Lil Tay ปรากฏตัวหลังหายไป 4 เดือน ถูกพ่อข่มเหง จนเป็นซึมเศร้า และต้องตัดขาดจากโลกโซเชียล

หากคุณได้ติดตามข่าวคราวในแวดวงฮิปฮอปรุ่นใหม่ของอเมริกา คุณอาจจะคุ้นชื่อของ Lil Tay สาวน้อยแรปเปอร์ ที่ออกมาโลดแล่นรันวงการ ผ่านสื่อโซเชียล จนถูกกระแสตีกลับไปอยู่ช่วงหนึ่ง เนื่องจากความเป็นเด็ก ที่ไม่ควรมาทำอะไรแบบนี้…

 

 

ท่ามกลางกระแสโจมตีที่ถาโถมเข้ามา โดยเบื้องลึกเบื้องหลังแล้ว หนูน้อย Lil Tay นั้นไม่ได้เข้าวงการด้วยตัวเองเพียงลำพัง

แม้จะแสดงท่าทางโปรยเงิน ใช้คำวาจาไม่เหมาะสม ตีสนิทกับคนในวงการยูทูบเบอร์ และแรปเปอร์ต่างๆ แต่ก็มีพี่ชายและคุณแม่คอยอยู่เป็นเบื้องหลัง ดูแลประกบการใช้สื่อ และเลือกงานให้กับน้องอยู่เสมอ

 

 

แต่แล้วจู่ๆ ในช่วงที่ผ่านมาเกือบจะ 4 เดือนเศษ หนูน้อย Lil Tay นั้นได้หายตัวไปจากหน้าสื่อโซเชียลมีเดีย แทบจะไม่มีใครพูดถึงหรือเห็นหน้าของน้องโผล่มาอีกเลย

ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น ถูกบอกเล่าและเปิดโปงผ่านอินสตาแกรมของน้อง โดยอดีตผู้ที่เคยร่วมทำงานกับน้องนั่นเอง * กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อมูลทั้งหมด (ยังเป็นข้อมูลเพียงฝ่ายเดียว) *

 

* อัพเดท 23 ตุลาคม 12.43 น. ข้อมูลในอินสตาแกรม @liltay ถูกลบออกทั้งหมดแล้ว *

 

ความเลวร้าย เริ่มต้นขึ้นในเดือนมิถุนายน กับรอยยิ้มครั้งสุดท้ายของ Lil Tay

 

เรื่องราวดังกล่าวเริ่มต้นในช่วงวันที่ 2 มิถุนายน เมื่อ Christopher John Hope ผู้เป็นพ่อแท้ๆ ของน้อง Tay ได้ส่งคำสั่งศาลไปยังบ้านของน้องโดยตรง

ระบุว่าต้องให้ Tay ไปอยู่กับพ่อ ภายในวันที่ 3 มิถุนายน เวลา 16.00 น. ทำให้เธอต้องเดินทางไปประเทศแคนาดากับแม่ในทันที

 

 

ซึ่งหลังจากที่เดินทางมาเจอพ่อที่แคนาดา ฝ่ายพ่อพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลูกมาอยู่กับตัวเอง แต่น้อง Tay กลับร้องไห้ในวิดีโอและพูดว่า “คุณไม่เคยสนใจอะไรพวกเราเลย” และยืนยันว่าไม่อยากมาอยู่ที่นี่

แต่หมายศาลกำชับไว้ว่า หากฝ่าฝืนคำสั่งศาล แม่จะถูกจับกุมตัวและอาจเกิดการฟ้องร้องเป็นคดีความ นั่นหมายความว่า Tay อาจจะไม่ได้เจอแม่อีกต่อไป

 

ความรู้สึกของ Lil Tay หลังจากเดินทางมาเจอพ่อที่แคนาดา ไม่ยอมไปและไม่ยอมคุยกับพ่อ

 

และหลังจากที่ต้องมาอยู่กับพ่อด้วยความจำใจ ในอินสตาแกรมเปิดเผยว่าน้อง Tay นั้นถูกข่มเหงรังแกทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทั้งพ่อที่ไม่ได้ใส่ใจดูแล ไม่เคยทำอาหารดีๆ ให้กิน บังคับให้ตัดขาดจากโลกภายนอก

แต่ตัวคุณพ่อเองกลับออกไปเที่ยวเล่นพร้อมภรรยาใหม่ Richanee Alcover กับลูกชายอีก 2 คน

 

 

ปล่อยให้ลูกสาว Lil Tay อยู่บ้านกับพี่สาวของภรรยาใหม่ Chezca Alcover แน่นอนว่าเมื่อไม่ได้เป็นญาติสายเลือดเดียวกัน เธอจึงถูกปฏิบัติตนเยี่ยงคนแปลกหน้า ถูกตะคอกใส่ จับไปขังใส่ตู้เสื้อผ้าโดยไม่มีเหตุผล

แม้อาการจะหนักถึงขั้นเลือดตกยางออก ผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้สนใจ ทั้งที่อำนาจการตัดสินใจทั้งหมดอยู่กับตัวเขา และผลพวงทั้งหมดนี้ ส่งผลทำให้ Lil Tay เริ่มมีอาการเครียด ไร้ความสุข และต้องพบกับจิตแพทย์ทุกสัปดาห์

 

 

ทั้งนี้ Christopher และ Angela ต้องแยกทางกัน เนื่องจากฝ่ายชายมีนิสัยที่เจ้าชู้ พาผู้หญิงเข้าบ้านไม่ซ้ำหน้า Angela ผู้เป็นแม่ของ Lil Tay จึงทนไม่ไหว ถึงขั้นฟ้องร้องให้ศาลสั่งฝ่ายชายหยุดพฤติกรรมนี้

แต่ตัวฝ่ายชายเองอ้างว่าตัวเองยังใส่ชุดนอน ไม่ได้เปลือยเปล่า เขาไม่ได้คบชู้ ทุกอย่างก็เป็นแค่เพื่อนกัน สุดท้ายแล้วก็ต้องตัดขาดออกจากกันในที่สุด จนมาถึงช่วงที่หนูน้อย Lil Tay เริ่มมีชื่อเสียง ผู้เป็นพ่อจึงพยายามคว้าตัวลูกสาวกลับมา

โดยหวังในเรื่องของผลประโยชน์ ทั้งที่ไม่เคยส่งเงินค่าเลี้ยงดูลูกสาวคนนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ตั้งแต่ที่แยกทางกับ Angela มา…

 

อีเมลจากผู้จัดการ ที่ระบุถึงปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับ Lil Tay โดยไม่ได้รับการเผยแพร่มาก่อนระหว่างที่เรื่องเกิดขึ้น

 

นอกเหนือจากนั้นแล้ว ผู้ที่เปิดเผยเรื่องราวผ่านอินสตาแกรมของน้อง Lil Tay เสริมไว้ว่า ฝ่ายพ่อกับภรรยาใหม่ เป็นบุคคลประเภทขี้เกียจ ไร้ความรับผิดชอบ

โดยเมื่อปีที่แล้ว เกิดเหตุการณ์ที่น้องต้องมาอาศัยอยู่ชั่วคราว เธอถูกทำร้ายอยู่บ่อยครั้ง ไม่เตรียมอาหารกลางวันให้ไปโรงเรียน

อีกทั้งภรรยาใหม่ของพ่อ มักจะเป็นคนลงมือกลั่นแกล้งน้อง เพราะด้วยความอิจฉาริษยาหรือหมั่นไส้ และไม่ได้ต้องการให้น้องมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับเธอ แม้เรื่องจะเคยไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่แล้วก็ถูกปกปิดโดยนาย Christopher อยู่ตลอด

 

ฝ่ายพ่อ Christopher แต่งงานกับผู้หญิง 2 คนในเวลาเดียวกัน หนึ่งคือหญิงชาวจีน อาศัยอยู่ในจีน (ไม่ใช่แม่ของ Lil Tay) และนาง Richanee Alcover ภรรยาชาวฟิลิปปินส์ คนปัจจุบัน

 

ทั้งนี้ เรื่องราวของ Lil Tay อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับ XXXTentacion แรปเปอร์หนุ่มที่ถูกยิงเสียชีวิตหน้าร้านขายรถจักรยานยนต์ ในรัฐฟลอริดา

เนื่องจากกรณีดังกล่าว XXXTentacion กับ Lil Tay นั้น วางแผนเพื่อจะจัดงานการกุศลด้วยกัน โดยที่เขายอมออกตั๋วให้กับน้องเพื่อบินมาร่วมงานพร้อมกับคุณแม่ ในวันที่ 18 มิถุนายน 2018

 

 

แต่ฝ่ายพ่อ Christopher ไม่ยอมให้น้องไป เนื่องจากประวัติของแรปเปอร์หนุ่มนั้นพัวพันกับความรุนแรง มีชื่อเสียงที่ไม่ดีในอดีตมาก่อน และเกรงว่าจะทำให้ลูกสาวนั้นได้รับอิทธิพลในแง่ลบติดตัวมา จึงสั่งห้ามไม่ให้ไปร่วมงานในวันนั้น…

 

หลักฐานการพูดคุยกันระหว่าง Lil Tay กับ XXXTentacion ร่วมวางแผนงานการกุศล

 

จุดประสงค์ของ XXXTentacion นั้นทำไปเพื่อดึงตัวน้องกลับมาสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ได้รู้ว่าเขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับเธอ แต่สุดท้ายก็ถูกขัดขวางโดยผู้เป็นพ่อ ซึ่งเขาไม่สามารถทำอะไรได้แล้วนอกเหนือจากนั้น

ถ้าหากในวันที่ 18 มิถุนายน Lil Tay สามารถเดินทางมาร่วมงานได้ XXXTentacion ก็คงจะไปรอรับน้องที่สนามบิน และไม่ถูกยิงเสียชีวิตหน้าร้านขายจักรยานยนต์ในวันนั้น…

 

 

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มาเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมด ผ่านอินสตาแกรมของ Lil Tay ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า น้องมีความฝัน และมีความตั้งใจขยันทำงานเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย

โดยในระหว่างการทำงานครั้งแรกในชีวิตของน้อง เธอได้รับความสุข และได้รับชื่อเสียงจนเป็นที่เลื่องชื่อไปทั่วโลก แต่แล้วทุกอย่างก็ดำดิ่งถูกฉุดลงไป โดยผู้เป็นพ่อแท้ๆ ของเธอเอง จนสร้างความเจ็บปวดให้กับน้องจนถึงทุกวันนี้…

 

 

ปัจจุบันสิทธิ์เลี้ยงดูตกไปอยู่ที่ฝ่ายพ่อ ส่วนฝ่ายแม่ไม่มีสิทธิ์อะไรแล้ว เนื่องจากหน้าที่การงานที่ไม่มั่นคง ศาลจึงตัดสินให้พ่อได้สิทธิ์นั้นไป จนนำไปสู่กระแส #FREELILTAY

 

เรื่องดังกล่าวยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ #เหมียวเลเซอร์ จะคอยติดตามและอัพเดทในข่าวต่อๆ ไป

 

ที่มา: @liltaydailydotfatherly, scmp, xxlmag, theblast, hotnewhiphoptheverge, nextshark

Comments

Leave a Reply