หมดกันทริปในฝัน…. สาวดันไปบอกว่าตัวเองเป็น “ผู้ก่อการร้าย” อดไปเที่ยวนิวยอร์กตามที่วางแผนไว้

เราอาจเคยคิดว่าความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในการกรอกแบบฟอร์มบางอย่าง อาจสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ แต่บางครั้งมันกลับตรงกันข้ามกับที่เราคิดเอาไว้เลย

เรื่องอะไรในลักษณะนั้นได้เกิดขึ้นกับ Mandie Stevenson หญิงสาวชาวอังกฤษผู้ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม เธอวางแผนจะเดินทางไปนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แต่เธอกลับทำพลาดซะจนกลายเป็นปัญหาใหญ่กว่าที่คิด

 

Mandie หญิงสาวผู้โชคร้าย

 

หญิงสาววัย 29 ปีคนนี้ได้เข้าไปกรอกแบบฟอร์มยื่นคำร้องละเว้นวีซ่า ของระบบออนไลน์ที่เรียกว่า ESTA (Electronic System for Travel Authorization) เพื่อไปเที่ยวกับ Ross แฟนหนุ่มของเธอ

แล้วเธอก็ได้เจอกับคำถามที่ว่า “คุณพยายามที่จะเข้าร่วมหรือเคยเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการก่อการร้าย การโจรกรรม การก่อวินาศกรรม หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือไม่?”

แน่นอนว่าในข้อนี้เธอก็จะต้องตอบว่า “ไม่” อย่างแน่นอน แต่มันอาจเป็นเพราะเธอเบลอจนกดผิด หรือไม่แท็บเล็ตของเธอก็อาจจะพังอย่างที่เธออ้างในภายหลัง จนทำให้คำตอบที่เธอส่งไปมันกลายเป็นคำว่า “ใช่” แทน

 

 

บรรลัยละทีนี้ อยู่ดีๆ เธอก็กลายเป็นผู้ก่อการร้ายซะอย่างนั้น ตอนแรกเธอก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร คำตอบแค่นี้น่าจะแก้ได้ง่ายๆ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้นเนี่ยสิ

Mandie ได้เดินทางไปติดต่อกับสถานทูตสหรัฐอเมริกา ในกรุงลอนดอน โดยพวกเขาได้บอกกับเธอว่าไม่สามารถแก้ไขคำตอบของเธอได้ และการยื่นคำร้องขอละเว้นวีซ่าของเธอนั้นก็ไม่ผ่านไปโดยปริยาย

จากแผนที่เตรียมเอาไว้ทั้งหมด จองตั๋วเครื่องบินเตรียมออกเดินทางในเดือนกันยายน 2018 แต่ตอนนี้เธอกลับไม่สามารถเข้าประเทศที่จะไปได้ เธอจึงต้องไปยื่นเรื่องขอทำวีซ่าแบบเต็มตามปกติซะแทน

 

 

แม้ว่าการยื่นเรื่องทำวีซ่าของเธอจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่มันดันติดที่ต้องรอการอนุมัติโน่นนี่นั่นอย่างน้อย 4-5 วัน ซึ่งมันจะเกินกำหนดการและเที่ยวบินของเธอไป แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับชะตากรรม

Mandie บอกว่าความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในครั้งนี้ทำให้เธอต้องเสียเงินเพิ่มจากที่วางแผนเอาไว้ไปมากกว่า 33,000 บาท สำหรับการจองตั๋วเครื่องบิน ที่พักอะไรไว้หมดแล้ว

เธอคิดว่าการที่เธอป่วยเป็นมะเร็งอาจทำให้เจ้าหน้าที่เห็นใจเธอบ้าง เพราะเธอต้องตรวจสุขภาพทุกๆ 12 สัปดาห์ และช่วงเวลาที่เธอเลือกไว้ในตอนแรกก็เป็นเวลาที่เหมาะที่สุดในการไปเที่ยวของเธอ

 

 

ทางด้านสถานทูตสหรัฐอเมริกาในประเทศอังกฤษ ก็ได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า คำตอบว่าเป็นผู้ก่อการร้ายถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ ที่ทางสหรัฐอเมริกาไม่อาจปล่อยผ่านไปได้ จึงไม่แปลกที่จะต้องเข้มงวด

ขณะเดียวกันก็มีบางคนที่มองว่า “ถ้าใครเป็นผู้ก่อการร้ายจริงๆ มันจะไปกรอกข้อมูลบอกให้คนอื่นรู้มั้ยล่ะ?!”

 

ที่มา: bbc , news

Comments

Leave a Reply