิมซ้ำๆ นั้นจะส่งผลให้เพิ่มปริมาณเชื้อโรคสะสม แล้วถ้าเราดื่มบ่อยๆ ก็อาจทำให้เราป่วยได้เลยทีเดียวล่ะ   ทีมวิจัยจาก Treadmillreviews ได้เผยข้อมูลที่พวกเขาได้ทำการศึกษา ก็พบว่าการดื่มน้ำจากขวดน้ำที่ใช้ซ้ำโดยไม่ล้างนั้นก็เปรียบเสมือนกับเราเอาลิ้นไปเลียชักโครกยังไงยังงั้นเลย     นักวิจัยได้ทำการทดลองตรวจสอบปริมาณเชื้อโรคจากขวดน้ำของนักกีฬาที่ใช้งานมาหนึ่งสัปดาห์ในห้องแล็บ และพบว่าเจ้าขวดนั้นมีตัวเลขของแบคทีเรียสูงมาก โดยมีมากถึง 900,000 CFU (หน่วยที่ได้จากวิธีตรวจนับปริมาณจุลินทรีย์) ต่อตารางเซนติเมตรเลยทีเดียว ซึ่งมีจำนวนมากกว่าค่าเฉลี่ยที่ตรวจพบบนฝาชักโครกซะอีก นั่นทำให้พวกเขาเกิดคำถามและตั้งขึ้นมาต่อสังคมว่า แล้วเราจะยอมเอาปากของเราไปสัมผัสกับปากขวดที่ใช้งานอยู่อีกหรือ?? (แค่คิดก็หยึยแล้ว)     ค่าเฉลี่ยของเชื้อโรคที่อยู่บนขวดน้ำที่ใช้สำหรับออกกำลังกายของคนทั่วไปก็คือ 313,499 CFU ต่อตารางเซนติเมตร ซึ่งมันมากเกินกว่าที่จะนำขวดนั้นมาสัมผัสกับปากของเราได้แล้ว   นักวิจัยได้ทำการทดลองกับชนิดของขวดน้ำสำหรับออกกำลังกายในแต่ละแบบแตกต่างกันออกไป และก็ได้ผลออกมาว่า   ขวดที่มีฝาแบบสไลด์มีค่าแบคทีเรีย 933,340 CFU ต่อตารางเซนติเมตร ขวดแบบมีจุกดูดมีค่าแบคทีเรีย 161,971 CFU ต่อตารางเซนติเมตร ขวดแบบฝาเกลียวมีค่าแบคทีเรีย 159,060 CFU ต่อตารางเซนติเมตร และขวดแบบมีหลอดมีค่าแบคทีเรีย…

  • นานๆทีมีสาระ!! ข้อดีของการ ‘ดื่มน้ำ’ ให้เพียงพอแต่ละวัน ได้อะไรมากกว่าที่คิด…

    นานๆทีมีสาระ!! ข้อดีของการ ‘ดื่มน้ำ’ ให้เพียงพอแต่ละวัน ได้อะไรมากกว่าที่คิด…

    ‘น้ำ’ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกชีวิตบนโลกใบนี้ นอกจากจะเป็นส่วนประกอบในร่างกายแล้ว ยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ใช้ในการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ทั้งต้นไม้ สัตว์ และมนุษย์ อีกด้วย และถ้าเราดื่มน้ำมากๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวันแล้ว มันจะส่งผลดีต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมากเลยทีเดียวเชียวล่ะ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า…   1. น้ำเป็นสิ่งสำคัญมากต่อร่างกายของมนุษย์เรา เพราะกว่า 90% ของร่างกายนั้นประกอบไปด้วยน้ำทั้งหมด และแน่นอนว่าน้ำในร่างกายนั้นก็ต้องมีการขับออกไปและนำของใหม่เข้ามาแทนที่ เพื่อทำให้ระบบของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย   2. แต่ยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ถึงความสำคัญของการดื่มน้ำ หลายๆ คนเข้าใจว่าการดื่มน้ำนั้นเพื่อแก้อาการกระหายเท่านั้น   3. โดยสามารถช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก!? มันจะช่วยให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น   4. น้ำจะช่วยทำให้เราพึงพอใจมากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่ดื่มน้ำเยอะๆ จะมีแนวโน้มที่จะทานอาหารจุบจิบน้อยลง เพราะมันจะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มและไม่อยากทานอะไรต่อแล้ว   5. น้ำจะเป็นตัวล้างสารพิษในร่างกายของเรา เครื่องดื่มหวานๆ ที่มีขายตามตู้ขายน้ำในร้านค้าต่างๆ จะทำให้เรากลับมาอ้วนอีก เพราะมีน้ำตาลผสมอยู่ แต่ถ้าเราดื่มน้ำเปล่ามันจะช่วยชำระล้างสารพิษในร่างกายออกไปได้   6. การดื่มน้ำมากๆ สามารถช่วยให้กระบวนการเมตาบอลิซึม (กระบวนการย่อยสลายสารอาหารเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน) ทำงานได้ดีขึ้น คนที่ดื่มน้ำมากๆ จะมีช่วยเพิ่มความสามารถของกระบวนการเมตาบอลิซึมได้ถึง 24% และการดื่มน้ำเย็นๆ จะส่งผลดีที่สุด…