“หมู่บ้านผีดิบ” ที่ชาวบ้านขุดศพคนในครอบครัวขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่ด้วย เพราะเชื่อว่ายังไม่ตาย…

[คำเตือน: มีภาพและเนื้อหาที่กระทบกระเทือนจิตใจ ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม]

 

 

ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง บนเกาะซูลาเวซี ประเทศอินโดนีเซีย ถูกเรียกว่าเป็น “หมู่บ้านผีดิบ” เพราะที่นั่น มีพิธีกรรมสุดประหลาดอย่างหนึ่ง ที่มีการขุดญาติหรือสมาชิกในครอบครัวที่ “ตาย” ไปแล้ว ขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอีกครั้ง

พิธีกรรมดังกล่าว เป็นพิธีกรรมของชาว Torojan ซึ่งเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ชาวบ้านจะมีการขุดศพของญาติและสมาชิกในครอบครัวที่ตายไปแล้ว ขึ้นมาชะล้างทำความสะอาดและแต่งองค์ทรงเครื่อง เพื่ออาศัยอยู่ในบ้านอีกครั้ง

 

ขุดขึ้นมา อาบน้ำ แต่งตัว สูบบุหรี่ และใช้ชีวิตร่วมกัน

.

.

 

ศพนั้นถูกขุดขึ้นมานำมาไว้ในบ้านนานนับทศวรรษ และทางครอบครัวก็จะใช้ชีวิตร่วมกับศพคนรักของพวกเขา โดยมองว่าเขายังไม่ได้ตาย แต่เขาแค่ “ป่วย”

จนกว่าทางครอบครัวจะสามารถจัดพิิธีศพตามความเชื่อได้อย่างสมเกียรติที่ชื่อว่า Rambu Solo จึงจะสามารถยอมรับได้จริงๆ ว่าศพนั้นได้ตายไปแล้ว

ชาว Torojan ทำกับคนรักที่พวกเขาขุดขึ้นมาเหมือนกับว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว (ที่ยังมีชีวิต) พวกเขาพูดคุย ให้น้ำ ให้อาหาร และแน่นอนว่า ยามเข้านอน ก็นอนด้วยกัน

 

ไม่ว่าจะศพผู้ใหญหรือเด็ก ก็ถูกนำขึ้นมาแต่งตัว และใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว

.

 

พืธีกรรมนี้มีเบื้องหลังมาจากความเชื่อเรื่องพิธีศพ Rambu Solo ที่มีค่าใช้จ่ายมหาศาลสำหรับชาว Torojan เนื่องจากต้องมีการสังเวยชีวิตวัวควาย ที่พวกเขาจำเป็นต้องเก็บเงินจำนวนมากมาใช้จ่าย ซึ่งอาจใช้เวลาหลายปี

ทั้งนี้ ภาพต่างๆ ถูกถ่ายโดยช่างภาพนามว่า Claudio Sieber ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการขุดซากคนรักของชาว Torojan ขึ้นมาเพื่ออาศัยอยู่ในบ้าน ในภาพแสดงให้เห็นศพ ที่มีการ แต่งตัว ใส่แว่น และสูบบุหรี่

Claudio Sieber กล่าวว่า “ชาว Torojan นั้นดูเหมือนว่าจะรักษาพิธีการนี้มาได้ราว 9 ศตวรรษแล้ว ถึงแม้ว่าโลกเราจะมีความเชื่อทางศาสนาต่างๆ และมีความเจริญมากขึ้นก็ตาม”

 

.

.

 

ชาว Torojan นั้นไม่ได้มองว่าพิธีการนี้เป็นเพียงการชะลอเวลาเก็บเงินเท่านั้น พวกเขาถือว่า ศพเหล่านี้ เป็นคนที่พวกเขารักจริงๆ และพวกเขาเองก็ต้องการให้ศพเหล่านี้ได้รับการจัดพิธีอย่างมีเกียรติซึ่งก็คือ Rambu Solo นั่นเอง

 

ที่มา: Mirror

Comments

Leave a Reply