คดีสะเทือนขวัญ เมื่อบ้านเด็กกำพร้ากลายเป็นฝันร้าย แม่ชีถูกกล่าวหาเป็นคนลงมือ…

อีกหนึ่งการเปิดโปงความสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น กับระบบบ้านเด็กกำพร้าภายใต้การดูแลและการกำกับของตัวแทนทางจากทางโบสถ์ศาสนาคริสต์ ณ บ้านเด็กกำพร้า St. Joseph’s Catholic Orphanage เมืองเบอร์ลิงตัน รัฐเวอร์มอนต์ กลับกลายเป็นฝันร้ายที่ยากจะลืมลงของเหล่าเด็กๆ ผู้เคราะห์ร้าย

 

 

ในช่วงปี 1950 และ 1960 ชื่อเสียงของบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้เริ่มก็เริ่มโด่งดังขึ้น เมื่อทางการได้รับการร้องเรียนจากอดีตเด็กกำพร้าที่ออกไปแล้วมากกว่า 100 ชีวิต ว่าพวกเขาตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง แต่ทางการรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไม่ตั้งข้อหาใดๆ หากต้องการเรียกร้องความยุติธรรมก็ต้องไปยื่นฟ้องร้องเอาเอง

 

 

Sally Dale

 

Sally Dale หนึ่งในเด็กหญิงที่เติบโตอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่ 2 ขวบจนถึงอายุ 23 ปี อาจจะเป็นหนึ่งในเด็กที่อยู่ในบ้านเด็กกำพร้านานที่สุด

 

 

เธอได้ให้การต่อทนายความว่า มักจะถูกเหล่าแม่ชีผู้ดูแลทุบตีบ่อยครั้ง เหตุการณ์ที่จำได้ก็คือ เคยถูกจับขังเดี่ยวภายในตู้เก็บของในห้องใต้หลังคา

ภายหลังจากหมดบทลงโทษ หนำซ้ำยังเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศภายในห้องนอนของแม่ชี ถูกดึงผมกลับมานั่งที่เตียงตัวเอง ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่า ‘เธอเป็นเด็กไม่ดี’

 

 

จนกระทั่งเช้าวันถัดมา เธอถูกบังคับให้มานั่งอยู่ข้างเตียงบนพื้น และแม่ชีจะให้เด็กคนอื่นมาหัวเราะเยาะเย้ย พร้อมกับให้สารภาพว่าเมื่อคืนเป็นเด็กไม่ดีต่อหน้าเพื่อนๆ

 

 

แต่สิ่งที่เธอประสบนั้น กลับไม่ใช่ความร้ายแรงที่สุด เพราะสิ่งที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่า ก็คือการที่เธอเห็นเด็กชายรายหนึ่งถูกผลักออกมาจากหน้าต่าง…

 

 

ในขณะที่เธอกำลังมองไปที่อาคารหลังหนึ่งของบ้านเด็กกำพร้า ร่างของเด็กชายคนนั้นตกลงมากระทบกับพื้นดิน นอนแน่นิ่งไร้ลมหายใจ เธอไม่สามารถบอกได้ว่าแม่ชีคนไหนเป็นคนลงมือ แต่มั่นใจได้ว่าเป็นแม่ชีเพราะมีผ้าคลุมสวมอยู่

 

 

นอกจากนี้ Sally กล่าวว่าเธอเห็นเด็กชายคนหนึ่งจมน้ำต่อหน้าต่อตา หลังจากที่ถูกผลักให้ตกจากเรือลงไปในทะเลสาบ โดยที่มีแม่ชีอยู่ข้างๆ เห็นเหตุการณ์ด้วย เธอถามว่าเด็กชายคนนั้นจะจมน้ำไหม ส่วนแม่ชีตอบกลับเพียง ‘ไม่ต้องห่วง เขากำลังจะได้กลับบ้านแล้ว’

 

Ed Duprey

 

Ed Duprey คือหนึ่งในเด็กชายที่ถูกผลักให้ตกลงไปในทะเลสาบ เขากระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดเพื่อกลับมาขึ้นฝั่งได้ และยืนยันว่ามีเด็กคนอื่นๆ ถูกกระทำในรูปแบบเดียวกันทุกช่วงฤดูร้อน

 

Patty Zeno

 

ส่วน Patty Zeno จำความได้ว่าซิสเตอร์ Priscil พยายามที่จะผลักเธอให้ตกจากอาคาร ช่วงจังหวะที่เธอกำลังทำความสะอาดหน้าต่างด้านนอก จากการที่ช่วยจับขาเอาไว้แต่แล้วก็ปล่อยพร้อมผลักเธอจนร่วงลงมา…

 

 

การรวมตัวของเหยื่อความรุนแรงในบ้านเด็กกำพร้าครั้งแรกในปี 1994 Patty ได้อ่านหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเกี่ยวกับเรื่องราวนั้น เธอก็จำความในส่วนของตัวเองได้ขึ้นมา เริ่มมีอาการสั่นและร้องไห้ จนออกมาร่วมเปิดเผยถึงรายละเอียดในส่วนของเธอในการฟ้องร้องให้ทนายความ

 

 

แต่แล้วการฟ้องร้องกลับไม่สามารถทำได้ จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เหยื่อได้ให้การมาไม่มีความสอดคล้องกัน และไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากระยะเวลาที่เกิดขึ้นนั้นนานมากเกินไปจนไม่หลงเหลือหลักฐานในการพิสูจน์

 

 

อย่างไรก็ตาม ได้มีการติดตามซิสเตอร์ Priscil ที่ถูกกล่าวหาว่าผลักเด็กหญิงให้ตกจากขอบหน้าต่าง เพื่อพิสูจน์ว่า Patty พูดความจริงหรือไม่…

ชีวิตของซิสเตอร์ Priscil นั้นเป็นผู้ที่จงรักภักดีต่อภาคีมากๆ ยึดมั่นในหลักคริสตจักรโรมันคาทอลิกโดยสมบูรณ์ และให้การยอมรับว่าเธอเป็นแม่ชีท่านนั้นจริง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เธอพยายามคว้าเด็กคนนั้นไว้ก่อนจะตกลงไป แต่ไม่สำเร็จ

 

 

ในส่วนของซิสเตอร์กล่าวว่า ทำได้แค่เพียงกรีดร้องเนื่องจากอยู่ในอาการตื่นตกใจจนไม่รู้จะทำอย่างไร ทันใดนั้นก็มี Sally ที่พุ่งตัวเข้ามาคว้า Patty เอาไว้ได้ทันก่อนตกถึงพื้น โดยที่มีแม่ชีท่านอื่นอยู่ในห้องบนชั้นเดียวกัน เป็นพยานในเหตุการณ์ครั้งนั้น

 

 

ท้ายที่สุดแล้ว การฟ้องร้องคดีความต่อศาลของ Sally ถูกปัดตก และเคสอื่นๆ ที่ฟ้องร้องเข้ามาก็ถูกปัดตกทั้งหมด ด้วยเหตุผลที่การรื้อฟื้นความทรงจำเพียงอย่างเดียว ไม่มีน้ำหนักที่มากพอ และอายุขัยของความทรงจำนั้นมีระยะที่สั้นเกินกว่าจะนำมาประกอบการพิจารณาคดี

 

 

ที่มา: burlingtonfreepressdailymail, buzzfeednews


Tags:

Comments

Leave a Reply