หนุ่มซีเรีย ผู้ใช้ชีวิตอยู่ในสนามบินมาแล้วกว่า 108 วัน เนื่องจากนานาประเทศไม่รับ “ผู้ลี้ภัย”

หากคุณเคยดูหนังเรื่อง The Terminal แล้วล่ะก็ นี่อาจเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชีวิตใกล้เคียงกับหนังเรื่องนี้มาก เพราะเขาเองต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงแต่ในสนามบิน และไม่สามารถออกไปเดินข้างนอกได้ เนื่องจากเขาอยู่ในสถานะ “ผู้ลี้ภัย”

นี่เป็นเรื่องราวของนาย Hassan al-Kontar วัย 36 ปี ชาวซีเรีย เขาติดอยู่ในสนามบินกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียมามากกว่า 108 วัน โดยที่ไม่สามารถกลับประเทศหรือเดินทางเข้าประเทศไหนได้เลย

 

 

ย้อนกลับไปในปี 2011 ตอนนั้นเขาทำงานอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ประเทศซีเรียเริ่มเกิดสงคราม ซึ่งพอเขารู้ว่าเกิดเหตุการณ์นี้เข้า เขาก็ไม่ได้กลับประเทศแต่อย่างใด เพราะเขาไม่เชื่อว่าสงครามจะสามารถแก้ปัญหาอะไรได้

ในตอนนั้นเขาเริ่มถูกรัฐบาลซีเรียตามตัวให้กลับประเทศ แต่เขาก็ยังคงยืนยันที่จะทำงานต่อที่เอมิเรตส์ แต่สุดท้ายเขาก็ถูกเจ้าหน้าที่ส่งตัวไปยังประเทศมาเลเซีย เนื่องจากมาเลเซียเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่ให้วีซ่ากับชาวซีเรียได้เดินทางเข้าได้

 

 

แต่เมื่อเขามาถึงทางมาเลเซียกลับไม่อนุญาตให้ผู้ลี้ภัยเดินทางเข้าประเทศ ทำให้นาย Hassan ต้องใช้ชีวิตอยู่ในสนามบินของกัวลาลัมเปอร์แบบคนไร้บ้าน จนถึงตอนนี้เขาได้ใช้เวลาอยู่ในสนามบินไปแล้วกว่า 108 วัน หรือประมาณ 3 เดือน

เขาพยายามหาทางออกด้วยการดูว่ายังมีประเทศไหนอีกบ้างที่เปิดรับชาวซีเรีย จึงพบว่าเขาสามารถเดินทางประเทศกัมพูชาได้ Hassan จึงวางแผนที่จะบินไปกัมพูชาแล้วต่อเครื่องไปยังอเมริกาใต้

แต่สุดท้ายเขาก็ถูกเจ้าหน้าที่หลายคนของกัมพูชาสอบปากคำเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน และตรวจสอบพาสปอร์ต แต่สุดท้ายก็ยังถูกส่งตัวกลับมาที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์อยู่ดี

 

ภาพที่นอนของนาย Hassan ที่เขาถ่ายและโพสต์ในลงในทวิตเตอร์

 

Hassan ตัดสินใจที่จะถ่ายสารคดีเกี่ยวกับชีวิตของตัวเองไปเรื่อยๆ เช่นวันนี้เจอเหตุการณ์อะไรมาบ้าง เจอใครมาบ้าง ใช้ชีวิตยังไง โชคดีที่เขาเป็นคนมองโลกในแง่ดี มันช่วยให้เขารับมือกับอาการซึมเศร้าได้ดี เขาเข้าใจว่าที่นานาประเทศปฏิเสธเขาไม่ใช่เหตุผลส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย

เข้าใช้เวลาตอนกลางวันอ่านหนังสือและเล่นอินเตอร์เน็ต ซึ่งมันคือช่องทางเดียวที่เขาจะเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของโลกใบนี้ และโชคดีมากที่ทาง AirAsia ให้อาหารกับเขาวันละ 3 มื้อ ซึ่งทำให้เขายังคงอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้

 

 

ที่มา dailymail , BBC News


Tags:

Comments

Leave a Reply