ชายชาวจีนกิน “ยาแก้หวัด” กว่า 30,000 เม็ดในระยะเวลา 10 ปี เพราะเกิดอาการ ‘เสพติด’

ชายวัย 48 ปีจากนครฉางชา ประเทศจีน กลายเป็นข่าวใหญ่ในประเทศเนื่องจากพฤติกรรมทาน ยาแก้หวัด ติดต่อกันมายาวนาน 10 ปี รวมแล้วมากกว่า 30,000 เม็ด เพียงเพราะมีอาการ “เสพติด”

ชายสกุล Wang วัย 48 ปีได้เล่าผ่านคลิปวิดีโอบนเว็บไซต์หนึ่งว่า เขาซื้อยาแก้ไข้หวัดมารักษาอาการปวดหัวเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากเขาใช้มันเขาพบว่ามันมีประสิทธิภาพดี

จากนั้นเมื่อเขารู้สึกไม่ค่อยดีเพียงเล็กน้อยเขาก็เริ่มคิดที่จะใช้ยานี้เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น แต่ปัญหากลับติดอยู่ตรงที่ว่าการจะใช้ยาให้ได้ผลแบบเดิมเขาต้องเพิ่มปริมาณยาให้มากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเป็น 8 ถึง 12 เม็ดต่อวัน

 

 

ครอบครัวของ Wang พยายามนำตัวเขาไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการเสพติด หลังจากการตรวจวินิจฉัย

แพทย์กล่าวว่า ยาดังกล่าวมีส่วนผสมของ  “คาเฟอีน” หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานมันจะให้ผลกับร่างกายคล้ายกับนิโคตินในบุหรี่และแอลกอฮอล์ในสุราเลยทีเดียว ซึ่ง Wang นั้นได้ใช้ยาชนิดนี้มา 10 ปีแล้ว

ล่าสุด Wang กล่าวว่าที่ผ่านมาเขาใช้ยาแก้หวัดเพื่อสนองความต้องการของตนเอง แต่ปัจจุบันเขาต้องลดขนาดยาลง และทานยาต้านซึมเศร้าและวิตกกังวลควบคู่ไปด้วยจนกว่าอาการเสพติดจะดีขึ้น

 

 

อย่างไรก็ตาม แพทย์กล่าวว่าสำหรับคนทั่วไปไม่ต้องกังวล คาเฟอีนในยาแก้หวัดนั้นไม่ได้ส่งผลแบบเดียวกับ Wang หากทานเป็นช่วงสั้นๆ แต่หากทานติดต่อกันเป็นประจำก็อาจจะส่งผลแบบเดียวกันได้

 

ที่มา: yahoo และ odditycentral

Comments

Leave a Reply