เจ้าของเกาะรถตู้ ‘แก๊งขโมยหมา’ ยอมเสี่ยงช่วยหมาของตัวเอง จนนำไปสู่การเสียชีวิต!!

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมาเว็บไซต์เดลี่เมลรายงานว่า นาย Xie Xingcai วัย 48 ปี จากประเทศจีน พยายามเกาะรถตู้ที่ขโมยหมาของเขาไปเป็นระยะทางกว่า 60 เมตร

ที่ทำแบบนั้นก็เพราะว่าเขาพยายามที่จะปกป้องเจ้าหมาของเขาที่ถูกแก๊งขโมยหมาลักพาตัวไป ด้วยความรักที่มีให้หมาของตัวเองเขาจึงวิ่งเข้ามาที่รถและพยายามเกาะเอาไว้ แต่ผู้ร้ายขับออกไปทั้งอย่างนั้น

เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นในวันที่ 16 เดือนกรกฎาคมปี 2017 ในเมืองเฉิงตู ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน

 

 

ตามรายงานระบุว่ามีคนร้ายรายหนึ่งผลักเขาออกจากรถตู้ ทำให้หัวกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บหนัก เขาถูกพาตัวไปส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตที่นั่นในเวลาต่อมา

นาย Xie ผู้ตกเป็นเหยื่อเป็นเจ้าของร้านอาหารอยู่ในละแวกที่เกิดเหตุ แต่แล้วจู่ๆ เขาก็เห็นเจ้าหมาของตัวเองที่ชื่อว่า Xiao Hei กำลังถูกลากไปโดยรถตู้คันสีเทา ซึ่งก่อนหน้านี้หมาของเขาถูกขโมยไปถึง 2 ตัว ในปีเดียวกัน

จากวิดีโอในกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ว่า Xie พยายามเกาะหน้าต่างรถเอาไว้ ขณะเดียวกันก็ถูกลากไปทั้งอย่างนั้นเป็นระยะทางกว่า 60 เมตร จนถูกผลักตกลงไปหัวฟาดกับพื้น

นาย Xie ถูกพาไปส่งโรงพยาบาลโดยภรรยา คุณหมอพยายามช่วยเหลือเขาสุดความสามารถเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับสมอง แต่แล้วก็ล้มเหลว อวัยวะของเขาหยุดทำงาน และเสียชีวิตในอีก 18 วันหลังจากเกิดเหตุ

 

 

จากรายงานในเว็บไซต์ Huaxi City Daily ระบุเอาไว้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ 2 ราย ในอีก สัปดาห์ต่อมา และทั้งคู่ถูกศาลตัดสินความผิดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

 

 

จำเลยสองคนคือนาย Xu Feng และ นาย Zhang Bo ยอมรับผิดกับข้อกล่าวหาลักขโมย และฆ่าคนโดยไม่เจตนา เขากล่าวคำขอโทษในศาล

“ผมยอมรับผิด ผมไม่ต้องการที่จะทำร้ายใคร ผมจะชดเชยทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ผมจะขายบ้านขายรถเพื่อจ่ายค่าชดเชยให้ ผมต้องขอโทษอย่างสุดซึ้ง”

 

 

ปัญหาการขโมยหมานั้นเกิดขึ้นเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วนในประเทศจีน แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขสักที และ Xie เองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องตกเป็นเหยื่อของการกระทำในครั้งนี้

ด้วยความรักที่มีต่อเจ้าหมา ทำให้เขายอมเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือมัน แต่น่าเศร้าที่เขาต้องมาจบชีวิตลง…#เหมียวหง่าว จึงขอแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

ที่มา : dailymail, inews

Comments

Leave a Reply