สาวซึมหนักร้องไห้ 19 วันติดกัน จากเหตุเสียคุณพ่อไป เพื่อนๆ จึงยอมเสี่ยงช่วยดึงกลับมา…

บุคคลที่ประสบกับความเศร้าหนักๆ อาจจะยังไม่รู้ตัวว่าต้องการความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง พวกเขาบางคนสูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตบางส่วนไป แม้แต่เรื่องง่ายๆ ในชีวิตก็ไม่อาจกลับมาทำได้เหมือนเดิม บางรายถึงขั้นคิดสั้นฆ่าตัวตายได้เลย…

โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหากมีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิต พวกเขาจะรู้สึกว่าปมปัญหาต่างๆ ถูกขมวดเอาไว้แน่นและพวกเขาไร้ซึ่งความสามารถในการช่วยเหลือตนเอง

หากไม่ได้รับการคลายความตึงที่ถูกต้อง อาจทำให้เรื่องบานปลายได้ จึงทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้มาช่วยในจุดนี้ได้ แม้จะเป็นเพื่อนสนิทก็ตามที

 

Sheila O’Malley

 

Sheila O’Malley คือหนึ่งในบุคคลที่ประสบกับสภาวะซึมเศร้าอย่างหนัก หลังจากที่เธอสูญเสียคุณพ่ออันเป็นที่รัก จนทำให้ชีวิตเสียศูนย์จนไม่อาจกลับมายืนได้ด้วยตัวเองอย่างมั่นคงเหมือนเช่นเคย

 

 

“ในปีหลังจากที่เสียคุณพ่อไปนั้นเลวร้ายมาก ฉันจำอะไรแทบไม่ได้เลย ฉันย้ายมาอยู่ในอพาร์ทเมนต์ใหม่ แต่ไม่สามารถแกะกล่องของที่แพ็คมาได้ เป็นเวลาหลายเดือน

รู้สึกละอายใจที่ทำไม่ได้ แค่แกะกล่องแค่นี้ทำไมถึงทำไม่ได้? ก็แค่เปิดกล่องออกมาแค่นั้นเอง และมันเป็นช่วงเวลาที่ร้องไห้ติดต่อกัน 19 วันเต็ม”

 

 

“เพื่อนที่ชื่อ David ที่รู้จักตั้งแต่ ม.ปลาย รู้ว่าฉันกำลังแย่และเขาไม่รู้จะช่วยยังไง เขาบอกได้แค่ มีคนรักเธอนะ พวกเราต้องการเธอ ฉันก็รู้สึกแค่ ไม่สำคัญอะไร แต่ขอบใจนะ

เขาจึงอยากจะลองเสี่ยงสักครั้ง มันอาจจะทำให้แย่ยิ่งกว่าเก่าก็ได้ เพราะฉันอาจจะอาละวาดสติแตกขึ้นมา”

 

 

“ฉันอาจจะรู้สึกถูกคุกคามมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนไหนก็ไม่รู้ แต่เขายอมที่จะเสี่ยง เขาส่งอีเมลไปหาเพื่อนๆ ในกลุ่ม โดยที่ฉันไม่รู้ เพื่อบอกว่าฉันกำลังแย่นะ เธอต้องการความช่วยเหลือจากพวกเรา รวมหัวกันไปที่ห้องเธอแล้วช่วยกันจัดห้อง เอาข้าวปลาไปด้วย มาเปลี่ยนให้บรรยากาศสนุกขึ้นเถอะ”

 

 

“David ส่งอีเมลมาให้ฉันเพื่อบอกว่า คืนวันพฤหัสบดีอยู่ห้องมั้ย? แวะไปหาได้รึเปล่า? ฉันก็บอกว่า อยู่แน่นอน นั่งอยู่ท่ามกลางกล่องกว่า 200 ใบที่ยังไม่ได้เปิด”

 

 

“6 โมงเย็นของวันพฤหัสบดี กริ่งก็ดังขึ้นพร้อมกับเพื่อนสนิทมิตรสหายกว่า 10 คนทะลักเข้ามา พกอาหารและอุปกรณ์ทำความสะอาด เพื่อมาช่วยจัดการภาระที่ฉันมีอยู่

‘เดี๋ยว พวกเธอจะเข้ามาไม่ได้นะ ฉันยังไม่ได้จัดอะไรเลย’ พวกเขาไม่สนใจแล้วก็พุ่งไปกันคนละทาง”

 

 

“พวกเขาช่วยกันแกะกล่อง จัดเก็บหนังสือกว่า 1,500 เล่ม แขวนรูปให้ จัดตู้เสื้อผ้าให้เรียบร้อย ในขณะที่บางคนกำลังตั้งจุดทำทาโก้ในห้องครัว ซื้อเบียร์เข้ามาด้วย เกือบจะสุดคืนห้องของฉันก็เสร็จเรียบร้อย”

 

 

“ฉันทำอะไรง่ายๆ ไม่ได้ด้วยซ้ำ และไม่มีใครสักคนว่าฉัน พวกเขาเป็นเหมือนซูเปอร์ฮีโร่เข้ามาเก็บกวาดให้ มีเพื่อนคนหนึ่งมาสาย ยืนรออยู่ตรงห้องโถง เขามองมาที่ฉันแล้วพูดว่า ‘เอางานมาให้ทำสิ’”

 

 

“เพื่อนคนหนึ่งรับหน้าที่แขวนภาพกับโปสเตอร์ทั้งหมด ‘ฉันเก่งในเรื่องของการวัดขนาดน่ะ ให้ฉันแขวนทั้งหมดนี่ไว้ในห้องโถงก็แล้วกัน’ ฉันก็ยังเข้าไปดูนะ ไม่อยากปล่อยให้พวกเขาทำตามใจ ‘เดี๋ยวนะ เอาอันนั้นไว้ตรงนี้มั้ย?’ เธอตอบกลับมาเลยว่า ‘ไม่ต้องมายุ่งเลย’”

 

 

“เอาเข้าจริงๆ เธอมีฝีมือแขวนและติดผนังดียิ่งกว่าฉันเสียอีก และนี่ก็เป็นภาพที่เพื่อนๆ กำลังช่วยกันจัดหนังสือให้อยู่”

 

เพื่อนๆ ช่วยกันจัดเรียงสิ่งของอย่างขะมักเขม้น

.

 

“ช่วงพักเบรกทานมื้อค่ำ สังเกตได้ว่าเพื่อนของฉัน วางจานข้าวเอาไว้บนเครื่องเล่น DVD ด้วย”

 

.

 

“ฉันรู้สึกตื้นตันเหลือเกิน ที่สหายอันบ้าบอมาเป็นโรงงานซานต้า พวกเขาโผล่มาแล้วก็จัดการให้เลย ฉันรู้สึกอายไปประมาณ 10 นาที แต่พวกเขาก็เป็นงานเป็นการและจุกจิกสุดๆ ฉันไม่มีทางเลือก ทำได้แค่ปล่อยมันไป”

 

 

“ในสุดคืนแล้ว ฉันมองไปที่สามีของเพื่อน ชายผู้เงียบขรึม เอาการเอางาน ไม่ค่อยพูดจา ฉันมองไปที่เขาไร้คำพูดใดๆ ไม่รู้ว่าจะพูดขอบคุณยังไง”

 

 

“เขามองกลับมาที่ฉัน เห็นอาการบนใบหน้าและเข้าใจกับทุกสิ่งที่อยู่บนนั้น เขาพูดว่า ‘ฟังนะ สิ่งที่พวกเราทำในวันนี้ก็คือการรื้อบ้านใหม่เลยล่ะ”

 

 

” การขอความช่วยเหลือ เป็นคำแนะนำง่ายๆ ที่มีความหมาย แต่ก็ทำใจรับได้ยาก เพราะจะรู้สึกอาย ถูกบังคับให้รู้สึกไร้ประโยชน์ จะมีความรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า แต่เพื่อนของฉันไม่รอให้ฉันขอ พวกเขาเข้ามา เปลี่ยนทุกสิ่งโดยที่ไม่ถามหรือขอ”

 

 

“หลังจากที่เก็บกวาดเป็นเวลา 4 ชั่วโมง จากห้องก็กลายมาเป็นบ้าน ไม่แต่เพียงทุกอย่างถูกเก็บเข้าที่ แต่มีความทรงจำดีๆ ผูกติดมาด้วย ความทรงจำของทุกคน เพื่อน เสียงหัวเราะ มุกหยาบโลน ความตั้งใจต่างๆ นี่แหละคือเพื่อนแบบที่ฉันมี จงเป็นเพื่อนแบบนี้ต่อคนอื่นๆ”

 

 

“แผนการนี้อาจจะกลายเป็นคนละม้วนได้ เพราะฉันอาจจะรู้สึกถูกคุกคาม ถูกเหยียดยาม ถูกทำร้ายจิตใจ David เลือกที่จะทำแบบนั้น เป็นเพื่อนที่ยอมทำอะไรผิดๆ เต็มใจที่จะรับความเสี่ยง”

 

และ David ก็ยอมทำอะไรบ้าๆ บอๆ รับไฟประดับคริสต์มาสเป็นรางวัลตอบแทน!!

 

ที่มา: @sheilakathleen, boredpanda

Comments

Leave a Reply